ติดตามสถานะการณ์

ชั่วสุดขีด! สมาชิกสภาหญิงไซออนิสต์ หนุนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ระบุบรรดาแม่ๆของชาวปาเลสไตน์สมควรถูกฆ่าทั้งหมด



เพรสทีวี - นักการเมืองหญิงและสมาชิกรัฐสภาอิสราเอลหัวรุนแรงสุดโต่ง กล่าวหาชาวปาเลสไตน์เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งกล่าวว่า บรรดาผู้หญิงที่เป็นแม่ๆ ของชาวปาเลสไตน์สมควรถูกฆ่าตายทั้งหมด

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวเพรสทีวีของอิหร่านรายงานอ้างสื่อ DAILY SABAH ว่า อายีเลต เชก (Ayelet Shaked) นักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งจากพรรค Jewish Home Party ของยิวไซออนิสต์เรียกร้องให้มีการฆ่าบรรดาผู้หญิงที่เป็นแม่ๆ ของชาวปาเลสไตน์ ในฐานะที่แม่ๆ เหล่านี้คือผู้ให้กำเนิดผู้ก่อการร้าย หรือ “งูร้าย” (Little Snakes)

"พวกนางสมควรตาย และบ้านเรือนของพวกนางควรถูกทำลาย เพื่อไม่ให้พวกนางสามารถให้กำเนิดผู้ก่อการร้ายใด ๆ ขึ้นมาอีก”

อายีเลต เชก กล่าวอีกว่า "พวกเขาทั้งหมดเป็นศัตรูของเรา และเลือดของพวกเขาควรจะอยู่ในมือของเรา และวิธีการนี้ก็ควรนำไปปฏิบัติกับบรรดาแม่ๆ ของผู้ก่อการร้ายที่ตายไปแล้วด้วย”

ตามที่เธอประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดเป็นศัตรูของอิสราเอลและจะต้องถูกฆ่าตาย ความหมายจากคำพูดดังกล่าวก็คือการเรียกร้องให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

โดยเมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) อายีเลต เชก โพสต์บนหน้า Facebook ของเธอ ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกันนี้

จากคำพูด อายีเลต ทำให้ ตอยยิบ เออร์โดกัน นายกรัฐมนตรีตุรกี ออกมาตอบโต้โดยกล่าวว่า นโยบายของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้นไม่แตกต่างจากความคิดของฮิตเลอร์

"ผู้หญิงอิสราเอลคนหนึ่งกล่าวว่า บรรดาแม่ๆ ของชาวปาเลสไตน์ควรจะถูกฆ่าตาย ในขณะที่นางคือสมาชิกคนหนึ่งของรัฐสภาอิสราเอล ดังนั้น อะไรคือความแตกต่างระหว่างความคิดนี้กับของฮิตเลอร์?" เออร์โดกัน ตั้งคำถาม

 

ISIS บังคับชาวคริสต์ในอิรักให้ “เปลี่ยนศาสนา” หรือเผชิญกับ “ความตาย”



กลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) แจ้งชุมชนชาวคริสต์ในเมืองโมซูลว่า พวกเขาต้องเผชิญความตาย ถ้าหากไม่ยอมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม หรือจ่ายภาษี

วานนี้ (18 ก.ค.) สำนักข่าวอัลจาซีร่า รายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS ได้ขู่ว่าชาวคริสต์ในเมืองโมซูล ประเทศอิรัก ว่า พวกเขาต้องพบกับความตาย ถ้าหากไม่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามหรือจ่ายภาษีให้พวกเขา

กลุ่มกบฏหัวรุนแรงได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือหลังจากละหมาดวันศุกร์เมื่อวานนี้ โดยอัลจาซีราระบุว่า เอกสารคำสั่งออกมาหลังจากที่พวกกบฏหัวรุนแรงประสบความล้มเหลวในการเรียกให้ผู้นำชาวคริสต์เข้าร่วมประชุมกับพวกเขา

ในเอกสารดังกล่าวระบุว่า คริสตศาสนิกชนต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม หรือไม่ก็ต้องจ่ายภาษีพิเศษสำหรับบุคคลที่ไม่ใช่มุสลิม ซึ่งที่รู้จักในชื่อภาษี “ยิซยะฮ์” (jiziya) หากมิเช่นนั้นพวกเขาก็เผชิญกับความตาย "เป็นที่พึ่งสุดท้าย"

โมซูลเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิรักที่ถูกยึดโดยกลุ่มกบฏรัฐอิสลามและพันธมิตรเมื่อเดือนที่แล้ว

โดยก่อนที่จะถูกโจมตีชุมชนชาวคริสต์ในเมืองโมซูลมีราว 3,000 คน ซึ่งเชื่อว่าส่วนใหญ่จะหลบหนีออกไปแล้วพร้อมกับการอพยพของประชาชน ซึ่งมีจำนวนสูงถึงหนึ่งในสามของประชากร

มีรายงานว่า โบสถ์และร้านค้าที่คริสต์ชนเป็นเจ้าของในเมืองถูกทำลายเสียหาย


ISIS

 

รัสเซียปฏิเสธอยู่เบื้องหลังยิงจรวดสอยบินมาเลย์ (ชมคลิป)



รัฐบาลรัสเซียออกมาโต้ข้อกล่าวหาของหลายฝ่ายที่ว่า มอสโกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธพุ่งเข้าใส่เครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี และมีผู้เสียชีวิต 298 ศพ พร้อมกับปฏิเสธเรื่องการรับกล่องดำจากกบฏต่อต้านรัฐบาลเคียฟด้วย

