((((~ เพ้อรำพัน ~))))

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 17 กันยายน 2013.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ความจริงที่เป็นปัจจัตตังของบุคคลหนึ่ง อาจไม่ไพเราะเพราะพริ้งเหมือนดั่งบทเพลงฮิตยอดนิยม
    แต่ทุกครั้งที่ได้สัมผัสกระแสแห่งสัจจธรรม อันสุขุม ลุ่มลึก คัมภีร์ภาพนั้น มักจะนำพาความสุขสงบมาให้เราอยู่มิรู้วาย...

    บทเพลงฮิตยอดนิยมเมื่อครั้งวันวาน จืดจางลงไปจนหมดสิ้นแล้ว
    บทเพลงชุดใหม่กำลังขับขานกังวาลก้องอยู่

    เราเที่ยวแสวงหาความสุขจากบทเพลงเหล่านั้นมาช้านานแล้ว
    ยังไม่เบื่ออีกหรือ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2013
  2. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ผู้เยาว์ในทางโลก อาจเป็นผู้ใหญ่ในทางธรรม
    ส่วนผู้ใหญ่ในทางธรรม อาจเป็นผู้เยาว์ในทางโลก

    ระยับแดดที่พลิ้วไหวอยู่ตามท้องถนน
    กับผืนแผ่นน้ำที่ซ่านกระเซ็น ยามเมื่อสายลมโชยพัด
    สะท้อนให้เห็นภาพความจริงบางอย่าง ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

    หน้ากากที่สวมใส่ยามแสดงละคร กับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังฉาก
    อาจมีความแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับมาอย่างเท่าเทียมกัน

    นั่นก็คือพวกเราตกอยู่ภายใต้โลกสมมุติเหล่านี้ ไม่ต่างกันเลย!
     
  3. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    คืนวันที่เปล่าดาย กับเวลาที่ล่วงเลยไปอาจนำความทุกข์มาให้เรา มากกว่าความสุขที่ใครหลายคนต่างแสวงหามาตลอดทั้งชีวิต

    เสียงคร่ำครวญแห่งการจากลา กับเสียงทารกน้อยผู้เป็นเชื้อไขแห่งตนเรียกหา
    ความร่ำรวยทางโภคทรัพย์ กับการล้มละลายทางภูมิปัญญา

    อารมณ์ที่ผกผันเหล่านี้ล้วนมีลักษณะขึ้นๆลงๆ ตามกระแสโลกธรรมที่มากระทบ
    ในขณะที่คืนวันล่วงเลยผ่านไป ชนเป็นอันมากแสวงหาความสุขจากภายนอก
    เขาถูกมรณะภัยคุกคามแล้ว ไร้ซึ่งแรงต้านทาน จมลงสู่ห้วงน้ำอันมืดมิด
    ยากที่จะเข้าถึงฝั่งอันเกษมได้

    ส่วนนรชนผู้สดับ มีกายและจิตอันปลอดโปร่งโล่งเบา เขาถูกมรณะภัยคุกคามแล้ว
    มิได้จมลงสู่ห้วงน้ำอันมืดมิดนั้นเลย
    นั่นเพราะเหตุใด?

    นั่นเป็นเพราะ "จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ตน!"
     
  4. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    สายน้ำไม่มีวันไหลย้อนคืนกลับ แต่สายลมแห่งความทรงจำนั้นมักจะพัดหวนกลับคืนมาเสมอ
    ผู้ตกอยู่ภายใต้พันธนาการของสัญญา มิอาจสลัดดวงจิตให้กลับคืนสู่ธรรมชาติได้ตามความเป็นจริง

    หนอนแมลงที่คอยกัดกินใบไม้ตลอดทั้งลำต้นนั้น อาจทำให้ต้นไม้ตกอยู่ในสภาพเหมือนตายทั้งเป็น
    จนมิสามารถผลิดอกออกผล เจริญงอกงามได้ตามธรรมชาติ

