ชักถี่!รถไฟ อีกแล้ว

ชักถี่!รถไฟชนประสานงาที่สวิตเซอร์แลนด์ บาดเจ็บหลายสิบ

เอเอฟพี/เดลิเมล์ - รถไฟ 2 ขบวนชนประสานงากันบริเวณภาคตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์ในวันจันทร์(29) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 ราย ในนั้น 5 คนอาการสาหัส อุบัติเหตุเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับระบบขนส่งสาธารณะทางรางของยุโรปเป็นหนที่ 3 ในเวลาห่างกันไม่กี่สัปดาห์

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้ๆกับสถานีแกรกส์ มาร์นองด์ เวลาประมาณ 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.) ขณะที่หนังสือพิมพ์เจนีวา ทรีบูน ของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุตำรวจ รถฉุกเฉิน หน่วยดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์ รุดไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว



สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 คน ในนั้น 5 รายอาการสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคนอื่นๆส่วนใหญ่ ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่จุดเกิดเหตุ

รายงานข่าวระบุว่ารถไฟทั้งสองขบวนแล่นอยู่บนรางเดียวกัน และเกิดประสานงากันขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังคนละฟากของเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเบิร์น ราว 50 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่ทราบถึงต้นตอของอุบัติเหตุครั้งนี้ "ขณะที่รถไฟของเรามาถึงสถานี รถไฟอีกขบวนก็พุ่งชนเราเต็มแรง" ผู้โดยสารที่อยู่ในเหตุการณ์บอก



ฌอน คริสโตฟี ซัวเตเรล โฆษกตำรวจแห่งรัฐโว ระบุว่าเจ้าหน้ากำลังเร่งมือปฏิบัติการกู้ภัยและดำเนินการสืบสวนหาต้นตอของอุบัติเหตุช่วงค่ำคืนบนรางรถไฟสายท้องถิ่น ขณะที่สื่อมวลชนของสวิตเซอร์แลนด์เผยแพร่ภาพถ่ายเผยให้เห็นว่าซากหักพังของหัวจักรของรถไฟทั้งสองขบวนจอดแน่นิ่งอยู่บนราง

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรืออาการของคนขับ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งเกิดโศกนาฏกรรมรถไฟที่แล่นด้วยความเร็วสูงตกรางที่เมืองซานติอาร์โก เดอ คอมโปสเตลา ในสเปน คร่าชีวิตผู้โดยสารมากถึง 79 ศพ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ามีต้นตอจากการใช้ความเร็วเกินกำหนดของพนักงานควบคุมรถไฟ



ย้อนกลับไปหน้านั้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ก็มีเหตุรถไฟตกรางที่ชานกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เช่นกัน และจากการเสียชีวิตของสตรีได้ที่รับบาดเจ็บสาหัสในวันจันทร์(29) ก็ส่งผลให้ยอดเหยื่ออุบัติเหตุ ณ สถานีเบรตินญี-ซูร์-ออร์ เพิ่มเป็น 7 ศพ



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2556

 

อีกแล้ว! รถไฟสายเหนือตกรางซ้ำซาก

ลำปาง - รถไฟขบวน102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ล้อตกรางที่ลำปางอีกแล้ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชม. เร่งยกล้อจนเปิดใช้งานได้ตามปกติ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (23 ส.ค.) รถไฟเร็ว 102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ซึ่งออกจากต้นทางจ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 06.30 น. เกิดอุบัติเหตุล้อหัวรถจักรหมายเลข 4113 ด้านขวาล้อที่สองตกจากราง ณ สถานีทางหลวงที่ 675/12 ระหว่างสถานีขุนตาน-แม่ตานน้อย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นภูเขาและทางโค้ง ทำให้ขบวนรถไฟที่มี 10 โบกี้ ผู้โดยสาร 80 คน ต้องติดอยู่บนรถ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงมาทำการยกล้อขึ้นบนราง

ต่อมาเวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงทางรถไฟนครลำปางเกือบ 50 คน นำอุปกรณ์เข้าถึงที่เกิดเหตุ และใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง จึงสามารถยกล้อขึ้นจากรางได้ และปล่อยขบวนรถเร็ว 102 ออกจากที่เกิดเห ตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.

