ปรึกษา+ระบาย เกี่ยวกับผู้เป็นพ่อ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ukitake, 9 มกราคม 2015.

  1. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140
    ใช่ครับผมเป็นลูกคนเดียวแต่ที่ผมจะบวชผมไม่ได้บวชตลอดชีวิตนะครับ อยากจะบวชสัก15-30เท่านั้นครับท่าน
     
  2. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    พูดได้แล้วคุณทำได้หรือเปล่าครับ คนที่สำเร็จอรหันต์ในขณะที่ยังเป็นฆราวาสล้วนมีแต่ในยุคพุทธกาลซึ่งได้ฟังธรรมโดยตรงต่อพระพุทธเจ้า

    หัดเอาความจริงเข้าว่าหน่อยครับ ไอ้ที่มาพูดกันปาวๆๆว่าต้องกตัญญู ดูแลพ่อแม่เนี่ย มันคือบ่วงร้อยรัดพันธนาการชั้นดี ไม่มีทางหรอกนะที่จะนอนกับเมียแล้วบรรลุอรหันต์ไปได้ด้วยอะ เพ้อเจ้อกันไปใหญ่ละชาวพลังจิตเอ๋ย

    แล้วไอ้พวกที่ไปหวังน้ำบ่อหน้าว่าพอใกล้ตายแล้วจึงค่อยไปคิดปล่อยวางในวินาทีสุดท้ายเพื่อให้ได้ไปนิพพานแบบสุกเอาเผากิน ทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้ได้ไปนรกมากขึ้น เจตนาครับ เจตนาตัวเดียวมันฟ้อง คุณย่อมรู้อยู่แก่ใจดี และถ้าการไปนิพพานมันง่ายขนาดนั้น คนอื่นๆคงได้ไปนิพพานกันเยอะก่อนที่จะมีพระพุทธเจ้าแล้วครับ

    ถ้า จขกท.ไปบวช แล้วอย่างน้อยถ้าได้เป็นโสดาบัน ก็สามารถกลับมาให้ธรรมทานแก่พ่อได้ ซึ่งเป็นการกตัญญูที่ถูกทาง ประเสริฐที่สุด ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิจริงๆก็ควรทำตามนี้ ไม่ใช่การมาคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว ทนคำด่า คำว่า จิตใจของ จขกท.ก็พลอยหม่นหมองตามไปด้วย คนด่าก็บาป คนถูกด่าก็จิตใจเศร้าหมอง ไอ้ครั้นจะคิดไปช่วยให้พ่อเป็นสัมมาทิฏฐิก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ตัดสินใจเอาเองเถอะครับ

    สรุป ถ้า จขกท. ยังไม่เด็ดขาดพอที่จะไปบวชตลอดชีวิต แสดงว่าบารมียังไม่ถึง ยังตัดทางโลกเด็ดขาดไม่ได้ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ก็ลูกคนเดียวลูกโทนกันทั้งนั้น เขาก็ยังไปบวชกันได้ เจ้าชายสิทธัตถะก็ลูกคนเดียว ซ้ำยังมีเมียและลูก ท่านก็ยังไปบวชจนได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่ามาอ้างหน่อยเลยว่าต้องไปกตัญญู ดูแลพ่อแม่ มันคือข้ออ้างของคนที่บารมียังต่ำ ไร้ศรัทธาต่อพระรัตนตรัย ไร้ศรัทธาต่อตนเอง ก็แค่นั้นแหละครับ

