วสี+มหาสติ =อนาคตังสญาณ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย wmt, 6 มิถุนายน 2014.

  1. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    ความรู้น้อยๆของ wmt ขอ อธิบาย คำบาลี วสี แปลว่า ความชำนาญการเข้า-ออกสมาธิ
    ขยายเพิ่มว่า หมายถึงการใช้มหาสติกำกับจิตให้เข้า-ออกสมาธิระดับอุปจาร ได้ทันทีคล่องแคล่วว่องไว

    ความหมายข้างนี้ สรุปคร่าวๆมาจากการฟังเทปธรรมะของพ่อแม่ครูอาจารย์ ซึ่งท่านฯเล่าว่า สมัยที่ท่านไปศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่นฯ ๆ ได้บอกจุดการหยั่งรู้ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ในระดับสมาธิไว้ ถ้าอยากรู้เรื่องอะไร ให้ทำวสีให้เก่ง ชำนิชำนาญเถอะ ก็จะรู้ได้ทันที

    wmt ขอขยายว่า รู้ ในที่นี้คือ รู้แบบโลกุตตะระณาน นอกนจากนี้ไม่ใช่ (ไม่ใช่ เพราะเป็นความรู้ที่อิงด้วยโลกีย์)
    -------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015
  2. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ติดตามรับชมรับฟังครับผม
     
  3. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    พุทธพยากรณ์

    ด้วยความสนใจใน คำภีร์โบราณ พุทธพยากรณ์ ที่เคยอ่านมาแต่เด็กๆ เพราะเป็นความชอบส่วนตัวในศาสตร์ลึกลับ ความลึกลับของการรู้ล่วงหน้าอนาคตังสญานของผู้เขียนคำภีร์ พุทธพยากรณ์ ได้แสดงถึง ระดับสติ ที่ต้องถึง มหาสติ อย่างไม่ต้องสงสัย จึงสามารถแสดงธรรมออกมาเป็นตัวหนังสือที่สื่อถึงหายนะภัยทั้งมวล คือ เหตุ ต้นเหตุแห่งวิบัติธรรมชาติ หายนะภัยธรรมชาติ มหาภัย full big ที่จะมาเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลกไปตลอดกาล ในกึ่ง ใกล้กึ่ง เลยกึ่งกลางอายุพระพุทธศาสนานี้เป็นแน่แท้

    ๘ ปีที่ผ่านมา wmt ผ่านกระบวนการเข้าหา สมัครใจเป็นญาติกับพระพุทธศาสนาแบบกลืนสนิททั้งกายและใจ ได้น้อมรับใช้พระภิกษุครูอาจารย์ฯ ได้เห็นด้วยตาได้ยินด้วยหู ในคุณวิเศษของพ่อแม่ครูอาจารย์ฯที่ท่านได้ " มหาสติ " จากการรักษาไตรสิกขา+อริยะกันตศีล+อริยะภาวนา หยั่งรู้ธรรมตามหมวดของบทสวดมาติกา อตีตาธัมมา อนาคตาธัมมา ปัจจุบปันนาธัมมา........

    ในพุทธพยากรณ์ ระบุถึงเหตุแห่งความเสื่อมของศีลธรรมของจิตใจมนุษย์ ที่น่าจะตีความได้ว่า คุณค่าแห่งความดีงามในทุกชนชั้นของชนทุกศาสนา ก่อเกิดพัฒนาขึ้นตามยุค แต่ละยุค ผ่านความเจ็บปวด ผ่านความทะนง ผสานใจทุกชนชั้นศาสนาให้อ่อนตัวลงเป็นระเบียบแบบแผน เข้าสู่ยุคหน้าประวัติศาสตร์ของการพัฒนาเทคโนโลยี่ต่ำถึงสูงสุดในระดับหนึ่งของต้นปี ๒๕๕๘ แล้ว ความเจริญวันนี้กลับทำให้ศีลธรรมถอยกลับไปสู่ยุคเก่าๆของมนุษยชาติ ความสุดโต่ง ความอยากได้ การครอบงำ เพื่อกำจัดและจำกัด ให้ประชาชนและประเทศตัวเองอยู่รอดได้ในสังคมโลก

    โดยทุกวิถีทางที่ไม่คำนึงเรื่องการหมางใจ ถนอมน้ำใจ เมตตาธรรม

    ความจริงแห่งความบาดหมาง กำลังจะปรากฎเข้าตำราชั้น บรมครู พุทธพยากรณ์ ที่ wmt ก็ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว ผู้นำมาเผยแพร่แรกๆเป็นใคร แต่ด้วยความหวังดีเป็นแน่แท้ วันนี้ หลักฐาน พุทธพยากรณ์ จักแสดงถึงผลแห่งปมขัดแย้งต่างๆ ของชนชั้นผู้มีอำนาจในประเทศใหญ่ๆทั้งหลาย ในหลายศาสนาที่มะรุมมะตุ้ม เพื่อ ค ว า ม อ ยู่ ร อ ด ของคนในชาติ

    สงครามใหญ่ที่รอวันประทุ เมื่อประทุแล้ว มหาภัย full big จักปรากฏแก่สายตาทุกท่านฯที่ยังอยู่รอดจากสงครามใหญ่นั้นไปได้

    เหตุการณ์ทุกอย่าง ตามพุทธพยากรณ์ กำลังดำเนินตามครรลอง ธรรมชาติ ซึ่งเป็นละครโรงใหญ่ กฏธรรมดาของโลก เป็นธรรมะเพชรน้ำเอก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    สำหรับผู้สนใจแล้ว wmt กำลังรวบรวมและเขียนบทสรุป การเอาใจ+ตัวรอด

    เพื่อข้ามไปสู่ยุค พระพุทธศาสนาจักรุ่งเรือง ทอแสงประกายเจิดจรัส

    คนธรรมจักได้อยู่ได้ธรรมและพานพบ คนทำจะอยู่ได้ก็แล้วแต่บุญวาสนา

    ขอฝากผลงานของ โหรพลูตาหลวง ที่ท่านผูกศาสตร์ประเทศไทยไว้เป็น ๑๐ ยุค ๆ นี้ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ยังอยู่ยุคที่ ๘ นับจากวันนี้ไป โปรดเตรียมพร้อมรับ full big.
     
