กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ส่วนตัวคิดว่าสายฮานะครับ...
สังเกตุจากเสียงหัวเราะที่หลายๆคน
ได้เคยคุยโทรศัพท์ด้วยครับ..๕๕๕

 

อนาคต ไม่ไช่หลวงพ่อ ก็ สังฆราช แน่ๆ เรย อิอิ

 

คุณพี่ nopphakan ครับผมติดตามอ่านคำตอบพี่ทุกกระทู้เลยพี่ที่เคยตอบ เมื่อคืนเพิ่งมาได้มาเจอกระทู้นี้อ่านประมาณสามสี่หน้าได้ครับ ทนไม่ไหวครับขอกดข้ามมาก่อนเพราะอยากให้พี่ช่วยชี้แนะเรื่องสมาธิ, กสินน้ำ ส่วนตัวเคยหาข้อมูลมาพอสมควรครับชอบกสินน้ำด้วยทราบว่าตัวเองเป็นแบบโทสะจริตเคยสนใจมานานแล้วครับ แต่เอาจริงปฏิบัติเองเหมือนมันเหมือนผิดๆถูกๆ เอาจริงเอาจังไม่ได้สักที เคยไปมั่วเองตอนฝึกกสินไฟตาเกือบเสียครับ ไปจัีบเอาจุดบอดดำๆ ดีที่เลิกฝึกไปก่อนเพราะฝึกแล้วร้อน ถ้าฝึกต่อไปตาคงเสียไปแล้ว ก่อนหน้านี่เพิ่งเริ่มนั่งสมาธิก่อนนอนทุกๆวันเพิ่งเริ่มทำได้ไม่นานครับ (กำหนดลมหายใจ) แต่ผมนั่งได้ไม่นานครับผมปวดหลังเวลานั้งก้อต้องพิงผนังเอาไม่งั้นจะนั้งได้ไม่นาน นั่งแป๊ปๆสัปหงก เมื่อคืนได้อ่านคำแนะนำในกระทู้ที่แล้วยิ่งแบบ (*&^%%^$%$#% ยากเกินหยั่งถึงมากๆสำหรับผม ข้อมูลตีกันมั่วไปหมด แต่ลองเอา "จักกะ" "ตาสาม" "ลิ้นปี่" ไปทำๆแล้วรู้สึกสงบดีครับ แปลกๆดี ทำไมผมเพิ่มาเจอตอนนี้น๊า ผมอยากให้พี่ช่วยชี้แนะผมหน่อยได้ไหมครับเรื่องสมาธิของผม ถ้าพอจะกรุณา ขอบคุณล่วงหน้าครับ จะพยายามติดตามละก็ศึกษาแล้วลองเอาไปทำดูตามกระทู้ที่พี่แนะนำนะครับ ^_/|\_^

 

