เพื่อการกุศล เปิดจองรุ่นของขวัญปีใหม่ ลพ.หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์อธิฐานจิตสร้างโดยวัดป่าศรีสำราญน.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 18 มิถุนายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ในพระสูตรกล่าวว่า “ในอดีตกาลที่แสนยาวนาน ได้มีพระอสุนีประภาสพุทธเจ้า(電光佛)ทรงอุบัติขึ้นในโลก ครั้งนั้นมีพราหมณ์ผู้หนึ่ง มีบุตร ๒ คน แต่พราหมณ์นั้นเกิดความเบื่อหน่ายต่อความทุกข์ของโลก และได้พบเห็นความทุกข์เวทนาของสรรพสัตว์ ครั้นแล้วจึงประกาศปฏิญาณว่าจะช่วยเหลือและบำบัดทุกข์โศกโรคภัยของสรรพสัตว์ทั้งปวง พระอสุนีประภาสพุทธเจ้าจึงทรงสดุดีสรรเสริญ และยกย่องพราหมณ์นั้นว่า “แพทยราช” บุตรทั้งสองนั้นก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สูรยประภา” และ “จันทรประภา” ต่อมาพราหมณ์นั้นจึงได้สำเร็จพระพุทธญาณเป็นพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าในปัจจุบัน และบุตรทั้งสองก็คือพระโพธิสัตว์อัครสาวกทั้งสองของพระองค์ สาธุชนจึงถวายพระนามแด่ทั้ง ๓ พระองค์นี้ว่า “พระมหาอริยเจ้าทั้ง ๓ แห่งบูรพาทิศ”(東方三聖) พระผู้ทรงสอดส่องดูแลและช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งกลางวันและกลางคืน

    อีกในส่วนท้ายของคัมภีร์ไภษัชยคุรุฯสูตรทั้ง ๒ ปกรณ์ข้างต้นยังมี “มหายักษ์เสนาบดีอีก ๑๒ ตน” ที่มีความเลื่อมใสในพระไภษัชยคุรุและทั้ง ๑๒ ตนนี้ต่างก็มีบริวารอีกตนละ ๗,๐๐๐ ตน โดยมหายักษ์เสนาบดีทั้งหมดนี้ได้ประกาศสัจจะต่อเบื้องพระพักตร์แห่งพระพุทธศรีศากยมุนีว่า จะปกปักรักษาพุทธศาสนิกชนที่ตั้งมั่นในศีลธรรม มีความกตัญญูและศรัทธาในพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทั้ง ๗ นี้ ให้ร่มเย็นรอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง พร้อมจะช่วยให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา​
     
  2. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    อันมหายักษ์เสนาบดีทั้ง ๑๒ ตนนี้เปรียบดั่งจักรราศีหรือนักษัตรทั้ง ๑๒ ของมนุษย์มี ชวด ฉลู ขาล เถาะ เป็นต้น มาตรว่าผู้ที่มีคุณธรรมและศรัทธาต่อพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ ก็จะรอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง ด้วยการอารักขาของมหายักษ์ทั้ง ๑๒ ตน บ้างว่ามหายักษ์ทั้ง ๑๒ ตนนี้เป็นผู้คุ้มครองหรือเทพประจำพระมหาปณิธานทั้ง ๑๒ ประการของพระไภษัชยคุรุ และยังเป็นกุศโลบายอีกว่า มหายักษ์เสนาบดีทั้ง ๑๒ ตน มีบริวารตนละ ๗,๐๐๐ ตน เมื่อนับทั้งหมดแล้วก็จะได้ยักษ์เท่ากับ ๘๔,๐๐๐ ตนพอดี(๑๒ คูณ ๗,๐๐๐) ซึ่งหมายถึงพระธรรมของพระพุทธเจ้า​



    ดังนั้น สาธุชนจึงนิยมสาธยายจารึก หรือคัดลอกพระนาม พระธารณี พระสูตร หรือวาดภาพ ปั้น หล่อพระปฏิมากรของพระไภษัชยคุรุ(พระองค์เดียวหรือทั้ง ๗ พระองค์)นี้ ประดิษฐานไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อว่าพระพุทธบารมีและอำนาจแห่งมหายักษ์เสนาบดีทั้ง ๑๒ ตน จะมาสถิตอยู่ในสถานที่นั้นๆ ตามอรรถในพระสูตรที่ว่า “หากมีพระนาม พระธารณี พระสูตรหรือพระปฏิมาของพระไภษัชยคุรุสถิตหรือปรากฏอยู่ ณ แห่งใด การเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ โรคาพาธร้ายแรง อาถรรพ์ชั่วร้ายทั้งปวงก็จะสิ้นไปจากแห่งนั้น”
     
