กึ่งพุทธกาล..เปิดธรรมโลกุตระ! ไขความลับจักรวาล ไขขปริศนาแห่งธรรมจักร

ได้ชื่อเรื่องกระทู้มา เปิดกระทู้ไว้ก่อนค่ะ

ยุคนี้หลังกึ่งพุทธกาล เปิดธรรมนำโลกุตระ มีความมั่นมากในยุคนี้ที่มีผู้มีบุญบารมี หลาย ๆ ท่าน ที่มีบุญบารมีได้รับเปิดธรรมนำโลกุตระมาสู่ใจกันได้มากหลากหลาย มีทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยตนเอง จากที่ตนเองได้สัมผัสได้ และจากที่ได้เข้าไปสัมผัสกับบุคคลต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงแน่ใจว่ายุคนี้ คือ ยุคเปิดธรรมโลกุตระ

ไขความลับจักรวาล​

ถอดรหัส

/_\ ๙ /_\

โลกุตระ
๑๐ ​

ไขความลับ

-เหนือฟ้ายังมีฟ้า
-ฟ้ามีตา
-ความลับไม่มีในโลก

ไขปริศนาแห่งธรรมจักร

กึ่งพุทธกาล พบธรรมโลกุตระ ทำสัจจะ ลดละนิสัย

..........

1.เป็นความรู้ต่างมิติจิตจักรวาล

จิตจักรวาล คือ อะไร? หลายคนยังสงสัย? และความรู้นี้เป็นของใคร? หลายคนที่ยังสงสัย? อ.ปริญญา ผู้รับการถ่ายทอดได้ยืนยันค่ะว่าไม่ใช่ความรู้ส่วนตัวของท่าน เป็นความรู้จากองค์เบื้องบนสูงสุด และ ตนเองเห็นว่า ตรงกับที่ได้รับมา และ ยืนยันได้ในลักษณะไตรลักษณ์ จึงน่าจะเป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจค่ะ

อนุญาตนำมาเปิดเผย เพื่อช่วยกันพิสูจน์ค่ะ

2.เป็นความรู้จากการไปวัดปฏิบัติธรรม ได้รับฟังคำสอนธรรมโลกตระมาด้วยค่ะ

 

คนสองมิติ

เราเชื่อกันไหมค่ะว่า มนุษย์เราต่างมีจิตวิญญาณ เป็นพลังงานแก่นแท้อนัตตาเร้นอยู่ข้างใน ผู้เดินทางข้ามมิติมาจากสนามพลังงานสากล นอกระบบเอกภพ เข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์ หรือ เป็นคนสองมิติ มิติที่ได้เห็นกันอยู่ด้วยตา ที่เรียกว่า มิติกายภาพ และ มิติที่มองไม่เห็น คือ มิติพลังงาน(จิตวิญญาณ)

ถ้ายังไม่เชื่อก็ไม่แปลกค่ะ เพราะต้องพิสูจน์กันก่อนว่าจริงหรือ โดยเฉพาะผู้ที่ยังยึดถือว่าตัวตนที่แท้จริงนี้เป็นตัวตนของเรา บางคนก็ไม่เชื่อเรื่องการเกิดการตาย บางคนเชื่อเรื่องการเกิดการตาย บางคนเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และหลาย ๆ คนก็ทราบว่าที่เราทุกคนมีชีวิตอยู่นี้ก็เนื่องจากมีจิตวิญญาณอยู่ข้างใน ถ้าจิตวิญญาณดับไปหรือออกจากร่างไปแล้ว ก็คือ หมายถึงการเสียชีวิต

แต่เราเชื่อกันได้แน่เลยค่ะว่า คำว่า คนสองมิติ เราก็สามารถรู้กันได้ พิสูจน์กันได้ ด้วยใจถึงใจ หรือ ใจสื่อใจ เป็นความคิดถึง เป็นความไม่ชอบ เป็นความรู้สึกนึกคิดที่มีการกระทำออกมาทางกายนั้น ล้วนแล้วส่วนใหญ่ต้องมีใจเป็นผู้นำก่อน และ เราทุกคนสามารถสื่อใจถึงใจกันได้ค่ะ ถึงแม้ร่างกายของเราจะยังไม่ได้กระทำอะไรออกมา แต่ใจเป็นผู้กระทำแล้ว ก็ได้เกิดมโนกรรมขึ้นมาแล้วค่ะ

มิติแรก จึงหมายถึง มิติแห่งการกระทำ
มิติที่สอง จึงหมายถึง มิติแห่งจิตใจ


และเมื่อเราทุกคนต่างเป็นคนสองมิติ เราจึงสามารถสื่อสารกันได้ด้วยใจ สู่ใจ ที่ถึงใจ กันได้ แบบนี้นะคะ

