เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

โถ่ๆๆๆ แค่แย่นิดแย่หน่อย อย่าน้อยใจไปเลย หรือโกรธกันหว่า ขอโต๊ดดดดดดดก๊าบบบบบบบบบ โผมมมม จะไม่เป็นอีแอบที่แอบอ่านอย่างเดียวแล้วก๊าบบบบบบบบ หวังว่าคงให้อภัยกันนะ ผมนะพึ่งมาเห็นกระทู้ของคุณ ผมก็เคยโพสหน้าแรกไง ยังเห็นที่ตัวเองโพสไว้เลย T T

ขอโทษอีกครั้งละกัน แล้วคนอย่างผมเวลาขอโทษใครก็ออกมาจากใจด้วย ไม่ใช่ขอโทษให้มันแล้วๆ ไป (เชื่อโผมเต๊อะ)

 

ก็ไม่ได้ถือโทษอะไรครับ..หยอกเล่นไปงั้นไม่ต้องขอโทษกันดอก
โดยเฉพาะยิ่งมาขอโทษบ่อยๆด้วยนี่..ชักเริ่มไม่แน่ใจ

 

ก็จะว่าไปตามเรื่องล่ะครับ...เดี๋ยวเจอท่อนฮุกของเรื่อง
..สนุกแน่ (หรือเปล่าสำหรับใครบางคน?)

 

มาต่อเรื่อง.
...บทสนทนากับอาจารย์ฆราวาสธรรมผู้มีฤทธิ์รักษาโรค.. กันต่อดีกว่า


การรักษาการป่วยของอาจารย์ พ. ท่านจะพิจารณาแบบใช้ตาทิพย์เอ๊กซเรย์เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย ว่ามีจุดเสื่อมเสีย สภาพขาดสมดุลย์ของอวัยวะที่ส่วนใดบ้าง ตลอดจนอาการที่เกี่ยวข้องกัน ว่ามีสาเหตุความผิดปกติมาจากมูลเหตุใด โดยที่คนป่วยไม่ต้องเอ่ยปากออกมาซักแอะเดียว ท่านก็สามารถบอกถึงอาการเจ็บป่วยของคนไข้ ตลอดจนระยะเวลาที่ป่วยมาได้อย่างถูกต้องตรงเผง ตลอดจนรู้กรรมเวรคนป่วยว่าเคยไปกระทำบาปใดมา

ส่วนใหญ่จะหนักไปทางผิดศีลข้อ 1 ปาณา คือฆ่าสัตว์เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ท่านบอกมาแต่ละราย..รับรองว่าเถียงไม่ออก ดิ้นไม่หลุดกันเลยเชียว

ทั้งที่สาขาที่ท่านเรียนจบมา จะเกี่ยวกับสัตวบาล หมู หมา กาไก่ วัว ควายซะมากกว่า...

ทำไงได้ล่ะคนมันได้คุณธรรมวิเศษซะแล้ว... จบหรือไม่จบวุฒิศึกษานั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

การรักษาจะใช้พลังจิตส่งเข้าไปไล่เชื้อโรคที่ไม่ดีออกไป ส่งพลังงานดีเข้าไปรักษาอวัยวะส่วนที่เสื่อมให้ฟื้นคืนสภาพ พร้อมแนะนำการเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกำเริบของโรคอีกครั้ง ซึ่งก็ช่วยคนป่วยหนักๆให้รอดพ้นเงื้อมมือพญามัจจุราชมานักแล้ว

ในรายที่หนักหน่อย ท่านก็จะเจรจาต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรของคนป่วยให้ ว่าต้องการสิ่งใดต้องการสิ่งตอบแทนชดเชย ให้อโหสิกรรมบาปกรรมที่กระทำต่อกัน...

พร้อมต้องรับปากว่าจะปฏิบัติธรรม รักษาศีลทำบุญให้ด้วย ให้มาพักปฏิบัติธรรมที่บ้านของท่านก็ได้ (ออกจะใจดีมีเมตตาล้นเหลือ)

หากใครรับปากแล้วมีอาการดีขึ้น ไม่รักษาสัจจะแทบทุกราย มักตายเร็วกว่าเดิม...นี่โทษฐานของการขาดสัจจะ

แต่ท่านเน้นมากๆจากการสนทนานั้นท่านว่า...
ที่รักษาได้ยากลำบากคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งทารกของคนเป็นแม่ ทั้งตัวผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็ก ทำท้องไม่รับผิดชอบ หรือคนพาไปทำ หรือแนะนำสถานที่ สนับสนุนยุยงทำแท้ง แม่กระทั้งปู่ ย่าตายาย ของวิญญาณเด็ก
รวมถึงคนที่เคยรับทำแท้งเด็กสาวทั้งหลาย.... มักจะตรวจเจอแรงวิญญาณเด็กติดตามอาฆาตอยู่เสมอ

