เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริง!

ผวา!! นาซาเตือน"พายุสุริยะ"โหดสุดในรอบ100ปี พร้อมนำหายนะสู่โลก!?

นาซาเตือน เฝ้าระวังพายุสุริยะระดับรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี อาจสร้างภัยพิบัติต่างๆ ทำประชาชนปั่นป่วนทั่วโลก


วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา ออกมาเตือนว่าให้เฝ้าระวังการเกิดพายุสุริยะระดับ Super X-Class ที่รุนแรงที่สุด ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ อาจส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดใช้การไม่ได้ และปรากฎการณ์ดังกล่าวจะร้ายแรง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 1859 ที่พายุสุริยะได้ส่งผลกระทบอย่างหนักทั่วอเมริกาและยุโรป ทำให้สายโทรศัพท์ไหม้ทั่วทั้งทวีป

จากรายงานพบว่า ปรากฎการณ์พายุสุริยะขั้นรุนแรงจะเกิดขึ้น 1 ครั้งในรอบ 100 ปี และหากเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ก็คาดการร์ได้ว่า จะทำให้เกิดพายุหมอกควันปกคลุมในเมืองใหญ่ของยุโรป เช่น กรุงลอนดอน, ปารีส และนิวยอร์ก นอกจากนี้ยังมีการณ์ประเมินด้วยว่า พายุสุริยะดังกล่าว จะมีอานุภาพเหมือนระเบิดนิวเคลียร์กลางอวกาศ ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1989 เป็นพายุสุริยะระดับธรรมดา แต่ส่งผลให้เกิดภาวะไฟดับกระทบทั่วแคว้นควีเบค ของแคนาดา

ทั้งนี้พายุสุริยะ(solar storm) แปลตรงตัวคือคำว่า พายุ ที่เกี่ยวกับลม หรือฝนที่ตกหนักมาก กล่าวถึงลมสุริยะที่พัดเร็ว หรือมีสนามแม่เหล็กเข้มข้นสูงมากกว่าลมสุริยะธรรมดา สิ่งนี้คือ CME (ปรากฎการณ์การพ่นมวลพลาสมาจากชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์) ความเร็วทั่วไปของ CME หรือ พายุสุริยะ อยู่ที่ 300 - 3,000+ กิโลเมตร / วินาที เลย ซึ่งการระเบิดออกมาดังกล่าว จะส่งสนามแม่เหล็กที่เข้มข้นสูง, ประจุไฟฟ้าพวกอิเล็กตรอน, ไอออนของธาตุต่างๆ และรังสีอนุภาคโปรตอน 3700 หน่วย (solar flux unit // sfu) ในเหตุการณ์ที่มีความยาวคลื่นวิทยุ 10.7 เซนติเมตร (คลื่นวิทยุ 10.7 ซม.เรียกง่ายๆ ว่า Solar flux ที่บอกความเข้มสนามแม่เหล็กระดับพื้นผิวดวงอาทิตย์)


อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อโลกจากพายุสุริยะระดับ Super X-Class นี้จะทำให้เกิดพายุแม่เหล็กชั้นบรรยากาศโลก หรือ Geomagnetic Storm ซึ่งจะทำให้ประเทศแถบขั้วโลกเกิดเห็นแสงออโรร่า , เกิดสัญญาณรบกวนการสื่อสารในบางความถี่ (Kp = 5-7) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือท่อส่งน้ำมัน และขดลวดในหม้อแปลงอาจมีแรงดันไฟฟ้าสูงทำให้อุปกรณ์เกิดระเบิดได้ (กรณีที่ค่า Kp = 8-9 ขึ้นไป), เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, ประจุไฟฟ้าจำนวนมากจากคลื่นพลังงานมีบางส่วนหลุดลงมาที่โลก จึงไปเร่งปฏิกิริยากับของเหลว(แมกม่า)หรือแร่ธาตุใต้โลกเกิดสถานะ High-spin (หมุนปั่นเร็ว) จนทำให้เกิดมีแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดในเวลาต่อมาของบางแห่งบนโลกได้

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=7Mz2laHjVoQ]NASA SDO - Aurora; What Causes Them? - YouTube[/ame]


www.tnews.co.th

 

"โชคดี ไทยมีอยู่ นักต่อสู้ กู้โลกา"

...โชคดี ไทยมีอยู่ นักต่อสู้ กู้โลกา
รู้ข่าว เค้ารีบมา อย่างช้าช้า แต่ว่าไว
ทุ่มใจ ในจิตจ้อง หลับตามอง ตรองวิชา
แล้วเลือก คัดนำมา น้าชี้นำ นอกกำมือ

...ฝึกปรือ มาตั้งแยะ ไม่ต้องแกะ ก็ออกมา
ร่ายเวทย์ เจตนา ป้องโลกา ณ.ไทยแลนด์
ดินแดน แห่งธรรมะ พิบัติจ๊ะ อย่าเข้ามา
หนึ่งใจ หลายจิตรา ร่วมกายข้า พารับมือ

...หารือ เพียงชั่วครู่ ร้องเอาอยู่ หูเห็นมา
ไทยแลนด์ แดนเพื่อนข้า หลายจิตรา มาช่วยกัน
มั่นใจ ได้เลยน้อง เทพปกป้อง รับรองมา
ข้าพะเจ้า ขอบอกว่า เย็นอุรา ข้ารับรอง

