ประสบการณ์เมื่อเรามีคนทักว่าเรามีองค์ (แนวให้ความรู้)

จิตพวกนี้ ต้องการร่างที่มีบารมี ต้องการรูปขันธ์

ตรงนี้แหล่ะค่ะ ที่กลัวเพราะก็เจอเหตุการณ์ไรแปลกๆ
คือ สงกรานต์ที่ผ่านมาไป ตจว
แล้วมีเหตุบังเอิญ เกริ่นนิดนึง คือชาวบ้านหากมีเรื่องกังวลใจ
ถ้าไปรักษาแบบ รพ. ไม่หาย เขาก็จะหาที่พึ่งก็คือ พวกร่างทรงนิแหล่ะค่ะ
ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ ที่ส่วนใหญ่ มักจะมีความเชื่อกันแบบนั้น

แล้วก็ไปนั่งดูกะเขาด้วย เรื่องแรก
ไปกะคุณแม่ เจอร่างทรงป้าคนนึง บ้านแกก็ปกติ ไม่ได้มี พวกหุ่นกุมาร เจ้าแม่ไรเยอะแยะ แบบที่เห็นทั่วไป
ตอนเข้าทรงก็หาวๆ มองคนอื่นถาม ก็ฟังๆไป ที่นี้ตัวเราอยากลอง มันไม่มีคิวพอดี เลยถามเรืองเพือนที่ตายไปแล้ว ว่าทำบุญไรไปให้ ได้รับไหม
ร่างทรงกลายเป็นวิญญาณเพือนมาเลยทีเดียว คือแรกๆ ตกใจ ร้องไห้ๆ เล่าเรื่องสมัยเรียน คือเพือนคนนี้ ไม่ได้สนิท เคยเรียนด้วยกันสมัยมัธยม
โอ้โห...ไม่น่าเชื่อ ตอบถูกหมดทุกอย่าง แถมตอนเช้าเราไปกรวดน้ำให้ อันนี้ครอบครัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำ มันก็น่าแปลกดี แล้วก็ถามเรื่องการรับขันธ์นิล่ะ ว่าจะยังไง ป้าร่างทรง ก็บอกว่า สวดมนต์ นโมตัสสะ พวกนี้ก็อยุ่ไม่ได้ล่ะ แล้วแปลกคือ เขาทำท่า เอามือวางๆตรงอก เราก็มอง ป้าแกทำท่าไรว่ะ เกิดอาการบางอ้อทีเดียว หมายถึงสร้อยพระนิหว่า คือก่อนจะมาหาป้าแก เรากลัวเรืองพวกดอกไม้ ที่เคยไปไหว้ครูนั่นล่ะ เลยแอบเอาไปคืน (คนเดียว) ไม่ได้บอกใครแล้วตอนไป ใส่สร้อยพระหลวงปู่ ที่เคารพมากเอาไปด้วย เหตุเพราะกลัวผี :boo: เลยเอาไปป้องกันตัวไว้ก่อน ฮาๆ

คือร่างทรงแกยิ้มๆนะ แกหลับตา (เวลาเชิญปู่ มาประทับร่าง) เราก็เลยรุ้สึกว่า เอ่อแกแม่นดีเหมือนกัน แถมจากที่มองๆ ค่าครูถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 29 หรือ 19 นี่แหล่ะค่ะ จากบทความของเจ้าของกระทู้ น่าจะอยู่หัวข้อที่ว่า มีเทพหรือไร ที่เขามาสร้างบารมี เน้นการช่วยคน ซึ่งมีน้อยมาก เราคิดว่า ป้าคนนี้ ไม่ใช่พวกหลอกลวงแน่นอนค่ะ เพราะเขาอยู่แบบสมถะจิงๆ แล้วก็ดูใจดีด้วย

แต่มีประเด็นที่น่าสนใจ ระหว่างที่คุยกับป้า เขาก็บอกว่า ผีอ่ะ มันอยากได้คนมาสืบทอด เลยเหมือนดลจิตให้เรา ไหว้ครู คือสงกรานต์ทุกปี เราจะไป ตจว เพราะมันเป็นวันรวมญาติๆ แล้วปีก่อน จิตตกมาก ตอนไปไหว้ครู ตัวเราก็รู้สึกแปลกๆจิง ไปหาญาติ เขามีพวกครูบา ไรพวกนี้ ไปคะยั้นคะยออยากได้คาถาเมตตามหานิยมไรพวกนี้อ่ะค่ะ ญาติเขาก็เลยทำให้ ให้ไหว้ครูเขา แล้วจดให้เราไปไว้ท่อง เหอๆ อันนี้ขอเตือนเลยนะค่ะ ว่าอย่าๆ เลียนแบบเด็ดขาด
ช่วงดวงตกหรือไรพวกนี้ ถ้าเราไม่มีบุญ หรือไรคุ้มครอง สิ่งไม่ดี ผี วิญญาณจะแทรกได้ จิตมารในตัวเรา ก็ ครอบงำจิตดีๆจิงๆ :'(