โดยเฉพาะผู้หญิงที่ทำแท้งจะมีอาถรรพ์บางอย่างที่อวัยวะเพศให้สังเกตได้ ทำให้รู้ทันที ผ่านญาณตาทิพย์ ผู้หญิงที่มีอถรรพ์นี่อยู่ จะทำมาหากินไม่เจริญ เจ็บป่วยบ่อยๆแบบหาสาเหตุไม่พบอยู่เนืองๆ...
=====================
จุดสำคัญมาถึงตรงนี้......
เมื่อเจอคนที่ป่วยเป็นมะเร็ง อาการค่อนข้างหนักมาให้รักษา
คนป่วยเดินทางมาไกลจาก จ.ขอนแก่น เป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังมาหลายยุคหลายสมัยต่อกัน

ทางญาติก็มาขอร้องพร้อมยอมสละช่วยเหลือเงินทำบุญ มอบปัจจัยแก่สถานรักษาแห่งนี้ด้วยเงินเต็มที่ แต่ขอให้หายป่วยทีเถอะ...
(รวยมีฐานะดีมากๆ ของเมืองขอนแก่นคนหนึ่งว่างั้นเถอะ)

ท่านก็เมตตาตรวจสอบด้วยญาณทิพย์ ให้ว่าเจ็บป่วย อวัยวะเสื่อมเสียตรงไหนบ้าง..
ตรวจไปมา เพื่อหาหนทางแก้ไข..วนไปวนมาในร่างของคนป่วย

แต่ท่านพลันต้องตกใจสะดุ้งวาบ เมื่อมีเสียงแบบผู้มีอำนาจหนึ่งดังก้องกังวาลขึ้นมาในจิต

"อย่าไปยุ่งกับมัน ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ"
ท่านเห็นเป็นชายร่างกำยำ ครองเครื่องแต่งกายแบบชั้นเจ้านายยุคเก่าปรากฏร่างขึ้นมาในนิมิตของจิต

"แล้วท่านเป็นใครกัน" ท่าน อาจารย์พ. ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

"เราคือ...พระสยามเทวาธิราช นามเราคือกรมพระยาเดชานุภาพ"

"มันทำบาปกับบ้านเมืองไว้มาก...มันหาเงินโกงกินคอรับชั่นขนาดหนักแทบทั้งชีวิตที่มันเป็นนักการเมือง เราจะลงโทษมันให้สาสม"
องค์เทพที่ปรากฏบอกแก่ อาจารย์ พ.

"เพื่อเห็นแก่บุญกศล กระผมใคร่จะขอชีวิตเขาไว้ เพื่อให้เขาได้สำนึกกลับตัวสร้างกรรมดีใหม่ ได้หรือไม่ โดยจะขอผลบุญจากการถวายผ้าไตรนี้ถวายแด่ท่าน"

พลันในนิมิตจิต...ก็ปรากฏว่าก่อนที่จะท่านกำหนดวางชุดผ้าไตรลงในพานมอบถวายแก่เทวดาชั้นสูง นามองค์พระสยามเทวาธิราชที่ปรากฏกายให้เห็น
ท่าน อาจารย์ พ. ก็ต้องถึงกลับอึ้งคาดไม่ถึง นั่นคือองค์เทพท่านนั้นยกเท้าเตะพานที่จะเตรียมวางผ้าไตรกระเด็นว่อนหายไปเลย...


"ไอ้คนบาปชั่วช้าสามานย์ ปานนี้ท่านจะช่วยมันทำไม เราจะลงโทษมันให้สาสม ก่อนจะเอาชีวิตมันไปชดใช้กรรมชั่วในนรก.. โทษที่มันกระทำต่อบ้านเมือง"

ท่านอาจารย์ พ. จึงใช้จิตน้อมพิจารณาตรวจสอบย้อนเรื่องราวแล้วพบว่า...คนป่วยนี้มักใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อต่อธุรกิจตัวเอง แก่พวกพ้องญาติพี่น้อง และมักเบียดเบียนจากเงินงบหลวง เงินโครงการต่างของทางการแทบทุกโอกาสที่จะสามารถกระทำได้...

ชะรอย...นักโกงเมือง โกงชาตินี้รายนี้มันบาปกรรมหนักหนา เกินจะเยียวยารักษาแล้ว....