...เรื่องแผ่นดินไหว ก็จงวางใจ เราจำฝันได้ ฝันดีติดตา
เรามองขวาซ้าย คิดไปคิดมา กาวช้างนี่ล่ะหวา เอามาเชื่อมแผ่นดิน
หยอดหยอดมันลงไป ในร่องของแผ่นดิน เชื่อมไว้ไม่ให้ดิ้น แถวแผ่นดินไทยแลนด์
ดินแดนของเพื่อน ถึงเลื่อนก็ไม่แรง รถส่ายไม่ตะแคง แล้วนอนดิ้นไปมา

...เรื่องฝน หรือพายุ เพียงเราร้องยุ มังกรยักษา
ปฎิพัทธ์ ลูกชายข้า มังกรยักษ์มา เพียงพริบตาเดียว
แค่เสียว ไม่ถึงไส้ แค่มาใกล้ใกล้ ให้เห็นชัดตา
ภัยใหญ่ ไม่มีมา รับรองเลยน่า น้า..จงฝันดี



น็อต ตรามนุษย์ / มือถือล้านจี
.

 

"ชื่อข้า พระอาทิตย์ สกุลสถิตย์ บนจันทรา"

...ชื่อข้า พระอาทิตย์ เสลดคอติด ก็พ่นออกมา
โยกย้าย ซ้ายหรือขวา รับรองเลยว่า ไม่มาไทยแลนด์
พายุ สุริยะ พวยพุ่งเปะปะ คลุ้งคละคลอยคลา
เย็นใจ ได้เลยน้า ไม่มีปัญหา น้า...อย่าร้อนใจ


นักรบแสง / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

ความจริงสุดช็อก



สามีภรรยาบราซิล ช็อก!! พบเป็นพี่น้องท้องเดียวกันที่พลัดพราก

คู่สามีภรรยาพบความจริงสุดช็อก อุตส่าห์ตามหาแม่ที่พลัดพรากมานานจนเจอ แต่กลับพบว่าเป็นพี่น้องกันเอง

วันที่ 6 สิงหาคม 2557 เว็บไซต์มิร์เรอร์ เผยเรื่องราวสุดดราม่าของเอเดรียนาและลีแอนโดร คู่สามีภรรยาจากรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล แต่งงานกันมา 7 ปี และมีลูกสาววัย 6 ขวบ ด้วยกันหนึ่งคน ครอบครัวเล็ก ๆ มีความสุขเหลือล้น แต่สุดท้ายอย่างเหมือนจะพังครืนลงตรงหน้า เมื่อได้พบว่าแท้จริงเขาทั้งคู่คือพี่น้องร่วมแม่เดียวกัน

เอเดรียนาถูกแม่แท้ ๆ ทอดทิ้งไปตั้งแต่เธอยังแบเบาะ ส่วนลีแอนโดรเติบโตกับแม่มาจนถึง 8 ขวบ จากนั้นพ่อแม่ของเขาก็แยกทางกัน เด็กหญิงชายทั้งคู่ต่างคนต่างเติบโต เอเดรียนาย้ายไปทำงานนอกเมือง ได้แต่งงานกับสามีคนแรกและมีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนจะหย่าร้างกันไป แล้วจึงเดินทางกลับเข้ามาในเซาเปาโลและได้พบกับลีแอนโดร ทั้งคู่ตกหลุมรักกันและกัน

เอเดรียนาและลีแอนโดร ปัจจุบันวัย 39 และ 37 ปีตามลำดับ แต่งงานกันด้วยความรัก ทั้งคู่มีปมเหมือนกันนั่นคือต่างคนต่างเป็นลูกที่ถูกแม่แท้ ๆ ทอดทิ้ง โดยทราบเพียงว่าแม่ของตนมีชื่อว่า มาเรีย เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยเอะใจมาก่อน เพราะคิดว่านี่เป็นชื่อเชย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ใช้ โอกาสที่จะซ้ำกันจึงเป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อได้กลับมาในเมืองเกิดอีกครั้ง เอเดรียนาจึงคิดตามหาแม่ เธอโทรไปขอความช่วยเหลือจากเรดิโอ โกลโบ วิทยุท้องถิ่นรายการหนึ่ง ซึ่งให้ความช่วยเหลือในการตามหาคน และแล้วความฝันของเธอก็เป็นจริง ทางรายการสามารถติดต่อกับหญิงชื่อว่า "มาเรีย" ที่เป็นแม่ของเธอได้ ทั้งคู่ถูกเชิญให้ไปออกรายการสดร่วมกัน สัมภาษณ์รายละเอียดต่าง ๆ ก่อนเรื่องจะนำพาไปสู่ความจริงสุดช็อก ...เมื่อแม่บอกเธอว่า เธอยังมีน้องชายอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า "ลีแอนโดร"

โลกทั้งใบของ เอเดรียนา เหมือนจะล่มสลายลงตรงหน้า เพราะน้องชายคนนั้นที่แม่บอกก็คือสามีของเธอเอง หลังรับรู้เรื่องราวนี้ เธอแทบไม่อยากกลับบ้าน ด้วยกลัวว่าความจริงที่โหดร้ายนี้จะทำให้ลีแอนโดรทิ้งเธอไป

อย่างไรก็ดี ทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด ลีแอนโดรผู้เป็นทั้งสามีและน้องชายของเธอ ทำใจยอมรับได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งคู่ตัดสินใจจะเดินหน้าต่อไปด้วยกัน "ในฐานะสามีภรรยา"

