@พระบูชา พระแก้วมรกตทรงเครื่อง หน้าตัก 5 นิ้ว 200ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ปี2525@น.5ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย punnapak, 5 ตุลาคม 2014.

  1. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    ท่านเชื่อหรือไม่ พระเครื่องทุกองค์มีเจ้าของ พระเครื่องที่นำมาให้เช่าบูชาทั้งหมดนี้ กำลังตามหาเจ้าของคู่บุญบารมี
    อธิษฐานตั้งจิตให้มั่น แล้วท่านจะพบของที่เป็นของท่าน สาธุค่ะ


    กระทู้นี้สำหรับ
    " พระบูชา รูปเหมือนเกจิอาจารย์ พระกริ่ง"
    โดยเฉพาะค่ะ

    สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆ ชาวพลังจิต ทุกท่าน เป็นสมาชิกพลังจิตมาได้สักระยะแล้วค่ะ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมากๆจากพี่ๆน้องๆชาวพลังจิตทุกท่าน ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้มาเยี่ยมชมและบูชาพระคู่บุญคู่บารมีของทุกท่านนะคะ

    รายได้ส่วนหนึ่งในการเช่าบูชาพระทุกองค์ นำไปร่วมบุญทุกบุญที่ได้ทราบมาค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
    พระ เครื่องที่นำมาให้เช่าบูชาเป็นพระของที่บ้านทั้งหมดค่ะ มาแบ่งให้ผู้ศรัทธาได้เช่าบูชากัน จึงบอกที่มาที่ไปของพระเครื่องได้ทุกองค์ค่ะ และรับประกันพระแท้ตลอดชีพ

    ขออนุญาตแจ้งรายละเอียดเล็กน้อยค่ะ

    1.ท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือต่อรองราคาได้ทาง PM หรือในเว็บบอร์ดนี้นะคะ หรือโทร 092-8789641 /
    ID Line : phare999(ไม่ใจร้ายค่ะ) ติดต่อคุณแพรค่ะ

    2.ท่านที่จองพระเครื่องไว้ รบกวนโอนเงินภายใน3วันนะคะ หากเกินกว่านั้นขออนุญาตให้ผู้ศรัทธาท่านอื่นเช่าบูชาแทนค่ะ

    3.จัดส่งสินค้าEMSให้ฟรีทุกรายการ พร้อมแพ็คกันกระแทกให้อย่างดีค่ะ
    ***บริการจัดส่งไปรษณีย์ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการค่ะ***
    4.รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ หากตรวจสอบแล้วว่าไม่แท้ ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่าย (พระต้องอยู่ในสภาพเดิมนะคะ)
    5.บัญชีโอนเงิน
    ***เมื่อทำการยืนยันการบูชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขออนุญาตแจ้งเลขบัญชีโอนเงินทางกล่องข้อความนะคะ (บางท่านโอนเงินมาก่อนการยืนยัน เพื่อไม่ให้ผิดพลาดภายหลังค้า^^)
    ขอบคุณมากค่ะ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  2. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 1 หลวงพ่อโสธรเนื้อสามกษัตริย์ ตราวัดปี 2509 ออกหลังปี 2514

    พระบูชาหลวงพ่อโสธร เนื้อสามกษัตริย์ หน้าตัก 9 นิ้ว ฐานกว้าง 13.5 นิ้ว ตราวัดปี 2509 ออกหลังปี 2514 ลายเซ็นต์ พระเทพคุณาธาร
    ใต้ฐานอุดดินไทย
    ผิวหิ้ง สวยงดงามตามพุทธลักษณะของหลวงพ่อโสธรองค์จริงค่ะ
    เช่ามาเองโดยตรงจากวัดหลวงพ่อโสธร ท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ

    **พระพุทธรูปลอยน้ำอันศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดในประเทศไทย**



    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร




    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย


    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง


    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด


    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา




    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ


    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา


    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    วัดหลวงพ่อโสธร เป็นวัดที่มีเทพเทวามาคอยปกปักษ์รักษามากที่สุดในประเทศไทยค่ะ ซึ่งทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากมายจากทั่วประเทศและต่างประเทศ มากราบไหว้บูชา ขอพรและบนบานกับหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมาก ท่านศักดิ์สิทธิ์มากๆจริงๆค่ะ



    ับประกันพระแท้ตลอดอายุพระทุกกรณี
    บูชาแล้วค่ะ โดยคุณสว่างวิชญ์ แห่งเมืองเลยค่ะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2015
  3. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 2 พระบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ จ.เพชรบรุี ปี2520

    พระบูชาหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ จังหวัดเพชรบุรี ปี 2520 ขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว ฐานกว้าง 5 นิ้ว กะไหล่ทอง งดงามมากค่ะ

    ตำนานแผ่นดิน - หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี

    วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของ จ.เพชรบุรี ภายในวัดมี พระปรางค์ห้ายอด ที่สูงโดดเด่นเป็นสง่า มองเห็นองค์พระปรางค์ได้แต่ไกล

    ภายใน พระวิหารหลวง มีพระประธานทรงราชาภรณ์ องค์รองลงมาลดหลั่นกันไป ที่สำคัญคือ ภายในพระวิหารยังเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว พระหัตถ์ซ้ายถือพัด ที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวพุทธใน จ.เพชรบุรี
    พี่น้องชาวเมืองเพชรบุรีมีเรื่องเดือดร้อนใจ หรือต้องการความช่วยเหลือ ต้องไปบนบานขอความช่วยเหลือจาก หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์วัดมหาธาตุ เมื่อประสบความสำเร็จตามที่บนบานไว้ ต้องแก้บนด้วยการ จ้างละครชาตรีหน้าพระวิหารหลวง ให้เล่นละครถวายหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
    จะสังเกตได้ว่า ถ้าเป็นชาวเพชรบุรีแท้ๆ เมื่อเข้าไปกราบไหว้พระประธานแล้ว ต้องถวายดอกไม้ธูปเทียน และปิดทองหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย ถ้าเป็นนักเที่ยวจากต่างถิ่น จะไม่รู้จักหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เพราะหลวงพ่อองค์เล็กๆ อยู่หน้าพระประธาน นักท่องเที่ยวจึงไม่รู้ว่า หลวงพ่อองค์นี้ อิทธิฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สมชื่อหลวงพ่อจริงๆ
    ผมอัญเชิญ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์รุ่นหุ้มทองคำ หน้าตัก 3 นิ้ว ไว้ที่หน้ารถ ไปถึงไหนก็รอดพ้นปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และอันตรายทั้งปวงได้ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ประสบความสำเร็จในชีวิตการงานเป็นอย่างดี แต่ถ้าใครจะไปบนขอให้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้จับได้ใบดำในการเกณฑ์ทหาร รับรองต้องได้ใบแดง ดี 1 ผลัด 1 เข้าประจำการทันที เพราะหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ชอบชายชาติทหาร และคนที่รักเทิดทูนในหลวง ที่ทรงพัฒนาเพชรบุรีให้มีต้นแบบ โครงการในพระราชดำริหลายโครงการ

    สภาพพระสวยงดงามมากๆค่ะ ผิวหิ้ง ตาลปัดสามารถถอดออกได้ บริเวณฐานมีตัวอักษรสลักทั้งด้านหน้าและหลัง

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระค่ะ
    บูชาแล้วค้า โดยคุณเมธี^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2015
  4. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 3 รูปเหมือนพระครูบรรพตวิบูลกิจ หลวงพ่อเทพ วัดเขาถ้ำรงค์

    รูปเหมือนหลวงพ่อเทพ วัดเขาถ้ำรงค์ หน้าตัก 5 นิ้ว

    ขึ้นชื่อว่าเมืองเพชร มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอยู่ทั่วทุกอำเภอ ซึ่งแต่ละท่านล้วนมีพระเครื่องดังๆ ติดอันดับความนิยมอยู่ในวงการพระเครื่องและมีประสบการณ์ที่ลือลั่นทั้งสิ้น อาทิ หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก, หลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุ, หลวงพ่อหนึ่ง วัดห้วยโรง, หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว, หลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา เป็นต้น

    "ถ้ำเขารงค์รูปช้าง ยางนาใหญ่ แม่น้ำเพชรใส หลวงพ่อเทพเลื่องลือไกล พระดำใหญ่คู่ตำบลŽ "
    นี่คือคำขวัญประจำตำบลถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ที่ปรากฏชื่อของ หลวงพ่อเทพ สิริธโร (พระครูบรรพตวิบูลกิจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำรงค์ และเจ้าคณะตำบลท่าเสน ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกับหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐŽ ท่านทั้งสองดังเคียงคู่กันมา ด้วยความที่หลวงพ่อเทพเป็นพระเก็บตัว ชอบความสงบ จึงไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่เรื่องวิชาอาคมและพระเครื่องนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันทีเดียว

