เพื่อการกุศล เปิดจองรุ่นของขวัญปีใหม่ ลพ.หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์อธิฐานจิตสร้างโดยวัดป่าศรีสำราญน.ท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 18 มิถุนายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380




    รับทราบค่ะ ปรับตารางหน้านะค่ะ
    สาธุๆๆ
     
  2. dalmat

    dalmat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ลำดับที่ 61 โอนเงินแล้วครับ
    03/07/57 เวลา 17.22น. จำนวน 560 บาท

    โมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  3. อภิญญา8

    อภิญญา8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,864
    ค่าพลัง:
    +6,799
    ลำดับที่ 26
    ผมได้โอนเงินร่วมบุญส่วนแรกแล้ว 1,600.08 บาท
    SCB 03/07/14 Time 20.27
    ขอบคุณครับ
     
  4. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    แนะนำครับ:cool::cool::cool:

    ตะกรุด พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ การทำหลายขั้นตอนครับ มีการอุดปรอทของเบี้ยแก้บรรจุไว้ข้างในด้วย พอกด้วยผงมวลสารที่หายากปั้มยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อหนุน ได้ไม่มากแค่ 108 ดอก (ทุกครั้งที่เปิดกล่องได้จับตะกรุดนี้ที่ไร จะสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่ออกมาจากตะกรุดนี้ทุกทีเลย ประสบการณส่วนตัว ถ้าใครชอบแนะนำเลยครับ)
    ตอบ สำหรับผมนะ สุดยอด เมตตานำเลยครับทุกอย่างครบสูตร
    มวลสาร1.แผ่นชนวนตะกั่วเข้าพิธีหลายเลยครับ
    2.ปรอทรวมมวลสารมีดังนี้
    ชนวนมวลสารเบี้ยแก้......................
    มวลสารทางคุณชัยวิทย์ที่ ในส่วนของปรอทมี
    1.ปรอทดำ
    2.ปรอทแดง
    3.ปรอททะเล
    4.ปรอทยวง
    5.ปรอทตาวัว
    6.ปรอทน้ำเน่า
    7.ปรอทเสกโดยหลวงปู่ยาท่านสวน
    8.ปรอทที่แกะจากเบี้ยแก้หลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ปรอทสายหลวงปู่ศุข
    10.ปรอทวิท

    ของพรอาจารย์สมบูรณ์ที่ได้รับมามี
    11.ปรอททอง คุณสมบัติ แข็งแรง
    12.ปรอทเหล็ก คุณสมบัติเหนียว
    13.ปรอทเงิน คุณสมบัติวาสนา
    14.ปรอทดิน คุณสมบัติเย็น
    15.ปรอทไฟ คุณสมบัติเป็นพญาปรอทหายากมากเป็นปรอทของพระฤาษี
    16.ปรอทไม้ คุณสมบัติยั่งยืน
    17.ปรอทลม คุณสมบัติเป็นอาวุธของคนธรรพ์
    18.ปรอทนาค คุณสมบัติรวดเร็ว
    19.ปรอทแก้ว คุณสมบัติเป็นปรอทพิเศษคุณดั่งแก้วสารพัดนึก


    3.ชันโรงผสมครั่งรวมมวลสารมีดังนี้
    ชันโรงเกือบทุกสายพันธุ์มี
    1.ชันโรงเพียงดิน
    2.ชันโรงใต้ดิน
    3.ชันโรงกลางหาว
    4.ชันโรงใต้น้ำ
    5.ชันโรงบนน้ำ
    6.ขี้ผึ้งร้างรังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    7.ขี้ผึ้งเทียนชัยพิธีสำคัญๆเช่นของหลวงปู่ญาท่านสวน
    8.รวมถึงของอาถรรพ์ต่างๆอีกมาก

    4.สายสิญจน์พิธีสมโภชสมเด็จองค์ปฐม
    5.ผงมหากันหลวงรวมผงว่านมหามงคลและมวลสารต่างๆ
    ผงมหากันหลวง เป็นผงที่ทำตามตำราโบราณสายสมเด็จลุ่น เป็นผงที่ทำได้ยากยิ่งเพราะต้องหาตามที่ตำราบอกไว้ซึ่งต้องไปเอา ตามเขา ตามป่า ตามทะเล ตามจุดที่ได้ระบุไว้ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ใช้ทั้งทุน ใช้ทั้งแรง อาจใช้ทั้งชีวิตเลยก็ได้ เพราะของส่วนมากทั้งสือสารกับพวกที่เฝ้ารักษาเทพ พวกผี อานุภาพจึงสูง ได้ใช้ผสมรวมกับชันโรง


