ขอเชิญร่วมบุญปล่อยตุงลอยฟ้า 31 มค 2559 สืบสานงานหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา

ในปีพุทธศักราช 2559 ร่วมปล่อยตุงหลวงลอยฟ้า ยาวที่สุดในโลก ยาวกว่าทุกครั้งที่เคยทำมา

มีการทำตุงและปล่อยตุงอีก 2 ครั้ง โดยครูบาอาจารย์ 2 องค์ดังนี้

- 9 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ.วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย งานฉลองวัด 9 ปี 9 เดือน 9 วัน เริ่มประมาณ 27 ธันวาคม 2558 - 9 มกราคม 2559 โดยครูบาอริยชาติ อริยจิตโตผู้ปล่อยตุงหลวงครั้งนี้

- 31 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 09.30น.สำนักสงฆ์เจโตวิมุติ(วัดป่าเขาดิน) ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี งานหล่อพระเกศองค์ปฐมทองคำและหล่อซุ้มเรือนแก้ว สำเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 108 นิ้ว ยกองค์พระองค์ปฐม 108 นิ้ว หล่อพระสงฆ์ครูบาอาจารย์อีกหลายองค์เช่น ลป มั่น.ลป โลกอุดรฯลฯ ประธานปล่อยโดยตุ๋พ่อพระแาอาจย์มหาสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ ลี้ ลำพูน
.........................
ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพได้ที่บัญชีใหม่ ธนาคารกสิกรไทย(ไม่ใช่ธนาคารทหารไทยนะครับ) ให้ระลึกถึงบุญใหญ่ทั้ง 2 ตุงรวมยาว 414 วา
............................
ขอเชิญร่วมบุญในการทำตุงลอยฟ้าและเป็นเจ้าภาพบอลลูน 16 ลูกๆ 10,000 บาท..หรือตามศรัทธา ณ.วันนี้ยังขาดบอลลูน 8 ลูก
...........................
เชิญได้ที่
ผมนายกิตติเดช (พงศ์ศักดิ์ หรือ อจ.บุญ) บัญชีอ ชื่อ นายกิตติเดช อรรคอุดม ธ.กสิกรไทย บัญชี 704 2 49002 9
ออมทรัพย์ สาขาวัดไทร โทร AIS 098-814-6959, และ True 099-919-0289



............................................................................
หลังจากปล่อยตุงลอยฟ้า ฉลองเจดีย์ศรีเวียงชัย 15 ธันวาคม 2555 แล้ว ผมไม่ได้เข้ามาโพตส์อีกเลย
การปล่อยตุงลอยฟ้า ครั้งต่อมามีอีก 1 ครั้งคือ 28 ธันวาคม 2557 ณ.สำนักสงฆ์เจโตวิมุติ(วัดป่าเขาดิน) กาญจนบุรี ของพระอาจารย์ยุคนธรณ์ ประธานปล่อยโดยตุ๋พ่อพระอาจารย์มหาสิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ ลี้ ลำพูน ยาว 79 วา

ขอนำรูปลงให้ชมเล็กน้อยครับในหน้าที่ 15 โพสต์#287-293
..............................................................................
งานใหญ่ที่สาม เริ่มแล้วครับ ตั้งแต่หน้า 7 # 132

ปล่อยตุงลอยฟ้า ยาว 259-300 วา
ยาวที่สุดเท่าที่เคยทำมา ไม่เคยทำยาวขนาดนี้มาก่อน
เพื่อถวายบูชาพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย
ที่หลวงปู่ครูบาวงศ์ริเริ่มสร้างไว้
และบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
ทั้งบูชาสิ่งสำคัญทั้งหลายอันควรไหว้อย่างยิ่ง​

ในโอกาส
งานฉลองพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย(เจดีย์ชเวดากอง-จำลอง)
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
พุทธสถานของวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ที่หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ สร้างไว้

เพื่อ

- เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
- และเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส ครบ 85 พรรษา​

​

​

​

ระหว่างวันที่ 9- 15 ธันวาคม 2555

ในวาระโอกาสนี้ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ บอลลูน เพื่อใช้นำ ตุงลอยฟ้า
เพื่อถวายบูชาพระมหาธาตุเจดีย์ และบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
ทั้งบูชาสิ่งสำคัญทั้งหลายอันควรไหว้อย่างยิ่ง
ในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2555 เวลา 07.30 -08.30 น​

จึงขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบอลลูน จำนวน 11 ลูกๆละ 20,000 บาท​

​

​

-->อ่านรายละเอียดจากหน้า7 ตั้งแต่ #132 เป็นต้นไปได้เลยครับ
....................................................

จบงานบุญที่ 2

การถวาย ตุงลอยฟ้า 79 วาสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 แล้ว

ในงาน "พิธีชำระหนี้สงฆ์ ขออโหสิกรรมเจ้ากรรม-นายเวร(ทานใช้ทานแทนหรือ ตานใช้-ตานแทน)"[/COLOR]วัดนาแฮ(กุเตอร์โกล) ต.สามหมื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก มีการถวาย ตุงลอยฟ้า ยาว 79 วา ถวายแด่ครูบาวิจิต มนูญโญ เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และอุทิศช่วยเหลือ สรรพสัตว์ สรรพวิญญาณทั้งปวง มีการปล่อยตุงลอยฟ้า ผลพวงจากการถวายเป็นพุทธบูชา และ ฯลฯ มีผลโปรดสรรพสัตว์และดวงวิญญาณทั้งหลายที่ติดภพติดกรรม ได้จำนวนมากอย่างอเนกอนันต์[/B]

ตั้งแต่หน้า 4.....​

[FONT=Arial Unicode MS[LEFT]].................................................................................[/FONT]

จบงานแรก คือการปล่อย ตุงลอยฟ้า ถวายแด่ ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต
หลังเว้นมา 11 ปี แล้ว​

ณ.วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมื่อ 7 พค. 2554
ในงานไหว้ครูบูรพาจารย์ บวงสรวงเทวดา
และ
ทอดผ้าป่าสบทบทุนปิดทององค์ครูบาศรีวิชัย หน้าตัก 9 เมตร​

เพื่อสืบสานการปล่อย ตุงลอยฟ้า ที่หลวงปู่ครูบาวงศ์ ให้กำเนิดมา​

ผมขอเดินงาน-สานต่อโดยไม่เปลี่ยนกระทู้ใหม่
ในงานเนื่องกันต่อไป ​

<O</O
...................................x.............................
เนื้อความเดิม...จากงานปล่อย ตุงลอยฟ้า ถวายแด่ ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต...<O</O
<O</O
ตุงลอยฟ้า เว้นมานานถึง 11 ปี จากวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ, ลำพูน จึงเกิดอีกครั้ง ยากนักที่จะได้ร่วมสร้าง ตุงลอยฟ้า ซึ่งจะมีในพิธีฯสำคัญๆ เท่านั้น หลวงปู่ครูบาวงศ์เป็นผู้ริเริ่มให้สร้าง ตุงลอยฟ้า ขึ้นมาเป็นปฐมตั้งแต่ พศ. 2532 และมีการปล่อยเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อ 8 เมษายน 2543 ซึ่งท่านให้ทำถวายยาวถึง 200 วา(ยาวจริงมากกว่าเล็กน้อย 209 วา แต่เรียกกันว่า 200 วา) ปล่อยที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ, ลำพูน ก่อนท่านมรณภาพประมาณ 2 เดือน[/LEFT][/CENTER][/LEFT][/LEFT]
[/LEFT]

ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ท่านปรารภเรื่อง
ตุงลอยฟ้า มานานถึง 10 ปี ในวันที่ 7 พค 2554 จึงมีโอกาสได้ทำถวายให้ท่าน ที่ความยาวถึง 69 วา

“ สาธุ ผู้ข้าทั้งหลาย ขอน้อบถวาย ตุงลอยฟ้านี้ บูชาซึ่งพระพุทธเจ้า บูชา พระธรรม บูชาพระอรหันต์-พระอริยสงฆ์ –พระอริยเจ้า พระสงฆ์ บูชาพุทธสถาน สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประกาศศาสนาไว้ทั่วชมพูทวีป บูชาพระจุฬามณีพระเมาลีธาตุ บูชาทั้งรอยพระพุทธบาท พระบรมสารีริกธาตุ บูชาพระธาตุเจดีย์ พระศรีมหาโพธิ์ บูชาพระพุทธรูปทุกสถานที่ทั้งทั่วโลกและที่มีในสถานที่ทั่งปวง ”

​

<Oอานิสงการปล่อยตุงลอยฟ้า หลวงปู่ครูบาวงศ์กล่าวสรุปไว้เมื่อ วันที่ 7 กพ. 2543 ว่า

1. มีอานิสงค์เหมือน"งานพิธี ตานใช้-ตานแทน”(พิธีชำระหนี้สงฆ์-ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร "ดูคำอธิบายของหลวงปู่ฯ ในโพสด์# 21-33 น.2 - 3") ท่านกล่าวไว้ครั้งแรก 21 เม.ย 2540 <O</O
2. สามารแก้ไขหนี้สงฆ์ –แก้ไขหนี้ตัวเองได้ <O</O<O</O
3. สามารถแก้ไขหนี้กรรมวิบากกรรมเพื่อปลดหนี้ห่วง-หนี้กรรม-หนี้ตัวเองได้ <O</O
4 ก่อบุญให้กับตนเองและอุทิศให้ทุกดวงจิต ดวงวิญญาณ ให้หลุดเลื่อนพ้นโทษหนักเป็น เบา ให้คลายวิบากกรรมได้ แต่ดวง
จิตที่ต้องโทษหรือทำผิดขั้นอนันตริยกรรมยังไม่มีสิทธิ์อนุโมทนาบุญเลย ท่านยืนยัน ให้รู้
5 ทำให้มีปัญญาเก่งกล้า มีความเฉลียวฉลาดในภายหน้า<O</O
6. จะเป็นผู้มีกำลังและความสามารถมาก ในภายหน้า<O</O
7. ผู้ใดใครอายุไม่เกิน20 ปีอย่าเป็นเจ้าภาพหรือสร้างตุงยาว 20 วาคนเดียว บุญใหญ่ เหมือนสร้างโบสถ์อายุจะสั้น
ฉะนั้นต้องร่วมกับทำ ร่วมกันสร้าง

<O</O
หากต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพปล่อยตุงลอยฟ้า งานต่อไป โดยใช้สมุดบัญชีเดิมนี้ (งานสานต่อเริ่มที่ น. 4)
1. (ชื่อครูบาอาจารย์และวัดจะแจ้งเมื่อกำหนดงานแน่นอนแล้ว....)