ท่านจึงขอให้คณะคนป่วยกลุ่มนี้เดินทางกลับบ้านซะเถอะ....หมดลุ้นแล้ว

" ให้คนป่วยหมั่นทำบุญมากๆตามโอกาสนะ...ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ"
กลับไปบ้านจากนั้นอีกไม่กี่เดือน คนป่วยนักการเมืองคนดังกล่าว ก็ได้เวลาเดินทางต่อเลยไปยังภพปรโลก

"นี่เป็นข้อเตือนใจมาจากพระสยามเทวาธิราช เทพยดาทีทำหน้าทีรักษาบ้านเมือง ท่านคอยดูแลระวังรักษาอยู่ตลอดเวลา แม้เพียงเงินเฟื้อง สลึงของบ้านของเมืองนี่ อย่าได้คิดยักยอกเป็นของส่วนตัวเองเด็ดขาดเลยเชียว...
ดังที่คนโบราณว่า...ทรัพย์สินเงินทองของหลวง ถือเป็นของส่วนรวมของคนทั้งชาติ ย่อมตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ จริงๆ.."

นอกจากกรรมที่ถูกบันทึกไว้ในบัญชีนรกแล้ว..ยังมีเทพเทวดารักษาบ้านเมืองคอยตามกระทืบลงทัณฑ์อีกทีด้วย..กรรมหนักเจ็บป่วยก็รักษายาก

คิดไปในยามนี้...ให้นึกแล้วก็หวาดเสียว สยองขนพอง แทนท่านผู้มีโอกาสรับราชการหลายๆท่าน ข้าของหลวง ข้าของแผ่นดิน ข้าของพระราชา
ที่คิดว่าการทุจริต งบเงินในวงราชการเป็นเรื่องปกติที่ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น...
ใครฉลาดมากก็ยักยอกได้มาก...
ฉลาดน้อยก็ได้น้อย โง่หน่อยก็โดนจับ สอบสวนทางวินัย
อย่างมากแค่ให้ออก...ตังต์ยังเหลือไปใช้เวลาถูกไล่ออก

เฉพาะเงินเดือนเปล่าๆจะพอกินอะไร๊...

นี่คิดเอาแค่ อบต. ทั้งประเทศไทย ไม่นับรวมหน่วยงาน กระทรวง กรม ทบวงอื่นๆ
ที่มันพากันคิดกับแบบนี้..มันกี่คนกันหนอ ???

คนดีย่อมไม่สะดุ้งสะเทือน...หวาดหวั่น
คนไม่เชื่อกรรมเวรที่กระทำต่อแผ่นดิน ก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าใครเชื่อและมีส่วนเอี่ยวเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจนี่ก็....คงได้สะอึก

เตรียมพิจารณากันหลังลาโลกกันขึ้นมามั่งล่ะ!!!!
เตรียมตัว เผื่อใจกันบ้างยังฮึ!!!

ยังไม่จบ...เรื่องยังไม่จบ เดี๋ยวมีอีกชุดหนักก่อนจบเรื่องนี้

 

พวก อบต อบจ เทศบาล มันพวกเสือนอนกิน คือนอนโกงกินกันสบายชนิดที่ว่าไม่มีใครตรวจสอบจริงๆ ไม่มีคนกล้าตรวจสอบ เป็นมาเฟียทองถิ่น เอาเงินกองกลางไปถลุงละเลงทำโน่นทำนี่ ร้างบ้าง ทุบทำใหม่อีกบ้าง ยิ่งเขตไหนมีโรงงานเยอะนะรวยเละ
หลายๆอย่างที่พวกนี้ทำให้ชุมชนเดิมเดือดร้อน ยามใดที่ประชาชนเดือดร้อนเพราะโครงการมัน มันก็บอกให้ประชาชนลงชื่อเยอะๆเพื่อที่จะบอกให้มันรู้ตัว พิจารณาว่าที่มันทำเองนี่มันควรล้มโครงการดีไหม ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าที่มันทำทั้งผิดกฎหมายและชาวบ้านเดือดร้อน เช่นโครงการตลาดปลาขายส่ง ตลาดปลาตรงกลางหมู่บ้านหลายๆหมู่บ้าน ที่พวกมันมาสร้างตลาดทีหลัง หมู่บ้านเขามีอยู่ก่อน โดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวพิจารณาจากหัวหน้าชุมชนเลย เอาขยะไปทิ้งข้างบ้านชาวบ้านที่เขาอยู่กันมานาน ใครฟ้องสื่อเดี๋ยวเป็นไข้โป้ง

พวกนี้โกงกันมาก แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจเพราะมัวแต่ไปเหมาเข่งแต่กับนักการเมือง
รัฐมนตีน นาเย็ก จริงๆแล้วพวกถ้องถิ่นนี้เป็นรากเง้าที่ต้องแก้ไขด้วยเพราะมีเป็นจำนวนมาก เวลาดูทีวีแล้วมี นายกอบต. หรือ อบต บางแห่งที่เขาเป็นผู้นำที่ดีนำโครงการที่สร้างสรรค์ไปช่วยความเป็นอยู่ของชุมชนทำให้มีความชื่นใจอยู่บ้าง ประเมินเองว่าน่าจะมีน้ำดีอย่างนี้ไม่น่าเกิน25% เช่นเดียวกับวงการตำอวด