    ใช้แช่ทำน้ำมนต์ก็ได้นะครับตะกรุดรุ่นนี้ เมตตานำป้องภัยอย่างดีเยี่ยมเลยครับ

    พระยันต์ในตะกรุดพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์นี้ เป็นยันต์ที่ไม่ใช่สูตรทางไสยศาสตร์ แต่เป็นปริศนาธรรมทางพุทธศาสตร์ ยันต์นี้เริ่มตั้งแต่โลกุตระธาตุทั้ง 5 ขึ้น โดยใช้ "นะ" แทนรูป "โม" แทนเวทนา "พุทธ" แทนสัญญา "ธา" แทนสังขาร "ยะ" แทนวิญญาณ แล้วยกระดับจิตขึ้นสูงภูมิวิปัสสนาญาณ พิจารณาขันธ์ ๕ ให้เป็นไตรลักษณ์สิ้นสุดที่อนัตตาว่างเปล่า แล้วแทนด้วยคุณแห่ง พระกุกกุสันโธ พระโกนาคมน์ พระพุทธกัสสปะ พระสมณโคดม พระศรีอาริยะเมตตรัย ตามลำดับ กำหนดนิมิตเข้าสู่แผ่นชนวนที่ได้ลงอักขระรองรับ อีกทั้งหนุนด้วยบารมีโพธิสัตว์จนครบ ๕ พุทธภูมิ .........ตะกรุดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นี้ เปรียบเหมือนการรวบรวมพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ให้มาปกปักรักษา ผู้ที่บูชา............. ........."ตะกรุดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์" ดีทั้งนอกและในอันเป็นเชิงพุทธะเพื่อเกื้อกูลธรรม แนะนำ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์หรือที่คนไทยรู้จักในนาม พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ พระคาถา นะโม พุท ธา ยะเป็นอักขระวิเศษ เป็นหัวใจพระคาถาสำคัญ สวดเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิตได้จริง… หลวงพ่อโสธรพระศักดิ์สิทธิ์ เมืองแปดริ้ว และพระธาตุเชิงชุมอันศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนพระมหาเจดีย์ชเวดากองพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ของโลกล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์… ยันต์พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เป็นยันต์ที่โด่งดังมากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันถือเป็นมหายันต์สูงสุดกว่ายันต์ทั้งปวง อุปเทห์ใช้ได้ สารพัดประโยชน์ เมตตามหานิยมโชคลาภ เป็นมหาเสน่ห์

    พระยันต์อันสุดยอดของมหายันต์ต่างๆ คือพระยันต์และพระคาถา พระเจ้า 5 พระองค์
    พระเกจิอาจารย์ผู้ที่แก่กล้าวิชาอาคมตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ มาจนถึงปัจจุบัน นิยมอัญเชิญ พระคาถาพระเจ้า 5 พระองค์
    ลงในผ้ายันต์ และโลหะ เช่นแผ่นทองคำ แผ่นเงิน แผ่นนาค และโลหะต่างๆ เพือนำไปติดบูชาที่บ้าน ทางเข้าออกประตู หรือ หน้าต่าง
    หัวนอน ป้องกันเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจ และสิ่งที่เป็นอัปมงคล จากน้ำมือมนุษย์ก็ดี หรือผู้ที่ไม่ปรารถนาดี โบราณท่านบอกไว้ว่า
    " ป้องกันได้ดีนักแล " ส่วนโลหะลงอักขระหัวใจ พระเจ้า 5 พระองค์ แล้วนำไปม้วนทำเป็นตะกรุดถักเชือก ลงรัก มอบให้กับศิษย์ และคนใกล้ชิด ปัองกันศาสตราวุธของแหลมคม อาวุธปืน แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย ทางอากาศก็ดี ทางน้ำก็ดี ทางบกก็ดี ใช้อธิฐาน แช่น้ำทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์อาบดื่มกินป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรง ปะพรมบัานเรือนของที่จะขาย
    ให้ขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพิ่มพูนเมตตามหานิยม ให้อธิฐานตั้งนะโม 3 จบ ทำจิตใจให้สงบ ให้สมาธิเกิดแล้วก็ภาวนา
    " นะ โม พุท ธา ยะ " ความศักดิ์สิทธิ์ก็จะบังเกิดขึ้นทันที

    คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า 'แม่ธาตุใหญ่' ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า 'ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล'

    หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ 'มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย

    ส่วนที่มาของ พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นการเขียนโดยใช้ ตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ คือ

    นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒

    โม หมายถึง พระโกนาคม ใช้เขียนแทน ธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑

    พุท หมายถึง พระกัสสป ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖

    ธา หมายถึง พระสมณะโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗

    ยะ หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐


    มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยอาจจะตั้งคำถามว่า "ในพุทธศาสนามีพระเจ้าด้วยหรือ?" ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า "พระเจ้า" เป็นคำใช้เรียก "พระพุทธเจ้า" และพระภิกษุสงฆ์มาแต่โบราณ เช่น พระเจ้าพระสงฆ์ พระเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกัปมีพระพุทธเจ้าโปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์ ตาม ลำดับดังนี้
    ๑.พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๔ หมื่นปี มีเขมวตีนนครของพระเจ้าเขมะเป็นราชธานี

    ๒.พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๓ หมื่นปี มีโสภวตีนนครของพระเจ้าโสภะเป็นราชธานี