"แน่นอนว่าเรื่องมันจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าเรารู้ความจริงเร็วกว่านี้ แต่เราไม่รู้เลยแล้วเราก็รักกัน เราวางแผนชีวิตไว้ด้วยกันมากมาย ไม่มีอะไรจะมาแยกเราจากกันได้ ไม่มีเลยจริง ๆ" เอเดรียนา กล่าว

ทั้งนี้ ทั้งคู่ประคองชีวิตครอบครัวให้ดำเนินต่อไปอย่างปกติและมีแผนจะนัดพบคุณแม่ ที่เป็นทั้งย่าและยายของลูก ให้ได้เจอกันพร้อมหน้าในเร็ววันนี้


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oglobo

 

ไอเดียคอหวย

ไอเดียดี! “คอหวย” ปลงตกซื้อหวย 4 ล้าน ถูกไม่ถึง 4 แสน นำหวยมาทำ “วอลเปเปอร์บ้าน” แทน!

มีรายงานจากผู้สื่อข่าวว่า มีชาวบ้านรายหนึ่งได้นำเอาล็อตเตอรี่จำนวนมากมาติดฝาผนักไว้เต็มบ้าน ซึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 3/48-3/49 ซอยบงกซ 29 หมู่ที่ 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นบ้านชั้นเดียวของนายพิภพ ปานแย้ม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง กำลังนำล็อตเตอรี่จำนวนมากติดฝาผนังบ้านอยู่

โดยนายพิภพ เผยว่าแนวคิดสำหรับการนำล็อตเตอรรี่มาติดฝาผนังจำนวนมากนั้น เกิดจากการที่เมื่อประมาณปี 2542 ตนเองได้ซื่อล็อตเตอรรี่เพื่อลุ้นรางวัลมาจนกระทั้งปี 2555 ก็ได้ตัดสินใจเลิกซื่อ เนื่องจากลูกสาวขอร้องให้เลิก ซึ่งในแต่ละงวดตนเองจะซื่อล็อตเตอรี่ไว้เป็นจำนวนเงินหมื่นกว่าบาท รวมแล้วตั้งแต่ซื่อมาคิดเป็นเงินร่วม 4 ล้านบาท แต่กลับถูกรางวัลเพียงแค่ไม่ถึง 4 แสนบาท

ซึ่งที่ผ่านมา ได้นำเงินไปซื่อล็อตเตอรี่เพียงอย่างเดียวเพื่อหวังรวยทางลัด จนบางครั้งไม่มีเงินซื้อก็ขอติดผู้ขายเอาไว้ก่อนก็มี จึงคิดว่าถึงเวลาเเล้วที่เราเลิกเล่น และนำเงินเก็บไว้เพื่อนำไปใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังนั้น จึงตัดสินใจเลิกซื้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ตนเองคิดว่าล็อตเตอรี่ที่ซื่อมาจำนวนมากจะเอาไปทิ้งก็เสียดาย จึงมีแนวคิดนำมาติดฝาผนังเพื่อเตือนสติตัวเองว่า อย่าหันกลับไปเล่นอีก ทั้งนี้ ล็อตเตอรี่ที่ตนเองนำไปติดเป็นวอลเปเปอร์ทั่วบ้านนั้น เกือบติดใกล้เสร็จแล้วคาดว่าจะสามารถเตือนสติตนเองได้อย่างดี และไม่หันกลับไปเล่นอีกอย่างแน่นอน นายพิภพกล่าวทิ้งท้าย






ข้อมูลจาก sanook.com

 

แต่เรายังไม่ยอมแพ้หรอกครับ จะสู้ต่อไป ใบละงวด ๕๕๕

รอลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่ "พี่น้องญาติเพื่อน ฝั่งโน้น"
จะส่งทุนมาให้ดำเนินการกอบกู้โลกซะที เฮ้อ...

ขอแค่รางวัลที่ ๑ แบบตรงหมวดแค่นั้นเอง ไม่น่ายากเย็นเล้ย พับผ่าสิ หึหึหึ
ไม่งั้นก็จะรอมันอยู่แบบเนี้ยล่ะมั้ง นะ ขี้เกียจดิ้นรนแล้ว

ถึงจะทำอะไรก็ได้ก็เหอะน่า แต่ว่านะ
ถ้าใครโดนคำสาบอนัตตาแล้ว ก็คงยากที่จะต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากิน ล่ะมั้ง นะ
ไหนจะโลกธรรมทั้งแปดที่โยนทิ้งไปแล้วอีกอ่ะ เค้ามากันเป็นแพ๊คเกจ

พวกนั้นเค้าทำลายเหตุปัจจัยแห่งความร่ำรวยออกไปซะแยะเชียว เฮ้อ...เบื่อจัง


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

อ่านพอรู้เรื่องแต่ไม่ค่อยเข้าใจ อิอิอิ

เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมากค่ะที่มีอยู่ครั้งหนึ่งประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว
ปีนั้นเราถูกหวย รางวัลที่ 5 สองครั้ง รางวัลที่ 3 รางวัลที่ 4 และ
รางวัลที่ 2 ในปีเดียวกันนั่นแหล่ะ เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงค่ะ

 

การเข้าพระนิพพานในวิธีที่ง่ายที่สุด ลัดตัดตรงที่สุด

1. ไม่สงสัย เชื่อมั่น และเคารพพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด (สุดจิตสุดใจ) ตลอดชีวิต ซึ่งความเชื่อนี้ รวมไปถึงพระธรรมคำสอนในข้อที่ว่า…
“นิพพานัง ปรมัง สุขัง… *พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง*”
“นิพพานัง ปรมัง สูญญัง… *พระนิพพานเป็นที่ที่สูญจากกิเลส จากอวิชชาทั้งมวล*”