  4. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    มหาภัย full big

    ธรรมคุ้มครองโลก ธรรม จะคุ้มครองได้แค่บางส่วนของคนที่ถึงธรรมเท่านั้น หมายความว่าท่านจะต้องมีสติจดจ่อที่อารมณ์กรรมฐาน ยามสุดวิสัย และจงเร่งสร้างบุญกุศล ทั้งกาย วาจา ใจ

    สิ่งใดที่จะคอยหล่อเลี้ยงชีวิตได้ ในช่วงไม่กี่ปีนี้ ให้ทำไปปกติ แต่ควรงดความทะยานอยากในสิ่งสมมุติทั้งหลาย ควรเร่งน้อมใจบุญกุศลให้ถึงใจ ด้วยการเจริญสติให้แนบแน่นจิต ให้สติเคียงข้างจิต ท้ายที่สุดสติกับจิตจะกลืนเป็นอันเดียวกัน ศัพท์ทางธรรมเรียกอาการนี้ว่า มรรคสมังคี (อ่านว่า มรรค คะ สะ มัง คี ) คืออาการที่จิต ถูกคุ้มครองด้วยมหาสติด้วยอริยศีลธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา

    ธรรมตัวนี้ จะนำพาให้ผู้ที่เจริญแล้ว ถึงซึ่งมหาสติ หากกายดับกระทันหัน หวังซึ่งในสุคติภพได้ หากแต่ท่านผู้เจริญด้วยมหาสติแล้วกายไม่ดับด้วยเหตุมหาภัยนี้

    wmt ขอแยกเป็น ๒ ประเด็น ๑.ท่านยังมีกุศลธรรมหล่อเลี้ยงกายและจิต เพื่อให้เห็นโลกธรรม ในหมวดของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และ ธรรมตัวนี้จะนำพา จิตท่านที่มหาสติคุ้มครองอยู่ เกิดความสลดสังเวชใจเป็นที่สุด ธรรมะทุกอย่างในตัวคนรอบข้างจะขึ้นแสดงเป็นธรรมใหญ่ อสุภะกรรมฐาน จวบจนถึงอนัตตา

    ๒.ท่านยังคงมีอกุศลธรรม ที่จะต้องเผชิญกับทุกข์สัตย์ คือ ความเป็นจริงบนโลกของจริงๆ ที่เกิดมหาภัยตอนนั้น ซึ่งกรปอไปด้วย ภัยธรรมชาติ ภัยจากคนที่หิวและต้องการเอาตัวรอด ภัยจากโรคระบาด

    wmt ขอไว้อาลัยในสิ่งที่เป็นธรรมเอก คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ขอให้ทุกท่าน รีบสร้างบุญกุศล ด้วยการเจริญสติ ภาวนา เป็นหลัก สร้างกุศลทานเป็นรอง และ ที่สำคัญที่สุดคือ หาสายบารมีให้เจอ เหมือนที่ wmt เจอแล้ว และน้อมนำคำสอนของพระพุทธองค์มาปฏิบัติ เพื่อให้จิตคลายอาการ ยึดมั่น ถือมั่น

    เมื่อท่านเจอสายบารมีที่ถูกและตรงทาง ศีล อริยะศีล ท่านจะเจอผู้ชี้แนวให้เห็นถูกทำนองคลองธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ฯที่ยังเสียสละเพื่อนำพาศิษย์ให้ก้าวพ้นช่วงมหาภัยไปได้นั้น wmt เชื่อมั่นว่า พระอริยะสงฆ์แต่ละองค์ยังอยู่ ยังเมตตา หากท่านขวนขวายที่จะก้าวเดิน และ ข้ามไป

    ท้ายที่สุด โลกแห่งความเป็นจริงจะบังเกิดในเบื้องหน้า เราๆท่านๆ มาเตรียมจิตใจเพื่อยอมรับธรรมชาติกันเถิด

    สิ่งที่ท่านต้องเตรียม คือ สภาพจิตใจ ถ้ามีสติถึงซึ่งด้วยมหาสติ แม้เกิดอะไรขึ้น ใจก็ไม่หวาดหวั่น ให้นึกถึงความตายวันละหลายหน คนระลึกถึงซึ่งความตายทุกขณะ จักไม่ตาย (แม้กายดับ จิตไม่ดับ จิตมีที่ไปดี)

    - อาหาร ระยะเวลาเกิด ตรงกับพุทธพยากรณ์ที่เคยมีการแชร์เป็นประจำ ให้เตรียมเสบียงอาหารให้ได้มากกว่า ๑ เดือน โดยเฉพาะ เกลือ ด่างทับทิม ข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรคทั่วไป ยารักษาแผลสด แผลผิวหนังพุพอง

    -สถานที่ อย่างที่บอก ท่านควรเข้าหาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ฯ เพราะนี้คือหนทางหนึ่งในการอยู่ได้ ซึ่งต้องอยู่ได้ด้วยใจและกายเดินไปพร้อมกัน หากกายเดินอย่างเดียว สภาพจิตใจท้อถอย กายคงไร้วิญญาน
    อีกทั้ง การอยู่กับผู้นำหลักที่มีอริยะวินัย อริยะศีล องค์ท่านย่อมมีบริวาร ช่วยกันสอดส่องภัยที่จะมาเยือนได้ง่ายกว่า แยกไปอยู่ครอบครัวเดียวโดดๆ

    wmt ขอน้อมใจเผยแพร่บทความนี้เป็นธรรมทาน
    การแสดงความคิดเห็นของท่าน ถ้าพิมพ์ตอบก้าวล่วงถึงพระภิกษุองค์ใด กรรมนั้นจะติดตามไปทุกภพชาติ

    สิ่งที่บอกเหตุว่าด้วยภัยธรรมชาติ ประกอบด้วย
    ๑.ภัยธรรมชาติแท้ๆ ลมฟ้าอากาศแปรปรวน หนาวเกิน ร้อนเกิน แผ่นดินขยับ คลื่นยักษ์
    ๒.ภัยธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ มาจากอารมณ์โกรธ /รัก/โลภ/กลัว
    ๓.ภัยธรรมชาติจากเชื้อโรคที่เติบโตด้วยของเน่าเหม็น


    จากมหาภัย ๓ อย่างข้างต้น ให้สังเกตุสิ่งที่จะบอกเหตุล่วงหน้าให้ค้นดูกระทู้ต่างๆ ของเว็บนี้ ให้ไปหาอ่านของ หลวงปู่สัง.../ ของปู่ฤษีบัว.

    เวลายังมี โดยความเชื่อส่วนตัวของ wmt จากการฟังเมื่อวานนี้ มั่นใจว่าเวลายังมีให้เตรียมตัวอีกอย่างน้อย เป็นปีๆๆ

    ขออนุโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015
  5. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    เรียนรู้เรื่อง สติ พื้นฐาน เตรียมรับมหาภัย full big

    พลังสติ  หมายถึง  สภาวะที่จิตใจของคนเราเป็นหนึ่งเดียวในการจดจ่อกับ
    สิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

    สติ   คือ   ความรู้สึก,  ความรู้สึกผิดชอบ,  ความระลึกได้    
    (ถ้าจะให้เข้าใจได้ง่าย  หมายถึง   นึกได้  ระลึกได้  ไม่ลืม  ไม่เผลอ)  

    มักจะใช้คู่กับคำอื่น  ที่รู้จักกันดี  ได้แก่
    สติปัญญา         สติใช้คู่กับปัญญา  หมายถึง  ปัญญารอบคอบ   
    สติสัมปชัญญะ   สติใช้คู่กับสัมปชัญญะ  หมายถึง   ความระลึกได้และ
                            ความรู้ตัว,  ความรู้สึกตัวด้วยความรอบคอบ

