ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาล-กบฏยูเครนออกโรงโบ้ยอีกฝั่งสอยบินมาเลย์ร่วง

    [​IMG]

    รัฐบาลและกบฏยูเครนยังคงกล่าวโทษกัน ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ยิงเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางตะวันออกของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 298 ศพ

    วันศุกร์ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 08:05 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่าประธานาธิบดีเปโตร โปรโรเชนโก ผู้นำยูเครน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในนามของรัฐบาล ไปยังครอบครัวของผู้ที่อยู่บนเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ซึ่งถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธ ในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันออกของยูเครน ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 40 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 298 ศพ ในจำนวนนี้ 154 ศพ เป็นชาวเนเธอร์แลนด์

    พร้อมกันนี้ โปโรเชนโกประณามกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโดยมีรัสเซียให้ท้าย อ้างข้อมูลของหน่วยข่าวกรอง ที่สามารถดักสัญญาณโทรศัพท์ของสมาชิกกลุ่มกบฏ 2 คน สนทนากับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองรัสเซีย แจ้งเรื่องการยิงจรวดโดนเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งฐานยิงอยู่ห่างจากจุดตกของเครื่องบินไปทางตอนเหนือเพียง 25 กิโลเมตร

    ต่อมาไม่นาน นายอเล็กซานเดอร์ โบโรได ผู้นำกลุ่มกบฏปกครอง "สาธารณรัฐปกครองตนเองโดเนตสก์" ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลยูเครนกลับ ว่ากล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน และอาวุธที่มีอยู่ไม่มีศักยภาพเพียงพอจะยิงเครื่องบินซึ่งบินอยู่ในระดับความสูงถึง 33,000 ฟุตได้ อย่างไรก็ตาม โบโรไดเผยอยู่ระหว่างหารือด่วนกับโปโรเชนโก เรื่องการหยุดยิงชั่้วคราวบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อเปิดทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เกิดเหตุด้วย

    Raw: Firefighters Locate Malaysian Jet Wreckage - YouTube

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/25dgvSlLlNc?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    รัฐบาล-กบฏยูเครนออกโรงโบ้ยอีกฝั่งสอยบินมาเลย์ร่วง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ลิงก์ผ่าน Planetary alignment / possible earthquake/Volcanic and tsunami warnings.

    คราวนี้ขึ้นชื่อ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น และเสียงสัมภาษณ์ หน้าแรกเลยนะครับ

    https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=JcFaMgM895w

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/JcFaMgM895w?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    17 ก.ค. ญี่ปุ่นร่วมมืออังกฤษพัฒนา “ขีปนาวุธ” สำหรับเครื่องบินขับไล่ “ยูโรไฟเตอร์”

    [​IMG]

    ญี่ปุ่นและอังกฤษจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธสำหรับติดตั้งบนเครื่องบินขับไล่ ขณะที่โตเกียวยังมีแผนส่งออกชิ้นส่วนสำหรับติดตั้งบนขีปนาวุธชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศของสหรัฐฯ ด้วย สื่อเมืองปลาดิบรายงานวันนี้ (17 ก.ค.)

    หนังสือพิมพ์ ไมนิจิ ชิมบุน รายงานโดยไม่อ้างอิงแหล่งข่าวว่า โครงการเหล่านี้ถูกเสนอขึ้นมาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ญี่ปุ่นผ่อนคลายกฎหมายห้ามส่งออกอาวุธ และคาดว่าจะผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันนี้

    ทั้งนี้ หากได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ การส่งออกชิ้นส่วนขีปนาวุธให้สหรัฐฯ จะถือว่าเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น นับตั้งแต่เดือนเมษายนซึ่งโตเกียวได้ประกาศผ่อนปรนกฎหมายแบนการส่งออกอาวุธอย่างครอบคลุมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1967

    หนังสือพิมพ์นิกเกอิได้รายงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดีสตรีส์ มีแผนจะส่งออกระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสมรรถนะสูงให้แก่สหรัฐฯ เพื่อนำไปติดตั้งในระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต (PAC-2)

    เซ็นเซอร์ตัวนี้ถือเป็นองค์ประกอบหลักของอุปกรณ์รังสีอินฟราเรดบริเวณส่วนหัวของขีปนาวุธซึ่งจะช่วยตรวจจับและติดตามเป้าหมาย
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Adepto Perfectus = dutchsinse

    ธารน้ำแข็งอลาสก้าเกิดแผ่นดินไหว 6.0M + แผ่นดินสั่นไหวตามมาเป็นชุด - การเคลื่อนไหวของ craton (แผ่นเปลือกโลก) ซึ่งเกิดในสหรัฐ - การเคลื่อนไหวเยลโลว์สโตน
    Alaskan Glacier struck by 6.0M earthquake + Swarm -- Craton movement shows in the US -- Yellowstone movement

    เริ่มต้นด้วยแผ่นดินไหว 6.0 M ที่ปลายของขอบ craton (แผ่นเปลือกโลก) ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ในอลาสก้า ที่ ธารน้ำแข็ง Malaspina กระแสน้ำแข็ง / กระแสหิน / น้ำแข็ง
    Beginning with a 6.0M earthquake occurring at the very far Northwest tip of the edge of the craton, in Alaska, at the Malaspina Glacier ice / rock flows.

    แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตามมาด้วยหลายสิบครั้งของเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 3.0M กลาง
    The large earthquake was followed by dozens of mid 3.0M events.

    [​IMG]

    M6.0 - 95km NNW of Yakutat, Alaska 2014-07-17 11:49:37 UTC

    Event Time

    2014-07-17 11:49:37 UTC
    2014-07-17 04:49:37 UTC-07:00 at epicenter
    2014-07-17 06:49:37 UTC-05:00 system time
    Location

    60.217°N 140.550°W depth=14.8km (9.2mi)

    [​IMG]

    นี่คือแผนภาพของอเมริกาเหนือ craton สำหรับการเปรียบเทียบของกิจกรรมกับ สถานที่ตั้งของจาน "ขอบ":
    Here is a diagram of the North American Craton for comparison of the activity vs. the location of the plate “edge”:

    นอกเหนือจากการเกิดแผ่นดินไหวในอลาสกา ยังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 กลาง อีกหลายครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นต่อไปทางใต้ตามขอบของ craton ใน ซุปเปอร์ภูเขาไฟ เยลโลว์สโตน , แคนซัส / โอกลาโฮมาซึ่งได้ดำเนิน fracking (การขุดหาน้ำมันโดยวิธี fracking)
    In addition to the earthquake in Alaska, there were also several mid-3.0 magnitude earthquakes which occurred further South along the edge of the craton, at Yellowstone supervolcano, Kansas / Oklahoma fracking injection operation, and at the active Southern California Salton Sea volcanic buttes.

    [​IMG]

    ภูเขาไฟ "สถานะ active" ใหม่ ในภาคใต้ของแคลิฟอร์เนีย ? ใช่
    A newly “active” volcano in Southern California? Yes.

    Main Stream Media Confirms Possible Salton Sea Volcanic eruption - Video Dailymotion

    <iframe frameborder="0" width="480" height="270" src="//www.dailymotion.com/embed/video/x1k6wad" allowfullscreen></iframe><br /><a href="http://www.dailymotion.com/video/x1k6wad_main-stream-media-confirms-possible-salton-sea-volcanic-eruption_tech" target="_blank">Main Stream Media Confirms Possible Salton Sea...</a> <i>by <a href="http://www.dailymotion.com/dutchsinse" target="_blank">dutchsinse</a></i>
    ยืนยันความเป็นไปได้ของการปะทุ ภูเขาไฟใต้ทะเล salton

    7/17/2014 — Alaskan Glacier struck by 6.0M earthquake + Swarm — Craton movement shows in the US | Dutchsinse
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Adepto Perfectus = dutchsinse

    [​IMG]

    ผู้ชมเพิ่งส่งนี้กับผม เส้นทางการบินของเจ็ท MH17 ที่ถูกยิง ....... ถูกเบี่ยงเบนที่จะผ่านตรงเขตสงคราม ควรเดิมที่จะผ่านบริเวณ ... A viewer just sent this to me. The flight path of the MH17 jet that was shot down....... was diverted to pass directly over the war zone. Was originally supposed to pass around the area...

    ขอบคุณปีเตอร์ Dimitriev สำหรับการแบ่งปัน ..

    โพสต์เต็มรูปแบบที่นี่:


    Thanks to Peter Dimitriev for sharing..

    Full post here:

    Malaysian passenger plane crashes in Ukraine near Russian border -Ifax | Tat's Revolution
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Severe Weather and Earth Headlines

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/nx4bkgtIZTQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    https://www.youtube.com/watch?v=nx4bkgtIZTQ

    Kiev Deployed 27 Anti-Aircraft Launchers to E.Ukraine Ahead of MH17 Crash! เผยแพร่เมื่อ 17 กรกฎาคม 2014 Published on Jul 17, 2014

    ทหารยูเครนมีหลายกองปืนใหญ่ ของ Buk ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่มีอย่างน้อย 27 ลูก ที่สามารถยิงเครื่องบินที่บินสูงให้ล่วงหล่นลงมา ในภูมิภาคโดเนตสค์ที่เครื่องบินโดยสารมาเลเซียถูกยิงโจมตี กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า
    The Ukrainian military has several batteries of Buk surface-to-air missile systems with at least 27 launchers, capable of bringing down high-flying jets, in the Donetsk region where the Malaysian passenger plane crashed, Russian Defense Ministry said.

    "สอดคล้องกับข้อมูลกระทรวงกลาโหมรัสเซีย, หน่วยงานของกองกำลังของประเทศยูเครนซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่ที่เกิดการโจมตี ได้มีการติดตั้งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน " Buk-M1 "... ความซับซ้อนเหล่านี้ในลักษณะทางเทคนิคและยุทธวิธีของระบบ Buk-M1 สามารถที่จะตรวจจับเป้าหมายทางอากาศในช่วงระยะทางถึง 160 กิโลเมตร และโจมตีใส่เป้าหมายในระยะความสูงเต็มรูปแบบที่มีระยะทางมากกว่า 30 กิโลเมตร
    "According to the Russian Defense Ministry information, units of the Armed Forces of Ukraine located in the crash-site are equipped with anti-aircraft missile systems of "Buk-M1" ... These complexes in their tactical and technical characteristics are capable of detecting air targets at ranges of up to 160 kilometers and hit them at full altitude range at a distance of over 30 kilometers," the ministry's statement reads as cited by Ria.

