เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    คอมผมเริ่มเข้าที่น่ะครับ น่าจะมีโอกาศพิมพ์ข้อความถนัดขึ้น ยังงๆกับ คีย์บอร์ด รุ่นนี้อยู่ครับ
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    คิดถึงหลวงพ่อมากทีเดียว ท่านพึ่งช่วยผม เรื่องด้านลาภ ก้อนใหญ่ ไม่สามารถเล่าได้ในสาธารณะ แต่ ท่านผู้เฒ่าเหรียญบินท่านนี้ ท่านอยากให้ลูกศิษย์ ของท่าน รวยทุกคนครับ
     
  3. ครรชิต วิมลจันทร์

    ครรชิต วิมลจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +2,865
    [​IMG]
    กราบ...กราบ....กราบ....หลวงปู่บุญศรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pzgNhH.jpg
      pzgNhH.jpg
      ขนาดไฟล์:
      288.8 KB
      เปิดดู:
      529
  4. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
     
  5. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    รักในหลวงครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    [​IMG][​IMG]
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    [​IMG][​IMG]

    แต่ในช่วงปี 2554- ปัจจุบัน พระอริยะเจ้า และพระอริยะบุคคล ได้ทำพิธีแก้กรรม พิธีขอขมากรรม ทำพิธีต่อรอง ต่อเจ้าหนี้ เจ้ากรรมนายเวร ได้บางส่วน จากที่จะต้องเสียหาย ล้มหายตายจาก จำนวนมาก ก็เหลือเพียงบางส่วน คืออยู่รอดเป็นส่วนใหญ่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็สอนเอาไว้ว่า อนาคต นั้น เปลี่ยนแปลงได้ ถ้าทกอย่างถูกวิธี อย่างเช่นดัวอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเองก็หมดอายุขัย หลายครั้ง แต่หลวงพ่อปาน ท่านก็เปลี่ยนแปลง อนาคตให้ หลายครั้ง ทั้งนี้ ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับบุญกุศลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และบุญบารมีของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ประกอบเข้าด้วยกัน
     
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ "อนาคต เปลี่ยนแปลงได้ กรรมแก้ไขได้"

    เทศนาพิเศษ หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

    วันนี้อาตมาขอเทศน์เรื่องพิเศษสักเรื่องหนึ่งให้ทราบ
    เพราะว่าฟังเทศน์วันนี้จากอาตมาภาพ ก็ไม่แน่ใจว่า
    บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายจะได้ฟังเทศน์จากอาตมา
    ต่อไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะปี ๒๕๒๓ ปีนั้นต้องตาย
    ไปประมาณ ๒-๓ ชั่วโมง ความจริงอายุขัยอาตมา
    มีอายุเพียงแค่ ๒๗ ปี

    ตอนนั้นสมัยหลวงพ่อปานอยู่ เขาเชิญนิมนต์พระศรีอาริย์
    ไปไว้วัดบางนมโค พระศรีอาริย์เขาต้องยกตั้ง ๘ คน
    ตอนดึกตี ๒ หลวงพ่อปานท่านมานั่งอยู่หน้าพระศรีอาริย์
    ให้ตาเชิดที่เป็นลูกศิษย์ไปเรียกอาตมามาจากที่นอน
    พอดีเป็นเวลาที่อาตมาตื่นมาเพื่อเจริญพระกรรมฐาน
    ก็ลงมาหาท่าน ท่านรออยู่องค์เดียว และก็บอกว่า
    "เอายังงี้ก็แล้วกันนะ ที่ฉันเรียกเธอมาวันนี้
    ฉันต้องการอยากให้เธอรู้ว่าเธอต้องตายในปีไหน"