อืมมมมม คุณน้อง tongrolass
ไม่แปลกหรอกครับ จิตอย่างนี้ถ้าไม่รุ้สึก
สงบนั่นหละถึงแปลก ก็มันมีสัญญามาอย่างนี้..
ที่รู้สึกสงบดีก็ตัวจิตมันมีคลื่นออกแนวอย่างนั้น..
ตรงตาสามมันก็ขยายอยู่แล้วนะ ตรงท้องก็มีคลื่นขยายๆอยู่ด้วย
หมายถึงมีสัมผัสภายในรองรับ ตรงลิ้นปี่ก็รับรู้ได้ แถมยังมีภูมิป้องกันภายนอก
เป็นทุนเดิมอีก เกี่ยวกับคลื่นพลังงานที่ใช้ให้เกิดประโยชน์
ทางโลกได้ฝั่งด้านหลังก็มีอีก เพียงแต่ว่าแต่ละส่วน
มันเหมือนๆว่าแยกใครแยกมันไม่รวมขึ้นเชื่อมเป็นเส้นทางเดียวกัน
นี่ด้านหน้านะ..
ส่วนด้านหลังมาติดๆตรงแผ่นหลังด้านบน แม้กลางหลังจะพอรู้สึกได้
นี่ถ้ากระแสแบบน้องนะ ถ้าคลื่นตรงท้องกับตรงกลางหลังมันเชื่อม
กันได้นะ คุณน้องจะมีความสามารถรักษาคนได้สเบยๆเลยนะเนี่ย..
แต่ตอนนี้คลื่นพลังงานด้านหลังมันไปค้างๆตรงใต้กระโหลกส่วนกลางอยู่
ซึ่งมันไม่ได้ส่งผลให้เราปวดศรีษะอะไรด้วยนะตรงนี้..
อืมม แต่ที่แปลกคือ ตาสามเนี่ยขยายทั้งๆที่ไม่ได้เชื่อมข้างบนด้วย..
ก็แสดงว่า พอมีทุนในการมองเห็นนามธรรมมาก่อนหน้านี้แล้วพอตัว
..แต่ปัญหาที่ทำให้คลื่นๆพลังงานมันแยกๆ ขาดๆกัน ก็คือ
เรื่องความคิดในส่วนความจำได้
ลักษณะคลื่นสมองมันเหมือนคนที่ความจำดี
มันมากไปหน่อย ๕๕๕ คล้ายๆ พวกที่เรียนภาษา
เรียนทนาย อะไรประมาณนี้หละ...
วิธีแก้ก็ปรับระบบหายใจเลยอย่างที่ได้แนะนำคนอื่นๆไปก่อนหน้า คือ
หายใจเข้าให้ลึกถึงท้องแต่ทำความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมสัมผัสที่ปลายจมูก..
เหมือนๆที่แนะนำคนอื่นๆไปในหน้า ๒๘ และ ๒๙ นะเพี่อตัดคลื่นความจำดี
จากสมองตรงนี้ออกไปก่อน...แต่ของคุณน้อง
ต้องตั้งต้นตอบคำถามในใจตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ.
.ว่าจะฝึกไปเพื่ออะไรครับมีเป้าหมายเพื่ออะไรครับ.
.ไม่งั้นฝ่ายภพภูมิหรือภาคทิยพ์คุณน้อง จะไม่เปิด
ให้ทำได้นะครับ.ด้วยตอนนี้มีฝ่ายนี้คอยตามดูแลอยู่
.ยังคิดเรื่องปลายทางตอนนี้ไม่ออกไม่เป็นไร ค่อยเป็นค่อยไป
ปรับระบบพื้นฐานการหายใจก่อน เพื่อตัดความจำที่มันดีเกินไปจากสมอง
ตอนนี้ออกให้ได้ก่อน..ค่อยมาว่ากันอีกทีเนาะ.อย่างน้อย ๒ สัปดาห์นะ
ถึง ๒ เดือนก็ไม่แปลกเรื่องปกติ..
ปล.เด่วจะสัมผัสที่พูดให้ฟังมาทั้งหมดนี้ได้เองในอนาคต
ตอนนี้ก็ฟังๆเอาไว้ก่อนเนาะ

 

อุ้ย!!!...ทำไมคุณพี่รู้ได้ยังไงละครับทุกอย่างที่คุณพี่มามันใช่หมดเลยครับ เราจะฝึกไปเพื่ออะไร ผมก็ไม่มีเป้าหมายนะครับจะฝึกทำไมน๊า? แต่ใจมันสนใจ มันอยากจะทำ ได้ฟังพี่พูดแนะนำแต่ละกระทู้มันทำให้ใจอยากฝึก อยากลอง ผมจะพยายามต่อไปครับสักวันหวังว่าคงจะรู้คำตอบได้เองเหมือนยังพี่บอก ตัวผมเป็นคนขี้คิด ขี้จำ อะไรเล็กน้อยๆในอดีตเก็บมาจำได้หมด ทำดี ทำไม่ดี เวลานั้งสมาธิ ภาพเก่าๆ บรรยายกาศเก่าๆสมัยเด็ก เวลาฝันก็จะหวนคิดจำได้เรื่องเก่าหมดไม่เคยลืม ผมเพิ่งเริ่มยังไงต้องขอความกรุณาด้วยน่ะครับ