    เราเคยเป็นบ่อยหรือไม่  เมื่อเรากำลังทำภารกิจใดอยู่  เช่น  กำลังเรียนหนังสือ  
    กำลังทำงาน  กำลังประชุม  กำลังเล่นกีฬา  เป็นต้น  แต่จิตใจเราจะล่องลอยไป
    เรื่องอื่น ๆ   สภาวะเช่นนี้แหละเป็นสภาวะที่เราไม่ค่อยมีสติ

    คนเราพอจะแบ่งออกได้ เป็น 3 ประเภท ตามระดับของพลังสติ

    1.  คนที่มีพลังสติน้อย    คนประเภทนี้ มักจะควบคุมจิตใจของตนเองไม่ค่อยได้
    มีสมาธิสั้น  มีความสามารถในการควบคุมจิตใจของตนเองให้จดจ่อกับภารกิจใน
    ปัจจุบันได้น้อย  มักปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปกับเรื่องในอดีต หรือในอนาคต
    เสมอ  ควบคุมความคิดของตนเองไม่ค่อยได้  สิ่งเร้ารอบตัวมีอิทธิพลต่อจิตใจและ
    อารมณ์ของคนประเภทนี้มากที่สุด

    2.  คนที่มีพลังสติค่อนข้างดี   หรือมีสมาธิค่อนข้างสุง  มีความสามารถในการ
    ควบคุมจิตใจของตนเองให้จดจ่อกับภารกิจที่ทำในปัจจุบันได้ค่อนข้างดี  
    สามารถควบคุมความคิดของตนเองให้คิดในเรื่องที่ควรคิด (คิดในเรื่องที่จะทำให้
    จิตใจเบิกบานสดใส)  และไม่คิดในเรื่องที่ไม่ควรคิด (คิดในเรื่องที่จะทำให้จิตใจ
    เศร้าหมอง)  ได้อย่างดี   สิ่งเร้ารอบตัวมีอิทธิพลต่อจิตใจและอารมณ์ของคน
    ประเภทนี้น้อยกว่าคนประเภทแรกมาก

    3. คนที่มีพลังสติดีมาก   มีสติหรือมีสมาธิสูง  สามารถควบคุมจิตใจของตนเอง
    ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถควบคุมจิตใจของตนเองให้จดจ่อกับภารกิจที่ทำ
    ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเป็นระยะเวลานาน  สามารถควบคุมจิตใจตนเอง ให้อยู่ เหนือสิ่งเร้ารอบตัวที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเรา ให้หันเหออกไปจาก สิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี  เช่น  ดูหนังสือได้อย่างมีสมาธิ ในขณะที่คนรอบข้างคุยกันเสียงดังอย่างสนุกสนาน  ไม่ทานอาหารที่เป็นโทษ ต่อร่างกายทั้ง ๆ ที่เพื่อนทุกคนในโต๊ะอาหารกำลังทานอาหารนั้น อยู่อย่าง เอร็ดอร่อย  เป็นต้น  


    ความจริงทุกคนมีสติด้วยกันทุกคน จะต่างกันก็แต่เพียงว่า บางคนได้รับการฝึกฝน
    ในเรื่องนี้มามากก็มีสติสูง  บางคนได้รับการฝึกฝนในเรื่องนี้มาน้อยก็เป็นคนที่ไม่
    ค่อยมีสติ  

    คนที่มีสติสูงก็จะมีความรู้สึกตัวสูงทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ  สามารถควบคุม
    ทุกอิริยาบถของชีวิตได้อย่างเหมาะสม  เช่น  การนั่ง  ยืน  เดิน  วิ่ง  เป็นต้น
    บุคคลเหล่านี้จะมีบุคคลิกภาพที่สง่างาม  สำรวม  สามารถควบคุมพฤติกรรม
    ของชีวิตของตัวเองได้   


    สติจึงเปรียบเหมือนหางเสือของชีวิตที่คอยควบคุมชีวิตของคนเราให้เดินไปตาม
    ทิศทางที่เรามุ่งหมายได้อย่างรวดเร็ว แน่นอน และมั่นคง

    การฝึกสติหรือฝึกสมาธิจึงเป็นความจำเป็นพื้นฐานในการพัฒนาของทุกเรื่องใน
    ชีวิตของคนเรา

     

    วิธีทดสอบสติแบบง่าย ๆ

    1.  ลองถามตัวเองดูว่า  รู้หรือไม่ว่าตอนนี้เรากำลังหายใจเข้าหรือออก
         ถ้าไม่รู้ต้องหยุดคิด  แสดงว่ายังไม่มีสติเท่าไร   เรามักไม่ค่อยรู้ทัน
         ลมหายใจของเรา  ลืมลมหายใจกันเป็นส่วนมาก

    2.  ดูสิ่งกระทบ ว่าจิตใจเราหวั่นไหวหรือไม่  มากน้อยแค่ไหน  มีความฉับไวใน
         ความคิดหรือไม่  หากเกิดอารมณ์ขึ้น  เรารู้ทันอารมณ์หรือไม่  
         หากเราไม่หวั่นไหว  ไม่มีอารมณ์ ไม่เสียใจ  ไม่ดีใจ   มีแต่ความสงบ 
         วางเฉย   นั่นหมายถึง จิตมีสติ  ไม่มีการปรุงแต่งอารมณ์

    3.  คนที่มีอารมณ์มาก  แสดงว่า  สติอ่อน   คนที่มีอารมณ์น้อย  แสดงว่า
         สติมาก   คนที่โกรธแล้วหายไว  แสดงว่า  สติมาเร็ว   แต่ถ้าโกรธแล้ว
         ค้างอยู่นาน  แสดงว่า  สติมาช้า

    4.   ดูพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต  ว่า  คิด  พูด  ทำ   เป็นสาระมากน้อย
          เพียงใด   ถ้าสติมาก  ชีวิตก็จะเป็นสาระมาก   ถ้าสติน้อย  ชีวิตก็จะเป็น
          สาระน้อยไปด้วย

    5.   นับลมหายใจ  คนที่สามารถนับลมหายใจเข้าออกลึก ๆ  ของตัวเองได้ 
          นับ  1 - 20   (หายใจเข้า  1 ครั้ง และหายใจออก 1  ครั้ง  นับ 1)  อย่าง
          ต่อเนื่อง  โดยไม่ลืมหรือไม่คิดถึงเรื่องอื่นเลย  จัดได้ว่าเป็นคนที่มีสติดี