    วัดถ้ำรงค์ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด ถือว่าเป็นวัดที่อยู่ใจกลางตำบล เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนส่วนมาก จึงไม่แปลกที่วัดนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่พบปะของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ย้ายไปอยู่ต่างถิ่นแล้วก็มักจะมีโอกาสได้กลับมาพบปะญาติพี่น้องที่วัดแห่งนี้ ทั้งยังเป็นศาสนสถานที่ดึงดูดใจผู้ที่ชอบเสาะหาประวัติความเป็นมาของวัด เพราะวัดถ้ำรงค์ไม่ได้มีประวัติที่ชัดเจน ไม่มีใครรู้ว่าวัดนี้ก่อสร้างแต่เมื่อใด แม้แต่เจ้าอาวาสองค์แรกมาพบวัดถ้ำรงค์ ซึ่งมีโบสถ์ วิหารพร้อมอยู่แล้ว ท่านเพียงแต่เข้าจำพรรษา

    เมื่อมองดูผิวเผินก็ดูเหมือนวัดธรรมดาที่อยู่ในท้องถิ่นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก อาจจะไม่มีโบราณสถานโบราณวัตถุที่เป็นที่ดึงใจนักท่องเที่ยว แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้ได้รับความศรัทธาเลื่อมใสจากผู้คนอย่างมากก็คือ ชื่อเสียงของหลวงพ่อเทพ
    ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติธรรม จนสามารถมีญาณวิเศษมองเห็น รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งในอดีตก็ได้ปัจจุบันก็ได้ อีกทั้งยังมีความสามารถในด้านการทำนายทายทัก ดูฤกษ์ดูยามในการประกอบพิธีการงานต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ

    เช่น การออกรถใหม่ การแต่งงาน อุปสมบท จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ทั่วทุกสารทิศ ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติธรรม เคร่งครัดในธรรม-วินัย จนสามารถมีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องต่างๆ ได้แพร่กระจายจากปากต่อปากของลูกศิษย์ลูกหาที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากท่าน จากเพียงคนเดียวก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

    เมื่อความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อเทพปลุกเสกมาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกศิษย์ลูกหา เกิดปาฏิหาริย์ให้ลูกศิษย์ได้ประจักษ์ จึงทำให้มีผู้คนที่เดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือจากท่านมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรขจายไปทั่วประเทศ

    แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว ผู้คนก็ยังมีความศรัทธาอย่างมั่นคง หลายคนไปขอให้ท่านช่วยเหลือ เมื่อได้ตามที่ขอก็จะนิยมแก้บนกันด้วยหนังตะลุงŽ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลวงพ่อเทพชอบดูเป็นที่สุด โดยเฉพาะเรื่องรามเกียรติ์Ž


    หลวงพ่อเทพ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ต.ค. 2449 ณ บ้านหมู่ที่ 4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 9 คนของนายพวง นางเภา ปานดำ เยาว์วัยได้เรียนหนังสือกับพระอธิการวัน วัดถ้ำรงค์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความรู้ในด้านต่างๆ มาก จนอ่านออกเขียนได้ตามสมัย จากนั้นก็ออกมาประกอบอาชีพทำนาทำไร่ ช่วยเหลือครอบครัวของท่านด้วยความเอาใจใส่อย่างดี ไม่เคยเกียจคร้านแม้แต่น้อย

    เรื่องการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตท่านไม่เคยคิดทำ เพราะเกรงกลัวต่อบาป อีกทั้งเรื่องเที่ยวเตร่ก็ไม่เคยไปร่วมวงกับใคร แต่กลับสนใจในวิชายาแผนโบราณ และทางด้านวิชาอาคมขลัง โดยเดินทางไปเรียนจากพระอาจารย์หลายท่านทั้งที่เป็นพระสงฆ์ และฆราวาส อาทิ หลวงพ่อบุญ วัดท่าศาลา และอาจารย์ของหลวงพ่อบุญ

    ปีพ.ศ.2469 ได้เข้าอุปสมบทที่วัดถ้ำรงค์ มีหลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เขียว วัดท่าศาลาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการวัน วัดถ้ำรงค์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่าสิริธโร
    Ž
    หลังจากนั้นได้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตลอดมา เฝ้าปฏิบัติวัตรพระอาจารย์อย่างสม่ำเสมอ และเรียนอาคมขลังเพิ่มเติมจนก้าวหน้ามาก

    แม้แต่พระอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน เมื่อต้องการติดต่อเรื่องราวอันใด ก็จะใช้สมาธิติดต่อกัน บางเรื่องท่านจะไม่ใช้ผู้อื่นเดินทางไปแทน ทำเอาผู้เดินทางถึงกับงงมาก เมื่อพระที่ท่านใช้ให้ไปหา สั่งข้อความและฝากของมาให้ เหมือนกับพูดกันทางโทรศัพท์

    หลังสอบนักธรรมโทได้แล้ว ก็แบกกลดเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระธุดงค์เข้าป่าหา ความสงบบำเพ็ญเพียรภาวนา เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน จนถึงประเทศลาวทางฝั่งพม่าก็เข้าไปถึงเมือง หงสาวดี ย่างกุ้ง

    เรื่องการอดอาหารเป็นวันๆ ท่านเคยอดมาแล้ว โดยไม่มีความหวั่นไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย ท่านใช้เวลาเดินธุดงค์อยู่หลายปี จนมีเสียงร่ำลือกันว่าท่านตายไปแล้ว พ่อแม่ของท่านจึงไปสอบถามจากหลวงพ่อบุญ วัดท่าศาลาราม ได้รับคำตอบว่าเร็วๆ นี้ท่านก็จะกลับมา จากนั้นไม่นานท่านก็เดินทางกลับมาที่วัด และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ.2481 ด้วยความเอาใจใส่ในการก่อสร้าง ท่านก็สร้างสรรค์วัดจนสำเร็จลุล่วง ปรากฏผลงานการก่อสร้างมากมายเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของญาติโยม

    เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านมากก็คือ การดูฤกษ์พานาที การพยากรณ์เกี่ยวกับที่ดินจะปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ ซึ่งใครให้ท่านดูแล้ว กิจการจะก้าวหน้า

    หลวงพ่อเทพเป็นอีกหนึ่งเกจิที่เข้มขลังทางพุทธาคมอย่างยิ่ง ในอ.บ้านลาด ถึงขนาดที่หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ ยังให้ความเคารพท่าน นอกจากนั้นยังเป็นพระเกจิหนึ่งใน 2 รูปของจังหวัดเพชรบุรี ที่ได้รับนิมนต์มาปลุกเสก เหรียญหลักเมือง กรุงเทพฯ ปีพ.ศ. 2518 ซึ่งอีกรูปก็คือ ท่านเจ้าคุณอินทร์ วัดยาง

    สภาพพระสวยมากๆค่ะ ผิวหิ้ง ไม่เติมแต่งใดๆทั้งสิ้น บูชามาประมาณปีสองห้าสองกว่าๆ บริเวณฐานมีตัวอักษรสลักทั้งด้านหน้าและหลัง

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระ
    ปิดรายการแล้วค้า บูชาโดยคุณณรงค์^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2014
  5. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 4 รูปเหมือนหลวงพ่อสด ภายในบรรจุเส้นเกศาหลวงพ่อสด และดวงแก้วกายสิทธิ์ ปี2527

    รูปเหมือนหลวงพ่อสด ภายในบรรจุเส้นเกศาหลวงพ่อสด และดวงแก้วกายสิทธิ์
    จัดสร้างปี2527
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี
    ฐานกว้างประมาณ 4 นิ้วกว่า สูงประมาณ 15 นิ้ว

    (อ้างอิงจากหนังสือ อานุภาพพระตระกูลวัดปากน้ำ)

    <table width="833"><tbody><tr><td height="93" valign="top">พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (จนฺทสโร หมายถึง ผู้นำแสงสว่างมาสู่โลก ประดุจพระจันทร์ส่องสว่างยามราตรี) เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีนามตามสัญญาบัตรประกอบพัดยศสมณศักดิ์ว่า พระมงคลเทพมุนี ศรีรัตนปฏิบัติ สมาธิวัตรสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาส หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เดิมชื่อ สด มีแก้วน้อย เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมพ.ศ. 2427 ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้องอำเภอสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5 คน ท่านนับเป็นองค์ปฐมบรมครูแห่งวิชชาธรรมกายในยุคปัจจุบัน