  3. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ในคัมภีร์วิมลเกียรตินิทเทสสูตร[3] ปริเฉทที่ ๑๓ ธรรมปฏิบัติวรรคกล่าวว่าพระศากยมุนีพุทธเจ้าทรงประทานพระธรรมเทศนาแก่ท้าวศักรินทร์เทวราช ความว่า “ดูก่อนเทวราช ณ เบื้องอสงไขยกัลป์อันประมาณมิได้ ในสมัยพุทธุปบาทกาลแห่งพระผู้มีพระภาคผู้ทรงพระนาม ไภษัชยราชาตถาคต พระองค์เป็นพระผู้ควรบูชา เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ดีตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง แลยังให้ผู้อื่นรู้ตาม ฯลฯ โลกธาตุของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมีนามว่า มหาวยูหอลังการ กัลป์นั้นมีชื่อว่า อลังการกัลป์ พระชนมายุของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมี ๒๐ จุลกัลป์ ทรงมีพระสาวกสงฆ์ ๓๖ โกฏินหุตะ พระโพธิสัตว์สงฆ์อีก ๑๒ โกฏิ ดูก่อน เทวราชครั้งนั้นมีพระเจ้าจักรพรรดิราชทรงพระนามว่า รัตนฉัตร ทรงสมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการฯ มีพระโอรส ๑,๐๐๐ องค์ ล้วนสมบูรณ์ศิริลักษณ์สง่างามแลมีวีรยภาพแกล้วกล้าฯ พร้อมด้วยบริวารได้ถวายสักการบูชาในพระไภษัชยราชาตถาคตเจ้า เป็นระยะเวลา ๕ กัลป์ พระเจ้ารัตนฉัตรจึงมีพระดำรัสให้พระโอรสทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ ถวายสักการะต่อไป จากนั้นพระโอรสทั้ง ๑,๐๐๐ องค์จึงทำการบูชาไปอีก ๕ กัลป์ เมื่อสิ้น ๕ กัลป์นั้นแล้วมีพระโอรสองค์หนึ่งพระนามว่า จันทรฉัตร เมื่อประทับอยู่พระองค์เดียว บังเกิดปริวิตกขึ้นว่า ยังจักมีสักการบูชาใดที่ยิ่งกว่าสักการบูชา อันพระราชบิดาแลเราทั้งหลายได้บำเพ็ญอยู่อีกฤๅไม่หนอ?​
     
  4. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ครั้งนั้น ด้วยพุทธานุภาพ บันดาลให้มีสุรเสียงตอบจากเบื้องอัมพรสถานว่า ดูก่อนราชบุตร การสักการะบูชาด้วยธรรมปฏิบัติประเสริฐยิ่งกว่าสักการะบูชาใดๆ ราชบุตรจึงถามต่อไปอีกว่า อะไรที่ชื่อว่าเป็นธรรมปฏิบัติเล่า? จากนั้นพระไภษัชยราชาตถาคตจึงทรงประทานพระธรรมเทศนาแก่จันทรฉัตรราชบุตร และเมื่อพระราชบุตรได้สดับฟังธรรมแล้ว ก็ได้บรรลุมุทุตากษานติธรรม และประกาศมหาปณิธานเป็นอันมาก พระไภษัชยราชาตถาคตจึงตรัสพยากรณ์ว่า ในอนาคตกาลเธอจักได้อภิบาลรักษาสัทธรรมนครเป็นแท้(สำเร็จพุทธญาณ) และทรงกล่าวว่าพระเจ้าจักรพรรดิรัตนฉัตร ได้สำเร็จเป็น พระรัตนโชติประภาพุทธเจ้า พระราชโอรสทั้ง ๑,๐๐๐ พระองค์ ก็คือพระพุทธเจ้า ๑,๐๐๐ พระองค์ในภัทรกัลป์นี้ และพระราชโอรสจันทรฉัตรก็คือพระศากยมุนีพุทธเจ้าในปัจจุบัน
    เป็นนัยยะว่าพระไภษัชยราชาตถาคตหรือพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า(แต่บางตำราว่าคนละพระองค์) ทรงตรัสรู้มาก่อนพระศากยมุนีเป็นเวลาแสนนานแล้ว และพระศากยมุนีก็เคยได้ถวายสักการะ ได้รับการสั่งสอนและได้รับพระพุทธพยากรณ์จากพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้ามาก่อนแล้ว​
     