    ก่อนหน้านี้ หน่วยงานข่าว ITAR-TASS และ Interfax ที่อ้างแหล่งที่มาคุ้นเคยกับปัญหาที่ใครบอกว่ากองปืนใหญ่ของระบบ Buk อื่นในปัจจุบัน ได้ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการลำเลียงไปยังภูมิภาค โดเนตสค์ จากเมืองคาร์คอฟ ของยูเครน

    Earlier, Itar-Tass and Interfax news agencies were citing a source familiar with the issue, who said that another battery of Buk systems is currently being prepared for shipment to Donetsk region from the Ukrainian city of Kharkov.
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลือสนั่น! MH17 ถูกยิงตก เหตุคล้ายเครื่องบิน ปธน.ปูติน
    18 ก.ค. 57 10.44 น. |

    [​IMG]

    สนับสนุนเนื้อหา สื่อนอกเปรียบเทียบ มาเลเซียแอร์ไลน์ กับ เครื่องบินประธานาธิบดีรัสเซีย คล้ายกันมาก ลือ..อาจเป็นเหยื่อของความขัดแย้งภูมิภาค
    ลือสนั่น! MH17 ถูกยิงตก เหตุคล้ายเครื่องบิน ปธน.ปูติน
    นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

    สำนักข่าวต่างประเทศยังคงเกาะติดรายงานสถานการณ์ เหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 เส้นทาง กรุงอัมสเตอร์ดัม มายัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งถูกขีปนาวุธยิงระหว่างผ่านน่านฟ้าประเทศยูเครน จุดที่เกิดข้อพิพากแบ่งแยกดินแดนระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 298 คน ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

    จากรายงานที่มีการเผยแพร่ออกมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการยืนยันชัดเจนว่า มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ที่ประสบเหตุตกในประเทศยูเครนนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าเป็นการก่ออาชญากรรมครั้งร้ายแรง ซึ่งระบุว่าเป็นขีปนาวุธจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ยิงใส่เครื่องบินลำดังกล่าว ขณะกำลังบินอยู่ในระดับ 33,000 ฟุต เหนือน่านฟ้าประเทศยูเครน

    ขณะที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนโดเนตสค์ กลุ่มฝักใฝ่รัสเซีย ได้ออกมาปฏิเสธเป็นต้นเหตุทำให้ มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ประสบเหตุตกในประเทศยูเครน พร้อมกับกล่าวอ้างว่า ฝ่ายรัฐบาลยูเครนต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งนี้ เนื่องจากขีปนาวุธที่เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงใส่ คล้ายจะเป็นจรวดมิสไซล์ "BUK" ของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งมีวิถีการยิงค่อนข้างไกล แตกต่างจากยุทโธปกรณ์ของกลุ่มกบฏ ที่ไม่มีอาวุธกำลังแรงสูงขนาดนั้น

    อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นกับ มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ยังคงเป็นปริศนา ประชาคมทั่วโลกต่างต้องการได้รับคำตอบที่แท้จริงว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเครื่องบินเชิงพาณิชย์ลำดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในแวดวงการบินของโลก

    ทั้งนี้ยังเกิดข้อสันนิษฐานว่า มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 อาจจะเป็นแค่เหยื่อของความขัดแย้งระหว่างภูมิภาค มีการตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ของ มาเลเซีย แอร์ไลน์ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ เครื่องบินอิลยูชิน II-96-300 พียู ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีรัสเซีย "วลาดิเมียร์ ปูติน" ไม่ว่าจะเป็นขนาดรูปร่างหรือแถบสีรอบตัวเครื่องบินมีความคล้ายกันเป็นอย่างมาก

    ลือสนั่น! MH17 ถูกยิงตก เหตุคล้ายเครื่องบิน ปธน.ปูติน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครอบครัวชาวผู้ดีโกงความตาย!! รอดปาฏิหาริย์หลังพลาดขึ้นเที่ยวบิน MH17(ชมคลิป) 18-07-14 13:01

    British family cheated death on MH17 by being bumped off flight when they arrived at check in - YouTube

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/YZWcnKXF2xY?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ครอบครัวชาวอังกฤษดวงเฮง รอดตายปาฏิหาริย์หลังพลาดขึ้นเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบิน MH17 เนื่องจากที่นั่งบนเครื่องเต็มพอดี

    วันนี้(18ก.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย แบร์รี่และลิซซี่ ซิม วางแผนเดินทางไปกรุง กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พร้อมกับลูกน้อย แต่ในระหว่างที่กำลังจะซื้อตั๋วเครื่องบินที่สนามบินอัมสเตอร์ดัม สนิพฮอล (Schiphol) กลับถูกเจ้าหน้าที่สนามบินระบุว่า ที่นั่งบนเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์นั้นเต็มแล้ว

    ด้านคุณแม่ชาวสก๊อตติสยังคงตกใจไม่หายภายหลังจากทราบว่า เที่ยวบิน MH17 ที่เธอและครอบครัวพลาดขึ้นเครื่องนั้นได้ถูกยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แนะวิธีกัน"แมงมุมหม้ายน้ำตาล"พิษร้ายกว่างูเห่า3เท่า ไม่มีเซรุ่มถอนพิษ อาละวาดลุ่มเจ้าพระยา-แม่กลอง
    วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 08:13:03 น.Tweet

    [​IMG]
    @แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล สุดอันตราย (ชมคลิป VDO คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านแมงมุม และเด็กที่เลี้ยงแมงมุมชนิดนี้ไว้หลายสิบตัว)

    [​IMG]
    @แม่ม่ายน้ำตาล เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณท้องจะโตกว่าหัวหลายเท่า ท้องจะกลมป่อง

    [​IMG]
    @แม่หม้ายน้ำตาลจะทำรังอยู่ที่ต่ำ สูงไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะรังหรือใยจะยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ พบเห็นได้ตามใต้โต๊ะ เก้าอี้ รองเท้าเก่าในบ้าน

    [​IMG]
    @แก้ไข แผลเหวอะหวะนี้ ไม่ใช่แผลจากแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลที่มีอยู่ในเมืองไทย แต่เกิดจากการถูกกัดของแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลทะเลทราย ที่มีอยู่ในออสเตรเลียเท่านั้น สำหรับในเมืองไทยยังไม่พบ

    [​IMG]
    @แมงมุมแม่ม่ายดำ เทียบกันแล้วก็น่ากลัว พิษร้ายเหมือนกัน

    [​IMG]
    @แมงมุมแม่ม่ายดำ กัดแล้วปล่อยพิษออกมาทั้งหมด เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ ปล่อยพิษออกมาในระดับมิลลิกรัม คือ 1 ส่วนในพันส่วน

    นักวิจัยเตือนภัย "แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล" สุดอันตราย พิษร้ายแรงกว่างูเห่า 3 เท่า ยังไม่มีเซรุ่ม หรือยาถอนพิษ อาละวาดในไทยแถบชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แนะวิธีสังเกตรูปร่างลักษณะ ตัวขนาด 1 ซม. ท้องจะกลมป่องใหญ่กว่าหัวหลายเท่า มีสีน้ำตาลสลับขาวลายเป็นริ้วๆ ชอบแฝงตัวในที่ต่ำ ให้ระวังลูกหลาน

    แนะทำความสะอาดบ้าน กัน"แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล"

    นายประสิทธิ์ วงษ์พรม นักวิจัยด้านกีฏวิทยา ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า ลักษณะของแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล จะมีลายตรงหน้าท้องเป็นรูปนาฬิกาทรายสีแสด หรือ สีแดง และหากสังเกตหน้าท้องด้านบนจะมีสีน้ำตาลเป็นลักษณะครึ่งวงกลม ซึ่งบริเวณท้องจะมีสัดส่วนใหญ่กว่าส่วนหัวชัดเจนมาก โดยจะมีลายนูนบนท้องเป็นริ้วสีน้ำตาลสลับสีขาวอ่อนๆ ตรงริ้วเป็นจุดสามจุดเรียงกันสองแถว ซึ่งแมงมุมชนิดนี้จะชักใยทำรังในที่รก เช่น ห้องน้ำเก่า โรงไม้เก่า ลังไม้ หรือแม้กระทั่งเก้าอี้ที่วางไว้นานๆ

    นายประสิทธิ์ ระบุว่า ส่วนใหญ่แล้วถ้ามนุษย์ไม่ไปสัมผัสจนทำให้แมงมุมตกใจ แมงมุมชนิดนี้จะไม่กัด ยกเว้นว่า แมงมุมจะเข้าไปทำรังในหมวกเก่า หรือ รองเท้าเก่า ถ้าไม่ระมัดระวังอาจโดนกัดได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล มีพิษรุนแรง หากถูกกัดจะปวดและอักเสบค่อนข้างรุนแรง โดยนายประสิทธิ์แนะนำให้ทำบ้านให้สะอาด ทำความสะอาดลังไม้เก่า หรือ ลังผลไม้ที่ทิ้งไว้นานๆ เพราถ้าเด็กๆ ไปเล่นอาจเกิดอันตรายได้

    นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ ยังได้ระบุว่า ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกกับเรื่องแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล เนื่องจากการแพร่ขยายพันธุ์ดังกล่าวเป็นการแพร่ขยายพันธุ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