เมื่อปล่อยขบวนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้มีการเปลี่ยนหัวรถจักร เพื่อให้ขบวนรถเดินทางต่อไปได้ แต่ให้ลดความเร็วเหลือเพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่รถไฟที่มาจากกรุงเทพฯ ซึ่งจอดรอที่สถานีรถไฟนครลำปาง ได้ปล่อยออกจากชานชาลา เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. โดยใช้ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะเดียวกันนายสมชาย คงชื่นสิน ผู้อำนวยการศูนย์ภาคเหนือ ฝ่ายการเดินร ได้นำเจ้าหน้าที่และพนักงานเข้าทำการซ่อมราง ด้วยการนำไม้หมอนเก่าออก แล้วเสริมไม้หมอนใหม่ ซึ่งมีสภาพ 70-80% แทน และลดความห่างระหว่างช่องจากปกติห่าง 1 เมตร เป็น 50 เซนติเมตร พร้อมเสริมสมอยึดราง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงเป็น 2 เท่าในช่วงทางโค้ง เพื่อไม่ให้รางขยายตัวจนทำให้ล้อหลุดออกจากรางอีก

สำหรับที่เกิดเหตุแห่งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งเกิดเหตุล้อรถไฟด่วนนครพิงค์ตกราง ห่างจากจุดเกิดเหตุครั้งนี้เพียง 500 เมตร









โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. เผย
สถิติรถไฟตกรางรอบ 6 เดือน เกิดขึ้น 40 ครั้ง หรือ เฉลี่ย 2 วัน 3 ครั้ง

ขณะที่ พ.ค. เดือนเดียวมี 4 ครั้ง จี้ เจ้าหน้าที่ใส่ใจ
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุขึ้น 40 ครั้ง หรือ เฉลี่ย 2 วัน เกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง และในเดือน พ.ค. 2555 เกิดอุบัติเหตุขึ้นถึง 4 ครั้ง ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากหลายปัจจัยและโดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคู่มืออย่างเคร่งครัดเข้มงวด และใส่ใจในงานที่รับผิดชอบ ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์รถไฟตกรางเพราะช่วงเทศกาลที่ผ่านมาทั้งปีใหม่และสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด จึงทำให้ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในปี 2557 ประเทศไทยจะมีรางรถไฟที่แข็งแรงขึ้น สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิมหลายเท่าในทุกเส้นทาง รวมทั้งขบวนรถใหม่ตามงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ

พระเจ้าช่วย ถึงมาช่วยจริงก็คงไม่ไหวอัตราเฉลี่ยอะไรจะสูงขนาดนั้น
เฉลี่ย 2 วัน 3 ครั้ง พูดง่ายแบบตลกๆ แต่ไม่ตลกก็คือตกทุกวัน และไม่ใช่วันล่ะครั้งน่ะ แต่เป็นวันละครั้งครึ่ง ถ้าให้คิดแบบคนบ้านนอกคอกนาหลังเขาอย่างผมก็คิดได้แค่เพียงว่าอัตรการตกรางของรถไฟไทยนั้นถ้าเทียบกับจำนวนวันที่วิ่งคือตกได้ทุกวัน อยากจะบ้าตาย

 

"สถิติรถไฟตกรางรอบ 6 เดือน เกิดขึ้น 40 ครั้ง หรือ เฉลี่ย 2 วัน 3 ครั้ง "


คิดเลขยังไงถึงได้ค่าเฉลี่ย 2 วัน 3 ครั้ง ??
ถ้าค่าเฉลี่ยดังที่ว่ามา ในหกเดือน จะต้องตกราง 270 ครั้ง

 

สายเหนือน่าจะนำร่องรางมาตรฐาน(กว้าง)ไม้หมอนคอนกรีตเหล็กเส้นบลส.มีรั้วรอบขอบชิดในเขตชุมชนพร้อมเปลี่ยนเป็นรถไฟไฟฟ้าไปเลย ตามด้วยใต้ อีสาน ออก ตก จะได้ช่วยประหยัดและปลอดภัยในระยะยาวได้ (ลงทุนล้านๆทั้งที)

สรุป
- เปลี่ยนเป็นไม้หมอนคอนกรีต
- ทำไม้กั้นรถไม่ให้เจอกับรถไฟแบบอัตโนมัติ(อาจเป็นการควบคุมระยะไกลจากสถานีระแวกนั้นๆ)ได้ครบทุกจุดก็ดีถมถืดแล้ว
- ไม่ต้องฝันไปไกลถึงไฮสปีดหรอก เอาแค่ให้ออก-ถึงตรงเวลาก็ขอบใจหลายๆแล้ว