2. นายพงศ์ศักดิ์-คุณนงเยาว์ อรรคอุดม โทร 089-814-6959 หรือ e-mail boon10809@gmail.com ร่วมผ่านบัญชี ธนาคารทหารไทย ชื่อบัญชี นายพงศ์ศักดิ์ อรรคอุดม เลขที่ บัญชี 089-2-21407- 3 บัญชีออมทรัพย์ สาขาบางบอน. ผมจะใช้เป็น กองทุนเกี่ยวกับงานบุญว่า " กองทุนบุญบารมี " เมื่อมีการโอนยอดเงิน ผมจะทราบผ่านมือถือทุกครั้ง แม้เงินเล็กน้อย บาท-สองบาท ธนาคารจะส่ง SMS ให้ทราบทุกครั้งครับ

..........................
หมายเหตุ ผมแนะนำให้รู้จัก ตุงลอยฟ้า ของหลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ(หรือที่ผมเรืยกท่านว่าหลวงพ่อครูบาวงศ์) ที่ไม่มีใครเคยรู้และเข้าใจมาก่อน แม้คนที่เคยร่วมพิธีปล่อยมาในอดีตกับหลวงปู่เอง ตอนนี้ผมเข้าใจและรู้เรื่อง ตุงลอยฟ้า จึงขอกระจ่ายข่าวให้รู้จักและได้ร่วมบุญทั่วกัน ยินดีให้ได้ร่วมบุญกันทุกคน

ผมเชื่อว่า ยิ่งสร้างตุงถวายทุกประเภท ไม่ว่าตุงเหล็ก ตุงทองเหลือง ตุงทองคำ ตุงโลหะทั้งหลาย ตุงแดง ตุงชัย ตุงนักษัตหรือโดยเฉพาะตุงลอยฟ้า กรรมของเรา และวิบากกรรมของทุกดวงจิตทั้งหลาย ทั้งคน-สรรพสัตว์-ของประเทศชาติ จะยิ่งคลายลง ความทับถมที่สร้างสมกันมาจะได้บรรเทา ดวงจิตทั้งหลายทั้งญาติและมิใช้ญาติจะได้หลุดพ้น และได้สร้างบารมีกันต่อไป

กรรมเก่า เราทำมา เราไม่รู้มากน้อยเท่าใด แต่ถ้ามี ไม่ควรรอให้ตามมาทัน เร่งสร้างบุญ-เร่งสร้างบารมี อุทิศแผ่บุญออกไปแล้วให้กรรมคลายตัว เวลามีน้อยนัก

ควรอธิษฐาน ให้ทุกดวงจิตหลุดพ้น พ้นจากมิจฉาธิฐิเป็นสัมมาธิฐิ และอุทิศกุศลบุญให้ ซึ่งควรอธิษฐานกำกับไว้ด้วย

ขอสุมาคาราวะครับ

 

จากตำนาน และ พงศาวดารล้านนา
กล่าวโดยทั่วๆว่า ผู้สร้างตุงถวายเป็นพุทธบูชา จะไม่ตกนรก เพราะทาน(การสร้างหรือถวาย)ด้วยอานิสงค์การถวายตุงทำให้พ้นวิบากกรรมได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ถ้าสร้างอุทิศให้ผู้ตายๆ(ซึ่งตายไม่ปกติเช่นตายโหงจะใช้ ตุงแดงปักอุทิศให้ผู้ตาย ) ก็จะได้อานิสงค์ตุงที่ทำอุทิศไปให้พ้นจากการไปเป็นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทำไว้ หรือผลบุญฉุดให้ขึ้นมาจากวิบากกรรม ด้วยตุงทิพย์ที่สบัดชาย-หยั่งลงไปถึงอบายภูมิเบื้องล่างได้

รูปแบบตุง มีทั้ง ตุงผ้า ตุง12 นักษัต ตุงกระด้าง (ตุงทำจากไม้ เงิน ทองคำ โลหะต่างๆ) ตุงบุษบกที่แขวนถวายเป็นพุทธบูชาแขวนไว้ผนังหลังพระประธานในวิหารแลพพระอุโบสถ ตุงผ้าที่บูชาพระธาตุเจดีย์ ตุงกระดาษที่ปักไว้บนกองเจดีย์ทรายในงานวัดต่างๆ หรือ ทำเป็นตุงชัย สำหรับงานเฉลิมฉลอง งานสมโภชย์ ต่างๆ ตามที่พบเห็นตามงานต่างๆในภาคเหนือ

ส่วนตุงแดง ตุงสามหาง มักสร้างอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ตายโหง(ปักไว้ในที่เกิดอุบัติเหตุ) แล้วเชิญตุงนำพาไปถวายแด่พระภิกษุ ครูบาอาจารย์แล้วอุทิศไปให้


ตุง เป็นภาษาถิ่นล้านนา หมายถึง “ธง” ในภาษาไทยกลาง ตรงกับธงประเภท “ปฏากะ” ของอินเดีย คือมี ลักษณะเป็นแผ่นวัตถุ ส่วนปลายติดกับเสาห้อยเป็นแผ่นยาวลงมาจะมีเครื่องหมายสัญญลักณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่มีก็ได้ วัตถุที่ใช้ทำนั้นมีหลายอย่าง เช่น ผ้า กระดาษ ใบลาน ไม้ หรือโลหะเช่นสังกะสี ทองเหลือง เงิน ทองคำเป็นต้น อาจปัก ถัก หรือแกะทำลวดลายประดับ ให้สวยงามเช่น ทำรูป 12 นักษัตรหรือพุทธประวัติ ฯลฯ

ส่วนจ้อหรือช่อ เป็นธงอีกอย่างลักษณะธงสามเหลี่ยม เช่น ธงช่อช้างหรือธงชัยเฉลียมพล ธงสามเหลี่ยมที่มีรูปช้างอยู่พื้นธง จ้อ มักเห็นทั่วไปในงานก่อพระเจดีย์ทรายทางเหนือ ทำด้วยกระดาษปักคู่กับตุงกระดาษ​

<Oพระครูบาวิจิตร มนูญโญ (สมัยเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทวังตวง และเจ้าคณะอำเภอแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง ปัจจุบันอยู่วัดกุเตอร์โกล อ.แม่ระมาด จ.ตาก ) ได้กล่าวถึง
บทเจริญพุทธมนต์ "ธชัคคปริตรสูตร” ได้กล่าวถึง ตุง ว่า พระอานนท์เถระ ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าของเรา เสด็จประทับที่เชตวันวิหาร กล่าวถึงดึกดำบรรพ์เคยมีมาแล้วคือ สงครามระหว่างเทวดากับอสูรได้เกิดประชิดกันแล้ว ท้าวสักกะเทวะราชา เรียก เทวดาในชั้นดาวดึงส์มาสั่งว่า ถ้าความกลัว ความหวาดสะดุ้ง ขนพองสยองเกล้าเกิดแก่เทวดาผู้ไปสู่สงความ ให้ดูชายธงแห่งเรา หากยังมีอยู่อีกให้ดูชายธงแห่งเทวะราชชื่อ ประชาบดี หากยังมีอยู่อีกให้ดูชายธงแห่งเทวะราชชื่อ วรุณ หากยังมีอยู่อีกให้ดูชายธงแห่งเทวะราชชื่อ อีสาน ความกลัวจักหายไป เป็นต้น กาลนี้ถ้าความกลัว ความหวาดสะดุ้ง ขนพองสยองเกล้ามีอีก พึงเจริญให้มากซึ่งคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อันไม่มีประมาณเป็นที่พึ่งเถิด

การตั้งใจ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพุทธสถานทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าเคยประกาศศาสนาไว้ทั่วชมพูทวีป พร้อมทั้งบูชาพระธาตุและธาตุเจดีย์ ทั้งปวง ตามที่หลวงปู่ครูบาวงศ์ มักกล่าวอธิฐาน ทุกครั้งเวลาปล่อยตุง ย่อมมีอานิสงค์ไม่มีประมาณ แล้วเราก็เ อาอานิสงค์แห่งการเป็นเจ้าภาพ เอาผลอันนี้แผ่อุทิศกุศลไปให้ทั่ว ให้รอบ ให้กว้างต่อไปอีก

คำอธิบายรูป
1. ตุงผ้าที่นำไปถวายพร้อมพระพุทธรูปไฟเบอร์พ่นน้ำทองหน้าตัก 20 นิ้ว บนยอดเขาศรีปาฐะ(เขาสุมณกูฏ-ประเทศศรีลังกา ) หลวงปู่ฯ ให้หมู่ศิษย์ไปแทนในปี 2537 ได้นำพระไปพุทธรูปไปศรีลังกา 3 องค์ด้วยกัน พระพุทธบาทบนยอดเขาหลวงปู่ฯว่า ชะลอยจะเป็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยเหมือนแม่ริม(หลังจากกลับมาและถามท่าน) พระนั้นได้ตั้งเบื้องหน้าพระพุทธบาท (องค์ที่สองไว้ที่สถานบันพุทธศาสานาไทยในศรีลังกา ท่านพระมหาสมเสียม เป็นผู้อำนวยการสถาบัน(ต่อมาได้ข่าวว่าสึกไปแล้ว องค์ที่สาม ยังนึกไม่ออกว่าไปถวายไว้ที่ใด)
2. ตุงกระดาษสา ที่ทำโชว์ลายตุงลอยฟ้า ที่กำลังจะปล่อย และครุฑนำตุง ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
3. ตุงกระด้าง (ตุงเหล็ก-ตุงโลหะ-ตุงทองเหลือง-ตุงตะกั่ว-ตุงข้าวเปลือก-ตุงข้าวสาร-ตุงดิน-ตุงทอง ยาว 4.5 เมตร หลวงปู่ฯได้ฝากไปถวายเจดีย์ชะเวดากอง ประเทศพม่า เมื่อ พศ.2539 เมื่อไปเรียนท่านว่า จะไปประเทศพม่า (ครั้งที่4)กับหลวงพี่ชัยวัฒน์ วัดท่าซุง) ท่านให้นำตุงไปถวายที่เจดีย์ชะเวดากอง ย้างกุ้งด้วย
4. ตุงขบวนแห่ งานสมโภชน์ ต่างๆ ในขบวนเป็นงาน คณะตามรอยพระบาท โดยคณะหลวงพี่ชัยวัฒน์ วิหารสมเด็จองค์ปฐม ในงานถวายพระพุทธและหลวงพ่อฤๅษี(วัดท่าซุง) วิหารน้ำน้อย และเกาะแก้วพิศดาร ที่ภูเก็ต
5. ด้านหลังหลวงปู่ฯ เป็นฉัตรตุงกระด้าง ทำแขวนรวมกันบนฉัตรเรียก ตุงฉัตร เป็นฝีมือศิษย์หลวงปู่ฯชนชาวพื้นเมืองหรือกะเหรี่ยงช่วยทำถวายท่าน<O</O