    ก็ลองยกพระศรีอาริย์ดู ยกไปปีที่ ๑ปีที่ ๒ ปีที่ ๓
    ปีที่ ๔ ปีที่ ๕ มันก็ยกไม่ขึ้น พอถึงปีที่ ๒๗
    หมายถึงอายุ ๒๗ ปี ยกขึ้นเบามาก ท่านบอกว่า
    "อายุขัยของแกมีแค่ ๒๗ ปี ขอให้ต่ออายุเสีย" อาตมาเวลานั้นเจริญพระกรรมฐาน ทรงณาน
    สำหรับวิปัสสาณานยังอ่อนอยู่ แต่ณานน่ะหนักแน่นมาก
    โดยเฉพาะเรื่องพรหมเป็นที่อยู่ของเราทุกวันที่เวลาเราจะนอน ตั้งใจอธิฐานจิตเสร็จก็ขึ้นไปนอนบนพรหม ถึงเวลาก็ลงมา

    ก็คิดว่าท่าเกิดเป็นพรหมได้ก็เป็นที่พอใจของเราแล้ว
    เราไม่ตกนรกก็เลยบอกท่านว่าผมไม่ต่อ ถ้าผมจะตาย
    อายุ ๒๗ ปี ผมจะชอบใจมาก การเป็นมนุษย์เป็นภาระหนัก ท่านบอกว่า "ควรอยู่ต่อไป ขอให้ต่ออายุ" อาตมาก็ไม่ต่อ

    ในฐานะที่อาจารย์ย่อมมีความสามารถ มีความรู้ดีกว่าลูกศิษย์
    มีความฉลาดกว่า วันรุ่งขึ้นอีก ๒ วัน ท่านไปซื้อปลามากาละมังใหญ่หลายสิบตัว แล้วให้พระไปตามอาตมามาบอก
    "วันนี้แกว่างๆช่วยเอาปลาไปเทน้ำทีซิวะ"
    พอเอาปลาไปเทที่แม่น้ำเสร็จ กลับมาหาท่าน
    กราบท่าน ท่านบอก "ข้าต่ออายุแกแล้ว"
    เสียท่าอาจารย์ ก็ถามว่า "หลวงพ่อครับ
    ผมจะอยู่ได้อีกกี่ปี" ท่านบอก
    "แกก็อยู่ไปจนกว่าจะตายก็แล้วกัน"
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เทพกำลังแผ่นดินแห่งจักรีวงศ์ ...ทรงพระเจริญ
     
  10. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ:วิธีต่ออายุอย่างง่ายๆ (1)

    การต่ออายุก็ต้องทำให้มันถูก ถ้าทำไม่ถูกแล้วก็เสียเงินเปล่า
    ถ้าบังเอิญเป็น อายุขัยต่อเท่าไรไม่สำเร็จผล เพราะเชื้อไฟเดิมดับ
    หมดบุญบารมีที่ทำมา การหมดบุญบารมีนั้นแม้อายุขัยก็ไม่แน่
    บางคนเป็นเด็กก็หมดอายุขัย บางคนก็เป็นหนุ่ม เป็นสาว
    บางคนวัยกลางคน บางคนก็ถึงวัยแก่ อายุขัยนี่ไม่แน่นอนนัก

    คำว่า อายุขัย นี่หมายความว่าก่อนที่จะเกิด กฎของกรรมดีหรือกรรมชั่ว
    กำหนดชีวิตให้มาเท่าไรถ้ากำหนดชีวิตมา ๒๐ ปี ก็ต้องแค่ ๒๐ ปี
    ๑๐ ปีก็ต้อง ๑๐ ปี ๓ วัน ก็ต้องแค่ ๓ วัน นี่เป็นอายุขัยต่อไม่ได้
    ถ้าตายก่อนนั้นเขาเรียกว่า "อุปฆาตกกรรม" หรือว่า "อกาลมรณะ"
    อย่างนี้ต่อได้ และถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายจะต่ออายุแบบนี้
    ก็ต่อเสียทุกวันก็หมดเรื่องกัน