    นายประสิทธิ์ วงษ์พรม นักวิจัยจากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ศึกษาเรื่องแมงมุมในประเทศไทย เปิดเผยวันที่ 18 มกราคม ว่า จากการศึกษาและเก็บข้อมูลเรื่องแมงมุมในประเทศไทย พบว่าขณะนี้มีแมงมุมพิษชนิดหนึ่ง ชื่อ "แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล" ซึ่งเดิมพบแต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แถบฟลอริดา เท็กซัส และบริเวณเขตเส้นศูนย์สูตร ปัจจุบันได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยแล้ว เชื่อว่าขณะนี้แมงมุมดังกล่าวได้ขยายพันธุ์กระจายไปยังชุมชนต่างๆ รอบๆ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และอ่าวไทยตอนบนแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเจอแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลชุกชุมที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และมีรายงานมีคนถูกกัดที่นั่น แต่ยังไม่ได้ลงไปตรวจสอบความชัดเจน

    นายประสิทธิ์กล่าวว่า แมงมุมชนิดนี้ มีพิษรุนแรงทำลายระบบเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน พิษร้ายแรงกว่าพิษของแมงมุมแม่หม้ายดำ 2 เท่า และร้ายแรงกว่าพิษงูเห่า 3 เท่าทีเดียว เพียงแต่เวลาแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลกัด จะปล่อยพิษออกมาไม่หมด ความร้ายแรงอาจจะไม่เท่าแม่หม้ายดำ เพราะแม่หม้ายดำ หรืองูเห่า กัดแล้วปล่อยพิษออกมาทั้งหมด เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ หากโดนงูเห่า หรือแม่หม้ายดำกัด จะปล่อยพิษออกมาในระดับมิลลิกรัม คือ 1 ส่วนในพันส่วน แต่แม่หม้ายน้ำตาลจะปล่อยพิษออกมาในระดับ ppm คือ 1 ส่วนในล้านส่วน อย่างไรก็ตาม หากถูกกัดหลายตัวพร้อมกันปริมาณพิษก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ

    นายประสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับลักษณะทั่วไปของแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลนั้น พบว่าขนาดของตัวมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณท้องจะโตกว่าหัวหลายเท่า ท้องจะกลมป่อง ด้านล่างมีลักษณะคล้ายรูปนาฬิกาทรายสีส้ม ด้านบนมีสีน้ำตาลสลับขาวลายเป็นริ้วๆ มีจุดสีดำสลับขาวตรงท้องข้างละ 3 จุด รวมเป็น 6 จุด วางไข่ครั้งละ 200-400 ฟอง

    สาเหตุการแพร่ระบาดนั้น คาดว่า จะเข้ามากับเรือสินค้าเป็นหลัก และมีรายงานด้วยว่า มีพ่อค้าบางคนนำมาขายให้คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลก โดยไม่รู้ว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรง ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกแม่หม้ายน้ำตาลกัด แต่มีรายงานการถูกกัดแล้วจากหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่ผู้ถูกกัดจะมีอาการแพ้อย่างแรง แผลจะเหวอะหวะ และเป็นผื่นบวมแดงเจ็บปวด มีหนอง แผลจะหายช้ามาก เพราะพิษทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลือง และทำลายเม็ดเลือดขาว คนที่ถูกกัดส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าแผลดังกล่าวเกิดจากอะไร ขณะนี้ ยังไม่มีเซรุ่ม หรือยาถอนพิษ ทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น ยังโชคดีว่า แมงมุมชนิดนี้ไม่มีนิสัยดุร้าย ไม่โจมตีหรือบุกกัดใครอย่างไม่มีเหตุผล จะหลบมากกว่าสู้ และจะกัดเมื่อถูกรุกรานที่อยู่เท่านั้น

    นักวิจัยแมงมุมให้ข้อสังเกตความแตกต่างระหว่างแมงมุมทั่วไปกับแมงมุมแม่หม้ายน้ำตาลว่า นอกจากลักษณะลำตัวแล้ว ให้สังเกตลักษณะการทำรัง หรือการชักใย แมงมุมทั่วไปจะชักใยค่อนข้างสวยงามเป็นระเบียบ และชักใยอยู่ที่สูง เช่น ตามขื่อ ตามคาน หรือหลังคาบ้าน แต่แม่หม้ายน้ำตาลจะทำรังอยู่ที่ต่ำ สูงไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะรังหรือใยจะยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ พบเห็นได้ตามใต้โต๊ะ เก้าอี้ รองเท้าเก่าในบ้าน ที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กๆ ที่ชอบคลานเข้าไปอยู่ตามซอกมุมบ้าน หากไปเจอแมงมุมชนิดนี้อาจจะถูกกัด และตกอยู่ในอันตรายได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลในเชิงลึก รวมทั้งเรื่องการกระจายพันธุ์ จึงขอความร่วมมือ สำหรับผู้พบเห็นแมงมุมที่มีลักษณะดังกล่าว ขอความกรุณาแจ้งมายังภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ด้วย

    แนะวิธีกัน"แมงมุมหม้ายน้ำตาล"พิษร้ายกว่างูเห่า3เท่า ไม่มีเซรุ่มถอนพิษ อาละวาดลุ่มเจ้าพ
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chemtrail Thailand

    [​IMG]

    ทหารรัสเซียกว่า 5000 ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ

    โดยกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย EMERCOM of Russia ที่ได้รับคำสั่งจากท่านปูติน ให้เตรียมพร้อมบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านกู้ภัยพิบัติ หลังจากได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ขึ้นในแถบอลาสก้า Earthquakes

    ก่อนหน้านักวิทยาศาสตร์อีเอสเอระบุเตือนการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกอาจกำลังจะพลิก
    Are the Earth's magnetic poles about to flip?
    Are the Earth's magnetic poles about to flip? (ScienceAlert)
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐยัน "มาเลเซียแอร์ไลน์ส" ถูกจรวดมิสไซล์ยิงตก
    updated: 18 ก.ค. 2557 เวลา 13:12:33 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สรุปสาเหตุเที่ยวบินเอ็ม 17 ตกว่า เป็นเพราะโดนจรวดมิสไซล์ยิงตกในภาคตะวันตกของยูเครน และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตยกลำมากถึง 298 ราย

    [​IMG]
    Credit Photo : AFP

    เจ้าหน้าที่อาวุโส สหรัฐฯ ระบุว่า สัญญาณเรดาร์สามารถตรวจจับระบบของจรวดมิสไซล์ที่เปิดอยู่และติดตามเครื่องบินลำดังกล่าวก่อนเกิดเหตุเครื่องบินตกจากนั้นระบบยังตรวจจับความร้อนได้ ขณะเดียวกับที่เครื่องบินลำดังกล่าวตก ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังวิเคราะห์ว่าวิถีกระสุนมิสไซล์โจมตีมาจากทิศทางใด

    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐ ได้เปิดเผยกับ ซีเอ็นเอ็นว่า รัฐบาลโอบามา เชื่อว่า ยูเครนไม่มีศักยภาพในการควบคุมสถานการณ์ภูมิภาคนั้น จึงไม่เป็นแรงจูงใจให้ก่อเหตุยิงเครื่องบินตก ส่วนเจ้าหน้าที่ยูเครน ยืนยันว่า กลุ่มกบฏสนับสนุนรัสเซียอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว พร้อมกันนั้น หน่วยความมั่นคงยูเครนยังกล่าวโทษเจ้าหน้าทหาร ฝ่ายข่าวกรองรัสเซีย 2 นาย ว่าเกี่ยวพันกับเหตุดังกล่าว เนื่องจากมีหลักฐานการคุยโทรศัพท์ระหว่างกันของเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 และยืนยันให้นำตัวทั้งคู่มาลงโทษ

    ด้านนายวลามิเดีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวประณามทหารยูเครนที่ต่อต้านกลุ่มกบฏสนับสนุนรัสเซีย โดยระบุว่า เหตุดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้น หากยูเครนสงบ

    นายนาจิบ ราซัก นายกฯ มาเลเซีย ระบุว่า เที่ยวบินลำดังกล่าวไม่ได้โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินแต่อย่างใด ร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติเข้ามาตรวจสอบในบริเวณเกิดเหตุดังกล่าว

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เป็นเรื่องค่อนข้างลำบากในการเข้าไปสืบสวนเหตุเครื่องบินตกในพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงการหากล่องดำ เพราะมีปัจจัยทางการเมืองนานาชาติหลายประเด็นเกี่ยวพัน โดยไม่ทราบว่า ล่าสุด มีการย้ายซากเครื่องบินและหลักฐานต่างๆ มากเพียงใด

    ทั้งนี้ มีรายงานว่า เที่ยวบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เอ็ม 17 จากอัมสเตอร์ดัม ไปกัวลาลัมเปอร์ลำดังกล่าวถูกยิงเมื่อบินอยู่ระดับสูงจากพื้นดิน 10,000 เมตร หรือ 33,000 ฟุต

    สหรัฐยัน "มาเลเซียแอร์ไลน์ส" ถูกจรวดมิสไซล์ยิงตก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบียบ โลกใหม่ เพิ่ม 3 รูปภาพใหม่