    ๓.พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๒ หมื่นปี มีพาราณสีนครของพระเจ้ากิงกิเป็นราชธานี
    ๔.พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๘๐ ปี มีกบิลพัสดุ์นครของพระพุทธเจ้าสุทโธทนะเป็นราชธานี
    และ ๕. พระศรีอริยเมตไตรย์ จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัททกัป จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปี ซึ่งงเป็นที่มาของ คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า 'แม่ธาตุใหญ่'

    ส่วนที่มาของพระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ และระหว่างเขียนตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์บริกรรมดังนี้

    นะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากุกกุสันโธ องค์แรกในภัทรกัปนี้ เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “นะ กาโรโหติสัมพโว พระกุกกุสันโธ จงมาบังเกิดเป็นตัว นะ”

    โม เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าโคนาคม องค์ต่อมาใช้เขียนแทนธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “โม กาโรโหติสัมพโว พระโคนาคม จงมาบังเกิดเป็นตัว โม”

    พุท เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากัสสปะ องค์ถัดมา ใช้เขียนแทนธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “พุท กาโรโหติสัมพโร กัสสปะเถระ จงมาบังเกิดเป็นตัวพุท”

    ธา เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “ธากาโรโหติสัมพโว พระสมณโคดม (บางครั้งใช้พระศรีศากยะมุณี ในอดีตจะใช้ว่า พระศิริศากยมุณี) จงมาบังเกิดเป็นตัว ธา”

    ยะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง
    พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือ
    บริกรรมว่า “ยะ กาโรโหติสัมพโว พระศรีอริยเมตไตรย (บางครั้งใช้ พระศรีอริยะเมตเตยโย) จงมาบังเกิดเป็นตัว ยะ”

    เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ การลงอักขระเลขยันต์นี้ เท่าที่มีการบันทึกจำกันได้ ก็ในสมัยพระร่วงเจ้า ที่ขอมดำดินมาเพื่อจะทำร้ายพระร่วง ขณะนั้นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ ขอมดำดินก็โผล่ขึ้นมาถามหาพระร่วง พระร่วงเจ้าก็เลยใช้วาจาสิทธิ์สาปพวกขอมจนกลายเป็นหิน เป็นเวลาร่วมพันปี เพิ่งจะมีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของขอมให้ไปเกิดใหม่

    พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นพระคาถาที่สำคัญอย่างมาก คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นที่นิยม สวดกันมากที่สุด คือ พระคาถาพระเจ้า ๕พระองค์ ของหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา โดยให้เริ่มต้นด้วย

    การตั้งนะโม ๓ จบ โดยให้ว่าคาถาดังนี้

    นะ ทรงฟ้า
    โม ทรงดิน
    พุทธ ทรงสินธุ์
    ธา ทรงสมุทร
    ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด
    ธัมมังแคล้วคลาด
    สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ

    นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง

    ทั้งนี้มีคติความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ก่อนนอน ก่อนออกเดินทางจากบ้าน หรือเข้าในที่คับขัน เผชิญหน้ากับศัตรู ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีก ป้องกันภัยอันตรายได้สารพัด วิเศษนักแล "
    :cool::cool::cool:
     
  5. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    รวมมวลสารมากมายบวกผงแร่รวมมวลสารทั้งของหลวงพ่อหนุนที่ท่านให้มาหลายชนิด รวมทั้งผงมวลสารต่างๆที่ได้จากหลวงพ่อหนุน ท่านได้ให้ไว้อีกมากครับ

    พิเศษเฉพาะช่วงสั่งจองเท่านั้นครับ ติดเพชรเข้าพิธีวัดเขาวงโดยมีลูกแก้วจักรพรรดิ์ของหลวงพ่อเป็นประธานด้วย อีกหนึ่งเม็ดครับสำหรับพระปิดตาเพชรกลับ มหาสะท้อน ลาภผลพูลทวี

    มาเล่าการสร้างวัตถุมงคลชุดที่ 2 คงเล่าพอเป็นสังเขปไม่มากสร้างพร้อมกันกับชุดแรกเข้าพิธีเดี่ยวกัน มวลสารก็มีมากมาย(ของดีราคาถูกมากครับ)
    1.พระปิดตาเพชรกลับ มหาสะท้อน(ลอยองค์)เนื้อผงรวมมวลสารผสมแร่กายสิทธิ์ ที่จริงจะทำเป็น 2 เนื้อคือเนื้อผงพุทธคุณรวมมวลสารและเนื้อผงแร่กายสิทธิ์ ทางช่างไม่รู้ฟังอีกท่าไหน เอามาผสมรวมกันทั้งหมดเลย ก็เลยเป็นโชคดีไปได้ทั้ง 2 เนื้อ ในองค์เดี่ยวกัน
    กว้าง 1.8 สูง 2.1 เซนครับน่าจะเป็นสุดยอดของรุ่น ในอัตราทำบุญที่ทุกท่านเอิ้อมถึง
    ต้องขอบคุณช่าง นะค่ะ ทำให้ได้ของดี(มวลสารมากมาย)ราคาถูก น่าเก็บคะ