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/V2Zs2fGoqyk?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันเสาร์ 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 10:02 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่านายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของหลายฝ่ายโดยเฉพาะทางการยูเครน ว่ามอสโกอยู่เบื้องหลังการยิงขีปนาวุธพุ่งเข้าใส่เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ร่วงตกลงสู่พื้นดินทางตะวันออกสุดของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 298 ศพ เนื่องจากเป็นข้อกล่าวหาเลื่อนลอยที่สะท้อนการไร้ความจริงใจของรัฐบาลเคียฟ

อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟแสดงความเห็นด้วยกับแนวคิดของประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน ที่เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ร่วมกัน แต่เสริมว่า การดำเนินงานสมควรเกิดขึ้นได้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์เช่นนี้ไม่อาจปล่อยปละเละเลยเอาไว้นานได้

ต่อประเด็นที่ว่า กลุ่มกบฏสามารถเก็บกล่องบันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำของเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ได้แล้ว และจะส่งมอบให้กับทางการรัสเซียนั้น ลาฟรอฟยืนกรานว่า มอสโกจะไม่รับมอบกล่องดำอย่างเด็ดขาด การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายละเมิดกฎหมายสากลอย่างชัดเจน

ขณะที่สายการบินทั้งหมดของรัสเซียระงับให้บริการเที่ยวบินเข้า-ออกยูเครนอย่างไม่มีกำหนด ด้านสำนักงานการบินพลเรือนยูเครนก็ยังคงคำสั่งปิดน่านฟ้าในเมืองลูฮันสก์และโดเนตสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาททางทหารระหว่างรัฐบาลกับกบฏต่อไปเช่นกัน

รัสเซียปฏิเสธอยู่เบื้องหลังยิงจรวดสอยบินมาเลย์ (ชมคลิป) | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ไอเอสไอแอลฆ่าหมู่270ศพในซีเรีย



กลุ่มติดอาวุธสังหารโหด270ศพในซีเรีย หลังบุกยึดบ่อแก๊สในเมืองฮอมส์

วันเสาร์ 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 17:59 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัสประเทศซีเรีย เมื่อวันที่19ก.ค.ว่า ซีเรียอ็อพเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์อัล-อัสซาดแห่งซีเรียรายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์(ไอเอสไอแอล)ได้ฆ่าทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงานรวม 270ศพ ในระหว่างเข้ายึดบ่อแก๊สชาอาร์ทางตะวันออกของเมืองฮอมส์ในตอนกลางของซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานับเป็นการนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างกลุ่มติดอาวุธกับกองกำลังของประธานาธิบดีอัสซาด

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้บอกว่า กลุ่มไอเอสไอแอลฆ่าโหด 270ศพ แต่ขณะเดียวกัน นักรบของกลุ่มติดอาวุธก็สังเวยชีวิตในการบุกยึดบ่อแก๊สไม่ต่ำกว่า40 ราย ทั้งนี้กลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ได้บุกยึดดินแดนจากคู่ปรับในกลุ่มกบฎด้วยกันโดยใช้อาวุธที่นำมาจากอิรักหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ในอิรักได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการพิสูจน์ว่ารายงานข่าวนี้เป็นเรื่องจริง เช่นเดียวกับสื่อในซีเรียก็ไม่ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว จึงไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจน ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า ร้อยละ 15ของอาวุธเคมีซีเรียที่อยู่บนเรือสินค้าเอ็มวีเคป เรย์ของสหรัฐ ได้ถูกทำลายแล้ว โดยลูกเรือได้ทำลายแก๊สพิษทำลายประสาทซาริน แต่ยังคงเหลือแก๊สพิษมัสตาร์ดอีก19 เมตริกตัน ซึ่งการทำลายสารเคมีพิษทั้งหมดต้องใช้เวลา60 วันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและท้องทะเล สำหรับเรือเอ็มวีเคป เรย์ ออกเดินทางจากอิตาลีเมื่อต้นเดือนก.ค.มุ่งหน้าสู่น่านน้ำสากลเพื่อเริ่มการทำลายอาวุธเคมีซีเรีย



ไอเอสไอแอลฆ่าหมู่270ศพในซีเรีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Cha Jungsuwadee

แผ่นดินไหวที่เวียดนาม

 

Nattee Siriwat



RAMMASUN ครั้งแรกในประเทศจีนแผ่นดินในบ่ายวันศุกร์เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นบรรจุลมเกิน 200 กิโลเมตร (124 ไมล์) ชั่วโมงและมีคนตายแลัวไม่น้ิอยกว่า 5 คนและได้รับบาดเจ็บ 99 คนในจังหวัดไหหล ำ ซินหัวรายงาน
ก่อนหน้านี้ผ่านประเทศฟิลิปปินส์มีคนตาย 77 คน ที่นับล่าสุดและมีการทำลายมากกว่า 111,000 หลัง
Typhoon Rammasun: 'Worst storm in four decades' claims lives in China | SBS News

 

Kaokala Fc

19 ก.ค. ยูเอ็นให้สอบสวนอย่างละเอียด บินมาเลเซีย MH17ถูกยิงตก



คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เรียกร้องให้สอบสวนอย่างละเอียดโดยองค์กรอิสระนานาชาติ เรื่องเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถูกยิงตกในยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากองค์การสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 19ก.ค.ว่าแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ระบุว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง777ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช17จากอัมสเตอร์ดัมสู่จุดหมายปลายทางที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียแต่ถูกยิงด้วยจรวดต่อสู้อากาศยานจนตกในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิต298ศพ

สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังได้ยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในระหว่างการประชุมวาระฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดตามหลักการของการบินพลเรือนระหว่างประเทศและมาตรการที่เชื่อถือตรวจสอบได้พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่สอบสวนจะต้องเข้าไปจุดที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนหาสาเหตุ
ยูเอ็นให้สอบบินมาเลเซียตก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Kaokala Fc