 

ผมขอเสนอและขอวิงวอนมายังผู้เกี่ยวข้อง
ทุกท่านว่า...มันคงถึงเวลาที่จะต้องหยุดเดินรถสักพักไหม
เพื่อทำการตรวจสอบปรับปรุงให้มั่นใจ ดีกว่าการใช้ผู้โดยสารรถไฟมาเป็นเครื่องมือ
เพราะมันเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ไม่อยากเห็นพวกท่านส่งกระเช้ามาเยี่ยมผู้บาดเจ็บ
แล้กล่าวแต่คำว่า...เสียใจ...เสียใจ (ผมช่วยไม่ได้จริง ๆ ...รถไฟไทย....ครับผม )

 

จากการที่ดิฉันสังเกตหลายครั้ง
คาดว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถไฟสายเหนือตกราง โดยเฉพาะช่วง ขุนตาลนั้น เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพทางธรณีของพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งลักษณะพื้นที่เป็นทางโค้งลาดชั้น เมื่อเวลาที่ฝนตกหนัก ๆ หรือมีแผ่นดินไหวอ่อน ทางภาคเหนือจะเกิดกรณีรถไฟตกรางเป็นประจำค่ะ

อย่างเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมาก็เกิดแผ่นดินไหว 2 ริกเตอร์ ที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
แล้วเมื่อวันที่ 20 ส.ค. แผ่นดินไหวที่เกาะคา (ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับรอยเลื่อนเถิน)
และเมื่อวันที่ 22 เกิดแผ่นดินไหวที่ อ.แม่วาง (รอยเลื่อนแม่ทา) ประกอบกับช่วงระยะเวลาดังกล่าว เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
หากลองนำสถิติของการตกรางเทียบดู ก็รู้ว่ามันมีส่วนที่เกี่ยวเนื่องกันจริง ๆ ค่ะ

ปล. ประเทศไทยเราโชคดีที่ มีรัชกาลที่ 5 ที่พระองค์ทรงมีพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลว่า
การคมนาคมขนส่งภายในราชอาณาจักรโดยเส้นทางรถไฟนั้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อราษฎรและเศรษฐกิจของประเทศแล้ว
ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการบำรุงรักษาราชอาณาเขต เพื่อให้สะดวกแก่การปกครองและตรวจตราการบริหารราชการแผ่นดินในมณฑลที่อยู่ห่างไกล
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับการขยายอาณานิคมของต่างชาติมายังภูมิภาคนี้

จนกระทั่ง.... ถึงปัจจุบัน รัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศยังคง มัวแต่บริหารประเทศเพื่อตนเองและพวกพ้องน้องพี่ ประชาชนที่เสียภาษีไม่เคยได้รับประโยชน์อะไรด้วยเลย...
แล้วยังจะต้องเผชิญร่วมชะตากรรมกับการเป็นหนี้ทางเศรษฐกิจโดยไม่รู้ตัวอีก
ผลงานที่ผ่านมา.... การบริหารน้ำให้ท่วมขังนานถึง 2 เดือน / โครงการจำนำข้าวที่ขาดทุนยอดเยี่ยม / แม้กระทั่งโปรเจกเล็ก ๆ อย่าง นาฬิกาสุโค่ย และเก้าอี้หลุยส์สุดหรู...

 

ภูมิใจครับที่มีรฟท.เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วเป็นยังไงปัจจุบันก็ไม่ได้ไปไหนไกลแถมยังเป็นแดนสนธยาอีกตะหาก

 

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อสังเกตุและคำท้วงติง
ผมผิดพลาดเองครับที่อ่านข่าวแล้วไม่คิดพิจารณาให้รอบคอบซะก่อน ก่อนนำมาเผยแพร่ต่อว่าข่าวนั้นถูกต้องหรือเปล่า สำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดนั้น(เชิงตัวเลข)ในกระทู้นี้ผมต้องขอโทษเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ

เอาเป็นว่าเราดูข่าวนี้เฉพาะความช่วงระยะเวลา 6 เดือนเกิดเหตุ 40 ครั้งก็พอน่ะครับ

ขอบคุณครับ

 