    6.   คนที่พอหัวถึงหมอน  ก็นอนหลับแล้ว   เป็นคนที่มีสติดี 


    ประโยชน์ของสติ

    1.  ทำให้เป็นคนสงบเย็น  เพื่อน บริวาร และบุคคลอื่น  อยากเข้าใกล้
    2.  ทำให้ความจำดี ไม่ค่อยลืมอะไรง่าย
    3.  ทำให้เป็นคนมีจิตใจดี  กินได้ นอนหลับ
    4.  ทำให้ชีวิตมีความสุข  เพราะสติจะช่วยหยุดการกระทำที่ไม่ดี 
         ระงับกิเลส  และอกุศลไม่ให้เกิดขึ้นในใจ
          

    วิธีเพิ่มพลังสติให้กับตนเองแบบง่าย ๆ  ใช้กับชีวิตประจำวัน

            1.    ให้เฝ้าติดตามดูจิต รักษาอารมณ์ให้พอดี ๆ  ตามหลักทางสายกลาง
                   เมื่อกระทบกับอารมณ์ที่ทำให้ไม่พอใจ หรืออารมณ์ที่ทำให้พอใจ
                   พยายามรักษาใจให้เป็นปกติ  ไม่แสดงออกจนเกินไป

            2.    ฝึกหัดหายใจให้ยาวขึ้นกว่าปกติ  การหายใจยาว แสดงถึง ความมี
                  สุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดี  และจะทำให้รู้สึกตัวชัดเจน 
                  ทั้งยังช่วยให้จิตใจสงบ  ร่างกายสบาย

            3.    คิดดี  พูดดี  และทำดี  อย่างมีสติ และมีสาระ  คือ  คิดให้รอบคอบ 
                   คิดให้ดีก่อนที่จะพูด  และคิดให้ดีก่อนที่จะทำ

            4.    ช่วงเวลาก่อนนอน  10-20  นาที  ควรจักทบทวนชีวิตตั้งแต่ตื่นนอน
                  ในตอนเช้าเป็นต้นมา  จนถึงเวลานี้  มีเรื่องที่ทำให้เราพอใจ และไม่
                  พอใจอะไรบ้าง  ที่มากระทบอารมณ์ของเรา  ให้ตั้งสติทบทวนดู  เพื่อ
                  จะได้เป็นบทเรียนไว้แก้ไขปรับปรุงตัวต่อไป ไม่ให้ผิดพลาดอีก  แล้ว
                  พยายามปล่อยวางเสีย  เพราะอดีตผ่านไปแล้ว  แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

            5.   ก่อนนอน  จะนั่งหรือจะนอนก็ได้  นับลมหายใจเข้าออก โดยหายใจ
                  ลึก ๆ  นับ 1 – 20   (หายใจเข้า  1 ครั้ง และหายใจออก 1  ครั้ง 
                  นับ 1 ในใจ)  อย่างต่อเนื่อง  หากลืมไม่รู้นับถึงไหนแล้ว  
                  ให้ขึ้นต้นใหม่    ทำ 3  รอบติดต่อกัน  (หากทำไม่ได้ ก็ทำเท่าที่
                  ทำได้      และวันต่อไปให้พยายามทำใหม่)   (จะทำเวลาเครียด  
                  หรือเวลาอื่นใดตามสะดวกก็ได้)

            6.   หมั่นนั่งสมาธิเป็นประจำ  จะช่วยให้ใจสงบ  และเพิ่มความมีสติระลึกรู้
                  ได้เป็นอย่างดี

    จงหมั่นฝึกฝนเจริญสติบ่อย ๆ  ก็จะเป็นการเพิ่มพลังสติให้กับตัวเอง 
    ไม่นานนักแล้วท่านจะพบว่า  ท่านจะมีพลังสติเพิ่มขึ้นมากทีเดียว 
    _________________________
    เครดิตบทความ จาก บล็อคโอเคเนชั่น
    -------------------------

    สำหรับท่านที่ไม่เคยฝึกสติ ทำสมาธิบำเพ็ญภาวนา เมื่ออ่านบทความข้างต้นนี้จบแล้ว จะได้วิเคราะห์ตัวเองถูกว่า จะฝึก ส ติ ต่อไปอย่างไร จากปกติที่ ต่างคน ก็มีสติพื้นๆกันอยู่แล้วทุกคน

    ลองอ่านหลายๆรอบ แล้วท่านจะเข้าใจ เพื่อน้อมใจเอาไปปฏิบัติต่อในภาคของผู้ปฏิบัติธรรม โดยการฝึกสติ หรือ เรียกว่า การปฏิบัติธรรม (ธรรมชาติ) เพื่อให้จิตของใครของเรา มีสติเป็นเครื่องคุ้มกัน เป็นตัวแผดเผา ให้จิตสงบระงับจากนิวรณ์ที่ผูกรัดด้วยอาการของอารมณ์เร่าร้อน ที่มี โลภะ โทสะ โมหะ เป็นฐานของจิตระดับปุถุชนทุกคน

    เมื่อปฏิบัติได้ในแต่ละขั้น จิตที่มีสติคุม จะก้าวขึ้นไปตามลำดับ ซึ่งท่านจะรู้สึกภายในใจได้ด้วยตนเอง จากจิตที่ใหม่ๆรู้สึกแข็งกระด้าง จิตจะค่อยๆอ่อนลง น้อมลง เย็นลง ถึงในส่วนลึกของใจ (จิต) ถึงตอนนี้ จะรู้ได้ถึงความชุ่มเย็นจากภายใน เอ่ยวาจาแต่ละครั้ง สติจะคุมจิตให้นึกคิดก่อนพูด พูดแล้วน้ำเสียงจะชุ่มเย็น อ่อนนุ่ม ถึงกายภายนอกจะอ่อนน้อมถ่อมตัว

    ใครเห็น ใครสนทนาพาทีด้วย ก็เป็นที่เคารพเกรงใจ แม้เทวดาก็เคารพสรรเสริญ ชื่นใจแล.....
     
  6. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    สาธุค่ะ (ลูกศิษย์ของหลวงปู่สมชายเหมือนกันค่ะ)
     
  7. aoirata

    aoirata Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +91
    หลวงปู่สัง หมายถึงหลวงปู่สังข์ที่เชียงใหม่รึปล่าวคะ
    แล้วมหาภัย full big จะเกิดหลังสงครามโลกใช่มั้ยคะ
    งั้นก็คงราวๆ 2561-62 ประมาณนั้นมั้ยคะ ขอบคุณสำหรับธรรมทาน และเรื่องราวต่างๆ
    ที่นำมาบอกกล่าวเสมอค่ะ
     
  8. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    การสนทนาธรรม ที่ฟังแล้วหดหู่ใจเป็นครั้งที่ ๒