จากพระธรรมทั้ง ๒ ประโยคนี้ ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่า พระนิพพานเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านประทับอยู่จริง เมื่อเราเชื่อมั่นอย่างสุดจิตสุดใจ ว่า พระนิพพานมีจริง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระองค์อยู่จริง การที่เราจะได้มโนมยิทธิหรือไม่ นั้น ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ความเชื่อมั่น เชื่อมั่นว่าพระนิพพานมีอยู่จริง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีอยู่ จริง พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ประทับอยู่บนพระนิพพานจริง เมื่อเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านี้แล้ว ให้ลงมือปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน ที่พระองค์ท่านทรงชี้แนะเอาไว้ สิ่งนั้นคือ ขั้นตอนต่างๆ ที่ลัดที่สุด เร็วที่สุด ตัดตรงที่สุด ซึ่งมีดังนี้

2. มีศีล 5 (เป็นอย่างน้อย)

3. ทุกครั้งที่ทำความดี (ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด หรือยิ่งใหญ่เพียงไหนก็ตาม)ให้อธิษฐานขอไปพระนิพพานว่า…ด้วยกุศลผลบุญนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด… ภพภูมิอื่นใด ไม่ว่าจะเป็น อบายภูมิ โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหม หรืออรูปพรหมก็ตาม ข้าพเจ้าไม่ปรารถนา…ข้าพเจ้าปรารถนาเพียงพระนิพพานเป็นที่สุด..ตายเมื่อ ไหร่ขอไปพระนิพพานเมื่อนั้น..

4. พิจารณานึกถึงความตายอยู่เสมอ พร้อมกับพิจารณาให้เห็นว่าสังขารร่างกายนี้ไม่ใช่ เรา ไม่ใช่ของๆ เรา เราไม่มีในสังขาร ร่างกายนี้ สังขารร่างกายนี้ไม่มีในเรา… นึกน้อมพิจารณาจนจิตยอมรับสภาพตามความเป็นจริง… และมีการปล่อยวางในสังขารร่างกายนี้

5. พิจารณาตัดขันธ์ 5 และพิจารณาถึงความทุกข์ ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ…เมื่อทุกข์ขนาดนี้แล้ว มีแต่โรคภัยไข้เจ็บแบบนี้ ต้องกระทบกระทั่งกับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ไม่พอใจทั้งหลาย ต้องพลัดพรากจากคนที่ เรารักและคนที่รักเรา… สิ่งเหล่านี้มันทุกข์ใช่ไหม… เมื่อทุกข์ขนาดนี้แล้วเรายังอยากที่จะเวียนว่ายตายเกิดอีกหรือไม่

6. เมื่อพบความจริงของชีวิตแล้ว… ต่อมา ให้จิตเชื่อมั่น และ จับภาพพระพุทธเจ้า หรือ ภาพพระพุทธรูปที่เรารักชอบ ที่พระนิพพานซึ่งเป็นที่ประทับแห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระ ภาคเจ้าเป็นที่สุด… (ไม่ว่าเราจะได้ มโนมยิทธิหรือไม่ก็ตาม) … หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่ว และอธิษฐานให้บ่อยๆ ทำจนจิตชิน จนเขาภาวนาของเขาเองได้ยิ่งดี ว่า…

“สังขารร่างกายนี้เป็นทุกข์ เป็นรังของโรค มีแต่ความสกปรกโสโครก น่าเบื่อหน่าย …ถ้าข้าพเจ้าตายลงเมื่อไหร่ ขอให้ดวงจิต ของข้าพเจ้าพุ่งตรงสู่พระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเถิด และขอให้ข้าพเจ้าได้พบองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าบนพระ นิพพานนั้นโดยทันทีด้วยเถิด“

ข้อสำคัญของการเข้าพระนิพพาน คือ จิตจะต้องเกิดอาการเบื่อหน่ายในร่างกาย(ขันธ์5) อย่างจริงๆ จัง…ดังนั้น ต้องมีการพิจารณาตัดขันธ์ 5 พิจารณาถึงความตาย ความทุกข์ทั้งหลาย อยู่เสมอๆ…พิจารณาบ่อยๆ วันละหลายๆ ครั้งได้ก็จะดีมาก…แต่เมื่อพิจารณามากเข้าๆ จิตอาจจะเบื่อจนนึกอยากจะฆ่าตัวตาย

ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาสมทบเข้าไปว่า… “ถึงสังขารร่างกายนี้เป็นทุกข์ น่าเบื่อหน่าย แต่ข้าพเจ้าจะยังคงรักษาธาตุขันธ์นี้ต่อไป เพื่อยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิตอื่น และ ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ตราบจนกว่าจะ ถึงอายุขัยของข้าพเจ้าเอง” เสร็จแล้ว พยายามพิจารณาทุกสิ่งให้เป็น “ธรรมดา” ยอมรับสภาพของชีวิตตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น…

เมื่อใกล้ตายจิตจะมารวมตัวกันเองโดยไม่ต้องบังคับ… เพราะจิตมีความชินกับการที่ จิตเราจับอยู่ที่พระพุทธองค์ และพระนิพพานเสมอ…