18 ก.ค. แกะรอยมือยิงจรวด 'บัค' ใส่เครื่องบินมาเลเซีย เที่ยวบินMH17



ค่อนข้างแน่นอนว่า เครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตกด้วยบัค (Buk missile) จรวดยุคโซเวียต แต่รัสเซียกับยูเครนต่างโยนว่า อีกฝ่ายเป็นคนผิด ในเบื้องต้น โฟกัสพุ่งไปที่พวกกบฏยูเครนที่มอสโกหนุนหลัง

ทั้งรัสเซีย ยูเครน และพวกกบฏที่พูดรัสเซีย ล้วนมีจรวด SA-11 Buk อยู่ในมือ เมื่อโบอิง 777 ลำนี้ถูกยิงตกทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี เกิดคำถามในทันทีว่า ฝีมือใคร?

เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของยูเครน อันตัน การาสเชนโก บอกภายหลังเครื่องของมาเลเซียตก ว่า จรวดยิงเครื่องบิน บัค ชุดที่ใช้ยิงนี้ ได้จากการสนับสนุนของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน

ตรงกันข้าม รัสเซียโทษยูเครน สำนักข่าว RIA Novosti ในกรุงมอสโก อ้างแหล่งข่าวระบุว่า กองพันทหารบกของยูเครนได้ติดตั้งระบบบัคชุดหนึ่งใกล้กับเมืองโดเนตสค์ก่อนเหตุเครื่องบินตกดังกล่าวหนึ่งวัน เชื่อว่าจรวดที่ยิงโบอิง 777 มาจากชุดนี้ พร้อมกับบอกว่า พวกกบฏทางตะวันออกของยูเครนไม่มีระบบบัค

แซมมวล คารัป อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ นักวิจัยของสถาบันยุทศาสตร์ศึกษาระหว่างประเทศ (IISS) ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า ถ้าพวกกบฏมีบัค คงไม่ได้รับการฝึกดีเท่าที่ควร ดังนั้น อาจสำคัญผิดในเป้าหมาย นึกว่าเครื่องบินของมาเลเซียเป็นเครื่องบินทหารของยูเครน ก็เป็นได้
แกะรอยมือยิง บัค ใส่เครื่องบินมาเลเซีย - Voice TV 21

 

Kaokala Fc

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/cags0ww8UTk?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

สหรัฐสรุปกบฎยูเครนยิงบินมาเลย์ตก โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



รัฐบาลสหรัฐ สรุป เครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน MH17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ถูกขีปนาวุธของฝ่ายกบฎยูเครนยิงตก

ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แถลงวานนี้ (18 ก.ค.) ว่ารัฐบาลสหรัฐสรุปว่าเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถูกขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศที่ยิงออกมาจากพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฎยูเครนยิงตก จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 298 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งยังกล่าวด้วยว่ามีเพียงขีปนาวุธที่ทันสมัยเท่านั้นถึงจะสามารถทำลายเครื่องบินโดยสารที่บินอยู่เหนือระดับ 30,000 ฟุตได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการกล่าวหารัสเซียกลาย ๆ เพราะก่อนหน้านี้โอบามาเคยกล่าวหากบฎแบ่งแยกดินแดนในยูเครนว่าได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธจากรัสเซีย

 

รู้จัก"บู๊ก มิสไซล์" จรวดต้องสงสัยยิง"มาเลเซียแอร์ไลน์ส"ตก



ขณะที่ข่าวเที่ยวบินเอ็มเอช 17 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส กระหึ่มโลกข่าวสาร มีการตั้งข้อสังเกตว่า "บู๊ก มิสไซล์" เป็นอาวุธซึ่งยิงเครื่องบินลำดังกล่าว จนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตทันทีทั้งลำ 298 ชีวิต เหตุสะเทือนขวัญการยิงเครื่องบินพลเรือนครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

"บู๊ก มิสไซล์" เป็นจรวดที่ผลิตในรัสเซีย จัดเป็นอาวุธในตระกูลที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง และเป็นจรวดมิสไซล์ขนาดกลาง ซึ่งใช้ในการทหารทั้งในยูเครนและรัสเซีย

"บู๊ก มิสไซล์" มีจรวด 4 หัวดังในรูป สามารถยิงได้ไกล 25,000 เมตร แต่ละหัวมีขนาดยาว 16 ฟุต น้ำหนัก 1,500 ปอนด์ ส่วนหัวกระสุนหนัก 154 ปอนด์

มีศักยภาพยิงได้เร็วถึง 2,684 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งยัง มีเรดาร์ที่สามารถพุ่งเป้าไปยังวัตถุหลายจุด จากหลากหลายมุมในเวลาเดียวกัน

หากบู๊ก มิสไซล์ ยิงเครื่องบินที่อยู่เหนือระดับพื้นดิน 3,300 ฟุต (ระดับความสูงที่เอ็มเอช 17 บินอยู่ขณะถูกยิงตก) จะใช่เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้น !!!

นาโต เรียกจรวดชนิดนี้ว่า "กริซซลีส์" (Grizzlys) ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เรียกว่า "เอสเอ-17เอส" (SA-17s)

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

NASA เผยพบหลุมยักษ์บนดวงจันทร์เพียบ แนะเหมาะสร้างเป็นฐานมนุษย์
18 กรกฎาคม 2557 เวลา 13:51 น.