แม้แต่ผู้พิพากก็บ้าอำนาจ ความบ้าแบบนี้จะให้ความยุติธรรมได้ไหม
เคยไปฟังคนอื่นขึ้นศาลครั้งหนึ่ง ก่อนคดีเพื่อนผมเป็นคดีของคุณลุง
ยัยเจ๊ที่เป็นผู้พิพากใช้เสียงดุถามลุง ลุงแกแบ่งมรดกให้ลูกหลาน คดีแพ่งธรรมดา และที่สำคัญเขาตกลงกันมาแล้วแค่ให้ศาลมาอ่านตามกฎหมายเท่านั้น
ลุงแกตอบงึกงักเพราะกลัวหรืองงก็ไม่ทราบ ยัยเจ๊โมโหตะโกนเสียงดัง เสียงดุถามลุงใหม่
ลุงแกยืนตัวแข็งพูดไม่ออกด้วยความกลัวทั้งๆที่แกไม่ได้มีความผิดอะไร ลุงที่อายุคราวพ่อคราวปู่ผู้ถาม
ตอนนั้นผมอดไม่ได้เลยขำออกมา ตามองที่ผู้พิพาก (เสียงขำไม่ดังมาก แต่ดังพอที่คนในห้องและบนบัลลังก์ได้ยินได้ ) ด้วยความฉลาดของคนบนบัลลังก์จึงรู้ว่าเสียงขำและแววตานี้เป็นเสียงที่เหยีดหยาม รังเกียจในความทุเรศในพฤติกรรมของผู้ที่ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ
ทำไมต้องทำเสียงดุด่าลุงเขา เขาไม่ได้ฆ่าหรือโขมยใครนะ คดีแพ่งที่เขาตกลงกันเองมาแล้วด้วย เป็นผู้หญิงหรือผู้พิพากถ้าไม่ทำเสียงดุ หน้าอมส้น ประชาชนเขาจะคิดว่าไม่มีอำนาจหรือจ๊ะ ไม่ต้องปั้นแต่งอำนาจก็มีโดยหน้าที่แล้วนี่ มันติดอำนาจใช่ไหม ติดจนลืมตัว
เมื่อหล่อนได้สติรู้ตัวจึงเริ่มลดเสียงลง ที่สำคัญได้อานิสงส์ถึงคดีเพื่อนผมต่อไป เธอพูดจา
เสียงหวานแถมมีค่ะขากับเพื่อนผมด้วย ทำเอาตูมึน

ความจริงปัญหาการโกงกิน ท้องถิ่น กรม กระทรวง ทบวง ตำอวด การปกครอง มันก็แก้ไม่ยากหลอก ปัญหาเหล่านี้ก็บริหารเหมือนบริษัทเอกชน คือ ตัวผู้มีอำนาจ ผู้นำสูงสุด และผู้มีอำนาจใหญ่ๆลงมา ต้องเป็นทั้งคนเก่งคนดี เอาจริงเอาจัง ทำเป็นตัวอย่าง ต้องเอาจริง
ตรวจสอบและเอาโทษกับสายงานตัวเอง เมื่อตัวพ่อตัวแม่ดีและมีตัวรองๆเสริม สุดท้ายจะเหลือเนื้อเน่าที่เป็นตัวเล็ก กับ ตัวกลางไม่มาก ซึ่งเป็นธรรมดาที่ยังคงมีอยู่บ้าง แต่ควบคุมให้มันมีน้อยมากจนพวกมันไม่มีบทบาท

ปัจจุบันนี้มันกลับหัว ผู้นำสูงสุดและผู้มีอำนาจ ของหน่วยงาน กรม กระทรวง ทบวง ท้องถิ่น ผู้นำเลวๆชั่วๆ พวกลูกน้องเหล่านั้นก็ทำงานกันลำบาก กรรมบีบคั้นให้เลวจนได้
จนในสายงานเหลือคนดีน้อยมาก

อยู่เมืองไทยสุขสบาย มีดีหลายๆอย่างมากๆ แต่เรื่องความปลอดภัยในทุกๆด้านทั้งอาหาร
การเดินทาง คนเลว, ความยุติธรรมในทุกด้าน เรื่องเหล่านี้ต้องดูแลกันเองหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้