    </td></tr><tr><td height="212" valign="top">ชีวิตในช่วงต้น

    เริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุผู้เป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง แล้วมาอยู่ ณ วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นผู้สามารถเรียน-อ่านภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยความวิริยะอุตสาหะเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง

    เมื่อท่านอายุได้ 14 ปีโยมบิดาได้ถึงแก่กรรมลงท่านจึงรับภาระดูแลการค้าแทน ท่านฉลาดในการปกครอง ลูกเรือต่างก็รักนับถือท่านและเนื่องจากท่านเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน อาชีพการค้าจึงเจริญขึ้นโดยลำดับ จนปรากฏในยุคนั้นว่า เป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อท่านนำเรือเปล่ากลับบ้านพร้อมเงินรายได้จากการขายข้าวผ่านลัดคลองเล็กซึ่งชาวบ้านเรียกว่า คลองบางอีแท่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุมท่านนึกถึงความตายขึ้นมา และได้อธิษฐานจิตในขณะนั้นว่า ขออย่าให้ข้าพเจ้าตายเสียก่อนเลย ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอาย ไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า ท่านบอกว่าเริ่มอธิษฐานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเล่าต่อไปว่า เมื่อตกลงใจบวชไม่สึกแล้ว จิตคิดเป็นห่วงมารดาเกิดขึ้น จึงขะมักเขม้นทำงานสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาเลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิต

    </td></tr><tr><td height="208" valign="top">อุปสมบท

    เดือนกรกฎาคม 2449 ขณะมีอายุย่างเข้า 22 ปี ท่านได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่า สด จนฺทสโร พระอาจารย์ดี วัดประตูสาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินยานุโยค (เหนี่ยง อินฺทโชโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โหน่ง อินทสุวณโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ คู่สวดทั้งสองรูปอยู่วัดเดียวกัน คือวัดสองพี่น้อง ในการเรียนด้านคันถธุระในพรรรษาแรก ท่านสงสัยอยากรู้คำแปลคำว่า อวิชฺชาปจฺจยา ซึ่งไม่มีใครทราบ ท่านจึงเกิดความดำริที่จะไปเรียนคันถุระต่อที่กรุงเทพ เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านเริ่มปฏิบัติสมถวิปัสสนากับองค์อนุสาวนาจารย์นับแต่วันบวช เมื่อบวชแล้วพอรุ่งขึ้นอีกวัน หลวงพ่อก็เริ่มลงมือปฏิบัติพระกรรมฐานต่อกับพระอาจารย์เนียม วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษาเมื่อออกพรรษาที่วัดสองพี่น้องแล้ว ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษา ณIวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อศึกษาด้านคันถธุระต่อ ในสมัยนั้นนิยมใช้หนังสือขอมที่จารลงในใบลาน ขณะที่ท่านเรียนทางด้านคันถธุระอยู่นั้น ก็ได้ปฏิบัติวิปัสสนาธุระควบคู่ไปด้วย โดยการศึกษากับพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในสำนักต่าง ๆ ท่านได้ไปศึกษากับ ท่านเจ้าคุณสังวรานุวงศ์เถร (เอี่ยม) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ท่านพระครูฌาณวิรัติ วัดพระเชตุพน และสำนักของพระอาจารย์สิงห์ วัดละครทำ จนได้ผลการปฏิบัติเป็นที่พอใจของพระอาจารย์ เมื่อได้ศึกษาภาวนาวีธีจนมีความรู้ความเข้าใจ ทั้งจากพระอาจารย์ทั้งจากพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่าง ๆ มีวิสุทธิมรรค เป็นต้น ได้แสวงหาที่หลีกเร้น มีความวิเวก เป็นสัปปายะต่อการปฏิบัติธรรมดังนั้นในพรรษาที่ 11 จึงได้กราบลา เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เข้ม ) อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ เพื่อไปจำพรรษา ณ วัดโบสถ์บน ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนบุรี

    </td></tr><tr><td height="511" valign="top">เข้าถึงธรรมกาย

    ในพรรษาที่ 11 ท่านได้ไปจำพรรษา ณ วัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ท่านได้มีความคิดที่จะกระทำความเพียรอย่างอุกฤษฏ์ตั้งแต่เช้าตรู่ “เราบวชมาจวนจะครบ 12 พรรษาแล้ว วิชชาของพระพุทธเจ้าเรายังไม่ได้บรรลุเลย ทั้งที่การศึกษาของเราก็ไม่เคยขาดเลยสักวันทั้งคันถธุระและวิปัสนาธุระ อย่าเลย ควรจะรีบกระทำความเพียรให้รู้เห็นของจริงในพระพุทธศาสนาเสียที” เมื่อกลับจากบิณฑบาตแล้วท่านก็รีบจัดการภารกิจต่างๆให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่มีเรื่องกังวลใจ เสร็จแล้วก็ได้เข้าเจริญภาวนาในอุโบสถ โดยตั้งใจว่าหากไม่ได้ยินเสียงกลองเพลจะไม่ยอมลุกจากที่ เมื่อตั้งใจแล้วก็หลับตาภาวนา “สัมมา อะระหัง” เรื่อยไปจนกระทั่งความปวดเมื่อยและอาการกระสับกระส่ายเริ่มติดตามมา จิตก็ซัดส่ายกระวนกระวายจนเกือบจะหมดความอดทน แต่ได้ตั้งสัจจะไว้แล้วจึงทนนั่งต่อไป เมื่อไม่สนใจความปวดเมื่อยของสังขาร ในที่สุดใจก็ค่อยๆ สงบลงทีละน้อยแล้วรวมหยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ใจชุ่มชื่นเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก

    เย็นวันนั้นหลังจากได้ฟังพระปาฏิโมกข์กับเพื่อนสหธรรมิกแล้ว ท่านได้รีบทำภารกิจส่วนตัวสรงน้ำให้ร่างกายสดชื่นดีแล้ว จึงเข้าไปในอุโบสถแต่เพียงรูปเดียว เมื่อกราบพระประธานแล้วก็ได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า “ขอให้พระองค์ทรงพระเมตตาโปรดประทานธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้วแก่ข้าพระพุทธเจ้า แม้จะเป็นเพียงส่วนน้อยนิดก็ยินดี ถ้าหากการบรรลุธรรมของข้าพระองค์ฯจักเกิดโทษแก่พระศาสนาก็ขออย่าได้ทรงประทานเลย แต่ถ้าจะเป็นคุณแก่พระศาสนาแล้ว ขอได้โปรดประทานแก่ข้าพระองค์ฯด้วยเถิด ข้าพระพุทธเจ้าจะขอรับเป็นทนายพระศาสนาต่อไปจนตลอดชีวิต”

    เมื่อได้ตั้งสัตยาธิษฐานแล้วท่านก็เริ่มนั่งหลับตา ขณะนั้นมีมดอยู่ในช่องแผ่นหินที่ท่านนั่ง กำลังไต่ขึ้นมารบกวนท่าน จึงหยิบขวดน้ำมันก๊าดขึ้นมา เพื่อจะทากันมด แต่แล้วก็คิดได้ว่า ชีวิตของเรา เราได้สละแล้วเพื่อการบำเพ็ญเพียร แต่เหตุไฉนจึงยังกลัวมดอยู่อีก จึงวางขวดน้ำมันก๊าดลง เจริญกัมมัฏฐานต่อไป จนถึงยามดึกจึงได้เริ่มเห็นดวงปฐมมรรคหรือดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เมื่อได้รู้เห็นธรรมะแล้วท่านจึงได้เข้าใจว่า “พระธรรมนี้เป็นของลึกซึ้งยิ่งนัก ยากที่มนุษย์จะเข้าถึง การจะเข้าให้ถึงได้ต้องรู้ตรึก รู้นึก รู้คิด ต้องหยุดเป็นจุดเดียวกัน เมื่อหยุดแล้วจึงดับ เมื่อดับแล้วจึงเกิด ถ้าไม่ดับก็ไม่เกิดนี่เป็นของจริง ของจริงต้องอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนนี้เป็นไม่เห็นเด็ดขาด” เมื่อมองเรื่อยไปก็เห็นดวงใหม่ผุดซ้อนขึ้นมาแทนที่ดวงเก่า แต่ใสสว่างมากยิ่งขึ้น จนในที่สุดก็เห็นกายต่างๆ ตามลำดับจนกระทั่งถึง ธรรมกาย