    ดวงจิตที่ถูกบีบคั้นด้วยพันธนาการแห่งสัญญา ก็คงมีสภาพไม่แตกต่างกัน
    จนกว่าเราจะสามารถปลดเปลื่องตัวหนอนแห่งความผูกพัน ที่คอยกัดแทะดวงจิตอันมีมาแต่ครั้งปางบรรพ์นี้
    ให้ปลาศนาการไป และหาวิธีป้องกันมิให้หนอนแมลงสายพันธุ์ใหม่คือความสิเน่หาอันเกิดมีในภพชาติปัจจุบัน
    เข้ามากัดกินจิตใจ จนมิสามารถผลิดอกออกผลแห่งพระนิพพานได้

    เมื่อจิตย่างเข้าสู่กระแส จะมีความอาลัยใดๆหลงเหลืออยู่อีกหรือ

    ผลไม้ที่สุขงอม ที่บุรุษทนุบำรุงรัษาเป็นอย่างดี ย่อมนำรสชาติอันเลิศมาให้

    ธรรมดาจิตที่สลัดคืนสู่ธรรมชาติ ย่อมนำอมฤตรสคือธรรมอันไม่ตายมาให้เช่นกัน!
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เพ้อได้อร่อยกว่าอาหารจานเด็ดอีกหนอ
    ธรรมดาย่อมเป็นธรรมดา อยู่กับโลกแต่ไม่เป็นคนของโลก

    สาธุธรรมค่ะ
     
  6. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ใบไม้พลิ้วไหวยามเมื่อสายลมพัด.....ทะเลมิเคยหลับยามคลื่นถาโถม
    ดวงจิตซ่านไปยามเวทนารบกวน.....ความคิดเรรวนยามจวนเจียนตาย
    ปล่อยสังขารลอยล่องไปตามโลก.....สุขทุกข์โศกวกวนในสงสาร
    ท่องเที่ยวไปตามจินตนาการ.....มีภพสามเป็นวิมานในใจตน

    "ขุนเขาไม่สะเทือนด้วยแรงลม บัณฑิตชนไม่หวั่นไหวด้วยคำสรรเสริญนินทรา
    แม้ถูกความทุกข์ทับถม แม้พลาดพลั้งลมลง บัณฑิตมิยอมปล่อยตนละทิ้งธรรม"

    จงมั่นคงเหมือนดั่งภูผา
    จงแกล้วกล้าเหมือนดั่งราชสีห์
    จงหนักแน่นเหมือนแผ่นพื้นปฐพี
    จงยินดีแม้ชีพพลีประพฤติธรรม

    ในขณะที่พระสัทธรรมยังมั่นคงดำรงค์อยู่
    บุคคลเมื่อดำริชอบแล้ว ควรเริ่มทำความดีตั้งแต่บัดนี้
    ไม่ควรปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลยผ่านไปอย่างไรจุดหมาย
    เพราะเมื่อทำความดีช้าไป ใจจะกลับยินดีในความชั่ว

    มหาโลกันตนรกช่างแสนเยือกเย็นมืดมิดนัก พระมหาบุรุษอุบัติแล้วครั้งหนึ่งๆ
    จึงจะได้เห็นแสงสว่างปรากฎคล้ายดั่งสายฟ้าแลบ

    ขอมิจฉาทิฎฐิใดบรรดามี จงอย่าได้ครอบงำจิตเราท่านทั้งหลาย
    ให้จมดิ่งลงสู่โลกแห่งความมืดมิด สิ้นกาลนานเทอญ!
     
  7. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    "ผู้ใดเคยประมาทในกาลก่อน แต่มาภายหลังละได้ด้วยความไม่ประมาท
    เขาผู้นั้นย่อมส่องโลกนี้ให้สว่างได้ เหมือนดวงจันทร์ที่โคจรพ้นจากกุ่มเมฆ"

    อดีตเป็นเพียงความฝัน.....ใยผูกพันธ์มิจางหาย
    อนาคตตามเหตุปัจจัย.....ใยปล่อยใจตามอารมณ์
    ปัจจุบัน เพียรพ้น ชำระจิต.....ยึดติด สิ่งใด ใจเอ๋ย
    ชั่วดี สุขทุกข์ อย่างเคย.....ได้เสวย มาแล้ว ควรพอ

    ถึงรอยรสบทความงามเสนาะ
    มิไพเราะเหมือนหนึ่งความงามอักษร
    ถึงร้อยล้านอักษรางามบทกลอน
    มิสู้หนึ่งภาษิตสอนนำพ้นภัย

