หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ได้ไปร่วมทำบุญมาแล้วครับ

 

อนุโมทนาครับ...

 

ขอบคุณครับ อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xBVXHV49ih2mgMMR" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e2c/mQ0qww.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/cUTb" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/d33/q3OH0.jpg" /></a>​

 

ไปตามลายแทงมาแล้วเหมือนกันครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ...

 

ตอนนี้ที่วัดเหลือไม่ถึง 10 วงแล้วครับ

 

พระองค์แรกของหลวงปู่พิศดูที่ได้มาในชีวิตครับ

 

น้อมกราบนมัสการหลวงปู่พิศดูครับ....​

 

ตอนนี้แหวนนาคบาศก์ที่วัดโอภาสีหมดลงแล้วด้วยความรวดเร็วครับ แต่ก็ยังมีพระรุ่นอื่นๆของหลวงปู่เสริฐเหลืออยู่อีกหลายรุ่นยังสามารถไปทำบุญที่วัดกันได้ครับ...

 

ได้มานิดหน่อยครับ

 

พิมพ์สมเด็จ เเละสวยสมบูรณ์มาก หายากครับ

 

ขอบคุณครับ ไว้จะไปเลี่ยมตามคำแนะนำ ตามที่พี่เอ็กซ์บอกจริงๆ แค่รูปหลวงปู่ถ้าเราศรัทธาจริงๆ ก็ศักดิ์สิทธิ์ถึงแม้จะไม่ผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ เพราะผมมีทั้งล็อกเกตและรูปหล่อธรรมธาตุพระกริ่งธัมมะจารี ไว้บูชา แต่ผมนำลอกเก็ตกระดาษมาแขวนคอบูชาองค์เดียวเพราะน้ำหนักเบา แต่คงต้องเปลี่ยนองค์มาบูชากลัวพลาสติกจะเสียหาย ส่วนเม็ดที่คล้ายพระธาตุที่ออกเป็นสีขาวและน้ำตาลหลายสิบองค์ น่าจะแปรสภาพ จากเศษจีวรของหลวงปู่ที่เคยสัมผัสกายและจิตอันปราศจากกิเลสขององค์หลวงปู่ครับ

 

สวัสดีทุกท่านครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ..

 

ปฐมเหตุที่สร้างแหวนนาคบาศก์ นวหรคุณ
ปฐมเหตุที่สร้างแหวนนาคบาศก์ นวหรคุณนั้น ก็เนื่องมาจากว่า คณะศิษย์องค์หลวงปู่พิศดูและศิษย์ท่านพระอาจารย์หนึ่งคิดกันว่าจะสร้างวัตถุมงคลประเภทแหวนขึ้นมาสักอย่าง เพื่อใช้แทนแหวนปลอกมีดมหามงคลขององค์หลวงปู่ที่สร้างออกมาน้อยเหลือเกิน ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดที่ได้รับแจกไปไม่กี่คนเท่านั้น เพราะสร้างเพียงไซด์ละ 38 วง
จึงคิดกันได้ว่า เมื่อสมัยก่อนหลวงปู่ท่านก็เคยมีแหวนพญานาคเกี้ยว ไว้แจกลูกศิษย์ของท่าน และแหวนชุดนั้นสร้างประสบการณ์มากมาย ปัจจุบันหาดูยังยากเลย และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำมาถวาย แต่ว่าหลวงปู่ท่านชอบแหวนพญานาคชุดนั้นมากเลยครับ จึงได้ตกลงกันว่าจะสร้างเป็นแหวนพญานาคที่มีทรงคล้ายกับแหวนปลอกมีด แต่ออกแบบเป็นรูปงู 2 ตัวกินหางกัน หรือที่เรียกว่า " บ่วงนาคบาศก์ "
บ่วงนาคบาศก์...จัดเป็นสุดยอดเครื่องราง แห่งโชคลาภ และป้องกันภัย คือ มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก จึงเรียกว่า กินไม่หมด ตามตำนานโบราณ นาคบาศก์ คือ ศรของอินทรชิต ที่ยิงไปเป็นงูรัดศัตรู ซึ่งภายหลัง พญานาคราชได้มีครอบครองไว้ และมีตำนานตอนหนึ่งกล่าวว่า พรานบุญเคยไปขอยืม บ่วงบาศก์นี้ จากพญานาคราช และเนื่องจากพรานบุญเคยช่วยเหลือ พญานาคราชไว้ พญานาคราชได้ให้สัญญาว่า ขออะไรก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำบ่วงนาคบาศก์นั้นไปคืน พญานาคราช