    การที่ จขกท.เป็นลูกคนเดียวนั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้า จขกท.แต่งงานมีครอบครัวนั่นแหละ จะยิ่งลำบากใจ ตัดใจยากกว่านี้อีกหลายเท่าครับ จำคำพูดของผมไว้แล้วจะมาคิดเสียดาย เสียใจทีหลังว่าไม่ยอมไปบวชในตอนที่ยังมีโอกาส เพราะมัวแต่สับสน มัวแต่เชื่อไอ้พวกโลกสวยที่มันมาคอยฉุดรั้งให้ไปกตัญญูต่อพ่อแม่ เดี๋ยวพอพ่อแม่เค้าบังคับให้คุณแต่งงาน คุณไม่สบายใจ กลัวทำให้พ่อแม่ผิดหวัง กลัวเป็นบาป คุณก็จะเข้ามาตั้งคำถามในเว็บนี้อีก แล้วคนที่เข้ามาตอบในกระทู้ส่วนใหญ่ก็จะสนับสนุนให้คุณมีครอบครัว โดยอ้างว่าเพื่อกตัญญูต่อพ่อแม่ มองภาพออกมั้ยครับว่าสุดท้ายชีวิตของตัวเองจะเป็นยังไง พุทธภูมิที่คุณหวังไว้จะยิ่งเลือนลางหนีห่างออกไปจากคุณเรื่อยๆ แล้วสักวันนึงคุณก็จะลืมมันไปในที่สุด
     
  3. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ไปว่าคนอื่นมากจนกรรมเข้าตัวแล้วเหรอ
    หลุดแล้วนะรู้ตัวหรือป่าว

    เจตนาพื้นๆ ดี แต่การพิจารณายังอ่อนนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2015
  4. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ถ้าคุณไม่มีภาระอะไร การบวชก็ดีครับ จะห่มขาว ห่มเหลืองเป็นพระ ก็แล้วแต่ผมสนับสนุน

    การไปบวชสำคัญที่มีครูบาอาจารย์ใกล้ชิด
    เพราะผมเคยคิดว่าตัวเองแน่ อ่านพระไตรปิฎกเอง แต่สุดท้ายตีความเอาที่ตัวเองชอบ
    อยากทิ้งทางโลก .. สุดท้ายพอถึงเวลาทำงานเลี้ยงตัวเอง โห. เหมือนอยู่คนละโลก
    การงานมันไม่ก้าวหน้าแม้มีฝีมือบ้าง เป็นอุปสรรคเลย ต้องมานับหนึ่งใหม่
    ตอนอายุมากที่ทำงานแล้ว เสียเวลาสุดๆ

    คนฉลาดควรสมดุลการทำประโยชน์ทางโลกและทางธรรมไปพร้อมๆ กัน
    เหมือนที่พระท่านว่า บัวไม่ให้ช้ำน้ำก็ไม่ให้ขุ่น

    เรื่องพ่อแม่สักวันหนึ่งท่านต้องจากเราไปตามอายุขัยและสัจธรรมของโลก
    เมื่อเวลานั้นถ้าเราทำดีต่อท่านมาโดยตลอด เราจะชื่อว่าไม่พลาดประโยชน์ที่ควรทำ
    พูดเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าให้ทิ้งการปฏิบัติธรรม
    การปฏิบัติธรรมควรเริ่มตั้งแต่หนุ่มๆสาวๆนี่แหละ เพียงแต่ท่านว่า
    ทำที่ไหนก็ได้ จะทำที่บ้าน จะทำเวลาอยู่ห้องน้ำ
    จะทำตอนอยู่บนรถเมล์ สำคัญที่ว่าทำถูกหรือป่าว เมื่อทำถูกความสุขก็บังเกิด
    ความสุขบังเกิด ก็ย้อนกลับมาเป็นกำลังใจให้มีความเพียร ทำต่อๆไป ไม่เลิก

    ขอย้ำว่าการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ไม่ใช่การหนี .. แต่ตรงกันข้าม
    เมื่อปฏิบัติถูก บุญควรจะเกิด มีสติปัญญาคิดแก้ปัญหาผ่านไปได้ด้วยดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2015
  5. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    -*- ตัวคุณเองยังเอาตัวไม่รอด อายุก็มากแล้วแต่ยังคิดผิดๆอยู่เลย อย่าไปฉุดรั้งผู้อื่นเลยครับ อย่าเอาตรรกะของตัวเองไปบอกคนอื่นเลย ถ้าคุณเข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ดีแล้วละก็ เชิญทำต่อไปเถอะครับ

    แต่สำหรับ จขกท. ผมบอกได้เลยว่าถ้ามาทำตามที่คุณ -*- แนะนำละก็ชีวิตคุณก็จะเหมือนเค้านั่นแหละ