    (สุนทรหน่อ)
     
  8. Ta WHK

    Ta WHK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,133
    ค่าพลัง:
    +6,078
    มีอีกไหมคะ รอฟังค่ะ
     
  9. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    การรอคอยที่แสนยาวนาน อาจทำให้ใครหลายคนหัวเสีย ผิดหวัง ระทมตรอมหมองหม่นเศร้า
    ความคิดที่ผกผัน อารมณ์ที่แปรปรวน ดวงจิตที่ซัดส่ายคล้ายดั่งลมพายุ
    มันได้พัดพานำเอาฝุ่นละอองแห่งความทุกข์ เข้าครอบงำจิตใจใครกันหนอ?

    ในขณะที่ชนเป็นอันมากกำลังคร่ำครวญเป็นทุกข์อยู่ด้วยการรอคอย
    อริยชนรอเวลาละทิ้งสังขารอันเต็มไปด้วยโรค มากด้วยทุกข์ หนาด้วยวิบาก
    หาความสุขเที่ยงแท้ยั่งยืนมิได้นี้ ด้วยดวงจิตอันเกษม

    แล้วเราท่านทั้งหลายรออะไรกันอยู่?
     
  10. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ติดตามอ่านมา ๔ วันแล้ว ชื่นชอบมากค่ะ ได้ข้อคิดมากมายจากกระทู้นี้...
     
  11. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    อาหารอันเลิศรสอาจทำให้เรามีความสุขและอิ่มไปได้แค่เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
    เมื่อความหิวเข้าบีบคั้น สังขารเจ้ากรรมก็ดันทุรังรบเร้าจิต ให้เกิดความครุ่นคิดปรุ่งแต่ง
    ในรสชาติแห่งอาหาร ชวนให้น่าพิศมัยอยู่มิรู้วาย

    ลักษณาการของความทะยานอยาก มักมีรสชาติอันหอมหวนชวนให้น่าหลงไหลในเบื้องต้น แต่กลับมีผลอันแสบเผ็ดร้อนซ่อนอยู่ภายใน

    ชนเป็นอันมากแสวงหาความสุขจากการส่องเสพรสชาติทางโลกีย์รมย์ ในขณะที่ไฟกำลังลุกโชนแผดเผาไหม้ดวงจิตของตนให้เร้าร้อนอยู่ด้วยความทะยานอยากนั้น คนพาลใส่เชื้อฟืืนเติมเข้าไปอยู่เนืองๆ ด้วยหวังความสุขแค่เพียงได้เห็นแสงสว่างจากเปลวไฟ

    ในขณะที่แมลงเม่ากำลังหลงระเริงเพลินไปกับรสชาติของเปลวไฟนั้น!
    พญานกยูงทองกำลังทำความเคารพแสงสว่างจากดวงอาทิตย์!

    เราท่านทั้งหลาย เห็นประโยชน์จากแสงสว่างใดในทางดำเนินของชีวิต?

    "แสงทองส่องทาง แสงธรรมส่องใจ
    เสียงธรรมทรงไว้ หัวใจเบิกบาน"
     
  12. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ท่านหน่อฯน่าจะรวมเล่มนะครับ.เข้าท่ามากทีเดียว
     
  13. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    การหลับนอนในช่วงวันหยุด อาจให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ดูสบายมากกว่าวันธรรมดาหลายเท่า
    หลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานมาตลอด ๕-๖ วัน และนี่อาจเป็นวิถีชีวิตโดยปกติของใครหลายๆคน

    นักเจริญจิตภาวนาหลังจากกระทำความเพียรอย่างหนักมาตลอด มักใช้การเข้าสมาธิเพื่อพักผ่อนทางจิต
    ฌานที่อบรมมาดีแล้วเป็นเสมือนความสงบสุขที่ไม่ต้องไปแสวงหาจากที่ใดอื่น

    ความหลับของบุคคลทั้งสองในข้างต้น อาจให้ความรู้สึกสุขสบายที่แตกต่างกันอยู่บ้าง!
    ตราบใดที่ยั้งมิได้สัมผัสรสชาติของความตื่น เราก็ยังคงหลับไหลอยู่ในห้วงแห่งความฝันที่แสนยาวนานนี้ ไม่ต่างกันเลย