ถ้าเรามีมิติเดียว คือ ความเป็นแต่รูปธรรม โดยไม่มี มิติแห่งจิตใจ เป็นผู้ร่วมกระทำด้วยแล้วไซร้ เราจะไม่สามารถสื่อใจถึงใจกันได้เลยค่ะ และเราก็จะไม่สามารถรู้เลยว่า ความคิดนึก ความรู้สึก อารมณ์ที่หลายหลายที่เราสัมผัสกันได้ โดยไม่ผ่านการกระทำว่า ใจสื่อใจ นั้นเป็นอย่างไร

จิตเป็นใหญ่ ใจเป็นหัวหน้าเป็นประธาน ที่ให้ร่างกายเกิดพฤติกรรมกระทำตามในสิ่งที่ใจต้องการค่ะ ที่มาของคำมา คนสองมิติ

 

สัจจะ ความรัก ความดีงาม ความถูกต้อง และหน้าที่ .....

ลองพิจารณาดูนะคะ ว่า...เกิดมาทำไม? สัจจะที่ทุกจิตวิญญาณมีให้ไว้ ที่จิตวิญาณทุกดวงต้องถือสัจจะ กระทำตามสัจจะ นี้จึงถือว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

1.เป็นเพื่อนร่วมงานกันกับดาวเคราะห์โลก

จะต้องคิดดี พูดดี ทำดี เพื่อสร้างจิตสำนึกบวกที่ดีงามของตนออกมามอบให้แก่คนอื่นให้ได้ เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีงามเพื่อมอบให้แก่โลกของเราต่อไป

2.จะไม่เบียดเบียนกันเองและทุกสรรพสิ่ง

ทุกคนต้องไม่ใช้ความเหนือกว่าทางกายภาพภาพร่างกาย เช่น ตัวใหญ่กว่าผู้อื่น และไม่ใช้ความเฉลียวฉลาดทางปัญญาที่เหนือกว่าผู้อื่นเอาเปรีบเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ด้วยการเฆ่นฆ่าทำร้ายกัน หรือ ก้าวล่วงเบียดเบียนกัน จะต้องดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ทำลายทุกสรรพสิ่งให้เสียสมดุลไปจากเดิม

การตัดโค่นไม้ทำลายป่า

การถมทับทางน้ำลำธาร หรือ การถมทะเล เพื่อสร้างแผ่นดินที่อยู่อาศัย

การล่าและฆ่าสัตว์เพื่อเป็นเกมกีฬา

การฆ่าและล่าสัตว์ซึ่งเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ของมนุษย์เอง เพื่อดื่มกินเลือดเนื้อเป็นอาหารอย่างโหดเหี้ยม

3.การยกระดับจิสำนึกและจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

จะต้องคิดรู้สึกและกระทำสิ่งใด ๆ ด้วยจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของตนเองให้ได้ จะต้องไม่คิดรู้สึกกระทำสิ่งใด ๆก็ตามด้วยจิตมนุษย์

4.จะสืบทอดเผ่าพันธ์ุตนเองไว้

ไม่ดัดแปลงพันธุกรรมด้วยการตัดต่อยีนส์ จนเป็นผลให้ระบบในชีววิทยาเสียหายเกิดการผิดเพี้ยนผ่าเหล่าไปจากความเป็นมนุษย์ หรือ กรณีผลิตสารเคมีใด ๆ ขึ้นมาจนะเกิดเป็นความเสื่อมเผ่าพันธ์มนุษย์ และ การสืบทอดเผ่าพันธ์ของตนเองไว้ การดำรงเผ่าพันธ์ สืบพันธ์ เพื่อเปิดโอกาสให้จิตวิญญาณได้มีโอกาสเข้ามาปฏิสนธิทางวิญญาณ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำหน้าที่

5.จะเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้ผู้ดื่น

มนุษย์ทุกคนจะต้องระมัดระวังการแสดงออกหรือการกระทำพฤติกรรมใด ๆ ของตนเองเอาไว้เสมอ โดยพฤติกรรมนั้นจะต้องไม่นำไปสู่การทำลาย ความสุข และ ความสงบ ของผู้อื่นโดยเด็ดขาด และในขณะเดียวกันพฤติกรรมนั้น ๆ ก็ควรจะนำไปสู่การก่อให้เกิดความสุขและความสงบสุขขึ้นภายในจิตใจของผู้อื่นเสมอ

การไม่แคร์อารมณ์รู้สึกนึกคิดของใคร ๆ

การเอาแต่ใจตัวเองไม่สนใจในความคิดความต้องการของผู้อื่น

การก้าวล่วงเบียดเบียนผู้อื่น

6.จะย้อนคืนกลับสู่แดนสุญญตา หมายถึง การนิพพาน หรือ การเกิดดับได้อย่างสิ้นเชิงนั้นเอง

มนุษย์ต้องรู้ว่า....