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วันที่ 16 ก.ค.57 เผย..หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ใครจะชนะ และไทยจะเป็นเช่นไร
    ยูเครน เป็นพื้นที่ชายขอบทางตะวันออก ของ EU อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และตั้งอยู่ในพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญตรงกลางระหว่างรัสเซียและยุโรป การปะทะกันที่ยูเครน ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่รัสเซีย กับกองทัพยูเครน ที่มะกันและ EU ชักใยหุ่นเชิด
    ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 550 ราย ส่วนปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็ไม่สนใจ ไม่คุยด้วย ไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิล หน้าตาเฉย ยูเครนโดนมะกันปั่นเสียประเทศแตกเป็นเสี่ยง เกิดสงครามกลางเมือง คนในชาติห้ำหันกันเอง ตายเป็นเบือ การสู้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันตก และตะวันออกลุกเป็นไฟ และทำท่าจะบานปลายขยายตัวไปเป็นสงครามกลางเมืองอย่างเต็มขั้นอีกรอบแล้ว
    มีการโจมตีอีกหลายระลอก ตลอดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ดับความหวังในการพักรบ ทำให้ทหารยูเครนอีก 18 ราย รวมถึงพลเรือนอีก 20 รายต้องสังเวยชีวิตเพิ่ม และมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ แถวชานเมืองของโดเน็ตสก์ เมืองที่มีประชากรนับล้านและเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย
    ส่วนเมืองลูกันสก์ ที่มีประชากรประมาณ 425,000 คน และก็เป็นที่มั่นสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธ ก็มีผู้เสียชีวิตในละแวกนี้ และบาดเจ็บอีก หลายรายจากเหตุการณ์สู้รบกับรัฐบาลยูเครน สมุนมะกัน ตลอดทั้งคืน
    จำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายที่เกิดขึ้นกับพลเรือน เป็นสถิติสูงสุดตลอดช่วงระยะเวลากว่า 3 เดือนของความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของยูเครน ปลายสัปดาห์ก่อน กองกำลังติดอาวุธกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย ได้ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ยิงใส่กองทัพรัฐบาล จนทำให้ทหารยูเครนเสียชีวิต 19 รายและได้รับบาดเจ็บเกือบ 100 ราย บริเวณใกล้กับชายแดนรัสเซีย
    ความสูญเสียของกองทัพยูเครน ยังได้บ่อนทำลายความหวังที่จะใช้ชัยชนะในสนามรบเป็นตัวโน้มน้าวให้ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธต้องยอมสงบศึก
    ประธานาธิบดียูเครน หุ่นเชิดมะกัน คุยโอ่ว่า จะสังหารกลุ่มติดอาวุธหลายร้อยคน แลกกับทหารทุกๆ คนที่ต้องเสียชีวิตไป เขายังสั่งให้กองทัพปิดล้อมทางอากาศอย่างหนาแน่น ต่อเมืองลูกันสก์ และเมือง โดเน็ตสก์ สองเมืองที่สถาปนาตัวเองเป็นสาธารณรัฐ และประสงค์จะแยกตัวเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพิ่มเติมจากเมืองไครเมียที่รวมไปแล้ว
    การใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ของฝ่ายกลุ่มติดอาวุธนั้น แสดงให้เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย แต่ปูตินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการลุกฮือของกลุ่มติดอาวุธ เพราะหวังที่จะควบคุมพื้นที่บางส่วนทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงเป็นการลงโทษยูเครนที่หันไปผูกมิตรกับสหภาพยุโรป
    ประธานาธิบดีหุ่นเชิดยูเครน โม้ต่อว่า การสงบศึกกับฝ่ายกบฏไม่มีทางเกิดขึ้นได้ จนกว่ากองทัพของเขา จะสามารถปิดกั้นแนวชายแดนรัสเซีย เพื่อหยุดการหลั่งไหลเข้ามาของบรรดาอาวุธและกองกำลังสนับสนุน
    รัสเซีย โมโหยูเครนมาก เมื่อกระสุนของฝ่ายยูเครน เลยข้ามพรมแดนไปตกในพื้นที่ชุมชนเล็กๆ ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ทำให้พลเรือนรัสเซียเสียชีวิต 1 ราย กับผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย จาก รัสเซียบอกว่าเหตุครั้งนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
    ต่อมาเครื่องบินลำเลียงทางทหาร AN-26 ของยูเครน ที่เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ถูกสอยร่วงด้วยจรวดลูกหนึ่ง ที่ยิงออกมาจากดินแดนรัสเซีย เครื่องบินลำดังกล่าวบินอยู่ในระดับที่สูงมาก จนจรวดแบบหิ้วที่กลุ่มติดอาวุธยิงไม่ถึง จึงเป็นการยิงโดยอาวุธจรวดทรงแสนยานุภาพมากกว่า ออกมาจากดินแดนของรัสเซียนั่นเอง
    รัฐบาลยูเครน กำลังเร่งมือปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ในพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนรัสเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลูฮานสก์ อันเป็นจุดที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพยูเครนกับนักรบฝ่ายกบฏนิยมมอสโก
    รายงานทางลับ ระบุว่ารัสเซียกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการโจมตีรวดเดียว ต่อที่ตั้งต่างๆ ในยูเครน ซึ่งเป็นจุดที่เปิดฉากยิงอาวุธเข้าใส่ดินแดนของรัสเซียโดยตรง เนื่องจากความอดทนมีขีดจำกัด และรัสเซีย รู้แน่ชัดแล้วว่าพวกยูเครนยิงปืนใหญ่มาจากไหน
    จุดนี้ก็เป็นจุดที่อย่างไรเสีย รัสเซียก็ยอมไม่ได้ เพราะมะกันและ EU หยามกันเกินไป ที่กล้ามาแหย่หมีขาวยามสลึมสลือ ตอนนี้พี่หมีตืนแล้ว..ตะปบ เคี้ยวๆๆ !!
    ขณะที่วิกฤตยูเครนกำลังฉุดให้สายสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และบรรดาชาติยุโรปถลำลงสู่จุดต่ำสุด นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา ประธานาธิบดี ปูติน ของรัสเซีย ก็เดินสาย กระชับสัมพันธ์กับภูมิภาคลาตินอเมริกาใต้
    โดยแผนการเดินทางเยือนของผู้นำแดนหมีขาว รวมถึง การร่วมหารือกับเหล่าผู้นำฝ่ายซ้ายของชาติที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ และเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่รายใหญ่ของโลกหรือ BRICS เพื่อหาทางผลักดันให้เกิดโลกหลายขั้ว ที่ได้รับอิทธิพลจากโลกตะวันตกน้อยลง
    ปูติน และ ประธานาธิบดี กริสตินา เคิร์ชเนอร์ แห่งอาร์เจนตินา ได้แถลงให้มีการวางกฎระเบียบสำหรับ “โลกแบบหลายขั้ว” อันเป็นแนวคิดที่เกิดจากการที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เริ่มมีบทบาทในเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
    ประธานาธิบดี เคิร์ชเนอร์ กำลังต่อสู้กับคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งให้อาร์เจนตินาชดใช้เงินมูลค่ากว่า 4.2 หมื่นล้านบาท ให้แก่กองทุนป้องกันความเสี่ยงภายในสิ้นเดือน ก.ค.57 นี้ สืบเนื่องมาจากการที่อาร์เจนตินา ปฏิเสธไม่ยอมปรับโครงสร้างหนี้ค้างชำระของประเทศ
    ปูติน กล่าวยอว่า รัสเซียมี “ทัศนะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เหมือนกับอาร์เจนตินา เป็นอย่างยิ่ง” เขายังแสดงจุดยืนสนับสนุน การที่อาร์เจนตินาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์มาเนิ่นนาน เพราะหมู่เกาะที่ฟอล์กแลนด์ หรือที่อังกฤษเรียกว่า “มอลวินาส” ได้จุดชนวนให้เกิดสงครามระหว่างอาร์เจนตินา กับ อังกฤษเมื่อปี 1982 จนอังกฤษ ใช้ระเบิดตอร์ปิโด ยิงเรือรบอาร์เจนตินา จนล่มมาแล้ว
    ปูติน ระบุว่ารัสเซียสนับสนุนหลักการ “โลกหลายขั้ว” ซึ่งมีความเท่าเทียม ความมั่นคง และไม่สามารถแบ่งแยกได้ โดยที่รัสเซียจะเดินหน้าสนับสนุนให้ อังกฤษ กับ อาร์เจนตินา เปิดโต๊ะเจรจากัน เพื่อการหาหนทางแก้ไขกรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ต่อไป..โห้..ตบหน้าอเมริกาฉาดเบ่อเร่อเลย
    ผู้นำหญิงอาร์เจนตินาได้เน้นย้ำว่า จะต้องมีการยกเครื่องสถาบันระดับโลกเสียใหม่ เชื่อมั่นในโลกแบบหลายขั้ว และระบบพหุนิยมในโลกที่ประเทศต่างๆ ไม่ใช้ระบบสองมาตรฐาน..เดิมกระแสเงินทุนทั่วโลก เปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นคาสิโน จนหลายประเทศกลายเป็นหนี้ท่วมหัว จำเป็นต้องวางระเบียบควบคุมใหม่..เปรี๊ยะๆๆ คมมาก
    และที่ต้องทำให้อเมริกาสะดุ้ง เหงื่อตก ก็คือ คณะผู้แทนของรัสเซีย และอาร์เจนตินาร่วมลงนามข้อตกลงทวิภาคหลายฉบับ เช่รน ข้อตกลงด้านพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งทั้งสองชาติบรรลุร่วมกัน โดยรัสเซียจะช่วยอาร์เจนตินาเร่งมือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ของประเทศชื่อ “อาตูชา 3” ด้วยงบประมาณ ราว 9.6 หมื่นล้านบาท
    นอกจากนี้ สมาชิกคณะผู้แทนรัสเซียยังจะเดินทางเยือนแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ “วากา มูเอร์ตา” ซึ่งอาจเป็นการสำรวจพบบ่อน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอาร์เจนตินาที่กำลังขาดแคลนเงิน ภายหลังถูกกีดกันจากตลาดทุน ตั้งแต่ผิดนัดชำระหนี้เมื่อปี 2011 กำลังต้องการเงินลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานแห่งนี้
    แถม รัสเซีย และอาร์เจนตินา ยังมีกำหนดจะร่วมหารือในประเด็นความร่วมมือทางทหาร ซึ่งรวมถึงช่องทางที่รัสเซียจะส่งเครื่องบินลำเลียงทางทหารเข้าไปดำเนินภารกิจแถบขั้วโลกใต้..แถมออกจากอาร์เจนตินา ไป พี่หมีขาวแกก็ไปดูบอลโลกรอบชิงชนะเลิศที่บราซิลต่อเลยเอากะลีลากวนๆ ยั่วไอ้มาม่าของแกซิ !!
    รัสเซียดันมาพัฒนานิวเคลียร์ในพื้นที่จ่อรูตูดมะกันเลย โดยอ้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นฉากบังหน้า และความร่วมมือทางทหารอีกด้วย..ใครๆ ก็รู้ว่ามันสามารถนำกากนิเคลียร์มาพัฒนาเป็นหัวรบนิวเคลียร์ และนำไปติดตั้งในขีปนาวุธพิสัยไกลได้
    ประธาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย ยังพยายามสร้างอิทธิพลแถบละตินอเมริกา เพื่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก โดยไปเยือนและพบประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร แห่งคิวบา ณ ทำเนียบ กรุงฮาวานา คิวบา ก่อนหน้านี้ได้ประกาศ “ยกหนี้” สมัยสหภาพโซเวียตให้แก่คิวบาถึง 90% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.03 ล้านล้านบาท มาแล้ว..รวยซะอย่างจะยกหนี้ให้ มีไรป่ะ !!
    ปูติน ยังรับปากจะแปรสภาพ “หนี้” ส่วนที่เหลือของคิวบาอีกราว 1.12 แสนล้านบาท เป็นเม็ดเงินลงทุนในโครงการใหญ่ๆ และยังได้พา ประธานบริษัท รอสเนฟต์ รัฐวิสาหกิจพลังงานของรัสเซีย ซึ่งได้เดินทางไปยังกรุงฮาวานาด้วย เพื่อลงนามข้อตกลงสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งตอนเหนือของคิวบา
    แหล่งน้ำมันดิบอายุเก่าแก่บนแผ่นดินคิวบามีกำลังผลิตเพียงราวๆ 55,000 บาร์เรลต่อวัน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันราว 110,000 บาร์เรลต่อวันจากเพื่อนบ้านอย่างเวเนซุเอลา ซึ่งจำหน่ายให้ในราคาถูกเป็นพิเศษ หากมีการสำรวจพบแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่นอกชายฝั่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของคิวบาได้อย่างมาก
    แผนปลดหนี้ และแปรสภาพหนี้ จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคิวบาในยามนี้ และถือเป็นการประกาศคานอำนาจกับสหรัฐฯ ซึ่งคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับคิวบามานานถึง 52 ปี จนเป็นผลให้บริษัทตะวันตกหลายแห่งไม่สามารถเข้าไปทำธุรกิจในคิวบาได้
    ปูติน กล่าวว่า “เราพร้อมที่จะสนับสนุนมิตรชาวคิวบา เพื่อให้สามารถเอาชนะการกีดกันทางเศรษฐกิจอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย” การเดินทางเยือนหลังบ้านสหรัฐฯ ของ ปูติน ในครั้งนี้ เขาแกล้งเดินไปขณะมี กระแสกดดันจากชาติตะวันตก ที่ต้องการให้รัสเซียใช้อิทธิพลบีบกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครนให้ยอมวางอาวุธ และเปิดเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลยูเครนอย่างจริงจัง
    อมริกา ยังกลั่นแกล้งรัสเซีย โดยประกาศขึ้นบัญชีดำบุคคลใกล้ชิดของ ปูติน หลายราย ซึ่ง ประธานบริษัท รอสเนฟต์ เองก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ทรงอิทธิพลของรัสเซียที่ตกเป็นเป้าหมายคว่ำบาตรด้วย