    พระบรมศาสดาทรงประกาศพระสัจจธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ผู้หลับไหลอยู่ในห้วงวัฎฎะสงสาร
    ปลุกให้ตื่นจากโลกแห่งความฝัน สู่โลกแห่งความจริง

    "สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมถึงความดับไปเป็นธรรมดา"
    "สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นแล้วย่อมถึงความดับไป
    การเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลายเสียได้ เป็นความสุข"

    ในขณะที่กงล้อแห่งพระสัทธรรมยังคงปรากฎหมุนอยู่ เราท่านทั้งหลายเริ่มรู้สึกตัวตื่นกันบ้างแล้วหรือยัง?

    "พุทธะ คือผู้รู้ ไกลกิเลส
    พุทโธ วิเศษตื่นแล้ว จากสังสาร
    พุทธะ คือดวงจิต ผู้เบิกบาน
    พุทโธ ขับขาน ถึงนิพพานชั่วนิรันดร"

    (สุนทรหน่อ)
     
  14. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    หยาดน้ำตาแห่งการลาจาก เสียงรำไห้อาลัยรัก ความพิไรรำพันอันมีโดยประการต่างๆ
    มิเคยเหือดแห้งจางหายจากสังสารวัฎเลย ทะเลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำอันมหาศาลดูช่างเล็กน้อยซะเหลือเกิน
    เมื่อเทียบกับหยาดน้ำตาของปวงสัตว์ ที่แหวกว่ายอยู่ในทะเลน้ำตาความทุกข์ของตนเอง

    จะมีสักกี่ครั้งในชีวิต ที่เราหลั่งน้ำตาแห่งปีติออกมา
    น้ำตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบเย็น
    น้ำตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอันสุขุมลุ่มลึก ยามเมื่อสัมผัสรสแห่งธรรม

    นานหนอกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงอุบัติ!
    นานหนอกว่าจะได้ฟังพระสัทธรรม!
    นานหนอกว่าฝนโปกขรพรรษจะหลั่งรดตกลงมาท่ามกลางใจ!

    ในขณะที่คืนวันล่วงเลยผ่านไป บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่!

    "น้ำตาร้อน ซ่อนทุกข์ ระทมจิต
    น้ำตาสถิต สะเทือนใจ ยามหม่นหมอง
    น้ำตาเย็น ไหลหลั่ง เปลื่องทุกข์รอน
    น้ำตาสอน เวทนาจิต ปิดกงกรรม"

    (สุนทรหน่อ)
     
  15. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ยามเมื่อลมพายุร้ายสงบลง เรามักจะมองเห็นภาพความเสียหายปรากฎอยู่ต่อหน้าทั้งที่ก่อนหน้านั้นทุกสิ่งทุกอย่าง
    ยังคงสภาพเดิมตามปกติในแบบที่มันควรจะเป็น ความเสียหายจะมีมากหรือน้อย
    ย่อมขึ้นอยู่กับปริมาณความรุ่นแรงของลมพายุนั้น

    อารมณ์แห่งความเครียดแค้นชิงชัง โกรธ เกลียด โมโห อาฆาตพยาบาท มิได้ดั่งใจ ฯลฯ
    มันได้นำพาความเสียหายมาสู่ผู้ใดใครกันเล่า!

    ไม้ขีดไฟก้านน้อยที่บุคคลจุด ได้เคยเผาทำลายป่าไม้ให้ราบพนาสูญมานักต่อนักแล้วมิใช่หรือ
    แต่ก่อนที่มันจะได้เผาทำลายสิ่งใด ท่านสังเกตุบ้างหรือไม่ว่า หัวของมันเองได้ถูกจุดเผาทำลายไปก่อน!

    ทำไมความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มักจะเกิดขึ้นมาภายหลังจากที่ลมพายุสงบลง
    ในขณะที่พระเพลิงกำลังเผาไหม้สุมอยู่ในหัวอก นรชนผู้อบรมมาดีแล้วมิยอมปล่อยจิตของตนให้ตกเป็นทาส
    ความเครียดแค้นชิงชัง โกรธ เกลียด โมโห อาฆาตพยาบาท มิได้ดั่งใจ ฯลฯ

    ยามนี้เราท่านทั้งหลายมีความสงบเป็นอารมณ์ปกติดีอยู่หรือไม่?
    ยามเมื่อท่านสัมผัสกระแสแห่งธรรมอารมณ์ของท่านเป็นเช่นไร?