การนิพพานของจิตวิญญาณตนเองนั้น เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนที่จะต้องรับผิดชอบ และจะต้องทำให้ไดเ้ไม่มีทางเลือกอื่นใดทั้งสิ้น

เพราะดาวเคราะห์โลกดวงนี้ มิใช่บ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณ

แดนสุญญตาหรือสนามพลังงานสากลที่อยู่นอกระบบเอกภพ คือ จุดกำเนิดของจิตวิญญาณทุกรูปธรรม

การนิพพานของจิตวิญญาณ จึงเป็นหน้าที่และเป็นสัจธรรมที่ไม่ว่าใครก็ตามจะต้องยอมรับที่่จะปฏิบัติมันเช่นนั้นเสมอ

มนุษย์จึงลืมนิพพานไม่ได้ และมนุษย์จะดำเนินชีวิตไปในแต่ละวันโดยปราศจากการมีปณิธานแห่งนิพพานก็ไม่ได้อีกเช่นกัน

นี้คือ สัจจะของจิตวิญญาณทุกรูปนามค่ะ

 

ขอแก้ไข ข้อความ...ตรงที่แว่....ว่า
การนิพพานของจิตวิญญาณ จึงเป็นหน้าที่และสัจธรรม....(ขอแก้ใหม่)..แว่...

ว่า..การชำระอวิชชาของทุกสรรพจิต..จึงเป็นหน้าที่ และ งานหลัก...ของตนเอง

 

ขอแก้อีกข้อ แว่...ว่า..การมีปณิธานเพื่อนิพพาน...ก็ไม่ถูก...ต้องมีปณิธานเพื่อชำระอวิชชาในตน...ถึงจะถูก.....เพราะ..ถ้า

ถึงนิพพาน...แล้วตายเลย..มันก็คงไม่ต้องมีอะไรอีก
แต่ถ้า ถึงนิพพาน..แต่ยังไม่ตาย....มันจำเป็นต้องรู้..ในสิ่งที่สมควรรู้ ต้องทำ ในสิ่งที่สมควรทำ

...
ดังนั้น..เมื่อชำระอวิชชาในตนเองได้..ก็จำเป็นต้องรู้ ว่า..เมื่อตนเองไม่มีอวิชชาแล้ว...มันเป็น..เช่นไร

 

เชื่อเถอะแว่....ว่า...คนทุกคนในโลกมนุษย์..ล้วนอ่านมาเยอะแล้วว่า..นิพพานคืออะไร ยังไง

.....
แต่ ที่ทุกคนล้วนอยากรู้ ก็คือ...ถ้าถึงนิพพานแล้ว...ตนเองจะเป็นอะไร ยังไง แบบไหน

มันคือ...เป้าหมาย ใหม่ ....แห่งยุคนี้..

 

ประมาณว่า...เฮ้อ..นรกสวรรค์ เทพ เทวดา ผี เมืองลับแล พรหม..ก็ได้เคยสัมผัสมาแล้ว

แต่..นิพพานล่ะ...มีแต่คน อยากลองชิม..อยากลองลิ้มรส..ว่า แท้จริงแล้ว..นิพพานมันมีรสชาด...ยังไง

นี่คือ..เป้าหมาย.อันสูงสุด ของคนในยุคนี้..

 

ใครกัน..ที่ สามารถ พิสูจน์..นิพพาน ให้คนทั้งหลายได้

ดังนั้น เงื่อนไขเดียว ข้อเดียว...เพื่อการ พิสูจน์นิพพาน...ได้จริง

ก็คือ...ทุกคนต้องชำระอวิชชา ในตนให้ได้ก่อน..เท่านั้นเอง..ง่ายๆเลย

 

จักรวาล....ไม่มีความลับ
โลก..........ไม่มีความลับ
ใจคน........ไม่มีความลับ
...
ความลับ มีเพราะ...อวิชชา...อวิชชาคือตัวทำไห้มีความลับ

ชำระอวิชชาในตนได้.....ก็หมดความลับ
...
ไม่มีพระเจ้าที่เป็นความลับ
ไม่มีพระพุทธเจ้าที่เป็นความลับ

ความลับมี..ที่เดียว...เพราะอวิชชา

 

ความหลุดพ้น ความอิสระ พุทธะ....คือ หมด..ความลับ

 

ความรู้..ต่าง มิติ..ไม่มีจริง..มันเป็นแค่ อุปทาน วงกลม ที่ขยายวงออกไปจาก จุด

จิตจักรวาล ก็ไม่มีจริง มันเป็นแค่ จินตนาการ แห่งความฝัน..ของอวิชชา

อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น หรือสัมผัสได้...ด้วยอายตนะทั้ง6...เพราะตราบใดที่ยังมีอวิชชาในตน..มันก็เป็นได้.ทุกๆอย่างที่ตนเองอยากให้เป็น...