    ปูติน ได้เข้าพบอดีตประธานาธิบดี ฟิเดล คาสโตร วัย 87 ปี บิดาแห่งการปฏิวัติคิวบา โดยได้หารือเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย และคิวบาด้วย จากนั้นรัฐบาลคิวบาได้มอบเหรียญเชิดชูเกียรติ “โฆเซ มาร์ตี” ซึ่งเป็นอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของคิวบาแก่ ปูติน
    อเมริกาและ EU เจาะยูเครน ข้างบ้านรัสเซีย แต่รัสเซียก็เจาะทะลวงหลังบ้านอเมริกา โดยเลือกประเทศที่มะกันแกล้งคว่ำบาตรเขา ด้วยข้อหาไม่เปิดขายกัญชาเสรี เหมือนอเมริกาบ้าง ที่คิวบานี่แหละ...ติดตั้งขีปนาวุธเพื่อถล่มมะกัน..เจ๋งสุดๆ
    จากนั้น ปูติน ก็ทะลวงตูดไอ้มาม่าไม่หยุด โดยเดินทางเยือนบราซิลต่อ เพื่อโน้มน้าวให้เหล่าผู้นำในภูมิภาคนี้ ร่วมกันสนับสนุนนโยบายของเขา ในช่วงที่รัสเซียกำลังตึงเครียดกับบรรดาชาติตะวันตก โดยผู้นำบราซิล และรัสเซียได้ลงนามข้อตกลงทางการทหาร, เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และสาธารณสุขร่วมกัน
    ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล กล่าวขณะยืนเคียงข้างปูติน ว่า “เราขอเน้นย้ำว่า การร่วมมือกันด้านกลาโหม และการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงสันติเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ” ตามข้อตกลงทางทหาร ที่สองชาติบรรลุร่วมกัน กองทัพรัสเซียและบราซิลจะซ้อมรบร่วมกันในเดือน ส.ค.57 เพื่อทดสอบระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้และพิสัยกลาง “แพนต์ซีร์ - เอส 1” และระบบปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ซึ่งบราซิลจะขอซื้อจากรัสเซียในเร็วๆ นี้
    ประธานาธิบดี บราซิล ฮึ่มเหน็บมะกันว่า “เนื่องจากชาติของเราจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราจึงไม่อาจพอใจที่ยังต้องพึ่งพาผู้อื่นในศตวรรษที่ 21 เช่นนี้..เราจำเป็นจะต้องมีศักยภาพมากพอที่จะพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”..แสบ !!
    ปูตินได้ยาหอมบราซิลว่าเป็น “หุ้นส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของรัสเซียในภูมิภาคอเมริกาใต้ พร้อมบอกว่า พวกเขาได้ผนึกกำลังกันจัดการ “ประเด็นปัญหาที่สำคัญระดับนานาชาติ” ทั้งสองต่างตั้งความหวังที่จะ “พัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี” โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือระหว่างสองชาติ
    โดยวางแผนจะร่วมกันสร้างสาธารณูปโภค สำหรับโรงไฟฟ้า สถานีรถไฟปลายทาง เครื่องบิน และรถบัส บราซิลยังตั้งเป้าจะเปิดทางให้รัสเซีย เข้ามาลงทุนด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ด้านการค้าของสองประเทศ
    โดยลงนามร่วมกันไปแล้วว่า ตั้งเป้ายกระดับการค้าจาก ราว 1.8 แสนล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นเป็น ราว 3.21 แสนล้านบาท การทำเช่นนี้จะช่วยผลักดันให้ทั้งสองฝ่าย ทุ่มเม็ดเงินลงทุนโดยตรงมากขึ้น บราซิลได้บอกปูติน เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงโอกาสด้านพลังงาน และโครงสร้างด้านพื้นฐานที่มีมากมายในบราซิล ซึ่งบรรดาบริษัทรัสเซีย สามารถเข้ามาแสดงบทบาทที่สำคัญได้มากขึ้น โดยเฉพาะการอนุญาตเพื่อเปิดทางให้เข้ามาลงทุนด้านน้ำมัน ท่าเรือ และทางรถไฟ
    ปูติน เดินทางต่อไปยังอาร์เจนตินา และ บราซิล เพื่อร่วมหารือทวิภาคีกับผู้นำทั้ง 2 ชาติ และจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่หรือ BRICS ซึ่งประกอบด้วยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ช่วงวันที่ 15-16 กรกฎาคม 57 ต่อเลย
    ต่อมาผู้นำ 5 ชาติ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่หรือ BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ) มีประชากรรวมกัน 40% ของประชากรโลก และมีมูลค่าเศรษฐกิจ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจโลก กลุ่มนี้ประกอบด้วยชาติสมาชิกที่มีความแตกต่างกัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ นโยบายต่างประเทศ และระบบการเมือง
    สิ่งที่กลุ่มนี้มีร่วมกันคือ ความต้องการมีเสียงในนโยบายเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ทุกประเทศล้วนมีประสบการณ์เจ็บปวดกับการครอบงำทางการเงินของตะวันตก เช่น เคยถูกลงโทษทางเศรษฐกิจ ถูกบังคับให้ลดงบประมาณและเงื่อนไขยากลำบากอีกหลายอย่าง เพื่อแลกกับเงินกู้ฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟ
    เป็นโครงข่ายความปลอดภัยโครงข่ายสำรอง หากพวกเขาเกิดงัดข้อกับตะวันตก การที่ห้าชาติปลีกตัวจากสถาบันการเงินที่มีอยู่เดิม ตอกย้ำให้เห็นความแตกแยกของระบบเศรษฐกิจช่วงหลังสงคราม ที่เคยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสันติภาพและความมั่งคั่งของโลก ถึงขณะนี้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงในยุคปัจจุบัน และการแจ้งเกิดของมหาอำนาจรายใหม่ๆ ได้เสียแล้ว
    ปีที่ผ่านมากลุ่มนี้ได้ประกาศแผนตั้งธนาคาร ที่มีเป้าหมายเพื่อเป็นทางเลือกแทนธนาคารโลก รวมทั้งตั้งกองทุนที่เป็นคู่แข่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
    มุ่งปล่อยกู้ให้แก่โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา จะมีเงินทุนเริ่มต้น 16 ล้านล้านบาท ที่สมาชิกแต่ละชาติสมทบเท่าๆ กัน กองทุนสำรองมีทุนเริ่มต้น 3.2 ล้านล้านบาท จีนจะเป็นผู้สมทบรายใหญ่สุด 1.32 ล้านล้านบาท ตามด้วยบราซิล อินเดีย และรัสเซียประเทศละ 5.76 ล้านล้านบาท และแอฟริกาใต้ อีก 1.6 ล้านล้านบาท และในอนาคตอาจมีประเทศอื่นร่วมลงขันเพิ่มเติม
    การประชุมสุดยอดกันครั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่จะหารือคือ การจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาและกองทุนสำรองขึ้นมา เพื่อคานอำนาจสถาบันการเงินที่ถูกตะวันตกครอบงำอย่างธนาคารโลก และไอเอ็มเอฟ ที่น่าอึ้งคือ เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พบปะแบบตัวต่อตัวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอินเดีย นเรนทรา โมดี เพราะสองประเทศนี้มีข้อขัดแย้งพรมแดนกันมานานแล้ว
    ตอนนี้มีประชาชนมากกว่า 3,500 ล้านคน จากอินเดีย 1,200 ล้านคน จีน 1,400 ล้านคน รวมถึงเพื่อนบ้านอาเซียนอีก 600 -700 ล้านคน ที่เข้าใจประเทศไทยอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่ผ่านมา คสช.ได้ทำความเข้าใจกับต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งมีความเข้าใจประเทศไทยเป็นอย่างดี ที่ต้องปลดล็อกปัญหาสะสมมานานกว่า 10 ปี
    ที่ผ่านมาประเทศไทย เหมือนเป็นเจ้าชายนิทรา ที่รอวันตายเท่านั้น ทหารพยายามประคับประคองประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างก็เดินไม่ได้ ถ้าวันนี้กองทัพไม่ทำอะไรสักอย่างประชาธิปไตยก็จะต้องล้มอยู่ดี เพราะมีสัญญาณการใช้อาวุธทำร้ายกันของกลุ่มหัวรุนแรงแดง ที่รับไม่ได้กับประชาธิไตยแบบความคิดเห็นต่าง การรัฐประหารกองทัพจึงเป็นการยับยั้งไม่ให้เสียเลือดเนื้อ จากสงครามกลางเมือง
    ตอนนี้อเมริกา เปิดตัวแรง โดยจะไม่ร่วมฝึก "คอบร้าโกลด์" กับไทย ซึ่งไทยไม่ได้ว่าอะไร และจะไปฝึกกับประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน รวมทั้งจีน พม่า และอินเดีย ที่ตอบตกลงจะเข้าร่วมฝึกด้วย แต่ปรากฏว่าล่าสุดมะกันความรู้สึกช้า กลับกลอก ได้ทำหนังสือขอที่จะร่วมฝึกกับไทยอีก แต่ขณะนี้ไทยก็ยังไม่ยอมตอบรับ โดยไทยให้มะกันทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดมาเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ดูก่อน แล้วจะพิจารณาเมื่อสบอารมณ์ !!
    จากผลสำรวจ "โกลบอล ไฟร์ พาวเวอร์" ที่สำรวจจากปัจจัยด้านการทหารมากกว่า 50 ปัจจัย เช่น กำลังพล จำนวนเรือรบ เครื่องบิน หัวรบนิวเคลียร์ ฯลฯ เป็นดัชนีชี้วัดกำลังพล และแสนยานุภาพทางการทหารทั่วโลก พบว่าส่วนประเทศที่มีกำลังทหารมากที่สุดคือ มะกัน รัสเซีย และจีน ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24 ของโลก และมีความแข็งแกร่งเป็นลำดับที่ 3 ของภูมิภาคอาเซียน
    ไทยเคยเข้าร่วมแบบถูกบังคับ และโดนผลสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มะกันทิ้งห่าระเบิดใส่สะพาน และสถานีรถไฟใน กทม. เต็มๆ มาแล้ว หากมีสงครามโลกครั้งที่ 3 การต่อสู้กันจะไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้เลย เท่าที่ประกาศ “อย่างเป็นทางการ” ในการลงนามสนธิสัญญาห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ 8 ประเทศ ที่มีอยู่ในครอบครอง มีดังนี้
    1. รัสเซีย มีหัวรบนิวเคลียร์ 11,500 หัวรบ และอยู่ในคลังนิวเคลียร์สำรอง 17,000 หัวรบ
    2. อเมริกา มีหัวรบนิวเคลียร์ 9,200 หัวรบ และอยู่ในคลังนิวเคลียร์สำรอง 5,700 หัวรบ
    3. ยูเครน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 1,104 หัวรบ
    4. คาซัคสถาน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 600 หัวรบ
    5. ฝรั่งเศส มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 530 หัวรบ
    6. จีน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 735 หัวรบ
    4. อังกฤษ มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 200 หัวรบ
    5. เบรารุส มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 34 หัวรบ
    6. อิสราเอล มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 1,104 หัวรบ
    7. อินเดีย มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 50 หัวรบ
    8. ปากีสถาน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 35 หัวรบ
    ความจริงยังมีอีกหลายสิบประเทศ ที่สะสมอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้ประกาศเปิดเผยอย่างเป็นทางการเท่านั้น นาทีต่อจากนี้ โลกกำลังหมุนทิศกลับ ใน 8 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์นี้ ฝ่ายตะวันตก จะมีจำนวนหัวรบรวม น้อยกว่าฝ่ายตะวันออก และจะโดนปิดล้อมทางภูมิศาสตร์
    แต่หากชาติมหาอำนาจสู้กันแบบเต็มพิกัด จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจริงๆ ฝุ่นทึบคงจะฟุ้งหุ้มชั้นบรรยากาศโลก บดบังแสงอาทิตย์อยู่หลายเดือน และมนุษย์คงใช้เวลาเกือบทั้งหมด ดำรงชีพอยู่ใต้ดินลึก แต่รับประกันได้ว่า โลกที่มีประชากร 7,000 ล้านคน จะเหลือคนเพียงไม่มากเท่าไรเท่านั้น เราคงต้องเริ่มวิวัฒนาการมนุษย์กันใหม่
    Facebook คงใช้ไม่ได้ เพราะเซิพเวอร์แหล่งเก็บข้อมูลระบบคลาร์ว ที่อเมริกา คงพังหมด , เจ้าของ มาร์ค ซัคเคอร์เบร์ก ที่มีเชื้อสายยิว คงไม่รอด , จะสร้างหนังสงคราม สตีเวน สปินเบร์ค เชื้อสายยิวก็ไม่รอด , จะกู้ IMF เจ้าพ่อการเงิน จอร์ท โซรอท และ จะเล่นฟุตบอล เดวิต แบคแฮม ที่มีเชื้อสายยิว ก็คงไม่รอด , ธุรกิจการเงิน อุตสาหกรรมต่างๆ ในอเมริกา และยุโรป ร้อยละ 80% ที่เป็นของกลุ่มไซออนิสต์ (ยิวชาตินิยมทรงอิทธิพล) คงพินาศเรียบ..
    ระเบิดนิวเคลียร์ ที่เริ่มคิดขึ้นโดย อัลเบริต ไอน์สไตน์ ที่เป็นคนยิว คงทำลายทุกสิ่งหมด..แต่โชคดีที่ ซิกมันด์ฟรอยด์ ,นอสตราดามุส ,คาร์ล มากซ์ ที่เป็นยิวตายไปเสียก่อน..สูงสุด คืนสู่สามัญ หันมาใช้ตะแล็ปแก็ปโทรเลขแทนกันไปพลางๆ เดี๋ยวก็ชิน..เออ.ว่าแต่จะอ่านเพจ แฉ ความลับ กันจากไหนล่ะนี่ คงต้องนุ่งห่มหนังสัตว์ แล้วเอาหินไปขีดเขียนสี ให้สมาชิกได้ปีนขึ้นไปอ่านทุกวันที่บนหน้าผา..โห่ ฮี๊ โฮ !!
    ดินแดนประเทศไทย จะเสี่ยงต่ำกว่าประเทศที่มีหัวรบนิวเคลียร์เหล่านี้ เขาคงหันพิกัดใส่กันเอง คงไม่สนใจยิงนิวเคลียร์มาใส่เรา เพราะเรามีแค่บั้งไฟพญานาค คนส่วนมากของเราจะดำรงค์เผ่าพันธุ์อยู่ต่อไปได้ จากชัยภูมิชั้นเลิศ อาหารอุดมสมบูรณ์ ที่บรรพบุรุษสร้างมา..
    อย่าลืมไปเตรียมหาไดโนเสาร์พันธ์ไทแรนโนซอรัส มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาสักตัว พันธุ์นี้มันดุดี ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้กิ้งก่าแทน..และเตรียมเปิดธุรกิจใหม่ฟักไข่ไดโนเสาร์ขาย..รักและสามัคคีกันไว้นะ !!
    @ เสธ น้ำเงิน1
    https://www.facebook.com/topsecretthai
    หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบียบ โลกใหม่ ได้แชร์ รูปภาพ ของ ข่าวข้น รับอรุณ

