เรื่องเด่น การปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังของหลวงปู่แหวน

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 15 ตุลาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้เล่าถึงการปลุกเสกพระ ที่ลูกศิษย์ลูกหาต่างถอดสร้อย และรวมพระเครื่องต่างๆ รอให้ ลป. ปลุกเสกให้ดังนี้ :-

    "พอใครขนเอาเครื่องรางไปวางเสร็จ หลวงปู่แหวนก็ัตั้งท่าสงบใจสงเคราะห์ อาตมาก็จับดูจิตของหลวงปุ่แหวน ดูอารมณ์จิตของท่านว่า จะทำยังไง ครั้นแล้ว ก็เห็นอารมณ์จิตของหลวงปู่แหวนผ่องใสเป็นดาวประกายพฤษ์เต็มดวง ลอยอยู่ในอกท่าน เวลานั้นกำลังจิตของหลวงปุ่แหวน ก็คิดว่า ขออารธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ให้มาโปรดช่วยทำของเหล่านี้ ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญมงคล ของบรรดาท่า่นพุทธบริษัท ให้เข้าถึงพระธรรม
    โดยความจริง หลวงปุ่แหวน ไม่คิดว่าเสกให้เอาไปตีกับชาวบ้าน เอาไปปล้นชาวบ้าน ท่านเสกให้คนเข้าถึงธรรม

    ท่านนึกในใจต่อไป หลวงปู่แหวนก็อาราธนาบารมีของพระอรหันต์ทั้งหมด บารมีของพรหม ของเทวดาทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ พอถึงพะอรหันต์ อาตมาก็เห็นหลวงปู่ตื้อ ปรี๊ดมาถึงข้างหลัง เอากำปั้นลงหลังอาตมาปั๊ปเข้าให้

    แล้วถามว่า เฮ้ย ... มึงมานั่งอยู่ทำไมวะ

    อาตมาก็เลยบอกไปว่านี่ ... พระผี ไม่ต้องพูด

    (ลป.ตื้อ) หลวงปู่แหวน เชิญพระผีนะ ไม่ได้เชิญพระมีเนื้อหนังมังสา มีหน้าที่อะไรก็ำทำไป
    แล้วก็ได้เห็นกระแสจิตหลวงปู่แหวน เป็นประกายพฤกษ์ พุ่งออมาจากอกสว่างเจิดจ้า ใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด แสงสว่างประกายพฤกษ์ของจิตพระอรหันต์เจ้า แทรกลงไปในเครื่องรางของขลัง อยู่ผิวด้านหน้ายันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมดอาบลงไปหมด เลย โพลงสว่างสุกปลั่งไปหมด คล้ายตกอยู่ในเบ้าหลอม เป็นกระแสสว่างของจิตที่เยือกเย็น เต็มไปด้วยอำนาจพุทธบารมี เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็นสบายอย่างประหลาด บอกไม่ถูก

    นี่เป็นการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังของหลวงปุ่แหวน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง ๓ นาที แต่ทว่า อานุภาพยิ่งใหญ่ ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ เลิศล้ำน่ามหัศจรรย์





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2009
  2. นายสาธิต

    นายสาธิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,066
    อนุโมทนาสาธุครับ มิน่าพระ วัตถุมงคลที่ท่านทำไว้เป็นมรดกให้ถึงมีราคาค่างวดขึ้นมา
     
  3. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ ระลึกถึงหลวงปู่อยู่เสมอค่ะ สาธุ
     
  4. suchat1121

    suchat1121 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +128
    อนุโมทนาสาธุครับ หลวงปู่เคยช่วยเตือนภัยอันตรายให้ผมที่ชายแดนตาพระยา