    ความหดหู่ใจครั้งแรก เกิดขึ้นราวปี ๒๕๕๑ เมื่อรับรู้ข้อมูลจากศิษย์บรรพชิตท่านหนึ่งไม่นาน ได้มีโอกาสติดตามครูอาจารย์ที่เข้าไปนิมนต์ในกรุงฯ วันนั้นจำได้ว่า ขณะรถวิ่งบนโทลเวย์จากชลบุรี เข้าบางนา สายตาของ wmt ได้มองไปยังฝั่งซ้ายไม่คลาดสายตา พลันนึกในใจถึงเรื่องราววิบัติภัยที่รับรู้ ความสลดหดหู่ใจก็บังเกิดขึ้นในชั่วขณะนั้น โอ้หนอ ประชาชนผู้ไร้เดียงสา ไม่รู้เหตุ ไม่รู้ผล ต่างก้มหน้าหากินตามกำลัง

    wmt ยังคงยืนยันถึงมหาภัย full big ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน และขอยืนยันอีกครั้งและหลายๆครั้ง ให้เตรียมหากลุ่มซึ่งมีแนวทางชดเจนเพื่อเตรียมรับสถานะการณ์ในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เช่น กลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมต่างๆ อย่าอยู่อย่าหนีแบบโดดเดี่ยว การอยู่เป็นกลุ่มสามัคคีจะรักษาคุ้มครองชีวิตท่านได้ การเตรียมอาหาร ยารักษาโรคสมุนไพร ย่อมดีกว่า หาเองอยู่เอง คนเรือนหมื่นเรือนแสนเดือดร้อน ลูกมีเมียมี พ่อมีน้องมี คนไหนเจ็บคนไหนหิว ทำได้ก็ต้องทำแม้จะเบียดเบียนชีวิตคนอื่น ครอบครัวอื่น มันจำใจ มันจำเป็น ทำไม่ได้ก็ต้องตายไปฝ่ายหนึ่ง



    ภัยพิบัติแท้จริงแล้ว เกิดจากโลกร้อนส่วนเสี้ยว แต่ที่หนักกว่า คือเกิดจากโทสะของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่จ้องจะราวีห้ำหั่นด้วยอาวุธพลานุภาพ

    หาให้เจอ ขออวยพรท่านที่สนใจภัยพิบัติหาให้เจอ หาสายบารมีให้เจอ สายบารมีคือ กลุ่มปฏิบัติธรรม กลุ่มสายบารมีจะเป็นเกราะให้ท่านผ่านพ้นสัจธรรมนี้ไป

    ขอให้โชคดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ?????

    ขออนุญาตครับ

    แค่ใครทำอะไร ทำที่ใหน ทำเมื่อไร ทำอย่างไร?

    ก็อ้ำๆอึ้งๆ ปิดๆบังๆ

    หรือละไว้ในฐานที่เข้าใจ (คนเดียวและพวกพ้อง)

    ตกลง ท่าน จขกท จะเขียนกระทู้เพื่ออะไร?

    แล้วใครๆจะเข้าใจ อะไรๆ ได้อย่างไร?

    หรือมีแต่คนรู้ แต่ทั้งไม่แก้ ทั้งไม่รู้วิธีแก้

    แล้วจะให้ผมโมทนาบุญกับส่วนใหนล่ะ

    เสียดายแย่เข้ามาอ่านแล้วไม่ได้อะไร?

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2015
  10. izeberry

    izeberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +1,482



    คุณ wmt พูดไปเลย วกไป วนมา

    เปลี่ยนกระทู้ไป เปลี่ยนทู้มา เวียนหัว

    แล้ว ก้อ พูด มา ที่ จุด เริ่มต้น ที่เดิม....???

    พูดไปให้รู้แล้ว รู้รอด...555
     
  11. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    คุณ wmt เอาให้กระจ่างไปเลยซี้ ชี้จุดชัดๆ

    ลุงมหา จะได้เตรียมป้องกันได้ถูกจุด

    คนที่อยากจะให้ภัยพิบัติเกิด ก็อยากจะให้เกิดเต็มที

    คนที่เตรียมป้องกัน ก็จะได้เตรียมป้องกัน เอาล่ะวุ้ย!! แล้วมันจะเกิดได้ยังไง :'(

    เห้อ..!! โลกมนุษย์ช่างสับสนจริงๆ วุ่นวายจริงหนอ

    ดูหนังเรื่องนี้ดีกว่า ได้อรรถรส ของความเป็นมานุษย์กว่ากันเยอะ

    เน้นย้ำ..!! ต้องดูให้จบหนาา ไม่งั้นจะไม่ได้อะไรหลายๆอย่าง

    คิกๆ : Aftershock 1976 มหาภิบัติสิ้นแผ่นดิน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2015
  12. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    ล ด หรือ เ พิ่ ม

    " ภัยพิบัติแท้จริงแล้ว เกิดจากโลกร้อนส่วนเสี้ยว แต่ที่หนักกว่า คือเกิดจากโทสะของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่จ้องจะราวีห้ำหั่นด้วยอาวุธพลานุภาพ "

    มีเพื่อนสมาชิก PM มาหลายท่าน ก็ต่างเข้าใจในเนื้อหาที่ตั้งกระทู้ไป หลายตอน หลายแบบ จับจุดได้ จับจุดถูกว่าอะไรคืออะไร เนื้อหาอาจจะดูวกวน แต่แล้วมันก็คือข้อมูลที่ wmt พิจารณาแล้วว่า การบอกกล่าวต้องมีบรรทัดฐาน เอ่อ ! ฟังเขาพูดมาแล้วจะมาระบายโดยขาดหลักฐานทางรูปธรรม คือ ต้องสัมผัสข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วย

    ธรรมชาติทุกอย่าง มันมีคู่ของเขาอยู่แล้ว ใช่ว่าจะเกิดขึ้นมาลอยๆ มันไม่มีเหตุบังเอิญหรอก

    ภัยพิบัติที่พูดกันมากมายทั้งที่พูดสนทนากันต่อหน้า หรือ ในโซเซียลต่างๆ จะเริ่มจับประเด็นกันตรงไหนล่ะ เพราะเหตุของประเด็นขึ้นต้นบางข้อมูลก็เข้าขั้น รู้เห็นกันอยู่มากมาย

    สิ่งที่ wmt พยายามชี้นำ อาจทำให้หลายท่าน อ่านแล้วรู้สึกถึงว่า ลด หรือ เพิ่ม ๆ ความน่าเชื่อถือ หรือ ลด ความน่าเชื่อถือ ก็แล้วแต่ท่านจะคิด เพราะว่า ถ้าสายบารมีเดียวกันแบบปุถุชน อธิบายมาขนาดนี้ ก็น่าจะเห็นแนวทางแล้ว

    คำเฉลยต่างๆ มันก็อยู่ที่ตัวหนังสือในนี้ เช่น

    " ภัยพิบัติแท้จริงแล้ว เกิดจากโลกร้อนส่วนเสี้ยว แต่ที่หนักกว่า คือเกิดจากโทสะของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่จ้องจะราวีห้ำหั่นด้วยอาวุธพลานุภาพ "