    ร่วงอีกลำ .. ช่วงนี้นี่มันเป็นอะไร
    เฮลิคอปเตอร์เกาหลีตกกลางเมือง

    [​IMG]

    สำนักข่าวประเทศเกาหลีใต้ เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญย่านใจกลางเมืองกวางจู ทางตอนใต้ของประเทศ หลังจากที่เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) เกิดเหตุเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บริการฉุกเฉินประจำท้องถิ่น เกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงใกล้กับย่านพักอาศัยและเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุทำให้มีเสียชีวิต 5 คน

    ภาพเหตุการณ์เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บริการฉุกเฉินของสำนักงานดับเพลิงเมืองกวางจู พลัดตกสู่ย่านใจกลางเมือง เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น. วานนี้ เป็นเสี้ยววินาทีที่เกือบเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวประสบเหตุตกเฉียดกลุ่มอาคารที่พักอาศัยของประชาชนไปเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นในทันที

    ทั้งนี้ สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว เพิ่งกลับมาจากภารกิจการช่วยค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือเซวอลอับปาง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่าบนเครื่องมีเจ้าหน้าที่ 5 คน และทั้งหมดเสียชีวิตทั้งลำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก #ข่าวข้นรับอรุณ #nationtv
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบียบ โลกใหม่ ได้แชร์ รูปภาพ ของ Life 101 Co.,Ltd.

    [​IMG]

    » พระอัญญาโกณฑัญญะ หายไปไหนหลังจากบรรลุอรหันต์?