    วิธีต่อทุกวัน ก็หมายความว่า ให้ทุกท่านมีความเคารพในพระรัตนตรัย
    คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ อย่างจริงจัง
    และก็ต้องเว้นจากกรรมที่ เป็น ปาณาติบาต และถ้ามีเวลาเดินผ่านไป
    มีใครเขาหาปลาหาเต่า ที่เขาจะฆ่ามันให้ตายก็ออกสตางค์ซื้อ
    พอกำลังที่เราจะซื้อได้ แล้วก็นำไปปล่อยในที่ปลอดภัย
    ไม่ใช่ปล่อยในหม้อข้าวหม้อแกงของเรานะ
    ไปปล่อยในสถานที่ ๆ เธอจะมีความสุขในแม่น้ำก็ได้
    หนอง คลอง บึงก็ได้ปล่อยให้เธอรอดชีวิต
     
  11. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ:วิธีต่ออายุอย่างง่ายๆ (2)

    ตามวิธีโบราณาจารย์ท่านสอนไว้อย่างนี้นะว่า

    วิธีต่ออายุใหญ่ คือถึงปีหนึ่งถ้าเป็นวันเกิด หรือเป็นวันสำคัญของเรา
    วันไหนก็ได้ทำกับข้าว ทำอาหารพิเศษตามที่เราพอใจ เท่าที่ทุนจะพึงมี
    จัดการใส่บาตรแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แล้วก็ถ้าหากว่ามีสตางค์
    ก็สร้างพระพุทธรูปสัก ๑ องค์

    พระพุทธรูปนี่จะเป็นพระดินเหนียวก็ได้ เป็นพระปูนซีเมนต์ก็ได้
    เป็นปูนปลาสเตอร์ก็ได้ หรือพระโลหะก็ได้ไม่จำกัด เพราะเป็นรูปพระแล้ว
    มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ต้องมีหน้าตักไม่น้อยกว่า ๔ นิ้ว
    ถวายไว้เป็นสมบัติของสงฆ์

    หลังจากนั้นก็เอาสัตว์ที่จะพึงถูกฆ่าตาย อย่างที่เขานำเอามาขายเพื่อแกง
    หรือที่เขาทอดแหสุ่มปลาได้ ถ้ามีสตางค์ก็ไปซื้อเขาสักตัว ๒ ตัว
    ตามกำลัง แล้วปล่อยไป และก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
    และเทวดาผู้รักษาชีวิต ท่านบอกว่าถ้าทำอย่างนี้เป็นนิจ
    คำว่า อุปฆาตกกรรม คือกรรมที่เข้ามาริดรอนก่อนอายุขัยก็ดี
    และ อกาลมรณะ การที่จะตายก่อนอายุขัยก็ดี จะไม่มีสำหรับผู้ที่ทำแบบนี้
    แต่ทว่าถ้ากรรมอย่างนี้เข้ามาถึงแค่ป่วยไม่มากก็เป็นของธรรมดา

    เรื่องการต่ออายุนี่ มีในพระพุทธศาสนา

    แต่ว่าวิธีการต่ออายุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ถ้าเดี๋ยวนี้ที่ทำกันก็จ่ายหนักอยู่เหมือนกันนะ เอาพระไปสวดตั้ง ๗ วันนี่
    เสียทั้งข้าว ทั้งน้ำ นี่บางทีก็ต้องจ่ายสตางค์ด้วย แย่เหมือนกันนะ
    พระเองก็จะทนไม่ไหว ก็เลยใช้สายสิญจน์ก็แล้วกัน
    แต่ว่าสายสิญจน์ที่ทำกันนั้น ก็อย่าลืมพระรัตนตรัย
    แต่ทางที่ดีญาติโยมพุทธบริษัทถ้าจะทำอย่างนั้นนะ
    ถ้าคนป่วยจริง ๆ อย่าปล่อยให้ไม่มีความรู้สึก
    ตอนที่สติยังอยู่ดี ๆ อยู่ ให้นิมนต์พระไปสวดสักครั้งหนึ่ง
    แต่ไม่ใช่สวด อภิธรรม หากเป็นสวด พระปริตร
    วงสายสิญจน์ล้อมรอบ ถ้าผู้ป่วยจะต้องตายเพราะสิ้นอายุขัย
    ก็ต้องตายแน่ สายสิญจน์ป้องกันไม่ได้
     
  12. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ:วิธีต่ออายุอย่างง่ายๆ (3)

