เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ผู้ที่รู้เรื่องนี้ดี ยังไม่ตาย อยากรู้ความเป็นจริงให้ไปสอบถาม หลวงตากอไผ่ หลวงพ่อน้อย วัดโปร่งสวรรค์ และป้าอี๊ด ถามพระดีกว่า เพราะพระไม่มุสา ไม่โกหก​

 

อันนี้เหล่าสู่กันฟัง นะขอรับ ถ้าได้มโนมยิทธิ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ของจริง ก็คือของจริง ถ้าไม่ได้มโนมยิทธิ ก็ถือว่าเป็นนิทาน เล่าสู่กันฟัง เพราะไม่มีใครได้ ไม่มีใครเสีย เราไม่ได้อะไรจากท่าน และท่านไม่ได้เสียอะไรมาให้เรา บางสิ่งบางอย่าง รู้แล้่วพูดยาก แต่้ก็คันปากอยากพูด เป็นบางลีลา ​

 

ประการสำคัญ บน บาน ศาล กล่าว อะไรเอาไว้ จงได้กระทำตามนั้น ผิดสัจจะ วาจา ความฉิบหายจะมาเยือน ​

 

​

 

​

 

สี่ศอก นี่ สองเมตร น่ะครับ

ถ้าหล่อด้วยทอง งานใหญ่ล่ะครับ ไม่พอ มีซุ้มเรือนแก้วอีก มีฐานอีก

เหมือนหล่อ ๒ หรือ สามองค์ เอามาต่อกัน ช่างไม่ค่อยชอบครับ หาช่างเก่งๆยาก และ ราคาจะสูงมากครับ

ทำด้วยปูน ยังหลายแสน ปิดทองแท้อีก หลายแสนครับ

ถ้าหล่อ น่าจะเป็นล้านครับ

 

แขนท่านยาวถึงเข่าน่ะครับ ถ้าถือดาบด้วย...แหะๆ ฉั้วเดียว น่าจะคอขาดครับ

 

วันนี้เกิดอุบัติเหตุช่วงเช้า ระหว่างไปทำงาน ผมขี่มอไซด์ไปปกติ แต่วันนี้ฝนตกหนักมาก พอถึงช่วงลงสะพานตากสิน เข้าเส้นสุรศักดิ์ ผมใช้ความเร็วที่ 40 มีรถมอไซด์รับจ้างวิ่งแซงมาจากอีกเลนนึงมา โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ผมบีบแตแล้วเค้ายังไม่ชะลอความเร็ว มอไซด์รับจ้างพยายามที่จะแซงแต่ติดรถยนต์ข้างหน้า แล้วเบียดมาทางรถผม จนชนเข้าที่กลางคัน รถมอไซด์รับจ้างเสียหลักไปชนรถยนต์ รถมอไซด์ที่ผมขับก็เสียหลักทับตัวผมกระเด็นไถลไป50เมตร ร่างกายขูดไปกับพื้นถนน ผมใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะ ผมคิดว่าผมคงจะบาดเจ็บมาก แต่พอล้มแล้วผมตั้งสติได้ก็เอามือไปบิดกุญแจรถ แล้วพยายามยกรถที่ทับตัวออก แต่ยกไม่ขึ้น จนมีคนมาช่วย หลังจากนั้นสำรวจดูที่ร่ายกายก็ไม่พบ บาดแผลที่เป็นอันตราย มีแต่รอยที่แขนครับ ในใจตอนไถลผมนึกถึงพระที่คอ คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร ที่ผมนับถือที่สุด กราบหลวงปู่สามครั้ง ที่ทำให้ผมพ้นจากอันตรายครั้งนี้ครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่ออั๊บ ค่ะ​

 

ครูบาอาจารย์คุ้มครองครับ สาธุ

 

นาฬิกาสวยครับ...แหะๆ

กราบ ๆ ๆ หลวงพ่ออั้บด้วยครับ ไหว้ท่านทุกคืน

อ้ออย่างไร ไปหาหมอเช็ดดูซ่ะหน่อยน่ะครับ ตรวจหัว ตรวจกระดูก ตรวจคอ แขน ขาน่ะครับ หมอเขาดูจะรู้ ถ้าสงสัยเขาจะ x-ray และ ถ้ารู้สึกซึมๆ ลงไป ให้รีบหาหมอทันทีครับ