  5. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    จึงถือเป็นพระพุทธนามอันศักดิ์สิทธิ์และยอดแห่งมงคล ทั้งยังเป็นที่มาหนึ่งเดียวของการสร้างพระกริ่งของไทย ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายาน สังเกตจากคาถาบูชา“พระกริ่ง”(ภาษาบาลี) เป็นบทเดียวกับธารณีที่ปรากฏในพระสูตรของพระไภษัชยคุรุ(ภาษาสันสกฤต)ทั้ง ๒ ฉบับข้างต้น แต่มาถึงปัจจุบันการจัดสร้างพระกริ่งก็คงไว้แต่ธารณีหรือคาถาบูชาที่ทำให้เราพอทราบได้ว่าเป็นพระไภษัชยคุรุ นอกเหนือจากคุณสมบัติที่นิยมนำพระกริ่งลงแช่น้ำแล้วภาวนาคาถาพระไภษัชยคุรุ เพื่อทำเป็นน้ำพระพุทธมนตร์ในการรักษาโรคภัยและความเป็นสิริมงคล


    มีข้อสังเกตว่าพระพุทธบารมีแห่งพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทรงเป็นที่ประจักษ์แจ้งมาแต่โบราณกาลแล้ว ตามหนังสือลัทธิของเพื่อน ของเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ว่า “ในพงศาวดารเขมร กล่าวว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ.๑๗๒๔ ถึง ๑๗๔๔) กษัตริย์กัมพูชาทรงสร้างโรงพยาบาลทั่วไปในอาณาจักร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระไภษัชยคุรุตถาคตเจ้า เพื่อประโยชน์แก่คนเจ็บป่วย ไม่เลือกชั้นวรรณะ โรงพยาบาลเหล่านี้เรียกว่า อโรคยาศาล(มีจำนวนร้อยกว่าแห่งทั่วพระราชอาณาจักร)” และจากศิลาจารึกอโรคยาศาล บันทึกไว้ว่า “โรคที่เบียดเบียนร่างกายของประชาชนนั้น กลับกลายเป็นโรคทางใจ ถึงแม้ว่าทุกข์นั้นจะใช่เป็นของตนเอง แต่ความทุกข์ของราษฎรเปรียบเหมือนทุกข์ของผู้ปกครอง”​
     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    โดยที่ผ่านมานั้นมีการกล่าวถึง พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าเพียงพระนามเท่านั้น โดยจะหาพระพุทธประวัติก็แทบไม่มี ครั้นจะกล่าวถึงพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าอีก ๖ พระองค์พร้อมพระพุทธประวัติก็ยากเย็นยิ่งนัก โดยในพระสูตรทั้ง ๒ กล่าวไว้ว่า “การจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก เมื่อเกิดมาแล้วได้เลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้นยิ่งยาก แต่การได้พบ(สดับฟังพระนาม)พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์นี้ยังยากยิ่งกว่า”
    พระสูตรทั้ง ๒ นี้เป็นที่แพร่หลายมากในประเทศพุทธมหายาน เช่นจีน ญี่ปุ่น ธิเบต เนปาล ทั้งเป็นเอกสารสำคัญในการกล่าวถึงพุทธประวัติ การปฏิบัติบูชาพร้อมบทธารณีมนตร์ที่ละเอียดสมบูรณ์ที่สุด บางแห่งจะให้สาธุชนได้ลูบคลำพระพุทธปฏิมาของพระไภษัชยคุรุตรงส่วนที่ตนเองเจ็บปวด ด้วยความเชื่อที่ว่าจะหายจากการเจ็บป่วยบริเวณนั้นๆ ได้


    แต่ไม่มีนิกายที่นับถือพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าเป็นเจ้านิกายเหมือนพระอมิตาภะโดยเฉพาะ แต่ทรงเป็นที่กราบไหว้บูชาของทุกนิกาย เพราะตามอารามใหญ่ๆจำนวนมากก็มีวิหารพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าแยกไว้ต่างหากด้วย เรียกว่า “วิหารไภษัชยราช” หรือ “วิหารมหาแพทยราชา” และมีคำกล่าวว่าพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งปวงก็คือ พระไภษัชยคุรุ ที่มีความเมตตากรุณาประทานธรรมโอสถแก่สรรพสัตว์ทั้งปวง เพราะการจักเข้าถึงพระไภษัชยคุรุก็เพียงโดยการสรรเสริญ ภาวนาในพระนามของพระองค์ด้วยความเป็นที่สุดแห่งใจเช่นกัน ในพระสูตรระบุว่า “หากสาธุชนหญิงชายใดๆ จดจำพระนามได้ และภาวนาอ่านท่องพระสูตร พระธารณี และพระนามของพระไภษัชยคุรุโดยสม่ำเสมอแล้วไซร้ ผู้นั้นจะปราศจากโรคภัยร้ายแรงทั้งปวง และจะไม่เป็นผู้พิกลพิการ ไม่ยากจนข้นแค้น มิอายุขัยยืนยาว และจะได้ไปอุบัติยังศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตร”​
     