    เราทุกคนต่างรู้จักพระอัญญาโกณฑัญญะ โดยทราบว่าท่านเป็นภิกษุรูปแรก และ ผู้แรกที่บรรลุธรรม แต่ว่าเราไม่ค่อยทราบกันเลยว่าท่านหายไปไหนหลังจากบรรลุอรหันต์แล้ว

    เราลองมาอ่านประวัติของท่านกันครับ

    ::::::::::::::::::

    • อดีตชาติ

    ในอดีตกาลสมัยพระพุทธเจ้านาม “ปทุมุตตระ” พระอัญญาโกณฑัญญะได้เกิดเป็นบุตรชายเศรษฐี วันหนึ่งท่านได้เห็นพระพุทธเจ้าสถาปนาภิกษุรูปหนึ่งว่า เป็นเลิศด้าน “บรรลุธรรมก่อนใคร ๆ ในพระศาสนา”

    ท่านคิดว่า “ภิกษุนี้ยิ่งใหญ่มาก เพราะถ้าไม่นับพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ไม่มีใครจะบรรลุธรรมก่อนภิกษุนี้เลย ถ้าตัวเราจะสามารถบรรลุธรรมก่อนใคร ๆ ในสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ใดในอนาคตก็จะเป็นการดีหนอ”

    เขาคิดได้แล้วจึงกราบทูลพระพุทธเจ้าขอถวายทาน ๗ วันติดต่อกัน และ เอ่ยวาจาตั้งความปรารถนาว่าจะเป็น ภิกษุผู้บรรลุธรรมก่อนใครๆในอนาคต

    พระพุทธเจ้าปทุมุตตระได้สดับแล้ว ตรัสว่า ความปรารถนาของเขาจะเป็นจริงในอนาคตกาล ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่า “โคตมะ”

    ::::::::::::::::::

    • ชาติสุดท้าย

    ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ประจำศากยวงศ์ นามว่า “โกณฑัญญะ” ท่านได้รับเลือกเป็นพราหมณ์ทำนายพระลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งท่านเป็นเพียงผู้เดียวที่ทายว่าต่อไปเจ้าชายจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

    จากนั้นท่านก็ได้ลาออกจากราชสำนักและไปบวชเป็นฤาษี ต่อมาเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะได้ออกบวช ท่านก็ได้ออกบวชตามพร้อมพวกอีก ๔ คน (เรียกว่า ปัญจวัคคีย์ – พวก๕) คอยติดตามปรนนิบัติพระโพธิสัตว์

    แต่ภายหลังก็ได้ทิ้งไปเพราะคิดว่าพระองค์ละความเพียรแล้ว จนพระโพธิสัตว์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้กลับมาเทศน์สอนปัญจวัคคีย์เป็นพวกแรก และ พระโกณฑัญญะนี้เองก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เป็นบุคคลแรกที่มีดวงตาเห็นธรรม

    ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า “อญฺญา สิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ – โกณฑัญญะรู้ทั่วแล้วหนอ” ซึ่งทำให้ท่านได้รับชื่อนำหน้าว่า “อัญญา (รู้)” ตั้งแต่นั้นมา ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะ และ มีที่นั่งพิเศษ

    ต่อมาขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่วัดเชตวัน ท่านได้ยกย่องพระอัญญาโกณฑัญญะว่า “เป็นเลิศ (เอตทัคคะ) ด้านผู้รู้ราตรีนาน (รัตตัญญู)” คือ เป็นเลิศกว่าผู้อื่นด้านบรรลุธรรมก่อนใคร ๆ

    เนื่องจากท่านบวชเป็นคนแรกท่านจึงมีพรรษาสูงที่สุด ภิกษุทุกรูปจึงต้องทำความเคารพ ที่นั่งของท่านนั้นก็พิเศษว่าภิกษุอื่น คือได้นั่งใกล้พระพุทธเจ้า โดยที่เวลาพระพุทธประทับ พระอัครสาวกจะนั่งเบื้องซ้าย-ขวา และ ข้างหลังอัครสาวกจะเป็นที่นั่งพิเศษเฉพาะของท่าน

    ::::::::::::::::::

    • ทูลลาพระพุทธเจ้าไปอยู่ป่า

    ท่านอัญญาโกณฑัญญะมีความเห็นว่า การที่ท่านมีพรรษาสูงสุดนั้นได้สร้างความลำบากให้กับหมู่คณะ คือ ทุก ๆ คนต้องทำความเคารพท่าน ไม่เว้นแม้แต่อัครสาวก

    อีกทั้งท่านมีความยินดีในความวิเวก ไม่ปรารถนาอยู่ใกล้บ้านผู้คน ท่านจึงได้กราบทูลลาพระพุทธเจ้าไปจำพรรษายัง “ริมสระมันทากินี”

    ท่านได้อยู่ที่ริมสระมันทากินีนี้ถึง ๑๒ ปี ในป่านี้เป็นที่อยู่ของช้างตระกูล”ฉัททันต์” ๘,๐๐๐ เชือก ในกาลก่อนช้างฝูงนี้เคยปรนนิบัติพระปัจเจกพุทธเจ้า ทำให้ช้างนี้มีความสามารถในการดูแลพระสงฆ์

    เมื่อช้างเห็นพระอัญญาโกณฑัญญะเดินทางมา ก็ดีใจที่จะได้ปรนนิบัติพระอีกครั้ง จึงพากันปัดกวาดเช็ดถูที่พัก ทำความสะอาดทางเดินจงกรม เสร็จแล้วพวกช้างก็ประชุมแบ่งเวรความรับผิดชอบ จัดลำดับว่าใครจะต้องเตรียมน้ำบ้วนปากและไม้สีฟัน เป็นต้น

    สระนี้กว้าง ๕๐ โยชน์ น้ำใสเหมือนผลึกไม่มีสาหร่ายจอกแหน ในสระนั้นมีดอกบัวขาว ถัดจากบัวขาวเป็นดอกบัวแดง โกมุทแดง โกมุทขาว บัวเขียวเป็นต้น รอบๆสระมีดงข้าวสาลี มีไม้เถาเช่น ฟักทอง น้ำเต้า และ ฟัก นอกจากนั้นยังมีดงอ้อย ดงกล้วย ดงขนุน ป่าชมพู่ และ ดงมะขวิด

    กล่าวโดยย่อคือ ผลไม้ที่ชื่อว่ากินไม่ได้นั้น ไม่มี

    เวลาดอกไม้บาน ลมจะพัดเอาเกสรไปรวมกับหยาดน้ำบนใบบัว เมื่อตะวันขึ้น หยดน้ำก็จะถูกแสงอาทิตย์เผาจนกลายเป็นก้อนเหมือนน้ำตาลเคี่ยว และช้างก็นำก้อนน้ำตาลนี้มาถวายพระเถระ

    แม้แต่รากบัว กับ เหงาบัวนั้น ช้างก็นำมาถวาย ส่วนเมล็ดบัวนั้น ช้างก็ได้ปรุงเมล็ดบัวเข้ากับน้ำตาลถวาย ช้างยังได้นำอ้อยวางบนแผ่นหินแล้วใช้เท้าเหยียบจนน้ำหวานไหลออกมาขังเต็มแอ่ง น้ำอ้อยนี้โดนตากแดดจนแห้งกลายเป็นดั่งนมก้อน ซึ่งนมก้อนนี้ช้างก็นำมาถวาย แม้แต่ผลไม้ต่าง ๆ ในป่าเช่น ขนุน กล้วย มะม่วง ช้างก็นำมาถวาย

    ::::::::::::::::::

    • ทราบว่าสิ้นอายุขัย กลับไปทูลลาพระพุทธเจ้า

    เช้าวันหนึ่งท่านได้ตรวจและทราบว่า อายุขัยท่านกำลังจะหมดลงแล้ว ท่านจึงคิดว่า “เราควรนิพพานที่ไหนหนอ … ก็ช้างนี้ได้ดูแลเราถึง ๑๒ ปี เราควรไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อขอนิพพานที่ใกล้ๆช้างนี้”

    ว่าแล้วท่านก็เหาะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่พระวิหารเวฬุวัน ด้วยความที่ท่านไม่ได้พบพระพุทธเจ้าเป็นเวลานาน ท่านจึงได้หมอบลงแทบพระบาทของพระพุทธเจ้า เอาศีรษะแนบกับพระบาท จูบพระบาททั้งสองด้วยปาก นวดเฟ้นด้วยมือทั้งสอง พร้อมทั้งประกาศนามว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ชื่อโกณฑัญญะ”

    เหตุที่ท่านต้องประกาศนามนั้น เพราะท่านจากไปนาน คนทั้งหลายจำท่านไม่ได้ คนบางจำพวกที่ไม่รู้จัก อาจจะคิดไม่ดีว่าพระแก่นี้เป็นใครกัน ซึ่งจะเป็นบาปแก่คนเหล่านั้น ท่านจึงต้องประกาศนามให้ผู้คนเลื่อมใส จะเป็นเหมือนการปิดทางอบาย และ เปิดทางสุคติให้แก่คนทั้งหลายนั้นเอง

    ว่าแล้วท่านก็ทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อายุสังขารของข้าพระองค์สิ้นแล้ว ข้าพระองค์จักนิพพาน”

    ตรัสถามว่า “โกณฑัญญะ ท่านจะนิพพานที่ไหน”

    กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ช้างทั้งหลายที่เป็นอุปฐากของข้าพระองค์นั้น ได้ทำกิจที่ทำได้ยาก ข้าพระองค์จะนิพพานใกล้ๆช้างเหล่านั้น”

    พระศาสดาทรงอนุญาต (ด้วยการนิ่ง ไม่ตรัสอนุญาต หรือ ห้าม) และพระเถระก็ได้ทำประทักษิณและกราบทูลว่า …

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การเห้นครั้งนั้นเป็นการเห็นครั้งแรกของข้าพระองค์ การเห็นครั้งนี้ เป็นการเห็นครั้งสุดท้าย”

    ฝูงชนพากันร่ำไห้คร่ำครวญ พระเถระถวายบังคมและได้จากไปยังริมสระน้ำมันทากินี โดยก่อนจาก ท่านได้ให้โอวาทว่า

    “ท่านทั้งหลาย อย่าเศร้าโศกเลย อย่าคร่ำครวญเลย จะเป็นพระพุทธเจ้าหรือพุทธสาวก สังขารที่เกิดขึ้นแล้ว ที่จะไม่แตกทำลายนั้นไม่มี”

    ::::::::::::::::::

