คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. psp1

    psp1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +461
    โอนแล้วครับ 450.25-
    ที่อยู่แจ้งในPMครับ
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    ชีวประวัติ ล.พ.สง่า วัดหนองม่วง และ วัดบ้านหม้อ

    ชาติภูมิ หลวงพ่อสง่า อนุปุพฺโพ แห่งวัดบ้านหม้อจังหวัดราชบุรี มีนามเดิมว่า สง่า เวสสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2469 เป็นบุตรของนายเขี้ยมและนางเม้า เวสสุวรรณ ณ บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี...... ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดบ้านหม้อโดยมีบรรดาพระ ภิกษุสงฆ์ เป็นผู้อบรมสั่งสอนวิทยาวิชาการอีกทั้งบางวันยังต้องนอนค้างวัดเพื่อช่วย ปรนนิบัติรับใช้ พระสงฆ์อยู่เสมอๆ ดังนั้นชีวิตของหลวงพ่อสง่าจึงอยู่ใกล้ชิดกับพระและวัดมาโดยตลอดจนกระทั่งจบ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา
    อุปนิสัย
    ของท่านในวัยหนุ่มก็เหมือนกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ทั่วไปที่เสร็จจากการทำงานก็ มักไป เที่ยวเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ ไปตามเรื่อง บางครั้งท่านก็ไปเที่ยวยังหมู่บ้านอื่นเพื่อเสาะแสวงหาความรู้ด้านคาถาอาคม จากครูอาจารย์ที่เก่งๆ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจจนกระทั่งทราบมาว่าที่วัดไทรอารักษ์มีอาจารย์ที่ เชี่ยวชาญคาถา อาคมอยู่รูปหนึ่งจึงดั้นด้นไปพบเพื่อขอเรียนวิชาแต่หลวงพ่อวัดไทรอารักษ์ กลับตั้งคำถามว่า มาจากที่ใดและพอทราบว่ามาจากบ้านหม้อท่านจึงปรารภขึ้นว่า
    “หาหญ้ากินไกลคอกเหลือเกินนะเรา อย่าลืมหญ้าปากคอกดูบ้างว่าหญ้าปากคอกนั้นงามขนาดไหน”
    นายสง่าในขณะนั้นได้แต่คิดถึงถ้อยคำปริศนาที่หลวงพ่อวัดไทรฯได้พูดถึงแต่ก็ คิดไม่ออก จนกระทั่งไม่นานท่านจึงไขปริศนาได้ว่าหญ้าปากคอกที่พูดถึงนั้นก็คือท่านพระ ครูเจ้าอาวาส วัดบ้านหม้อนั่นเองท่านจึงได้ปวารณาตัวเป็นศิษย์เพื่อเล่าเรียนวิชาอาคมนาน นับปีจนมี ความรู้แคล่วคล่องในบทสวด คาถาอาคม อักขระเลขยันต์พอควร
    ต่อมาในปี 2481 ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี ขณะมีอายุได้ 22 ปีโดยมี พระอธิการกลิ่น วัดคงคาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกลี้ยง วัดเฉลิมอาสน์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เช้งและพระอาจารย์แป๊ะ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (สมัยนั้นใช้พระคู่สวดในพิธีกรรมถึง 3 รูป) ได้รับฉายาว่า “อนุปุพฺโพ”
    ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจน สามารถ สอบได้นักธรรมชั้นตรีและโทตามลำดับรวมถึงวิชาอาคมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก พระอาจารย์แป๊ะ พระอาจารย์เปีย วัดบ้านหม้อและวิชาการแพทย์แผนโบราณ วิชาสมุนไพร จนกระทั่งเรียกได้ว่ามีความเชี่ยวชาญยากหาใครเทียบในเวลานั้น
    ต่อมาในปี 2484 ทางวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี ขาดพระสงฆ์ผู้นำที่จะดูแลวัด ชาวบ้านและไวยาวัจกรจึงได้พร้อมใจนิมนต์ท่านให้มาดูแลและพัฒนาวัดหนองม่วง หลวงพ่อสง่าพิจารณาดูแล้วเห็นด้วยกับเจตนาอันบริสุทธิ์ของชาวบ้านท่านจึงได้ ย้ายมาอยู่ ที่วัดหนองม่วงตามคำขอและได้พัฒนาวัดให้ดีขึ้นตามที่ชาวบ้านต้องการดังที่ เห็น ในปัจจุบันโดยได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านอย่าง สูงสุด จากนั้นจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านหม้อตามเดิม
    การศึกษาพุทธาคม

    หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาคาถาอาคมและอักขระเลขยันต์ มาตั้งแต่ตอนสมัยเป็นหนุ่ม ทั้งวิชาสักยันต์ รดน้ำมนต์ ครั้นพออุปสมบทแล้วก็ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ด้วยว่า
    “แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่ก็เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ”
    โดยหลวงพ่อท่านได้เป็นอาจารย์สักอยู่หลายปีจนกระทั่งได้ข่าวว่าผู้ที่ท่าน สักให้ส่วนมากไปกระทำชั่ว เป็นนักเลงเพราะฮึกเหิมลำพองในความคงกระพันของรอยสักที่หลวงพ่อสักให้ ท่านจึงได้เลิกพิธีกรรมการสักทั้งหมดเพราะเห็นว่าสิ่งนี้ไม่เกิดแก่นสารที่ แท้จริง
    เมื่อมีเวลาว่างท่านได้ไปขอต่อวิชากับหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเก่งในด้านการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาลบผงอิทธิเจ ปถมัง และการเขียนยันต์ 108, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้วิชามหาอุตม์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมได้ครอบครูนะเมตตาและได้รับการสอนวิชาเจริญวิปัสสนาและครูบา อาจารย์ท่านอื่นๆ อีกมากมาย
    ปฏิปทากิตติคุณและคุณธรรมของหลวงพ่อสง่าช่างมีเมตตาธรรมสูงส่งยิ่งนัก ท่านได้พัฒนาวัดและพัฒนาคนให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข สอนให้รู้จักอดทน เพียรพยายามพึ่งตนเอง เอาชนะใจตนเอง เน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้าน ดังที่ท่านเน้นเสมอว่า


    “คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน ให้มีหิริโอตัปปะ ให้มีความอดทนและเพียรพยายามจะไม่อดตาย ความจนความรวยเราไม่ได้เอามาตั้งแต่เกิด แต่เราทำตัวเราให้รวย ให้จนได้ทั้งนั้น เป็นหนี้ก็เอามาให้พระแก้ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุคือตัวเราเอง หาได้ใช้เป็น ใช้ให้น้อย หาพอเพียงก็จะไม่จน”