บ่วงนาคบาศก์ยังเป็นบ่วงเชือกที่แข็งแรงที่สุด แม้พญาครุฑเจ้าแห่งนก ก็ยังกลัว บ่วงนาคบาศก์นี้เช่นกัน
ตามตำราครูบาอาจารย์ ท่านว่า.. สามารถชนะทุกอย่าง หรือ ชนะหมด ใช้ทำน้ำมนต์ เสริมดวง ป้องกันและใช้ปราบภูติผี ปีศาจ และคุณไสยได้ เป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีกินไม่มีอด มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม และเด่นด้านการเสี่ยงโชค ไว้จับเงินจับทอง ...ฯลฯ
บ่วงนาคบาศก์นั้น เท่าที่พอทราบประวัติความเป็นมา ริเริ่มสร้างกันในแถบภาคเหนือตอนบน ตลอดถึงดินแดนไทยใหญ่ ฯลฯ ซึ่งมีหลักฐานรูปลักษณ์การสร้างอยู่ตามกรุของเมืองล้านนาตั้งแต่ยุคโบราณ จนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นแถวล้านนา ถือว่าเป็นที่สุดแห่งโชคลาภ กินเท่าไหร่ก็ไม่จักหมดไม่จักสิ้น ถ้าบูชาด้วยความเคารพจักชุ่มเย็นเปรียบเหมือนมีนาคมาอยู่ด้วย ตลอดถึงสามารถป้องกันสรรพอันตรายต่างๆได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นของดีที่หายาก และสร้างได้ยากยิ่งนัก..

และอีกหลายเหตุผลที่ตัดสินใจสร้างแหวนนาคบาศก์ ก็เนื่องมาจาก..
- หลวงปู่พิศดูท่านเกิดวันเสาร์ พระประจำวันของท่านจะเป็นปางนาคปรก
- หลวงปู่พิศดูท่านมีพญานาคเป็นบริวาร และท่านเคยบอกว่า " ใต้พื้นที่ตั้งวัดเทพธารทองลงไป เป็นเมืองนาคราช..." เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกว่ามักจะมีผู้คนที่มาหาหลวงปู่ท่านที่วัดและมักจะพบงูลักษณะแปลกๆในวัดบ่อยครั้ง
- ท่านพระอาจารย์หนึ่งผู้ริเริ่ม ท่านก็เกิดปีมะโรง(งูใหญ่) หลวงปู่เคยเรียกท่านพระอาจารย์หนึ่งว่า " งูศาสตราคม " ก็เนื่องมาจากท่านพระอาจารย์ท่านเกิดปีงูใหญ่ และมีความรู้ในเรื่องวิชาอาคมนั่นเอง
- ในปีที่จัดสร้างแหวนนี้ ก็ยังเป็นปีงู(มะเส็ง)อยู่
- และที่สำคัญ พระอริยะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ที่จะทำการอธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์นวหรคุณให้เป็นปฐมฤกษ์นั้น ท่านก็เกิดปีมะโรงเช่นกัน นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร และท่านยังเคยกล่าวประโยคนี้ให้ลูกศิษย์ของท่านฟังอีกว่า.. " เคยเห็นพญานาคเผือกไหม.. เรานี่แหละ พญานาคเผือก " เพราะฉะนั้นท่านจึงเป็นครูบาอาจารย์ที่ได้รับการอาราธนาให้อธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์เป็นปฐมฤกษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่ท่านสูงส่งไม่มีประมาณจริงๆครับ