    ได้เริ่มเห็นผังของจริงของพระพุทธเจ้า ( ธรรมกายโคตรภู ) ในระหว่าง มัชฌิมยามกับปัจฉิมยามติดต่อกัน ท่านได้รำพึงว่า ธรรมเป็นของลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ใครจะไปคาดคะเนเอาได้ พ้นวิสัย ของความตรึก นำ คิด ถ้ายังตรึก นึก คิด อยู่ก็ไม่ถึง ที่จะเข้าให้ถึงต้องทำให้รู้ตรึก รู้นึก รู้คิด นั้นหยุดเป็นจุดเดียวกัน แต่พอหยุดก็ดับ แต่พอดับแล้วก็เกิด ถ้าไม่ดับแล้วก็ไม่เกิด ตรองดูเถิดท่านทั้งหลายนี่เป็นของจริง หัวต่อมีเป็นอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนก็ไม่มีไม่เป็นเด็ดขาด รำพึงอย่างนี้สักครู่ใหญ่ เกรงว่า ความมีความเป็นนั้นจะเลือนไปเสียจึงเข้าที่ ดำรงสมาธิมั่น ต่อไปตลอดปัจฉิมยาม ในขณะดำรงสมาธิมั่น อยู่อย่างนั้น เห็นวัดบางปลา ปรากฏขึ้นในนิมิต จึงเกิดญาณทัสสนะขึ้นอยู่ว่า ธรรมที่รู้ว่าได้ยากนั้น ในวัดบางปลานี้ จะต้องมีผู้รู้เห็น ได้อย่าง แน่นอน ออกพรรษาแล้วได้ไปสอนที่วัดบางปลา 4 เดือน มีพระทำเป็น ได้พระธรรมกาย 3 รูป คือ พระสังวาลย์ พระแบน และพระอ่วม กับคฤหัสถ์ 4 คน นับแต่นั้นมาหลวงพ่อ ก็เป็นพระวิปัสสนาจารย์ ที่คนเคารพ รู้จักและยกย่องบูชากันทั่วไป คำว่า
    ธรรมกาย นี้ มีพระบาลี รับรองว่า ตถาคตสส วาเสฏฐ เอตํ ธมมกาโยติ วจนํ ดูกรวาเสฏฐะ ธรรมกายนี้เป็นชื่อของพระตถาคต และมีพระบาลีปรากฏในอัคคัญญสูตร ปาฏิกวรรค ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎกรับรองว่า ตถาคตสส เหตํ วาเสฏฐา อธิวจนํ ธมมกาโย อิติปิ ดูกรวาเสฏฐะ และภารทวาชะ เพราะคำว่าธรรมกายนี้เป็นชื่อของ ตถาคต


    </td></tr><tr><td height="125" valign="top">ได้รับสมณศักดิ์
    1. ในปี พ.ศ. 2464 ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสมณธรรมสมาทาน
    2. ในปี พ.ศ. 2492 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญที่ พระภาวนาโกศลเถร ถือพัดยอดพื้นขาวอันเป็นตำแหน่งวิปัสสนาธุระ
    3. ในปี พ.ศ. 2494 ได้รับพระราชทานพัดยศเทียบเปรียญ
    4. ในปี พ.ศ. 2498 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระมงคลราชมุนี
    5. ในปี พ.ศ. 2500 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระมงคลเทพมุนี
    </td></tr><tr><td valign="top">
    คติธรรม

    • เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำไม อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตมันเป็นห่วงเป็นใย
    เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า "นิพพาน" ก็ได้

    • ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
    • ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี่แหละเป็นตัวสำเร็จ
    • ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย



    </td></tr><tr><td valign="top">ละสังขาร

    เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ตึกมงคลจันทสร วัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อท่านมีอายุย่าง ๗๕ โดยปี รวมพรรษาได้ ๕๓ พรรษา

    </td></tr></tbody></table>
    สภาพพระสวยงามมากค่ะ ผิวหิ้งเดิมๆ บริเวณฐานทั้ง3ด้าน สลักตัวอักษร และฐานด้านหน้าติดตราวัด ภายในบรรจุเกศาหลวงพ่อสด และดวงแก้วกายสิทธิ์1ดวง(พอยกขึ้นมาจะได้ยินเสียงเหมือนมีลูกแก้วอยู่ภายในค่ะ)

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระ
    บูชาแล้วค้า โดยอาจารย์หมพิบูลย์ค่ะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2015
  6. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 5 รูปเหมือนกริ่งหลวงพ่อสด เนื้อเงิน รุ่น1 วัดหลวงพ่อสด ธรรมกายาราม

    รูปเหมือนกริ่งหลวงพ่อสด เนื้อเงิน รุ่น 1 ปี2533

    วัดหลวงพ่อสด ธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี

    จัดสร้างน้อย หายากมากค่ะ
    พระสภาพสวยมากๆค่ะ ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิมตลอด
    ประจุพุทธานุภาพของหลวงพ่อสด ผู้ค้นพบวิชาธรรมกายอันลือลั่น

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระ
    บูชาแล้วค้า โดยคุณธนกฤต^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2014
  7. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 6 กริ่งพระพุทธโสธร ปี2529 สวยงดงามเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    พระกริ่งพระพุทธโสธร ปี2529
    ฐานอุดกริ่งยันต์ อุ

    พระสภาพสวยมากค่ะ พุทธลักษณะงดงามดั่งเช่นองค์จริง ไม่เคยนำออกมาใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิม(version)ตลอด สภาพ100%

    พุทธานุภาพแห่งองค์หลวงพ่อโสธรเต็มเปี่ยม

    เช่ามาโดยตรงจากวัดค่ะ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร





    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย



    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง



    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด



    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา





    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ



    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา


    มี ส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    *พระพุทธโสธร พระพุทธรูปลอยน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองไทย*
    ผู้คนเป็นจำนวนมากต่างพากันไปแก้บนกันอย่างล้นหลามมิได้ขาด และมีความเชื่อว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีเทพเทวาคอยอารักษ์มากที่สุด

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระ
    บูชาราคาพิเศษ 1,550 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  8. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 7 ชินราชหมื่นยันต์ พิมพ์4 พระนามอู่ทอง เลข 1746 รวมกันได้ 9

    พระพุทธชินราชหมื่นยันต์ พิมพ์4 พระนามอู่ทอง
    อุดกริ่ง ตอกโค้ด ตอกเลข 1746

    เลขมหามงคล รวมกันได้ 9


    ขนาดหน้าตัก 2.5 ซม. สูง 4.5 ซม.
    พร้อมกล่องเดิม


    พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ที่มีลักษณะงดงาม ที่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง ห้าศอก 1 คืบ ห้านิ้ว (2.875 เมตร) สูงเจ็ดศอก (3.5 เมตร) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปิดทองเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2146 และเมื่อ 2478 ได้มีการลงรักปิดทองเต็มองค์อีกครั้งหนึ่ง และเป็นการถาวรอยู่จนทุกวันนี้
    พระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารทางทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร องค์พระนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงายพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันตก (ด้านริมแม่น้ำน่าน) มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทอง ประดับเนี้องพระปฤษฎางค์ ปราณีตอ่อนช้อยงดงามช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชงามเด่น ชัดเจนยิ่งขึ้น
    พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศิลปสุโขทัย แต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากสุโขทัยคลาสสิก เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลง วงพระพักตร์ ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนมะตูม เช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีพระอุณาโลมผลิก อยู่ระหว่างพระโขนง พระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ ฝังด้วยแก้วนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน ฝ่าพระบาท แบนราบ ค่อนข้างแคบ เมื่อเทียบกับยุคสุโขทัย ส้นพระบาทยาว มีรูปอาฬวกยักษ์และรูปท้าวเวสสุวัณ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เฝ้าอยู่ ที่พระเพลาเบื้องขวาและซ้ายขององค์ตามลำดับ


    ***พระพุทธชินราชหมื่นยันต์จัดสร้างเพื่อที่ระลึก72 ปี พุทธสมาคม เจ้าอาวาส และเกจิดังนับหมื่นวัดทั่วประเทศ จารและปลุกเสก แผ่นพระยันต์ 10,666 แผ่น แล้วส่งมาเป็นชนวน มาหล่อหลอมกับนวะโลหะและชนวนพระพุทธชินราชอินโดจีน
    มีพุทธลักษณะอันสวยงามมาก จัดสร้างพิธียิ่งใหญ่ มหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ

    บูชาราคา 3,500 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  9. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 8 พระกริ่งใหญ่พระพุทธโสธร ปี41

    พระกริ่งใหญ่พระพุทธโสธร ปี2541 กะไหล่ทอง ใต้ฐานยิงเลข๒๒๓๓๑(เลขสวยค่ะ)

    ***พระพุทธโสธร พระพุทธรูปลอยน้ำอันศักดิ์สิทธิ์อันดับ1ของเมืองไทย กล่าวกันว่ามีเหล่าเทพเทวา พรหม มาคอยอารักษ์ปกปักษ์รักษามากที่สุด***