    หลวงพ่อสง่า ราชบุรี เดิมท่านอยู่วัดหนองม่วงมานาน ประมาณ ปี 2538 ท่านมาอยู่ที่วัดบ้านหม้อ อำเภอโพธาราม ท่านมรณะเกือบ 2 ปี แล้วครับ อายุ 88 ปีเหรียญรุ่นดังของท่านคือ ปี 2511 กับ 2530 ครับ
    เหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นแรก ออกปี 2511 เป็นเหรียญไม่มี พ.ศ ทำไปได้จำนวนหนึ่ง หลวงพ่อก็หยุด แล้วให้ช่างแก้ไขด้านหลัง ใส่พ.ศ 2511 เข้าไป
    รุ่นไม่มีพ.ศ เลยมีน้อยกว่ารุ่นมี พ.ศ 2511
    รุ่นนี้ พิธีเดียวกัน เหรียญส่วนใหญ่กว่า 90 % หลวงพ่อจะจารด้านหน้าเหรียญ
    ทหารและตำรวจ แถวราชบุรี พบประสบการณ์ กันบ่อยๆ
    ของเก๊ออกมาแล้ว เนื้อใหม่ เหรียญหนา และไม่มีจาร

    เหรียญ ปี 2530 ลูกศิษย์ โดนยิงเป็นรอยเล็กน้อยหลังต้นคอ ลง น.ส.พ ท้องถิ่นนานแล้ว
    หลวงพ่อสง่าท่านเป็นพระ สมถะ อยู่ง่ายๆ ไม่มีกุฎิส่วนตัว
    จำวัดนอนที่ศาลาวัด โดยไม่กางมุ้ง ถามคนแถว วัดได้ครับ

    ข้อคิดการสะสมพระเครื่องผมได้จากหลวงพ่อสง่าครับ
    ท่านได้กรุณาสอนว่า ในสมัยก่อนคนห้อยพระองค์เดียว โดยยึดมั่นอาจารย์องค์ไหนก็องค์นั้น
    เราเคยได้ยินว่าคนหนังเหนียวมีจริง เพราะเกจิท่านเก่งมาก
    ท่านสร้างพระแจกด้วยใจที่บริสุทธิ์ คนที่รับพระก็เป็นคนดี วันพระเข้าวัดเข้าวา ก็เลยเสริมกัน เป็น 2แรง
    แต่ปัจจุบันบางวัดหวังปัจจัยกันมาก และคนรับพระบางคนศีล 5 ก็ยังไม่ได้ ความขลังก็อาจจะทำให้สู้รุ่นเก่าไม่ได้
    ท่านบอกว่าคล้องพระในคอ 3 องค์ก็พอ ชอบองค์ไหนก็ขึ้นเลย ให้นึกไว้ 2 ข้อ
    1)เพื่อเป็นสิริมงคลติดตัว
    และเป็นกำลังใจเมื่อต้องเดินทางไกล หรืออยู่ในที่เปลี่ยว ให้นึกว่าหลวงพ่อมาด้วย
    2)ให้เตือนตนเองอยู่เสมอว่า พระอยู่กับตัว อย่าทำอะไรที่ผิด ศีล 5 ข้อเด็ดขาด
    (เอ!.แล้วพวกห้อยพระเต็มคอ แล้วหลอกขายพระะคนอื่นทั้งๆที่รู้ว่าเก๊ จะว่าไงดีล่ะ)
    คนเราถ้าถึงคราวตาย ก็ต้องตาย คนที่ไม่ถึงคราว ไม่คล้องพระก็ไม่ตาย หลวงพ่อท่านย้ำให้ฟัง
    ครั้งหนึ่งเคยมีคนมาให้ท่านทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ โดยบอกว่า ระยะหลังดวงไม่ดี หลวงพ่อตอบว่า ทำแล้วก็แก้ไม่หายหรอก
    มันเป็นเรื่องของบุญกรรมแต่ชาติก่อน
    ถ้าทำก็แค่ให้กำลังใจเท่านั้น ที่อื่นอาจจะมีการทำ แต่หลวงพ่อสง่าบอกว่าท่านจะไม่ทำเด็ดขาด
    เป็นการหลอกเอาเงินเขามากกว่า ท่านชอบพูด อะไรตรงๆ

    ท่านเคยบอกว่า ท่านมาบวช เพราะต้องการ ลด ละ สิ่งต่างๆ แต่บางครั้ง มาให้ตำแหน่งทางโลก เราไม่อยากได้
    ถ้าหากปฎิเสธได้ก็จะปฏิเสธ (ท่านมักจะใช้คำว่าเรา)
    มีพระท้องถิ่นที่คุณนับถือ1-2 องค์ และพระส่วนกลางที่เขานิยมกัน มาขึ้นคอก็โอเค
    ประเภทโฆษณาหาเงินเข้ากระเป๋านักสร้างมืออาชีพ ก็ไม่ต้องไปสนใจ


    ถ้าใครเคยไปกราบท่าน จะเห็นภาพที่ชินตา
    หลังฉันเพล ท่านจะนั่งบนเสื่อ จารแผ่นยันต์ มอบให้วัดต่างๆ
    ตั้งแต่เวลา บ่ายหนึ่งถึง สี่โมงเย็น

    หลวงพ่อสง่า ท่าน มรณะ ตอนอายุได้ 88 ปี
    ปัจจุบัน ร่างท่าน ทางวัด ยังบรรจุเก็บไว้ที่วัด
    ท่านที่ผ่านทางราชบุรี สามารถ ไปกราบท่าน
    และบูชาวัดถุมงคลของท่าน ได้ครับ มีรุ่นเก่าๆ บางรุ่นเหลืออยู่

    หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ นามเดิม สง่า เวสสุวรรณ ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2459 เป็นบุตรของนาย เขี้ยม นาง เม้า เวสสุวรรณ ที่หมู่บ้านคลองตาคต อ. โพธาราม จ.ราชบุรี
    ชีวิตในวัยหนุ่ม เมือเติบใหญ่ ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ท่านก็ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าตามวิสัยของชายชาตรีทั่วไปเหมือนชาวชนบททั้งหลาย เมื่อเลร็จหน้านาแล้วก็เที่ยวสนุกสนานไปตามหมู่บ้านต่างๆแบบของชายวัยรุ่น คึกคนองบางครั้งอาจจะไปพบครูอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถด้านวิชาอาคมก็จะ ขอศึกษาวิชาอาคมไปด้วย แต่ท่านก็ไม่ประสพความสำเร็จเท่าไรนัก และครั้งหนึ่งมีชายในหมู่บ้านถูกทำร้ายเกือบเอาชีวิตไม่รอด และตัวท่านก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างโดยตลอด ท่านก็มาคิดดูว่าถ้าตัวของเรามีวิชาอาคมก็อาจจะช่วยชีวิตเขาได้
    นับแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านก็เดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อศึกษาวิชาหาความรู้จากพระเกจิชื่อดังแต่ก็ไม่เคยเลยที่จะได้สมกับความ ตั้งใจ ที่เรียนมาแต่ละอาจารย์ก็ได้มาเพียงนิดหน่อย
    ครั้นเวลาต่อมาท่านได้เดินทางไปขอเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังท่าน หนึ่งที่บอกให้ท่านรู้ว่าท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเกลี้ยง เจ้าอาวาสวัดบ้านหม้อ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่แก่กล้าวิชาอาคมขลังมากที่สุด แต่เป็นพระอาจารย์ที่ชอบเก็บตัว มีวิชาอะไรดีก็ไม่เคยพูดคุยอะไร แต่ท่านชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเดือดร้อนเสมอ แม้กระทั่งการรักษาคนที่ถูกคุณไสยต่างๆ พระอาจารย์รูปนั้นยังบอกอีกว่า ท่านนี่ลืมดูของดีใกล้ตัวไปเสียแล้ว เปรียบเสมือนโค-กระบือที่ออกจากคอกได้มุ่งหน้าหาหญ้ากินที่ไกลๆ ลืมมองไปว่าบริเวณหน้าคอกของเรานั้น มีหญ้าที่อุดมสมบรูณ์ที่ดีมีคุณภาพให้รับประทานมากมาย
    เมื่อท่านได้รับคำแนะนำอย่างนี้แล้วจึงรู้ว่า หลวงลุงของท่านนี้ก็แน่กว่าใครๆอีกมากนัก แม้แต่พระอาจารย์รูปนั้นที่ว่าเก่งว่าแน่ ก็ยังเป็นศิษย์ของหลวงลุงของหลวงพ่อสง่า
    หลวงพ่อสง่าพออายุครบบวชแล้วท่านก็บวชที่วัดบ้านหม้อ เมื่อปี พ.ศ. 2481อุปัชฌาย์กลิ่น วัดคงคา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแป๊ะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พร้อมด้วยหลวงพ่อเกลี้ยง สมัยนั้นมีพระกรรมวาจาจารย์สองรูป หลวงพ่อเช็ง เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " อนุปุพโพ " หลวงลุงของท่านก็ส่งท่านเดินทางไปอยู่ที่วัดหนองม่วง ซึ่งสมัยนั้นแทบจะเป็นวัดร้างเพราะขาดพระสงฆ์ที่จะเป็นผู้นำดูแล ท่านจึงได้ส่งพระหลานชายมาดูแล หลวงพ่อสง่าท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจนกระทั่งได้รับ พระราชทานสมณสักดิ์ที่ " พระครูอนุรักษ์วรคุณ[/size
    หลวงพ่อสง่า เริ่มศึกษาวิชา อักขระเสก เลขยันต์ คาถาอาคมตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มสมัยยังอยู่ที่วัดบ้านหม้อ ทั้งวิชาสักหมึก ลงน้ำมัน ตามความเชื่อถือของคนหนุ่มในสมัยนั้นเมื่อท่านบวชเรียนแล้ว ท่านก็ให้ความสนใจใฝ่ศึกษาอย่างต่อเนื่อง หลวงพ่อสง่าท่านยังกล่าวให้ฟังอีกว่า แม้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เป็นความนิยมของชาวบ้านคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดความศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ เราก็อนุเคราะห์ตามที่เราจะทำได้]
    หลวงพ่อสง่า เป็นอาจารย์สักยันต์อยู่หลายปีทีเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสใกล้วัดมากขึ้น ทางที่จะมุ่งเข้าสู่อบายธรรมอบรมสั่งสอนได้ง่ายยิ่งขึ้น คนที่สักยันต์จากหลวงพ่อสง่าไปแล้วเป็นคนดีก็มาก ป็นนักเลงหัวไม้ก็มี และหลังจากนั้นหลวงพ่อสง่าท่านก็เลิกพิธีกรรมทั้งหมด เพราะเห็นว่าไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน
    สำหรับการศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่างๆนั้น หลวงพ่อสง่าท่านกรุณาเล่าให้ฟังต่ออีกว่า อาจารย์แต่ก่อนเขาให้เราศึกษาวิธีก่อน " วิชานั้นหาง่ายแต่วิธีนี่สิหายาก " วิชาเขียนอยู่ในตำหรับตำรานั้นมีมาก แต่วิธีใช้วิธีปฏิบัติจริงต้องใช้เป็น ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านจึงสอนให้รู้จักวิธีใช้วิธีทำกันก่อน วิชาอาคมที่หลวงพ่อสง่าได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม มีพระเกจิอาจารย์หลายรูปด้วยกัน อาทิเช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ เมืองกาญจนบุรี หลวงพ่อ แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม พระอาจารย์เช็ง หลวงพ่อดี วัดบ้านยาง นครปฐม และครูอาจารย์อีกหลายรูป ที่ท่านได้รับการถ่ายทอดสรรพเวทวิทยาคมให้ท่านอย่างเอกอุจนสามารถมีวิชาความ รู้วิธีปฏิบัติได่อย่างเชี่ยวชาญในพระเวทไม่ว่าท่านจะทำวัตถุมงคล ตะกรุด ผ้ายันต์ พระเครื่อง ล้วนมีอภินิหารประสบการณ์ทั้งสิ้นหลวงพ่อสง่าท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2547 รวมสิริอายุได้ 88 ปี 18 วัน
    ส่วนของวัตถุมงคลจะขอเสนอในคราวต่อไป

    ขอบขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS50 บาทครับ

    เหรียญหลวงพ่อสง่า ปราบก๊อดอาร์มี่

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2014
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อสง่าวัดหนองม่วง ปี๓๑ (เนื้อนวะ)

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2014
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]