<O</O​

 

ประวัติตุงโดยหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน เล่าว่า สมัยพุทธกาล มีหญิงผู้หนึ่งศรัทธาพระสงฆ์ 500 รูปที่ปฏิบัติธรรมใกล้ที่พัก ได้ขนขวายจัดหาผ้าจีวร 1 ชุดถวายแด่พระสงฆ์ ๆ ได้เมตตาครองผ้าให้องค์ละ 7 วัน ทั้งปฏิบัติธรรมจนสำเร็จเป็นอรหันต์ทุกรูปๆทั้ง 500 องค์ ผ้าจีวรก็เก่ามาก ท่านเห็นคุณค่าของผ้านี้ จึงได้ฉีกผ้าทำตุงหรือธง แขวนบูชาพระเจดีย์ หลวงปู่จึงกล่าวว่า ตุง คือ ธงชัยแห่งพระอรหันต์ (เป็นผืนผ้ายาวและแบ่งช่องเป็นขั้นๆ ตามช่องตาผ้าไตรวีจร หรือบางที่เรียก ธงตะขาบ )

ต่อมาพระนางวิสาขามาเห็นและทราบประวัติตุง(ธง)นั้น จึงประดิษฐ์ตุง(ธง)ผ้าให้สวยงามบูชาพระเจดีย์ เมื่อเราท่านทั้งหลายทำตุง(ธง)บูชาพระเจดีย์จึงมีอานิสงส์มาก แต่การแขวนตุงถวายพระเจดีย์ใดๆก็บูชาแต่พระธาตุเจดีย์นั้นๆ (หลวงปู่กล่าว่าไว้ดังนั้น) แต่หลวงปู่ให้ทำตุงลอยฟ้าเพื่อจะถวายลอยไปในอากาศถวายบูชาไปได้ทุกที่ ย่อมอานิสงค์มากยิ่งเพราะบูชาได้กว้างขวางได้ไกลทุกสถานที่ ทุกพระธาตุ-เจดีย์

ดังนั้นการได้ถวาย ตุงลอยฟ้า จึงมีอานิสงค์มากมายไม่มีประมาณ



-ณ.ห้องที่ประทับพระพุทธองค์ ยอดเขาคิชกูฎ กัลกัตต้า เมื่อไปประเทศอินเดียกับหลวงพ่อครูบาวงศ์ ประมาณ พศ 2533

 

ไม่เคยได้ยิน ตุงลอยฟ้า มาก่อนใช่ไหมครับ ?

ตุงลอยฟ้า แต่เดิมยังไม่เคยมีมาก่อนประมาณปี พศ.2530-2531หลวงปู่ครูบาวงศ์ (ปกติผมจะเรียกว่าหลวงพ่อนะครับ บางท่านๆให้เรียกหลวงปู่อย่างเดียว ต่อไปผมอาจจะเรียกว่าหลวงปู่บ้าง หลวงพ่อครูบาวงศ์บ้างน๊ะครับ) ได้ปรารถอยากให้ทำตุงลอยฟ้ากับผมและคุณแน่งน้อย ธีระชาติ (ขณะนี้เสียชีวิตไปแล้วหลังหลวงปู่สิ้นไม่นาน) ซึ่งก็ได้แต่มองหน้ากัน ท่านพูดประมาณ 2 วาระ

ต่อมาปี 2532 ท่านก็พูดขึ้นมาอีกว่าให้ทำตุงลอยฟ้าขณะนั่งอยู่กับคุณแน่งน้อยและหลวงปู่ครูบาวงศ์ จึงคิดทำถวายในงานทำบุญวันเกิดท่าน จึงเรียนถามท่าน ท่านก็บอกต้องใช้กระดาษสา (เหตุผล ถ้าไปตกที่ใด จะได้ขาดชำรุดหรือขาดไปก่อน มิฉนั้นใครเก็บไปทำประโยชน์หรือเล่น จะมีโทษเป็นเปรตเฝ้าเจดีย์ โทษหนักเพราะทุกครั้งการปล่อยต้องประเคนพระพุทธก่อนเสมอ)ให้ลายเป็นสัตว์ 12 นักษัต ทำทีเดียว 3 ตุงเลย ยาวซาววา(20 วา)ก็รีบไปหากระดาษสากันที่สันกำแพง เชียงใหม่ (ตอนนั้นยังไม่รู้จักกระดาษสาด้วยว่ามีกี่ชนิด)เมื่อลงมากรุงเทพ ก็ได้ศิษย์หลวงพ่อครูบาวงศ์อีกคน คือคุณพี่เปี๊ยก(คุณโสพิศหรือศันสนีในปัจจุบัน) รับอาสาตัดกระดาษเจาะสลักลายตามต้องการ ใช้หงษ์ทอง-เงิน-นาก(สีเขียวแทน) เป็นตัวนำตุง ซึ่งคุณพี่วันทนา พัวพันธ์สกุล(พี่จิ๊ว ที่เขียนภาพเจ้าแม่จามมเทวี-โยมแม่-หลวงพ่อ-ภาพเจ้าแม่จามรีย์ ผู้สร้างเมืองลี้ ซึ่งอพยบหนี้ภัยมาจากเวียงจันทร์และสร้างวัดพระธาตุดวงเดียว ที่ติดกับวัดพระธาตุห้าดวง ) โดยได้ทำเป็นโครงสานไม้ไผ่มาจากเชียงใหม่ก่อน แล้วมาต่องานกันที่วัดพระบาทห้วยต้ม คือการติดขนนกให้เป็นรูปร่างและสวยงาม(ใช้กระดาษสีติด)

ปล่อยในวันที่ 22 เมษายน 2532 วันเกิดหลวงพ่อครูบาวงศ์ครบ 76 ปี พอถึงเวลา ท่านได้มาปล่อยตุงลอยฟ้ากับมือ เมื่อถวายท่านๆก็ถวายประเคนแด่พระพุทธก่อน จึงให้นำมาปล่อย การปล่อยได้ใช้ลูกโป่งนำพาให้ลอยขึ้นไป พอตุงที่ 3 เริ่มเครียดเพราะเงินจะไม่พอจ่าย ท่านทราบ ท่านถามคำเดียว "ขาดเท่าไร" ทุกคนเห็นท่านถามอย่างนี้ จึงเทประเป๋ากันเลย (ตุงไม่หนัก ลูกโป่งใช้ไม่มาก คนมาร่วมปล่อยกันทั้งหมดที่มางานหลวงปู่ฯ เพราะไม่เคยเห็นและเป็นการปล่อยตุงลอยฟ้าครั้งแรกของหลวงปู่ฯ ผู้คนอยากร่วมปล่อย แต่ไม่รู้ปล่อยทำไม เพื่ออะไร คนร่วมทำบุญจึงอยู่เฉพาะกลุ่ม การอัดก๊าซไม่นานก็พร้อม ผล.....ปล่อยได้สำเร็จครบถ้วน 3 ตุง

จึงกล่าวได้ว่า กำเนิดตุงลอยฟ้า มาจากหลวงพ่อครูบาวงศ์หรือหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ ท่านให้ทำปล่อยมาเรื่อยๆ ในงานวันเกิดบ้าง, งานกฐินบ้าง, งานตานใช้-ตานแทนบ้าง ท่านก็จะกำหนดความยาวและลายที่ติดตุงมาให้ คือให้ทำมาตั้งแต่ 20 วา,50 วา,100 วา , 200 วาตั้งแต่งบ 3-4 พันบาท ไปจนหนึ่งแสนบาทเศษ ขึ้นอยู่กับใช้ลูกโป่งหรือจำนวงนบอลลูนนำปล่อย

เมื่อท่านปล่อยตุงแล้ว ท่านจะนั่งดูอยู่บนรถเข็นหรือรถไฟฟ้าประจำตัวของท่าน ดูจนตุงลอยเกือบหายลับตาไป ท่านจะชี้บอก " ตุงลอยไปไหว้ทางพระธาตุดอยสุเทพ , ไปไหว้เจดีย์ชเวดากอง , ไปไหว้พระธาตุโน้น..พระธาตุนี้..." แล้วท่านจึงเข้าที่พัก อย่างมีความสุขใจ

 

ตุงลอยฟ้า ที่เคยทำยาวสูงสุดเท่าใด

เมื่อปี พศ. 2535 จะมีงานบุญสำคัญ ได้ถามท่านตุงครั้งนี้จะทำตุงยาวเท่าใด ท่านบอก 200 วา แล้วเปลี่ยนคำพูดเป็น 100 วา ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพระโพธิญาณ ท่านไม่มีคำพูดแล้วเป็นสอง และเกรงว่าถ้าไม่ทำจะทำให้ท่านติดหนี้คำพูดตัวเอง
ดังนั้นในปี 2540 จึงได้ถามท่านว่าตุง 200 วาที่หลวงพ่อฯเคยพูดไว้เมื่อ 2535 นั้น ต้องทำหรือไม่หรือสมควรทำหรือยัง ท่านให้ทำตุง 200 วาทันทีและกำหนดลายตุงให้มาด้วย ตุง 200 วาครั้งแรกนี้ได้ทำถวายในงานทำบุญวันเกิดท่านอายุครบ 84 ปี 22 เม.ย. 2540 ดังนั้นตั้งแต่ปี 2535 - 2539 เมื่อปล่อยตุง จึงตุงปล่อย 100 วา เป็นต้นมา

ตุงลอยฟ้า 200 วาเริ่มปล่อยปี 2540 มีโอกาสได้ทำปล่อยรวม 3 ครั้ง(ปล่อยแก้ 2 ครั้งใน 2 ตุงแรก)ดังนี้คือ
<O