ของจริงจะเป็นแบบนี้แหละ ถึงเวลาคับขันช่วยได้ หนักเป็นเบา

ป.ล. รถมอเตอร์ไซด์ เป็นไงบ้างครับ

 

รูปหล่อ ไม้พยุงแกะ ๒ นิ้ว หลวงพ่ออั้บ วัดท้องไทร

ผมมีรูปหล่อ ๕ นิ้วหลวงพ่ออั้บ หลายองค์น่ะครับ รับกับมือทุกองค์ หวงมาก ชอบแบบขี่หมู ไปเจอล่ะคว้าทันที เพราะรุ่นนี้เสกนาน พิธีนาน ๗ วัน ท่านลงครบ

ได้มาเอามาให้หลวงพ่อ เป่าล้างแล้วเก็บเข้าห้องพระครับ

แต่ที่ชอบที่สุด เอาวางไว้หัวนอนทุกคืน คือองค์นี้แหละครับ เสกนานตลอดพรรษา ( ใส่ลังต่อสายสิญญ์มา ) แล้วมารับกับมือ ท่านลงจารให้

หลวงพ่อท่านชอบอะไรที่เป็นไม้มากๆน่ะครับ เพราะจิตและอาคมท่านเหมาะกับ พวกไม้ ท่านบอกผมเองว่า เอาไม้ เสกขึ้นง่ายดี ( บอกหลายครั้ง เน้นๆ หลายวาระ ) โดยเฉพาะ แม่พิม เสกด้วยไม้ล่ะ จึ้กเดียวติดครับ โดยเฉพาะชุดไม้ตะเคียน เพราะมีแรงของธาตฺน้ำ ธาตุดิน แรงเทวดาที่อยู่ในไม้มาก่อนครับ ผมเข้าใจเอาเองว่า เหมาะกับกสินของท่าน ทำให้ ญาณสมาบัติของท่านหนุนได้เหมาะเจาะ ไม่ดิ้น ไม่เฉียด

เรื่องเสกของนี่ ผมชอบหลวงพ่อ อั้บ ท่านมาก แนวหลวงพ่อจง ฉึกเดียวใช้ได้ครับ ไม่ต้องตั้งท่านาน ( หลวงตาเล็ก ก็แบบเดียวกันน่ะครับ ศิษย์ อาจารย์เดียวกัน ท่านกำหนดจิตฉั้วะ จิตมั่นใช้ได้ สำเร็จแน่นอน และ ต้องไม่ลืม ผู้เฒ่าเหรียญบินน่ะครับ จารเสร็จใช้ได้เลยครับ ท่านเคยจารเหรียญให้ผม แล้วบอกผมว่าลงให้ครบทุกอย่างแล้วน่ะ จารแปปเดียวครับ ท่านพูดอย่างนั้นจริงๆ อะไรที่ได้จากมือท่านหวงมากครับ โดยเฉพาะเบี้ยแก้ )

ที่หัวนอนมีรูปหล่อ หลวงตาเล็ก ( อาจารย์ ) หลวงพ่อทรง และ หลวงพ่ออั้บองค์นี้ครับ เอาไว้สวดมนต์ถวายท่านแล้ว นั่งกำหนดสตินิ่งๆ ถวายท่านครับ

กราบๆ ๆ ครูบาอาจารย์ทั้งสามท่านครับ ท่านยังช่วยศิษย์อยู่เรื่อยๆครับ

 

ขอบคุณครับพี่พี ไปหาหมอเรียบร้อยครับ ไม่แตกไม่หัก แต่ฟกช้ำนิดหน่อยครับ รถมอไซด์ มีแค่รอยถลอกเล็กน้อยครับ

 

ลืมเล่าอีกเรื่องสำหรับแหวนรุ่นนี้น่ะครับ ผมมีความนับถือและ เสื่อมใสสองวิชาของหลวงพ่ออั้บ แบบมีประสบการณ์จังๆ และ เชื่อมั่น ๑๐๐ % คือ แม่พิม และ กันงูครับ