    กรรมใด ทำแล้ว หมองหม่น
    ร้อนรน ใครเล่า หม่นหมอง
    ธรรมใด ดีแล้ว ไตร่ตรอง
    ประครอง จิตพ้น ไพรี

    (สุนทรหน่อ)
     
  16. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เรือนร่างที่แสนสวยสดงดงามของชายหนุ่มหญิงสาวยามแรกรุ่น ใบหน้าอันเอิบอิ่มพริ้มพรายยามสนุกสนาน
    กิริยามารยาทอันแสนอ่อนหวานยามเอื้อนเอ่ยสุนทรวจี ความเป็นสุภาพบุรุษของชายหนุ่มยามเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงคนรัก ฯลฯ
    รูปธรรมและนามธรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นธรรมชาติของความงาม ที่มีกระแสดึงดูดซึ่งกันและกันอยู่ภายใน
    ไม่ว่าความสวยสดงดงามนั้นจะถูกดัดแปลงปรุงแต่งหรือไม่ก็ตาม ทุกสรรพชีวิตก็ยินยอมพร้อมใจที่จะสยบอยู่ในโลกแห่งมายานี้
    ยากนักที่ใครจะสามารถปฎิเสธ หรือหลีกหนีกฎเกณฑ์การดำรงค์เผ่าพันธ์ไปได้...

    บรรยากาศยามเมื่อฟ้าหลังฝน ท้องฟ้ายามเมื่อสายรุ้งงามพาดผ่าน กลิ่นไอของหมู่มวลพฤกษายามเมื่อแรกแย้มต้นฤดูกาล
    ช่างเป็นภาพความทรงจำที่สุดแสนประทับใจของใครหลายคน สิ่งดีๆเหล่านี้เราอาจสัมผัสและเข้าถึงมันได้ไม่ยากนัก
    เพียงแค่รอช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม ความงดงามตามธรรมชาติก็จะปรากฎให้เราพบเห็นได้เอง...

    รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของเด็กน้อย
    แววตาที่ใสซื่อของสัตว์เลี้ยงผู้จงรักษ์
    มิตภาพของสหายยามตกทุกข์ได้ยาก

    ความงดงามลักษณะนี้ เราอาจต้องใช้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนในการสัมผัสเข้าถึง
    นั่นเป็นเพราะว่า มันมีเหตุปัจจัยเกิดจากความประพฤติและการกระทำของเราเอง...

    คำขอขมาลาโทษจากผู้สำนึกผิด
    น้ำใจของบุพการีที่มีให้แก่บุตรเสมอ
    การให้อภัย ไม่ผูกอาฆาต พยาบาท จองเวร

    คุณธรรมเหล่านี้เป็นความงดงามที่มีอยู่เฉพาะในตัวบุคคล หลั่งออกมาจากความรูสึกภายใน
    ใส สะอาด บริสุทธิ์ จริงใจ ไร้กังวล...

    ในบรรดาความงดงามทั้งหลาย"ผู้ตัดอาลัยในโลกสงสารได้จนหมดสิ้น"ถือเป็นสุดยอดความงามอย่างแท้จริง!

    ในขณะที่สังขารร่วงโรยผ่านวัยไปตามกาลเวลา เราท่านทั้งหลายเข้าถึงความงามภายในจิตใจของตนแล้วหรือยัง?

    โลกสมมุติ สุดอาลัย กายกำหนัด
    โลกวิบัติ แสนวุ่นวาย มิจางหาย
    โลกวิมุติ หลุดพ้น หยุดอบาย
    โลกสุดท้าย เร่งรุด ฉุดภาวนา

    (สุนทรหน่อ)
     
  17. ช่อทิพย์123

    ช่อทิพย์123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +120
    โลกสมมุติ สุดอาลัย กายกำหนัด
    โลกวิบัติ แสนวุ่นวาย มิจางหาย
    โลกวิมุติ หลุดพ้น หยุดอบาย
    โลกสุดท้าย เร่งรุด ฉุดภาวนา
    อนุโมทนา
     
  18. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    โลกเอ๋ย....
    ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...
    ทั้งที่เรามี....
     