  7. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ทั้งนี้ด้วยพุทธานุภาพแห่งพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าที่ทรงเปี่ยมด้วยมหาเมตตา มหากรุณาธิคุณในการปรารถนาให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ทางกาย เพื่อจักได้มีแรงกำลังมุ่งมั่นบำเพ็ญประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอย่างไร้อุปสรรค เพื่อจะส่งผลให้โรคทางจิตวิญญาณหรืออวิชชาโง่หลงได้สิ้นไปด้วย และในพระสูตรยังบรรยายถึงแดนวิสุทธิภูมิของพระองค์ว่า “แดนศุทธิไวฑูรย์ของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า มีความอลังการและวิจิตรเหมือนกับดินแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้าทุกประการ โดยไม่ผิดเพี้ยนแตกต่างกันเลย” ซึ่งในพระสูตรของพระไภษัชยคุรุไม่ได้บรรยายความอลังการไว้โดยละเอียด แต่หากอาศัยข้อความในพระสูตรข้างต้นท่านผู้สนใจก็สามารถอนุมานเข้ากับแดนสุขาวดี ที่มีบรรยายไว้จากพระสูตรทั้ง ๔ ของพระอมิตาภะได้เช่นกัน อันแดนศุทธิไวฑูรย์นี้ ยังมีนัยยะถึงการเริ่มชีวิตใหม่ การรู้แจ้ง ประดุจดวงอาทิตย์ที่รุ่งโรจน์เปล่งแสงยามรุ่งอรุณทางบูรพาทิศ ซึ่งเป็นทิศแรกหรือทิศประธานของการเรียงลำดับทิศทั้ง ๑๐ อนึ่งศุทธิไวฑูรย์พุทธเกษตรนี้ ก็มีสีน้ำเงินละม้ายกับสีของโลกที่เราอาศัยอยู่แห่งนี้ด้วย จนมีอรรถกถาบางปกรณ์กล่าวว่า “พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ก็คือพระศากยมุนีพุทธเจ้าแห่งสหาโลกธาตุนี้นั่นเอง”​
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    มีอรรถาธิบายว่ากุศลอันพึงได้จากการถวายสักการะพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้ามี ๑๐ ประการดังนี้
    ๑. สำเร็จพระพุทธญาณได้อย่างรวดเร็ว
    ๒. ผู้ที่เห็นผิดจะกลับมาเห็นชอบได้ ผู้ที่ดำรงในเถรวาทจะได้มาดำรงในมหายาน
    ๓. ย่อมสำเร็จในผลของศีลที่สมบูรณ์ทั้งปวง ผู้ที่ละเมิดศีลจักกลับคืนสู่สภาวะบริสุทธิ์ได้ดังเดิม และไม่ต้องตกสู่อบายภูมิ
    ๔. มีอายุสิริวัฒนา มั่งคั่งสมบูรณ์พูนสุข ด้วยลาภยศ สรรเสริญ คู่ครองและบริวารหญิง ชาย
    ๕. ย่อมถึงพร้อมในข้าวของเครื่องใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น ไม่ต้องอัตคัดหรือขัดสนอีกต่อไป
    ๖. รอดพ้นจากอุทกภัย อัคคีภัย ศาสตราภัย การถูกกรรโชกลักขโมย และการทำร้ายทั้งปวง
    ๗. สตรีเพศที่รับทุกข์ทรมาน ได้กลับกลายเป็นบุรุษ
    ๘. สตรีที่คลอดบุตร จะได้บุตรหญิงชายที่เฉลียวฉลาด มีบุญญาธิการและสุขภาพแข็งแรงสมประสงค์
    ๙. เมื่อคราวายชนม์ จักได้ไปอุบัติยังภพมนุษย์ ภพสวรรค์ แดนสุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้า หรือแดนศุทธิไวฑูรย์ของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าได้ดังใจปรารถนา
    ๑๐. แม้นตกสู่อบายภูมิ หากได้สดับฟังพระนามของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าเพียงชั่วขณะก็จักได้ไปเกิดยังโลกมนุษย์อีกครั้ง เพื่อบำเพ็ญกุศลความดีต่อยังให้บรรลุพระโพธิญาณโดยรวดเร็ว.