ถ้าเป็นของที่ผมไปขอรับกับมือท่าน ผมจะขอให้ท่านเมตตา ไม่ว่าอะไร ผมจะขอ กันงู ด้วยทุกครั้ง วิชากันงู ลงนานหน่อย และ ลงยาก ถ้าไม่ขอ ส่วนใหญ่ท่านจะไม่ลงให้ และจะลงให้ แบบเลือกคนน่ะครับ ไม่ได้ทุกคน ที่สังเกตุ จะเห็นว่าลงให้คนที่ท่าน คุ้นเคย หรือ ถ้าแปลกหน้าก็ต้องดูมีภูมิธรรมหน่อย แบบว่า แสบมาเลย ท่านคงไม่ให้ ไม่เกี่ยวกับเงินน่ะครับ

แหวนรุ่นนี้มีประสบการณ์ ดูดพิษน่ะครับ โดย มด แมง ต่อ แมลงมีพิษต่างๆ กัด ต่อย เอาแหวนจี้ลงไปเลยครับ แล้วท่องคาถา แม่พิม ผมเจอเองกับตัว ๔ ครั้งครับ ตอนไปบวชและ ไปปริวาส ที่ป่าหลังวัด ที่ยุง แมลง มด มดตะนอย ตัวต่อ ชุมมาก ได้แหวนรุ่นนี้แหละครับ ดีจริงๆ มั่นใจมาก

พอโดยกัดหรือ ต่อย ให้แหวนจี้ไป แหวนจะดูดที่แผล ปวดจิ้ดๆขึ้นมาทันที อย่าตกใจน่ะครับ กดแช่ไป จน อาหารนั้นหาย ภาวนาคาถา แม่พิมไป เรื่อยๆ จนรู้สึกสบายจึงถอนหัวแหวน

เสร็จแล้ว หายาทา หรือ ถ้าเป็นมาก ไปหาหมอต่อทันทีครับ แต่อาการ จะบรรเทาไปมาก ถ้าน้อยหายดังปลิดทิ้งทันที




ชุดทองฝังเพชร ทำเผื่อไว้ลูกหลานครับ เสกมาเป็นสิบๆครั้ง เสกข้ามมาหลายปี เอาใส่มือท่านเสกทีล่ะวง จะเก็บไว้ให้ลูกหลานครับ ตอนนี้ทองแพงคงหมดสิทธิ์ทำใหม่



ชุด เงินหน้าทอง เงินหน้านาค สามกษัตริย์ ทำเป็นตัวอย่าง วงใหญ่ไปเลยเลิกทำไว้แค่นี้



แหวนเงิน วงนี้ ว่าจะทำเป็นแบบว่าจะฝังแก้วสีเขียวที่แม่พิมเขาชอบ แต่ยุ่งยาก เลยไม่ได้ทำ หมดโอกาศแล้ว ไม่น่ารีรอ ทำไว้ สัก โหล สองโหล ก็ดี แหะๆ



แหวนเงิน พิเศษ หลวงพ่อ ลงกันงูซ้ำให้ที่ หลังแหวน ท่านหยิบมาทำให้เอง ไม่ได้ขอ ผมเลยแยกไว้พิเศษ เป็นของดีสุดยอด เอาไว้ใช้งานจริงๆครับ

แต่แหวนทุกวงที่ผมทำ ผมขอเน้นๆเลยว่า แม่พิม และ กันงู ครับ สุดยอดวิชา วัดท้องไทรครับ ได้ผล ๑๐๐ % ไม่มีพลาด

 

เยี่ยม ระดับหลวงพ่ออั้บมาเอง ...รับรองผลครับ

 

(ครับ บัวใต้น้ำมาถามอีกแล้วครับ)
ปกติเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า พระบูชาจะอัญเชิญไว้กราบไหว้ในห้องพระ
ในห้องนอนที่หัวเตียง วางพระบูชาได้หรือครับ
ถ้าพี่ยืนยันว่าได้ผมจะทำตามบ้าง เพราะก่อนนอนจะสวดบทอนันตคุณ ๕ ประการ ระลึกถึงพระและเทพและผู้มีพระคุณที่รักและเคารพนับถือมาก ๆ ถ้ามีพระบูชาของท่านวางให้เห็น น่าจะตั้งจิตเป็นสมาธิได้ดีกว่าครับ

 

กราบ แม่พิม ค่ะ​

 