    วาทธรรมของ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    หลวงปู่ฯ กล่าวถึงเครื่องรางของขลัง และการปลุกเสก ว่า " เอาของจริงคือธรรมะให้ไม่ชอบ ไปชอบเอาวัตถุภายนอกกันเสียหมด" ในสมัยหลวงปู่มั่นฯ ยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีใครกล้าแสดงออกอย่างนี้ ขืนทำไป หลวงปู่มั่นจะว่า " เป็นคนที่ไม่มีสรณะ"
    " เมื่อคนเราไม่สามารถจะเอาคุณพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่งของตนเองได้ เพราะอินทรีย์ยังอ่อน อบรมมายังไม่เข้าถึงเหตุผล จะถือเอาวัตถุภายนอก เช่น พระเหรียญก็ดีเหมือนกัน ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายของวัตถุนั้น"
    " จะนำเอาวัตถุมงคลไปป้องกันตัว ถ้ากรรมมาตัดรอนแล้ว ป้องกันไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งไหน จะไปต้านทานอำนาจของกรรมเป็นไม่มี แต่ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายในวัตถุนั้นๆ ว่า เขาสร้างขึ้นมา ใช้เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ทำแต่ความดี การมีวัตถุมงคลก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติมิให้ประมาท ต้องทำแต่ความดี เพราะโลกบูชานับถือแต่คนดี เรามีของดีอยู่กับตัว ก็ต้องทำความดี อย่างนี้แล้วก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ประโยชน์จากวัตถุมงคลนั้นๆ "
    " การแผ่เมตตาวัตถุมงคลนั้น ไม่เคยปลุกเสกอะไรเลย เคยแต่สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ซึ่งก็คือสวดนมัสการสมโภชพระ แล้วตั้งสัจอฐิษฐานให้เกิดศิริมงคลแก่ผู้ที่นับถือกราบไหว้ ไม่มีคาถาสำหรับเสกให้ขลังอย่างนั้นอย่างนี้แต่อย่างใด"
     
  5. suchat1121

    suchat1121 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +128
    หากมีผู้ไปขอของดีจากหลวงปู่ฯ ท่านจะถามว่า...
    " ของดีอะไร อะไรคือของดี ของดีก็มีอยู่ด้วยกันทุกคนแล้ว การที่ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้พยาธินั้น ก็มีของดีแล้วฯ ทำเหตุไม่ดีก็เป็นทุกข์ ไปนรกอเวจีทอนั้นละก้า เข้าใจแล้วยัง นี่แหละของดี จะมาขอของดีกับผู้เฒ่า ก็บ่มีให้แล้ว ตาผู้เฒ่าก็บ่ดี หูผู้เฒ่าก็บ่ดี ฮักษาเอาหนาของดี ฮักษาเอากาย วาจา ใจ ของตนนี่หนา ฮักษาที่อื่นบ่ได้หละ เข้าใจยัง"
    " ในพระพุทธศาสนา พระอุปัชฌาย์ไม่ว่าใคร เวลาให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตร ต้องสอนกรรมฐาน 5 คือ เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ ขึ้นสอนว่า สิ่งที่มีอยู่ในตนนี่แหละ เป็นมูลกรรมฐาน เป็นตัวกรรมฐาน คนเราเกิดความรักความชังก็เพราะกาย จึงต้องพิจารณากายนี้ให้เข้าใจ คนเรานั้นมารักมาหลงมาติดมาเห็นว่าสวยว่างามจนเกิดฉันทราคะ เพราะเห็นอยู่ที่ผิวหนังเท่านั้น ถ้าลอกผิวหนังออกพิจารณาใคร่ครวญดูสิ่งที่เรารัก เราหลง สิ่งที่เราเห็นกันว่าสวยงามนั้นอยู่ตรงไหน ลอกส่วนที่มันปกปิดความจริง ซึ่งมีเพียงนิดเดียว แต่ปัญญาของเรามองทะลุผ่านเข้าไปไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่เหลือ(นอกจากหนัง) เป็นอย่างไร น่ารักไม๊ น่าหลงไม๊ สวยงามไม๊ ให้เปล่าๆ เอาไม๊"
     
  6. เวสสุวรรณ์

    เวสสุวรรณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +18
    อนุโมทนาคับอ่านแล้วเหมื่อนอยู่ในเหตุการณ์จริงเลยครับ
     
  7. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    [​IMG]
    [​IMG]

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...