รถไฟเหนือตกรางอีก เร่งกู้เปิดวิ่งได้ตามปกติแล้ว



เกิดเหตุรถไฟด่วนนครพิงค์เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตกรางช่วงพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โชคดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย ล่าสุด สามารถดำเนินการซ่อมแซมรางและกู้ขบวนจนสามารถเปิดเส้นทางได้ตามปกติแล้ว...
เมื่อเวลาประมาณ 20.50 น. วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า เกิดเหตุรถไฟด่วนนครพิงค์ ขบวนที่ 2 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตกราง ระหว่างสถานีรถไฟบ้านปางป๋วย และสถานีรถไฟบ้านผาคัน พื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยไม่มีผู้ได้รับอันตราย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบว่า ล้อหัวรถจักรด้านหน้าสุดตกราง จากนั้นจึงมีการดำเนินการกู้และขนถ่ายผู้โดยสาร ที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 2 ก.ย. เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการกู้และซ่อมแซมรางบริเวณดังกล่าวเสร็จสิ้น พร้อมปล่อยขบวนรถไฟผ่านได้ตามปกติ.



ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ตามที่ติ๊กเคยกล่าวในกระทู้ก่อนหน้านี้ข้างบน สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถไฟสายเหนือตกรางบ่อยนั้น เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพทางธรณีของพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อเวลาที่ฝนตกหนัก ๆ หรือมีแผ่นดินไหวอ่อน ทางภาคเหนือจะเกิดกรณีรถไฟตกรางเป็นประจำค่ะ

อย่างเคสที่คุณในนิมิตร แจ้งข่าวรถไฟตกรางที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปางนั้น
ในวันเดียวกัน เกิดแผ่นดินไหวที่ จ.ลำพูน ตรงกับรอยเลื่อนแม่ทา
ฉะนั้น ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า แผ่นดินไหวนั้นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวเนื่อง ทำให้รถไฟตกราง
เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวหรือการขยับตัวที่มีผลกระทบกับพื้นที่บริเวณดังกล่าวค่ะ
(อาจจะใช้เวลาเคลื่อนตัวหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ประมาณ 5-6 ชั่วโมง) คงต้องเฝ้าสังเกตกันอีกทีนะค่ะ

 

รถไฟตกรางอีก สายเหนือชะงัก หัวลำโพงสับรางเจ๊ง



การรถไฟฯ เปิดให้บริการเดินรถไฟที่สถานีหัวลำโพงตามปกติแล้ว หลังระบบควบคุมประแจขัดข้องในช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากอุปกรณ์การใช้งานหมดอายุ ด้านผู้ว่าการการรถไฟฯ ยัน ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง แต่จะทำให้รถไฟดีเลย์...

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ไทยรัฐออนไลน์” กรณีระบบการควบคุมประแจสับรางรถไฟที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เกิดปัญหาขัดข้องในช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.ย. 56) ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยเร่งซ่อมแซมให้ใช้ได้ตามปกติโดยเร็ว และให้มั่นใจว่าหลังซ่อมแล้วจะไม่เกิดปัญหาขัดข้องขึ้นอีก อย่างน้อยภายในระยะเวลา 5 ปี ก่อนที่จะย้ายศูนย์กลางการเดินรถไฟ จากสถานีหัวลำโพงไปบางซื่อ ล่าสุด ขบวนรถไฟสามารถเข้า-ออก สถานีหัวลำโพงได้ตามปกติแล้ว ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้าง แต่จะทำให้ขบวนรถไฟล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม

ผู้ว่าการการรถไฟฯ กล่าวต่อว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบควบคุมประแจสับรางรถไฟ รวมทั้งปัญหารถไฟตกรางที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ เป็นผลมาจากอุปกรณ์การใช้งานหมดอายุ โดยยอมรับว่า อุปกรณ์การใช้งานทุกอย่างของการรถไฟฯ ใช้งานมานานแล้ว จึงเสื่อมสภาพและหมดอายุการใช้งาน จึงเกิดปัญหาขึ้นบ่อยๆ ดังนั้น จึงต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างการรถไฟฯ ทั้งระบบ ตามแผนฟื้นฟูการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยการรถไฟฯ จะเร่งผลักดันแผนดังกล่าวผ่านกระทรวงคมนาคม แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณดำเนินการ ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการอี-ออคชั่น ตามแนวทางของกระทรวงการคลัง