    หลวงพ่อตั๋ง ปิยคุโณ
    สถานเดิม
    ชื่อตั๋ง เต้่าสุวรรณ เกิดวันพุธที่11 ธันวาคม พ.ศ.2455 ปีชวด ที่บ้านโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคุณพ่ออยู่ คุณแม่ใย เต้าสุวรรณ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา7คน
    1 นายพรหม เต้าสุวรรณ
    2น.ส.ลำยวง เต้าสุวรรณ
    3นางชิด อารมย์สุข
    4นายบุญช่วย เต้าสุวรรณ
    5นายตั๋ง เต้าสุวรรณ
    6น.ส.ติ้ง เต้าสุวรรณ
    7นายเชื้อ เต้าสุวรรณ(ถึงแก่กรรมทั้งหมด)
    อุปสมบท
    เมื่ออายุครบ20ปีได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12พฤาภาคม 2475 มีพระอธิการโป๋ เจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการก๋งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอาจารย์โกยเป็นอนุสาวนาจารย์(พระตั๋งได้รับฉายาปิยคุโณ)
    หลวงพ่อตั๋ง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ พูดน้อยแต่แฝงด้วยความปราณี เป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์กับหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรีและหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา มีความขลังทางพุทธาคมคาถาเป็นอมตะ สร้างวัตถุมงคลเพื่อการสร้างพระศาสนาไม่หลายรุ่นนัก ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อตั๋ง นับเป็นพระเถราจารย์บริสุทธิ์ด้วยศิลและมีกฤษฏาอภินิหารอีกรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เอนได้ศึกษาพระธรรมวินัยอันเป็นพระปริยัติกับหลวงพ่อก๋ง แต่ไม่ได้เข้าสอบธรรมสนามหลวง ท่านได้หันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและเวทมนต์คาถาโดยมีอาจารย์พ่อก๋งเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคุณต่างๆ มาถึงตอนนี้ขออ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือได้สักนิด ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก๋ง ว่ามีมากน้อยเพียงไร หลวงพ่อตั๋งเล่าว่า หลวงพ่อก๋งบรรลุฌานกสิณแก่กล้า สามารถลงไปในน้ำจับปลาเป็นๆขึันมาได้ และยังเดินบนผิวน้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะความขลังในการเสกเป่าน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อตั๋งได้รับการถ่ายทอดวิทยาตุณต่างๆ จากหลวงพ่อก๋งอย่างไม่ปิดบังอำพรางโดยเฉพาะทางสมถกรรมฐานท่านกรุณาแนะนำหลักปฏิบัติจนมีความเชี่ยวชาญ ในการเจริญภาวนา มีสมาธิจิตกล้าแข็งและว่องไว สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดอานุภาพนานาประการทั้งปวง เมตตามหานิยม มหาอำนาจและคงกระพันชาตรี คุณวิเศษที่กล่าวมานี้ คือผลการเจริญกรรมฐาน จนจิตเป็นสมาธิชั้นสูง ซึ่งหลวงพ่อก๋งเป็นผู้บอกพระกรรมฐาน และชี้แนะหลักปฏิบัติแต่เริ่มแรก ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด
    หลวงพ่อตั๋ง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ พูดน้อยแต่แฝงด้วยความปราณี เป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์กับหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรีและหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา มีความขลังทางพุทธาคมคาถาเป็นอมตะ สร้างวัตถุมงคลเพื่อการสร้างพระศาสนาไม่หลายรุ่นนัก ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อตั๋ง นับเป็นพระเถราจารย์บริสุทธิ์ด้วยศิลและมีกฤษฏาอภินิหารอีกรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เอนได้ศึกษาพระธรรมวินัยอันเป็นพระปริยัติกับหลวงพ่อก๋ง แต่ไม่ได้เข้าสอบธรรมสนามหลวง ท่านได้หันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและเวทมนต์คาถาโดยมีอาจารย์พ่อก๋งเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคุณต่างๆ มาถึงตอนนี้ขออ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือได้สักนิด ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก๋ง ว่ามีมากน้อยเพียงไร หลวงพ่อตั๋งเล่าว่า หลวงพ่อก๋งบรรลุฌานกสิณแก่กล้า สามารถลงไปในน้ำจับปลาเป็นๆขึันมาได้ และยังเดินบนผิวน้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะความขลังในการเสกเป่าน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อตั๋งได้รับการถ่ายทอดวิทยาตุณต่างๆ จากหลวงพ่อก๋งอย่างไม่ปิดบังอำพรางโดยเฉพาะทางสมถกรรมฐานท่านกรุณาแนะนำหลักปฏิบัติจนมีความเชี่ยวชาญ ในการเจริญภาวนา มีสมาธิจิตกล้าแข็งและว่องไว สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดอานุภาพนานาประการทั้งปวง เมตตามหานิยม มหาอำนาจและคงกระพันชาตรี คุณวิเศษที่กล่าวมานี้ คือผลการเจริญกรรมฐาน จนจิตเป็นสมาธิชั้นสูง ซึ่งหลวงพ่อก๋งเป็นผู้บอกพระกรรมฐาน และชี้แนะหลักปฏิบัติแต่เริ่มแรก ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด
    ช่วงนั้นวัดโพธิ์เอนว่างเจ้าอาวาสคณะสงฆ์จึแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนสืบต่อมาจนถึง พ.ศ.2538 หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนแล้ว หลวงพ่อได้ปฎิสังขรณ์และก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างเต็มสติกำลัง ตามความสามารรถ ท่านทุ่มเทกำลังกายกำลังความคิดและมีอุตสาหะวิริยะอย่างยอดเยี่ยม
    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้อุบัติขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 ผู้ประสบการณ์ไม่ประสงค์ออกนาม ปัจจุบันท่านอยู่ในเพศบรรชิต กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 มีอยู่วันหนึ่งท่านโดนยิงด้วยปืนลูกซองระยะประมาณ5วาเศษเรียกว่าระยะเผาขน ลูกปืนถูกบริเวณหน้าอกและลำคอ ความแรงของลูกปืนทำให้หงายหลังลงไปนอนแผ่หลา ด้วยอานุภาพของ........เหรียญรุ่นแรก.......ปีพ.ศ.2522........คุ้มครองแค่ผิวหนังไหม้เกรียมเป็นจุดลูกปืนเท่านั้น ท่านบอกว่าเหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษในทางอยู่คงกระพัน อย่างยอดเยี่ยม ถ้าวันนั้นเหรียญหลวงพ่อตั๋งไม่คุ้มครอง ร่างคงพรุนเป็นแน่ ท่านใดที่ได้บูชาไปจากรายการช็อคโลก เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ ประวัติและเกียรติคุณของหลวงพ่อตั๋ง ที่ลำดับความมาตั้งแต่ต้นจนถึงบทสุดท้ายนี้ หวังว่าคงสร้างศรัทธาต่อท่านผู้อ่านตามสมควรโดยเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เคยก่ออภินิหารทุกรุ่น แต่ไม่มีผู้ใดนำความศักดิ์สิทธิ์มาเผยแพร่ให้เลื่องลือชื่อเสียง ท่านจึงเป็นเสมือนเพชรน้ำหนึ่งที่ซ่อนแสงอยู่ในเงามืดมาโดยตลอด

    ขอบขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน ท่าเรือ อยุธยา รุ่น๒

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2014
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]

