การฝึกกสิน พอดีได้คำเเนะนำมา..

: bat: พอดีว่าเมื่อวานที่ผ่านมาผมไปสำนักสงฆ์เเห่งหนึ่งได้คำเเนะนำการทำกสินมา
จากหลวงพ่อท่านหนึ่ง..ยังไม่จำเป็นต้องเชื่อนะครับเเค่อยากเเนะนำ ผมจะขอ
สรุปเท่าที่พอเข้าใจ เพื่อบางคนจะใช้ประโยชน์ได้ครับ
สงสัยมั้ยทำไมฝึกกสินกันไม่ก้าวหน้าซักที..เเม้เเต่พระที่บวชเพ่งเอาๆก็ยังไม่
ได้ ที่ฝึกกันเป็นปีก็ยังไม่ได้ ลองฝึกเเบบนี้ดูนะครับ
เเยกใจกับสมาธิออกจากกันก่อน กรองสมาธิเอาใจออกไป
- ใจมันคือคิดอะไรไปเรื่อยจิตไม่สงบ
- จะได้เหลือสมาธิอย่างเดียว
การฝึกก็คือ : นึก ภาพกสินที่ต้องการฝึก ครั้งเเรกนึกให้ได้ซัก5นาที เเล้วก็ให้
มันนานกว่านั้นขึ้นเรื่อยๆ นึกจนมันเป็น นิมิต เลย ภาพมันไม่ชัดไม่ใช่เรื่อง
เเปลกต้องรอให้มันถึงปิติก่อน..มันถึงจะชัดเจนได้
ที่สำคัญ : อย่าลืมว่าการฝึกกสิน ขณะที่ยังจำภาพไม่ค่อยยังเเค่วิตก วิจาร
ถ้าเราละความพยายามตั้งเเต่วิตกวิจาร ชาตินี้ก็ฝึกไม่ได้ ไปไหนต้องนึกถึง
กสินตลอด เเละเวลาสวดมนต์ให้นึกถึงตัวหนังสือตามไปด้วยจะได้คุ้นๆ
: bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat: : bat:
ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนะครับ ตรงกรองสมาธิน่ะ หลวงพ่อท่านว่าผมปัญญา
ช้าเลยยังไม่ฝึกให้กลัวจะเพี้ยนขนาดฟังท่านพูดยังตามไม่ค่อยทันเลย
ถ้าปีหน้ายังชอบการฝึกกสินอยู่ท่านถึงจะยอมฝึกให้
ท่านบอกว่าฝึกคืนเดียวเเหล่ะก็จำภาพกสินได้เเล้วเเต่ต้องกรองสมาธิก่อน
จะฝึกได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นนิมิตอะไรก็จำได้ ใครฝึกกสินไม่สำเร็จซักที
ลองเปลี่ยนมาฝึกวิธีนี้ดูนะครับเเต่อย่าลืมกรองสมาธิก่อน
การฝึกกสินต้องมีครูนะครับถึงจะดี บางคนฝึกกสินใช้ฤทธิ์ได้ครั้งเดียว
กสินเเท้ง สติเเตกเลย เพราะเครียดจัด ต้องมีศีล เเละเคารพพ่อเเม่ครูอาจารด้วย
ปล. การกรองสมาธิคืออะไรผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ท่านใดทราบโปรดชี้เเนะด้วยครับ

 

แยกกายกับจิต ก็คือ การไม่สนในร่างกาย หรือ ให้ไปสนที่จิตแทน..แบบนี้ก็เรียกว่าการตัดกังวลครับ โมทนาสาธุการในข้อธรรมที่ช่วยบอกกล่าว

...กสิณนี้เน้น ภาพในจิตครับ...ใช้อารมณ์นึกก่อน พอนึกไปนานๆ แล้วจะไม่ใช่อารมณ์นึกครับ จะเป็นอารมณ์รู้ในนิมิตแทน...แรกๆอาจจะตรวจสอบอุปาทานกันบ่อยหน่อย

 

ขอบคุณครับที่อุตส่าห์เอามาบอก

 

รบกวนคุณ GoonS ช่วยบอกด้วยได้มั้ยคับว่า เป็นสำนักสงฆ์ที่ไหน เพราะผมก็อยากได้พระอาจารย์แนะนำเช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมฝึกกสิณสีขาวอยู่คับ

 

สำนักสงฆ์หลวงปู่เจ้าเขาเขียว เข้า วิทยาลัยเกษตรเเละเทคโนโลยีราชบุรีก่อนครับ จ. ก็ราชบุรี ลองถามๆคนเเถวนั้นดูก็รู้ครับ