    สภาพพระสวยงดงามมากค่ะ สีทองอร่าม ไม่เคยผ่านการใช้งาน อยู่ในกล่องเดิมตลอดค่ะ เสียงกริ่งดังกังวาลไม่ติดขัด บูชามาจากวัดโดยตรงค่ะ

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระ
    ราคาเช่าบูชา 1,150 บาท

    ราคาพิเศษเพียง 999 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  10. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง



    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ



    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน


    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"


    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย




    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ




    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร




    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง




    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต




    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม




    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา




    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2014
  11. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 9 พระบูชาขนาด 3 นิ้ว สมเด็จพุฒาจารย์โต อนุสรณ์ 118 ปี วัดระฆังฯ

    พระบูชาสมเด็จพุฒาจารย์โต หน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน 4 นิ้ว รุ่น อนุสรณ์ 118 ปี ปี2533

    สภาพผิวหิ้ง สวยมากๆค่ะ ตอกโค้ด ตอกเลข ๒๙๑๒ น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ พระรุ่นอนุสรณ์ 118ปี ทั้งพระสมเด็จและรูปหล่อไปไกลแล้วค่ะ เนื่องจากสร้างน้อยเป็นที่ต้องการและได้ชื่อว่าเป็นพระสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังโฆสิตารามแล้วด้วย ยิ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยอานุภาพของสมเด็จพุฒาจารย์โตอย่างเข้มขลังค่ะ พระเช่ามาจากวัดระฆังฯโดยตรง จัดสร้างน้อย หายากมากๆค่ะ ไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน อยู่บนหิ้งมาตลอดค่ะ สภาพเดิม ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกจากเกจิชื่อดังสายสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ปี 2533 ท่านใดที่มีความศรัทธาสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เชิญชมก่อนนะคะ

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระค่ะ
    บูชาแล้วค้า โดยคุณอานนท์^^

    <table align="center" border="0" cellpadding="5" cellspacing="5" width="90%"><tbody><tr><td align="left">ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรสี)
    เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี นามเดิมว่า "โต" (กล่าวกันว่าเมื่อเป็นเด็ก รูปร่างท่านแบบบาง ผู้ใหญ่จึงตั้งชื่อให้ตรงกันข้าม (ข่มนาม) ว่า "โต" ) นามฉาย าว่า "พฺรหมรังสี" เกิดในรัชกาลที่ ๑ (สร้างกรุงรัตนโกสินทร์ได้แล้ว๗ ปี) ณ บ้านตำบลไก่จ้น (ท่าหลวง) อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีวอก จุลศักราช ๑๑๕๐ เวลาพระบิณฑบาต (ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๓๑
    มีผู้รู้ตำราโหราศาสตร์ได้ผูกดวงชาตาของท่านไว้ดังนี้ (ในหนังสือ "ประวัติขรัวโต" ของพระยาทิพโกษากล่าวว่า ดวงชะตาของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั้น สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (ผู้สร้างพระกริ่งปวเรศน์ผู้เขียน) ทรงคำนวณถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ด้วยมีพระประสงค์จะทรงทราบว่า ผู้มีอายุตั้งแต่ ๘๐ ปีขึ้นไปจะมีดวงชะตาเป็นอย่างไร แล้วพระราชทานไปยังสมเด็จกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ ซึ่งได้ประทานให้แก่พระยาทิพโกษา ลอกคัดเก็บรักษาไว้อีกต่อหนึ่ง ดวงชะตาของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ที่ว่านี้ลัคนาสถิตราศีใดหาทราบไม่ แต่ได้ค้นพบในที่อื่นอยู่ในหอพระสมุดแห่งชาติ ปรากฏว่าโหรวางลัคนาไว้ในราศีเมษ แต่พบในที่อื่นอยู่ในราศรีพฤษภ. (มหาเฮง วัดกัลยาณ์)