ท่านแก่เหมือนผม คงไม่มีกิจกรรมอะไร บนที่นอนอีกน่ะครับ...แหะๆ

ผมขอยกของสูงมาอ้างหน่อยน่ะครับ ผมเคยดู ภาพยนต์สารคดี เกี่ยวกับสมเด็จย่า ๑ เรื่อง ท่านคงทัน สมเด็จย่าน่ะครับ ท่านน่ารักมากครับ แผ่นดิน ต้องมีคนแบบนี้เยอะน่ะครับ เรื่องที่จะเล่าของท่านมีมากมายมากครับ เล่าสามวันไม่หมดครับ

สมเด็จย่าท่านเป็นสามัญชนน่ะครับ ด้วยบุญญาธิการ ได้มาร่วมพระราชวงศ์ จักรี ซ้ำ ยังเป็นพระมารดา ของกษัตริย์ ถึงสองพระองค์

ในสารคดีนั้น เ่ล่าถึงพระประวัติของพระองค์ท่าน ที่ สวิส ผมจำได้ว่าเป็นที่ โลซานด์ ( มันนานจัด อาจจะเลือนไป ) สมเด็จย่าจะประทับที่นั่นบ่อยมาก เรื่องสารคดี นั่นเล่าหลายอย่าง แต่ที่ผมจำได้เด็ดขาด คือสมเด็จย่าท่าน ชอบงานศิลป ท่านจะเก็บพวกดอกไม้ บนเขาแถวโลซานด์ ด้วยพระองค์เอง เอามาทำ สคส เป็นดอกไม้เล็ก พวกดอกหญ้าตามพื้น บนเขา น่ะครับ

และ ถ้าอากาศหนาวมาก ท่านจะทำเครื่องปั้นดินเผา ที่วังของท่านครับ พวก ถ้วย ชาม แต่ที่สำคัญคือท่านปั้น พระพุทธรูป องค์เล็ก สวยงามมากครับ เห็นแล้ว ต่อมหมวกไตทำงานหนักมาก เกินวาสนาที่จะฝันถึงจริงๆครับ

ท่านทรงเล่าว่า ปั้นมาสามองค์ สอง องค์ ให้ ลูกชาย ( พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ) และ ลูกสาว ( สมเด็จพระพี่นาง ) ท่านทรงเล่าว่า พระเจ้าอยู่หัว เอาพระนี้วางไว้หัวนอน และ เอาดอกไม้ถวายทุกคืน ( จำตรงนี้ไว้ก่อนน่ะครับ มันมีหลายฉากในชีวิตของผม ) ( และ ต่อมา ผมคิดว่าท่านปั้นให้ สมเด็จพระเทพ อีกน่ะครับ กว่าจะเสร็จ เอาน้ำยาทา เผาให้แกร่ง คงนานน่าดูสำหรับคนแก่น่ะครับ )

แต่ท่านบอกว่า ปั้นอีกองค์ ให้ คุณ ชาติชาย พิธีกรในสารคดี เลยสงสัย ถามว่า ทำไมปั้นให้ล่ะเจ้าค่ะ

ท่านบอกว่า เขาขอมา

ทุกคนก็เงียบไม่กล้าถามต่อ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด ท่านชาติชายเป็น นายกรัฐมนตรีน่ะครับ

ผมฟังตอนนี้ แล้วสงสัยหลายอย่าง ขนาด ท่านชาติชายท่านไปขอสมเด็จย่าเลยหรือ เลยค้นคว้าข้อมูล แล้วถึงบางอ้อ ว่าคุณหญิงบุญเรือน ศรีภรรยาของ พณ ท่านชาติชาย เคยเป็น คนติดตามใกล้ชิด สมเด็จย่ามาก่อน ที่ต่างประเทศสมัยยังสาว ท่านชาติชายไป เป็นทูต ท่านคงจะไปเจอกันแล้ว พบรักกัน เรียกว่าเป็นเด็กสมเด็จย่ามาก่อนน่ะครับ

คนขอน่าจะเป็นคุณหญิงบุญเรือนนี่เอง เพราะท่านสนิทสนมกับสมเด็จย่า อย่างมากมาก่อนครับ

จบฉากนี้น่ะครับ

ฉากใหม่ ผมไปวัดหลวงพ่อ เจ้าคุณถาวร บ่อยมากในยุคหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังไปบ้าง แต่ภรรยาผมไปประจำ ในยุคนั้น หลวงพ่อยังไม่เป็นเจ้าคุณ และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จมาเยี่ยมที่ วัดบ่อยๆ และ หลวงพ่อ ก็ไปที่วังบ่อยๆ เพราะพระองค์ท่านและ หลวงพ่อ ชอบพัฒนาชนบทเหมือนกัน มีหลายโครงการณ์พระราชดำริห์ ที่หลวงพ่อ เอาไปทำแล้วสัมฤทธิ์ผล