 

ดีแล้วๆ บอกชื่อ วัดหรือสำนักเอาไว้ เราจะได้ไม่เข้าไป เพราะที่ว่า "กรองสมาธิ" น่ะ มันคือ "การตัดปลิโพธิ" หมายถึง การตัดความกังวลทั้งหมด ปลิโพธิ มี ๑๐ อย่างนะ ไปศึกษารายละเอียดกันเอาเอง ขี้เกียจพิมพ์...
พระดีน่ะ เค้าไม่มีวาจาร้ายกาจหรอก มันผิดวินัยสงฆ์
กลอุบาย การตัดปลิโพธิ น่ะมีหลายอย่าง เช่น ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านให้ตัดอารมณ์ต่างๆ แม้ตายในกรรมฐานก็ไม่หวั่น
บางที่ ให้ขึ้นด้วย อานาปาฯ แล้วต่อด้วย กายคตาฯ ตามติดด้วย มรณาฯ จึงเริ่มกำหนดใจเข้าสู่ กรรมฐานกองที่ต้องการฝึก เป็นต้น
บอกเอาไว้เล่นๆ น่ะ คนไม่รู้เค้าจะได้ไม่เดินวน เดินหลง ส่วนใครเค้าพอใจ ไม่พอใจอะไร แม้สิ่งที่เราบอกไว้ก็ ช่างล่ะ ขี้เกียจสนใจ เอาเป็นว่า ใครชอบใครชัง เราอโหสิฯ ไว้ล่วงหน้าเลย...
บาย....

 

พระดีน่ะ เค้าไม่มีวาจาร้ายกาจหรอก มันผิดวินัยสงฆ์ ไม่เปงไรครับ...
ท่านเป็นคนพูดตรงๆน่ะ ผมก็ไม่ได้คิดไรถือว่าเป็นนิสัย
ผมยังเคยอ่านเลยพระอรหันเเล้วยังพูดไม่สุภาพได้เลยเพราะมันเป็นนิสัยที่ติดมานาน

 

ต้องเพ่งให้ภาพกสิณติดตาตรึงใจเหมือนเวลาคุณคิดถึงแฟน หน้าแฟนก็จะโผล่มาแล้วทำให้เกิดความสุขและปิติ แต่แทนที่จะเป็นหน้าแฟนในนิมิตก็เปลี่ยนเป็นภาพกสิณแทน

 

ขอบคุณครับ
คุณuserx บอกให้นึกถึงหน้าเเฟนเเต่ถ้าไม่มีล่ะ...อยากมีจัง
ไม่คิดถึงคนมะมีบ้างเลยเหอๆ

 

เอ้า พวกเดียวกันน

 

เอาตามแบบที่ผมเข้าใจนะครับ กรองสมาธิ ก็คือ ทำสมาธินั่นแหละครับ แต่เราทำสมาธิให้ละเอียดจนถึงขั้นสงบก่อน แล้วค่อยน้อมกสินมา แล้วถามว่าทำอย่างไร ขอแนะนำ อานาปานสติ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เข้ารู้ ออกรู้ จะนับกำกับไปด้วยก็ได้ จนคิดว่าสงบแล้ว ก็ค่อยน้อมกสินมา
ปล. ที่สำคัญ ต้องมีศีลเป็นปรกติก่อน

 

วันนี้ผมไปสำนักสงฆ์ที่คุณ GoonS ว่าแล้วล่ะ ท่านให้คำแนะนำมาเป็นกระบุงโกยเลยทีเดียว ยิงคำพูดไปครั้งแรก "ผมมาขอฝึกกสิณครับ" หลวงพ่ออึ้งเล็กน้อยว่าทำไมถึงมาให้สอนกสิณ แล้วหลวงพ่อก็เล่าอะไรให้ฟังตั้งมากมาย รวมทั้งสอน แนะนำเคล็ดปฏิบัติมาอีกเยอะ ได้ข้อคิดมาใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย สมกับที่อุตส่าห์บากบั่นไปถึงที่นั่นจนได้

ขอบคุณ คุณ GoonS ที่แนะนำนะครับ

อ่อๆ ผมรู้แล้วล่ะว่า กรองสมาธิ ที่คุณ GoonS บอกนั่น หมายถึงอะไร ถึงแม้หลวงพ่อจะไม่ได้พูดเรื่องการกรองสมาธิ แต่ที่ท่านสอนก็ทำนองเดียวกันครับ