    • หมู่ช้างจัดพิธีศพให้อย่างยิ่งใหญ่

    เมื่อถึงที่ริมสระ ท่านเข้าไปยังที่พัก นั่งเข้าผลสมาบัติตลอด ๓ ยาม ออกจากสมาบัติในเวลาใกล้สว่าง และ นิพพาน

    ช้างที่เฝ้าเวรอยู่ด้านหน้าไม่รู้ว่าท่านได้นิพพานแล้ว แต่ก็ยังคงเตรียมน้ำบ้วนปาก ไม้สีฟัน และ ผลไม้ รออยู่ที่ท้ายทางจงกรม แต่ว่าไม่เห็นพระเถระออกมาจากที่พักจึงเดินเข้าไปดู ช้างเขย่าประตูและมองดูก็เห็นว่าท่านกำลังนั่งอยู่ ช้างลองเอางวงเหยียดออกไปลูบคลำดูก็พบว่าท่านไม่หายใจแล้ว

    บัดนั้นเอง ช้างก็เอางวงสอดเข้าไปในปากส่งเสียงร้องเสียใจดังลั่นป่า ช้างอื่นๆทั้ง ๘,๐๐๐ เชือก ต่างก็ส่งเสียงร้องเสียใจพร้อมๆกัน

    ช้างทั้งหลาย ได้ยกร่างพระเถระขึ้นไว้บนกระพองของหัวหน้าโขลง ต่างเอางวงถือกิ่งไม้ที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง แห่ร่างของพระเถระไปทั่วทั้งป่าหิมวันต์ และ กลับมาวางยังที่เดิม

    ครั้งนั้น ท้าวสักกเทวราช(พระอินทร์) ได้ปรึกษากับวิษณุกรรมเทพบุตร(เทพแห่งการช่าง)ว่า

    “พ่อ พี่ชายของเรานิพพานแล้ว เราจะกระทำสักการะ เธอจงเนรมิตเรือนยอด”

    วิษณุกรรมเทพบุตรจึงเนรมิตเรือนยอดอันสวยงาม จัดวางร่างพระเถระให้อยู่ในเรือนยอดนั้น

    จากนั้นบรรดาช้างก็พากันยกเรือนยอดเวียนรอบป่าอีกครั้ง เหล่าเทวดาก็รับเรือนยอดต่อจากช้าง และค่อย ๆ ส่งต่อไปตามสวรรค์ชั้นต่าง ๆ จนถึงพรหมโลก และค่อย ๆ ส่งเรือนยอดกลับลงมายังช้างอีกครั้ง

    ร่างของพระอัญญาโกณฑัญญะได้รับการทำพิธี จนรุ่งอรุ่ณของวันต่อมาเมื่อไฟได้ดับลงแล้ว พระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จมา ท่านได้เนรมิตเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นมา และบรรจุพระธาตุของท่านอัญญาโกณฑัญญะไว้ในนั้น

    :::::::::::::::::

    Credit : ตรัง สุวรรณศิลป์ | Being Buddhist Blog

    อ้างอิง :

    - ม.มู.มหาสัจจกสูตร ข้อ ๔๒๖, องฺ. อ.๑/๑/๒๔๑, เถร.อ.๓/๔๙๑ ๔๙๕-๖, สํ.อ.๑/๒/๓๓๙-๓๔๔

    - อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค วังคีสสังยุต โกณฑัญญสูตรที่ ๙, อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑. พุทธวรรค ๙. - -อัญญาโกณฑัญญเถราปทาน (๗)

    - หนังสือ ๘๐ พระอรหันต์ ฉบับสมบูรณ์ โดย ธรรมสภา

    #Life101Page #Dhamma
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบียบ โลกใหม่ ได้แชร์ รูปภาพ ของ haberinbizden.com

    [​IMG]

    เหตุการณ์ในอีกฟากหนึ่งของโลก
    Gazze Ateş Altında Allah Rızası için Herkes Yoruma Ya Kahhar Yazsın..
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    [​IMG]

    18 ก.ค. อิสราเอลจัดหนัก! ระดมทหาร 6 หมื่นนายลุยฉนวนกาซา
    สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พล.ต. ม็อตติ อัลมอซ หัวหน้าคณะโฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงว่า กองกำลังทหารราบของอิสราเอลนับหมื่นนายพร้อมรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะเริ่มปฏิบัติการรุกภาคพื้นดินเข้าสู่เป้าหมายในบริเวณฉนวนกาซา ตั้งแต่ 22.00 น.ของคืนวันที่ 17 กรกฎาคม ภายใต้การสนับสนุนของกองกำลังทางอากาศ ทางเรือและหน่วยข่าวกรอง

    ทั้งนี้เพื่อจัดการกับบรรดาอุโมงค์ลอดข้ามแดน, กองกำลังก่อการร้ายและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการนี้ในพื้นที่ที่เป็นเขตปกครองตนเองปาเลสไตน์ภายใต้การดูแลของกลุ่มฮามาส พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้บรรดาประชาชนทั่วไปให้หลีกเลี่ยงเป้าหมายดังกล่าวเพราะทหารอิสราเอลจะปฏิบัติการเต็มกำลัง

    นายมาร์ก เรเกฟ โฆษกรัฐบาลอิสราเอลแถลงว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่การทำลายอุโมงค์ต่างๆซึ่งกองกำลังฮามาสขุดขึ้นลอดใต้ชายแดนเข้าสู่พื้นที่อิสราเอล ก่อนหน้านี้เมื่อเช้าวันที่ 17 กรกฎาคม มีกองกำลังฮามาส 13 คนพร้อมอาวุธหนักครบมือพยายามลักลอบเข้าไปในอิสราเอลผ่านเส้นทางอุโมงค์ดังกล่าวแต่ถูกยิงสกัดและใช้เครื่องบินถล่มระเบิดปิดปากอุโมงค์จนต้องยุติปฏิบัติการ นายเรเกฟยอมรับว่า การตัดสินใจส่งทหารบุกเข้าไปในกาซานั้นไม่ใช่การตัดสินใจง่ายๆ เพราะเข้าใจดีว่าเสี่ยงต่อการที่จะทำให้การสู้รบขยายตัวมากยิ่งขึ้น แต่ในที่สุดก็ต้องดำเนินการเพราะความจำเป็น ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายแทรกซึมเข้ามาทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตไปมากกว่านี้อีก

    ทางด้านนายฟอว์ซี บารูม โฆษกของกองกำลังฮามาส ยังคงยืนกรานหนักแน่นไม่ยอมอ่อนข้อให้กับอิสราเอลด้วยการประกาศว่า ฮามาสพร้อมที่จะเผชิญหน้าแล้วและอิสราเอลจะต้องชดใช้อย่างหนักหนาสาหัสต่อการตัดสินใจครั้งนี้
    ทั้งนี้นอกเหนือจากกองทหารที่รุกคืบข้ามแดนสู่กาซาแล้ว ยังมีทหารอิสราเอลอีกเป็นจำนวนมากตั้งมั่นเตรียมรับคำสั่้งอยู่ตามแนวชายแดน ทั้งนี้ทางการอิสราเอลมีคำสั่งระดมกำลังสำรอง 48,000 นายเข้าประจำการเพื่อปฏิบัติการครั้งนี้ ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติให้ระดมเพิ่มอีก 18,000 นายเป็น 66,000 นายก่อนหน้าการบุกภาคพื้นดินไม่กี่ชั่วโมง

    [​IMG]

    อิสราเอลจัดหนัก! ระดมทหาร 6 หมื่นลุยฉนวนกาซา : มติชนออนไลน์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟป่าในรัฐวอชิงตันเผาบ้านกว่าร้อยหลัง (ชมคลิป)

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/ULwIjNLejeE?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    บ้านเรือนไม่ต่ำกว่า 100 หลังในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐวอชิงตันในสหรัฐ ได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งใหญ่ ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วอย่างน้อย 670 ตารางกิโลเมตร

    [​IMG]

    วันเสาร์ 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 11:53 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ว่าไฟป่า "คาร์ลตัน คอมเพล็กซ์" เผาผลาญพื้นที่ในเขตโอคาโนกัน ทางตอนเหนือของรัฐวอชิงตัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐไปแล้วกว่า 670 ตารางกิโลเมตร บ้านเรือนมากกว่า 100 หลังได้รับความเสียหาย และประชาชนราว 2,400 คน ในเมืองบรูว์สเตอร์ และอีกราว 500 คนในเมืองมาลอตต์ ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว

    แม้ยังไม่มีรายงานการพบผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ แต่กลุ่มควันจากการดับไฟป่ามีรัศมีเป็นระยะทางไกลถึง 25 กิโลเมตร และส่งผลกระทบต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียง ประชาชนต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างซ่อมแซมอย่างเร่วด่วนแล้ว

    ไฟป่าในรัฐวอชิงตันเผาบ้านกว่าร้อยหลัง (ชมคลิป) | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Yai Watchara

    [​IMG]

    DNA ที่พบใน เอิตซี มัมมี่ชายอายุ 5,300 ปี ไม่เหมือนมนุษย์
    เอิตซี (Ötzi) เป็นมัมมี่ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว ถูกพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันบริเวณธารน้ำแข็งบนพรมแดนระหว่างออสเตรียและอิตาลี นักวิทยาศาสตร์จาก EURAC โบลซาโน ประเทศอิตาลี ได้ทำการตรวจสอบชิ้นเนื้อบริเวณสะโพกของเอิตซี แต่พบว่าไม่ได้เป็นดีเอ็นเอของมนุษย์ แต่เป็นดีเอ็นเอของเชื้อแบคทีเรียที่เต็มอยู่ในร่างกายของเขา โดยเฉพาะเชื้อแบททีเรีย Treponema denticola ที่ก่อให้เกิดโรคปริทันต์หรือโรคเหงือกอักเสบ และจากการตรวจสอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าเขาเป็นคนที่แพ้น้ำตาลแลคโตส มีหมู่เลือด กรุ่๊๊ป O(สำรวจโลก)*
     

แชร์หน้านี้

Loading...