    ผมถึงได้บอกไงว่ารอให้น้ำท่วมหลังเป็ดยังง่ายซะะกว่า เพราะขนาดคุณ -*- อายุมากคงรุ่นพ่อแล้วมั้ง ยังคลำหาทางไม่เจอเลย จขกท.จะลงทุนทั้งชีวิตของตนเองเพื่อให้พ่อได้เป็นสัมมาทิฏฐิ ผมบอกเลยว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลว

    เรื่องนี้ผมว่า จขกท. เค้ารู้และคิดได้ก่อนคุณตั้งนานแล้วละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2015
  6. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    -*- คิดว่าผมหลุดจริงๆหรอ หรือว่าโดนผมแทงใจดำจนไปไม่เป็น แค่คุณเอ่ยปากอยากสำเร็จอรหันต์แบบมักง่ายผมก็เห็นหมดทุกอย่างแล้วละครับ ไอ้พวกเป็นมิจฉาทิฏฐิมันจะมีปมให้โจมตีได้เยอะ บางคนผมปล่อยผ่านไม่อยากเสียเวลาเล่นด้วย แต่บางคนต้องเอาซะหน่อย

    คำพูดของผมอาจไม่ไพเราะเสนาะหู แต่รับรองว่าเชื่อขนมกินได้แน่นอนครับ ไม่มีโลกสวยครับ ความจริงมันโหดร้ายเสมอครับ

    กรรมจะเข้าตัวใครกันแน่ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะระหว่างผมที่เอาความจริง เหตุผลมาพูด กับคุณ -*- ที่กำลังเพ้อเจ้ออยู่บนรถเมล์หรือห้องส้วม (เขาไม่ให้สวดมนต์ปฏิบัติธรรมในขณะเข้าห้องน้ำห้องส้วม แค่นี้ยังไม่รู้เลย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2015
  7. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ถ้าคนเขารู้แล้ว จะมาถามทำแป๊ะอะไร? 5555

    ที่บอกว่าทำมาหลายปี เพราะข้าสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว
    ไม่แน่ว่าข้าอาจจะอ่อนกว่าเอ็งก็ได้ 555

    คนเขาดูออกว่าอะไรเป็นของร้อน อะไรเป็นของเย็น
    ก็เชิญหยิบเอาเถิด

    ส่วนเอ็ง ข้าว่า ผีร้ายกิเลสชั่วเข้าสิงแล้ว
    ไปขอขมาคนที่เอ็งไปกล่าวใส่ร้ายได้แล้ว ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยให้สิงต่อไป 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2015
  8. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ข้าไม่เคยบอกใครว่าข้าอยากสำเร็จอรหันต์สาวก หุหุ
    ดังนั้น ข้าขอบอกว่า เอ็งนี่มันมั่วแถมใส่ร้ายคนอื่นเขาไปทั่วเลยนะ

    กรุณาอ่านคำแนะนำความเห็นข้าก่อนหน้านี้ แล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2015
  9. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    -*- ปากยังพูดอยู่ปาวๆๆ ว่าการปฏิบัติธรรมไม่ใช่การหนี แต่ดันกลัวการตกนรกจากการทำบาปเพราะไปบวช มีแต่เด็กปัญญาอ่อนเท่านั้นที่เชื่อคำพูดของคุณอะครับ ทำเป็นไปสอน จขกท. แต่ดันขว้างงูไม่พ้นคอตัวเองแท้ๆ

    แล้วอีกอย่างนะ ที่ผมด่าว่าคุณมาทั้งหมดอะมันเรื่องจริง ถึงแม้คุณจะไม่ได้พิมพ์ออกมาเป็นตัวอักษรก็ตาม คุณอาจหลอกคนอื่นได้ แต่คุณหลอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ ทุกคนที่เข้ามาอ่านกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่คนโง่ หลายๆคนมีวุฒิภาวะพอตัว อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะมาเชื่อคุณนะครับ ไม่งั้นผมไม่กล้ามาว่าคุณแบบนี้หรอก

    ปฏิบัติธรรมอะไรของคุณ แค่คำว่าสำรวม การสำรวม คุณยังไม่รู้จักเลย นี่แหละหนาที่เค้าว่าโตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน

    คุณอาจไม่รู้ตัวหรอกนะครับว่ากำลังมีคนเข้ามาตักตวงข้อมูลความรู้จากโพสต์ของผมซึ่งมีหลายคน ในขณะที่คุณกำลังจดจ่ออยู่กับการดราม่ากับผมโดยไม่รู้ตัว ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการโต้เถียงกับคุณนักหรอกนะ เพราะการที่ผมมาโต้เถียงกับคุณมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรแก่ตัวผม ผมเพียงแค่ใช้คุณเป็นเครื่องมือเพื่อสื่อข้อความไปถึง จขกท. ก็เท่านั้นเอง

    สิ่งที่ผมหวังที่สุดคือตัวของ จขกท. เพียงอย่างเดียว

    ส่วนคุณ -*- จะปฏิเสธอะไรอีกก็เรื่องของคุณนะครับ โตแต่ตัวแบบคุณไม่ใช่อะไรที่ผมควรจะมาเสียเวลาด้วยมากนัก
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : หนูว่าจะบวช ๗ มีนาค่ะ ?
    ตอบ : ถ้าตายก่อนก็ไม่ได้บวชหรอก พร้อมเมื่อไรก็ไปเลย

    ถาม : หนูอาจต้องไปพบหมอศัลยกรรม อาจจะขอเลื่อนผ่าค่ะ จะได้บวชก่อน ?
    ตอบ : ก็ลองไปเถอะ บางทีอาตมาก็ไม่อยู่วัด ถ้าไม่อยู่จะหาคนบวชแทนให้ จำ ไว้ว่าเวลาทำความดีทำให้เร็วที่สุด เราเคยตั้งใจจะทำและเสียโอกาสมาแล้วก็เพราะความช้าของเรา การทำความดีจะมีสิ่งขวาง เขาเรียกว่ามาร ยิ่งยืดระยะเวลาไปมากเท่าไร เขายิ่งขวางเราได้ถนัดเท่านั้น แล้วถ้าไปฟังคนอื่น เดี๋ยวก็จะมีเสียง “ทำไมต้องไปบวชด้วย ?” แล้วท้ายสุดเราก็จะลังเล แล้วก็ไหลตามเขาไป

    ตัดสินใจจะทำอะไรก็ทำไปเลย ทำแล้วก็จบกัน คนจะว่าหรือไม่ว่าก็เป็นเรื่องของเขา มัวแต่ไปกลัวขี้ปากชาวบ้าน แบบนั้นทั้งปีทั้งชาติก็ไม่ต้องทำอะไร เวลาที่เราทุกข์ที่เราลำบาก ชาวบ้านเขามาลำบากกับเราด้วยหรือเปล่า ? แล้วทำไมเวลาที่เราจะทำความดี เราจะมีความสุข เราต้องไปเกรงใจชาวบ้านเขาด้วย

    __________________

     
  11. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    นรงนรกอะไรว่ะ ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยเรื่องนั้น .. พูดจาเหมือนคนเมา 5555
    เอ็งนี่ท่าจะบ้า ไปบอกให้คนหนีไปบวชทิ้งพ่อทิ้งแม่ 5555
    พ่อเขาพูดประชดใส่ลูก ยังไม่เก็ตไม่เข้าใจ ดันอวดฉลาด 5555

    ไอที่ทำสีน้ำเงินไว้ โคตรขำว่ะ ปัญญาอ่อนมาก
    ในนี้คนเขาถามในเชิงฉันมิตร. การแบ่งปันความเห็นก็คือการให้ทานแบบหนึ่ง
    ซึ่งให้แล้วก็ให้เลย. แต่เอ็ง ดันไปหลงคิดว่าคนตามตักตวงยกตัวเองเป็นผู้รู้ หนักเข้าไปอีก 5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2015
  12. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140
    ขอขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่เข้ามาให้คำแนะนำนะครับ ขอโทษที่เข้ามาช้าไปหน่อย ช่วงนี้ติดสอบนู้นนี้เยอะไปหมดเลย ใจเย็นๆนะครับอย่าเพิ่งทะเลาะกัน เฮ้อตอนนี้พ่อokขึ้นแล้ว แต่ผมดันมีเรื่องใหม่ ทะเลาะกับแฟนอีกโอ้ยชีวิต เจ็บซ้ำเจ็บซ้อน TT
     