    :cool::cool::cool:
     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460

    ประวัติของขลังสรงเสน่ห์


    ถ้าพูดถึงเครื่องรางที่สรงเสน่ห์แล้วล่ะก็ จะต้องนึกถึงเครื่องรางที่มีรูปร่างที่เราคุ้นกันดีนั่นก็คือ ปลัดขิก นั่นเอง แต่เรารู้ไหมว่าต้นตอของการทำหรือประวัติพงศาวดารของเครื่องรางนี้เป็นอย่างไร และมันมีความขลังในด้านไหนบ้าง ทุกคนคงสงสัยว่าเพราะอะไรเจ้าปลัดขิกนี้จึงต้องออกมาเป็นรูปไอ้นั่นด้วย เราหาคำตอบให้ท่านแล้ว

    ภาพปลัดขิกต่างๆ

    ปลักขิก ผู้เคียงข้าง เครื่องรางแห่งเสน่ห์ โชคลาภ และปัดเป่าเสนียด***

    วัตถุมลคลที่เป็นเครื่องรางที่อยู่คู่กับคนสังคมไทยมาตั้งแต่นาน ตั้งแต่สมัยอยุธยา ปลักขิกนั้นนิยมเรียกกันในชื่อ ขุนเพ็ด หรือ ขุนเพชร คำว่าปลัด นั้น หมายถึง ตำแหน่งรองจากตำแหน่งที่เหนือกว่า โดยรู้จักกันในความหมาย ผู้ข้างเคียงคอยช่วยเหลือ ส่วนคำว่า ”ขิก” นั้น คำนี้ได้ถูกเลิกใช้มานานแล้วเพราะเป็นคำหยาบ ได้ผันเปลี่ยนมาใช้คำว่า “คุยหํ” ในภาษาบาลี และได้แผลงมาเป็น ตวย (ต เปลี่ยนเป็น ค) ในภาษาไทย ซึ่งในปัจจุบันคำนี้ก็เป็นคำหยาบไปอีก แตกต่างกันตรงที่ว่า ยังนิยมชมชอบที่แจกให้กันเสมอ ๆใน ปัจจุบัน

    ปลักขิกหรือขุนเพ็ด เป็นเครื่องรางคู่กับโยนี (เครื่องรางรูปของลับของสตรี) ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นดอกไม้ในแดนสวรรค์ เป็นเครื่องหมายของการกำเนิดส่งใหม่ ๆ หรือความงอกงามของชีวิตใหม่

    ขุนเพชรหรือปลัดขิก แต่เดิมนิยมให้เด็กผู้ชายอายุตั้งแต่ ๓-๔ ขวบขึ้นไป แขวนไว้ที่เอว เพราะเด็กอายุประมาณนี้จะเริ่มมีเอวแล้ว และเด็กในระยะนี้จะมีภูมิคุ้มกันตนน้อยลง เพราะว่าหย่านมแล้ว แนวโน้มที่จะเจ็บไข้ไม่สบายมีมากขึ้น ความเชื่อที่ว่าผีสาง ทั้งหมายจะทำให้เด็กเจ็บป่วยไม่สบายจึงให้แขวนปลัดหรือขุนเพชรไว้ ทั้งนี้เพราะปลัดขิกที่นำมาแขวนให้กับเด็กชายนั้น จะอยู่ในลักษณะขององคชาต จำลองย่อส่วนโดยปราศจากหนังหุ้มปลาย ระดับของการแขวนก็อยู่ที่เอวมิใช่คอ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ห้อยลงมาใกล้กับระดับองคชาต (อ้ายจู๋) ของเด็กให้มากที่สุด เพื่อจะหลอกผีให้เข้าใจผิดไปว่าเด็กชายนั้นใช่เด็ก หากเป็นผู้ชายเต็มตัวแล้ว โดยมีองคชาตที่ปลายเปิดไม่มีหนังหุ้ม ส่วนปลัดขิกเหล่านี้ หากจะให้มีความขลังยิ่งขึ้นก็ควรจะต้องผ่านการปลุกเสกเสียด้วยอีกต่างหาก
    ในที่สุดปลัดขิกหรือขุนเพ็ดก็ได้ประกาศอิสรภาพยกฐานะตัวเองขึ้นไปอีกระดับ กลายเป็นสิ่งสมควรแก่การเคารพบูชากราบไหว้ สถิตอยู่ตามศาลหรือเป็นเครื่องนำโชคลาภตั้งไว้บูชา หรือเป็นเครื่องมือเพื่อนำความเจริญก้าวหน้าเนื่องในการทำมาค้าขาย โดยทั่วไปจะนำปลัดขิกไปจิ้มลงบนสินค้าพร้อมกับมีคาถากำกับว่า "โอม ระรวยมหาระรวย สามสิบสอง-วยแห่ห้อมล้อม-ีค้าง่ายขายดีแหก-ีกลับบ้าน ฮ่า ฮ่า ฮ่า" (ควรร่ายด้วยลมหายใจเฮือกเดียว แต่ทำไมจึงต้องสามสิบสอง เรื่องนี้ยังสืบไม่ได้) หรือ "...โอม ไอ้ขลิกไอ้ขลัก เงี่ยงหักเงี่ยงหงิก ปกเอยปกหาง หางเอยหางอะไร บุรุษชอบ-ี สตรีชอบ-วย ทำให้กูร่ำรวย โพะหัว โพะหัว โพะหัว" (คาถาของหลวงพ่อซ่วน เมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา) แต่หากจะตรองดูก็จะเห็นว่า การที่ใช้คำที่ไม่ค่อยสุภาพเป็นคาถากำกับ ก็เพื่อจะให้พวกผีๆ เข้าใจไปว่า สินค้าที่วางขายนั้นเป็นของที่ไม่มีราคาค่างวดวิเศษวิโสอะไร ไม่คุ้มกันที่พวกผีจะมาใส่ใจเสียเวลามารบกวน