    </td></tr><tr><td align="center">
    002.jpg


    </td></tr><tr><td align="left">
    ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรสี)
    สำหรับดวงที่ท่านเห็นอยู่นี้ ผูกขึ้นจากข้อมูลการเกิดข้างต้น เพียงแต่ลงตำแหน่งดาวเพิ่มขึ้นจากเดิม ๓ ดวง คือ เนปจูน (น) พลูโต (พ) และแบคคัส (บ) โดยได้วางลัคนาไว้ที่ราศีพฤษภ เนื่องจากช่วงเวลาที่พระบิณฑบาตร กว่าจะออกจากวัดตอนหกโมงเช้า พายเรือมากว่าจะถึงบ้านโยม ก็คงใช้เวลาอย่างน้อยเป็นชั่วโมง เพราะต้องรับบาตรเรื่อยมา เวลาที่ลงไว้ เมื่อวางลัคนา และเทียบกับอัตตชีวประวัติ ตลอดจนอุปนิสัยของท่านแล้ว เชื่อว่า ถูกต้อง ตรงกับความเป็นจริง มากกว่าที่จะอยู่ในราศีเมษ (อ.เล็ก พลูโต )
    วงศ์สกุลของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ กล่าวกันว่า เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นพระราชโอรส ในพระองค์พระบามสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และตลอดจนชั้นสามัญชนทั่วไป ก็เข้าใจกันว่าเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้ไม่เป็นที่กระจ่างแจ้งจึงไม่ขอยืนยัน มารดาชื่อเกสร (ธิดานายชัย) เดิมเป็นชาวบ้านตำบลท่าอิฐ อำเภอท่าโพธิ์ ต่อมาในสมัยหนึ่งการทำนาไม่ได้ผลเพระฝนแล้งมาหลายปี จึงย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ ณ บ้านไก่จ้น (ท่าหลวง) อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่อย่างน้อยที่สุดท่านต้องเป็นเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์จักรี (ความปรากฏในจดหมายเหตุบัญีน้ำฝน ของสมเด้จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์เล่น ๓ หน้า ๔๔ ว่า
    "...วันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ (ต้น) ปีวอก จุล. ๑๒๓๔ เวลา ๒ ยาม สมเด้จพระพุฒาจารย์ถึง "ชีพิตักษัย....." ดังนี้ส่อให้เห็นว่าท่านต้องเป็นเชื้อพระราชวงศ์) กล่าวกันว่าเมื่อท่านเกิดแล้ว ขณะที่ท่านยังเป็นทารกนอนเบาะ มารดาพาท่านไปพักอยู่ที่บ้านตำบลไชโย จังหวัดอ่างทอง พอท่านสอนเดินได้ มารดาก็พาท่านมาอยู่ ณ บ้านตำบลบางขุนพรหม จังหวัดพระนครสืบมา (ในกาลหลังท่านจึงได้สร้างพระพุทธรูปใหญ่ไว้ ณ ตำบลทั้งสามเป็นอนุสรณ์)
    เมื่อเยาว์วัย ท่านได้รับการศึกษาอักขรสมัยในสำนัก เจ้าคุณอรัญญิก (เจ้าคุณอรัญญิกเป็นชาวเวียงจันทน์ เป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในวิปัสสนาธุระ มีคนนับถือมาก นามเดิมของท่านเข้าใจว่าชื่อแก้ว) วัดอินทรวิหาร (วัดนี้เป็นวัดโบราณ ใครสร้างไม่ปรากฏที่กล่าวในหนังสือ เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ว่า เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นผู้สร้างนั้น เห็นจะหมายความว่า ท่านได้ปฏิสังขรณ์เป็นครั้งแรก เดิมเรียกว่า "วัดบางขุนพรหมนอก" ต่อมาพระองค์เจ้าอินทวงศ์ในกรมพระราชวังบวรฯรัชกาลที่ ๓ ทรงปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอินทรราม ภายหลัง (ในรัชกาลที่ ๖) ทางการคณะสงฆ์ พิจารณาเห็นว่านามพ้องกับวัดอินทาราม (วัดบางยี่เรือใต้) คลองบางกอกใหญ่ จังหวัดธนบุรี จึงเปลี่ยนนามใหม่ว่า "วัดอินทรวิหาร" ปรากฏสืบมาจนทุกวันนี้
    ครั้นอายุ ๑๒ ปี ในปีวอก พ.ศ. ๒๓๔๓ ได้บรรพชาเป็นสามเณร (จะบรรพชาที่วัดสังเวชฯ หรือวัดอินทรวิหารไม่ทราบแน่ แต่สันนิษฐานว่าจะบรรพชาที่วัดอินทรวิหาร ด้วยเป็นสำนักที่ท่านเคยอยู่และศึกษาอักขรสมัยมาแต่แรก) เจ้าคุณบวรวิริยเถร (อยู่) เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม (เวลานั้นเรียกว่าวัดบางลำพูบน) จังหวัดพระนคร เป็นอุปัชฌาย์ ต่อมาจะเป็นปีใดไม่ปรากฏ ได้ย้ายสำนักมาอยู่วัดระฆังฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมต่อไป
    ในตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะย้ายมาอยู่วัดระฆังฯ นั้นมีเรื่องเล่าว่า คืนวันหนึ่งพระอาจารย์ (เห็นจะเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (นาค) เปรียญเอก) นอนหลับฝันไปว่ามีช้างเผือกเชือกหนึ่งเข้ามากินหนังสือพระไตรปิฎกในตู้ของท่านจนหมดสิ้น แล้วตกใจตื่น ท่านได้พิจารณาลักษณะการที่ฝันเห็นว่า "ชะรอยจะมีคนนำเด็กมาฝากเป็นศิษย์ และเด็กนั้นต้องกอปรไปด้วยสติปัญญาอันสูงส่ง ต่อไปจะเป็นผู้ทรงคุณเป็นอย่างวิเศษผู้หนึ่ง" ครั้นรุ่งเช้าท่านจึงสั่งพระและเณรว่า วันนี้ถ้ามีใครนำเด็กมาขอให้รอยพบท่านให้จนได้ เผอิญในวันนั้น เจ้าคุณอรัญญิกได้พาสามเณรโตมาถวายเป็นศิษย์ศึกษาพระปริยัติธรรม พระอาจารย์นั้นก็ยินดีรับไว้ ด้วยพิเคราะห์เห็นพฤติการณ์เป็นจริงตามความฝัน
    เรื่องประวัติของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ อันเนื่องด้วยการศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น ได้ฟังผู้หลักผู้ใหญ่เล่ากันมาว่า ท่านได้เล่าเรียนในสำนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (นาค) เปรียญเอก วัดระฆัง เป็นพื้น และได้เล่าเรียนต่อสมเด็จพระสังฆราช (สุก) วัดมหาธาตุบ้าง นอกจากนี้จะได้เล่าเรียน ที่ใดอีกบ้าง หาทราบไม่ เล่าว่าเมื่อเป็นนักเรียนท่านมักได้รับคำชมเชยจากครูบาอาจารย์เสมอว่ามีความทรงจำดี ทั้งมีปฏิภาณอัดยอดเยี่ยม ดังมีเรื่องเล่าขานกัว่าเมื่อท่านเรียนพระปริยัติธรรมในสำนักสมเด็จพระสังฆราชนั้น ก่อนจะเรียนท่านกำหนดว่า วันนี้ท่านจะเรียนตั้งแต่นี่ถึงนั่น ครั้นถึงเวลาเรียนท่านก็เปิดหนังสือออกแปลตลอด ตามที่กำหนดไว้ท่านทำดังนี้เสมอ จนสมเด็จพระสังฆราชรับสั่งว่า "ขรัวโตเขามาแปลหนังสือให้ฟัง เขาไม่ได้มาเรียนหนังสือกับฉันดอก"
    ยังมีข้อน่าประหลาดอีกอย่างหนึ่ง ที่ท่านเรียนรู้ปริยัติธรรมแต่ไม่เข้าแปลหนังสือเป็นเปรียญ (ในสมัยก่อนนั้น การสอบพระปริยัติธรรมไม่ได้ออกเป็นข้อสอบเหมือนทุกวันนี้ การสอบในครั้งนั้นต้องสอบพระปริยัติธรรมต่อพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระสังฆราช (สุก) ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นการสอบด้วยปากเปล่า สุดแต่ผู้เป็นประธานกรรมการ และกรรมการจะสอบถามอย่างใด ต้องตอบให้ได้ ถ้าตอบไม่ได้ก็หมายความว่าตกเพียงแค่นั้น) และแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ มีผู้เรียกท่านว่ามหาโตมาตั้งแต่แรกบวช ( ปรากฏในบัญชีรายนามพระสงฆ์พระราชทานฉันและสดัปกรณ์ราย ๑๐๐ ในงานพระราชพิธีวิสาขบูชา รัชกาลที่ ๓ วันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ แต่ไม่ลงปี มีนามเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เขียนว่า "มหาโต เปรียญเอก บางแห่งว่า มหาโต เปรียญ ๔ ประโยคแรก) แต่บางคนเรียกว่า "ขรัวโต"
    ทั้งนี้เพราะเห็นว่าท่านมักชอบทำอะไรแปลกๆ ไม่ซ้ำแบบใคร นี้เป็นเรื่องธรรมดาของอัจฉริยบุคคล ซึ่งตามปรกติคนส่วนมาก ไม่ค่อยเข้าใจในอัจฉริยภาพอันมีความหมายสูง อัจฉริยบุคคลแทบทุกท่านเมื่อยังมีชีวิตอยู่ มักจะมีผู้เข้าใจว่าบ้าเสมอ มีมติอยู่ข้อหนึ่งว่า " อัจฉริยบุคคลและคนบ้านั้นอยู่ห่างกันเพียงก้าวเดียว" ว่าถึงความรอบรู้พระปริยัติธรรม ปรากฏว่าท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นผู้แตกฉานในพระไตรปิฏก มีชื่อทั้งเป็นผู้เรียนก็เรียนเก่งกว่าใคร เป็นครูก็สอนได้ดีเยี่ยม มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ศิษย์ที่เป็นเปรียญเอกและทรงสมณศักดิ์สูงคือหม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด) วัดพระเชตุพน



    </td></tr><tr><td align="center">
    003.jpg


    </td></tr><tr><td align="left">เจ้าพระคุณสมเด็จฯ สิ้นชีพิตักษัย ณ หอสวดมนต์วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี เมือเวลา ๒ ยาม (๒๔.๐๐น.) วันเสาร์แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ (ต้น) ปีวอก จุลศักราช ๑๒๓๔ ตรงกับวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ คำนวณอายุได้ ๘๕ ปี ครองพรรษาได้ ๖๕ พรรษา.

    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  12. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    แจ้งราคาทางPMแล้วค้า^^

    แจ้งราคาทางPMแล้วค้า คุณชัยวัฒน์
    ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชมรายการค้า^^:cool:
     
  13. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 10 พระบูชาหลวงพ่อเงิน หน้าตัก6นิ้ว วัดดอนยายหอม รุ่นแรกปี07 เสริม2 ปี16


    พระบูชาหลวงพ่อเงิน หน้าตัก6นิ้ว(ขนาดใหญ่สุด) วัดดอนยายหอม รุ่นแรกปี07 เสริม2 ปี16 ผิวหิ้ง สวยมากๆค่ะ



    ประวัติการจัดสร้าง
    ในปี 2507 ทางวัดดอนยายหอมได้จัดสร้างรูปหล่อขนาดบูชาของหลวงพ่อเงินขึ้น 3 ขนาดตามคำเรียกร้องของศิษยานุศิษย์ คือขนาด 6 ,5 และ 3 นิ้ว แต่ทั้งสามขนาดมีจำนวนจัดสร้างที่น้อยมาก ว่ากันเพียงหลักร้อยเท่านั้น ทำให้ถูกเช่าหมดไปอย่างรวดเร็ว ทางวัดจึงได้จัดสร้างพิมพ์เสริมครั้งที่ 1 ในปลายปี 2507 นั้นเอง แต่จำนวนสร้างที่ไม่มากก็ทำให้หมดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน กระนั้นทางวัดก็ไม่ได้จัดสร้างขึ้นมาอีกจนกระทั่งในปี 2516 ทางวัดได้จัดสร้างพระบูชารุ่น 2 ที่ตอกเลขปีที่สร้างว่า 2516 และพร้อมกันนี้ยังได้จัดสร้างพระบุชารุ่นแรกพิมพ์เสริม 2 ที่ฐานจะตอกปีสร้างว่า 2507 เช่นเดียวกับรุ่นแรก แต่ก็สามารถแยกได้ว่าพิมพ์เสริมนี้ออกในปี 2516 โดยว่ากันว่าแม่งานในการสร้างพระบูชาเสริม 2 นี้คือหลวงพ่อแช่มผู้เป็นลูกศิษย์เอก จำนวนสร้างก็ไม่ได้มากมายนัก แม้จะไม่มีหลักฐานบันทึกแต่ก็เล่ากันว่าหลักร้อยอีกเช่นกัน จึงทำให้พระบูชาของหลวงพ่อเงิน ที่ออกจากวัดดอนยายหอม และทันหลวงพ่อเงินท่านนั้นล้วนแต่หายากยิ่ง ทำให้มีราคาเช่าหาแพงลิบลิ่ว ชนิดรุ่นแรก 6 หรือ 5 นิ้ว ได้แต่มองห่างๆ เพราะคงต้องให้เหล่าเศรษฐีเขาไว้บูชาเท่านั้น สำหรับรุ่น 2 หรือเสริม 1 และเสริม 2 ยังพอจับต้องกันได้บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะพบเจอได้ง่ายๆ เพราะนับเป็นของหายากเสียแล้วในทุกวันนี้
    (ขอบคุณข้อมูลจากเว็บท่าพระจันทร์ค่ะ)