    หลวงพ่อสวัสดิ์ ปุณณสโล ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2451 ตรงกับปลายแผ่นดินรัชกาลที่ 5 อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 25 ปี ตรงกับวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ณ พัทธสีมา วัดดอกไม้ ตำบลคลองโค อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิสต์ โดมีหลวงพ่อกล่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทได้อยู่ปฏิบัติพระอุปัชฌาย์ 2 พรรษา แล้วออกเดินธุดงค์สั่งสมประสบการณ์ในทางธรรมไปในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน ก่อนข้ามไปศึกษาวิชาในเขมร จนถึงปี พ.ศ. 2479 เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดกำแพง ก่อนที่จะเป็นเจ้าอาวาสวัดซากนิมิตรวิทยา อำเภอบ้านบึง พอถึงปี พ.ศ. 2528 ได้สร้างสำนักวิปัสสนาเม้าสุขา จากนั้นปี พ.ศ. 2530 ได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงบวรสถิตย์และเป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านบึงจนถึงปี พ.ศ. 2542 หลวงพ่อท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547 ในแผ่นดินรัชกาลปัจจุบัน รวมสิริอายุได้ 95 ปี 69 พรรษา

    หลวงพ่อสวัสดิ์ท่านเป็นคนสมถะเรียบง่าย มีความเมตตาต่อญาติโยม ไม่ว่าใครจะมีทุกข์ร้อนอะไรมาขอความช่วยเหลือ ท่านจะช่วยสงเคราะห์ให้ตลอด เป็นนักพัฒนารูปสำคัญของจังหวัดชลบุรี ได้ดำริจัดสร้างสถานที่ต่าง ๆ ไว้มากมาย รวมทั้งให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนด้วยการจัดตั้งโรงเรียนสอน เด็กวันอาทิตย์โรงเรียนสอนเด็กอ่อนเกณฑ์ในวัดรวมทั้งสถานที่ปฏิบัติธรรม เพื่อหล่อหลอมจิตใจของชาวบ้าน โดยการอบรมวิปัสสนากรรมฐานอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้นำพระภิกษุทั่วทั้งอำเภอออกธุดงค์เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเป็นประจำทุกปีและนำสิ่งของไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยทั่วประเทศ อยู่เสมอมา
    ขอบขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหล่อฉีดหลวงพ่อสวัสดิ์

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2014
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระบัวเข็มรุ่นแรกครูบามนตรีวัดพระธาตุสุโทนคีรี จ.แพร่
    ลองหาอ่านประวัติท่านครับ วัดท่านเป้นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไปเที่ยวเมืองแพร่มักจะเข้าไปไหว้พระทำบุญกันครับ


    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงปู่สุดวัดกาหลง ออกวัดขุนจันทร์พิมพ์ใหญ่

    ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อปานหลังภปรปี๑๗ เสด็จวัดบางนมโค

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เชียงราย

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระสมเด็จรุ่นแรกหลวงพ่อเกษม วัดม่วง อ่างทอง

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]

    ประวัติหลวงปู่ด่อน อินทสาโร บูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน

    (คลิกดูขนาดรูปจริง)

    ประวัติความเป็นมา หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย อ.ปากคาด จ.หนองคาย
    หลวงปู่ด่อนท่านเป็นคนอุบลแท้ๆโดยกำเนิด ท่านเป็นบูราพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุนในสายของหลวงปู่ธรรมบาลผุย(ซึ่งธรรมบาลผุยท่าน เป็นสหธรรมิกของสำเร็จลุนครับ) หลวงปู่ด่อนท่านเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวอำเภอปากคาด จ.หนองคายป็นอย่างมาก
    ?ท่านพ่อแม่ด่อน? เป็นคำที่ติดปากของชาวอำเภอปากคาดอย่างขึ้นใจ ตามความรู้สึกเคารพรักนับถืออย่างสูง อย่างที่สุด มาเป็นเวลานานแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะความดีของท่านที่มีต่อลูกหลานทั่วไป คนทั้งหลายจึงเรียกท่านอย่างสนิทใจด้วยความเคารพในฐานผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมสมเป็นผู้ใหญ่ที่ดีเสมอต้นเสมอปลายต่อลูกหลานและญาติธรรมทุกๆ คน ใครจะมาขอยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือ เชื่อว่า ผีเข้าเจ้าสิง ตลอดจนสิ่งเข็ดขวางทั้งหลาย ถ้าพ่อแม่ด่อนเป่าหัวให้แล้ว หรือเสกให้แล้วก็จะหายในไม่ช้า การให้บริการในสังคมญาติธรรมในลักษณะนี้ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนหลวงพ่อไม่เคยบ่น ไม่ว่าจะเหนื่อยสักเท่าใดก็ตาม แม้มีคนป่วยในหมู่บ้านหลวงพ่อก็จะเข้าไปหาถึงกับเดินทั้งวันก็มีบ่อยครั้ง ในสถานที่หนทางไม่สะดวก

    นับว่าเป็นพระผู้ทรงคุณธรรม ทางการปฏิบัติที่หาได้ยากรูปหนึ่ง ถึงแม้ว่าที่ท่านแสดงออกเพื่อช่วยลูกหลานในลักษณะต่างๆ เช่น หมอยา ไล่ผี กันผี ก็เป็นเพียงส่วนประกอบในการช่วยเหลือสังคมส่วนหนึ่ง เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขทั่วกัน โดยใจจริงแล้วท่านมิได้ติดใจจากลาภสักการะที่ได้มา แล้วท่านก็ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุในพุทธศาสนา ตามสติกำลังดั่งที่ปรากฏอยู่ทั่วกัน ) ปฏิปทา ที่ท่านได้ทุ่มเทให้ศาสนาและญาติธรรมนี้จึงเป็นบ่อเกิด ความเคารพรัก ศรัทธานับถือเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนานนามเรียกว่า ?พ่อแม่? หรือ คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นความที่ยิ่งใหญ่หาที่เปรียบมิได้ เพราะพระคุณของพ่อของแม่ มากมายเหลือคณา พระคุณของแม่มากมายมหาศาล

    เพียงลำพังคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ต่างก็มีบุญคุณอันใหญ่หลวงอยู่แล้ว หากเอามารวมกันก็จะยิ่งใหญ่มหาศาล และหลวงปู่ด่อน ก็ถือได้ว่ามีบุญคุณเทียบเท่าพระคุณของพ่อและแม่เมื่อนำมาเรียกรวมกันใครๆ ก็เรียกท่านว่า "พ่อแม่? ของพวกเราอย่างสมคุณค่าและที่สำคัญยิ่งคือ ท่านเป็นผู้สืบทอดศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่พึ่งทางใจเปรียบเสมือนยาขนานวิเศษ ท่านเป็นพระที่ศึกษาธรรมวินัยอย่างจริงจัง เมื่อศึกษาแล้วก็นำมาปฏิบัติ ทั้งยังได้นำออกเผยแพร่แก่พุทธศาสนาทั่วไป เรียกว่าท่านได้ทำครบ 3 ส. คือ

    ส. สังคม ความดีงาม ความรู้

    ส. สร้างสรรค์ การปฏิบัติธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของพระสงฆาธิการหรือเจ้าอาวาส ทั้งสร้างถาวรวัตถุ พุทธสถานต่างๆ