  13. pukub

    pukub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +219

    อย่าพึ่งเรียก ท่านว่าเป็น มิจฉาทิฐิเลย
    เอาเป็นว่า ท่านกำลังเครียดอยู่กับโลกความเป็นจริง ที่มีแต่การดิ้นรน ฟ่าฟัน ผลประโยชน์จ๋า
    แต่อย่างไรก็ตามความคิด คนเราเปลี่ยนได้ในวันข้างหน้า แต่ต้องใช้เวลา และบรรยากาศที่ดี

    วิธีการง่าย ๆ ก็คือ
    จขกท ก็ทำตัวเป็นลูกที่ดี เป็นอภิชาติบุตร คือ ตัวเองทำความดี และชวนพ่อแม่ทำความดี
    อภิชาตบุตรนั้น เป็นบุตรที่ประเสริฐ สุดใน บุตรทั้ง 3 แบบ
    คือ 1. มี บุตรที่เสมอมารดา บิดา 2. มีบุตรที่เลวกว่ามารดา บิดา
    และอันสุดท้ายคือ บุตรที่ดีกว่ามารดา บิดา

    เมื่อก่อนผมเคยเข้าใจผิดว่า การเป็นอภิชาติบุตร คือต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
    รวย แล้วสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้
    แต่จริง ๆ แล้ว อภิชาตบุตร คือ ลูกที่ทำความดี แล้วสามารถชวนพ่อแม่ให้ทำความดีด้วยได้

    เพราะว่าสมบัติที่หาได้ มีใช้แค่ชาตินี้เท่านั้น พอตายมันก็กองให้ลูก หลาน ต่อไป
    บาทเดียวก็เอาไปไม่ได้
    (ย้ำว่าได้ใช้แค่ชาตินี้เท่านั้น เราไม่สามารถตายไป เสร็จแล้วภาวนาขอเกิดมาเป็นลูกหลาน
    ตระกูลนี้ต่อ เรื่องจริงมันไม่เป็นแบบนั้น)

    แต่บาป บุญ จะตามไปด้วยในโลกหน้า
    พ่อแม่ที่ได้ทำบุญเยอะ ๆ เพราะมีลูกชวนด้วย ก็โชคดีกว่า คือได้สมบัติของทั้งโลกนี้ และโลกหน้า

    เพราะผลของการให้ทานก็คือ จะทำให้เราอยู่ กินสบาย ไปจนถึงร่ำรวย
    เวลาขัดสน เหมือนจะไม่รอดแล้ว แต่ก็มีอะไรมาช่วย โดยมาจากไหนไม่รู้
    อันนั้นก็เป็นผลแห่งทานเหมือนกัน

    แต่ถ้าเราไม่ทำทานเลย เวลาเราขัดสน ก็จะขัดสนจริง ๆ
    ลำบาก ก็จะไม่มีใครมาช่วย ก็จะลำบ๋ากก ลำบาก...

    เพราะฉะนั้น จขกท ก็ไม่ต้องสนใจ คุณพ่อจะไม่เห็นด้วย จะปฏิเสธยังไง
    จขกท ก็ชวนต่อไป ถ้าเรามีจุดยืนที่แข็ง ชัดเจน เด่วเขาก็ตามเราเอง
    อย่างเวลาวันเกิดเรา เราชวนไปทำบุญ เขาก็ต้องไปแหละ
    แต่ จขกท ก็ต้องทำการบ้านเพิ่มด้วย คือไปหาอ่านพระสูตรอะไรที่มันเด็ด ๆ
    แล้วก็เอามาเล่าให้พ่อฟังบ้าง อะไรบ้าง คือให้มันมีอับเดทหน่อย
    ไม่ใช่ว่าชวนดะ อย่างเดียว แต่ไม่รู้ว่าทำแล้วได้อะไร