นอกจากรูปลักษณะของแหวนที่เป็นรูปงูกินหางกันแล้ว ที่ใต้ท้องแหวนยังได้อัญเชิญอักขระพิเศษ นวหรคุณ9 อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ มาประดิษฐานไว้เพื่อความเป็นศิริมงคลอันสูงสุด มีพุทธคุณครอบจักรวาล ให้สมกับเป็น ชุด นวโลกุตรธรรม อย่างแท้จริง ซึ่งความหมายของอักขระทั้ง 9 ตัวนี้ ได้ถอดจากหัวใจของห้องพุทธคุณ(อิติปิโส...) ซึ่งแต่ละตัว มีความหมายดังต่อไปนี้..

1. อะ (อรหัง) = เป็นพระอรหันต์ ผู้ห่างไกลจากกิเลส

2. สัง (สัมมา สัมพุทโธ) = ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

3. วิ (วิชชา จรณะสัมปันโน) = ทรงสมบูรณ์ด้วยวิชชาสมบัติ และจริยาสมบัติ

4. สุ (สุคโต) = เสด็จไปดีแล้ว

5. โล (โลกวิทู) = ทรงรู้เท่าทันโลกทั้ง 3

6. ปุ (ปุริสทัมมสารถิ) = ทรงฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้ ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

7. สะ (สัตถา เทวมนุสสานัง) = ทรงเป็นครูสอนทั้งเทวดาและมนุษย์

8. พุ (พุทโธ) = ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

9. ภะ (ภควา) = พระผู้ทรงแจกพระอมตะธรรม มรดก

 

แหวนนาคบาศก์ นวหรคุณ ของสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ จัดสร้างด้วยเนื้อนวโลหะ(ธาตุโลหะทั้ง 9 ชนิด หลอมรวมเป็นหนึ่ง)เพียงเนื้อเดียว ซึ่งเป็นเนื้อชนวนล้วนๆ แบบเดียวกันกับรูปหล่อหลวงปู่พิศดูหน้าตัก 1 นิ้ว และได้เททองหล่อในพิธีเดียวกัน
ส่วนแหวนนาคบาศก์ นั้นเมื่อช่างได้ขัดแต่งแล้วเสร็จ ได้นำไปเข้าพิธีมากมายจริงๆ เท่าที่พอรวบรวมได้มีดังนี้ครับ..

1.พิธีอธิษฐานจิตเป็นปฐมฤกษ์ โดยพระเดชพระคุณพระราชญาณวิสุทธิโสภณ(หลวงปู่ท่อน) วัดศรีอภัยวัน จ.เลย เมตตาอธิษฐานจิตให้ 6 วันเต็ม

2.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่เจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ จ.อยุธยา

3.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย จ.นครสวรรค์

4.พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ และพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในวันเพ็ญพุธ ณ พระมหาเจดีย์ ที่วัดเทพธารทอง โดยพระเกจิครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ อาทิ..
- หลวงพ่อมหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
- หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต
- หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาน้ำตก
- หลวงพ่อมนัส สำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิต เขาแหลม
- ฯลฯ
และพระสวดพิธีธรรมอีก 9 รูป และช่วงบ่ายในวันเดียวกัน พระสงฆ์ได้ลงสวดพระปาฏิโมกข์ถวายอีกด้วยอีกสัมทับหนึ่ง โดยในงานพิธีพุทธาภิเษก ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญบารมีธรรมขององค์พระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี และองค์หลวงปู่พิศดูมาประสิทธิด้วย

5.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่ครูบาครอง วัดท่ามะเกว๋น จ.ลำปาง

6.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน (อธิษฐานจิตพร้อมกับรูปหล่อพระมหาอุปคุต ปางปราบมาร)

7.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

8.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่เพ็ง วัดโพธิ์ศรีละทาย จ.ศรีสะเกษ

9.พิธีอธิษฐานจิต เททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อกบ เขาสาริกา ณ วัดโอภาสี จ.ระยอง

10.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว (ต่อเนื่องจากวัดเททอง..) โดย หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี เป็นเวลายาวนานกว่า 1 เดือน