    ส. สั่งสอน การให้ความรู้ความเข้าใจ ความคิด ตามแนวทางพุทธศาสนา

    หลวงปู่ด่อน จึงเป็น ?พ่อแม่? เป็นปูชนียบุคลและเป็นครูอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ใครเข้าใกล้ได้รับบุญกุศล ซึ่งหมายถึง ?ความอิ่มใจและมีปัญญาอย่างเต็มเปลี่ยม" ชาวบ้านไปวัดและฟังธรรมของหลวงปู่ ทำบุญกับหลวงปู่ เห็นการปฎิบัติธรรมเกิดความสบายใจ เกิดความสุข เรียกว่า เกิดบุญและนำมาปฏิบัติ เกิดความคิด เกิดปัญญาเรียกว่า ?เกิดกุศล? เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ชาวปากคาดและคนทั่วไปจะเรียกหลวงปู่ด่อนว่า ?พ่อแม่ด่อน? หรือคุณพ่อคุณแม่ด่อน เนื่องจากบุญคุณอันใหญ่หลวงของหลวงปู่นั่นเอง



    ท่านหลวงปู่ ?พ่อแม่ด่อน? อินทสาโร เกิดวันอาทิตย์ ที่ 22 กรกฎาคม 2449 ตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย ณ บ้านโคกเลาะ ตำบลข้าวปุ้น (ขนมเส้น หรือ ขนมจีน ) อำเภอตระการพืชผล ปัจจุบันแยกออกเป็นฯอำเภอข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อ นายใบ เคียงวงค์ มารดาชื่อนางเบาะ เคียงวงค์ รกรากตระกูลเดิมอยู่ฝั่งนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว เล่าสืบต่อกันมาว่า คุณปู่ของท่านอยู่เมืองกะเสิม (ศัพท์เดียวกับ เกษม) ต่อมาเกิดเดือดร้อนผันผวนในบ้านเมืองจึงพากันอพยพหนีข้ามโขงมาฝั่งไทย และเล่าต่อกันมาว่า สมัยหนึ่งท้าวคัทธนามได้ปราบยุคเข็ญบ้านเมืองให้เสร็จพรรพแล้วพากันขนเอาทองคำหนีข้า มโขงมาฝั่งไทย โดยเอาทองคำใส่คุแล้วใช้ไม้คานห้ามข้ามมา พอมาถึงเขตอำเภอ คุหลุ และมาเปลี่ยนเป็นอำเภอตระการพืชผลในที่สุด

    หลวงปู่พ่อแม่ด่อน มีพี่น้องร่วมท้องกัน 9 คน พ่อแม่ด่อน เป็นคนที่ 4 คือ นายด่อน เคียงวงค์ เมือท่านได้อายุ 7 ปี ได้เข้าเรียนประถมศึกษาจนจบประถมสมบูรณ์ แล้วได้ช่วยพ่อแม่ทำนาตามอาชีพธรรมดาในท้องถิ่นจนอายุได้ 17 ปี ท่านคิดออกบวชเป็นเณรจึงได้ดังปรารถนา ซึ่งพ่อแม่ก็ยินดีและได้และได้นำลูกชายด่อนไปมอบให้พระอาจารย์อ่อนที่ตำบล
    ขุหลุ จัดการให้บวชเป็นสมาเณรด่อนทันที จากนั้นเณรด่อน ก็ได้ตั้งใจศึกษาอักขระสมัยทั้ง ไทย, ลาว ธรรม (ตัวไทยน้อยแบบพม่า อีสานเรียกว่าตัว ?ธรรม ถือว่าสำคัญมากเท่ากับพระพุทธรูปได้และเก็บรักษา ) และตัวขอมที่นิยมเรียน เขียน อ่าน ควบคู่กับตัวธรรมจนมีความรู้ดีพอสมควร และได้เรียน มนต์น้อย มนต์กลาง (เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน) จนสวดมนต์ฉบับหลวงได้ดี

    เมื่ออายุได้ 21 ปี ถึงกำหนดบวชพระตามวินัยพุทธานุญาติ คุณพ่อคุณแม่ ที่ตั้งตารอคอยที่จะเห็นลูกเณรที่น่ารัก เอาจริงเอาจัง กับการบวชเรียนเขียนอ่าน ตามประเพณีอันดีงอยู่แล้ว คุณโยมพ่อโยมแม่ก็จัดแจงแต่งกองบุญบวชลูกเณรด่อนให้เป็นพระต่อไป สำหรับงานบวชในงานอุปสมบทนั้น จะมีการบายศรีสู่ขวัญนาคตามประเพณี ซึ่งเป็นพิธีที่ทรงคุณค่าทางจิด้านใจ เนื้อหาคำสวดขวัญนาคจะเล่ารายละเอียดที่เราเกิดมาเริ่มตั้งแต่ที่เราอยู่ท้องแม่ แม่ก็คอยดีใจที่จะเห็นหน้าลูก คอยระวังอันตราย ด้านต่างๆ ที่จะไม่ให้เกิดขึ้นกับลูก อิริยาบถเคลื่อนไหวไม่ให้เกิดกระทบกระเทือนแก่ลูกในท้อง อาหารการกินก็ระมัดระวังเช่นกัน ความปวดร้าวทรมานเจียนตายเมื่อคราวคลอดลูก การทะนุถนอมลูกอ่อนเมื่อยังแบเบะ ความรักความห่วงใยลูก เมื่อคราวเติบโตหรือแม้แต่ คราวเมื่อลูกได้รับความทุกข์ดานต่างๆ เป็นทำนองให้เห็นภาพพจน์ที่เกิดขึ้นระหว่างแม่กับลูก มันเป็นการสวดการเล่าที่ลึกซึ้งกินใจอาจเรียกน้ำตาเพราะสะท้อนภาวะความจริงในชีวิตได ้อย่างอัศจรรย์ จนเกิดความซาบซึ้งในบุญคุณป้อนข้าวป้อนน้ำของคุณพ่อและคุณแม่ ยิ่งผู้มีอุปนิสัยบารมีในหนหลัง อย่างท่านพ่อแม่ด่อนแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความหนักแน่นในการสนองพระคุณโยมแม่ทั้งสอง เมื่อประเพณีการสวดมนต์ การแสดงธรรม การบายศรีสู่ขวัญการแห่แหนแพนกั้ง อันเนื่องในพิธีบวชได้ผ่านไปแล้ว