    ปลักขิกนั้นมีเคล็ดการใช้แตกต่างกันไป บางสำนักนิยมให้ถูกเนื้อถูกตัว คือคาดที่เอวให้โดนเนื้อตัวเจ้าของไว้ แต่อีกแบบหนึ่งนั้น นิยมให้ปลัดขิกแขวนออกมาให้คนอื่นๆเห็นจะยิ่งมีอานุภาพ คงเป็นอิทธิพลมาแต่เดิมที่จะใช้หลอกผี ให้เข้าใจว่า โตแล้ว ผีจะได้ไม่มายุ่ง ส่วนการให้ถูกเนื้อโดนตัวนั้นตามความคิดของผมเข้าใจว่า สิ่งต่างๆจะสมบูรณ์เมื่อธาตุทั้ง ๖ ประสานต่อเนื่องกันไป

    ส่วนเรื่องอานุภาพหรือความขลังศักดิ์สิทธิ์ของปลัดขิกนั้น มีอานุภาพครบทุกด้านทุกประการ คาถาที่นิยมใช้กับปลัดขิก คือ หัวใจโจร ที่ว่า “กัณหะเนหะ” ด้วยความหมายที่ว่า โจร เป็นผู้ทำลายล้าง การใช้หัวใจโจรจึงเป็นการใช้เกลือจิ้มเกลือ หนามยอกเอาหนามบ่ง ให้โจรทำลายล้างสิ่งไม่ดีต่างๆให้หมดไป

    ปลักขิกนั้นเด่นทั้งเรื่อง คงกระพัน กันเขี้ยวงา และแคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันเสนียด*** ภูติผีต่างๆ ในด้านเมตตามหาเสน่ห์ก็มีอยู่ครบ แต่ที่จะโดดเด่น เห็นจะเป็นแค่ ๒ อย่าง คือ คงกระพัน กันเขี้ยวงา และเมตตาค้าขาย

    ข้อดีของเครื่องรางชนิดนี้ คือ ไม่มีข้อห้ามยุ่งยาก ตัดปัญหาเรื่องความเชื่อที่ว่า ของจะเสื่อมเพราะการพลั้งเผลอไปลอดราวผ้าหรืออยู่ในที่ไม่สมควร คาถาของขุนเพชร เองก็มีแต่คำพื้นบ้านหรือออกจะหยาบนิดๆพอน่ารัก

    ปลัดขิกเริ่มด้วยเป็นเครื่องมือหลอกผี แต่แล้วต่อมาปลัดขิกก็ได้ยกระดับตัวเองให้กลายสภาพจากเครื่องมือหลอกผีมาเป็นของขลังในตัวของมันเอง โดยไม่จำกัดอยู่กับวัยอีกต่อไป ผู้ใหญ่ซึ่งไม่มีความจำเป็นแต่ประการใดที่จะหลอกผีให้เข้าใจผิด ก็ยังนิยมที่จะแขวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยไม่รู้ถึงสาเหตุหน้าที่ของมัน
    ผู้ที่มีความเชื่อมั่นและคิดเสมอว่าตัวเรามีของดี คือ ขุนเพ็ด เผด็จศึกติดตัวอยู่ ยิ่งมีความผูกพันธ์และเชื่อมั่นมากเท่าไร เครื่องรางชนิดย่อมแสดงผลให้ประจักษ์ได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้วเกจอาจารย์เก่าหรือผู้ที่ใช้เครื่องรางทุกอย่าง จะขาดปลัดขิกไม่ได้ เป็นของป้องกันตัวพื้นฐานที่สำคัญ ในฐานะ “ผู้เคียงข้าง” ตลอดกาล