ขอบคุณที่เมตตาแนะนำนะครับ ^_/|\_^

 

รบกวนถามคุณ nopphakan หน่อยค่ะ
ตอนนี้เพ่งกสิณสีแดงได้ประมาณสามสี่เดือน
แล้วแต่ไม่ก้าวหน้าเลยรบกวนคุณnopphakan
ช้วยแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

คุณ เบอร์นิต ครับ ๑.เวลาใช้ชีวิตปกติระหว่างวันและเวลาฝึก
ให้ปรับระบบหายใจยาวถึงท้องแต่ไม่ต้อง
ไปต้องตามลมนะครับ ทำความรู้สึกว่ามีลมรับรู้
เข้าและออกที่ปลายจมูกก็พอครับ คือ หายใจเข้าหยุดที่ปลายจมูก
แต่ให้ลมลึกถึงท้อง หายใจออกก็หยุดที่ปลายจมูกครับ...
เพื่อสร้างกำลังสติทางธรรมตรงนี้ เพื่อเอาไว้คอยควบคุม
คอยดับ ความคิดความทรงจำในอดีตทุกเรื่องที่
มันมาสร้างความกังวลใจเล็กๆน้อย เรียกว่าตัดวงจรการปรุงแต่ง
ต่อของมันที่มันจะทำให้เราเผลอๆปรุงไปเรื่อยเปื่อยตรงนี้ออกไป
พูดง่ายๆ ตัดการพูดไปตามเรื่องตามราวของเราตามแต่ว่าเรื่องไหน
มันจะผุดขึ้นมาออกไปนั่นหละครับ...
๒.ปรับระบบการมองด้วยการใช้ตาปกติชำเลืองมาที่ลิ้นปี่ และมอง
ผ่านจุดจักระที่ ๖ หรือจุดเหนือคิ้วซึ่งมันจะเป็นอัตโนมัติครับ
เพื่อตัดกระแสความคิด ความจำต่างๆไม่ว่าเรื่องอะไรตรงนี้ออกไป..
คือไปเสริมกับข้อที่ ๑
ไม่งั้นกระแสพวกนี้ที่มันหมุนในกระโหลกเราตอนนี้ซึ่งมันกว้าง
มันจะตึ๊ดๆมาแถวๆเหนือระหว่างคิ้ว เพื่อดึง
ให้เราเกิดความอยากที่จะเห็นผล ดึงให้อยากที่สร้างทิพย์จักขุ
ยิ่งถ้าเราเผลอใช้ตาปกติไปมอง จะยิ่งสร้างความจำให้เกิดขึ้น
โดยที่เราไม่รู้ตัว และมันจะไปเสริมไอ้ที่มันติ๊ดๆด้วยครับ
จะทำให้เราตึงๆศรีษะด้วยครับ..
ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการสร้างทิยพ์จักขุ เพราะมันจะสร้างจาก
ความคิดของเราซึ่งผ่านระบบสมอง ไม่ได้สร้างจากตัวจิตครับ..
ที่สำคัญมันจะสร้างความกังวลเล็กๆน้อย ทำให้จิตใจเราไม่สงบเวลาเราฝึกครับ...
ของคุณตัวกระแสเกี่ยวกับสัมผัสภายในมันกว้างอยู่แล้วปกติครับ..
แต่มันถูกตัดขาดเพราะ ความคิด ความจำ ที่สร้างความกังวลให้เราโดยที่เรา
อาจคาดไม่ถึงมาก่อนเท่านั้นเองครับ...ปรับอย่างที่แนะนำให้ได้ก่อนครับ..
ให้กระแสในศรีษะตอนนี้มันหมุนวนให้มันเปลี่ยนแนวขึ้นไปข้างบนก่อน
พอมันขึ้นบนได้มันก็จะมาเชื่อมกับตรงกลางลิ้นปี่ได้หลังจากหมดความกังวล
จากนั้นกระแสเรื่องสัมผัสภายในที่ท้องมันถึงจะมาเชื่อมกัน ต่อเป็นเส้น
สายเดียวกันครับ. ปรับฐานตรงนี้ได้ตัวจิตก็จะเริ่มทำงานได้ตามที่มันควร
จะเป็น การสร้างทิพยจักขุก็จะเกิดจากตัวจิต การเห็นก็จะไม่ได้สร้าง
จากสมองประมาณนี้หละครับ..ผลที่ได้ก็จะมีพัฒนาการได้เอง
ของมันตามลำดับครับ

