คือ กรรม กรรม กรรม และกรรม จริงหรือ

สวัสดีค่ะ ท่านสมาชิก ผู้มีจิต เมตตาทั้งหลาย ขอความกรุณาท่านทั้งหลาย ช่วย แนะนำ และให้ความกระจ่าง ด้วยนะคะ ดิชั้นอยากทราบว่า ทุกสิ่ง ที่เราต้องได้ประสบ ในชีวิต มันคือกรรม กรรมเท่านั้น จริงๆๆเหรอคะ การที่เรา ต้องเจอสามี เลว ต้องขาดทุนในธุรกิจ จนเป็นหนี้เป็นสินเกือบล้าน สามีสร้างหนี้ไว้ให้ แล้วหนี ทอดทิ้ง ให้ต้องดูแลลูก 3คน หนำซ้ำ ต้องดูแล แม่ สมองเสื่อม มากว่า 12ปี ตอนนี้ จะออกทำงาน เพื่อ เลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ก็ห่วง แม่ ห่วงลูก เล็ก เพราะ ไม่มีใคร ที่จะเมตตา ช่วย ดู ตอนนี้ เราย่ำแย่ เรา กำลัง ตกอับ วันนี้คนรอบข้างมีแต่ซ้ำเติม ว่าเพราะเราผิด เอง ตั้งแต่เรื่องสามี เลือกผิดทำให้กิจการที่ลงทุนพังลง จนแม่เครียดเป็นสมองเสื่อม เราเองที่ทำให้ชีวิตตกอับ ทำให้ลูกๆต้อง อดๆๆอยากๆเราเองทั้งนั้น เราเสียใจ เราท้อแท้เราไม่ได้อยากให้ชีวิตเป็นแบบนี้ แต่ไม่มีใครเห็นใจแล้วบอกกับเราเลย ว่าเพราะกรรม หลายท่านเคยตอบปัญหา และ
ให้กำลังใจดิฉันแล้ว ว่าต้องสู้ต่อ สู้ๆๆๆๆอย่างเดียว แต่ ทุกท่านคะ ถ้าเพราะกรรม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสู้แล้ว ชีวิตจะดีขึ้น หรือ แย่ลง ยิ่งสู้ ยิ่งเจ็บ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่ง โดนรัด วันข้างหน้า ต่อจากนี้ เราจะป็นอย่างไร ในเมื่อ อดีต ที่ผ่านมา เราเชื่อ ว่าคิด ดีพูดดี ทำดี ทาน สิล ภาวนา จะทำให้ชีวิตเราพบแสงสว่าง ตลอดมา เข้าวัด ทำบุญ ตั้งแต่จำความได้ ใส่บาตร ทำบุญ ตั้งแต่เล็ก รัก ในพระพุธศาสนา เมื่อโตก็เริ่ม ปฎิบัติ สวดมนต์ นั่ง สมาธิ แล้วอยู่ๆชีวิตก็เริ่มแย่ลง ตั้งแต่มีสามี มีลูก ชีวิตเริ่มมีภาระ มากขึ้น ความวุ่นวายมากมายเริ่มเข้ามา ตั้งแต่สามีติดเล่น พนัน ผู้หญิง ดิฉันก็ ท้องลูก คนที่ 2-3 เรื่อง แม่ ป่วยสมองเสื่อม เครียดมาก จนไม่ค่อยได้ ปฏิบัติ หลับตา สมอง ก็มีแต่เรื่อง วุ่นวาย ไปหมด หลายเรื่อง เหมือนที่เขา ว่าเหมือนยุงตีกัน แล้วเราก็ไม่รู้ว่า เราจะเริ่มใหม่ ยังไง
ตอนนี้ เราจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าทุกอย่างเกิดจากกรรม แล้วเราสู้ต่อเราจะโดนกรรมตามเล่นงานอีกมั้ย เราจะ ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งรึเปล่า เราจะสู้ไปเพื่ออะไร ถ้าไม่มีวันชนะ ท่านสมาชิก เมตตาให้ความกระจ่างด้วย เถอะค่ะ มัน แย่ และเริ่มหมดกำลังแล้วค่ะ หรือเราจะปล่อยชีวิตอยู่ไปวันๆๆอะไรจะเกิด ก็ช่าง ลูกๆๆจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยตามเวรตามกรรม อย่างที่เขาชอบพูดกัน มันถูกแล้วหรือคะ

 

ต้องทำเหตุและผลให้สัมพันธ์กันครับ อย่างเรามีปัญหาเรื่องเงินเรื่องทองเราจะ
แก้ด้วยการสวดมนต์ เข้าวัดทำบุญอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ก็ดีมีประโยชน์แต่
ยังแก้ไม่ตรง มันอาจจะให้ผลมากในอนาคตแต่น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้ ลองหัวใจ
เศรษฐีดูครับ

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เป็นคฤหัสถ์ ยังบริโภคกามอยู่ครองเรือน ยัง
ยินดีทองและเงินอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรม ที่เหมาะแก่ข้า
พระองค์อันจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขในปีปัจจุบันเพื่อประโยชน์
และความสุขในภายหน้าเถิด พระเจ้าข้า"
พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
"พยัคฆปัชชะ ! ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์
และเพื่อประโยชน์ และเพื่อความสุขในปัจจุบันแก่กุลบุตร คือ ๑. อุฏฐาน
สัมปทา ๒.อารักขสัมปทา ๓.กัลยาณมิตตตา ๔. สมชีวิตา.."

ลายแทง ๔ ข้อนี้ จัดว่าเป็น "หัวใจเศรษฐี" ที่พระพุทธเจ้าทรง
ประทานแก่ทีฆชาณุ ที่เราเอามาย่อว่า อุ อา กะ สะ มีคำอธิบายโดยย่อดังนี้
อุ ย่อมาจาก อุฏฐานสัมปทา คือ การถึงพร้อมด้วยความหมั่นคือ
ขยันหมั่นเพียร ในการประกอบอาชีพที่สุจริต ว่ากันตรงๆ ก็คือการไม่เกียจคร้าน
นั่นเอง
อา ย่อมาจาก อารักขสัมปทา คือ การถึงพร้อมด้วยการรักษา คือ
รักษาทรัพย์ที่หามาได้ ด้วยความหมั่น ไม่ให้เป็นอันตรายหรือหมดไปในทางที่ไม่
เป็นประ โยชน์
กะ ย่อมาจาก กัลยาณมิตตตา คือ การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว
สะ ย่อมาจาก สมชีวิตา คือ การมีความเป็นอยู่ที่พอเหมาะพอดี

ได้แก่การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ ไม่ให้ฝืดเคืองนักและ
ไม่ให้ฟูมฟายนัก