    เกจิอาจารย์หลายสำนักสร้างปลัดขิกหรือขุนเพชรได้อย่างยอดเยี่ยม และเห็นผลอย่างเหลือเชื่อ ในทุกวันนี้จะมีผู้นิยมใช้ปลักขิกในฐานะของเครื่องรางที่ทำให้ค้าขายดี มีคนเข้าร้านมากมาย จึงนิยมในหมู่แม่ค้าและเจ้าของกิจการระดับทั่วไป แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่ยังเหนียวแน่นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของปลัดขิก คือ วัยรุ่นหรือหนุ่มที่ยังคงถือเก็บสะสมเครื่องรางของชายชาตรีให้ครบครัน ปลักขิก ตะกรุด จึงเป็นเครื่องรางที่ไม่ถูกมองข้ามในกลุ่มนี้
    ในบรรดาเครื่องรางของขลัง ที่โบราณาจารย์นิยมจัดสร้างขึ้น มีเครื่องรางประเภทหนึ่ง มีลักษณะรูปร่างแปลกตาไปจากวัตถุมงคลประเภทอื่น กล่าวคือ จะมีสัณฐานเป็นรูป "ลึงค์" หรืออวัยวะเพศชาย โดยจัดสร้างขึ้นมามากมาย หลายขนาด ตั้งแต่เล็กจิ๋วกว่าปลายนิ้วก้อย ไปจนถึงขนาดเท่าของจริง และขนาดใหญ่โตมโหฬาร สูงท่วมหัว


    เครื่องรางชนิดนี้ได้รับความนิยมพกติดตัว ตลอดจนเคารพบูชากันเป็นที่เอิกเกริก ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ "ปลัดขิก"

    ด้วยความนิยมใช้ปลัดขิก ถึงขนาดที่ว่ามีการท่องไล่เลียง "ของดี" หรือของสุดยอดของเครื่องราง ที่คู่ควรสะสมไว้ว่า

    "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อป่าน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นวัดศรีษะทอง เบี้ยแก้กันวัดนายโรง ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง"

    ความเป็นมาของ "ปลัดขิก" ค่อนข้างเกี่ยวพันกับคติความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ โดยเชื่อว่า "ลึงค์" หรืออวัยวะเพศชาย เป็นบ่อเกิดแห่งสรรพสิ่งมีชีวิตในจักรวาล อันเป็นรากฐานมาจากคติการบูชา "ศิวลึงค์" หรือลึงค์ของพระศิวะ ในลัทธิไศวนิยาย ที่บูชาพระศิวะเป็นใหญ่ อันเป็นที่มาของการเรียก "ลึงค์" ว่า "เจ้าโลก"

    ซึ่งแตกต่างจากอีกนิกายหนึ่งในศาสนาฮินดูที่เคารพบูชา "โยนี" หรือ อวัยวะเพศหญิง ในลัทธิศักติ ที่เชื่อว่าสรรพสิ่งต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วยโยนี

    การบูชาลึงค์ค่อยๆ เผยแพร่ในสยามประเทศ เนื่องมาจากขอมเคยมีอิทธิพลอยู่ในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งไทยเราก็รับคติดังกล่าวมาประยุกต์ดัดแปลงและกำหนดเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้น

    มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดความเชื่อของฮินดูจึงเข้ามาผูกพันกับพุทธศาสนา โดยเฉพาะในกรณีของปลัดขิก สาเหตุก็คือพุทธศาสนานั้นได้ปรับเปลี่ยนและดัดแปลงเอาความเชื่อดั้งเดิมในวิถีชีวิตมนุษย์ตลอดจนความศรัทธาอื่นๆ เข้ามาด้วยกัน เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงรากเหง้าดั้งเดิม ตลอดจนเป็นกุศโลบายในการเผยแพร่ศรัทธาที่ไม่ขัดแย้งกับความเชื่ออื่นๆ เช่น

    ประเพณีบุญบั้งไฟของชาวอีสาน เพื่อเป็นการบูชาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เหมือนกับการแห่นางแมวของคนภาคกลาง

    สองพิธีกรรมที่อยู่คนละภาคนี้ มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของสัญลักษณ์ที่ใช้ส่อไปทางเพศสัมพันธ์ เช่น การใช้ไม้มาแกะสลักเป็นอวัยวะเพศชาย เรียกว่า "บักแบ้น" หรือ "ปลัดขิก" ในอีสาน หรือ "ขุนเพ็ด"

    ประเพณีแห่ผีตาโขน ของชาว อ.ด่านซ้าย จ.เลย ผีทุกตัวจะถืออาวุธในมือ ซึ่งทำด้วยทางมะพร้าว โดยทำด้ามเป็นลักษณะเหมือนปลัดขิก นอกจากนี้แล้ว ปลัดขิกยังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องรางป้องกันอาถรรพณ์อีกหลายอย่าง เช่น ในช่วง ๔-๕ ปี ที่ผ่านมา ชาวบ้านร้อยเอ็ด กลัว ผีแม่ม่าย จะมาเอาชีวิต ผู้ชายในหมู่บ้านจึงแก้เคล็ดด้วยการ ทำปลัดขิกขนาดใหญ่ ติดหน้าบ้านของผู้ชายที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร "ส" และ "ย" อันเป็นเป้าหมายของผีแม่ม่าย