หลุมที่ NASA พบบนพื้นผิวดวงจันทร์มีตั้งแต่ขนาดเส้นผ่าศนย์กลาง 5 เมตร ไปจนถึง 900 เมตร โดยยานสำรวจพบหลุมลักษณะนี้มากกว่า 200 หลุม และเชื่อว่าโพรงถ้ำภายใต้หลุมดังกล่าวสามารถเป็นสถานที่หลบภัยชั้นดีให้กับมนุษย์ที่จะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ในอนาคต

ภาพถ่ายของหลุมที่มีลักษณะคล้ายกับ หลุมยุบ หรือ Sinkhole บนผิวโลก ที่พบบนดวงจันทร์บันทึกโดยยานสำรวจดวงจันทร์ Lunar Reconnaissance Orbiter หรือ LRO ของ NASA ที่ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจสำรวจและถ่ายภาพพื้นผิวดวงจันทร์ ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา

หลุมลักษณะนี้ที่พบมากกว่า 200 หลุม แตกต่างจากหลุมอุกกาบาตที่พบทั่วทั้งดวงจันทร์โดยสิ้นเชิง โดยหลุมลักษณะนี้มักจะมีผนังที่มีความสูงชัน และบางแห่งมีโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในด้วย โดย Robert Wagner ผู้เชี่ยวชาญของ NASA จากมหาวิทยาลัยแอริโซนา ในสหรัฐฯ ระบุว่าหลุมแบบนี้เหมาะมากที่จะใช้เป็นที่หลบภัย หรือ ฐานของมนุษย์ที่อาจจะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ในอนาคต เนื่องจากสามารถปกป้องมนุษย์จากรังสีต่างๆ และอันตรายจากอุกกาบาตขนาดเล็กๆ หรือ อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความแตกต่างระหว่างกลางวันกับกลางคืนสูงมาก ได้อย่างดี

ส่วนสาเหตุการเกิดขึ้นของหลุมยุบดังกล่าว ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ NASA เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากการยุบตัวหรือการถล่มของพื้นผิวที่มีโพรงขนาดใหญ่ใต้ดิน จากแรงกระแทกของอุกกาบาต หรือ การไหลผ่านของธารลาวาภายในโพรงใต้ดิน ซึ่งจะต้องใช้เวลาเป็นพันๆปีกว่าที่ผนังภายในโพรงที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้เย็นตัวลง

หลุมยุบกว่า 200 หลุมที่ NASA ค้นพบตั้งแต่ปี 2009 พบในหลุมอุกกาบาต 29 แห่งที่ล้วนเป็นหลุมที่มีอายุน้อยกว่า 1 พันล้านปี ขณะที่ NASA เชื่อว่าจะพบหลุมแบบนี้อีกจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะ LRO เพิ่งจะสำรวจผิวดวงจันทร์ไปได้เพียง 40% เท่านั้น

แผนการต่อไปของ NASA คือการสำรวจหลุมเหล่านี้โดยละเอียดไม่ว่าจะเป็นการสำรวจลักษณะของหลุมและโพรงภายใน ไปจนถึงอุณหภูมิ โดยรอบ และภายในหลุม จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ก่อนที่จะส่งยานสำรวจลงไปภายในหลุมเพื่อสำรวจภาคพื้นอีกครั้ง

<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=111320" ></iframe>

Source : NASA /Lunar Pits Could Shelter Astronauts, Reveal Details of How 'Man in the Moon' Formed

NASA เผยพบหลุมยักษ์บนดวงจันทร์เพียบ แนะเหมาะสร้างเป็นฐานมนุษย์ - Voice TV 21

 

เรียนรู้ 'แมงมุงแม่ม่ายดำ-สันโดษสีน้ำตาล' แพทย์ชี้ยังไม่มียารักษา
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ค. 2557 13:33



สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เตือนประชาชนระวัง "แมงมุงแม่ม่ายดำ-แมงมุมสันโดษสีน้ำตาล" หลังมีคนถูกกัด ชี้หากถูกกัดให้รับไป รพ. พร้อมนำแมงมุมไปด้วย แนะอย่านวด-ประคบร้อน เพราะจะทำให้พิษกระจาย...

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 57 ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง และประธานฝ่ายแพทย์และจริยธรรม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีมีประชาชนถูกแมงมุมกัด ว่า ในช่วงนี้ ฤดูฝนทำให้สัตว์จำพวกแมลงมีพิษต่างๆ มักจะหลบซ่อนเข้ามาตามบ้านเรือน จึงควรทำความสะอาดและตรวจสอบที่นอนก่อนนอนเสมอ สำหรับแมงมุมพิษที่มีความอันตรายและควรระมัดระวัง จัดแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ แมงมุมแม่ม่ายดำ (black widow spider) และแมงมุมสันโดษสีน้ำตาล (brown recluse spider)


@แมงมุมแม่ม่ายดำตัวผู้

แมงมุมแม่ม่ายดำ เป็นแมงมุมขนาดเล็ก พบได้ในหลายประเทศ แต่ชุกชุมมากในทวีปอเมริกาใต้และทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปออสเตรเลีย ชื่อของแมงมุมชนิดนี้ สื่อถึงพฤติกรรมที่แมงมุมตัวเมียมักจะกินแมงมุมตัวผู้หลังจากผสมพันธุ์ แมงมุมแม่ม่ายดำจะมีความยาวประมาณขนาดครึ่งถึงหนึ่งนิ้ว มีสีดำตัวกลม ที่ท้องจะมีลายเป็นรูปนาฬิกาทรายสีแดง ส่วนตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมียประมาณ 20 เท่า และมีสีน้ำตาล ไม่พบลักษณะนาฬิกาทรายที่ท้องของตัวผู้

