DR-NOTH

ขันธ์ห้าที่ทุกคนมี ล้วนแสดงไตรลักษณ์ให้ปัญญาได้เห็นอยู่ประจำทุกวัน ซึ่งเมื่อใจไม่ละเลยในการพินิจพิเคราะห์ ย่อมแจ้งจริงในไตรลักษณ์..และ.สุขแท้ อันไร้รูปนาม อันประเสริฐสูงสุดแท้จริง ย่อมปรากฏ... //

หมั่นฝึกใจภาวนาให้มีสติอยู่เสมอ เมื่อใจมีสติ จิตจะเปลี่ยนจากผู้คิด เป็นเพียงผู้รู้ กล่าวคือไม่เข้าไปปรุงแต่งร่วมกับอารมณ์นึกคิดทั้งหลาย เป็นเพียงการเฝ้าดู เฝ้ารู้นามธรรมทั้งหลายที่ฝุดขึ้นในใจ จนกระจ่างแจ้งแทงตลอดเห็นไตรลักษ์ของความคิด เมื่อปัญญาแก่กล้าในเวลาอันควร ย่อมวาง"นามจิต"อันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายนี้ ลงได้ในที่สุด

มีสติรู้แจ้งตามไตรลักษณ์ ในขันธ์5 เพื่อถอนการยึดติดในสภาวะต่างๆในรูปนาม

มีสติรู้ปัจจุบัน ณ ธรรมที่กำลังปรากฏ เรียนรู้ขันธ์ 5 ให้กระจ่าง...แจ้งในไตรลักษณ์ แล้วปัญญาเห็นแจ้งในมรรคจะปรากฏตามลำดับ..

เข้าใจในธรรมชาติของเบญขันธ์ได้ลึกซึ้งเพียงใด ความปล่อยวางก็เกิดได้มากเพียงนั้น

//...สติรู้เห็นสภาวะปัจจุบันที่กำลังปรากฏ
ปัญญารู้แจ้งแทงตลอดถึงความไม่เที่ยงผันแปรไปเรื่อย
ไร้ตัวตนอันแท้จริงอันเป็นสาระแก่นสาร
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สลายไปตามเหตุปัจจัยแวดล้อม.
พิจาณาเนืองๆบ่อยๆ...จนใจนี้ฉลาด...ถอดถอนความยึดมั่นอุปาทานในขันธ์
และปล่อยวางรูปนามทั้งหลายได้ในที่สุด....^___^

ใจที่ปล่อยวางตัวตนแห่งความสำคัญมั่นหมาย ว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นเรา-เป็นเขา เป็นของเรา-เป็นของเขา- เป็นบุคคล-เป็นตัวตนได้ ย่อมเบาสบายไร้กังวล...

โลกแห่งการปรุงแต่งแห่งรูปนามนี้ สิ่งทั้งหลายล้วนอยู่ภายใต้กฏแห่งไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ..

https://www.facebook.com/DR.INTORN

Facebook อะไรหรอคะท่าน

สัจธรรมความจริงทั้งหลายนั้น
คอยสอนเราเป็นประจำทุกวัน
เพียงเราสนใจคิดวิเคราะห์แยกแยะ
ให้เห็นสภาวะธรรมทั้งหลายที่ปรากฏ
จากภายนอกกายเข้าลึกซึ้งไปถึงอนูที่เล็กละเอียดที่สุดในใจ..
ก็จะพบกับธรรมชาติทั้งหลายหมุนเวียนเกิดดับอันตั้งอยู่บนไตรลักษณ์..

ช่วยหนูทีคะ ทำใจอย่างไรดีคะ หนูทำใจกลับการจากไปของคนในครอบครัวไม่ได้ หนูพยายามไใ่คิด แต่มันทำให้ใจหนูไปต่อไม่ไแ้มันเจ็บปวด หนูทำยังไงดี

วาทะธรรม/ ความรู้ นอกขันธ์ นั้นเพียงเพื่อยังความเป็นอยู่ของขันธ์ห้านี้ให้ราบรื่นเท่านั้น แต่ความรู้แจ่มแจ้งในขันธ์สามารถดับขันธ์ไม่ระคนทุกข์โดยถาวร...

^__^ ปัญญาอันประเสริฐ คือ ความรู้ ความสามารถทางจิตใจภายในเพื่อคลายซึ่งเครื่องผูกพันธการ(ความปรุงแต่งแห่งนาม)อันนำไปสู่อิสระทางใจอย่างแท้ จริง

วาทะธรรม // จิตเมื่อดำรงอยู่ในขันธ์5นี้ ล้วนมีสภาวะต่างๆทั้ง ด้านบวก+ ด้านลบ - และความเป็นกลาง <<หากผู้ใดเข้าถึงความเป็นกลางได้จนจิตนี้มีความเสถียรภาพไม่ฟุ้งไปด้านใดด้านหนึ่งแล้ว ก็ถือว่าประเสริฐยิ่งครับ >> ^__^

^^ แต่ละวันผ่านไป บัดนี้เราเข้าถึงสุขแท้เพียงใด ^^ วาทะธรรม

มนุษย์ต่างพยายามหาทางพ้นทุกข์ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย แต่แท้จริงแล้ว กุญแจไขสู่สุขแท้นั้น อยู่ที่การฝึกใจ พลิกใจ หรือที่เรียกว่า บริหารจิตใจ นี่เอง..หากท่านใด บริหารจิตใจเป็น ก็จะพบสุขแต่ละขั้นตามลำดับ จนถึงที่สุดแห่งสุขนั้นอย่างแท้จริง ..

ความรู้ต่างๆมากมายทั้งทางโลกและทางธรรม หากไม่เป็นประโยชน์เพื่อความดับทุกข์จากกิเลสตัณหาต่างๆแล้ว ย่อมถือเป็นความรู้เพียงเพื่อประดับปัญญาให้งดงามเท่านั้น ..

ทุกคนเกิดมาเพราะบุญกรรมในอดีต มีบุญมีกรรมเป็นของเฉพาะตน การจะเข้าไปเกี่ยวกรรมหรือบุญด้วยนั้นจึงควรใช้สติ พิจารณาให้รอบคอบก่อนเสมอ **เพราะไม่ฉะนั้นแล้วอาจจะต้องไปร่วมรับเคราะห์กรรมจากการเกี่ยวพันในกรรมปัจจุบันก็เป็นได้** วาทะธรรม

สภาวะแห่งความบริสุทธิ์ ผ่องใส เบิกบาน บรมสุขทั้งหลาย ย่อมเป็นเสมือนอารมณ์ปกติของท่านผู้ได้อริยมรรคแล้ว