ให้เชื่อมั่น ว่า…ตายเมื่อไหร่เราขึ้นพระนิพพานแน่นอน…


ธรรมโอวาท : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

 

ไม่ได้คัดค้านหรือเถียงกับ ธรรมโอวาท : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน นะครับ
แต่อาศัยอำนาจตามกฏกาลามสูตรสิบ จึงมีสิทธิและหน้าที่ ให้สงสัยได้ ดังนี้ว่า

ข้างบนนั้น น่าจะเป็นข้อปฏิบัติสำหรับคนธรรมดาทั่วไปหรือเปล่าครับ
ไม่น่าจะใช่สำหรับมือโปร ที่ไปได้ไกลและใกล้ได้ไปแล้ว

ท่านน่าจะพูดโดยหวังแค่ให้เป็นกำลังใจ ให้มีความหวังที่หวานชื่น
และให้คนจับยึดไว้ให้แน่น เหมือนทอดสมอ ยึดเรือไว้ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ในสามโลก แค่นั้นไม๊น๊า

เพราะการจะข้ามทะเลไปฝั่งโน้น ต้องมีอุปกรณ์อีกหลากหลายอย่าง
ต้องมีการสะสมเสบียงอาหารสำรองไว้ให้มากพอ
ระบบขับเคลื่อน นำทาง ควบคุมเรือ
การรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ระหว่างการเดินทาง

แล้วยังมีการโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามอีกเป็นระยะ
คอยขัดขวางไม่ให้การเดินทางไป สำเร็จได้โดยง่าย

แล้วยังต้องมีการ์ดพลังหลายชนิด ไว้ใช้ระหว่างทาง
ยังพวกไอเท็มอีกจำนวนมาก ที่ต้องสะสมไว้ให้ครบถ้วน
ใช้ในยามต้องเจอกับตัวหัวหน้า หรือไว้เป็นตัวช่วยยามฉุกเฉิน

สรุปมั่วๆ ว่าการข้ามทะเลขี้ผึ้งนี้ คงไม่ไปได้ด้วยหลักธรรมพื้นๆ หรอก
แต่ก็ไม่รู้สิ อาจจะมีใครคิดทางลัดขึ้นมาก็ได้ ล่ะมั้ง นะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / มือถือล้านจี
.

 

ปฏิบัติได้ทุกคนล่ะค่ะ อยู่ที่ใครจะน้อมนำไปปฏิบัติ
ใครทำก่อนถึงก่อน สำหรับเราจะฝึกสร้างพื้นฐาน
อารมณ์เมตตา อุเบกขา มากๆ
พิจารณาถึงความตายบ่อยๆ อย่าคิดว่าจะมาถึงตอนเราแก่
พิจารณาสังขารร่างกายตัวเองบ่อยๆ นึกให้เห็นภาพ
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นึกภาพให้เข้าไปถึงข้างใน
ตับ ไต ไส้ พุง ความสกปรกที่มีอยู่ในสังขารร่างกาย
เห็นใครสวยใครหล่อเราก็จะมองจนหาความหล่อ
ความสวยไม่เจอเลย เห็นภาพโครงกระดูกเดินได้
สังขารมีแต่ความสกปรก น่าเบื่อหน่าย แค่ขี้เยี่ยวตัวเอง
ขนาดยังไม่ตายยังเหม็นซะขนาดนี้ ฮ่าๆๆ
สุดท้ายจิตมันจะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากเกิดอีก :boo:

 

แต่งนิทานเล่นแก้เบื่อดีกว่า
คงไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องจริงนะ
บอกบ่อยๆ แล้ว ว่าเราอยู่ในนิทานเรื่องจริง หึหึหึ


สำหรับเราจะฝึกสร้างพื้นฐานอารมณ์เมตตา อุเบกขา มากๆ

ถ้ามีแค่สองข้อนี้ ก็ยังไม่ถึงชั้นพรหมเลยครับ ๕๕๕
แล้วนิพพานน่ะนะ เค้าว่ามันเลยพรหมไปตั้งแยะเลยนี่ ใช่เปล่าน๊า

พูหญิงอ่ะนะ ส่วนใหญ่จะมีศรัทธามากมายเยอะแยะ เกินเหตุ
ทำให้อินทรีย์กับพละไม่สมดุล ปัญญาถูกศรัทธาดึงกำลังไปซะมาก
ทำให้ยากต่อการเดินหน้าฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนาม เหี่ยวปลายซะส่วนใหญ่ ๕๕๕
ไม่ได้ว่าท่านนะ อย่าเพิ่งร้อนตัวไป (กินปูนไปมั่งป่าวเนี่ย)

ข้อมูลการเดินทางไปนิพพาน ก็หาได้ทั่วไปในเนท
ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ต้องเตรียมอะไรไปด้วย
เดินทางกี่ต่อ รถออกที่ไหน กี่โมง มีวันละกี่เที่ยว
ค่าตั๋วเท่าไหร่ จองได้ที่ไหน บลาๆๆๆๆ

นี่เอาเฉพาะวันเดินทางนะ ขี้เกียจโม้ว่าก่อนเดินทางต้องเตรียมตัวยังไง
ใช้เวลากี่ชาติรู้ป่าว กว่าจะเตรียมตัวกันได้ที่ ไม่ง่ายนะน้อง

แล้วถามจริงเหอะนะ ว่าเชื่อจริงๆ หรือครับ
ว่าทำแค่ที่ท่านบอก แล้วจะไปถึงนิพพานได้จริงๆ ถามจริงนะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ลูกนาฬิเกร์
.