    คัมภีร์ทศยมราชาขมาสูตร ก็ว่า พระไภษัชยคุรุได้ทรงนิรมาณกายสู่นรกภูมิ เป็นพญายมราชครองนรกขุมที่ ๗ พระนามว่า “ไถ่ซัวเม้งอ้วง” ทรงมีหน้าที่รับเรื่องอุทรณ์ร้องทุกข์ ของวิญญาณคู่กรณีที่มีเวรต่อกัน และทรงตัดสินด้วยความยุติธรรม​
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ทั้งมีเรื่องราวพระพุทธานุภาพของพระไภษัชยคุรุใน “บันทึกความศักดิ์สิทธิ์ของพระรัตนไตร”(ของจีน) บรรพแรกว่า ในประเทศอินเดีย มีพราหมณ์ที่ร่ำรวยท่านหนึ่งไม่มีบุตร ทั้งภริยาผู้เป็นพราหมณีก็ตั้งครรภ์ได้ยากยิ่งนัก ต่อมาได้มีครรภ์และทะนุถนอมครรภ์นั้นไว้จนครบ ๙ เดือน แล้วจึงให้กำเนิดบุตรชาย ๑ คนที่มีสิริลักษณ์สง่างาม เป็นที่เอ็นดูแก่ผู้คนทั้งหลาย จากนั้นไม่นานมีนักพยากรณ์ผู้วิเศษทำนายว่า บุตรชายคนนี้มีลักษณะอันดีงามมากมาย จักมีอายุขัยเหลือเพียงอีก ๒ ปี เมื่อพราหมณ์และพราหมณีผู้เป็นบุพการีได้ยินแล้ว จิตใจก็เป็นทุกข์ยิ่งนัก ประดุจถูกศรพิษทิ่มแทง แต่โชคดีที่พราหมณ์นั้นมีสหาย ซึ่งออกบวชเป็นสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เมื่อทราบเรื่องแล้วจึงแนะนำว่า ท่านจงจัดสร้างพระปฏิมาของพระไภษัชยคุรุขึ้น ๗ พระรูปตามวิธี เพื่อถวายสักการบูชาเถิด​
     
  10. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    พราหมณ์จึงได้กระทำตามอรรถาธิบายในพระสูตร จากนั้นมีค่ำคืนหนึ่งได้นิมิตฝันไปว่ามีผู้หนึ่งใส่อาภรณ์ผิดแผกไปจากคนทั่วไปและใส่มงกุฏมาลา ควบอาชาสีเขียวมาหยุดตรงหน้าแล้วกล่าวแก่พราหมณ์นั้นว่า ด้วยท่านได้จัดสร้างพระปฏิมาของพระพุทธเจ้าขึ้น ๗ พระรูป เพื่อถวายสักการบูชาตามวิธี ด้วยอานิสงส์นี้บุตรของท่านจักมีอายุขัยถึง ๕๐ ปี จากนั้นนอกจากบุตรของพราหมณ์จักไม่สิ้นอายุขัยเมื่ออายุ ๒ ปีแล้วยังมีอายุขัยยาวนานถึง ๕๐ ปีพร้อมกับไม่เคยป่วยไข้เลย และยังมีบันทึกเรื่องราวทำนองนี้อีกเป็นจำนวนมาก

    วันคล้ายวันพระพุทธสมภพของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าคือ วันที่ ๓๐ เดือน ๙ (ตามจันทรคติจีน) แต่หากเดือนใดมีเพียง ๒๙ วันก็ให้ถือเอาวันที่ ๒๙ แทน.​


    [1] อาตมาแปลจากภาษาจีนสู่ภาษาไทยและพิมพ์เผยแผ่แล้วในปี ๒๕๔๑
    [2] อาตมาแปลจากภาษาจีนสู่ภาษาไทยและพิมพ์เผยแผ่แล้วในปี ๒๕๔๔ และ ปี ๒๕๔๘
    [3] อาจารย์เสถียร โพธินันทะ ..แปลจากภาษาจีน
    (ข้อมูลจาก .. พระพุทธเจ้าและพระธรรมสูตรฝ่ายมหายาน พระวิศวภัทร เซี่ยเกี๊ยก 2549)
    เขียนโดย ชมรมบารมีเมตตาธรรม ที่ 05:54​
     
  11. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    พระพุทธเจ้าหมอ.... คุรุแพทย์




    พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภา
    ภาษาธิเบตนาม ซัง.เกีย.มน.ลา


    ภาษาจีนนามเอี๊ยะซือฮุก


    พระพุทธเจ้าแห่งทิศตะวันออกจอมราชันย์แห่งศาสตร์การแพทย์ พระวรกายสีน้ำเงินประดุจท้องฟ้าอันมหาศาลพระหัตถ์ขวาในท่าภาวนา พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรยาหรือหม้อยาพระกริ่งที่สร้างกันในประเทศไทยก็คือพระพุทธเจ้าพระองค์นี้