    แต่ว่าถ้าท่านผู้นั้นจะตาย อย่าลืมว่าคนป่วยก็เหมือนกับคนที่ตกน้ำ
    ว่ายน้ำไม่เป็นเราส่งอะไรให้เกาะเขาก็จะเกาะ ส่งไม้ให้เกาะเธอก็เกาะ
    ส่งสุนัขเน่าให้เกาะ เธอก็เกาะ เพราะต้องการทรงชีวิตอยู่ ก็เช่นกัน
    ถ้าคนป่วย เห็นพระสวด พระปริตร จิตของคนป่วยในตอนนั้น
    ได้รับสมาทานศีลก่อน เวลานั้นก็จะรับการสมาทานศีลอยู่ด้วย
    สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ทำให้เป็นคนที่มีศีลเวลาที่มีการสวด พระปริตร
    จิตก็จะฟังพระสวดด้วยความเคารพ จิตจะยึดอยู่กับพระหลังจากพระกลับแล้ว
    จิตจะจับอารมณ์นั้นตลอด เพราะในขณะป่วยไม่มีโอกาสทำลายศีลต่อไปอีก
    เพราะกำลังป่วยอยู่ก็ไม่สามารถที่จะไปฆ่าใคร หรือลักขโมยใคร
    ถือว่าเป็นคนป่วยที่มีศีลบริสุทธิ์

    ถ้ามีการถวายทานด้วย ไม่ว่าทานนั้นจะเป็น ธูป เทียน ดอกไม้
    หรือปัจจัยโภชนาหารก็ตามถือว่าเป็นการถวายทานแก่พระสงฆ์
    กำลังของทานจะช่วยคนป่วยได้อีกแรงหนึ่ง อีกประการหนึ่ง
    ด้านอนุสสติ ถ้ามีพระพุทธรูปด้วย จิตของเธอจะจับพระพุทธรูป
    เป็นพุทธานุสสติ จำเสียงสวดเป็น ธัมมานุสสติ การนึกถึงพระสงฆ์
    ไปสวดก็เป็น สังฆานุสสติ ถ้าเป็นอายุขัยที่จะพึงตาย
    บาปกรรมใด ๆ ที่ทำมาแล้วในกาลก่อนจะไม่มีโอกาสให้ผลในเวลานั้น
    เหลือแต่บุญอย่างเดียวที่จะประคับประคองคนนั้นไปสวรรค์
    ไปพรหมโลกหรือไปนิพพาน

    ที่ มา : http://www.mettajetovimuti.org/

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    บุญร่วมสร้างผอบทองคำใส่พระบรมสารีริกธาตุ

    ใบอนุโมทนาบัตร วัดหน้าต่างนอก.jpg

    บุญใหญ่อีกก้อนน่ะครับ ทำบุญสร้างผอบทองคำ ใส่พระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบรรจุในพระมหาเจดีย์

    20140130_151408.jpg

    พระอาจารย์แม้นโมทนายาว แล้วให้กรวดน้ำ ผมจำได้ไม่หมด จำได้ท่อนที่ว่า อย่ายาก อย่าอับจน.............. และให้บุญส่งกุศล ได้ถึงมรรคผลนิพพาน

    ถึงตอนนี้ผม โมทนาว่า นิพานะ ปัจจะโยโหตุ บุญที่พวกเราได้กระทำ ให้ ส่งผล ให้ อย่าอยากจน และ เป็น เหตุ เป็น ปัจจัยให้ได้ถึงมรรคผลนิพาน ทุกๆท่านด้วยเทอญ

    จากนั้น ท่านยถาสัพพี ผมกรวดน้ำตามสูตรของผมที่ทำมา

    บุญกุศลใด ( พวกท่านพี่น้อง นึกตามตามบุญกุศลของท่านที่ทำมา ) ที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาในอดีตชาติทุกทุกชาติ จะเป็นบุญกุศล ที่เกิด จากการให้ทาน การถือศีล การทำสมาธิภาวนา บุญทุกชิ้นอย่าได้ตกหล่น จงไหลมารวมกับบุญกุศลที่เราได้กระทำในบัดนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้

