วันนี้ไปถวายกฐินแสนกองของทางเวปมา 9 วัดอารามหลวงในกรุงเทพ เหนื่อยกายแต่อิ่มใจสุด ๆ อีกแล้ว ไม่มีอุปสรรคเลยนอกจากรถติดและ ไม่ได้เตรียมแผนการเดินทางไว้ ทำให้ต้องวนรถเล่นเปลืองน้ำมันซะงั้น...อิอิ
สัทธรรมประเสริฐพร้อม......... ความจริง มิอาจบิดเบือนสิ่ง......... แอบอ้าง มนุษย์เราท่านเอยอย่าช้า........กาลร่วง เร็วนา ประพฤติแต่ดีบ่มสร้าง......... สติไซร้ดำรงค์ธรรม... มีธรรมเป็นเขตกลั้น.................. แดนสถิตย์ ทุกขณะจิตพินิจ....................เพียรนี้ คิดดีชั่วกอปจิต....................... อคติดับวูบได้ฤา เว้นจาก"ธรรม" ควรลี้............... หลีกเร้นเสวนา......... สุขเกิดกล่าวเล่า...................ด้วยวาจา.. มีร่มพุทธาเหนือหัว.................ปกเกล้า พระสัทธรรมพุทธองค์.............ขจัดมืดอวิชชานอ ถอนรากกิเลสร้าย..................ดับสิ้นกลกาม
ปัญหาที่เกิดความสับสน วุ่นวาย และ แตกสามัคคีของคนในสังคม ไม่ว่าสังคมกลุ่มย่อย หรือกลุ่มใหญ่ก็ตาม สาเหตุหนึ่ง เกิดจากการ "ขาดความยุติธรรม" หรือ "ความลำเอียง" ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า "อคติ ๔" แปลว่า "ทางไม่ควรดำเนิน" ผู้เขียนจึงคิดร่ายเป็นคำกลอนมาฝากให้อ่านกัน เหมือนเคย..ครับผม ....................................................................................................................... อคติ ๔ : ทางไม่ควรดำเนิน ๔ ประการ ............................................................ รักชอบกัน มุมไหน มองใสสวย ไม่สำรวย อย่างไร เมินไม่เห็น "ฉันทาคติ" รักใคร่ ทำให้เป็น เริ่มประเด็น ลำเอียง ไร้เที่ยงธรรม หากชังกัน ทุกอย่าง อ้างบกพร่อง แม้นถูกต้อง กลับเห็นผิด คิดทางต่ำ "โทสาคติ" รุมเร้า เข้าครอบงำ จึงโน้มนำ มองไป ไม่ดีงาม บางครั้งอาจ เพราะจิต คิดโง่เขลา ไม่รู้เท่า รู้ทัน น่าหยันหยาม "โมหาคติ" คลุมครอบ ประกอบความ ลำเอียงตาม ที่คิด ผิดเพี้ยนไป แลบางครั้ง กลัวภัย จะมาถึง ดังนั้นจึง แสร้งนำ ทำเฉไฉ "ภยาคติ" อิทธิพล คอยดลใจ เกิดผลให้ ยุติธรรม ถูกทำลาย "อคติ" นั่นหรือ คือลำเอียง ทำความเที่ยง- ธรรมทรุด หลุดเลือนหาย สังคมเกิด ปัญหา พาวุ่นวาย ความเลวร้าย จักสิ้นสุด ด้วย"ยุติธรรม"๚ .........................................................