ตอนถามคนแถวนั้นว่าวัดเข้าทางไหน ยายแกก็บอกนะ แถมต่อท้ายว่า จะมาขอหวยหรือหนู ยายก็ไปขอมา ก็ถูกสองตัวนี่แหละ ผมก็ยิ้มๆ [แหะๆ ในใจพูดว่า ไม่ได้มาขอหวยสักกะหน่อย] ยายแกบอกว่า หลวงพ่อพูดไม่ค่อยเพราะ

หลวงพ่อพูด มึง กู นะ แต่ตอนที่ผมไปพูดน้อยมาก มักเรียกแทนตัวเองว่า พ่อ เรียก ผมว่า ไอ่หนู ฮ่าๆ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย

สรุปคือสนทนากับท่านนานมาก ได้ความรู้เพียบเลย ยังไงก็อยากบอกทุกท่านว่า พระดีๆ เก่งๆยังมีอีกเยอะนะครับ รีบไปหาท่านเพื่อเรียนธรรมกับท่านนะครับ

 

กรองทราย คือ การแยกทรายที่หยาบออกไป เหลือแต่ทรายที่ละเอียด
กรองสมาธิ คือ กรองจิตที่หยาบออกไป เหลือแต่จิตที่ละเอียด
ถูกไหมหว่า ? ว่ากันตามตัวอักษรนะ เจ้าของกระทู้เก่งใช้คำว่า ก-ร-อ-ง สงสัยหลวงพ่อพูด ร เรือ ชัดเจน

การเพ่งกสิณ เราต้องจำสิ่งที่จะนำมาเป็นนิมิต(เครื่องหมาย) ให้ได้ก่อน แล้วจึงเอานิมิตนั้นมาทำให้จำติดตาจนมั่นคง เป็น อุคคห...ปฏิภาค...ตามลำดับ การตั้งใจเพ่งสังเกตดู ถ้าตั้งใจมากเกินไป หรือจิตอ่อนล้าไป มักจำไม่ค่อยได้ บางทีมองผ่านเฉย ๆ กลับจำได้แม่น นั่นคือ ตั้งใจมาก หรือตั้งใจน้อย ไม่กลาง ๆ ก็ไม่ตรงเป้าหมาย

ตอนนั่งสมาธิ เมื่อจิตตั้งมั่นดีแล้ว จะคิดถึงใคร ภาพคนนั้นจะชัดเจน แจ่มใสมาก เหมือนกับที่เราคิดเป็นเรื่อง เป็นราว เรื่อยไปในเรื่องอดีต อนาคต หรือคิดเอาเอง เมื่อมองไปในจิตที่เป็นสมาธิ มันก็เห็นชัดเจนแจ่มใส ทำให้เราคิดว่าสิ่งที่เราเห็นเป็นเรื่องจริงได้ คือ เห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่จริง ...เป็นเพียงคาดคะเนนะ

นั่นคือการที่สมาธิกรองจิตหยาบออกไป เหลือจิตที่ละเอียดแล้ว จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิจะคิด- เห็น ได้แจ่มชัดมากกว่าจิตที่ยังไม่ได้กรอง ดังกล่าว นี่เป็นเหตุผลที่แสดงออกทางความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้น จะมีความคิดเห็นอื่นที่แย้งไปจากนี้....ย่อมได้.

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=114176
ขี้เกียจตั้งหลายรอบ - -ลอบอ่านกันดู
ขี้เกียจบอกเทคนิค เข้าใจกันเอง จะง่ายที่สุด

 

ถ้าฝึกกสินไฟ แล้วกลับใจเย็นเพราะเมื่อก่อนใจร้อนจะพอเป็นไปได้ไหมครับ หรือต้องฝึกสมาธิหรือ อะไรบางอย่างช่วยด้วย

ขอบคุณนะครับ

 

วัดยานนาวา เคยไปกันมั๊ยครับ ส่วนใหญ่จะฝึกวรรณกสิณ
ลองดูที่ http://www.kasina.org/ ก่อนพลางๆนะครับ

 

การฝึกสมาธิไม่ว่าจะกองไหน ถ้าจิตเกาะกุศลมากๆ ใจจะเย็นเองค่ะ
อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว ตัวเองตอนนี้แม้จะฝึกไม่ถึงไหน แต่นึกถึงพระบ่อยๆ

รู้สึกว่า ใจเย็นลงเยอะค่ะ หรือถ้าโทสะจริตมากๆ ก็ฝึกพวก วรรณะกสินค่ะ
กสินสีต่างๆ ขาว เหลือง แดง เขียว พวกนี้จะช่วยได้

หรือว่าจะฝึกพรหมวิหาร 4 จะช่วยเรื่องโทสะได้เยอะค่ะ โดยเฉพาะเมตตา