    คือองค์ประกอบของภัยพิบัติธรรมชาติ มันไม่ใช่อยู่ดีๆมันจะเป็นเอง มันต้องถูกแรงกระทำบางอย่างหนักหน่วงเข้ามา ซึ่งมีทั้งในมิติของอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงทีละน้อยจากอดีตจวบปัจจุบันเหมือนน้ำซึมบ่อทราย รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติแบบสิ้นเปลือง เช่น การดำเนินงานเรื่องพลังงาน ขุดเจาะ น้ำมัน ก๊าซ แต่อีกบริบทหนึ่ง คนเราทั้งหลายนี่แหล่ะ โดยเฉพาะผู้มีมหาอำนาจที่ไปเร่งกระบวนการทางธรรมชาติในทางอ้อม เช่น การทดสอบทดลอง อาวุธพลานุภาพ

    เมื่อทุกอย่างถึงจุด จุดในที่นี้ คือ จุดที่ทำให้โลกใบนี้สั่นคลอนมากกว่าครั้งที่แล้ว ทั้งสงครามยิบย่อย หรือ สงครามใหญ่ๆ ความร้ายแรงสมัยนั้น ย่อมเทียบกันไม่ได้กับอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ทรงพลัง ภัยพิบัติในอนาคตนี้ จึงน่าระวัง เพราะองค์ประกอบของเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อไป มันมีที่มาที่หากถึงจุดๆหนึ่ง เปรียบเหมือน การรับแรงดันของถังก๊าซ หากตะบี้ตะบันอัด ไร้การควบคุม ถึงคราวที่มันระเบิด ใครอยู่ใกล้ คงได้รับผลกระทบมหาศาล


    สิ่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งฆราวาสและบรรพชิต พยากรณ์ออกมาด้วยธรรมของคุณธรรมภายใน ที่สามารถเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เป็นร้อย เป็นพันปี ทั้งนี้ คุณธรรมที่ได้ ในแบบโลกุตตระธรรม จึงน่าเชื่อถือกว่า แบบโลกียะธรรม ซึ่งผู้ปฏิบัติปุถุชนอย่างเราๆท่านๆ หากไม่เข้าใจแล้ว จะหลงประเด็น วนเวียนอยู่ว่า มันไม่มีหรอก มีแต่น้ำ ไม่มีสาระ บางท่านก็เที่ยวโพสดูถูกดูแคลน อันนี้ก็คงว่ากันไม่ได้ เพราะเป็นเว็ปสาธารณะ แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงของโลกธรรมชาติ จะต้องดำเนินต่อไป ตามสัจธรรม ธรรมที่ถูกกำหนดแล้วด้วยกรรม = การกระทำของทุกคนที่มีค่าเวลาของชีวิต เท่ากัน ๒๔ ชั่วโมง

    เวลา ๒๔ ชั่วโมงนี้ เป็นของทุกคนบนโลก แตกต่างกันไปตามกำลังบุญวาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ประเทศที่สมควร สัปปายะ ๔ ที่งอกงาม เขตใดๆบนโลกที่นอกเหนือจากนี้ ต่างประสบทุกข์ร้อนความสบายต่างกันตามอัตภาพ เพราะการกระทำ = กรรมที่ส่งผลมาจากอดีตชาติ

    ถึงวันหนึ่งข้างหน้า ไม่กี่ปีนับจากนี้ ผู้แพ้ผู้สูญเสียจะมีมากมายเหลือคนานับ ไม่เว้นแม้ประเทศไทย ซึ่งหากว่ากันตามพุทธพยากรณ์ ฉบับไทยๆ ทุกสำนักเห็นเหมือนกันว่า

    คนบุญ เท่านั้นที่จะรอด และรอดมากกว่าประเทศอื่นเมืองอื่น

    การที่เราๆ ท่านๆจะรอด ก็ทำตามในสิ่งที่ครูอาจารย์ฯทั้งหลายแนะนำกันไว้แล้วมากมาย คือ การเข้าถึงธรรม บำเพ็ญภาวนา สำหรับปุถุชน คือ การหมั่นทำบุญตามกำลัง + ถือศีล ๕ ให้บริบูรณ์

    สำหรับมุมมอง ของ wmt คือ ท่านต้องไม่อยู่โดดเดี่ยว ต้องไขว่คว้าหากลุ่มปฏิบัติธรรม หาผู้นำสายบารมีให้เจอ เจอแล้วหมั่นไปประชุมบุญ
    หาทางหนีทีไล่ไว้ นัดกันไว้ในกลุ่ม เกิดฉุกเฉินขึ้นมา คือมาเจอกันที่นี่สถานที่นี้

    ในระหว่างปีสองปีสามปี นับจากนี้ หมั่นหาข้อมูลการดำรงชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อ หรือ หัดอดหลายๆมื้อ กินมื้อเดียว เช่น การดำรงชีวิตแบบพระสายปฏิบัติ คือ ฉันวันละมื้อ อดนอนผ่อนอาหาร เริ่มชินกับมื้อเดียว เริ่มอดสักวันเว้นวันค่อยกินมื้อต่อไป นี้คือ การฝึกเตรียมร่างกายโดยมีใจศรัทธาต่อคำว่า กูต้องรอด

    รู้จักที่จะเรียนรู้การอยู่กับธรรมชาติแท้ๆ แบบผีตองเหลือง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอะไรเลยให้ชีวิตสะดวกสบายเหมือนตอนนี้

    ให้เตรียมทำสุขภาพให้ถึงพร้อม เช่น ลดการกินเนื้อ กินจุบจิบเพื่อ ลดความเสี่ยงต่อโรคาพยาธิที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ฟันซี่ไหนไม่ดีถอนออกซะ วันหน้าหากหลังภัยฯ จบลงป่วยเรื่องฟันขึ้นมา โอ่ ! ไม่อยากนึกจะทรมานขนาดไหน

    เตรียมศึกษาวิธีใช้พลังทางเลือก ทำเป็น ซ่อมเป็น เช่นทำเตาชีวมวลด้วยดิน ก้อนหิน ทำเทียน หล่อเทียนให้เป็น

    เรียนรู้ยาสมุนไพรพื้นฐาน - ขั้นสูง เช่น ยารักษามะเร็งผิวหนัง

    เตรียมหาอะไรๆ ที่จำเป็นแก่การดำรงชีพของกลุ่ม โดยงดความสะบายออกทั้งหมด ให้เหลือคงแต่ความสะดวกพื้นฐาน เช่น การก่อไฟ จะมานั่งเอาหิน หรือ ไม้ ถูกันจะไหวไหม ให้เตรียมแท่งแมกนีเซียมกันฝนกันน้ำไว้

    ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางที่เพิ่มให้ท่านที่สนใจพิจารณากันตามอัทธยาศัย

    ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แล้วแต่บุญวาสนา ที่สำคัญที่สุดเน้นเลย ต้องจับกลุ่มให้ได้เป็นชุมชนที่เห็นเหมือนกัน ทิศทางทัศนคติเดียวกันให้ได้ ข้าวสาร ข้าวตาก เกลือ ด่างทับทิม เตรียมไว้

    โชคดีจงเป็นของทุกท่าน ขอให้ทุกท่านสมหวังง
     
  13. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เฮีย..!!