    ๑) ตัวข้าพเจ้าเอง อย่าได้เจ็บ ได้จน มีร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยร้ายแรงใดๆทั้งสิ้น สามารถเป็นเสบียงพระพุทธสานาได้อย่างเข็มแข็งตราบจนข้าพเจ้าสิ้นอายุขัย

    หมายเหตุ: ทำบุญใด ให้อุทิศให้ตัวเองก่อนเสมอ เพราะถ้าไม่ทำ ตัวเองยังเอาตัวเองไม่รอด จะไปช่วยใครได้ เหมือนเตี้ยอุ้มค่อม ตัวเองก็เตี้ย ยังไปช่วยอุ้มเขา ยิ่งค่อมลงไปใหญ๋

    ๒) อุทิศ มารดา บิดา ชาตินี้ .....เอ่ยชื่อ และ อดีตชาติทุกๆชาติ คุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ...เอ่ยชื่อ ท่านที่มาก่อน ในกรณีผม หลวงปุ่บุญศรี หลวงพ่อทรง... ทุกๆท่าน ท่านพญามัจจุราช แม่พระธรณี ( ขอท่านเป็นพยานให้เรา ) ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ อันมีท้าว ธตรฐ เป็นที่สุด ( เจ้าของแร่โคตรเศรษฐี ที่ช่วยเราด้านมหาโภคทรัพย์ ...อย่าลืม ) เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร แม่พิม ศรีมุก ศรีนิล โชคผ่านมา ( อุทิศอาหารทิพย์ให้กินจนอิ่มจะได้ขลังๆ ) ท่านเทพยดาทั้งหลายที่ได้สถิตย์คุ้มครอง ( สถานที่นี้ บ้านเรา และที่ทำงาน ) เทพดาประจำตน ( ห้ามลืม ) และ อุทิศให้บรรดา สรรพสัตว์ สัมถเวสี ( ในสถานที่นี้ บ้านเรา และที่ทำงาน ) ได้โปรดมาโมทนาในส่วนกุศลของข้ายเจ้าด้วยเทอญ

    หมายเหตุ : กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีพระคุณ กับเรา

    ๓) และเป็นที่สุด อุทิศให้แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรทุกๆท่าน ทั้งในอดีตชาติ ทุกชาติ ได้โปรดมาโมทนาในส่วนกุศลของข้าพเจ้า ตราบทุกท่านเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

    หมายเหตุ : กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ๓ ห้ามลืม จะได้ ช่วยให้ท่านเมตตา อโหสิ ...ไม่เจ็บ ไม่จน

    ตามนั้นครับ ผมทำทุกครั้งไม่มีทางลืม ทำจนคล่องกรวดน้ำที่ใด อุทิศระลึกไปตามสายน้ำที่รินลงขัน จิตสมาธิไปตามยถาสัพพี สติตามน้ำที่ไหล ของมันมีเกิด มีดับ แม้แต่น้ำที่ไหลริน

    ขอให้ท่านได้อานิสงค์ทุกๆคนพี่น้องบ้านเหรียญบินฯ ครับ

    20140130_145602.jpg

    รูป พระมหาเจดีย์ที่สร้าง เดี๋ยวว่าจะขอพระหลวงพ่อทวด จารย์ช้างสัก พัน สองพันองค์ไปบรรจุครับ ไปเปิดเอาออกมาบูชาใน สัก ๑๐๐ ปีข้างหน้า

    ช่างที่มาปั้นพระพุทธรูปมาจากทางเหนือและปั้นให้ฟรี พระพักตร์พระพุทธรูป จำลองแบบมาจาก พระประธานในศาลา ร้อยเมตรหรือสมเด็จองค์ปฐมนี่เอง ผมเลยกราบเรียนถามหน้าตักเพราะเห็นว่าใกล้สอง เมตร หรือ สี่ศอก ท่านบอกว่า สองเมตร ผมเลยกราบเรียนถามท่าน ว่า หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำท่านบอกไว้น่ะครับ ถ้าสร้างพระสี่ ศอก ใช้หนี้สงฆ์ ชำระหนี้สงฆ์ในอดีตชาติ ทุกๆชาติได้หมด