 

ท่านเข้าใจในเส้นทางของท่าน
เราเข้าใจในเส้นทางของเรา
เดินตามทางที่พระพุทธองค์ทรงชี้แนะ
ช้าหรือเร็วก็ต้องถึงจุดหมายปลายทางกันทุกคนแน่นอนค่ะ

 

พบพระพุทธฉายแห่งที่สองที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ใครต้องการชม โทร มาที่ 0861306150

 

ประวัติพระพุทธฉาย




พระพุทธฉาย เป็นภาพสีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเงาสีแดงคล้ายประภามณฑล หรือรัศมีโดยรอบพระพุทธรูป คล้ายสีดินเทศ มีความสูงประมาณ 5 เมตร ปรากฏประทับติดอยู่กับชะง่อนหน้าผาสูงบริเวณเชิงเขาปถวี ประดิษฐานอยู่ในมณฑป ณ เงื้อมเขามาฎะกะ (เขาช่องลม) ค้นพบสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งค้นพบพร้อมกับรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี ในบริเวณใกล้เคียงมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา มณฑปหลังนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ และมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่อัญเชิญมาจากลังกา เมื่อ พ.ศ. 2492 ทุกปีจะมีงานนมัสการพระพุทธฉายพร้อมกับงานนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี





ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารบุพพารามในนครสาวัตถี ได้ประทานอุปสมบท (บวช) พระบิณโฑละฯ ให้เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา แล้วได้มอบให้พระโมคคัลลานะ พาไปปฏิบัติสมณธรรมจนกว่าจะได้สำเร็จมรรคผล พระโมคคัลลานะได้นำพาไปปฏิบัติสมณธรรมในชมพูทวีป (อินเดีย) หลายแห่งก็ไม่สามารถบรรลุมรรคผล จึงได้มาปฏิบัติสมณธรรมในปัจจันตชนบทโดยกำหนดเอาประเทศสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย) ณ ภูเขาฆาฏกะอันเป็นที่อาศัยของนายพรานฆาฏกะกับบริวาร จึงได้สำเร็จมรรคผลเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ในระหว่างที่มาปฏิบัติสมณธรรมอยู่ ณ สถานที่พระโมคคัลลานะ ได้ทราบพฤติกรรมของนายพรานฆาฏกะกับบริวารว่าเป็นผู้มีสันดาน หยาบช้า โหดร้าย ทารุณ มีอาชีพทางล่าสัตว์

พระโมคคัลลานะได้แสดงปาฏิหาริย์หลายประการเพื่อจะยังสันดานของนายพรานฆาฏกะให้เลื่อมใสแต่ไม่สำเร็จ ต่อเมื่อได้กลับไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าจึงเสด็จมาโปรด และได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์หลายอย่างหลายประการด้วยกันเพื่อให้นายพรานฆาฏกะได้ละทิฏฐิมานะสันดานหยาบช้า จนในที่สุดได้มีศรัทธาเลื่อมใสถึงกับทูลอุปสมบท พระบรมศาสดาได้ทรงประทาน เอหิภิกขุอุปสัมปทา (บวชให้ด้วยพระองค์เอง) แล้วตรัสสั่งสอนให้ปฏิบัติสมณธรรมได้สำเร็จพระอรหันต์เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา เมื่อพระบรมศาสดาจะเสด็จกลับบุพพาราม ภิกษุฆาฏกะได้ทูลขอติดตามพระองค์ๆ ได้ทรงห้ามไว้เพื่อให้ช่วยประกาศพระศาสนา พระฆาฏกะได้ทูลขอสิ่งที่เคารพสักการะ พระองค์จึงได้ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้เงาของพระองค์ติดไว้ ณ เงื้อมภูเขาแห่งนี้ และได้ประทับ "รอยพระบาท" ติดไว้ ณ บนยอดภูเขาแห่งนี้ด้วย ซึ่งจะได้เป็นที่สักการะเคารพกราบไหว้บูชาของพระฆาฏกะและบริวาร ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไป


ข้อมูลจากวิกิพิเดีย

 

เด็ก 3 ขวบ หลงป่า 11 วัน ไซบีเรียนช่วยตามหารอดปาฏิหาริย์



เหลือเชื่อ! สุนัขไซบีเรียน ช่วยตามหาเจ้าของวัย 3 ขวบ หลังหายตัวไปในป่านานเกือบ 2 สัปดาห์!

คาริน่า ชิกิโตว่า เด็กหญิงวัย 3 ขวบ พลัดหลงกับพ่อในสาธารณรัฐชาก้า ของรัสเซีย หลังพยายามเดินตามขณะพ่อจะเข้าไปในป่า ซึ่งไม่รู้ว่าลูกสาวเดินตามหลัง และสูญหายไปนานถึง 11 วัน จนกระทั่งสุนัขเลี้ยงสายพันธุ์ไซบีเรียน ได้นำทางเจ้าหน้าที่ไปพบกับหนูน้อยคนนี้ ที่หลบซ่อนอย่างหวาดกลัวอยู่ภายในพงหญ้า ท่ามกลางสภาพอากาศที่เหน็บหนาวยามค่ำคืน




เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังกว่า 100 คน รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ และโดรน เพื่อค้นหาเด็กหญิงในพื้นที่ และถึงกับถอดใจ เมื่อหน่วยกู้ภัยบางคนต้องเผชิญหน้ากับหมีป่า ขณะที่เจ้าสุนัขไซบีเรียนที่ครอบครัวเลี้ยงเอาไว้ ก็กลับมาบ้านโดยที่ไม่มีเด็กหญิงเมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่จะนำพาเจ้าหน้าที่ไปพบตัวในภายหลัง




เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เจ้าไซบีเรียนตัวนี้ อาจอยู่กับเด็กหญิงคาริน่า หลายคืน และอาจเป็นตัวที่มอบความอบอุ่นให้กับเธอ เพราะในที่สุด เจ้าไซบีเรียน ก็เป็นตัวที่นำทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปเจอเด็กหญิงจนได้

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย พบตัวเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่นั่งคุดคู้อยู่ภายในพงหญ้า ด้วยสภาพเหนื่อยล้า และหวาดกลัว เธอบอกหลังถูกพบตัวว่า กินเบอร์รี่ป่า และดื่มน้ำในแม่น้ำประทังชีวิต ล่าสุด เธอเข้าพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลแล้ว และไม่มีการบาดเจ็บที่ร้ายแรง มีเพียงรอยขีดข่วนที่เท้า เพราะสูญเสียรองเท้า และร่องรอยการถูกยุงและแมลงกัดเท่านั้น

3ขวบหลงป่ารัสเซีย11วัน ไซบีเรียนช่วยตามหา รอดปาฏิหาริย์

 

พิธีศพแห่งเวหา ( Sky burial ) ของชาวทิเบต

ชาวธิเบตมีแนวทางในการประกอบพิธีศพ อยู่ 5 แนวทางคือ

1. พิธีศพโดยการลอยน้ำ ( Water Burial ) ก็จะนำศพผู้เสียชีวิตนำไปลอยน้ำในแห่งน้ำ สระ ศพจะเน่าสลายไป หรือบางส่วนก็ถูกปลากิน จึงเป็นเหตุว่าทำไมชาวธิเบตจึงไม่กินปลา

2. พิธีศพโดยการเผา ( Fire Burial ) จะเป็นพิธีศพของผู้มีอันจะกิน เนื่องจากไม้สำหรับเผา และน้ำมันมีราคาแพงมาก และยังหาได้ยากยิ่งสำหรับธิเบต

3. พิธีศพโดยการฝัง ( Earth Burial ) ก็เหมือนทั่วไปแต่เนื่องจากธิเบตเป็นเทือกเขาสูง พื้นดินส่วนมากจึงเป็นหินแข็งการฝังจึงทำได้ยากลำบาก

4. พิธีศพโดยการดองศพ ( Embalming ) โดยการใส่ศพลงในโลงขนาดใหญ่ พร้อมกับเกลือประมาณ 3 เดือน โดยมากจะประกอบพิธีศพประเภทนี้กับ ลามะ นักบวชเท่านั้น

5. พิธีศพแห่งนภา ( Sky Burial ) จึงเป็นพิธีศพที่บุคคลทั่วไปมักจะประกอบพิธีศพให้แก่ญาติมิตรที่จากไปเนื่องจากทำได้ง่าย และประหยัด




เครื่องมือที่ใช้ในพิธีศพแห่งนภา



ขั้นตอนพิธีศพแห่งนภา ( Sky Burial )

หลังจากเสียชีวิต จะนำศพไปที่วัด
ทำการ หั่นศพเป็นชิ้น โดยพระ หรือชนชั้นสูง
หลังจากหั่นเป็นชิ้นๆ พระจะทำการลับมีดกับหิน พร้อมกับเดินวนรอบศพ พร้อมท่องมนต์ แล้วทำการเลาะเนื้ิอออกจากกระดูก
ส่วนกระดูกจะถูกทุบให้แตกเป็นชิ้น ด้วยด้วยค้อน หรือสันขวาน และผสมแป้ง Tsampa
ซากศพชิ้นเล็กชิ้นน้อยทั้งหมดจะถูกทิ้งไว้ให้นกแร้งกิน และนำพาพวกเขาขึ้นสู่สรวงสวรรค์



[ame=http://www.youtube.com/watch?v=2m0PQo7UgqQ]พิธีศพทิเบต.wmv - YouTube[/ame]


ขอบคุณข้อมูลจาก พิธีศพแห่งเวหา ( Sky burial )

 

FUNNY ANIMALS

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=394C_QPL6u0]SUPER FUNNY ANIMALS COMPILATION _ 2014 _ 720p _ HD - YouTube[/ame]

 

วันนี้ เจอแต่ความน่ารัก..
(น่ารักแบบเหลือเชื่อจริงๆครับ)

 

งานแต่งวิญญาณ!!