คืนหนึ่ง ตอนหัวค่ำ ( นานมาแล้ว เกิน ยี่สิบปี ) ตอนกำลังสวดมนต์ และ ทำสมาธิกัน หลวงพ่อ บอกผ่านไมค์ว่ามีพระแจก ( ท่านแจกบ่อยมาก แจกฟรี ...ผมชอบมาก ) แต่คราวนี้ พิเศษและสำคัญมาก พระนี้ให้แค่คนล่ะองค์ ใครได้ไป เกิน ต้องเอามาคืน ห้ามมาเข้าแถวซ้ำเวียนเทียน ใครไม่มา พระหมด ไม่มีอีก พระนี้ ทำด้วยดอกไม้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้บูชาพระที่ห้องพระและ หัวนอน แล้วให้พระราชเลขาเอามาให้หลวงพ่อ ถาวร มาทำพระ ทำได้ ประมาณ ขันใบใหญ่ ๑ ใบ จำนวนพระคงจะหลักร้อย แล้ว นำมาให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อธิษฐานจิต หนึ่งคืน ตอนเช้าพระราชเลขา ( ที่จริงรู้จักท่าน แต่ ท่านไม่รู้จักผมน่ะครับ ผมรู้จักท่านแบบเด็กรู้จักผู้ใหญ่ว่าเป็นใคร ) ไปรับพระในขัน พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงทรงพระสุหร่ายแล้วบอกเอาไปให้หลวงพ่อถาวรอธิษฐานจิต แล้วแจกกัน

หลวงพ่อ ถาวรอธิษฐานจิตจนเต็มตามพระราชบัญชาแล้ว ( น่าจะเป็นเดือน ) ท่านก็เอามาแจกคืนนั้นตามพระราชประสงค์ ผมฟังแล้ว แทบช็อค ดีใจแบบสุดขีด ไปเข้าแถวรับ กลัวพระหมด ได้รับพระองค์นั้นจากมือ หลวงพ่อ มือไม้มันเย็น สั่นไปหมด (ขณะที่เขียนนี้ ยังขนลุก น้ำตาไหล มือชาอยู่ ) พระองค์นี้ทำจาก ดอกไม้และมวลสารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายแก่พระพุทธรูป เซรามิก ของสมเด็จย่าและ พระราชทานมา ซ้ำ ยังทรง อธิษฐานจิตให้ด้วย จะไปหาที่ไหน พระสมเด็จจิตรดาน่ะ อย่าไปฝันเลยครับ ได้นี่ ชอบมากกว่าซ่ะอีกครับ เหมือนได้จากพระหัตถ์ท่าน

ไม่ทราบที่เล่ามานี่ ท่าน get ไหมครับ ว่าได้ตอบคำถามของท่านไหม

ถ้ายังไม่เข้าใจ กลับไปอ่านซ้ำหลายๆรอบน่ะครับ...ลูกพี่

 

ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่ อุตส่าห์สอน และพิมพ์ให้ความรู้ซะยาว
อ่านรอบแรกจบแล้วและเข้าใจในระดับหนึ่ง
แต่ผมก็คงต้องอ่านใหม่อีก หลาย ๆ รอบ เพื่อเก็บบรรยากาศ เพื่อให้เข้าใจความรู้สึก เพื่อให้เข้าใจในความหมายที่มีซ่อนมีนัยยะอยู่หลาย ๆ ชั้น และเข้าใจให้มากมากยิ่งขึ้น
ขอคารวะในการถ่ายทอดคำตอบของความรู้ต่างๆ ที่ให้มาครับ
ผมจะนำความรู้นี้ไปปฎิบัติต่อเนื่องจากความรู้ก่อนหน้านี้ที่พี่ถ่ายทอดให้ผมและหรือรวมกับอีกหลาย ๆ ท่านที่ได้รับแนวทางที่ดีในหลาย ๆ ครั้งจากในกระทู้นี้ครับ

 