ตุง 200 วาตุงที่ 1 ใช้ครุฑเป็นตัวนำตุงมีลูกโป่งดึง ปล่อยถวายในงานวันเกิด 22 เม.ย. 2540 ปล่อยหน้าอาคารพิพิธพันธ์อัฐบริขาร ลูกโป่งยกได้แค่ 1 เมตร (ลูกโป่งเริ่มเป่าตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเวลาปล่อยประมาณเก้าโมงเศษ ลูกแรกเริ่มหมดกำลังยก ) ต้องเปลี่ยนวิธีปล่อย เพราะม้วนไว้เป็นก้อนเพื่อจะกระตุกเชือกให้คลี่ปลายตุงตกลงมา เมื่อวางบนพื้นให้ดึงขึ้นไป ตุงจึงวิ่งไปตามพื้น ไปติดหลังคาอาคารพิพิธพันธ์อัฐบริขาร ติดยอดต้นไม้ ไปติดยอดวิหารพระเจ้าเก้าตื้อ(จำลอง) ผมปีนขึ้นไปปลด ปลดแล้วปลดอีก ๆๆ คิดแล้วทำได้อย่างไรก็ไม่รู้ ไม่ตก ไม้ไผ่ไม่พลิกตกลงมา กิ่งไม้ไม่หักลงมา ไม่ตกหรือพลัดหลังคาวิหารลงมาก็บุญโข นึกแล้วหนาวๆๆๆ ทำไปได้ยังไง (ใจคิดอย่างเดียวต้องปล่อยไปให้ได้) ที่สุดต้องยอมแพ้ เมื่อไปพาดติดต้นไผ่ จึงตัดปล่อยไปได้แค่ครึ่งเดียว นี่แหละกำลังหรือวาสนา......คงยังไม่พอ มิฉนั้นคงให้ทำตั้งแต่ พศ.2540 แล้ว ครั้งนี้ ใช้เงินไปเกินหมื่นบาท(จำไม่ได้ นานแล้ว น่าจะเกือบสองหมื่น)

ครุฑ เมื่อหลวงปู่ครูบาวงศ์ มรณะภาพ ยังแขวนอยู่ที่ศาลาตั้งพระศพ ครุฑศิษย์หลวงปู่ฯท่านหนึ่งเป็นนักศิลปินเป็นผู้ทำ จำชื่อไม่ได้นานมากแล้ว ทำด้วยโฟมและแต่งตัวให้อย่างงดงามดังที่เห็น พลังแห่งครุฑที่วางพิงหน้าห้องพักที่กรุงเทพ ทุกๆเช้าจะต้องมีไส้เดือน ไม่น้อยกว่า 2-5 ตัวคลานเข้ามาในบ้าน จากพื้นดินฝั่งตรงข้ามหน้าบ้าน ผ่านถนนคอนกรีต ผ่านหน้าประตูเหล็ก คลานเข้ามาตามถนนรถในบริเวณบ้าน (พื้นคอนกรีต) คลานผ่านพื้นคอนกรีตมา รวมระยะทางไม่น้อยกว่า 15 เมตร จึงหมดแรงหรือไม่ก็ไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น จนแดดเผาตายเสียก่อน ซึ่งเป็นอัศจรรย์ พลังแห่งครุฑนี้ แปลกมากจริงๆ

ตุงที่ขาดหรือที่คงเหลือนำมาซ่อมและปล่อยอีกครั้ง ครั้งนี้ยาว 108 พอดีไปได้อย่างสวยงาม วันที่........(ยังหาบันทึกอยู่ครับ)

<O</O
<O</Oผลการปล่อยตุงครั้งนี้ 1 มีพี่ผู้หญิงอุทานออกมาดังอย่างดีใจว่า สำเร็จแล้ว รอมาแสนชาติ สำเร็จแล้ว ๆๆ และกล่าวว่า จะทำ 400 วา ผมบอก ผมไม่รับรู้นะ แค่นี้ก็สุดๆ แล้ว (ทั้งๆที่ท่านผู้นี้ ได้ร่วมทำตุงกันมาตั้งแต่ 20 วา,50วา,และ 100 วาและเป็นหลักในการทำและให้สถานที่ เมื่อให้ศิษย์ ชาว อ.ลี้ จ.ลำพูน ของหลวงพ่อครูบาวงศ์ได้ร่วมทำ ต่อมาได้ข่าวว่า อธิฐานขอยกเลิกไปแล้ว ต่อมาหลังหลวงปู่สิ้นแล้วได้บวชเป็นแม่ชี มาเกินสิบปีแล้ว) และผู้นั้นกล่าวว่าสามารถช่วยสรรพวิญาณให้เลื่อนภพเลื่อนภูมิขึ้น ยกเลื่อนได้ถึง 4 ขั้นเป็นลำดับๆ (อย่าสรุปว่ายกชั้นยกภูมิทั้งกะบินะครับ 7 ก.พ. 2543 มีโอกาสถามท่าน ท่านก็ยืนยันว่าจริงเรื่องเลื่อนหรือคลายกรรมด้วยผลจากตุงนี้และสรุปเป็นข้อๆดังข้างต้น (มีต่อครับ)


รูปครุฑ ที่เตรียมไว้สำหรับ นำตุงลอยฟ้า ขึ้นไป

 

ฝากอธิษฐานจิตไปด้วยนะค่ะ

 

กระผมขอร่วมบุญสร้างตุงลอยฟ้าโอนวันนี้ 14 เมย..๒๕๕๔ เวลา 10.45น, จำนวน 90 บาท
อานิสงค์ผลบุญในร่วมบุญสร้างตุงลอยฟ้า ที่ได้ทำโดยชอบในครั้งนี้ขอคำอธิษฐานของข้าพเจ้าจงบังเกิดผลสำเร็จดังนี้
๑เพื่อเป็นการบูชาคุณพระรัตนตรัยเจตนาชำระหนี้สงฆ์และเช่าที่สงฆ์ตราบนิพพาน หนี้หลวง หนี้กรรม หนี้บุญคุณหนี้บนบานศาลกล่าว หนี้พันธะสัญญา หนี้สายโลหิต หนี้แรงอธิษฐาน หนี้ตนเอง หนี้คำสาบาน หนี้คำสาปแช่ง หนี้ผู้ใกล้ชิคและบริวารกัลยาณมิตรทั้งหมดนับแต่อดีตชาติ จนถึงตราบนิพพานในปัจจุบันชาตินี้ ด้วยบุญนี้ขอจงหมดหนี้หมดวิบากกรรมชั่วทั้งหมดเทอญ
๒เพื่อเป็นการขอขมาต่อพระรัตนตรัยตลอดจนผู้มีศีลธรรม ผู้มีพระคุณทุกท่าน พุทธสถาน เจ้ากรรมนายเวรและสัตว์น้อยใหญ่ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินด้วย กาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ระลึกได้ก็ดี ไม่ได้ก็ดี ขอจงเป็นอโหสิกรรมมิได้ปิดกั้นหนทางสู่พระอมตธรรมนิพพานเลยอะไรที่ไม่ชอบขอข้าพเจ้าอย่าได้กระทำต่อผู้อื่นทั้งเบื้องต้น ท่ามกลางที่สุด
๓ขอจงเป็นนิสัย เป็นพละ เป็นปัจจัย ผูกขาดจองขาดตรงต่อพระอมตธรรมนิพพานอยู่ทุกกาลทุกเมื่อสำเร็จพระนิพพานโดยง่ายเฉียบพลันในปัจจุบันชาตินี้เทอญสามารถช่วยชีวิตตนเองและผู้อื่นให้รอดพ้นความตายคลายทิฏฐิดำริชอบประกอบแต่กุศลเห็นผลอนันต์เป็นหลักฐานมั่นคงในชีวิตและสามารถโปรดบุคคลใกล้ตัวตลอดจนผู้อื่นให้สำเร็จนิพพานโดยง่ายเฉียบพลันเทอญ
๔ขึ้นชื่อว่าอุปสรรคความขัดข้องใดๆ ความยากจนเข็ญใจอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าทั้งทางโลกทางธรรมขอเป็นสัตบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยสัปปุริสธรรม๗ดีมาก มีเวลาดี มีสถานที่ดี มีโอกาศดีมีความถูกต้องเป็นธรรมดี มีความสำเร็จดีทุกประการโดยเฉียบพลันทันเวลาด้วยบุญนี้ขอน้อมรับพรจากพระรัตนตรัยและน้อมกราบเท้าอนุโมทนาสาธุในทุกบุญกิริยาวัตถุ๑๐ขอข้าพเจ้าอย่าได้ไปบังเกิดในอบายภูมิเลยทั้งเบื้องต้นท่ามกลาง ที่สุด
๕เป็นสัตบุรุษที่เจริญในอายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญด้วยลาภทรัพย์ อำนาจ วาสนา บารมี มีสิริมงคล มีอาหารเจทานตลอดชีพ ยินดีเฉพาะอาหารเจ มีสุขภาพดีตลอดชีพ มีความผาสุขสันติสุขตลอดกาล ปลอดภัยอิสระในธรรมตลอดกาล มีเนื้อคู่บารมีธรรมเป็นนางแก้วกัลยาณมิตรมีกรรมสัมพันธ์ที่ดีไม่มีใครละเมิดล่วงเกินได้ มีกุศลกรรมบถ10ดีมากมั่นคงดีมีสุข มีบริวารมากมายเป็นกัลยาณมิตรทั้งหมดมีกรรมสัมพันธ์ที่ดีเป็นที่รักเคารพกตัญญูกตเวทีเมตตาช่วยเหลือส่งเสริมของกัลยาณมิตรทั้งหมดสามัคคีแข็งแกร่งไร้เทียมทานจงมีแก่ข้าพเจ้าอย่างมั่นคงทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด
๖เป็นสัตบุรุษผู้โชคดี มีสิริมงคล ๓๘ ประการมีลักษณะมหาบุรุษครบบริบูรณ์ ชะตาฟ้าดีมาก ชะตาคนดีมาก ชะตาดินดีมาก วรรณะดีมีสติปัญญาความสามารถดีมากมีโอกาสดีรักษาโอกาสใช้โอกาสได้ดีสำเร็จถูกต้องเป็นธรรมดีมาก มีศีลธรรมดีมากนามศาสตร์ดี เลขศาสตร์ดี ที่อยู่ดี ใกล้ชิดแต่กัลยาณมิตรดีมีกรรมสัมพันธ์ที่ดีมากมีโอกาศบำเพ็ญไตรสิกขา(ทาน ศีลภาวนา)ดีสำเร็จดีมหัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวงมีสุขสมหวังดีทำหน้าที่สำเร็จสมบูรณ์ดีและรักษากายจิตได้ดีไม่มีความเศร้าหมอง ปลอดภัยไร้โรคาสุขภาพกาย สุขภาพจิต สมบูรณ์แข็งแรงเบาบาง สว่าง ใส เย็น มีสติสัมปชัญญะความเพียรความไม่ประมาทอยู่ทุกเมื่อ ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจความปรารถนาฝ่ายต่ำมีศีลธรรมและพระรัตนตรัยเป็นที่เคารพรักดี สัมมาปฏิบัติเป็นปกติดีทั้งเบื้องต้นท่ามกลาง ที่สุด
๗เป็นสัตบุรุษผู้ร่ำรวยปัจจัย ๔ มีความคล่องตัวทุกประการทำกิจน้อยใหญ่บริวารกัลยาณมิตรมาช่วยทั้งหมด มีคู่บารมีธรรมเป็นนางเเก้วกัลยาณมิตรมากมายมีกรรมสัมพันธ์ที่ดีสามัคคีแข็งแกร่งไร้เทียมทานมีสัมมาอาชีพดีมั่นคงรุ่งเรืองก้าวหน้าส่งเสริมรายได้สุขภาพและการปฏิบัติธรรมมีอภิชาติบุตรทุกชั่วโครตตลอดสายโลหิตชุบเลี้ยงใครเป็นบัณฑิตที่มั่นคงกตัญญูกตเวทีดีมีสุขสมหวังดี มีความสัปปายะทุกด้านสำเร็จสัมมัตตะ๑๐ตั้งมั่นมั่นคงก้าวหน้ารุ่งเรืองไร้เทียมทานทั้งถึงคราวตายไม่ทุกข์ทรมาน มีสติสันติสุข ไม่หลงใหลไม่ยินดีในการเกิดทั้งเบื้องต้นท่ามกลาง ที่สุด
๘เป็นสัตบุรุษ อย่าได้พบ อย่าได้เห็น อย่าได้คบอย่าได้เสวนากับคนพาล อย่าได้ยินดีในธรรมพาล พระ เทวดา ฟ้าดินให้ศีลให้พร ข้าศึกศัตรู ภัยพาล มาร อสูร อสุรกาย ผีสาง อย่าได้มาเผชิญหน้าหรืออย่าได้มาอยู่เฉพาะหน้า ให้รอดพ้นจากรัตติกาลมนต์ดำคำสาปแช่ง ความทุกข์ มลทินโทษ ความเศร้าหมอง เสนียดจัญไร อาถรรพ์ร้ายทั้งปวงทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด
๙เป็นสัตบุรุษที่นำความผาสุข สันติสุขอันอเนกอนันต์มาสู่ตนเอง สายโลหิตบริวารกัลยาณมิตรทั้งหมด ญาติพี่น้อง ผู้มีคุณ ผู้ใกล้ชิดผู้เลื่อมใสศรัทธา ผู้ส่งเสริมเกื้อหนุน ผู้พบเห็นผู้ได้ยินผู้ระลึกถึงและสรรพสัตว์ที่ยังเวียนว่ายทั้งสามโลก ให้ถึงฝั่งคือนิพพานเป็นสัมมาทิฏฐิ ทำดีได้ดี มีผลอนันต์ ทำบุญคุณคนขึ้น ความจริงปรากฏไม่มีใครใส่ร้ายป้ายสีทำลายความสามัคคีได้ใครทำร้ายให้ร้ายทำลายประโยชน์ไม่สำเร็จและไม่รับจงกลับคืนเจ้าของด้วยเดชบุญทั้ง๑๐ป้องโอกาสอย่าพึงมีแก่ข้าศึกแก่ศัตรูภัยพาลมารอสูรอสุรกายทั้งหลายทั้งเบื้องต้นท่ามกลาง ที่สุด
๑๐ขอให้ชาตินี้ข้าพเจ้าทำงานเวชศาสตร์ใต้น้ำมั่นคงก้าวหน้ารุ่งเรืองบำเพ็ญธรรมสะดวกโดยง่ายปลอดภัยแข็งแกร่งไร้เทียมทานและข้าพเจ้ากับคุณณัฏฐ์สรวงทำงานtoppostและขายขนมปังนมสดมั่นคงก้าวหน้ารุ่งเรืองใช้หนี้หมด โดยสะดวกรวดเร็วบำเพ็ญธรรมสะดวกโดยง่ายสำเร็จดี ได้มีบ้านเลขที่9 ซ2 ถนนเยาวราช ภูเก็ตเป็นของตนเอง
๑๑บุญที่ร่วมสร้างตุงลอยฟ้า ขอน้อมถวาย พุทธบริษัท๔ และนิตยโพธิสัตต์ ที่ตกอบายภูมิทุกท่าน ทั้งสายโลหิตตลอดบริวารที่เป็นกัลยณมิตรทั้งหมดในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านที่มีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่ทีสุขขอให้สุขยิ่งๆๆขึ้นไป หากเกิดใหม่ขอให้เป็นสัมมาทิฏฐิมีปัญญาแยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่คบพาล คบแต่กัลยาณมิตรโดยเร็ว มีกรรมสัมพันธ์ที่ดี เป็นคนดีที่มีความสุข สำเร็จพระนิพพาน แลโพธิญานโดยเร็วพลัน และอย่าได้ทำ อนันตริยกรรมเลยทั้งเบื้องต้นท่ามกลางที่สุดด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโทนาครับ ในกุศลจิตของท่านทั้งหลาย อุปสรรคทั้งหลายของท่านจงคลายไป