ถ้าคุณToplusเริ่มรู้สึกว่าผมขี้บ่นก็เตะโด่งผมเข้ากระทู้ขี้บ่นของคุณRamingเลยครับ
แต่อย่างไรเสียผมก็มีความสบายใจ อุนใจ เชื่อใจอยู่บ้างว่าพวกที่โกงกินบ้านเมืองทั้งหลายไม่ว่าตัวเล็ก ตัวใหญ่ พวกมันไม่มีใครใหญ่เกินกรรม ตายเมื่อไหร่ก็เอาพวกมันไปสำเร็จโทษในนรก ท่านที่ดูแลสามโลกเขาไม่ปล่อยไว้หลอก

ติดตามอ่านอยู่นะครับ อย่าเพิ่งงอนถ้าไม่ค่อยทักทาย ถ้าไม่มีประเด็นให้คุยด้วยไม่อยากแจมให้กระทู้คุณรก

สวัสดีปีใหม่ทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆ

 

ดีใจครับคุณ The Seven มาร่วมพูดคุยกัน..ยินดีมาก
ก็คุณน่ารัก ใครเขาจะไปว่าอะไร
ตอนนี้ได้พูดคุยระบายออกมา..ค่อยหายอึดอัดใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่งเนอะ!!!
=====

ดีใจที่กระทู้นี้หากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนในสังคม
ให้ได้รับรู้กันว่า พวกเรารอคอยความหวังในวันดี วันฟ้าสดใส
วันแห่งความรักใคร่สามัคคีของคนไทย..จงกลับคืนมา
ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองอันแสนอึมครึมในขณะนี้

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงฤทธา ..ช่วยบรรดาลให้คนไทยทั้งชาติ
จงฝ่าผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยดีโดยไว..เทอญ

 

ขออนุญาตท่าน toplus99 มาต่อไวๆ อยากอ่านชุดหนักของท่าน มากๆครับ

 

แค่ท่อนแรก ก็เจ็บๆคันๆ แร้ว... นี่ถ้าท่อนฮุกจะสะอึกขะไหนขะหนาด

ติดตามอีกคนอยู่เด๊อค่า แถวหลังสุด

 

ขอบคุณ เวรกรรมมีจริง...
แม้เล็กน้อยก็ขึ้นชื่อว่ากรรม ใครทำอะไรได้อย่างนั้น..

 

เคยอ่านตั้งแต่สมัยคุณ toplus99 ตั้งกระทู้ใหม่ๆ แล้วก็ห่างหายจากบอร์ดไปนาน แอบไปหาที่หาทางเตรียมอพยพหนีกรุงกับเขาด้วยเหมือนกัน ประจวบเหมาะกับทำมาค้าขายตลาดใหญ่อยู่อีสานก็เลยใช้เป็นข้ออ้างไปซื้อที่ดินแถวสีคิ้วเป็นฐานที่มั่น ตอนซื้อที่ได้ใหม่ๆ ไปกราบหลวงพ่อสายทองถึงวัดป่าห้วยกุ่มเป็นครั้งแรก หลวงพ่อทักว่าให้ย้ายมาอีสานนะลูกหลานเน้อ ผมกราบเรียนท่านว่าผมมาซื้อที่อยู่โคราชแล้วครับ ท่านว่าโคราชก็ใช่ว่าจะพ้น มาอยู่ใกล้หลวงพ่อสิ ผมถามหลวงพ่อว่าไม่พ้นเหรอ สูงเกือบ 250 เมตรแล้วนะ หลวงพ่อถามว่าอยู่ตรงไหนก็เขียนแผนที่ให้ท่านดู ท่านหัวเราะว่า เออๆ พ้นๆ..
กลับมาคราวนี้กระทู้เดินไปเกือบร้อยหน้า นั่งอ่านมา 3 วันจะให้จบก่อนสิ้นปี สุดท้ายไม่จบครับ เว้นหน้า 71-84 เอาไว้ก่อน พยายามแกะรอยว่าพระอาจารย์ท่านอยู่วัดไหน เพราะถ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่แล้วจากบ้านไปวัดคงไม่ไกลมาก

ไม่แน่ใจว่าพลาดตรงไหนไปหรือเปล่า ยังอ่านไม่เจอเรื่องการกรวดน้ำที่คุณ toplus99 เกริ่นเอาไว้เลย ถ้ายังไม่ได้เล่าและลืมไปแล้วช่วยกลับมาเล่าหน่อยครับ เป็นเรื่องที่ผมค้างคาใจมาก ปกติผมเข้าวัดป่าท่านว่าไม่ต้องใช้น้ำก็ได้แค่ตั้งใจอุทิศก็ได้ แต่หลายท่านก็บอกว่าไม่ได้ สมาธิเราไม่ถึงยังต้องให้พระแม่คงคาเป็นสื่อ.. อยากฟังประสบการณ์ตรงนี้ของคุณ topus99 ครับ

 

สวัสดีปีใหม่ 2557 ขอให้มีความสุขนะคะ คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปารถนา สุขภาพแข็งแรง

ตลอดปีและตลอดไปนะคะ....