    ศาสตร์การแพทย์คือศาสตร์ที่พระศากยะมุนีพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็นสุดยอดแห่งศาสตร์ทั้งปวง การแพทย์แห่งพุทธเน้นแนวทางในการรักษาแบบองค์รวมนั้นคือเน้นความสัมพันธ์ในการรักษาทั้ง กาย วาจา ใจไปพร้อมกัน โดยใช้สมุนไพรใบยาการภาวนามนตรา สมาธิจิตความอ่อนแอในทางสุขอนามัยของสรรพสัตว์ ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการบำเพ็ญเพียรเพื่อสู่การหลุดพ้นเป็นเหตุให้พระไภษัชยพุทธเจ้าต้องเสด็จมาเพื่อโปรดสรรพสัตว์
    พระองค์ทรงเข้าร่วมในกิจกรรมทางการแพทย์ทุกขั้นตอนพีธีกรรมในการปรุงยา พระองค์ทรงเป็นประธานและผู้ลงมือกระทำการเพื่อความมีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งยาในการรักษาการภาวนา พระองค์ทรงประทานคาถาในการภาวนาเพื่อความเชื่อมั่นแน่วแน่ในการสู่สุขภาพที่ดี การทำสมาธิน้อมอัญเชิญพระองค์เข้าสู่ตัวเราหลอมรวมพระองค์และเราเป็นหนึ่งเดียว ความเจ็บป่วยทั้งปวงถูกหลอมละลายเป็นอากาศธาตุพระองค์และเราเข้าสู่ศูนยตาสภาวะ เราออกจากสมาธิในสภาวะว่างเปล่านั่นคือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมลายหายไปด้วย
    ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์อย่างกว้างขวางว่าสมาธิจิตเป็นยาวิเศษชนิดหนึ่งในการบำบัดความเจ็บป่วยการรักษาในแนวทางแห่งพุทธนี้ไม่เพียงได้ความสุขทางกายเพียงประการเดียวสมาธิจิตที่ได้เป็นยานพาหนะนำพาเราเข้าสู่การหลุดพ้น สู่ความเป็นพุทธะในที่สุดบังเกิดความสุขอันนิรันดร



    พระไภษัชยคุรุสูตร
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า " หากสรรพสัตว์ที่ยังมีกรรมหนักอยู่ ได้ยินพระนามของพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจ้า ท่องพระนามนี้ด้วยจิตแน่วแน่และแนบแน่นอยู่กับพระนาม โดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยเลยแม้เพียงหนึ่งเดียวแล้วไซร้ ก็เป็นอันว่าสัตว์เหล่านั้นจะไม่มีทางจะจมลงสู่อบายภูมิเป็นแน่แท้ ดูกรอานนท์การปฏิบัติอันสูงยิ่งของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อยากที่จะเข้าใจ แต่หากเธอสามารถมีจิดตั้งมั่นอยู่กับการปฎิบัตินี้ได้เธอก็จงรู้เถิดว่า นี่เกิดจากพลังอำนาจอันใหญ่ยิ่งของเหล่าพระตถาคตเจ้าทั้งหลาย "

    เมื่อครั้งพระไภษัชยพุทธเจ้ายังได้เสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น พระองค์ได้ทรงตั้งปณิธานอย่างยิ่งไว้ 12 ข้อ เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่สัตว์โลกปราถนา

    ปณิธานข้อที่ 1

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานว่าในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วจะมีรังสีอันสว่างเรืองรองฉายออกมาจากร่างของข้าฯยังแสงสว่างอันไม่สิ้นสุดให้บังเกิดแก่ดินแดนจำนวนนับไม่ถ้วนร่างนี้จะประดับด้วยมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ และลักษณะอันเป็นมงคล 80 ประการยิ่งไปกว่านั้นข้าฯจะช่วยให้สัตว์โลกทั้งมวลเป็นเหมือนดังเช่นข้าฯนี้"


    ปณิธานข้อที่ 2

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ร่างของข้าฯทั้งภายนอกและภายในจะแสงไปกว้างไกลด้วยความผ่องใสและความใสบริสุทธิ์ของแก้วไพฑูรย์ร่างนี้จะประดับไปด้วยคุณธรรมอันประเสริฐและดำรงอยู่อย่างสงบท่ามกลางแสงที่พัวพันกันสว่างเรืองรองมากกว่าพระอาทิตย์กับพระจันทร์แสงนี้จะปลุกให้จิตของสัตว์โลกตื่นขึ้นจากความมืดและช่วยให้สัตว์โลกดำเนินไปได้ตามทางการอธิษฐานของตน"

    ปณิธานข้อที่ 3

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ข้าฯจะมอบของดีๆจำนวนมีไม่จบสิ้นให้แก่เหล่าสรรพสัตว์เพื่อตอบสนองความต้องการทางร่างกายของพวกเขาเหล่าสัตว์นี้จะไม่มีวันอยากได้อะไรอีกเลย"