    ลูกเณรด่อน ไดกำเนิดเป็นภิกขุ เรียบร้อยแล้ว ท่านพระอุปัชฌาย์อ่อน ตำบลกุดข้าวปุ้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูเลื่อนเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านพระครูคำเป็นพระอนุสาวนจารย์ท่านพระใหม่ด่อน อินทสาโร ( อินท = เลิศดี สาระแก่นคูณ ความดี ) ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียน กับท่านพระอุปัชฌาย์อ่อน 3 พรรษา จากนั้นก็ได้ไปแสวงหาสำนักศึกษาเล่าเรียนตามนิสัยของคนฉลาดไม่ประมาทในชีวิต อันดับแรกได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านนาขนัน ต.ขามป้อม อ. เขมราฐ จ. อุบลราชธานี ได้เรียนมูลกัจจายนะที่นั้น 1 พรรษา มีพระอาจารย์ใบเป็นครูสอนแต่ยังไม่จบ ก็ได้ย้ายไปศึกษามูลกัจจายนะต่อที่สำนักดัดบ้านถ่อน มีพระอาจารย์เคนเป็นครูสอน เรียนได้ 1 พรรษายังไม่จบ เพราะอาจารย์เคนได้ย้ายไปเป็นอาจารย์สอนมูลกัจจายนะที่วัดบ้านแก้ง พระด่อนก็ติดตามไปจึงเรียนจบมูลกัจจายนะรวมเวลาเรียนยู่ 3 พรรษา 3 วัดจึงเรียนจบมูลกัจจายนะ

    เมื่อจบมูลกัจจายนะแล้ว ท่านพ่อแม่ด่อนก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดเสารีก 1 พรรษา ได้เรียนคัมภีร์ (คัมภีร์ทั้ง 5 มี อา. ปา. ม. จ. ป. แห่งพระวินัยปิฎก เป็นการเรียนความละเอียดแห่งพระไตรปิฎก แปลภาษาบาลี ภาษามคช ต่อจาก
    มูลกัจจายนะซึ่งเป็นธรรมเนียมเรียนมูลเดิมๆ เมื่อจบการเรียนแล้วท่านก็ได้จาริกเที่ยวศึกษาสถานที่ไปตามแนวฝั่งแม่น้ำโขง ขึ้นไปทางทิศเหนือจังหวัดนครพนมโดยลำดับ โดยเริ่มต้นที่อำเภอชานุมาน ท่าอุเทน และศรีสงคราม ถึงบ้านตาล ตำบลชัยบุรี ตรงที่ปากน้ำสงครามไชยบุรีนี้ ลือกันว่าเป็นแม่น้ำ ?นายฮอยปลาแดก? เพราะปลาชุกชุมมาก คนหลายจังหวัดได้อพยบมาอาศัยอยู่เป็นพันคน ณ ที่ตรงนี้ หลวงปู่ด่อนจึงรับนิมนต์ตกลงจำพรรษาที่วัดบ้านตาลไชยบุรี 1 พรรษา พอออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อด่อนก็กลับไปบ้านเกิดอีกครั้ง และได้ตั้งสำนักสอนมูลกัจจายนะแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรที่วัดบ้านโคกเลาะได้ 1 พรรษา พอออกพรรษาได้ข้ามโขงไปอยู่สำนักวัด บ้านหนองจันทร์ตาแสงหนองจันทร์ เมืองแก้งกอก แขวงสุวรรณเขต ประเทศลาว แปลคัมภีร์ทั้ง 5 อยู่หนึ่งปี ก็กลับมาบ้านโคกเลาะอีกครั้งเพื่อมาสอนมูลกัจจายนะแก่ ศิษยานุศิษย์ คราวนี้สอน อยู่ถึง 5 ปี เมื่อมีลูกศิษย์มากขึ้น ก็มาคิดถึงความจริงของสังขารร่างกายของตนและควรจะใฝ่การศึกษาทางการปฏิบัติกรรมฐานต่ อไป

    เมื่อได้เวลาอันเหมาะสมแล้ว ก็ได้ล่ำลาศิษย์โยมพ่อโยมแม่และชาวบ้านโคกเลาะออกแสวงหาศึกษาปฏิบัติตามเจตนาต่อไปจา กนั้นก็ได้ศึกษาการปฏิบัติธรรมอยู่สำนักพระอาจารย์พุฒ วัดดอนโทน ต.ดอนโทน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นเวลา 1 ปี แล้วเดินทางต่อไปและได้แวะเยี่ยมกับพระอาจารย์อ้วน ผาพรม บ้านหนองแวง ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม 1 คืน อาจารย์ อ้วนได้เล่าให้ฟังว่า มีญาติพี่น้องชาวอุบลราชธานี ไปสร้างหลักแหล่งอยู่ที่บ้านปากคาด อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จากนั้นหลวงปู่ด่อน ก็ลงเรือกำปั่นที่ท่านาเข ใต้บ้านแพง ราว 10 กิโลเมตร เมื่อลงเรือแล้ว ก็ได้พบอาจารย์ครูเบียง สนทนากันตลอดทางอาจารย์ครูเบียง จึงนิมนต์ไปจำพรรษาที่วัดสว่างอุทิศ (วัดท่าปากน้ำ ) บ้านปากคาด หมู่ที่ 1 แทนอาจารย์ครูเบียง ซึ่งสึกจากพระแล้ว นับว่าเป็นวัดแรกที่พ่อแม่ด่อนมาเหยียบพื้นดินของอำเภอปากคาด พ่อแม่ด่อนได้จำพรรษา อยู่วัดท่าปากน้ำเป็นเวลา 1 พรรษา แล้วจึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดถ้ำศรีธน พ่อแม่ด่อนได้พัฒนาวัดถ้ำศรีธนขึ้นจนเป็นวัดที่ชาวบ้านรู้จักกันมากมาย เมื่อท่านได้พัฒนาวัดนานพอสมควรแล้ว ก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่ป่าช้าบ้านหนองมุม ห่างจากวัดถ้ำศรีธนประมาณ 3 กิโลเมตร พ่อแม่ด่อนได้ทำความเพียรอย่างหนักบางระยะก็อดข้าว 7 วันต่อครั้ง แล้วอาศัยเรือไม้กระดานสามแผ่น ไปบินฑบาตรเลี้ยงชีพตลอดพรรษา แล้วกลับวัดถ้ำศรีธนอีก ได้ก่อสร้างพระพุทธรูป 5 องค์ จากนั้นพ่อแม่ด่อนได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิด เพื่อโปรดมารดาโดยการแสดงธรรมให้มารดาและญาติพร้อมกับชาวบ้านโคกเลาะให้รู้จับบาป บุญ คูณ โทษ และอบรมสั่งสอนเพือนพรหมจารี พระเณรตามสติกำลังทั่วไป