 

อะไรคือธรรมจักร........ในจักรวาลนี้..อาศัยสิ่งที่หล่อเลี้ยง..โลก...หล่อเลี้ยงวัฏะสงสารนี้ให้ยังมี ยังอยู่ ยังรู้....มีอยู่เหตุเดียว..คือ....แสงจากดวงอาทิตย์

ถ้าปราาศจากแสงของดวงอาทิตย์....ก็ไม่เห็นอะไร ไม่มีอะไรเกิด ...ตายเรียบราบพณาสูร

 

ทำไมแสงสว่าง....จึง..สำคัญ...นัก

 

แสงสว่างคือ...ตัวสร้าง...ทุกสรรพสิ่ง หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง เกื้อกูลสรรพสิ่ง ให้แก่สรรพสิ่ง

แสงสว่างเป็นทุกๆอย่าง ของสรรพสิ่ง....แม้ความมืดที่เคยมีมาก่อน..ก็จะไร้ความหมาย ถ้าแสงสว่างไม่เกิด.....

 

จักรวาลไหนๆ..ถ้าไร้แสงสว่าง...มันก็เป็น...จักรวาล ...มิได้
ที่ไหนๆ...ที่ไร้แสงสว่าง...ที่แห่งนั้น..ก็ไม่มีใครรู้เห็นได้..มันไม่มีอยู่..นั่นเอง

 

ถ้าจักรวาล ที่เราอยู่...ไร้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์...เราก็จะมองไม่เห็น ดวงจันทร์...มองไม่เห็นสิ่งรอบนอก...มองไม่เห็น...แม้..ตนเอง

 

จิตที่นิพพานไปรอที่แดนสูญตาแล้ว สำหรับคนเบื่อชีวิต
คิดมากจะซึมเศร้าได้นะ กระแสจิตส่งไปไม่ถึงบางคนรึไง
อยากจะเลิกบ้าบอ ไปเปิดร้านเกมแล้ว คนดีปรี้ดแตกนี่หลุดโลกเลยนะ

 

ยุคนี้..ดูว่า..ใครจะเพี้ยนมาก...เพี้ยนน้อย....
สูญตา...แปลว่า...อะไร?....แล้ว สูญตา จะมีแดน...ได้ยังไง

จิต..ที่....รับรู้ได้ทุกอย่าง เท่าเทียมกัน...ก็มาดูว่า..จิตใคร จะมีปัญญารับมือ..กับสิ่งที่ ..ต้องรู้ทั้งหมดนี้

ผลคือ...ใครจะเพี้ยนได้มาก เพี้ยนได้น้อยกว่ากัน...ให้.ทำการ รู้ตัว พอดีตัว เข้าใจตัว...อย่านำพาตนเองให้ เกิด...ภัย...

 

อันไหน รับรู้ มาแล้ว...ส่งผลที่ไม่ดีกับตนเอง...ก็ให้ ละวาง ทิ้ง ข้าม ไป....

 

ขอบคุณสำหรับคำถาม...ความรู้จากจิตจักวาลค่ะ

แสงอาทิตย์ ก็คือ พลังงานจักรวาล หากโลกนี้จะแตกดับได้มีอยู่สาเหตุเดียวคือ พลังงานจากดวงอาทิตย์หมดพลังอำนาจในตนเอง ไม่สามารถให้แสงสว่างแก่สิ่งใดอีก โลกนี้จึงถึงการแตกดับไปค่ะ


แสงสว่างของดวงอาทิตย์ที่ส่งตรงมาสู่จักรวาล และโลก มีความสำคัญต่อจิตวิญญาณมาก

ดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนเครื่องกำเนิดพลังงานอันมากมายมหาศาล จะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ ส่งพลังงานออกมาเป็นลักษณะวงกลมที่สมบูรณ์ มีความสัมพันธ์กับประการไฟที่เกิดจากการทำงานในส่วนที่เล็กที่สุด ซึ่งอยู่ภายในร่างกายของเซลล์อวัยวะของมนุษย์ ซึ่งเป็นพลังงานนำติดตัวมาด้วยโดยจิตวิญญาณจากจักรวาล เพื่อดำรงอยู่บนโลกนี้