แมงมุมแม่มายดำชอบอยู่ในที่อับแสง แห้ง ไม่มีลม เช่น ตามรั้ว หรือในกองใบไม้ ชอบออกหากินกลางคืน แต่เฉพาะแมงมุมตัวเมียเท่านั้น ที่สามารถกัดมนุษย์ได้ เนื่องจากตัวผู้ตัวเล็กและกรามไม่แข็งแรงพอ พิษของแมงมุมแม่ม่ายดำจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท มีความรุนแรงกว่าพิษงูส่วนใหญ่ มักเริ่มแสดงอาการหลังถูกกัดประมาณ 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยบริเวณที่ถูกกัดอาจจะมีอาการแดงเพียงเล็กน้อย แต่อาการปวดเฉพาะที่จะตามมาด้วยตะคริวรุนแรงที่อาจเป็นทั่วตัว ปวดท้อง อ่อนแรง มือสั่น ปวดกล้ามเนื้อใหญ่ๆ อย่างรุนแรง เช่น บริเวณหลัง หรือไหล่

ทั้งนี้ ถ้ามีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดคลื่นไส้ อาเจียน มึนศีรษะ เป็นลม เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก มีความดันโลหิตสูงขึ้น อาการรุนแรงมักพบในเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ อาการปวดบริเวณท้องอาจคล้ายคลึงกับอาการไส้ติ่งอักเสบ หรือการปวดจากนิ่วในถุงน้ำดีไปอุดตันทางเดินน้ำดี อาการปวดหน้าอกอาจคล้ายคลึงกับอาการหัวใจขาดเลือดได้ การรักษาหากมีอาการปวดเพียงเล็กน้อย อาจใช้การประคบน้ำอุ่น ร่วมกับรับประทานยาแก้ปวด บริเวณผิวหนังที่ถูกกัดจะไม่มีเนื้อตาย หากมีอาการรุนแรง ควรไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เนื่องจากส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดยาแก้ปวดที่เป็นอนุพันธ์ของมอร์ฟีน ปัจจุบันยังไม่มียาต้านฤทธิ์ของพิษแมงมุมแม่ม่ายดำในประเทศไทย


@แมงมุมแม่ม่ายดำตัวเมีย


@(ซ้าย) รอยโรคที่ถูกแมงมุมแม่ม่ายดำกัด (ขวา) บริเวณเนื้อตายที่เกิดจากแมงมุมสันโดษสีน้ำตาล

สำหรับแมงมุมพิษชนิดที่ 2 เรียกว่า แมงมุมสันโดษสีน้ำตาล ซึ่งมีคนเรียกชื่อผิดว่า แมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาลนั้น เป็นแมงมุมพิษที่พบได้ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ มีขนาดเล็กประมาณ 6-20 มิลลิเมตร แต่อาจมีขนาดโตกว่านี้ได้ สีน้ำตาลอ่อน ลักษณะเด่น คือ ด้านหลังของแมงมุมตรงช่วงศีรษะถึงอก (cephalothorax) จะมีลายสีออกดำรูปคล้ายไวโอลิน แมงมุมชนิดนี้ชอบอยู่ในที่มืด แห้ง และสงบ เช่นเดียวกับแมงมุมแม่ม่ายดำ และจะออกจากที่อยู่อาศัยเพื่อล่าสัตว์อื่นในเวลากลางคืน

แมงมุมชนิดนี้มีพิษต่อระบบเลือด ซึ่งพิษจะกระจายไปทั่วร่างกายในเวลาเป็นนาที ทำให้เกิดความผิดปกติในอวัยวะหลายๆ ส่วน โดยมีอาการแสดงทำให้เกิดเม็ดโลหิตแดงแตก เกล็ดเลือดต่ำ มีการแข็งตัวของเกล็ดเลือดกระจายทั่วร่างกาย (disseminated intravascular coagulation) อันตรายต่ออวัยวะภายในอื่นๆ ที่อาจพบ ได้แก่ เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไข้ ผื่นแดง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ อันตรายรุนแรงมักเกิดในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยผู้ที่ถูกกัดและเสียชีวิตมักเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อถูกกัดมักจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่มักเริ่มมีอาการปวดและคันบริเวณที่ถูกกัดหลัง 2-8 ชั่วโมง เกิดเป็นตุ่มน้ำพอง อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ผิวหนังบริเวณที่ถูกกัดตายได้ถึงร้อยละ 37 เกิดเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ได้ถึง 10 นิ้ว


@แมงมุมสันโดษสีน้ำตาล

ดร.นพ.เวสารัช กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการรักษา หากถูกแมงมุมสันโดษสีน้ำตาลกัด ให้ไปที่ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลทันที โดยนำแมงมุมไปด้วย ห้ามนวด หรือประคบร้อนที่บริเวณที่ถูกกัดโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้พิษแมงมุมกระจาย ทั้งนี้ ไม่มียาจำเพาะที่ใช้ในการรักษาพิษแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล แพทย์อาจพิจารณาฉีดวัคซีนกันบาดทะยัก รักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวด แก้คันในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนทางโลหิตวิทยา แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาอื่นๆ เช่น สเตียรอยด์ เป็นต้น หลังจากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ผู้ป่วยจะต้องไปติดตามอาการทุกวัน อย่างน้อยเป็นเวลา 4 วัน หลังถูกกัด.


@ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง

เรียนรู้ 'แมงมุงแม่ม่ายดำ-สันโดษสีน้ำตาล' แพทย์ชี้ยังไม่มียารักษา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

จีนผวา เขื่อนแตก ! ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ‘รามสูร’ ถล่มจีนยับ
โดย ข่าวต่างประเทศ 19 ก.ค. 2557 15:54


@น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำหลังเขื่อนเหลียงฉาห์ หลังฝนตกหนัก

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ‘รามสูร’ ถล่มหนักทั่วภาคใต้ของจีน นับเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงสุดในรอบ 41 ปี ขณะที่ชาวจีนกำลังผวา หวั่น เขื่อนดินในมณฑลกวางตุ้ง อาจแตก หลังพบรอยปริแยกที่สันเขื่อน เนื่องจากฝนตกหนัก

สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานความคืบหน้าของพายุ ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ‘รามสูร’ ซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่เมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 ก.ค.ว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรามสูร ยังทำให้เกิดรอยปริแตกที่ เขื่อนเหลียงฉาห์ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดความหวาดวิตกว่า เขื่อนดังกล่าว ซึ่งเป็นเขื่อนดินอาจแตกได้ ทำให้ปริมาณน้ำมหาศาลในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนไหลบ่าท่วมเมืองต่างๆ ที่อยู่ด้านล่างถึง 4 เมือง และะเป็นอันตรายต่อประชาชนด้านล่าง หลังจากก่อนหน้านี้ มีประชาชนเกือบ 150,000 คน ได้อพยพหนีภัยดินโคลนถล่มเนื่องจากฝนตกหนักไปก่อนแล้ว


@พบรอยปริแตกที่ เขื่อนเหลียงฉาห์ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน


@เจ้าหน้าที่จีนตรวจดูรอยแตกของสันเขื่อน

สำหรับซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรามสูร นับเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบ 41 ปี ที่ถล่มภาคใต้ของจีน ก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงจัด ต้นไม้โค่นล้มระเนระนาด ทั่วภาคใต้ อีกทั้งยังเกิดโคลนถล่ม น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยมีการประกาศให้เที่ยวบินทั้งที่จะเข้า-ออก ที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศหนานหนิง หวูซู มณฑลหนานหนิง ต้องถูกยกเลิก หรือล่าช้ากว่ากำหนด เป็นเหตุให้ผู้โดยสารราว 1,300 คนติดค้างอยู่ที่สนามบิน


@ชาวประมงในเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง รีบหลบพายุฝนไปอยู่ในที่ปลอดภัย


จีนผวา เขื่อนแตก ! ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ‘รามสูร’ ถล่มจีนยับ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เผย! กบฏยูเครนรีบกลบความผิด แอบคืนเครื่องยิง ‘บู๊ค มิสไซล์’ให้รัสเซียแล้ว
โดย ข่าวต่างประเทศ 19 ก.ค. 2557 13:08


เครื่องยิง ‘บู๊ค มิสไซล์’

ทางการยูเครน เผย มีการเคลื่อนย้าย ‘เครื่องยิงขีปนาวุธบู๊ค’ จากรัสเซีย มาให้กลุ่มกบฏ ก่อนโบอิ้ง 777 โดนสอยร่วง และรีบแอบส่งคืนกลับไป ช่วงกลางดึก หลังเกิดเหตุ พร้อมกับส่งมอบ “กล่องดำ” ให้แก่รัสเซียแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการสืบหาความจริงกองกำลังฝ่ายใด กลุ่มกบฏในยูเครน , กองทัพยูเครน หรือกองทัพรัสเซีย เป็นตัวการยิงเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางตะวันออกของยูเครน ว่านายวาเลนติน นาลีไวเชนโก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยูเครน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ว่า มีการเคลื่อนย้าย ขีปนาวุธบู๊ค หรือ บู๊ค มิสไซล์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นอาวุธมรณะที่ใช้ยิงโบอิ้งลำนี้ตก ข้ามชายแดนจากรัสเซียเข้ามาในยูเครนตะวันออก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยูเครน ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการสืบสวนในรายงานดังกล่าว แต่อย่างใด


ขีปนาวุธบู๊ค อาวุธมรณะ สอยโบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ร่วงในยูเครน ทางภาคตะวันออก

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของยูเครน ยังรายงานอ้างคำเปิดเผยของนายแอนตัน เกราสเชนโก ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของยูเครนด้วยว่า มีการส่งมอบ ‘กล่องดำ’ของเครื่องบินลำดังกล่าว รวมทั้ง ยังมีการเคลื่อนย้าย เครื่องยิงขีปนาวุธบู๊ค ข้ามชายแดนของยูเครน กลับไปยังดินแดนรัสเซีย ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 17 ก.ค. หลังเกิดโศกนาฏกรรม โดยจุดส่งมอบอยู่บริเวณ ด่านตรวจชายแดน ในพื้นที่ของเมืองลูฮานสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน


เศษซากของโบอิ้ง 777 หลังโดนยิงตก

พร้อมกันนั้น สำนักงานอินเตอร์แฟกซ์ ยังรายงานต่อไปว่า นายแอนตัน เกราสเชนโก ยังอ้างด้วยว่า มีผู้บันทึกภาพวิดีโอแสดงให้เห็นการเคลื่อนย้ายเครื่องยิงขีปนาวุธบู๊คข้ามชายแดนยูเครน กลับไปยังรัสเซียด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยภาพดังกล่าวต่อสื่อมวลชน

เผย! กบฏยูเครนรีบกลบความผิด แอบคืนเครื่องยิง ‘บู๊ค มิสไซล์’ให้รัสเซียแล้ว - ข่าวไทยรัฐออ

 

อิสราเอลรุกภาคพื้นดินขยี้ฮามาสตายเจ็บอื้อ โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 19 ก.ค. 2557 05:01



เมื่อ 18 ก.ค. อิสราเอลเริ่มใช้ปฏิบัติการรุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เพื่อกวาดล้างกลุ่มปาเลสไตน์หัวรุนแรง “ฮามาส” ซึ่งปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดยอียิปต์ และยังยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลอย่างต่อเนื่อง โดยการรุกภาคพื้นดินอิสราเอลทั้งส่งทหารราบและขบวนรถถังเข้าสู่กาซา เป้าหมาย หลักคือทำลายฐานยิงจรวดและอุโมงค์ของฮามาส ซึ่งใช้ส่งนักรบแทรกซึมเข้าดินแดนอิสราเอล