 

ขอบคุณคุณ nopphakan มากเลยค่ะ
จะเริ่มทำวันนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
(ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมกรุณาแนะนำด้วยนะค่ะ)

 

ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ..แรกๆมันจะหลงระบบหายใจหน่อยนะครับ..
อาจหายใจเข้าท้องยุบได้ หายใจออกท้องพองได้ ถือว่าเป็นปกตินะครับ...
ปกติร่างกายมันจะมีระบบปรับสมดุลย์ได้อัตโนมัติสำหรับระบบการหายใจ
อย่างน้อยก็ ๒ สัปดาห์นะครับ...
ส่วนเรื่องการใช้สายตามองปกติมันก็จะเผลอได้ปกติเช่นกัน เนื่องจาก
ความเคยชินเดิมของเราและเป็นกันเกือบทุกคนครับ
..ถ้าเผลอใช้ตามอง ก็ทำความรู้สึกรับรู้ว่าลม
เข้าและออกที่ปลายจมูกทันที พร้อมกับดันลมให้ลึกถึงท้องไว้..
พร้อมกับชำเลืองสายตามองที่ลิ้นปี่ คล้ายๆหลับตา ๒ ชั้น
มันก็จะเหมือนมีแค่ตาเดียวมองผ่านจุดเหนือระหว่างคิ้วอัตโนมัติได้
ของมันเองครับ..ไม่ต้องซีเรียสอะไร. เผลอไปแล้วก็ช่างมัน
รู้ตัวตอนไหน เราก็ทำตอนนั้นครับ...
และไม่ว่าจะแน่นหน้าอกเพราะเผลอไปตามลม
หรือ ตึงๆเหนือระหว่างคิ้วเพราะเผลอไปกำหนด
เป็นเหตุต่อเนื่องให้รู้สึกตึงๆศรีษะเนื่องจากมันไป
ดึงความคิดเข้ามาร่วม..ก็ให้ย้อนใช้
หลักการอย่างที่แนะนำที่ขีดเส้นใต้ไว้เช่นกัน
มันก็จะหายครับ.เพราะตรงจุดนี้ส่วนใหญ่มักจะเผลอกันได้เป็นปกติครับ
ทำจนกระทั่งระบบหายใจลึกอย่างนี้เป็นระบบหายใจปกติในชีวิต
ประจำวันของเราเลยครับ ลมหายใจเราก็จะละเอียดขึ้น
ได้เองอัตโนมัติ เพื่อให้มันเข้ามาแทนที่ระบบการหายใจ
เดิมของเราที่ปลายลมมันหยุดอยู่ตรงที่หน้าอก....
ซึ่งระบบหายใจอย่างที่แนะนำ เป็นพื้นฐานสำคัญมาก
ของการเริ่มต้นฝึกกรรมฐานไม่ว่าจะกองไหนๆก็ตามครับ...
เรียกว่า ช้าหน่อยเพื่อปรับฐานให้มันดีๆก่อน..ต่อไปมัน
ก็จะไม่ใช่เรื่องยากครับ ไม่ว่าเราจะฝึกกรรมฐานอะไรก็ตาม..
ประมาณนี้ครับ..