    พระอาจารย์แม้นว่าเหรอ ท่าทางสนใจ ผมเลยบอกว่า ถ้าปิดทองได้ทั้งคณะน่ะครับ หมายถึงเราด้วย แต่ท่านบอกจะทาสีขาว บอกปิดทองไม่ได้ ผมเลยบอกว่าทาสีทองสิครับ ท่านทำท่าสนใจ

    ถ้าพี่น้องที่ร่วมบุญกันในงานนี้ แต่พลาดการสร้างพระสี่ศอก ครั้งแรก และ สนใจในการร่วมสร้างพระสี่ศอกคราวนี้ ผมจะไปต่อรองกับท่านขอเป็นเจ้าภาพ ทาสีทองทั้งองค์ เราจะได้อานิสงค์ของการสร้างและ ปิดทองพระสี่ศอก ชำระหนี้สงฆ์อีกครั้ง ....สนใจไหมครั
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2014
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    กำลังงง ๆ รูป ตั้งดีแล้ว เอาไปลงดันเอียง ขอคำแนะนำหน่อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2014
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    20140130_172837.jpg

    จารย์ช้างเตือนไว้ ผมไปทั้งทีเลยๆไปที่วัดโพธิ์ทอง กลัวเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ไปถึงเย็น ดีไม่มีใครเลย เลยช่วยทำบุญบูชาวัตถุมงคลมา และเอาใส่พานไปขอท่านเป่าให้ ผมเลยถอดพระในคอใส่ลงในพานด้วย

    ท่านเป็นพระผิวพรรณ วรรณะ แววตา ดีมาก นอนนิ่งภาวนา ตอนที่ผมเข้าไป พระพี่เลี้ยงไปบอกท่านก็ลืมตามา เอื้อมมือมารับพาน

    ท่านเสกให้นานมาก ท่านนอนไปเสกไป เป่าไป มีที่น่าสังเกตุคือ

    ๑) ท่านหยิบ พระรูป สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ผม ใส่ไปเอาขึ้นมาดู เอาวาง และเสกต่อ เหรียญพระเจ้าตากสินนี้ื เสกมีพิธีพุทธาภิเศก และ เสกเดี่ยวโดยหลวงพ่อ เงิน วัดดอนยายหอม อีก ตามข่าว หลวงพ่อเงินเสกให้นานเป็นเดือนๆ นานมากกว่าจะเอามาให้คนบูชา เหรียญนี้ผมได้มาทันหลวงตา หลวงตาเสก ทันหลวงพ่อ ทรง เสกให้อีก หลวงพ่ออั้บเสกให้อีก เอาไว้ติดตัว ด้วยเหตุผลส่วนตัวตอนมีเหตุการณ์ไม่ดี

    ๒) ท่านหยิบ วัวธนู ที่ทำจากเขากระทิง ขึ้นมาดู เอาวางแล้ว เสกต่อ เสกไปสักระยะ ท่านหยิบ วัวธนู ตัวเดิมขึ้นมาดู อีกคราวนี้พิจารณานานทีเดียว พลิกซ้าย พลิกขวาดู พลิกกลับมาอีก อย่างพิจารณา สักระยะ แล้วเอาวางเสกต่อ วัวธนูตัวเดิม ท่านหยิบดูสองครั้ง ของที่ผมห้อยคอมีหลายอย่าง

    วัวธนูตัวนี้ทำขึ้นมาสองตัวจากปลายเขากระทิง ขอหลวงตามท่านลงให้ด้านคุ้มครองโดยเฉพาะ เขาเฮี้ยน ตามแนววัวกระทิงดุครับ ไม่รับแขก

    หลวงพ่อท่านเสกให้นานจนจุใจเรียกว่านั่งคุกเข่ารอ จนหัวเข่าชาจนลืม หลายสิบนาที คุ้มค่ามากครับ