 

Happy new year

 

สวัสดีปีใหม่ครับ

อยู่ที่กระทู้ "ตามครรลองธุลีดิน" ยังมีอีก30กว่าหน้า

เรื่องการกรวดน้ำหน้าที่ 26 ครับ

 

เดี๋ยวจะตามไปอ่านครับ
แต่สงสัยว่าทำไมคุณ toplus99 ถึงได้ปิดชื่อวัดและชื่อพระอาจารย์ถ้ำครับ (หรือเปิดเผยแล้วแต่ผมยังอ่านไม่ถึงหรืออ่านข้ามไป) ผมแกะรอยจากกระทู้คุณ toplus99 จนรู้ชื่อวัดและชื่อพระอาจารย์แล้ว ทางวัดก็มีบอกบุญสร้างพระสร้างศาลาทางเว็ปนี่ครับ ตัวพระอาจารย์เองก็มีอยู่ใน youtube มีคลิปกวนสีผึ้ง และมีเรื่องพิมพ์ลายนิ้วมือบนแท่งทองที่ท่านเล่าเอง
ถ้าเปิดเผยออกมาจะช่วยให้คนไปร่วมทำบุญเยอะขึ้นไม่ดีกว่าหรือ

 

ขอบคุณที่สนใจในเรื่องเล่านะครับ..

เรื่องชื่อและสถานที่ตั้งของวัด..พระอาจารย์ท่านยืนยันว่าห้ามแจ้งลงในเรื่องเล่าในกระทู้ ใครที่รู้และลงในกระทู้นี้ โดยก็จะขอให้ผู้รับผิดชอบลบออกในที่สุดถือเป็นความรับผิดชอบที่ลูกศิษย์อย่างผมได้เคยรับปากกับท่านไว้ เพราะเรื่องราวบางอย่างอาจนำความวุ่นวายมาสู่ท่านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และสถานที่ดังกล่าวได้
กิเลส อุปทานของคนเรานี้มันน่ากลัวน้อยเมื่อไร..
คนมาก..เรื่องก็มากตาม

หลวงปู่ใหญ่ท่านก็มีคำสั่งห้ามไม่ให้ท่านเปิดเผยออกสังคมมากเกินไป
เพราะยังไม่ได้เวลา...มารผจญมันไหลเข้ามามาก นำภัยมาระวังยากครับ

หวังว่าคงเข้าใจใจเจตนานะครับ

==========
ส่วนในส่วนสื่ออื่นๆที่เผยแพร่ออกไป ก็คนละส่วนกันครับ..แล้วแต่ใครจะเห็นควร
ซึ่งก็มีหลายส่วนที่นำออกมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากพระอาจารย์
บางอย่างก็กล่าวเลยเถิด..เสี่ยงต่อการตำหนิจากสังคมส่วนอื่นได้
"คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ"

กิจกรรมการทำบุญสร้างศาสนวัตถุ ต่างๆ พระอาจารย์ท่านเองก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร ได้แค่ไหนก็แค่นั้น หากบุคคลใดหรือใครที่เคยมีวาสนาเกี่ยวข้องกันมาแต่อดีตชาติ ก็จะมีโอกาสร่วมสร้างบุญกุศลด้วยกันเองเป็นไปตามกาลอันสมควร

เพราะทุกวันนี้ท่านก็ต้องเหน็ดเหนื่อยมีกิจกรรมต่างของศาสนาแทบไม่ได้หยุดพักอยู่แล้ว พักหลังไปหาท่านครั้งใดยังมีโอกาสพูดคุยด้วยไม่กี่คำเพราะธุระท่านมากจริงๆ..
(ปล่อยเป็นแบบป่าๆ แบบสงบๆ ที่ไม่มีใครรู้จักนี่น่าจะดีกว่าผมว่า)
===

สนใจเรื่องเล่าดีกว่าครับ ว่าต้องการสื่อสารเรื่องอะไร
..ชื่อและสถานที่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ต้องสนใจ..
ลืมๆเลือนๆมันไปซะ

ก็ออกตัวแล้วว่าเป็นเรื่องของคนขี้โม้ บ้าๆเล่ากันเล่นๆเท่านั้นเอง

 

โอเค รับทราบเจตนารมย์แล้วครับ

 

รอติดตามครับ ท่าน toplus 99 เมื่อเช้าก็เข้าเวปลำบากเหมือนท่านเช่นกัน นึกว่าเป็นอยู่
คนเดียวซะอีก

 

มาเดินเรื่อง...