 

เอ้าพี่ๆน้องๆสาวๆ นพการหนุ่มน้อยหน้ามน เพิ่งจะแตกเนื้อหนุ่ม
สาวๆคนใดที่อยากมีเพื่อนใจ ในการปฏิบัติธรรม ก็เร่เข้ามาๆ อิอิ
นพการหัวใจยังว่าง อิอิ

 

ขอรบกวนช่วยตรวจสอบและแนะนำให้ด้วยอีกคนนะครับ

 

คุณ dowon ขึ้นรูปนิมิตรกสิณกองที่ชอบไปเลยครับ.
แค่ไม่ต้องสนใจนิมิตรต่างๆ ที่ได้รู้ได้เห็นได้สัมผัส
ที่มันจะดูพิศดารลำลึกอะไรทั้งนั้นครับ.
เพราะเด่วมันจะขวางการสร้างกำลังจิตเรา
จะทำให้เราเข้าถึงระดับปฏิภาคนิมิตรไม่ได้ครับ..
และไม่ว่าจะสัมผัสพิเศษได้ทางกาย หรือทางหูนะครับ
ก็ไม่ต้องสนใจครับ..ทิ้งทุกๆอย่าง..เพราะมันดึงให้ตัวจิต
ให้ติดเรื่องความกังวลและตัดระยะเวลาที่จิตเป็นทิพย์ออกไป
ซึ่งตรงนี้มีส่วนหนุนในการเข้าถึงระดับปฏิภาคนิมิตรเช่นกัน..
ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจะเห็นนิมิตรที่มีความสว่างในตัวเอง
จนมันรวมๆกันเหมือนว่าดูสว่างๆ..แล้วก็ปั่นนิมิตรนั่นให้ได้
เป็นปลายทางตรงนี้ไว้ก่อน..แบบไม่ต้องตั้งไว้ว่าจะทำให้ได้นะครับ
หมุนทางด้านขวาก่อนจะง่ายกว่า.และหมุนในมุมสูงเฉียง
เหมือนเราโน้มสายตามองดูพื้นหน้าตัวเอง และระวังรักษา
ระยะห่างไว้อย่าเข้าใกล้นิมิตร(ตรงนี้ต้องค้นพบด้วยการปฏิบัติเอง)
ไม่งั้นมันจะดูดจิตเราเข้าไป..
อาจทำให้เสียเวลา เพราะอาจไปติดในการรู้เห็น หลังจาก
ที่ถูกดูดเข้าไปได้ครับ.และถ้าไปติดการรู้เห็นเข้า
โอกาสจะกลับมาและเข้าสู่การใช้งานเรื่องพลังงานได้
ในอนาคตจะน้อยลงไปครับ เพราะสัมผัสที่ได้มัน
จะจูงใจเราให้ไปทางนั้นได้ครับ...
ประมาณนี้หละครับ.รวมๆไม่น่ามีอะไรครับ.

 

ความจริงนะครับ คุณนพการ น่า จะแนะนำผ่านทางโทรศัพท์ จะเหมาะสม ถูกต้องกว่านะครับ เพราะคุณนพการสามารถ สัมผัส จิต โดยตรง และ รู้ถึง จุดที่ต้องการจะแนะนำได้ดีกว่า ทางหน้าเวปนะครับ

 

การได้พูดคุย สัมผัสเสียงโดยตรง เนี่ย ดีกว่า สัมผัสผ่านตัวหนังสือ นะครับ
คนที่กล้าคุยโทรศัพท์ ด้วยกันนั้น ถือว่า เขา เปิดจิตเปิดใจ แสดงความจริงใจ มาส่วนหนึ่งแล้ว เวลา แนะนำกันโดยตรงทางเสียง มัน จะมีผลต่อ การเข้าใจมากกว่า ทางตัวหนังสือนะครับ