คำอธิษฐานคุณ liching ,คุณณัฏฐัภรณ์ จงสำเร็จเถิด

คำอธิษฐานใดของท่าน ของข้าพเจ้า จงสำเร็จเถิด


จักทำให้หมู่ชน-สรรพสัตว์-ทุกภพทุกภูมิ ทั้งปวงได้รับอานิสงค์และบุญอันประเสริฐ

 

ตุง 200 วาตุงที่ 2 ท่านให้ลายใหม่ปล่อยวันที่ 8 มี.ค.2541 ใน งานตานใช้-ตานแทนครั้งที่ 7 ใช้กระทงดอกบัวกลีบดอก ทำแบบงานทำหัวโขน(เปเปอร์มาเช่) โดยอาจารย์นันทนา(คุณจิ๊วคนเดิม) ใช้บอลลูน 6 ลูกเพราะหนักถึง 26 กิโลกรัม ปล่อยที่เจดีย์ศรีเวียงชัยแต่ผิดเวลาที่ท่านสั่งไป 5 ชั่วโมงปล่อยจริงเอาป่ายโมงกว่าเกือบป่ายสองโมง เพราะต้นเทียนเจ้ากรรม 2 ต้น ไม่ทราบใครมาวางไว้ท้ายรถ ซึ่งใช้จุดบวงสรวงอาหารคาวนอกวัด พอนำไปให้ พบว่าของบวงสรวงหลัก คือหัวหมู ไก่ ยังไม่มาจากเชียงใหม่ ครูบาอาจารย์จะร่วมปล่อยตุงก็มาอยู่ตรงนี้เลยต้องอยู่ช่วย และพอของมาก็ต้องส่งไปต้มบ้านโน้น บ้านนี้จน 10 โมงกว่า ต้องเร่งบวงสรวงให้เสร็จ (ความผิดพลาดเกิดจากผู้รับผิดชอบตรงนี้ ไปสั่งของไกล และไม่ได้สั่งของต้มแล้ว จึงได้ของสดมาทั้งหมด)


น่าโมทนาและเห็นใจท่านที่รอกันมากมายใครที่ได้ร่วมครั้งนั้นคงโทษผู้ปล่อยตุงไม่น้อยปล่อยจริงเป็นบ่ายโมงกว่า เกือบบ่ายสองโมง เพราะต้องรอพระคือหลวงปู่เสริม อนุตโร และหลวงพี่ปู ตอนมาถึงบริเวณปล่อยพบว่า ลมแรงมาก (ผิดเวลา จากที่หลวงพ่อครูบาวงศ์ กำหนดไว้) หลวงปู่เสริมให้จุดธูป (ถวายหลวงพ่อครูบาวงศ์ท่านแล้วท่านให้ไปปล่อยกันเองท่านอยู่ที่ในวัดพระบาทห้วยต้มเพราะงานท่านมากมาย ) พอจุดธูปเสร็จและเริ่มจะปล่อยตุง ลมหยุดสนิทนิ่ง จนแปลกใจ คนร่วมถือเชือกแต่ละจุดพร้อม..... พอบอก“ปล่อย”บอลลูนดึงตุงลอยฟ้าขึ้นไปแค่อึดใจยังไปไม่สูงมากลมโหมมายังกับพายุทำให้บอลลูนที่มีกระทงและตุงผูกอ ลู่ไปกับกระแสลมที่มาอย่างรุนแรงมาก หลายคนที่ช่วยคุมเชือกและยืนอยู่บนเจดีย์ศรีเวียงชัยแทบลอยไปกับตุงบางคนได้เลือดเพราะลมมารุนแรงมาก ตุงลู่และถูกโน้มลงมาต่ำมาเพราะเชือกยังถูกคุมอยู่ยังไม่ได้ตัดตุง ตุงวิ่งรูดไปบนจั่วหลังคาวิหารพระใหญ่ด้านทิศเหนือจนขาดไปเองไปกับบอลลูนได้ 100 วา (45 %) จากเต็ม 216 วาหมดเงินแสนเศษกำลังใจยังเต็ม 100 %

<Oหลวงปู่เสริม อนุตโรและหลวงพี่พระปฏิกร ฐานังกโร(หลวงพี่ปู) ว่าภูมิต่างๆมาแย่งกันร่วมปล่อยมาหลายมิติหลายภูมิครุฆนาคาต่างก็ช่วยกันดึงกันรั้งท่านว่าห้ามก็ไม่ฟังตุงไปตกห่างไปทางทิศเหนือของอำเภอเถิน 20 กิโลเมตรบนเนินเขานอกหมู่บ้าน
<O
คนที่เคยพูดว่ารอมาแสนชาติสำเร็จแล้วตอนปล่อยตุง200 วาครั้งแรกเข่าทรุดเลยผม.ใจบอก ...ไม่เป็นไร

<Oตุงนี้ใช้เวลาทำได้รวดเร็วและยากที่สุด(เทียบกับงาน) ลายสวยที่สุด คนร่วมทำมากที่สุด ทำกันอย่างสนุกที่สุด ทำสำเร็จก่อนปล่อยนานที่สุดหนักที่สุดคือ 26 กก.