    ***สำหรับองค์นี้ คือเสริม 2 ออกปี 2516 ขนาดหน้าตัก 6 นิ้ว (ขนาดใหญ่สุด) สภาพสวยมากๆค่ะ ผิวหิ้ง พระจากบ้าน เช่ามาเองจากวัดดอนยายหอมโดยตรงค่ะ
    ปัจจุบันนับว่าหาเช่าบูชาได้ยากยิ่ง

    รับประกันพระแท้ตลอดอายุพระทุกกรณีค่ะ

    บูชาราคา 25,000 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  14. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขอราคาพระบูชาสมเด็จโตกับพระบูชาหลวงพ่อเงินด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  15. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    แจ้งจัดส่งพัสดุEMSให้เรียบร้อยค้า^^

    เลขEMS EL6994 4783 5TH
    ขอบพระคุณมากๆค้า^^
     
  16. mai02

    mai02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2014
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +142
    รายการที่ 6 กริ่งพระพุทธโสธร ปี2529 ราคาเท่าใหร่ครับ
     
  17. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 11รูปหล่อเนื้อเงินอุดกริ่ง พระพุทธไตรรัตนนายก หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง

    รูปหล่อเนื้อเงินอุดกริ่ง
    พระพุทธไตรรัตนนายก หลวงพ่อโต
    วัดพนัญเชิง รุ่นพิเศษ


    ขนาดหน้าตัก 1.7 ซม. สูง 3 ซม.


    ประวัติหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง(ซำปอกง)
    หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง พระพุทธไตรรัตนนายก จ.พระนครศรีอยุธยา ตาม"ประวัติหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง"สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1867 หลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยพระ พุทธไตรรัตนนายก เรียกกันเป็นสามัญว่า หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง (ซำปอกง)ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารวัดพนัญเชิง ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามกับมุมตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    ตามพ ระศาวดารกล่าวว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1867 ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสร้างกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี 26 ปี ตอนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้บูรณะซ่อมแซมให้อยู่ใน สภาพดีมาโดยตลอด กล่าวกันว่าเมื่อคราวจะเสียกรุงศรีอยุธยาได้ปรากฎมีน้ำพระเนตรไหลออกมาจาก พระเนตรทั้งสองข้างเป็นที่อัศจรรย์ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ได้ทรงบูรณะองค์พระพุทธรูปใหม่ทั้งองค์และถวายพระนามว่า พระพุทธไตรรัตนายก ชาวจีน ซึ่งขนานนามหลวงพ่อโต องค์นี้ว่าซำปอกง

    ตำนานหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงกล่าว ว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ทรงสร้างขึ้น ณ บริเวณที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก ส่วนที่มาของคำว่าพนัญเชิงนั้น ตามตำนานมูลศาสนากล่าวว่าเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า พะแนงเชิง ซึ่งแปลว่า การนั่งพับเพียบ ซึ่งเป็นอาการที่พระเจ้าสายน้ำผึ้งและพระนางสร้อยดอกหมากใช้ในวาระสุดท้าย ของเรื่อง นอกจากนั้น จากการวิเคราะห์ศัพท์ที่ใกล้เคียงพบว่า คำว่าพะแนงเชิง ทางภาษาปักษ์ใต้หมายถึงอาการนั่งแบบขัดสมาธิ หลวง พ่อโตวัดพนัญเชิง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูง 19 เมตร เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไปมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน ซึ่งขนานนามหลวงพ่อโต องค์นี้ว่าซำปอกง ประวัติพระพุทธรูปที่สำคัญของไทยพระพุทธรูปปางต่างๆเหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิ

    งาน นมัสการหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง งานประจำปี จะมีอยู่ 4 งานใหญ่ๆ ก็เป็นงานที่เนื่องด้วยประเพณีจีน 2 งาน คือ งานสงกรานต์ 13 เมษายน เป็นงานใหญ่มีการนมัสการและเวียนเทียนประทักษิณรอบองค์พระติดต่อกันถึง 5 วัน

    งาน สรงน้ำและห่มผ้าถวาย วันแรม 8 ค่ำ เดือนเมษายน มีการสรงน้ำและเปลี่ยนผ้าห่มผืนใหม่ ส่วนผืนเก่าที่ใช้มาตลอด 1 ปี จะฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แจกจ่ายให้ผู้คนนำไปบูชา

    งาน ทิ้งกระจาด หรือ งานงิ้ว เดือน 9 จะมีงิ้วและมหรสพอื่นๆ เล่นประชันกันอย่างครึกโครม จะมีผู้คนนับหมื่น หลั่งไหลกันมานมัสการนับเป็นงานทิ้งกระจาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยทีเดียว


    หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันมาก ผู้คนจำนวนมากมายต่างหลั่งไหลมาเพื่อนมัสการขอพรขอบารมีจากหลวงพ่อโต ด้วยพุทธานุภาพ มหาอำนาจ มหาบารมี มหานิยม มหาเศรษฐี


    องค์นี้เป็นเนื้อเงินอุดกริ่ง สวยงามมาก[COLOR=Blue]ๆค่ะ เช่าเองมาโดยตรงจา[/COLOR][B][COLOR=Blue]กวัด [/COLOR][/B]



    รับประกันความแท้และความศักดิ์สิทธิ์ตลอดอายุพระ

    จองบูชาแล้วค้า โดยคุณเมธี^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2015
  18. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 12 รูปหล่อหลวงพ่อเงินนวะโลหะ ทรงเจริญ ตอกโค้ดเลข๘ เลขมหามงคล

    หลวงพ่อเงิน ทรงเจริญ" จารึกอักษร "เจริญ"
    ตอกโค้ดเลข ๘ เลขมหามงคลใต้ฐาน ปี2549


    ***พระเถราจารย์ 76 จังหวัดและ
    เจ้าอาวาสนับพันวัดจำนวนประมาณ 1,400 รูป
    ร่วมปลุกเสก ***

    ***พิธีมังคลาภิเษกครั้งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มาก ณ มณฑลพิธีวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร
    เพื่อเป็นที่ระลึกให้ผู้บริจาคทรัพย์สนับสนุนการก่อสร้างอุทยานพระพุทธศาสนา นครสวรรค์ เป็นอาคารสถานที่จำนวน 57 แห่ง บนพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ในเขตตำบลนครสวรรค์ออกและตำบลหนองปลิง
    การก่อสร้างอุทยานพระพุทธศาสนาแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์ในการจัดพิธีสร้าง รูปหล่อ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มอบให้ผู้มีส่วนร่วมสร้างอุทยานพระพุทธศาสนา


    ***ปลุกเสกปฐมฤกษ์***
    วันอังคารที่ 14 พย.2549 ณ อุโบสถวัดท้ายน้ำ จ.พิจิตร

    วันพุธที่ 15 พย.2549 ณ อุโบสถวัดคงคาราม จ.พิจิตร

    วันพฤหัสบดีที่ 16 พย.2549 ณ อุโบสถวัดบางคลาน จ.พิจิตร


    ***รูปหล่อลอยองค์เนื้อนวโลหะ ก้นตอกหมายเลขมหามงคลกำกับใต้ฐาน "เจริญ"ตัวใหญ่ นัยยะแห่งความเจริญอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ผิวปัดผ้าลงยาแดงสีนากกลับดำ
    องค์นี้ก้นตอกหมายเลขมหามงคลคือเลข
    พร้อมกล่องเดิม

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    บูชาราคาพิเศษเพียง 3,500 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  19. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 13 พระมหาเศรษฐีนวะโกฏิอุดผงพรายกุมารพลอยเสกหป.ทิม ปี2537(รุ่น2)

    พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ปี 2537 อุดผงพรายกุมารพลอยเสกหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่(รุ่น2)
    นอกจากจะผสม ชนวน พระกริ่งชินบัญชรอันโด่งดังของหลวงปู่ทิม, ชนวนพระชัยฟ้าลั่น, ชนวนพระกริ่งปรโมของหลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ, และชนวนพระกริ่งเก้าแก้วของหลวงปู่แก้ว เกสาโร แล้วยังได้ผสม ขอบปรกใบมะขามพ่อปู่ฤาษี รุ่นปืนแตกหรือรุ่นน้ำมันเหล็กไหล พร้อมทั้งแผ่นทองแผ่นเงิน จารยันต์กาฬนาคของหลวงปู่พรหมมา เขมจาโรลงไปด้วย
    ทั้งพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ และรูปเหมือนยืนหลวงปู่ทิม ประกอบ พิธี บวงสรวงเททองตามแบบโบราณ โดยอาจารย์ทองเจือ ผู้ให้ฤกษ์เททองพระกริ่งชินบัญชรปี ๒๕๑๗ อันโด่งดังเป็นผู้ให้ฤกษ์บวงสรวงและฤกษ์ปลุกเสก พระมหาเศรษฐีนวะโกฏิ ซึ่งสร้างตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๓๗ ตรงกับ วันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ สร้าง ตามเคล็ดลับของ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปรมาจารย์ (สิริจันโท) นอกจากจะผสมด้วยไม้มงคล ตามตำราแล้วยังผสมด้วยดินจังหวัดกำแพงเพชร, ดินทุ่งเศรษฐีเหนือ, ดินตำบลอ่างทอง, และเถ้าธนบัตรแสนล้านจากธนาคารแห่งประเทศไทย เสร็จแล้วได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดซึ่งมีลาภสักการะมากมาย คือ วัดโสธรวราราม (หลวงพ่อพระพุทธโสธร) จังหวัดฉะเชิงเทรา
    โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาปลุกเสกมากมายภายในพระอุโบสถ เบื้องหน้าหลวงพ่อโสธร อันดับต่อมาได้ไปขอบารมี หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม จังหวัดสิงห์บุรี ปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษอีกหนึ่งครั้ง หลวงพ่อเจ็กถึงกับเอ่ยปากว่า “ฉันรู้เจตนาของเธอดี” องค์ต่อมาได้นำไปให้ พระอาจารย์สมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุนนาค ศิษย์ก้นกุฏิผู้มีพลังจิตแก่กล้าของหลวงปู่สี ปลุกเสกให้ทั้งคืน เมื่อท่านปลุกเสกให้แล้ว ท่านถึงกับพูดว่า “พระของมึงแรงจัง ทำเอากูถึงป่วยเลย” และครั้งสุดท้ายปลุกเสกโดยมวยจริง ๔ องค์ หน้ากุฏิเก่าหลวงปู่ทิมพร้อมหุ่นขี้ผึ้ง และรูปหล่อยืนขนาดเท่าองค์จริง ในคืนวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๓๗ ยอดพระเกจิอาจารย์ทั้ง ๔ องค์ คือ ๑. พระโสภณธรรมคณี หรือเจ้าคุณอภัย อดีตเจ้าคณะจังหวัดระยอง ผู้ที่ชาวระยองยกย่องว่าเป็นพระที่กราบไหว้ได้โดยสนิทใจ, ๒. หลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี ศิษย์เอกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ, ๓. หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ซึ่งหลวงปู่คร่ำเคยเอ่ยชมว่า หลวงพ่อสินจิตท่านนิ่งดี และองค์ที่ ๔ คือ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ยอดพระเกจิอาจารย์เขมรต่ำ วัดเพชรบุรี อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งดังเงียบๆ ในท้องถิ่นมานานแล้ว เมื่อเสร็จพิธีปลุกเสก หลวงปู่หงษ์บอกว่า “หลวง พ่อใหญ่ (ซึ่งหมายถึงหลวงปู่ทิม) ท่านมายืนตรงเสาใกล้รูปเหมือนหุ่นขึ้ผึ้งของท่าน ท่านช่วยปลุกเสกอยู่นานแล้วก็หายไป หลวงปู่หงษ์พูดว่า หลวงพ่อใหญ่องค์นี้บารมีสูงมาก ของท่านทุกอย่างในพิธีนี้ล้วนสำเร็จเพราะท่าน ต้นไม้ใบหญ้า ดินหินทุกอันล้วนศักดิ์สิทธิ์หมด” นอกจากหลวงปู่ทิมมาปลุกเสกรูปหล่อของท่านแล้ว หลวงปู่หงษ์ ท่านยังบอกว่า เทพพรหมครูบาอาจารย์มากันมากมาย แต่แปลกที่ พระโพธิสัตว์กวนอิม ก็ยังมาด้วย เพราะในพิธีนี้พระสงฆ์จีนแห่งวัดโพธิ์แมนองค์หนึ่ง ท่านได้ขอให้มูลนิธิหลวงปู่ทิมช่วยสร้าง พระชัยอวโลกิเตศวร (กวนอิม) เพื่อบูชาคุณหลวงปู่ทิม ที่ท่านฉันเจมาตลอดชีวิต ซึ่งหลวงปู่หงษ์ท่านก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามี พระชัยอวโลกิเตศวร มาร่วมปลุกเสกด้วย สิริจันโท หรือ เจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปรมาจารย์ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระหรือสายพระป่า ท่านได้ศึกษาค้นคว้า และสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ขึ้นตามตำรามอญโบราณ สมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดลิงขบ เพื่อคงไว้ซึ่งตำราอันสำคัญมิให้สาปสูญ อีกทั้งเป็นการช่วยสงเคราะห์ญาติโยมให้อยู่ดี กินดี มีความร่มเย็นเป็นสุข หากบุญมีวาสนาส่งจะทำให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สิริจันโท ได้บวชและศึกษาธรรมวินัยอยู่ที่วัด ลิงขบ ตั้งแต่เป็นสามเณร เพราะพระสงฆ์มอญเป็นพระปฏิบัติที่เคร่งครัดถูกต้องตามพุทธบัญญัติ แต่ถึงกระนั้นท่านยังได้ศึกษาค้นคว้าสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ขึ้นตามตำราโบราณของมอญ โดยเอาบุญบารมีของมหาอุบาสกมหาอุบาสิกาที่เป็นมหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองเป็นสิบเป็นร้อยโกฏิ ในสมัยพุทธกาล ๙ ท่าน มาร่วมสร้างเป็นพระพุทธรูป ๙ พระพักตร์ขึ้น พร้อมทั้งแต่งคำสวดเรียกว่า “พระคาถามหาเศรษฐี” เพื่อสวดบูชา พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ท่านจารึกคำสวดไว้ว่า เมื่อ สวดบูชาพระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิทุกค่ำคืนแล้ว จะไม่รู้ยาก ไม่รู้จน ครอบครัวจะอยู่เย็นเป็นสุข และถ้าสวดบูชาในวันสำคัญ แล้วอธิษฐานทำน้ำพุทธมนต์ประพรมบ้านเรือน, ร้านค้า, บริษํทและบริวารแล้วจะร่ำรวยและอยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี

    พระมหาเศรษฐีนวะโกฏิองค์นี้ สวยงดงาม เข้มขลังไปด้วยมวลสารหลวงปู่ทิมและมวรสารศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอย่างมากมาย ประจุความขลังด้วยมหาพิธีพุทธาภิเษกจากยอดเกจิอาจารย์หลายท่านสายหลวงปู่ทิม ปัจจุบันนับว่าหาได้ยากยิ่ง


    ปิดรายการแล้วค้า
    โดยคุณธนันณัฏฐ^^

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2024
  20. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ID line: phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,818
    ค่าพลัง:
    +725
    รายการที่ 14 องค์ลอยหลวงพ่อเกษม เขมโก นวะโลหะ รุ่น ครบไตรมาศ

    องค์ลอยหลวงพ่อเกษม เขมโก นวโลหะ รุ่น ครบไตรมาศ
    สำนักไตรลักษณ์ ลำปาง ปี2531
    จัดสร้างจำนวนจำกัด เพียง 3,000 องค์เท่านั้น

    เป็น วัตถุมงคลรุ่นที่หลวงพ่อเกษมได้อธิษฐานจิต ปลุกเสกและท่านได้นำเข้าไปในห้องของท่าน 1 พรรษาเต็ม หรือครบไตรมาศ ซึ่งวัตถุมงคลรุ่นนี้จึงได้รับการ
    อธิษฐานจิตเป็นระยะเวลา1พรรษาเต็มหรือ3เดือนหรือ90วัน
    จึงทำให้มีพุทธานุภาพแก่กล้าเป็นอย่างยิ่งค่ะ ทั้งมหาเมตตา มหาเศรษฐี มหาโชค มหาลาภ มหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย

    พระสภาพสวยมากค่ะ ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิมตลอด
    **มีจำนวน 1 องค์เท่านั้นค่ะ**

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ

    จองแล้วค้า โดยคุณ
    WINBUSS^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...