แสงสว่างเป็นพลังอำนาจที่มีความละเอียดอ่อนสร้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาล จากส่วนที่กว้างใหญ่ไพศาลที่ห่างไกลออกไป จนถึงเซลล์ในร่างกายมนุษย์ที่ต้องนำพลังงานชีวิตมาใช้พัฒนาทางชีวภาพ เพื่อการเจริญเติบโต ฟื้นฟูเมื่อเกิดเสื่อมสภาพของระบบชีวิต

มนุษย์ในโลกทุกคนบนสนามแม่เหล็กโลก จะมีสายใยของชีวิต ซึ่งได้เชื่อมโยงกับสนามพลังงานของจักรวาล ที่สามารถติดต่อสื่อสารโดยตรงได้กับเกลียวแม่เหล็กภายในร่างกายของมนุษย์ เพื่อการเจริญเติบโต เจ็บป่วย ต้องชรา และตายไป เพราะข้อมูลด้านผลกรรมในอดีตชาติของมนุษย์คนนั้น ๆ ที่เก็บไว้ในสนามพลังงานจักราวาล จะถูกส่งลงมายังสายใยเกลียวแม่เหล็กในร่างกายของมนุษย์ เพื่อมันได้รับแล้วจะแปลรหัสถ่ายทอดข้อมูลสู่ DNA ต่อไป

พลังงานแห่งชีวิตใด ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลังกาย พลังจิต หรือ พลังจิตวิญญาณก็ตาม มันจะส่งพลังงานนั้นๆ ออกมาจากร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยไหลออกมาสะสมในอากาศภายนอกร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล โดยที่พลังงานดังกล่าวจะแทรกซึมไปทั่ว เมื่อชีวิตสิ้นสุดลงจิตวิญญาณซึ่งมีกรรมในรูปของพลังงานต่าง ๆ ที่ตนเองได้กระทำไว้นั้น ก็จะออกจาร่าง แล้วรับเอาพลังงานต่าง ๆ ที่ได้แทรกซึมสะสมไว้ในจักรวาลไปเป็นของตัวเองโดยที่มันจะไม่มีวันสูญหายหรือแปรเปลี่ยน

มนุษย์ต้องตายเพราะสาเหตุใด

ข้อมูลที่ถูกส่งมาจากสนามพลังงานจักรวาล ผ่านเส้นใยเกลียวแม่เหล็กนี้ สำคัญที่สุด คือ รหัสบุรพกรรมเก่า ซึ่งหมายถึง การตายเพื่อกลับชาติมาเกิดใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตามผลกรรมที่ทำไว้ โดยเป็นหรัสของกรรมเก่าที่ถูกส่งเข้ามาในกระบวนการสร้างใหม่ของเซลล์ ซึ่งการเจ็บป่วยและการตาย จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อสัญญาณส่งมาถึง โดยมันจะประสานกับภาวะการขาดแคลนพลังงานแห่งจักรวาล ทำให้เซลล์เกิดภาวะการขาดแคลนความสมดุลทางชีวภาพ จนทำให้ ดีเอ็นเอ หลั่งสารชนิดหนึ่งออกมา เรียกว่า "ฮอร์โมนแห่งความตาย" เพื่อหยุดยั้งกระบวนการฟื้นฟูตนเองของเซลล์ตามกาลเวลาที่เหมาะสม

ทำไมแสงสว่างจึงสำคัญนัก...

แม้โครงสร้างที่แท้จริงของจักรวาล มนุษย์อาจไม่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เข้าใจได้ว่า มันคือที่ว่างโล่งอันไร้ขอบเขต ที่เก็บรวบรวมรูปธรรมต่าง ๆ เอาไว้มากมายที่มองเห็นและมองไม่เห็น หลังฉากดำอันมืดมิด จักรวาลไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจการควบคุมใด ๆ ทั้งสิ้น จักรวาลถูกจัดวางออกมาจากภายใน เป็นรูปครึ่งวงกลม จักรวาลจะแสดงปรากฏการณ์ต่อเนื่องในลักษณะของการคลี่ขยายพลังงานออกมาจากจุดศูนย์กลางสู่ภายนอก และม้วนภายนอกกลับเข้าสู่ภายในโดยมีจุดศูนย์กลางเป็นจุดรวมของ พลังงานความรักที่เป็นแสงสว่างและมีความร้อนสูง

จิตวิญญาณของเราเกี่ยวข้องกับแสงสว่างก็เพราะด้วยเหตุนี้ค่ะ