<Oลายที่หลวงพ่อครูบาวงศ์กำหนดให้ทั้งสิ้นคือ (เว้นหัว-ท้ายตุง)
1) แจกันปากบานใส่ดอกบัวเขียว
<O</O2) แจกันปากบานใส่ดอกบัวฉัตรชมพู
3) แจกันปากบานใส่ดอกกุหลาบแดง เป็นแบบที่ทำยากที่สุด ตัดกระดาษเป็นชิ้นๆดอก ก้าน ใบ แจกันแล้วติดให้ตรงกันสองด้าน
4) กอบัว 4 เหล่าดอกบานเหนือน้ำ
5) กอบัว 4 เหล่าดอกตูมเหนือน้ำ
6) กอบัว 4 เหล่าดอกตูมใต้น้ำ
7) กอบัว 4 เหล่าดอกตูมใต้ตม
8) นางกินนารีคู่กายสีเขียว
** หัวตุงลายทำเป็นวิมานแก้ว สมเด็จองค์พระปฐมวัดท่าซุง
** หางตุงทำรูปเหมือนดอกบัวหัวเสา

ส่วนที่ขาดซ่อมและปล่อยแก้ตัวใหม่ วันสืบชะตาพิเศษแบบกรุงศรีฯครั้งที่ 2 วันที่ 5 เม.ย.2541 ได้ยาว 108 วาพอดีปล่อยหน้าวิหารพระบาทตรงเวลา ไม่ยอมให้คลาดเคลื่อนที่ท่านสั่งแม้แต่นาทีเดียว ใช้หงส์นำร่วมกับดอกบัวตุงตกที่ใดไม่ทราบการปล่อยครั้งนี้บางคนเห็นพระกฤษณะมหาเทพมาดึง(หยิบหรือถือตุง)ตุงขึ้นไปลอยผ่านเสาสายล้อฟ้าข้างเจดีย์พระพุทธบาทไปอย่างสวยงามตุงนี้ขณะนำอธิฐานถวายมีผู้เห็นรอยพระพุทธบาทลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าหนือตุงก่อนปล่อยและครูบาวิจิตเมตตานำพระสงฆ์-สามเณรมากกว่า50 รูปที่มาร่วมงานหลวงพ่อครูบาวงศ์ยืนสวดชยันโตระหว่างปล่อยตุงด้วย(มีต่อครับ)

เงินปล่อยตุง มีเหลือได้ถวายหลวงปู่ฯ ร่วมบุญเป็นถาวรวัตถุ เช่น เข้าเจดีย์ชะเวดากองจำลอง(มหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย ในชื่อใหม่ภายหลัง) ร่วมสร้างพระพุทธรูป และกันเป็นเชื้อไว้สำหรับตุงลอยฟ้าครั้งต่อไป 750 บาท

*** ภาพต่างๆ กำลังค้นหา เพราะนานมาก จริงๆมีถ่ายไว้มากและย้ายที่อยู่-หลังจากคุณแน่งน้อยเสียชีวิต รูปต่างๆลืมว่าอยู่ที่นั้น ก็กระจัดกระจาย-ซึ่งถ่ายงานหลวงปู่ฯไว้ ตั้งแต่ พศ. 2527 ส่วนภาพจากผู้ร่วมทำและปล่อย ไม่เคยขอไว้ จึงมีแหล่งข้อมูลจากที่อื่นน้อย***
- ในภาพ เป็นลายส่วนหนึ่ง ที่ตัดแปะ และช่วยกันทำ ตั้งแต่เด็ก 3 ขวบ---จนถึงคนแก่ คนเป็นร้อยๆ ได้มาทำ เป็นครั้งที่ลายสวยที่สุด ยากที่สุด ทำกันเพลิดเพลินที่สุด และจ่ายไปทำก็มีแต่ส่วนใหญ่ทำที่สาธุประดิษฐ์

 

ตุง 200 วา ตุงที่ 3 ใช้เวลา 19 วัน เริ่มจากเงินที่กันมาจากตุงก่อน 750 บาท

ตุง 200 วา ตุงที่ 3 ปล่อยในงานตานใช้-ตานแทน ครั้งที่ 8
ปล่อย วันที่ 9 เม.ย.2543 ตัวนำตุงใช้หงส์ กับบอลลูน

โดยมีเงินต่อเชื้อเป็นทุนที่กันมาจากครั้งก่อน 750 บาท

หลวงปู่ฯกำหนดขนาด ตุงยาว 200 วาหน้ากว้าง 16 นิ้วขึ้นไป ขอท่านใช้ผ้าบางแทนกระดาษสา เพราะเวลาและน้ำหนักตุงจะเป็นอุปสรรค หลวงปู่ฯให้ลายมาดังนี้ <O</O
1) ดอกบัวบาน <O</O
2) ดอกยี่โถ <O</O
3) ดอกกุหลาบ ต้องปฏิเสธลายเพราะกำลังคนน้อยไม่มีเวลาเหมือนอย่างเดิมจึงให้ลายเดียวคือ ลายเทวดา นั่งคุกเข่าพนมมือถือดอกบัว 5 ดอก กายสีเนื้อ ผ้าสีเขียว ตกลง ทำได้น่นอน….(ใจคิด)<O</O
-- หัวตุงเป็นพานขมา ทรงตั้งสูง <O
-- หางตุง เหมือนบัวหัวเสาคว่ำลง ท่านวาดให้ดูอีก

33 วันแล้ว ยังทำไม่ได้ 12 มี.ค. 2543 คิดวิธีตัดลายไม่ออก จะแยกสีแยกลายออกมาตัดได้อย่างไรหนอ เริ่มเครียด ๆๆๆ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เหลือเวลา 27 วัน หลายท่านให้ทำ Sticker ซึ่งไม่อยากทำ 14 มี.ค. 2543 ตัดสินใจใช้ Sticker มิฉนั้นงานไม่เดินแน่ และเริ่มลงมือซื้อทุกอย่างที่ใช้ ลุย....

19 มีค 2543 ขออนุญาตท่านเจ้าคุณพระธรรมรัตนะดิลก (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม ขอทำตุง 200 วาในพระอุโบสถ เพื่อถวายแด่หลวงปู่ฯซึ่งท่านเคารพและศรัทธามากอยู่ก่อนแล้ว( สมัยก่อน งานปีใหม่และวันเกิดหลวงปู่ฯ ทำที่วัดบุปผารามแห่งนี้มาตลอด) เริ่มลุยกันวันนี้

พบนักบุญผู้ศรัทธา และเป็นเจ้าภาพใหญ่ กับตุงลอยฟ้านี้

21 มี.ค.2543 นำแบบที่หลวงปู่เสริม สเกตต์ร่างให้และผมไปลงสีที่วิทยาลัยเพาะช่างมาเข้าโรงพิมพ์ จู่ๆคุณวี(วีระพล พงษ์จิระศักดิ์(เพื่อนคุณอดุลย์ มหาชัย)โทรติดต่อมาและขอตามไปด้วย จนถึงคุยกับโรงพิมพ์ หลังคุยโรงพิมพ์เสร็จแล้ว คุณวีฯมาที่รถและบอกหนึ่งแสนพอไหมครับ สำรองไว้ไม่พอบอกได้อีก พอก็คืนได้ เท่าที่กำลังจะมี ไม่พอบอกได้อีก คุณวีว่า "หลวงปู่อายุมากแล้ว จะมีโอกาสอีกสักกี่ครั้งที่จะได้ทำตุงลอยฟ้า ถวายท่าน" ซึ่งก็จริง อีก 30 กว่าวัน หลวงปู่ฯ ก็จากไป ไม่มีวันกลับ แต่จริงๆ ท่านยังอยู่กับทุกคนเสมอ

คุณวีนั้น เจอกันเมื่อ 1 ม.ค. 2543 ครั้งเดียว ได้พูดไว้ว่า จะทำตุงลอยฟ้าให้หลวงปู่ฯ คุณวีอยากทำตุงมากๆ แจ้งว่าทำเมื่อไรบอกด้วย (ความจริงยังไม่ได้บอกครับ โทรมาจังหวะพอดี ที่กำลังส่งจดหมายไปที่ต่างๆ จึงนัดกันและตามไปโรงพิมพ์ทั้งสองแห่งที่ผมไป สุดท้ายทำ Sticker เทวดา ซึ่งค่าจ้างทำ และแก้งานรวมเป็นเงิน 36,300 บาท)

ตุงก่อนๆคนทำและประกอบตุงมีมาก แต่ตุงนี้คนทำนับสิบและบอกแล้วก็มากันไม่ได้ แต่พี่เปี๊ยก (คุณโสภิส อัศวธีภัทร) ขนาดอยู่ไกลถึงยโสธรยังได้มาทำ อยู่ข้างบ้านชวนก็ไม่มา พอขยับมาก็เสร็จแล้ว หรือพอจะมาก็ป่วย มีธุระด่วนขึ้นมา

แต่ตอนติดภาพเทวดากลับมีคนร่วมมากมายมากจริงๆ ติดได้รวดเร็วมาก

<O</Oเพียง 19 วัน สำเร็จทุกอย่าง 100% 6 เม.ย. 2543 พร้อมกระทงนำ รวมน้ำหนักถึง 26.5 กิโลกรัม และพร้อมปล่อยแล้ว เวลา 16.30 น งานจบ

<O</O
ผู้ร่วมบุญเริ่มเข้ามาเลื่อยๆ คืนเงินคุณวีที่วัดก่อนปล่อย 62,000 บาท หลังปล่อยมีเงินเหลือทำบุญให้ทุกคนอีก( 38,000 บาท คุณวี ร่วมปล่อยทั้งหมด) ปล่อยตรงเวลาที่สั่ง ลมสักนิดก็ไม่มี สำเร็จแล้ว ไม่ต้องปล่อยแก้

ใช้เงินรวมทั้งสิ้น 167,133 บาท เหลือเงินอีก 15,800 บาท ถวายทำบุญ ให้ได้บุญต่อไป
- ภาพตุงลอยฟ้า 200 วา ที่กำลังขึ้น และลายเทวดาที่ติดตุง




ภาพเขียนต้นฉบับรูปเทวดา ที่ลงสี 5 สีแล้ว(ไม่ได้เก็บให้ดีจึงเก่ามาก)

 

สาธุผู้ข้าฯได้สร้างตุงลอยฟ้า ขอถึงพระนิพพานเป็นที่สุดเถิด

สาธุผู้ข้าฯได้สร้างตุงลอยฟ้า ขอถึงพระนิพพานเป็นที่สุดเถิด ​

ข้อความที่หลวงปู่ฯให้เขียนบนผ้าติดไปกับลูกบอลลูน
เมื่อปี 2543 ในการปล่อยตุงลอยฟ้า 200 วาครั้งสุดท้ายของหลวงปู่

 

ทุกๆคนคือพลังแห่งบุญ พลังอันยิ่งใหญ่ หนึ่งสลึ่ง หรือหนึ่งบาท หรือร้อยบาทพันบาทหมื่นบาท เท่าไรตามกำลังศรัทธา ท่านคือเจ้าภาพคือเจ้าของร่วมปล่อยตุงให้สำเร็จ สาธุ…อนุโมทามิ….