การบุกภาคพื้นดินมีขึ้นในวันที่ 11 ของ “ปฏิบัติการปกป้องชายแดน” (โปรเทคทีฟ เอดจ์) หรือการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8 ก.ค. ทำให้เกิดการปะทะอย่างหนักกับฝ่ายฮามาส มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 20 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมทั้งเด็กอายุ 5 เดือน ทำให้ยอดชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 260 ศพ บาดเจ็บอีกเกือบ 2,000 คน ขณะที่มีทหาร อิสราเอลเสียชีวิต 1 นายในการรุกครั้งนี้ หลังจากมีพลเรือนเสียชีวิตจากจรวดของฮามาสแล้ว 1 คน มีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน

อิสราเอลเผยว่า ตั้งแต่ 8 ก.ค.ได้โจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซาแล้วกว่า 1,960 ครั้ง ส่วนฮามาสยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลแล้วกว่า 1,400 ลูก รวมทั้งอีก 50 ลูกหลังอิสราเอลรุกภาคพื้นดิน ส่วนสหประชาชาติระบุว่า บ้านเรือนในฉนวนกาซาถูกทำลายอย่างน้อย 1,370 หลัง ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นฐานบ้านเรือนกว่า 18,000 คน อิสราเอลยังเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการเพิ่มอีก 18,000 นาย รวมเป็น 65,000 นาย อย่างไรก็ตาม อิสราเอลเผยว่าการรุกภาคพื้นดินไม่ได้มีเป้าหมายขับไล่ฮามาสลงจากอำนาจ เพียงหวังทำให้อ่อนแอลง เหมือนการรุกภาคพื้นดินเมื่อปี 2552 ซึ่งฮามาสอ่อนแอลงมาก แต่ต่อมากลับมารวมกลุ่มกันใหม่ อีกทั้งเร่งผลิตจรวดและขุดบังเกอร์ใต้ดิน

การรุกภาคพื้นดินมีขึ้นขณะที่อียิปต์เตรียมเสนอข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เมื่อ 18 ก.ค. ทั้งสองฝ่ายยอมหยุดยิง 5 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา ด้านนายคาลีด เมชาอัล ผู้นำฮามาสชี้ว่าการ รุกภาคพื้นดินของอิสราเอลจะล้มเหลว และต้องจ่ายค่าตอบแทนแสนสาหัส ขณะที่ในตุรกี ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่หน้าสถานกงสุลอิสราเอลในนครอิสตันบูล ซึ่งชุมนุมกันเพราะโกรธแค้นที่อิสราเอลรุกภาคพื้นดินในกาซา ด้านประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการรุกโจมตีภาคพื้นดิน โดยชี้ว่าจะยิ่งเกิดการนองเลือดและการแก้ไขปัญหาทำได้ยากยิ่งขึ้น.

อิสราเอลรุกภาคพื้นดินขยี้ฮามาสตายเจ็บอื้อ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อึ้ง!รวบครูสาวเมืองมะกันขู่ให้นร.สอบตกหากหยุดมีสัมพันธ์ทางเพศ
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 19 ก.ค. 2557 16:30



ครูสอนภาษาอังกฤษสาวเมืองสแตมฟอร์ด มอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หลังถูกแจ้งข้อหาคุกคามทางเพศ นร.ชาย เหตุขู่ให้สอบตกหากเลิกมีเพศสัมพันธ์ด้วย...

วันที่ 19 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แดเนลล์ วัตกินส์ ครูสอนภาษาอังกฤษ วัย 32 ปี จากโรงเรียนมัธยมปลาย สแตมฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ถูกกล่าวหาว่า ได้ข่มขู่นักเรียนรายหนึ่งว่าจะให้สอบตกหากเลิกมีความสัมพันธ์ทางเพศ โดยแดเนลล์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและรับทราบข้อหาคุกคามทางเพศ, ขายกัญชาและทำผิดศีลธรรม ซึ่งทางตำรวจกล่าวว่า เด็กนักเรียนวัย 18 ปี ได้เข้ามาแจ้งความเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ครูสาววัย 32 ปี คอยจัดหายาเสพติดและมีเซ็กซ์กันมาตั้งแต่เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ตำรวจระบุว่า แดเนลล์ยังเคยให้กัญชากับเด็กอายุเพียงแค่ 15 ปีอีกด้วย

ขณะเดียวกันทางทนายความของ ร.ร.สแตมฟอร์ด แจ้งว่า เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้บอกกับทางตำรวจว่า ได้ใช้เวลาอยู่กับครูสาว ทั้งในรถยนต์ส่วนตัวของเธอและระหว่างที่มีการเรียนการสอน นอกจากนี้จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเธอพบว่ามี 2 พันข้อความและภาพโป๊ของเธอเองถูกส่งไปให้กับเด็กนักเรียนรายนี้ ซึ่งทางตำรวจเองได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ แดเนลล์ได้จ่ายเงินค่าประกันตัว 1 แสนเหรียญ และจะต้องเดินทางมาขึ้นศาลเมืองสแตมฟอร์ด ในวันที่ 31 ก.ค.นี้

อึ้ง!รวบครูสาวเมืองมะกันขู่ให้นร.สอบตกหากหยุดมีสัมพันธ์ทางเพศ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

นายกฯมาเลย์เศร้า!! ต้องเสีย‘ยาย’ จากโศกนาฏกรรมMH17
โดย ข่าวต่างประเทศ 19 ก.ค. 2557 18:17