“แผนฟื้นฟูฯ การรถไฟฯ มีมานานแล้ว แต่มีการปรับเปลี่ยนมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยทำโครงการโฮปเวล จนล่าสุดที่ต้องปรับใหม่เพราะจะย้ายหัวลำโพงไปบางซื่อ ทำให้แผนฟื้นฟูฯ ต้องล่าช้าออกไปอีก โดยยืนยันว่า ขณะนี้การรถไฟฯ และกระทรวงคมนาคม เร่งผลักดันในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด” ผู้ว่าการการรถไฟฯ กล่าว
วันเดียวกัน มีรายงานเพิ่มเติมว่า เกิดเหตุขบวนรถไฟขนหินตกรางช่วงระหว่างสถานีแก่งหลวงกับสถานีปากปาน อ.เด่นชัย จ.แพร่ ทำให้รถสายเหนือต้องหยุดชะงัก เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเร่งกู้


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 04 Sep 2013 - 12:14



บอกได้แค่ ตกซ้ำซาก บ่อยถี่เกินมาตรฐานจนสุดกู่

 

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. เมื่อคืนนี้(05-09-56) รถไฟตกรางที่แพร่

ข่าว INN



ภาพข่าว www.thairath.co.th

 

ร.ฟ.ท.กู้โบกี้รถไฟตกรางที่แพร่แล้ว เปิดเส้นทางสายเหนือตามปกติ
6 กันยายน 2556 09:30 น.

ภายหลังจากรถไฟเที่ยวด่วนนครพิงค์ ขบวนที่ 2 บรรทุกผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ กว่า 200 คน เดินทางออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ปลายทางกรุงเทพฯ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้ และเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. เมื่อคืนนี้ โบกี้รถโดยสารคันสุดท้าย ซึ่งเป็นตู้นอน ตกรางไป 4 ล้อ 2 เพลา บริเวณเสาหลักตัวเลขรถไฟที่ สทล.555/14 เขตบ้านแม่ลู่ อ.ลอง จ.แพร่ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยทางการ ร.ฟ.ท.ได้ส่งทีมวิศวกรเร่งซ่อมแซมกู้โบกี้ตกรางรถไฟดังกล่าว โดยลำเลียงผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟเด่นชัย เพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงเทพมหานคร
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.ได้กู้โบกี้รถไฟที่ตกราง และซ่อมแซมรางรถไฟเรียบร้อยแล้ว โดยเปิดเส้นทางรถไฟสายเหนือตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งเหตุการณ์รถไฟสายเหนือตกรางครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 13 ในรอบปี ส่วนสาเหตุของการตกราง เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาสาเหตุต่อไป

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์



******************************
ด่วนนครพิงค์ตกรางซ้ำอีกที่ จ.แพร่
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2556 เวลา 10:34 น.



วันนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายวรวุฒิ ขนาดนิตย์ นายสถานีรถไฟเด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ถึงเหตุการณ์รถไฟด่วนนครพิงค์ขบวนที่ 2 ที่เดินทางออกจาก จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ได้เกิดตกรางที่หลักกิโลเมตรที่ 555 บ้านห้วยแม่ต้า อ.ลอง จ.แพร่ ระหว่างสถานีรถไฟบ้านปิน อ.ลอง มายังสถานีบ้านแก่งหลวง อ.ลอง

โดย นายวรวุฒิ เปิดเผยว่า เหตุรถไฟด่วนนครพิงค์ตกราง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. คืนที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่าโบกี้ที่ 11 ของขบวนรถไฟ ซึ่งเป็นโบกี้สุดท้ายได้เกิดตกรางกะทันหัน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำผู้โดยสารที่อยู่ในโบกี้ดังกล่าวมาไว้ที่โบกี้ 10 แล้วทิ้งโบกี้ที่ตกรางเอาไว้ เพื่อรอการเก็บกู้ของเจ้าหน้าที่ ทำให้รถด่วนขบวนที่ 52 เชียงใหม่ –กรุงเทพ ต้องจอดรอกู้โบกี้ที่ตกรางอยู่ที่สถานีรถไฟบ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ และ รถเร็วกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวนที่ 109 ซึ่งออกจากกรุงเทพเวลา12.45 น.ก็ต้องมาจอดรออยู่ที่สถานีรถไฟเด่นชัยแพร่ โดยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ เพื่อรอการกู้โบกี้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟเด่นชัยได้ออกตรวจเช็คผู้โดยสารทั้งหมดว่าใครจะลงลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ แล้วนำรถยนต์ส่งยังสถานีปลายทาง

ล่าสุด นายวรวุฒิ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการกู้ตู้โบกี้รถไฟทั้งคืนจนสามารถเปิดเส้นทางได้แล้ววันนี้เวลา 09.25 น. รถไฟทุกขบวนสามารถเดินทางได้เป็นปกติ ส่วนสาเหตุนั้นกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่

http://www.dailynews.co.th/thailand/231161

 

รอไม่ไหว!การรถไฟฯประกาศปิดเดินรถสายเหนือ 45 วันซ่อมใหญ่ จัดรถบขส.ส่งถึงปลายทาง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2556 15:33 น.