    ปณิธานข้อที่ 4

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วข้าฯจะนำพาผู้ที่เดินตามทางของเดียรถีย์นอกศาสนาให้ไปในทางสู่การตรัสรู้และข้าฯจะนำพาผู้ที่เดินตามทางของสาวกยานและของพระปัจเจกพุทธเจ้าให้มาสู่เส้นทางของมหายาน"

    ปณิธานข้อที่ 5

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วข้าฯจะช่วยเหลือสรรพสัตว์จำนวนเหลือคณานับที่ประพฤติตนอยู่ในธรรมให้มีศีลสะอาดบริสุทธิ์ ศีลนั้นได้แก่ศีลรากฐาน 3 ข้อของพระโพธิสัตว์แม้แต่ผู้ที่ล่วงละเมิดศีลนี้ก็จะได้รับความบริสุทธิ์ของตนเองกลับมาหากได้ยินชื่อของข้าฯและก็จะไม่ตกลงสู่ทางแห่งอบายต่อไป"

    ปณิธานข้อที่ 6

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว เหล่าสัตว์ที่มีร่างไม่สมบูรณ์ประสาทรับรู้ไม่ปกติ รูปร่างน่าเกลียด โง่ ตาบอด ใบ้ หูหนวก พิการ หลังค่อมเป็นขี้เรื้อน เป็นบ้าหรือทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยอื่นใด หากได้ยินชื่อของข้าฯแล้วจะมีร่างกายสมบูรณ์ กอปรไปด้วยสติปัญญา มีประสาทรับรู้เป็นปกติสัตว์เหล่านี้จะปลอดจากโรคภัยและความทุกข์ทั้งปวง"

    ปณิธานข้อที่ 7

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วเหล่าสัตว์ที่ป่วยอยู่ด้วยโรคด้วยโรคต่างๆผู้ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือไม่มีที้จะหันไปหา ไม่มีหมอ ไม่มียา ไม่มีครอบครัว ไม่มีบ้านผู้ซึ่งยากไร้และทนทรมาน หากได้ยินชื่อของข้าฯผ่านหูแล้วไซร้ จะหายจากโรคทั้งหลายด้วยกายและใจที่สงบและสันโดษ สัตว์เหล่านี้จะเพลิดเพลินกับบ้าน ครอบครัวและทรัพย์สมบัติมหาศาลและจะบรรลุถึงพระอนุตตรสัมโพธิญาณในท้ายที่สุด"

    ปณิธานข้อที่ 8

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว หญิงทั้งปวงที่เบื่อหน่ายกับ "โรคเป็นร้อยๆที่เกิดแก่หญิง" และปรารถนาจะหลุดพ้นจากกายอันเป็นหญิงนี้หากได้ยินชื่อของข้าฯแล้วหญิงเหล่านี้จะบังเกิดใหม่เป็นชายทั้งสิ้นจะกอปรไปด้วยคุณลักษณะอันประเสริฐและจะบรรลุซึ่งพระอนุตตรัสมโพธิญาณในท้ายที่สุด"

    ปณิธานข้อที่ 9

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วข้าฯจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หนีรอดจากบ่วงของมารและหลุดออกจากพันธนาการของเส้นทางนอกศาสนาหากสัตว์เหล่านี้หลงผิดอยู่ในป่าชัฏของมิจฉาทิฏฐิข้าฯจะนำพาสัตว์เหล่านั้นไปสู่สัมมาทิฐิและค่อยๆปลูกฝังการปฏิบัติของบรรดาพระโพธิสัตว์ทั้งหลายสัตว์เหล่านี้จะบรรลุซึ่งการตร้สรู้อันประเสริฐโดยรวดเร็ว"

    ปณิธานข้อที่ 10

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว สรรพสัตว์ที่ถูกจองจำ กุมขังพิพากษาประหารชีวิต หรือต้องทนทุกข์และถูกดูแคลนอยู่ด้วยโองการของพระราชารวมทั้งผู้ที่มีกายและใจเป็นทุกข์อยู่ด้วยการกดขี่ข่มเหงนี้สัตว์เหล่านี้เพียงแต่ได้ยินชื่อของข้าฯ ก็จะหลุดพ้นจากภัยเหล่านี้เพราะเหตุจากพลานุภาพของบุญบารมีที่ข้าฯได้บำเพ็ญเพียรมา"