#บทสนทนากับฆราวาสธรรม อดีตสหธรรมมิกหลวงตามหาบัว ##
ต่อดีกว่า.. ช้าไปก็ยืดยาดโตงเตง

เล่าต่อ ณ. คืนวันศุกร์

เรื่องราวที่สำคัญระหว่างการสนทนาส่วนใหญ่ท่านจะ เน้นย้ำให้เชื่อในเรื่อง"กรรมดี ทำดีทำยากให้ผลช้า ต้องอดทนและรอคอย แต่หอมหวานน่าชื่นใจในระยะยาว

...ส่วนกรรมเลว ทำเลวทำง่ายให้ผลไว ไม่ต้องรอคอยนาน แต่สุดท้ายต้องเจ็บปวดและทรมานในบั้นปลายเสมอ นี่คือสัจธรรมที่ไม่มีวันที่ใครจะลบล้างได้
======
ระหว่างการสนทนาท่านจะแนะนำเรื่องการระวังดูจิต ที่มันกระเพรื่อมหวั่นไหวว่าดี ว่าเลวอย่างไร..

แต่การแนะนำสั่งสอน นั้น toplus99และเพื่อนรุ่นน้องที่ร่วมวงสนทนานั้นแทบไม่ได้เอ่ยปริปากถาม เรื่องราวใดๆมากนัก เพราะเหมือนท่านฆราวาสผู้เฒ่าพูดดักทาง เหมือนอ่านใจเราทั้งคู่ได้หมดว่าอยากทราบอยากรู้ หรือสงสัยเรื่องอะไร ท่านก็พูดเอาไว้หมดแล้ว

" นี่พวกเธอรู้มั๊ย ว่าที่โคราชบ้านเรามีพระศักดิ์สิทธิ์มากอยู่องค์นะ เป็นองค์สีดำๆ ชื่อหลวงพ่อดำอยู่ที่วัดสุทธจินดา แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ อธิษฐานอะไรได้ดังใจปารถนา แล้วมีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สำเร็จพระอริยสงฆ์แล้ว คือท่านหลวงพ่อใหญ่ มีโอกาสก็ไปทำบุญกับท่านซะ ได้อานิสงค์รวดเร็วทันใจดีนัก"


แต่มีประโยคหนึ่งที่ชวนให้ติดใจ...จากฆราวาสอภิญญาท่านนี้
ท่านว่า"ชาตินี้..หมดสิ้นภาระกิจเราแล้ว ไม่มีอะไรต้องทำสืบต่อไปแล้ว

เราไม่ต้องห่วงกังวลถึงภพภูมิชาติหน้าอีก
...เราไม่มีอะไรติดใจสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอีก"

"แม้แต่ลูกภรรยาเราก็ไม่ต้องห่วงกังวล เขาต่างก็ได้มีปลายทางภพภูมิที่ดีของเขาแล้ว
ลูกทุกคนก็สามารถปฏิบัติธรรมจนได้ฌานสมาบัติขั้นสูงกัน สามารถรู้เห็นนิมิตภพภูมิต่างๆ
รู้เห็นบาปกรรมดี กรรมเลว รู้นรก รู้สวรรค์กันได้ทะลุปรุโป่งกันได้ทุกคนแล้ว เพียงแต่เขาไม่พูดบอกเล่าให้คนอื่นภายนอกรู้กัน เก็บเงียบ กลัวพูดไปใครรู้เข้า เดี๋ยวต้องมาวุ่นวายลำบากช่วยคนโน้นคนนี้
จนตัวเองเดือดร้อนแบบพ่อเขาอีก"
====
อันประโยคพูดข้างบนนั้น ให้แต่ละท่านตีความหมายกันเอาเองนะครับว่า ท่านหมายถึงสิ่งใด อย่างไร

จนมาถึงช่วงท้ายๆการสนทนา ....
มีการพูดถามถึงเรื่องราวของอดีตนักการเมืองสำคัญพ่อค้าที่ร่ำรวยมหาศาลคนดัง โดนคณะกลุ่มราชการทหารทำรัฐประหาร ขณะเดินทางออกนอกประเทศ ขณะนั้นกำลังตกเป็นที่สนใจว่าของคนทั้งประเทศว่าเรื่องราวว่าจะเป็นอย่างไร?

เพื่อนรุ่นน้องเอ่ยปากถาม...