การรถไฟฯเตรียมปิดเส้นทางสายเหนือซ่อมใหญ่ 45 วันระหว่าง 16 ก.ย.-31 ต.ค. เพื่อปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่ศิลาอาสน์-เชียงใหม่ขนานใหญ่หลังเกิดตกรางถี่ยิบ เผย ผู้โดยสารเดินทางได้ปกติโดยจัดรถบขส.ส่งต่อถึงปลายทาง"ประภัสร์" ยันเหตุรถไฟตกรางไม่ใช่ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ มั่นใจหลังปรับปรุงครงใหญ่จะไม่เกิดเหตุอีก

เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดแถลงข่าวกรณีเกิดเหตุรถไฟสายเหนือตกรางบ่อยครั้ง โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา รถด่วนนครพิงค์ เกิดเหตุตกรางที่บ้านปิง แก่งหลวงทำให้มีผู้โดยสาร ตกค้างจำนวนมาก โดยระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการเกิดเหตุรถไฟสายเหนือตกรางแล้วไม่ต่ำกว่า10ครั้ง โดยทางการรถไฟฯ ได้มีการประชุมร่วมกันแล้ว เห็นว่าจำเป็นจะต้องปิดทางรถไฟสายเหนือตั้งแต่ช่วงศิลาอาสน์จนถึงสถานีเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่16 กันยายน ถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ รวม 45 วันเพื่อซ่อมแซมเส้นทาง หมอนและรางรถไฟ รวมถึงขุดดินฐานพื้นรางใน 4 อุโมงค์ออกทั้งหมด ที่มีการทรุดตัวเนื่องจากมีพายุฝนตกหนักทำให้ความชื้นสะสม ได้แก่ อุโมงค์ขุนตาน อุโมงเขาพิง อุโมงห้วยแม่ลา และอุโมงปางตูบขอบ

นายประภัสร์ กล่าวว่า เหตุรถไฟตกรางที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากระบบโครงสร้างของสภาพทางที่มีความชำรุดเสียหายจำนวนมาก พร้อมย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของการรถไฟฯ แต่อย่างใด

โดยยอมรับว่าตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น ทำให้อัตราผู้โดยสารที่ใข้บริการรถไฟลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มั่นใจว่า เมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้วจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์เดินทางไปยังสถานีเชียงใหม่สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถไฟได้ตามปกติ แต่เมื่อถึงสถานีศิลาอาสน์ทางการรถไฟได้จัดเตรียมรถทัวร์ บขส.ปรับอากาศไว้บริการถึงปลายทางเชียงใหม่แล้ว ซึ่งคาดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะกระทบผู้โดยสาร ประมาณ 400 คนต่อวัน

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ การรถไฟฯ กำหนดว่าจะปิดการเดินรถในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นเวลา 15 วัน ระหว่างสถานีรถไฟศิลาอาสน์ ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เนื่องจากในเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมยังมีผู้โดยสารจองตั๋วโดยสารเดินทางล่วงหน้าอยู่ แต่เกิดเหตุรถไฟตกรางในช่วงดังกล่าวถี่มาก จึงประชุมเร่งด่วนและตัดสินใจเลื่อนการปิดเดินรถเร็วขึ้นและเพิ่มระยะเวลาใช้เวลาเป็น 45 วันเพื่อเร่งซ่อมบำรุงทางให้เสร็จเร็วที่ขึ้น โดยหลังปิดการเดินรถจะทำให้เจ้าหน้าที่และผู้รับเหมาสามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงทางรถไฟ ทั้งเปลี่ยนหมอนรองราง ราง ประแจ เครื่องอาณัติสัญญาณ และก่อสร้างสะพานทางรถไฟ ในส่วนที่เป็นอุโมงค์เนื่องจากทางสายเหนือมีอุปสรรคในการปรับปรุงทางมาก เช่น อุโมงค์เก่าแก่ที่มีอายุ 100 ปี ถึง 4 อุโมงค์ ประกอบด้วย ปางตูบขอบความยาว 120 เมตร เขาพลึงความยาว 362 เมตร ห้วยแม่ลานความยาว 130 เมตร และขุนตาลความยาว 1 กิโลเมตร 350 เมต

 

ถ้าไม่รีบปรับปรุงแก้ไข ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
ใช้กันมาตั้งกี่ชั่วอายุคนแล้ว มัวแต่เพ้อฝันถึงรถไฟความเร็วสูง เอาปัจจุบันให้รอดก่อนดีมัย!?!