​

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจำลองที่สำคัญองค์หนึ่งในรัชกาลปัจจุบันได้แก่ พระพุทธรูปเซรามิค เคลือบสีเขียว ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงปั้น (รูปที่ ๕.๑๐) โดยมีแบบเป็นพระพุทธรูป แก้วสีเขียว ที่มีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (กัลยาณิวัฒนา ๒๕๒๗, ๙๑) ซึ่งพระพุทธลักษณะขององค์ต้นแบบน่าจะเป็นพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมา-กรจำลอง พระพุทธรูป ๒๐ องค์แรกนั้น ทรงปั้นด้วยพระหัตถ์จึงมีขนาดไม่เท่ากัน ต่อมามาทรงใช้แม่พิมพ์ จึงทำให้มีขนาดเท่ากัน มีหน้าตักกว้างประมาณ ๕ เซนติเมตร ยกเว้นองค์ที่มีขนาดหน้าตัก ๙ เซนติเมตรนั้น ทรงปั้นถวาย สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังพระราชทานแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม และพลตรี ชาติชาย ชุณหะวัน สำหรับของ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยนั้นเป็นพระพุทธรูปสีขาว ซึ่งมีเพียงองค์เดียว (เรื่องเดียวกัน, ๘๙ – ๑๐๐) พระ พุทธรูปฝีพระหัตถ์เหล่านี้ ทรงปั้นระหว่างช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๓ – ๒๕๑๗ (ค.ศ. 1960 – 1974) ทุกองค์มี พระนามและหมายเลขกำกับ

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจำลองฝีพระหัตถ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีความ เรียบง่ายและสงบนิ่ง ที่สะท้อนให้เห็นพระราชศรัทธาที่ทรงมีในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง โดยที่ พระองค์เองทรงศึกษาและปฏิบัติธรรม และมีพระราชประสงค์ที่จะให้ประชาชนนำเอาธรรมะไปปฏิบัติ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย เช่นทรงโปรดให้จัดรายการ “บริหารทางจิต” ของสถานีวิทยุ อ.ส. (ย่อมาจาก พระที่นั่งอัมพรสถาน) พระราชวังดุสิต ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ (ค.ศ. 1968) เป็นต้นมา โดย อาราธนาสมเด็จพระญาณสังวร เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์พระสาสนโสภณ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยที่ พระองค์ทรงตรวจต้นฉบับและพระราชทานพระวินิจฉัยทุกครั้ง

ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์เรื่อง “อปัสเสนธรรม ธรรมเหมือนพนักอิง”ของพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวโร เจริญ) วัดเทพศิรินทราวาส ที่พระองค์ทรงเห็นว่ามีประโยชน์ใน ทางฝึกอบรมจิต เพราะเป็นธรรมะที่ควรศึกษาและปฏิบัติ ๔ ประการ เพื่อดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ (ค.ศ. 1970) ทรงให้พระสาสนโสภณเรียบเรียงเรื่อง อวิชชา และเรื่องสันโดษ และในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ (ค.ศ. 1976) ทรงให้จัดพิมพ์เผยแพร่ เรื่อง “พรหมวิหาร ๔” ของสมเด็จพระญาณสังวรมี พระดำริว่า “พรหมวิหาร ๔” อันได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เป็นคุณธรรมประจำในการ ดำเนินชีวิตของทุกคน (สุเชาวน์ ๒๕๓๓, ๑๙ – ๓๔) ดังนั้นพระพุทธรูปฝีพระหัตถ์จึง “เป็นประดิษฐกรรม ที่แสดงออกถึงความใฝ่พระราชหฤทัยในธรรมและพระราชศรัทธาอันมั่นคงยิ่งในบวรพุทธศาสนาอย่างดียิ่ง”(เรื่องเดียวกัน, ๔๓)


หมายเหตุ พระพุทธรูปฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พ.ศ. ๒๕๑๓ (ค.ศ. 1970) หมายเลข ๑๐ เซรามิค หน้าตักกว้าง ๖ เซนติเมตร สูง ๘.๕ เซนติเมตร สมบัติของ ม.ร.ว. สุนิดา กิติยากร

รูปที่ ๕.๑๐ ข.ใต้ฐานพระพุทธรูปฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (รูปที่ ๕.๑๐ ก.)


กราบขอบพระคุณ ที่มาลักษณะไทย : พระพุทธปฏิมา : ภูมิหลัง : ศิลปะการแสดง : วัฒนธรรมพื้นบ้าน