  19. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามโต๊ะและพื้นเรือนหลังจากทำความสะอาดด้วยไม้กวาดและไม้ถูพื้นไปพักใหญ่ ก็แลดูสะอาดสะอ้านตาขึ้นมาทันใด
    ครั้นพอปล่อยทิ้งไว้นานหลายวันกลับพบว่ามีฝุ่นละอองและขี้หยายเยื้อจับหนาแน่นอีกเช่นเคย ทั้งๆที่เราก็พยายามปิดประตูหน้าต่างอย่างมิดชิด
    แทบทุกครั้ง ด้วยหวังว่านานๆทีจึงค่อยมาทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูกันใหม่ แต่คิดผิดถนัด
    ชะรอยว่าฝุ่นละอองเหล่านี้คงปลิวมาตามสายลม แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อชีวิตนี้ต้องพึ่งพาลมหายใจเข้าออกอยู่ทุกขณะ
    จะมีวิธีไหนบ้างไหม ที่จะทำให้เราไม่ต้องทำความสะอาดกันบ่อยๆ หรือจะต้องหมั่นทำความสะอาดกันอยู่อย่างนี้จนกระทั้งวันตาย!...

    การทอดอาลัยในชีวิตล่องลอยไปตามยถากรรมจะต่างอะไรกับปลาตายที่ล่องลอยไปตามสายน้ำอันเชี่ยวกราด สุดท้ายก็จมดิ่งลงสู่ห้วง
    มหรรณพหาคุณประโยชน์มิได้เลย ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้เพราะใครจะรู้ความตายแม้วันพรุ่งนี้
    ผู้หมั่นเจริญจิตภาวนาชำระจิตของตนให้ขาวรอบอยู่เนืองนิจ เมือแลเห็นกาย วาจา ใจ ของตนสะอาดบริสุทธิ์เรียบร้อยดีแล้ว
    ย่อมไม่เศร้าโศกแม้กาลไหนๆเลย เพราะมองเห็นแต่กรรมบริสุทธิ์ของตน!...

    "ปลาเป็นที่แหวกว่ายคุ้งน้ำขึ้นสู่ที่สูงพึ่งหวังประโยชน์จากการขยายเผ่าพันธุ์แม้ฉันใด
    นรชนผู้สดับดีแล้วก็ไม่ปล่อยคืนวันให้ล่วงไปเปล่าโดยปราศจากประโยชน์แม้ฉันนั้น"

    ในขณะที่ฝุ่นละอองธุลีกิเลสเข้าจับกุมดวงจิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

    เราท่านทั้งหลายพบเห็นสิ่งปฎิกูลเหล่านั้นแล้ว มีความคิดเห็นเป็นเช่นไร?

    ควรแล้วล่ะหรือที่จะทอดอาลัย ปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไปตามยถากรรม

    จงหยิบไม้กวาดคือศีล และไม้ถูพื้นคือสมาธิขึ้นมาชำระจิตดวงนี้ให้ขาวสะอาดด้วยความเพียรอันชอบเถิด

    แต่นั้นท่านจะพบแสงสว่างทางปัญญา มิต้องกลับมาระทมทุกข์เหนื่อยยากลำบากกับบ้านเรือน

    คือธาตุขันธ์อันเป็นที่ข้องอยู่ของจิตนี้อีกเลย!

    "จิตพิสุทธิ์ วิเศษล้ำ อายตนะ
    เพียรชำระ กายวาจา ด้วยบทศีล
    เพียรละโลภ โกรธหลง สมาธิเจน
    หนีกรรมเวร ด้วยสติ อธิปัญญา"
     
  20. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    โง่มานานแหล่ะ ถึงเวลาปัญญาก็มาเอง
    โลกก็เป็นเช่นนี้มานานแสนนาน
    แล้วจะเอาอะไรกันหนักหนา
    สุดท้ายก็ตายทุกตัวละคร
     

แชร์หน้านี้

Loading...