    พอรับพานคืน ท่านมองหน้าแล้วยิ้มให้

    กราบๆ ๆ หลวงพ่อ สม วัดโพธิ์ทองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2014
  16. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,039
    ผิวพรรณ วรรณะ แววตา และบารมีแห่งพระอภิญญา จากประสบการณ์ ในการตามล่าพระอริยะเจ้า ท่านอยู่ในข่ายพระสุปฎิปันโน มีโอกาส ก็ไปกราบ ไปไหว้ ไปทำบุญในขณะที่ท่านยังไม่ละสังขาร ประเสริฐสุด
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    IMG_2583.JPG IMG_2584.JPG

    IMG_2587.JPG IMG_2588.JPG


    กระทิงแห่งคุ้งมัทรี

    กระทิงตาม บรรยาย ตัวนี้แกะจากปลายเขาวัวกระทิง หลวงตาลงให้ตามภาพ
     
  18. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982

    อนุโมทนาครับผม:cool::cool::cool:
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    RIMG0161.JPG RIMG0162.JPG


    รายการแนะนำของดี

    เผื่อไปเจอตามหิ้งแล้วไม่รู้จักน่ะครับ เหรียญ พระเจ้าตากสิน รุ่นเผด็จศึก ค่ายบางกุ้ง ๒๓๑๑

    ที่ระลึก สร้างค่ายบางกุ้ง ๒๕๑๑

    ชัยยะตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาศสันติ

    ถ้าไปเจอ เอามาติดตัวในกรณี ต้องการพระบารมีท่านมาคุ้มครองครับ
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ค่ายบางกุ้ง

    ที่ตั้ง

    ค่ายบางกุ้งตั้งอยู่ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองฝั่งตะวันตก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดสมุทรสงครามประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่บริเวณวัดบางกุ้ง มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่เศษ (ปัจจุบันวัดบางกุ้งมีเนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ 42 ตารางวา)

    ทิศเหนือ ติดคลองบ้านค่าย
    ทิศใต้ ติดคลองแควอ้อม
    ทิศตะวันตก ติดกับสวนมะพร้าว
    ทิศทิศตะวันออก ติดต่อกับแม่น้ำแม่กลอง

    ประวัติ

    สมัยพระเจ้าเอกทัศ

    ดูเพิ่มที่ การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง

    เดิมค่ายบางกุ้งเป็นค่ายทหารเรือในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ สมัยนั้น พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่า ให้เกณฑ์กองทัพเข้ารุกรานอาณาจักรอยุธยาทั้ง 2 ทาง ให้มังมหานรธาเป็นแม่ทัพยกเข้าตีทางทิศใต้ ยกเข้าตีเมืองมะริด เมืองตะนาวศรี เมืองหุยตองจา เมืองชุมพร เมืองกาญจนบุรี เมืองราชบุรี เพชรบุรี แล้วจึงยกกลับไปตั้งกองทัพต่อเรืออยู่ที่ดงรังหนองขาว เมืองกาญจนบุรี พระเจ้าเอกทัศทรงทราบข่าว โปรดให้เกณฑ์กองทัพออกต่อสู้ โดยกองทัพบกไปตั้งค่ายรับข้าศึกที่ตำบลตำหรุ เมืองราชบุรีแห่งหนึ่ง ให้กองทัพเรือยกมาตั้งค่ายอยู่ที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงครามแห่งหนึ่ง ให้พระยารัตนาธิเบศยกมาตั้งค่ายอยู่ที่เมืองธนบุรีอีกแห่งหนึ่ง

    ใน พ.ศ. 2308 ทัพมังมหานรธาก็ยกทัพเรือเข้ามาตีค่ายทหารเรือบางกุ้งแตก แล้วจึงยกไปตีเมืองธนบุรี เมืองนนทบุรีแตกอีก แล้วยกเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ด้านหนึ่ง จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 แล้วตั้งให้นายทองอินทร์ คนไทยที่จงรักภัคดีต่อพม่ารักษาเมืองธนบุรี และนายทองสุก นายกองคุมกองทัพพม่ารักษากรุงศรีอยุธยา ณ ค่ายโพธิ์สามต้น แล้วยกทัพหลวงกลับไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...