    ปณิธานข้อที่ 11

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วหากสัตว์ใดที่ทนทรมานอยู่ด้วยความหิวและกระหายจนถึงขนาดว่าได้กระทำอกุศลกรรมไปด้วยความจำเป็นที่จะต้องเอาชีวิตรอดหากสัตว์เหล่านี้ได้มีโอกาสได้ยินชื่อของข้าฯและท่องชื่อของข้าด้วยจิตตั้งมั่นไม่เคลือบแคลงสงสัยกับทั้ง แนบแน่นอยู่กับชื่อนี้ข้าฯก็จะบันดาลให้สัตว์เหล่านั้นเพลิดเพลินใจกับอาหารกับเครื่องอันเป็นทิพย์ในท้ายที่สุดข้าฯก็จะทำให้สัตว์นั้นตั้งมั่นอยู่ในดินแดนของความสงบและความสุข"

    ปณิธานข้อที่ 12

    "ข้าฯขอตั้งปณิธานในอนาคตชาติเมื่อข้าฯได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว หากสัตว์ใดที่ยากจนข้นแค้นไม่มีเสื้อคลุมกายเพื่อปกป้องจากยุงและแมลง ทนกับความร้อนความหนาวและทนทุกข์อยู่ทั้งกลางวันกลางคืน หากสัตว์นี้ได้ยินชื่อของข้าฯและท่องชื่อของข้าด้วยจิตตั้งมั่นไม่เคลือบแคลงสงสัยกับทั้งแนบแน่นอยู่กับชื่อนี้ความปรารถนาทั้งปวงของสัตว์นี้จะเป็นไปเช่นนั้นสัตว์เหล่านี้จะได้รับเสื้อผ้านานาชนิดอันเป็นเลิศ มีเครื่องประดับล้ำค่ามาลัยดอกไม้และแป้งประทินอันมีกลิ่มหอมตระหลบสนุกสนานสำราฐไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะกับความบันเทิงอันเกษมมากจนเท่าที่จะพอใจ"
    [size=15.8333px]
    ในพระศาสนาแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า อันมีพระนามว่า “พระอสนีประภาสตถาคตพุทธเจ้า” มีชายผู้หนึ่งพร้อมด้วยบุตรทั้ง ๒ ได้เห็นภัยในวัฏฏะทุกข์ จึงตั้งจิตปรารถนาพระโพธิญาณ เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต ณ. กาลนั้น พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทรงกระทำการสาธุการ จากนั้นจึงทรงมีพระพุทธพยากรณ์ว่า สืบไปชายผู้นั้นจักกระทำให้แจ้งแล้วซึ่งกองทุกข์ ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้า มีพระนามที่ “พระไวทยราชย์ตถาคตพุทธเจ้า” ผู้บุตรทั้ง ๒ จักเป็นพระมหาโพธิสัตว์ มีพระนามที่ “พระสุริยประภามหาโพธิสัตว์” และ “พระจันทรประภามหาโพธิสัตว์” ประทับ ณ. ไวฑูรยโลกธาตุวิสุทธิเกษตร ในมณฑลหนบูรพทิศ​
     
  12. ไชย

    ไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +1,013
    ลำดับการจองที่ 25 โพสที่ 2509 วันที่ 2 ต.ค.57 ได้โอนเงินร่วมบุญบูชาเศียรพ่อแก่บรมครู 1เศียร ปละลูกสะกด 1 ลูกแล้วจำนวนเงิน 550 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. A'Ta

    A'Ta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2012
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +1,926
    สวัสดีค่ะ คุณรุ่ง
    ลำดับที่ 38 แจ้งโอนปัจจัยบาตรน้ำมนต์ ส่วนที่เหลือเรียบร้อยแล้วค่ะ
    โอนวันนี้ (2ตค57). เวลา 14.36 น. ยอดโอน 7,400.38 บาท
    โมทนา สาธุ สาธุค่ะ....ขอบคุณค่ะ
     
  14. วิชชาชาญ

    วิชชาชาญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +527
    แจ้งการโอนเงินครับ
    วันนี้ได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชีพระสมบูรณ์ ทิพาเสถียร เลขที่4040841583
    ธ.ไทยพาณิชย์ วันที่ 02/10/57 เวลา 14:06:53 น. จำนวน 3,000 บาทครับ
    แบ่งเป็นรายการดังนี้
    -ลำดับที่ 3 ในการจองบาตรน้ำมนต์ จำนวน 1,500 บาท(งวดที่2)
    -ลำดับที่ 16 ในการจองเศียรพ่อแก่และลูกสะกด จำนวน 1,500 บาท
     
  15. ต้นแก้ว

    ต้นแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,569
    ลำดับที่ 53 แจ้งโอนเงินจำนวน 660.59 บาท อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  17. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ ขอเวลานิดค่ะ จะร่วมตารางให้ค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  18. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380



    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  19. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  20. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380



    รับทราบค่ะ
    สาธุๆๆ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...