    เมื่อออกพรรษาแล้ว ก็ได้ลาญาติโยมกลับมาปากคาดอีกครั้งท่านมาสร้างวัดถ้ำเจีย ซึ่งมีโขดหินก้อนใหญ่น้อยและหมู่แมกไม้สวยงามเป็นดินแดนที่สงบใกล้ริมฝั่งแม่น้ำโขงป ระกอบอารมณ์ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน พออาศัยอยู่ก่อน เมื่อมีก้อนหินและหลีบหิน มีค้างคาว หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ?เจีย? จึงให้ชื่อว่าวัดถ้ำเจีย หรือวัดถ้ำค้างคาวนั่นเอง ต่อมาเรียกว่า ?วัดรุกวัลย์? เพราะมีต้นไม้และเครือเขาเถาวัลย์มีอย่างสมบูรณ์หนาแน่นประกับมีก้อนหินใหญ่สูง ต่อมาญาติโยมที่ศรัทธาเคารพพ่อแม่ด่อนได้พร้อมใจกันสร้างกุฏิบนหลังก้อนหินสูงนั้น เริ่มสร้าง พ.ศ. 2496 เสร็จใน พ.ศ. 2502 ถวายท่านก็ได้อยู่ประจำที่กุฏินั้นตลอดมา

    ด้วยความทรงศีล ทรงธรรมและการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงเกิดบารมีอธิษฐานขึ้นในตัวของท่านเป็นอิทธิฤทธิ ์เหนือธรรมชาติ เฉพาะบุคคล เมื่อปีใดฝนไม่ตกเกิดความแห้งแลงชาวปากคาดก็นิมนต์พ่อแม่ด่อน บำเพ็ญอธิษฐานบารมี หลังสวดมนต์เรียกฝนอยู่ 3 วัน จากนั้นฝนก็จะตกลงมาอย่างมืดฟ้ามั่วดิน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่มีบารมีพ่อแม่ด่อนสวดจนเจ็บไข้ได้ป่วยฝนก็ยังไม่ยอมมาชาวบ้านจึงนิมนต์ให้หยุด&nb sp; อิทธิฤทธิ์การเรียกฝนให้ตกของพ่อแม่ด่อนดังระบือไปทั่ว ชาวพุทธหลายจังหวัดในภาคอีสานมานิมนต์ท่านไปสวดมนต์เรียกฝนให้ หลวงปู่ด่อนก็รับนิมนต์ จังหวัดที่พอจะไปได้ท่านก็ไปเสมอ จังหวัดมหาสารครามท่านก็ไปทำการบำเพ็ญอธิฐานบารมีตามแบบของท่าน ก็ปรากฏว่าฝนตกลงมาขณะที่ทำการสวดเป็นวันที่สอง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นอากาศแห้งแล้งมาก จึงเป็นเหตุเกิดความเคารพนับถือในท่านกว้างขวางออกไป และท่านก็มิได้เรียกค่าตอบแทนแต่ประการใด

    ในการก่อสร้างถาวรวัตถุ ผู้เคารพศรัทธาญาติโยมลูกหลาน พร้อมใจกันสร้างอุโบสถ์ เมื่อปี 2507 สำเร็จในปี พ.ศ. 2518 งบประมาณสี่แสนเศษ ตามธรรมดาจะต้องใช้เงินถึงล้านกว่าบาท ลำดับต่อมาท่านได้ปรารภกับคณะสงฆ์และญาติโยมว่าจะสร้างศาลาการเปรียญ คณะสงฆ์มีท่านพระครูถาวรศีอาจารย์ และพระอุปัชฌาย์บุญถิ่น กิตติวณ (เจ้าคณะอำเภอองค์ปัจจุบัน) พร้อมลงมือก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เริ่มต้นปี 2525 เป็นต้นมาแต่ยังไม่เสร็จและได้สร้างกุฏิทั้งเก่าและใหม่มีจำนวน 11 หลัง

    ปี 2528 หลวงปู่ด่อนได้ป่วยอย่างหนักด้วยโรคนิ่ว ศานุศิษย์และญาติโยม ได้นำส่งโรงพยาบาลหนองคายพักที่ตึกสงฆ์ หมอได้ทำการผ่านิ่วออก 3 ตัว รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2528 ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2528 ออกจากโรงพยาบาลเข้าพรรษาพอดี หลังจากผ่าตัดมาอาการป่วยก็ไม่ดีขึ้น แต่หลวงปู่เป็นผู้ใจแข็ง มีมานะอดทนต่อบาดแผล คณะสงฆ์ชาวอำเภอปากคาดและญาติโยม จึงได้ทำการบายศรีสู่ขวัญให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้หลวงปู่ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2518 ปรากฏว่าประชาชน ข้าราชการ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ไม่ว่าใกล้หรือไกลมาร่วมงานเป็นจำนวนมากในการบายศรีสู่ขวัญในครั้งนั้น ต่อจากนั้นอาการป่วยของหลวงปู่ด่อนก็หายเป็นปกติ เป็นเวลา 3 ปี ในปี พ.ศ. 2531 อาการป่วยก็กำเริบขึ้นอีกและร่างกายสังขารก็ทนไม่ไหว วันที่ 16 มกราคม 2532 เวลา 07.00 น. หลวงปู่ก็มรณภาพ ที่ชานกุฏิใหม่ของท่านเอง พอดีอายุครบ 84 ปี 64 พรรษา

    หลังจากหลวงปู่ด่อนมรณภาพแล้ว ทางคณะสงฆ์และข้าราชการพ่อค้าประชาชน ได้ประชุมหารือกัน นำศพหลวงปู่ไปไว้ที่ศาลาการเปรียญ เพื่อบำเพ็ญกุศลตลอดปี 2532 และได้ขอพระราชทานเพลิงศพในปี 2533 ต่อมาก็มีประเพณีวันคารวะหลวงพ่อด่อนทุกวันพระที่ 2 ของการเข้าพรรษาทุกปี

    หมายเหตุ:ขอขอบคุณพี่บุ๋ม ปากคาดที่เอื้อเฟื้อภาพของหลวงปู่ด่อน มา ณที่นี้ด้วยครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสูงครับ


    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงปู่สุดวัดกาหลง ออกวัดขุนจันทร์พิมพ์ใหญ่

    ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    http://palungjit.org/threads/หลวงปู...ระ-๕-แผ่นดิน-ลูกบุญธรรมของหลวงพ่อเงิน.285526/
    อ่านประวัติเรื่องราวท่านในกระทู้นี้ได้เลยครับ

    เหรียญหลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง อุตรดิตย์ มี 2 เหรียญ

    ให้บูชาเหรียญละ 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ
    เหรียญที่1
    [​IMG] [​IMG]

    เหรียญที่2
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2014
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัล สิงห์บุรี

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    จัดส่ง

    EL 3103 7951 5 TH เชียงใหม่

    ขอบคุณครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    วันนี้จัดส่ง

    EL 3103 9276 9 TH ระยอง


    EL 3103 92772 TH เอราวัณ

    ขอบคุณครับ
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,419
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ลิง หนุมานหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง

    ให้บูชา 2000 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...