@นายกฯมาเลเซียเศร้า...ต้องสูญเสีย “ยาย” ภริยาคนที่สองของตา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบิน เอ็มเอช 17 ด้วย ขณะที่ รมว.คลัง ทวีตข้อความยืนยันข่าวที่ลงในหน้านสพ.มาเลย์เป็นความจริง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย นอกจากจะเผชิญหน้ากับการรับมือกับเหตุการณ์โบอิ้ง 777 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส โดนยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้ว เขายังต้องสูญเสีย ยาย ภริยาคนใหม่ ของผู้เป็นตา นายนาจิบ ไปกับโศกนาฏกรรมเอ็มเอช 17 ครั้งนี้ด้วย

นายฮิชามมุดดิน ฮุนเซน รมว.กลาโหม และอดีตรักษาการรมว.คมนาคมของมาเลเซีย ซึ่งเป็นญาติของนายนาจิบ ทวีตข้อความผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ยืนยันข่าวนี้ที่รายงานในหน้านสพ.เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียว่าเป็นเรื่องจริง


@นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน(ซ้าย) และนายนาจิบ ราซัค

รมว.กลาโหมมาเลเซีย ยังบอกว่า ยายของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ซึ่งเป็นยายของเขาด้วยนั้น มีชื่อว่า ซรี สิติ อามิเราะห์ อยู่ในวัยชรา อายุ 83 ปี ได้โดยสารมากับเที่ยวบินเอ็มเอช 17 เพียงลำพัง จากกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยตั้งใจจะเดินทางไปยังเมืองยอร์กจาการ์ตา ของ อินโดนีเซีย แต่ต้องมาลงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ก่อน เพื่อเปลี่ยนเครื่องต่อไปยังอินโดนีเซีย

"ยายเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เป็นคนใจดี เป็นผู้หญิงสวย เป็นคนคอยดูแลตาของเราอย่างดีเยี่ยม เราเรียกยายว่า แม่" ครอบครัวของนายกรัฐมนตรีนาจิบ เปิดเผยกับนสพ.เดอะ สตาร์


@ถามไถ่ชาวมาเลเซีย ซึ่งต้องสูญเสียญาติ และคนในครอบครัวจากโศกนาฏกรรม เอ็มเอช 17

ทั้งนี้ นางซรี สิติ อามิเราะห์ เป็นชาวมาเลเซีย เชื้อสายอินโดนีเซีย โดยเป็นภริยาคนที่สองของนายโมฮัมหมัด โอมาร์ ผู้เป็นตาแท้ๆ ของนายนาจิบและนายฮิชามมุดดิน โดยนายนาจิบ อายุ 60 ปี เป็นลูกชายของแม่ ซึ่งเป็นพี่สาวของแม่ นายฮิชามมุดดิน จึงทำให้นายนาจิบและนายฮิชามมุดดิน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ส่วนสาเหตุที่ยายของนายกฯนาจิบจะไปเมืองยอร์กจาการ์ตานั้น ก็เพื่อต้องการร่วมในพิธีเทศกาลอิด อัล ฟิตร์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาอิสลาม เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิมทั่วโลก

http://www.thairath.co.th/content/437483

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

MH17 สมรู้ร่วมคิด! ฆ่านักวิทยาศาสตร์โรคเอดส์ 100 คน



นอกจากเครื่องมีเงื่อนงำทางตัวเลขวันที่ และดูเหมือนเป็นการวางแผนไว้แล้วก่อนหน้า มันยังได้เป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญของโลกที่สื่อหลักในต่างประเทศไม่พูดถึง เป็นการตายของนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักเคลื่อนไหวทางสังคมด้านโรคเอดส์ 100 คน ที่ได้เดินทางไปกับ MH 17 ปลายทาง ออสเตรเลีย เพื่อร่วมประชุมโรคเอดส์โลกประจำปี 2557 หนึ่งในนั้นมี Dr. Joep Lange ผู้มีความสามารถและชื่อเสียง เปรียบเป็นเสาหลักของการค้นคว้าวิฉัย พัฒนา และช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ ทั่วโลก Joep Lange - Wikipedia, the free encyclopedia เคยเป็นประธานสมาคมโรคเอดส์นานาชาติ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการร่วมของสถาบันวิจัยเอชไอวี แนท

การตายของ Dr. Joep จึงได้เป็นคำถามขึ้นในแวดวง ว่านี่อาจจะมาจากการตัดตอนงานวิจัยโรคเอดส์ก่อนการค้นพบวิธีรักษา การรักษาที่จะหยุดการตายที่พวก NWO ตั้งใจมอบให้และยังเป็นการขัดขวางรายได้ของวงการผลิตยาของกลุ่ม บิ๊กฟา

เป็นการสูญเสียที่สำคัญของโลกเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วของนักวิทยาศาสตร์ นักเคมี นักดาราศาสตร์และวิศวกร อย่างมีเงื่อนงำ?
Dead Scientists 2004-2011

ที่มา https://www.facebook.com/4480421119...8042111925451/748438181885841/?type=1&theater

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

ทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์เจอฟ้าผ่ารวมนับได้กว่า 13,500 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557



ทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์เจอฟ้าผ่ารวมนับได้กว่า 13,500 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อังกฤษต้องเผชิญคลื่นร้อน ที่ส่งผลให้อุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ฟ้าผ่าเกิดจากสภาพอากาศร้อนและความชื้นเคลื่อนตัวมาจากภูเขาของสเปนมายังอังกฤษ มาปะทะกับอากาศเย็นในภูมิภาคแอตแลนติ ทางด้านหน่วยงานออกเตือนสุดสัปดาห์นี้ จะเกิดฝนตกและมีน้ำท่วมสูงได้ในบางแห่ง

ที่มา BBC - Homepage

- See more at:





ทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์เจอฟ้าผ่ารวมนับได้กว่า 13,500 ครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา | สถานการณ