11.พิธีบวงสรวง อัญเชิญบารมีองค์พระมหาอุปคุต และบารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดู และสวดเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันเพ็ญพุธ ณ ลานพิธีริมหน้าผาอ่าวคุ้งกระเบน โดยท่านพระอาจารย์หนึ่ง พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงศีล

12.พิธีไหว้ครูจักรวาล ของหลวงปู่หงษ์ ณ สุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์

13.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่สิงห์ วัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์

14.พิธีทำบุญใหญ่ ถวายบูชาคุณองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี และบวงสรวงอัญเชิญพญานาคราช เพื่อรักษาบุญพิธี โดยทางวัดได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี

15.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน

16.พิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว โดย หลวงปู่ครูบาครอง วัดท่ามะเกว๋น จ.ลำปาง

17.พิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ใหญ่ เนื่องในวันเททองหล่อพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ 4 ปาง ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิครูบาอาจารย์กว่า 10 รูป อาทิ..
- หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
- หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
- หลวงปู่ฉอ้อน วัดแหลมหิน จ.ปราจีนบุรี
- หลวงปู่อั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
- หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต จ.จันทบุรี
- หลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง จ.ระยอง
- หลวงปู่บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม
- หลวงปู่สวาท ว่าป่าโป่งจันทร์ จ.จันทบุรี
- หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
- ... ฯลฯ
และพระสวดพิธีธรรมอีกรวมเกือบ 100 รูป


ซึ่งพิธีดังกล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพิธีทั้งหมด ที่ผมพอจะรวบรวมได้ เพราะอาจยังมีพิธีอธิษฐานจิตอีกบางพิธีที่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ ก็ขอแสดงไว้แต่เพียงสังเขปเพื่อเป็นแนวทางแห่งการศึกษาข้อมูลกันต่อไปครับ..

จบพิธีอธิษฐานจิตแหวนนาคบาศก์ นวหรคุณแต่เพียงเท่านี้ครับ..

 

และที่สำคัญ พระอริยะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ที่จะทำการอธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์นวหรคุณให้เป็นปฐมฤกษ์นั้น ท่านก็เกิดปีมะโรงเช่นกัน นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร และท่านยังเคยกล่าวประโยคนี้ให้ลูกศิษย์ของท่านฟังอีกว่า.. " เคยเห็นพญานาคเผือกไหม.. เรานี่แหละ พญานาคเผือก "  เพราะฉะนั้นท่านจึงเป็นครูบาอาจารย์ที่ได้รับการอาราธนาให้อธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์เป็นปฐมฤกษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่ท่านสูงส่งไม่มีประมาณจริงๆครับ

ถ้าลองสังเกตุแหวนนาคบาศก์ดีๆ จะเห็นสีออกแดงอ่อนๆ ค่อนไปทางขาว คิดเหมือนกันกับผมหรือเปล่าครับ
ขอนอบน้อมกราบหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ท่อน ครูบากฤษดา ด้วยเศียรเกล้าครับ

 

เม็ดประคำหลวงปู่พิสดูเอามาแต่งเป็นกำไรและแหวนนาคบาทใส่ได้พอดีนิ้วเลยครับ
(แหวนถ้ามีตังจะเอาไปหุ้มทองตามที่ตั้งใจไว้) เอามาให้ชมกันครับ

 

สาธุ.. เยี่ยมเลยครับพี่รินทร์ องค์นี้เป็นองค์ที่ 2 แล้วที่ผมเคยเห็นครับ..

ส่วนอีกองค์คือองค์นี้ครับ..



จริงๆด้านหน้าก็มีเกร็ดใส่ๆด้วยครับ แต่ว่า ด้วยความที่ไม่ระวัง แกะดูจึงทำให้เกร็ดใสๆนั้นหลุดออกไปเยอะพอสมควรครับ

 

แจ่มเลยครับพี่ช่างชิต..

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอน้อมกราบหลวงปู่พิศดูเหนือเศียรเกล้าครับ...