คู่รักสิงญาติขอจัดงานแต่งหลังตายคู่เพราะอุบัติเหตุ



วิญญาณคู่รักนศ.ม.ราชภัฏ สิงร่างคนเป็นเข้าพิธีแต่งงาน หลังเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำดับคู่ ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ญาติเห็นใจเดินหน้าจัดพิธีให้ครบสูตร

วานนี้ (16 ส.ค.57) ได้มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์อย่างมาก กรณีญาติคนตายใน อ.บางสะพานน้อย ได้จัดพิธีแต่งงานให้คู่รักนักศึกษาของสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ก-9653 กทม. เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ระหว่างหลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 338-339 บ้านต้นเกตุ หมู่ 1 ต.ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ คือนายนพดล เสมอพันธ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/2 หมู่ 8 ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี คนขับรถ และ น.ส.อัจฉรา เตชะวนิชกุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 4 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย และนายวิทวัส ว่องไวรุด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 4 ต.บางสะพาน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทางนายอารวุฒิ ว่องไวรุด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย กล่าวเปิดเผยว่า นายวิทวัส หรือชูท ว่องไวรุด อายุ 25 ปี เป็นหลานของตนและเป็นแฟนกับ น.ส.อัจฉรา หรือหยก เตชะวนิชกุล อายุ 20 ปี ชาว อ.บางสะพานน้อย คบหากันมานานกว่า 3 ปี ก่อนประสบเหตุเสียชีวิต หลานชายซึ่งจบการศึกษาจากสถาบันเดียวกันจะบวชเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา จากนั้นก็จะไปสู่ขอแฟนสาวเพื่อเข้าพิธีมงคลสมรส เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปีหน้า แต่ทั้งคู่มาประสบอุบัติเสียชีวิตพร้อมกัน และตั้งศพบำเพ็ญกุศลคู่กันที่วัดบรรพตาเรืองราม ต.บางสะพาน ต่อมาวิญญาณของผู้ตายทั้งคู่ได้เข้าสิงร่างของญาติ ซึ่งเป็นร่างทรงของเจ้าแม่กวนอิม ที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย โดยขอให้ญาติทั้ง 2 ฝ่าย จัดพิธีแต่งงานและทำพิธีเชิญวิญญาณของผู้ตายในจุดเกิดเหตุกลับมาที่บ้านพัก

"เนื่องจากเป็นความตั้งใจของผู้ตายทั้งคู่ ทางญาติๆ ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย จึงร่วมกันจัดพิธีเหมือนจริงทุกประการ โดยมีการแห่ขันหมาก การจัดซุ้มตั่งรดน้ำสังข์ มีประชาชนสวมชุดสีชาวมาร่วมงานจำนวนมากเพื่อไว้อาลัย แต่มีการจัดโต๊ะจีนโดยใช้ตัวแทนของกลุ่มเพื่อนๆ เป็นตัวแทนคู่บ่าวสาวถือรูปผู้ตายทั้ง 2 ราย วางอยู่บนตั่งรดน้ำสังข์ ซึ่งสร้างความสลดและความซาบซึ้งใจให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก เพราะผู้ตายมีความรักที่มั่นคงต่อกัน และจะมีการฌาปนกิจศพทั้งคู่ในวันที่ 17 ส.ค.นี้" นายอารวุฒิ กล่าว

ด้านนางวรินทร์ มณีโชติ อายุ 32 ปี เพื่อนสนิทของ น.ส.อัจฉรา กล่าวว่า ผู้ตายตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านในช่วงวันแม่ แต่เสียชีวิตระหว่างเดินทางจากอุบัติเหตุ ซึ่งก่อนที่จะเสียชีวิตผู้ตายบอกว่าจะแต่งงานและต้องการมีบุตร 2 คน ส่วนสาเหตุที่วิญญาณผู้ตายให้จัดงานแต่งงาน เนื่องจากทั้งคู่ต้องการให้ญาติของทั้ง 2 ฝ่าย หมดทุกข์และมีความสุข ไม่มีความเศร้าโศกเสียใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะทั้งคู่ไปสบายแล้วญาติๆ ไม่ต้องกังวล ส่วนระหว่างการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ ก็ได้นำอาหารที่ผู้ตายชื่นชอบและเดินทางไปรับประทานทุกครั้งในร้านที่ อ.บางสะพานน้อย เมื่อเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านซึ่งเป็นร้านประจำ มี ก๋วยเตี๋ยว ไก่ทอด ข้าวเหนียว ส้มตำ และสปาเกตตี ซึ่งตนจัดให้เพื่อนที่หน้าศพทุกวัน

ทางด้านนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวว่า ตนไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานดังกล่าว แต่ทราบว่ามีการจัดงานและนำภาพไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าการทำพิธีจะผิดกับหลักศาสนา แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ผู้เกี่ยวข้องทำแล้วมีความสุขทางใจ ก็ถือเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องดี ที่บุคคลที่ยังมีชีวิตควรมีความรักที่จริงใจต่อกันอย่างยั่งยืน เพราะผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วยังมีความรักและความผูกพันต่อกันอย่างลึกซึ้ง



งานแต่งวิญญาณ! คู่รักสิงญาติขอจัดงานแต่งหลังตายคู่เพราะอุบัติเหตุ

 

มหัศจรรย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธคาดไม่ถึงว่าพระรูปเนรมิตแท้จริงของพระพุทธเจ้าไม่มีและมีแต่พระรูปจำลอง แต่ยุตกึ่งพุทธกาลปีพุทธยันตรีได้มีการพบพระรูปเนรมิตแท้จริงของพระพุทธเจ้าแล้ว ที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรีเป็นการเปิดโลกของพระองค์ให้ชาวพุทธได้มีบุญเล็งเห็นได้จริง ใครได้พบเห็นมาสักการะบูชาถือว่าเป็นบุญสูงสุดที่เกิดมาพบกับพระพุทธเจ้าที่แท้จริงแม้เป็นรูปนิมิตก็เป็นของแท้ที่พบเห็นได้จริงเป็นครั้งแรกของโลกในตลอดเวลาหลังจากทรงนิพพานมาสองพันกว่าปี เพื่งจะได้พบในก็ยุคนี้เท่านั้น