เอ้า ใคร จริงใจ กับคุณนพการ ก็ ขอเบอร์โทร คุยกันเลยครับ ....ง่ายกว่าเยอะเรย อิอิ

 

ใจเย็นๆ ตามวาระครับ..ให้ผ่านช่วงกลั่นกรองด้วยตนเองกันก่อนครับ
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคลื่นกระแสจรที่มาเกาะ
ที่ตัวจิตแต่ละคนด้วยครับ มากน้อยแตกต่างกันไป.......
และส่วนภาคทิพย์ก็ให้เค้าเคลียร์กันทั้ง ๒ ส่วนตรงนี้ค่อนข้างสำคัญ.
.ถ้าผ่านการกลั่นกรองแล้วหมายถึงพื้นฐานจิตใจเราพร้อม
เราปฏิบัติมาเพียงพอแล้ว..ทำอะไรๆมันจะง่ายๆเหมือนที่
คุณ sianns มีประสบการณ์นั่นหละครับ...

 

ผมว่า ในอนาคต คุณนพการเนี่ย ต้อง เป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณ แน่ๆครับ
เพราะความเป็นผู้ใหญ่ ถึงจะยังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ตามนะ

มันเหมือน มีคุณวุฒิ กว่าพวก เกรียนๆทั้งหลาย ที่เปิดกระทู้ ถามดะ น่ะ (อวดความซื่อบื้อของตน แต่พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง)

อิอิ

 

รบกวนคุณนพ ช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ เมื่อหลายปีก่อนเคยฝึกกสิณสี(เขียว) ด้วยตัวเอง โดยดูวิธีการฝึกจากในเน็ต ก็ฝึกไปได้เกือบๆเดือน อยู่มาวันหนึ่ง มีอาการเวียนหัวเหมือนบ้านหมุน ก็เลยเลิกไป เพิ่งจะกลับมาฝึกใหม่ได้ไม่นานแต่คราวนี้ใช้เพ่งลูกแก้วแทน ขอบคุณครับ

 

คล้ายๆที่แนะนำหลายๆคนคับ คุณ malibian ปรับระบบหายใจ
และตัดการเผลอใช้ความคิดจากสมองครับ เมื่อก่อนจะชอบ
เผลอไปกำหนดเหนือระหว่างคิ้วมันก็เลยหน่วงๆและเผลอสร้าง
ภาพด้วยความคิด. กระแสคลื่นมันเลยไปวนผ่านท้ายทอย
ขึ้นมาตรงกะโหลกส่วนหน้าวนอยู่อย่างนั้นเลยเกิดอาการเวียนศรีษ
คล้ายๆเหมือนๆบ้านหมุนครับ(ถ้าวนกลางกะโหลกด้วย
จะปวดศรีษะและตึงร่วมด้วย)
ประมาณนี้ครับ ไม่มีไร

 

ขอรบกวนคุณนพอีกนิดครับ คือยังไม่เข้าใจที่ว่า เผลอไปกำหนดเหนือระหว่างคิ้ว มีความแตกต่างอย่างไรกับ ปรับระบบการมองด้วยการใช้ตาปกติชำเลืองมาที่ลิ้นปี่ และมอง ผ่านจุดจักระที่ ๖ หรือจุดเหนือคิ้วซึ่งมันจะเป็นอัตโนมัติครับ เพื่อตัดกระแสความคิด ผมได้ลองทำดูในแบบที่คุณนพแนะนำท่านอื่น ก็ยังรู้สึกว่ามันไปกำหนดที่หว่างคิ้วเอง ผมควรจะแก้ไขอย่างไรดี ขอบคุณครับ

 

แอบมาเก็บข้อมูล ลองไปปฏิบัติดู ^^