    ส่วนการนำปลัดขิกมาใช้เป็นเครื่องรางสำหรับพกพาติดตัวนั้น จากหลักฐานที่ปรากฏ จะพบว่า ปลัดขิกยุคเริ่มแรก สร้างจากแก่นไม้ที่มีสรรพคุณทางรักษา และป้องกันโรค เช่น แก่นของต้นคูณ ซึ่งมีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า "CASSIAFISTULA, LINN" ผู้คนพกพาติดตัวเดินทางไกล เมื่อจะกินน้ำตามห้วยหนองคลองบึงต่างๆ ก็จะใช้ปลัดขิกฝนผสมเข้าไป เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในน้ำ

    ต่อมาเมื่อกิตติศัพท์ทางแคล้วคลาดรอดพ้นจากโรคภัยและอันตรายต่างๆ ขจรขจายออกไป ก็เกิดความนิยมในการเสาะแสวงหา บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่างๆ จึงพากันจัดสร้างปลัดขิกตามตำรับของตน จนเป็นที่แพร่หลายในเวลาต่อมา

    เมื่อพระเกจิอาจารย์เริ่มสร้างปลัดขิก ท่านก็รวบรวมเอาความรู้ต่างๆ ดำเนินการปลุกเสก และจัดสร้าง มีการเลือกไม้หรือวัสดุอันเป็นมงคลตลอด จนจดจารพระคาถา เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นใจให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นอานุภาพของปลัดขิกจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงการรักษาป้องกันโรคแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ได้กลายสภาพเป็นเครื่องรางของขลัง (Charm and Talismans) โดยมีความเชื่อว่ามีอานุภาพทางด้านป้องกันอันตราย มีเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ การทำมาค้าขาย หรืออื่นๆ อีกด้วย

    ในความเป็นจริงแล้ว ปลัดขิกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของเพศชายมาแต่โบราณ ปลัดขิกดอกน้อยๆ จะถูกผูกไว้ที่สะเอวของเด็กเพศชาย ซึ่งนอกจากความเชื่อในด้านป้องกันอันตรายแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่บ่งชี้ในเรื่องเพศอย่างเด่นชัด

    อย่างไรก็ตาม มีผู้คนสงสัยมากมาย ถึงชื่อและความหมายของ "ปลัดขิก" บางคนก็ถามแบบยั่วโทสะว่า ทำไมไม่เรียก "นายอำเภอขิก" หรือ "ผู้ว่าขิก" บางท่านสันนิษฐานว่า คนแขวนคนแรกคงเป็นปลัดขิก ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการพ้องเสียงมาจากคำว่า "ปราศวะ" ในภาษาสันสกฤษ ซึ่งแปลว่า "เคียงข้าง" ในขณะที่ภาษาไทยเราจะเรียกผู้อยู่เคียงข้างนายอำเภอว่า "ปลัดอำเภอ" ผู้อยู่เคียงข้างผู้ว่าราชการจังหวัดว่า "ปลัดจังหวัด"

    เหตุที่ให้ความหมายว่าเคียงข้าง หรือผู้อยู่เคียงข้าง เนื่องจากเวลาแขวนปลัดขิกนั้น ผู้ใช้ไม่ได้คล้องคอ หากแต่ผูกอยู่ที่สะเอว หรือบริเวณสีข้าง เรียกว่าไปไหนไปด้วยกัน และสมัยก่อนก็นิยมแขวนให้ห้อยออกมานอกร่มผ้า เมื่อสาวแก่แม่ม่ายเห็นรูปอวัยวะเพศชายห้อยออกมา ก็พากันหัวเราะหัวใคร่ "คิกคิกคักคัก" กันเป็นที่สนุกสนาน ผู้คนก็เลยเรียกกันว่า "ปลัดคิก" ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น "ปลัดขิก" ในปัจจุบัน

    โบราณาจารย์ในสยามประเทศ นิยมสร้างเครื่องรางชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย บ้างก็ลงอักขระเลขยันต์ เช่น อะ อุ มะ หรือ โอม อันเป็นการสรรเสริญ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ในศาสนาฮินดู บ้างก็จารจารึกอักขระอื่นๆ พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทางด้านการสร้างปลัดขิกก็คือ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นต้น

    ปัจจุบันแม้โลกจะเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ผู้คนก็ยังนิยมบูชาเครื่องรางที่เรียกว่า "ปลัดขิก" กันอย่างแพร่หลาย ตามกระเป๋าพ่อค้าแม่ขายจะใส่ปลัดขิกดอกน้อยไว้เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น บางคนก็ตั้งไว้หน้าร้าน ปิดทองอย่างสวยงาม

    นัยได้ว่า "ปลัดขิก" กลับแหวกกระแสของความเจริญเข้ามาอยู่ในความศรัทธาของสังคมไทย และก้าวไปพร้อมความเจริญ โดยมิได้ตกยุคตกสมัยแต่อย่างไร
    :cool::cool::cool:
     
  7. pramjung

    pramjung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +44
    ครับผมโอนเงินให้แล้วครับคุณรุ่ง
    3000+100 ค่าจัดส่ง เต็มจำนวน
    โอน วันที่ 4/7/14 เวลา 7:00
     