 

เพิ่งได้ลองนั่งรถไฟสายอิสานไปหนองคาย
หลังจากปรับปรุงเปลี่ยนไม้หมอนเป็นปูนตลอดสาย
ต้องนับว่าเป็นนิมิตหมายอันดี รถไฟทำความเร็วได้ ถึงที่หมาย "ตรงเวลาตามที่ตั๋วระบุ"!!!
ขากลับมากรุงเทพ มีเลทบ้าง ตามสภาพการจราจรในกรุงเทพ ที่ต้องรอกั้นถนน

 

คิดเอาแล้วกัน ตั้งแต่หลังสงกรานต์มา ผมยอมนั่งรถบัสรถทัวร์กลับตจว.แทนการนั่งรถไฟ ทั้งที่สถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์จะสูงกว่าก็ตาม...

 

รถไฟตกรางซ้ำซาก 'สุพรรณฯ-ขอนแก่น' โชคดีไร้เจ็บ-ตาย

รถไฟตกรางอีก! ดีเซลราง ขบวน 256 สุพรรณฯ-กรุงเทพฯ ตกรางที่หยุดรถมาลัยแมน สุพรรณบุรี 2 เพลา 4 ล้อ ยังไม่ทราบสาเหตุเบื้องต้นไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่รถบรรทุกน้ำมันตกรางที่สถานีขอนแก่นเมื่อวาน เร่งกู้...
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 56 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานความคืบหน้ากรณีขบวนรถดีเซลราง ขบวนที่ 356 ต้นทางสถานีสุพรรณบุรี-ปลายทางสถานีกรุงเทพฯ ตกรางบริเวณแป้นปะทะ ที่หยุดรถมาลัยแมน หน้าโรงเรียนกรรณสูตรศึกษาลัย จ.สุพรรณบุรี ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เหตุเกิดในเวลาประมาณ 04.05น. โดยโบกี้รถไฟตก 2 เพลา 4 ล้อ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากระบบลมและระบบขับเคลื่อนของขบวนรถมีปัญหา ทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่เอง เช่นเดียวกับกรณีขบวนรถที่ 280 อรัญประเทศ-กรุงเทพฯ ตกรางเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะเป็นขบวนรถเปล่าที่จอดรอเพื่อให้บริการในรอบถัดไป จึงไม่มีผู้โดยสารอยู่บนขบวนรถ โดยหลังจากเกิดเหตุ การรถไฟฯ งดให้บริการเดินรถขบวน 356 เพื่อเร่งเก็บกู้โบกี้ที่ตกราง และไม่กระทบต่อการเดินรถขบวนอื่นแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานเหตุรถไฟบรรทุกน้ำมัน ขบวน 536 เกิดอุบัติเหตุตกรางที่สถานีรถไฟขอนแก่น โดยเหตุเกิดขึ้นในเวลา 20.30 น.วานนี้ (9 ก.ย. 56) ขณะทำสับเปลี่ยนตั้งขบวนอยู่ราง 7 ที่สถานีขอนแก่น โดยมีโบกี้รถไฟที่บรรทุกน้ำมันตกราง 2 โบกี้ ไม่กีดขวางการเดินรถ และยังไม่ได้รับยืนยันสาเหตุที่ทำให้ขบวนรถตกราง โดยขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งกู้และซ่อมแซมรางรถไฟ ซึ่งจะใช้รถพิเศษช่วยอันตราย เพื่อยกโบกี้ที่ตกราง.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 10 Sep 2013

 

ม้าเหล็กไร้คนขับวิ่งชนเหล็กกั้นตกราง
วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 เวลา 10:56 น.























ม้าเหล็กไร้คนขับวิ่งชนเหล็กกั้นตกราง | เดลินิวส์
*******************


ไม่รู้จะพูดอย่างไร ว้าเหว่จริงๆ จอดอยู่เฉยๆไม่มีคนขับแท้ๆ เอ้อ?????????