    ทำไมแนะนำอย่างนั้น ฟันซี่ไหนพอที่จะอุดได้ก็ควรอุด

    มีตังค์หน่อย ครอบฟันได้ก็ควรครอบ เพื่อรักษารากฟันไว้

    สิ่งใดควรอนุรักษ์ไว้ก็ควรจะอนุรักษ์

    สิ่งใดที่ควรจะถอนให้สิ้น ก็ควรจะทำลายให้หมดซาก

    ฟันแท้ๆ หากถอนให้สิ้น จะเหลือแต่ หงำเหงือก..!!

    ฮานามิ จะไม่อร่อยเอาน๊าาา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2015
  14. เห็ดถอบ

    เห็ดถอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +300
    ขอสรุปตามที่เข้าใจเป็นข้อๆน่ะครับจขกท.ช่วยตอบด้วยว่าผมเข้าใจถูกมั้ย
    ๑.จะเกิดสงครามจากประเทศมหาอำนาจเนื่องด้วยการแย่งทรัพยากรธรรมชาติ
    ๒.จะเกิดภายใน๓-๕ปี นับจากปี๒๕๕๘เป็นต้นไป
    ๓.ให้เตรียมพร้อมทั้งกายทั้งใจเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ
    ปล.ถ้าเกิดสงครามแบบนั้นจริงๆผมว่าตายๆซะยังจะดีกว่าที่ต้องมาผจญชะตากรรมที่เลวร้ายอย่างกะนรกบนดิน
     
  15. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    ถ้าเข้าใจประวัติศาสตร์โลก คุณจะเข้าใจสัจธรรม

    สัจธรรม แยกคำได้เป็น สัจ แปลว่า ของจริง ธรรม หมายถึง ธรรมชาติ ที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดไป

    เชื่อว่าผู้ที่สนใจเว็บพลังจิต ล้วนแต่มีการศึกษา ลองทำความเข้าใจอ่านประวัติศาสตร์โลกดูบ้าง แต่ละยุคสมัย ล้วนมีความเจริญและความเสื่อมเป็นของคู่กันมาทุกยุคสมัย

    ไม่มีความคงทนถาวรเลยว่า ยุคไหนๆจะเจริญอย่างเดียว หรือ เสื่อมสิ้นอย่างเดียว ในความเจริญย่อมมีความเสื่อมเล็กๆก่อขยายตัวซ่อนอยู่ ตรงกันข้ามความเสื่อมก็เช่นกัน

    กรณีเหตุ สงครามดังๆสมัยก่อน ก็คือจุดเสื่อมทั้งนั้น เพราะฤทธิ์ที่มีแต่ผลทำลายไม่มีผลต่อความเมตตาสักนิด ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า กรณี ww2 ที่ญี่ปุ่นแพ้ ถึงจุดหนึ่งก็กลับมายิ่งใหญ่ได้ด้วย เหมือนกัน หลายประเทศที่ผ่านร้อนหนาวร่วมสงครามมาด้วยกัน ก็กลับเจริญขึ้นตามเหตุและผล

    โลกเราทุกวันนี้ ผ่านร้อนหนาว แย่งชิงอนานิคม ทรัพยากร ถึงจุดหรือเลยจุดแห่งความพอดีมาแล้ว คือเรียกว่า สงบสุขมาเป็นเวลานานหลายสิบปี หรือ เกินครึ่งร้อยปีก็ได้ ความสงบไม่จีรังหรอก สักวันหนึ่งวันหน้า ความไม่พอดีของคนที่มีอำนาจ เกิดตบะแตกขึ้นมา ความสงบจะมาจากไหนเล่า โลกมีธรรมอยู่ ๓ อย่าง ธรรมของผู้มีอำนาจ ๑ ธรรมกลางๆ ๑ ธรรมน้อย ๑ เมื่อธรรม ๓ อย่าง จูนไม่ตรงกัน

    ประวัติศาสตร์โลกจะบันทึกเพิ่มขึ้นมาได้อีกว่า พ.ศ. นี้ หรือ ค.ศ.นี้ โลกเผชิญชะตากรรมดีหรือไม่ดีอย่างไรบ้าง

    ตามบันทึกประวัติศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๙๐ - ๒๕๕๘ วันนี้โลกคือยุคปลอดภัยเป็นส่วนมาก แต่ใช่ว่ามันจะจีรังยั่งยืน เทคโนโลยี่+ความสมัยใหม่ได้ประเคนให้คนส่วนมากสุขสบายเลยจุดพอดีและพอเพียง เมื่อทุกอย่างมันไม่คงทนถาวรตามหลักสัจธรรม อะไรที่ไม่ดีต่อคนทั้งโลกก็จะเกิดตามมาซึ่งเป็นมาแล้วทุกยุคในอดีต

    ประวัติศาสตร์มีให้เรียนรู้ เกิดมาแล้วควรเข้าใจชีวิต ไม่ใช่ร้องแรกรู้อะไรแล้วก็กลัวต่อการมีการเป็น

    ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ปัญหามันเกิดกับตัวเรา และมันจะเกิดกับทุกคน หาวิธีบริหารเวลาตามที่ หลายกระทู้หลายท่านก็แนะไว้แล้ว อ่านแล้วศึกษาแล้ว ก็ลงมือทำ ใช่แต่จะวิ่งหนีลูกเดียว และอย่าได้เที่ยวไปโทษดวงชะตา เพราะ สัจธรรมเป็นของคู่กันกับทุกท่านและสรรพสิ่งบนดาวโลกดวงนี้

    wmt ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้

    ความเกี่ยวข้องและการเผยแพร่ข้อมูลต่อกันขอจบเพียงนี้
    ----------------
    บุญกุศลใดที่เจตนาดีแล้ว ขอบุญส่วนนั้นจงถึงแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังอยู่และล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว ถ้าหากว่าสรรพสัตว์เหล่านั้นยังไม่ทราบข่าวสารนี้ ขอฝากข่าวสารนี้แด่เทพเจ้าทั้งหลาย มีรุกขเทวดา ภุมมะเทวดา และ อากาศเทวดาเป็นต้น จงนำข่าวสารนี้ไปแจ้งแก่สรรพสัตว์เหล่านั้น จนกว่าจะได้รับทราบ เมื่อทราบแล้วจงอนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว หากยังตกทุกข์ได้ยาก ขอให้พ้นจากทุกข์ เมื่อมีความสุขแล้วขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ สาธุ
    นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015
  16. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    โลกไม่เที่ยง = หาก ห มี รวม พ ลั ง

    " ภัยพิบัติแท้จริงแล้ว เกิดจากโลกร้อนส่วนเสี้ยว แต่ที่หนักกว่า คือเกิดจากโทสะของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่จ้องจะราวีห้ำหั่นด้วยอาวุธพลานุภาพ "