"เออ..อาจารย์ครับผมขอถามข้อสงสัยหน่อยได้มั๊ยครับว่า ท่าน ท..จะได้เดินทางกลับมาประเทศอีกเมื่อไร"

"เรื่องนี้ขอพูดเลยว่ายากมาก..เพราะขณะนี้เองเหล่าองค์พระสยามเทวาธิราช รักษาเมือง และวิญญาณบรรพบุรุษที่เป็นเทพเทวดาที่มีหน้าที่รักษาบ้านเมือง เขาใช้เท้ายัน ตีนยันต้านกันสุดฤทธิ์ไม่ให้เหยียบย่างเขามาในประเทศไทยได้"

"แล้วเขาจะสร้างปัญหาอะไรภายหลังให้กับประเทศอีกหรือเปล่า?"ถามอีกครั้ง

"เขาเองก็เป็นคนมีบุญบารมีของเก่าสูงดีอยู่นะ แต่จิตใจมักใหญ่ใฝ่สูงหลงตัวลืมตน ลืมแม้แต่สำนึกชั่วดีที่พึงมีต่อส่วนรวม ต่อคนทั้งประเทศ"

"หากเขายังอยู่ในประเทศ เขาก็ล้มเจ็บป่วยหนักจนเยียวยาไม่ได้ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองเราก็จ้องเล่นงานกระทำเหมือนกัน

.....หากว่ายังอยู่นอกประเทศยังพอลดแรงกระทำ ลงไปพอเยียวยาได้...แต่ถ้ายังไม่สำนึกไม่ยอมลดราวาศอก รับรองว่าไม่นาน"

"ไม่นานอะไรครับ"

"อย่าว่าแต่แค่เหยียบแผ่นดินไทยเลย อยู่ไหนบนโลกต่อไปก็ยาก
เอ๊า!!คอยดูกันไปดีกว่า ทำดีก็รับผลดี ทำชั่วก็รับผลชั่ว ไม่ต้องรอไกลถึงชาติหน้า "
นี่คือเรื่องราวการสนทนาเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน

ก่อนที่ฆราวาสจะลุกขึ้นเอามือตบลงที่พนักไม้เก้าอี้ ดังเพลี๊ยะ

"จบนะหมดเรื่องแล้ว...ไป รอแป๊บหนึ่งเดี๋ยวไปหยิบหนังสือให้"

แล้วยันกายลุกขึ้นไปหยิบหนังสือเก่าๆ ที่ท่านเก็บไว้มาปัดๆฝุ่นออก แต่มีร่องรอยมอดปลวกแทะมาสี่เล่ม
พร้อมแผ่นซีดีบันทึกรวมชีวประติหลวงปู่หลวงตา ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น2-3 รูปส่งให้
บอกว่า

"แล้วแต่จะทำบุญนะไม่บังคับ ...โชคดีล่ะกัน"

++++++

หลังเดินทางกลับออกจากบ้านของอาจารย์ฆราวาสมาได้สักพัก
"พี่ทำไมไม่เห็นค่อยถามอะไรอาจารย์แกเลย ไหนว่าเตรียมคำถามมาเพรียบไงครับ" รุ่นน้อง

"เออ..ก็คำถามที่เตรียมมา อาจารย์เขาเล่นพูดออกมาหมดแล้วนี่หว่า ยังกะรู้หมดว่าจะถามอะไร"
"แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่ไม่ได้เตรียมมาถาม...แล้วอาจารย์เขาบอก" toplus99

" เรื่องอะไรครับ"

"ก็เรื่องที่แกถามว่าคนดัง..เขาจะได้กลับประเทศไม๊ นั่นแหละ"
"เอ๊า..เป็นงั้นไป ฮ่ะฮ่าๆ "
===========
๙๙๙๙๙

"แต่นี่เคยได้ยินเรื่องเล่าว่า..มีคนพยายามแก้ล้างอาถรรพ์ ล้างดวงเมืองเดิมของไทย เพื่อพยามกุมดวงเมืองลดทอนพลังเทพเจ้ารักษาเมือง เสริมสร้างดวงพลังอำนาจใหม่ โดยจ้างวานหมอไสยเวทย์ขั้นปรมาจารย์จากนอกประเทศ มากระทำการต่างๆ ตามสถานที่สำคัญๆในประเทศไทยบ้างมั๊ย?

" จริงรึเปล่าไม่รู้นะ"
"นั่นสิ....ก็ลองเดาๆดูไปงั้นแหละ เห็นบางทีมีข่าวแปลกๆชอบกล ..เลยตั้งข้อสังเกตดูไปเล่นๆ
สงสัย เรื่องนี้หลวงปู่พุทธะอิสระ น่าจะตอบได้ดี ฮะแฮ่"

 

มนุษย์เราเอ๊ย...เกิดมาทำไม?
ถามใคร?.....

ก็ถามคน ..ที่เขาบังเอิญผ่านมาพบเจอประโยคคำถามนี้
!!!!แค่นั้นเอง

 

หาที่พักเก็บ...สะสมคะแนน.....คงมีสักวันเป็นของเรา....แฮ่ๆๆๆๆๆๆ