ตุงลอยฟ้า หลวงปู่จะมาร่วมปล่อยเกือบทุกครั้ง ครั้งหลังๆ สุขภาพทรุดโทรม ท่านจะนั่งบนรถเครื่อง(พลัง Battery ) ดูอยู่หน้ากุฏิจนลับตา ( ตุงจะถวายท่านก่อนล่วงหน้าหนึ่งคืน ) ท่านจะบอกว่าตุงไปไหว้ที่ศรีลังกา ไหว้เจดีย์ชะเวดากอง ไหว้ดอยสุเทพ ไหว้ที่โน้นที่นี่ (ตุงที่ลอยอยู่ท้องฟ้าจะเห็นว่าเปลี่ยนทิศไปเรื่อยๆ) ท่านมีความสุขมาก

หลายคนเห็นท่านยิ้มงามๆ ซึ่งไม่บ่อยนักอย่างดีใจ อานิสงค์ที่มากมายนัก ท่านรู้ ศิษย์ไม่เห็น

 

พระเถระ ยืนยันพลังบุญ

จากภาพถ่ายวันที่ 9 เม.ย.2543 ของคุณแหม่ม ที่นำไปถามพระเถระวันที่ 22 เมษายน 2534 ท่านกล่าวว่า

" นี่แหละคือบุญ ใครว่าบุญไม่มีจริง ใครทำจริงก็ได้ของจริง คนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่านั้นที่จะได้สิ่งนี้ ขอให้พวกเขาทั้งหลายหมั่นรักษาศิลและหมั่นภาวนาให้มากๆเพราะบุญนั้นมีจริงอย่าได้คิดดูถูกบุญ"

ภาพอัศจรรย์ วันปล่อยตุง
คุณแหม่ม (คุณควรคิด กันแย้ม)การบินไทย มาถามในงานทำบุญมรณภาพครบ 50 วันหลวงปู่ฯ ว่า วันนั้นปล่อยตุงกี่ตุงและมีตุงเป็นรูปดอกบัวไหม เพราะหลวงปู่สั่งถึงสองครั้งให้ไปปล่อย ท่านสั่งเป็นครั้งที่สาม เมื่อมาถึงบริเวณปล่อยตุง ข้างวิหารพระบาทกบ เห็นบนท้องฟ้ามีกระทงใหญ่ลอยอยู่ทางทิศเหนือ (ด้านเจดียเจดีย์ชเวดากอง)ลอยจากทิศตะวันออกมาทางทิศตะวันตก คิดว่าคงปล่อยตุงไปหนึ่งตุงแล้ว

เมื่อมาเห็นตุงกำลังปล่อยและได้ร่วมปล่อย ได้ถ่ายภาพไว้ 6 ภาพ เมื่อปล่อยตุงเสร็จกระทงดอกบัวใหญ่นั้นก็ลอยหายไป เมื่อล้างรูปออกมาพบว่า ภาพตุงกำลังลอยขึ้นไปนั้น พื้นหลังท้องฟ้าเหมือนฐานกลีบบัวฐานพระประธานปรากฏอยู่ด้วยหลังตุง เป็นกลีบบัวขนาดใหญ่ให้เห็นอย่าชัดเจน แต่ในภาพที่ลงประกอบถ่ายจากหนังสือ จึงจืดจาง และไม่ชัดเจน



(อ่านศิษย์บันทึกของคุณแหม่มจากหนังสือพระชัยวงศานุสสติ 100 วันหลวงปู่ เรื่องใครว่าบุญไม่มีจริง หน้า 215 เมื่อนำภาพไปให้พระเถระดูในงาน 50 วัน ท่านกล่าวดังข้อความด้านบน )
<O

 

ตัวนำตุง ที่ใช้นำตุงลอยฟ้า

แต่ละครั้งเมื่อถามตัวนำตุง ท่านจะสั่งในแบบต่างๆ ไม่เคยซ้ำ


*** ความปรารถนาของผม คือ ต้องการให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายทราบถึง "ตุงลอยฟ้า" มีประวัติและมีที่มาที่ไปอย่างไร และอานิสงฆ์ที่ชนทั้งหลายไม่ทราบ ***
การปล่อยแต่ละครั้งคือ งบประมาณที่ต้องจัดให้ตุงลอยไปได้

เท่าที่พอจะหารูปได้ ใครอยากทำตุงลอยฟ้าในภายหน้า จะได้รู้พอเป็นแนวทาง
- หงษ์ (หลายครั้ง ทำปล่อยมาหลายรูปแบบ)
- เรือสุพรรณหงษ์ (ครั้งเดียว)
- เรือทานนาวา (ครั้งเดียว)
- เทวดาคู่ (ครั้งเดียว)
- พญาครุฑ (ทำ 2 ครั้ง)
- พระพรหม สามหน้า (ครั้งเดียว)
- กระทงดอกบัว (หลายครั้ง)
- กระทงดอกบัว มีร่มอยู่ด้านบน-เหมือนฉัตรคลอบดอกบัว (หลายครั้ง)
- กระทงดอกบัว มีร่มอยู่ด้านบน-มีใบพัดหมุนให้ดึงหรือพยุงตุงให้ลอยต่อไป (ไม่ได้ทำ)
- ม้าบิน (ครั้งเดียว 3 ตัว 3 ตุง)
- ช้างบิน (ครั้งเดียว)
- วิมาน (ครั้งเดียว)
- หงษ์+กระทงดอกบัว (หงษ์หิ้วกระทง ที่มีตุงผูกอยู่ด้านล่าง)
- กรณี ไม่ได้ถามท่านก็จะเป็นกระทงดอกบัว เป็นส่วนมาก(ง่าย-เร็ว)

 

เหตุที่น่าจะเป็น ปฐมเหตุ ตุงลอยฟ้า ของหลวงปู่ครูบาวงศ์

ปฐมเหตุของตุงลอยฟ้า

ในสมัยที่ครูบาอภิชัยขาว(ปี) วัดพระพุทธบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน ฉลองงานบุญใหญ่ที่วัดพระธาตุหัวขัว ซึ่งอยู่บนเนินเขา ใกล้วัดพระธาตุดอยกวางคำ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน หลวงพ่อครูบาวงศ์ได้ทำตุงผ้ายาวซาววา (ยาว 20 วา) เป็นพุทธบูชา ถวายครูบาอภิชัยขาวปี โดยครูบาอภิชัยขาวปีเป็นผู้ปล่อย ตุงนั้นแขวนบนเสาไม้ที่สูงมาก หลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปีอยู่ที่พื้นดิน หลวงพ่อครูบาวงศ์อยู่บนยอดไผ่เสาตุง สื่อสารกันโดยการตะโกน เมื่อลมมาหลวงพ่อครูบาวงศ์ก็ให้สัญญาณครูบาขาวปีปล่อย ตุงสะบัดขึ้นสวยงามมาก แต่หลวงพ่อครูบาวงศ์อยู่บนยอดเสาไผ่ ด้วยแรงลมและแรงกระชากของตุงก็โอนไปโอนมา กว่าท่านจะลงมาได้ก็หวาดเสียวกันน่าดู ตุงแขวงสะบัดพลิ้วได้ 3 วัน เชือกก็ขาดลอยไป เป็นตุงลอยฟ้า

หลวงพ่อครูบาวงศ์คงทราบขณะนั้นด้วยญาณวิถีบารมีของท่านว่าคงจะแตกต่างจากการแขวนบูชาบนเสา เพราะท่านพูดว่าแขวนที่ใดบูชาได้แค่ที่นั้น แต่ปล่อยลอยไปบนท้องฟ้า บูชาได้ทั่วทุกที่ ดังคำกล่าว

“ ลูกๆทั้งหลายสร้าง ตุงลอยฟ้า มาถวายหลวงพ่อๆ ขอถวายตุงลอยฟ้านี้ บูชาซึ่งพระพุทธเจ้า บูชาพระธรรม บูชาพระสงฆ์ บูชาพุทธสถานสถานที่-ที่พระพุทธเจ้าประกาศศาสนาไว้ทั่วชมพูทวีป บูชาพระจุฬามณีพระเมาลีธาตุ ......................ขอถึงพระนิพพานเป็นที่สุด"

คุณแอ๊ว (คุณลัดดา) ชัยภูมิ ว่าปีนั้นคือ พศ. 2519 ได้อยู่ในเหตุกาลด้วย ตุงลอยอยู่นานสวยงามมาก (รูปคุณแอ๊วว่าจะพยายามค้นหาอยู่่) เรื่องนี้ตรงกับอาจารย์ปฐม พัวพันธุ์สกุล เคยเล่าให้ฟังว่า ตุงแขวนบนยอดเสาสบัดไปมาอยู่ 3 วันจึงขาดลอยไป

<O

 

ตุงลอยฟ้า ณ.วัดแสงแก้วโพธิญาณ ครั้งนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ครูบาอริยชาติ สนิทกับคุณอดุลย์ (มหาชัย จ.สมุทรสาคร)

ตั้งแต่ท่านยังเป็นสามเณร ที่วัดวังมุย ประมาณ 10 ปีที่แล้ว(หลังหลวงปู่ครูบาวงศ์สิ้นแล้วประมาณหนึ่งปี) ครูบาฯได้ชวนคุณอดุลย์ว่า “คุณอดุลย์ในอนาคต ทำตุงลอยฟ้า มาปล่อยที่วัดครูบากันเน้อ” ซึ่งคุณอดุลย์ ว่า เรื่องตุงนี้ต้องพี่พงศ์ศักดิ์ (คุณอดุลย์เคยร่วงปล่อยตุง 200 วาในครั้งแรกเมื่อ 8 มีนาคม พศ. 2541)

<O</O
ต่อมาประมาณ พศ.2544 ได้พบครูบาอริยชาติ ที่โรงหล่อพระ ซอยบางบอน ๕ งานเททองหล่อพระไปวัดโขงขาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ของท่านพระอาจารย์บุญรัตน์ (ถวายเมื่อ พฤษภาคม 2545) ท่านบอก “ครูบาอยากปล่อยตุงลอยฟ้าเน้อ ต้องการสืบต่องานหลวงปู่ฯ” ถามเรื่องความยาว “ยังไม่รู้” จึงบอกว่า หลวงปู่ฯให้ความสำคัญที่ 20 วาขึ้นไป จึงบอกท่านไว้ที่ 20 วา คิดว่าจะทำให้ท่าน ตอนนั้นท่านอยู่ วัดพระธาตุดงสีมาแล้ว คิดว่าคงทำถวายแต่คงไปไม่ไหว ไกลมาก....ไม่สะดวกเดินทางเลย