    แม้หมียักษ์ขาวจะถูกต้อน ถูกฮุกซ้าย ฮุกขวา ต่อยบน เตะแม้กระทั่งใต้เข็มขัด แต่เกมส์นี้เปรียบเหมือนมวยปล้ำแท็กทีม ที่ไร้กติกา ไร้จริยธรรม ความบอบช้ำทางเศรษกิจที่พี่หมียักษ์ขาวตอนนี้ หืดขึ้น

    ทีมแท็ก แท็กทีมที่คอยช่วยเหลือเงียบๆ น้องหมีแพนด้า กำลังรอจดๆจ้องๆ หากพี่หมียักษ์ขาวส่งสัญญาน มวยนี้เป็น ม ห า ศึ ก เฮ ฟ วี่ เ ว ท โลก

    จะกลายเป็น มหากาพย์ อภิมหาสงคราม อีกหน้าหนึ่งประวัติศาสตร์โลก
    ที่ต้องบันทึกไว้ ทีมหมียักษ์ขาว+ทีมหมีแพนด้า คู่ศึกที่จะเปิดเผยตัว ต้องสมน้ำสมเนื้อ อะไรก็เกิดขึ้นได้ นับต่อจากนี้ไป........เข้าหลักสัจธรรม โลกไม่เที่ยง

     
  17. Somchatchai

    Somchatchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +203
    เจอ page ทหาร พูดถึงเรื่อง อิลลูมินาติแล้ว ทำใจรับสงครามเลยครับ ประเทศไทยคงเฉียดๆ ..การเมืองโลก แผนลดประชากรโลก https://www.facebook.com/thailandco...8177807016067/418700541630459/?type=1&theater
     
  18. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    คำพยากรณ์ หลวงพ่อใย พระสงฆ์สมัยกรุงศรีอยุธยา

    เป็นคำพยากรณ์ที่อยู่ในสมุดข่อย ที่หลวงพ่อปาน เก็บรักษาเอาไว้ต่อจากบรรพบุรุษ

    ถึงปลายรัชกาล จะเป็นถิ่นกาขาว

    ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ นี้เริ่มเห็นผลชัดมากขึ้น เพราะวิกฤติค่าเงินยูโร ตกต่ำ ฝรั่งยุโรป จึงเสาะแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ เพื่อเข้ามาพึ่งบารมีของคนบุญในประเทศไทย และนับจากนี้ไปจะเห็นมากขึ้นๆๆ บางอาชีพจะถูกฝรั่งนี้ยึดเป็นช่องทางทำกิน

    เตรียมรับมรสุมเศรษฐกิจ ได้แล้วจากปีหน้า ที่จะเปิด AEC เต็มรูปแบบ

    ถึงวันนั้น คนทั้งประเทศไทย จะรู้ว่าที่องค์จอมคนของแผ่นดินนำพาให้อยู่ได้เศรษฐกิจพอเพียง จะอยู่ได้สบายไม่เดือดร้อน

    คนไทยโชคดีที่สุด คุณผู้อ่านทุกท่าน เตรียมรับและวางแผนหรือยังจ๊ะ
     
  19. wmt

    wmt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +1,432
    คาถาศักดิ์สิทธิ์ ของพ่อแม่ครูอาจารย์ฯ เทพเจ้าทิศบูรพา

    คาถาที่ว่านี้ ตามประวัติ ที่พ่อแม่ครูอาจารย์ฯ ได้ออกธุดงค์ไปประเทศลาว และ ไปได้คาถานี้มาจากที่นั้นโดยต้องแลกเปลี่ยนด้วย " ข อ ง ดี " ชนิดหนึ่ง

    ภายหลังที่ท่านฯ ได้มาปักหลักประกาศธงธรรม เพื่อหมุนล้อเกวียนแห่งธรรมจักรให้ขับเคลื่อน เพื่ออนุเคราะห์แด่ปุถุชนที่เป็นสายบารมี และปุถุชนทั่วไปในทุกสารทิศ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


    คาถานี้ เป็นคาถาเดียวที่เด่นผงาด สง่างาม ที่พิมพ์ลงไว้ทั้งในหนังสือวินัยกรรม ซึ่งเป็นหนังสือ กฏระเบียบและข้อวัตรต่างๆ ที่ถอดแบบมาจากสมัยหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ผู้ซึ่งจะมาเข้านาคเพื่อเตรียมตัวบวช รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ต้องปฏิบัติตาม และ คาถานี้ ยังถูกพิมพ์ลงไว้ในหนังสือชีวประวัติ ของท่านฯด้วย

    จากที่ wmt รวบรวมค้นคว้า สอบถาม มีศิษยานุศิษย์หลายคนนำ ค า ถ า ไปใช้ แล้วเกิด อัศจรรย์แคล้วคลาดมานักต่อนัก

    ทั้งนี้ ค า ถ า ที่ว่านี้ ยังมีวิธีการนำไปใช้ ที่องค์ท่านฯ ได้เมตตาต่อศิษย์โดยบอกวิธีนำ ค า ถ า ไปใช้เป็นรายเฉพาะบุคคลอีกด้วย

    เพื่อนำไปปกป้อง คุ้มครอง รักษาทรัพย์สิน ยามผู้เป็นเจ้าของหลับใหล หรือ ไม่อยู่บ้านเฝ้าเรือน โดยเฉพาะถ้ามีวัตถุมงคลของท่านเก็บรักษาไว้ในบ้านด้วย เช่น ประสบการณ์ของศิษย์บางคน

    ทั้งนี้ ค า ถ า ยังนำมาปกป้องคุ้มครอง ภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะลมพายุ ได้ผลชะงัดมานักต่อนัก....

    ค า ถ า ที่ กำลังกล่าวถึงนี้ หมายถึง

    คาถา นะหิจังงัง ของ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม

    นะหิจังงัง นะบังจังนะ
    มะหิจังงัง มะบังจังมะ
    อะหิจังงัง อะบังจังอะ
    อุหิจังงัง อุบังจังอุ
    นะมะอะอุ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2015
  20. somchai_12

    somchai_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +800
    IMG_20150129_162632.jpg
    สำหรับพระเครื่องที่หลวงปู่สมชายปลุกเสก มีหลายรุ่นต่างวาระ เท่าที่เดินตามตลาดนัดพระ
    เช่น จตุจักร(ฝั่งตลาด อตก) , ตลาดกลีนไลน์(ติดกับพันธ์ทิพย์บางกะปิ) มีพระเครื่อง รุ่นต่างๆ ของหลวงปู่สมชาย มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เผื่อใครอยากได้พระเครื่องที่หลวงปู่สมชายปลุกเสก จะได้รู้ไว้เป็นข้อมูล รุ่นไหนถูกใจผมก็เช่ามาหลายรุ่น เมื่อมหาภัย full big มามีพระเครื่องห้อยคอด้วยผมว่าอุ่นใจดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015

แชร์หน้านี้

Loading...