  8. A'Ta

    A'Ta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2012
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +1,926
    สวัสดีค่ะ ลำดับที่ 20
    โอนปัจจัยรอบแรกแล้วค่ะ วันนี้ (4 กค 57). เวลา 9.05 น.
    ธนาคารไทยพาณิชย์ ยอดโอน 10,000 บาท
    โมทนา สาธุ สาธุ...ขอบคุณค่ะ
     
  9. หนูใหญ่

    หนูใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +338
    หนูใหญ่ลำดับที่ 69 โอนเงินให้แล้วครับ เป็นค่าบูชา พระปิดตา 900 บาท ค่าส่ง 100 บาท รวม 1,000 บาท เวลา 9.16 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2557
    ที่อยู่ จะแจ้งทาง pm ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      132 KB
      เปิดดู:
      51
  10. Lue_b18

    Lue_b18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,080
    ขออนุญาต ยกเลิกการจองพระผงเนื้อพิเศษไม่มีตะกรุด 5 องค์ ขอเปลี่ยนเป็น พระปิดตาเนื้อผงรวม 5 องค์ รวมกับของเดิมเป็น 13 องค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2014
  11. mrdon

    mrdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +2,499
    ยอด11300.-เลือกไปแล้ว1รายการ ขอเลือกเพิ่ม พระปิดตาองค์ฝังตะกรุด หรือฝังหินพระธาตุครับ ขอบคุณครับ:cool:
     
  12. volcano

    volcano เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +1,197
    ลำดับที่64 วันที่ 4/7/14 เวลา 10:38 น.จำนวน 560บาทครับ ที่อยู่แจ้งทาง pm. ขอบคุณครับ
     
  13. นิคอนแมน

    นิคอนแมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +231
    ลำดับที่ 43

    แจ้งการโอนเงิน จำนวน 1,060 บาท
    รายละเอียดการโอน
    ............................................................
    วันที่ทำรายการ : 04/07/2014 10:51:11 AM.
    หมายเลขอ้างอิง : KBKR140704956732163
    โอนเงินจากบัญชี : xxx-x-28484-7
    ธนาคารของบัญชีผู้รับโอน : SIAM COMMERCIAL BANK
    เพื่อเข้าบัญชี : 404-0-84158-3 พระสมบูรณ์ ทิพาเสถียร
    ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล : SOMBUN THIPPH
    จำนวนเงิน (บาท) : 1060.0
    ค่าธรรมเนียม (บาท) : 25.0
    บันทึกช่วยจำ : รุ่น พิเศษ ชุด ๒
    ............................................................


    พร้อมส่ง sms เข้ามือถือแล้ว

    รอบนี้ช่วยจัดส่งมาที่
    ศราวุฒิ สมบูรณ์ผล
    ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค6
    65 ถ.วังจันทน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000

    ขอบคุณครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2014
  14. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    สวัสดีครับ คุณรุ่ง
    แจ้งสถานะการโอนเงินงวดแรก 2000.- บาทเข้าบัญชี พระเสถียร เช้าวันนี้เวลา 10:03 น.
    ลำดับที่ 34 ในตาราง
    ขอบคุณครับ
     
  15. Lue_b18

    Lue_b18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,080
    แจ้งการโอนเงิน
    วันที่ 04/07/14 เวลา 12:06 น.
    จำนวนเงิน 10,900 บาท + ค่าจัดส่ง
     
  16. maxico

    maxico เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    384
    ค่าพลัง:
    +2,938
    ลำดับที่ 68
    แจ้งโอนเงิน 4/7/2014 เป็นเงิน 3,550 บาท สำหรับพระปิดตาเนื้อเหล็กไหลปรอทชมพูนุช 1 องค์
    ขอร่วมบุญช่วยสร้างโบสถ์พุทธโมกข์ครับ ที่อยู่จะ PM ให้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. maxico

    maxico เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    384
    ค่าพลัง:
    +2,938
    สอบถามครับพระอาจารย์ ปรอทชมพูนุช นี่ได้มาจากที่ไหนหรือครับ
    ขอบคุณครับ
     
  18. ใจ พเนจร

    ใจ พเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ลำดับ 24 กิตติภพ โพสต์ที่ 202
    จากรายการร่วมบุญ ตะกรุด พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ 1 ดอก
    พระปิดตาเพชรกลับ มหาสะท้อน ลาภผลพูลทวี เนื้อผงรวมมวลสารผสมแร่กายสิทธิ์ 1 องค์ รวมค่าจัดส่ง

    โอนให้แล้วครั๊บ ที่อยู่ส่งทาง pm ครั๊บ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8379.jpg
      8379.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.4 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2014
  19. flowco

    flowco เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +789
    โอนแล้วครับลำดับที่51
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,379
    ค่าพลัง:
    +13,255
    ลำดับที่ 48 โอนเงินงวดแรก 3,000 บาท วันนี้ 04/07/14 เวลา 18.03 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1410507p.JPG
      P1410507p.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      38
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...