10 ปีต่อมา คือวันเสาร์ที่ 7 พค 2554 ที่จะถึงนี้ “ตุงลอยฟ้า” ยาวถึง 69 วา จึงเกิดขึ้นที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงรายอีกครั้ง หลังจากตุงลอยฟ้ายาวถึง 200 วาเศษ หายไปถึง 11 ปี จากวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ. จ.ลำพูน


*** ได้ยินข่าว มีวัดทางภาคเหนือ ปล่อยตุงลอยฟ้า ในระหว่าง 11 ปี ที่ไม่มีการปล่อยตุงที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม น่ายินดีและอนุโมทนาด้วย ขอช่วยสานงานต่อไปกันเน้อ ถ้าไม่ทราบประวัติ ก็เรียนว่าประวัติเป็นดังที่กล่าวนี้

 

ตุงลอยฟ้า ถวายครูบาอริยชาติ กำลังดำเนินการทำ

ตุงลอยฟ้า ทำยากไหม


ตุงที่ทำแขวนโดยบูชาพระธาตุเจดีย์หรือพระพุทธรูปที่เห็นทั่วไป ทำได้ไม่ยากไม่มีต้นทุนอื่น แต่ตุงลอยฟ้า มีต้นทุนสูงคือการนำพาให้ลอยไปได้ ดังนั้น


1. เนื้อผืนตุง ควรมีน้ำหนักเบา หลวงปู่ครูบาวงศ์ ให้ใช้กระดาษสา เพื่อเมื่อตุงตกที่ใด ตุงจะได้ขาด-ชำรุดไปเสีย กันไม่ให้คนเก็บไปใช้หรือนำเข้าบ้าน เพราะว่า ก่อนปล่อยตุง จะถวายพระพุทธรูปหรือพระเจดีย์ก่อน ท่านว่า คนเก็บไปไม่รู้จะเป็นโทษ เป็นเปรตเฝ้าเจดีย์ จึงมีครั้งเดียวที่ขอทำด้วยผ้าบางๆ คือตุง 200 วาครั้งสุดท้ายเมื่อ่ พศ.2543 ขออนุญาตใช้ผ้า เพราะยาวมาก ทำไม่ทันกับกำลังคนและเวลาที่มี / แต่เขียนกำกับไปด้วย ให้ไปถวายวัดหรืออย่าเก็บไว้บ้าน


2. ถ้าตุงยาวหรือตุงหนัก การเป่าลูกโป่งหรือบอลลูน จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก


3. เงินที่อาจจะใส่หรือผูกไปกับตุง ควรเขียนแจ้ง ให้ผู้พบนำเก็บไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่เป็นโทษ

4. เสี่ยงบุญบารมีกันว่า จะปล่อยสำเร็จไหม คือ ลมและฝน
- ลม ตรงตามเวลาสั่งปล่อย อย่าล้าช้ามาก ถ้ามีลม แรงดึงของลูกโป่งหรือบอลลูน ต้องมากพอ จะได้ชนะแรงลมที่ทำให้ตุงตกท้องช้าง ซึ่งจะดึงตัวนำและตุงลงมาจนน่ากลัว และอาจไปไม่สำเร็จ
- ฝน แทบไม่เคยเจอ / ที่เคยพบ พอถึงเวลาปล่อยท้องฟ้าจะเปิด ฝนจะหยุดพอให้มีช่วง หลังปล่อยตุงจนหายลับตาไปแล้ว ฝนจึงตกต่อ

 

ตุงลอยฟ้า มีอานิสงค์เหมือน"งานพิธี ตานใช้-ตานแทน” คืองานอะไร

พิธี ตานใช้-ตานแทน”หรือ ทานใช้-ทานแทน คือ งานบุญมหาสังฆทานอันยิ่งใหญ่ ที่มีการถวายของทานแด่พระสงฆ์เถระผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบจำนวนหนึ่ง และพระสงฆ์ที่อยู่ปริวาสให้ศิลบริสุทธิ์อีกจำนวนหนี่งก่อนเข้าร่วมพิธีฯ ทั้งถวายทานอันยิ่งใหญ่ เมื่อรับถวายของทานแล้ว ก็อนุโมทนา หมู่สงฆ์พิจารณาทานอนุมัติ ที่เจ้าศรัทธาทั้งหลาย และพระสงฆ์บุญแทนหนี้สงฆ์-หนี้กรรม เอาบุญทั้งหลายเหล่านี้อุทิศให้แก่เจ้ากรรม-นายเวรทั้งหลายให้มาอนุโมทนารับเอาส่วนบุญ แล้วอโหสิกรรมกันเสีย หนี้กรรมจะได้ยกเลิก-อดโทษกันไป เรียกเป็นคำโดยทั่วไปว่า พิธีชำระหนี้สงฆ์-ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร
(มีครั้งหนึ่ง หลวงปู่ฯ ไม่ทำพิธีต่อ ขอให้ท่านที่รู้ตัวเรื่องศิลบกพร่อง ลุกออกไป ....ท่านรอ.../ จนท่านต้องชี้ตัว...เชิญให้ออกจากหมู่สงฆ์)


หลวงปู่ครูบาวงศ์ ได้จัดงาน ทานใช้-ทานแทน มาทั้งหมด 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2522 - 2543 จัดโดยคณะกรรมการมูลนิธิพระชัยยะวงศาพัฒนา และศิษยานุศิษย์ ศรัทธาชาวเมือง-ชาวกะเหรี่ยงทั้งหลาย ตามมอบหมายงานและหน้าที่ โดยรับคำชี้แนะจากหลวงปู่ครูบาวงศ์


พิธีแต่ละครั้งมีการเตรียมกันล่วงหน้านานมาก บางทีนานถึง 3 ปี ตั้งแต่การเตรียมการหล่อพระชำระหนี้สงฆ์ การจัดปริวาส การหาทุนที่ต้องเริ่มจัดทำ จัดหา จัดจ้าง ทั้งแรงงานพระ แรงงานชาวเขา การทำเทียนเล่มหมื่น-เล่มพัน เกวียนใส่ทาน เกวียนข้าวตอก เกวียนข้าวเปลือก-ข้าวสาร ต้นทาน เรือทานนาวา ทำรูปสัตว์-รูปคน เตรียมตุง-เตรียมจ้อ จัดทำ-จัดหาสิ่งของแทนตัวคน-ตัวสัตว์ที่เคยกิน-เคยฆ่า

*** ในภาพเป็นขบวนแห่ต้นทาน รอบหมู่บ้านในสมัยก่อนๆ

 

ครูบาอริยชาติ ต้องการ นกยุง เป็นตัวนำตุงลอยฟ้า กำลังขึ้นรูปเบื้องต้น


ต้นแบบหาจาก net แต่จะทำได้เหมือนแค่ไหน ไม่รู้ครับ

 

คำอธิบาย พิธีชำระหนี้สงฆ์-ขออโหสิกรรมเจ้ากรรม-นายเวร โดยหลวงปู่ฯ (1)

วันที่ ๑๕ กรกฏาคม ๒๕๓๙
พระบัญชา กตปุญโญ เป็นผู้บันทึกตามคำบอก และหลวงปู่ให้จดถึงตีสี่
(พระบัญชา ต่อมาได้สีกไปมีครอบครัว และเสียชีวิตแล้วเมื่อปลายปี 2552 / เอกสารต้นฉบับลายมือท่านบัญชา พระอ่อนแก้ว ถามัง(ท่านเต๋)เก็บไว้


เนื่องด้วยลูก คือนาวาเอกไชยวัฒน์ (สุพัฒนานนท์) สั่งให้อาจารย์บุญ (คุณพงศ์ศักดิ์ อรรคอุดม) มาถามหลวงพ่อคือพระครูบาชัยยะวงศาพัฒนามากล่าวแก้เหตุที่ถาม (เพื่อให้คนได้รู้ ได้เข้าใจ) เรื่อง “ตานใช้-ตานแทน” ใช้หนี้สงฆ์-ขอขมาสงฆ์นั้น คือว่าพระ-เณร ที่เป็นลูกศิษย์ คฤหัสถ์ทุกๆคน ที่รู้อยู่ก็มี ไม่รู้อยู่ก็มี ที่ประมาทนินทาว่าร้าย ลบคุณ พูดเกิน-เหลือคำสั่งสอนครูบาอาจารย์และพระสงฆ์ ผิดด้วย กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในอดีตชาติ หรือปัจจุบันชาติ

<O</O
ฉะนั้นพวกเราทั้งหลาย ทั้งพระ ทั้งเณร ทั้งคฤหัสถ์หญิงชาย กลัวโทษทั้งหลายเหล่านั้นมาติดแปด ติดตามไม่รู้หยุดไม่รู้พ้น เราทั้งหลายอยากพ้นโทษทั้งหลายเหล่านั้น เพื่อพูดถึงครูบาอาจารย์ทั้งหลายเก่าแก่ในอดีต ผู้รู้บอกไว้ว่าให้กระทำพิธี สุมาคารวะครูบาอาจารย์ และพระสงฆ์ทั้งหลายตั้งแต่ ๒๐ รูปขึ้นไป ให้ท่านพระสงฆ์ทั้งหลายอภัยโทษ และอนุญาตโทษให้แก่เราทั้งหลาย

<O
เครื่องสักการะขอขมาโทษสุมาสงฆ์ นั้นคือ จะมีข้าวตอกเต็มเกวียน เทียนเล่มหมื่น ๑ เล่ม เทียนเล่มพัน ๑ คู่ เทียนเล่มร้อย ๑ คู่ เทียนเล่มบาทสำหรับพระสงฆ์ทั้งหลายรูปละ ๒๐ เล่ม ข้าวตอก-ดอกไม้เต็มพานดอก ส่วนผ้าไตร ถ้ามีก็รูปละ ๑ ไตร เครื่องสังฆทานให้มีเท่ากันทุกชุด เจดีย์ทราย ๑๐๘ กอง ขอสุมาครูบาอาจารย์ และพระสงฆ์และถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ทุกองค์ เพื่อให้พระสงฆ์อดโทษและอภัยโทษแก่เราทั้งหลาย ที่ได้ร่วมไม้ร่วมมือ นี้เป็นข้อที่หนึ่ง (ยังมีต่อ)

รูป
- หลวงปู่ฯ ในขบวนแห่ต้นทาน
- ก่อพระเจดีย์ทราย (ภาพตัวอย่างจากงานอื่น)
- เกวียน บรรทุก เทียนเล่มหมื่น ในพิธี<O