    คือพ่อไม่สนใจ ก็อาจเพราะยังไม่รู้ว่าผลของบุญมันเป็นอย่างไร
    อาจจะแบบ เจอความผิดหวังมาเยอะ หรืออาจจะเคยทำความดีมาแล้วก็ ไม่ได้รับผล
    เจอหักหลัง หรืออะไรก็แล้วแต่ เฟววว
    อย่างไรก็ตาม เราก็มีหน้าที่ชวนต่อไป ชวนไปทำบุญ ชวนถือศีล
    เล่าอานิสงฆ์ของการทำบุญ อานิสงฆ์ของการถือศีล
    กรอกหูไปบ่อย ๆ เด่วก็เชื่อเอง

    ที่สำคัญเวลาพ่อพูดก็ต้องฟังด้วย
    อยากให้ใครฟังเรา เราก็ต้องฟังเขาเหมือนกัน

    มันเหมือนเล่นจิตวิทยากัน ใครอยู่นาน คนนั้นก็ชนะ


     
  14. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ถ้าคุณพ่อน้องพูดว่า วันๆเอาแต่ท่องอะไรไม่รู้ เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า
    ก็อาจจะตอบท่านว่า ผมกำลังทำใจให้เป็นสมาธิ เพราะถ้าผมมีสมาธิผมจะอ่านหนังสือรู้เรื่องกว่า เป็นการประหยัดเวลา จากที่ปกติอ่าน ๓ ชั่วโมง ก็อ่านจบได้ใน ๒ ชั่วโมง เพราะผมมีสมาธิ ซึ่งเป็นผลจากการสวดมนต์ แล้วมีหลายๆคนที่สวดมนต์แล้วเรียนเก่งขึ้น อันนี้ก็ลองๆค้นหาดูในกูเกิ้ลแล้วกันนะครับ มีหลักฐาน มีเรื่องเล่าประสบการณ์ยืนยันอยู่ (พี่เคยอ่านผ่านหูผ่านตา เคยได้ยินได้ฟัง และประสบการณ์จากการบวชเรียนของพี่ที่พี่สวดมนต์ทำวัตรเย็นบ่อยมาก เวลาไปเรียนก็รู้สึกดีกว่า ใจเย็น มีสมาธิเพิ่มขึ้น หลังจากสึกไม่ค่อยได้สวด ผลออกมาแตกต่างกันใจ ใจร้อนขึ้น ไม่มีสมาธิ ฟุ้งซ่านด้วย ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่กำลังหวนคืนกลับมาสวดมนต์ เพราะอยากสร้างบุญเพิ่มด้วย อยากมีสมาธิเพิ่มด้วย)

    ในเรื่องบวช ถ้าตอนนี้ยังบวชกายไม่ได้ ก็มุ่งบวชใจไปก่อน คุณพ่อน้องท่านก็อาจจะเครียดกับช่วงที่เป็นขาลง ก็ด้วยความที่ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว ท่านต้องรับผิดชอบ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ ปัญหาย่อมบดบังปัญญา ท่านอาจจะยังไม่ใช่มิจฉาทิฏฐิที่แท้จริง เพียงเพราะความเครียด ความกดดัน การที่ต้องแบกรับ เลยทำให้ท่านต้องคิดเช่นนี้

    ก็อย่างที่ท่านอื่นแนะนำไปครับ สวดมนต์แล้วอุทิศถึงเหล่าเทวดาทั้งหลายที่เป็นญาติมิตรและที่คุ้มครองเราและครอบครัว จะสวดพระคาถาเงินล้าน บทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บทเมตตาใหญ่ หรือบทอื่นๆก็ดีทั้งนั้น

    ในฐานะที่น้องปรารถนาพุทธภูมิ ก็ต้องสู้กันหนักหน่อย ถือว่าเรื่องนี้เป็นการพิสูจน์กำลังใจของน้องก็แล้วกัน สำหรับผมเองก็มีเรื่องให้พิสูจน์กำลังใจอีกหลายเรื่องเหมือนกัน กว่าจะถึงฝั่งฝันนำพาสัตวโลกไปสู่เอกันตบรมสุข ก็ต้องเจ็บแล้วเจ็บอีก พิสูจน์แล้วพิสูจน์อีก เราก็มีหน้าที่ในการรักษากำลังใจให้หนักแน่นในทศบารมีและธรรมมีประการอื่นๆ

    ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ครับ ทุกคนย่อมมีปัญหา ทุกปัญหาล้วนแต่เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...