ยังถือว่าโชคดี ที่ช่วงดวงตก จิตใจว้าวุ่นพักนึงแล้วก็ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง แล้วหันมาพึ่งพระธรรม พุทธคุณช่วยสร้างจิตให้สว่าง เครียดก็สวดมนต์ ทำบุญ นั่งสมาธิ นับจากนั้นมาเราก็ถือปฏิบัติเรื่อยมา
สติก็สำคัญเหมือนกันนะค่ะ

เล่าซะยาวเลย...เหตุการณ์อื่นๆไว้ก่อนดีกว่า

 

ใครที่สุ่มสี่สุ่มห้าไปรับขันธ์คงงานเข้า..

แต่ดีอยู่อย่าง คือจะได้กระตุ้นให้เร่งน้อมเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เข้าไว้ในใจ ขยันสร้างบารมีหมั่นประกอบ ทาน,ศีล,ภาวนา คนเราอยู่ปกติสบายๆมันมักขี้เกียจครับ ต้องเจอดีถึงจะกระตือรือร้น

 

จะว่าไป

ข้าน้อยเคยถูกทัก อยู่หนนึง ว่ามี องค์ (มหาเทพใหญ่โต)
เหตุเพราะ เวปพลังจิตนี่ล่ะ ที่ห้องดูดวง มีตาหมอดูคนหนึ่ง ประมาณว่าผุกพันกับพระศิวะ
ดูดวงเพื่อหาตังค์ ไปทำบุญสร้างวัดวาอาราม

เรา ก็คิดว่า ทำบุญด้วย ดูดวงด้วยก็ดี นี่(ที่จริงคือเรางมงาย ๕๕๕๕)

โอนตังค์ไปแล้ว
ตาหมอ ก็เริ่มทำนาย ทำนายไปเรื่อยๆ เราก็ฟังอย่างสงบ เสียงเค้าตะกุกตะกัก
ไปสักพัก ถามว่า ทำนายตรงไหม เราก็ตอบตามตรง ว่า ไม่ตรง

แล้วเค้าก็พยายามทักอีก ก็ยิ่งไม่ตรงอีก
เค้าเลยบอกว่า เรามีองค์ฯ
ข้าน้อย ก็ ตอบว่า ค่ะ
หมอดู ก็ว่า เราต้องไปรับขันธ์ ที่ตำหนัก ตะแก
ข้าน้อยก็ว่า ไม่ไปหรอก ไกลออก
ตาหมอดูก็ยกตัวอย่าง คนที่อยู่ต่างประเทศ ที่แกเคยทัก ให้มารับขันธ์ ที่ตำหนัก ตะแกแล้วดื้อไม่ยอมมา
สุดท้ายก็ซมซาน มารับขันธ์ ที่แกถึงที่
แล้วบอกให้ข้าน้อย ว่าคอยดูไปก็แล้วกัน เสร็จแล้วก็หัวเราะเยาะ ข้าน้อยด้วยนะ

ข้าน้อย ผู้ได้ยินแล้วโมโหไม่น้อย นึกในใจ ว่า เวรของกรรมแล้วไหมล่ะ อยู่ดีไม่ว่าดี แต่ก็ถามเค้าดีๆ ว่า โอ นี่ถึงกะแช่งกันเลยเหรอ
เค้าก็ว่าคอยดูไปก็แล้วกัน


นี่ก็ผ่านมา ๓ ปีละ
ชีวิตข้าน้อย ก็ ปกตินะ (คือซวยตามปกติ ซึ่งก็ชินแล้ว ๕๕๕๕๕)

 

ก็อย่างที่บอกล่ะค่ะ ว่าช่วงจิตตก มันก็ทำไรแบบมึนๆ 55

แต่เรื่องสวดมนต์ ไม่เกี่ยวกะ รับขันธ์ เพราะตอนทำ ไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
มารู้ ตอนเข้าเวบพลังจิตนี่ล่ะค่ะ ( 3 วัน) อันที่จริง เราได้ปฏิบัติก่อนนั้นล่ะ บวชพราหมณ์ สวดมนต์ ทำบุญอยู่แล้ว เพียงแต่จิตยังไม่นิ่งพอ เลยเผลอไปทำนั้นล่ะ ถ้ารู้ว่า ขันธ์ คือแบบนี้ คง say no,,,

เพราะได้มา มันก็ไม่มีไรแปลกๆ เลยเฉยๆ แล้วก็เลิกสนใจ อารมณ์ประมาณว่า
สติมาปัญญาเกิด สวดมนต์ดีกว่าเยอะ คาถาจดมา ปล่อยลอยน้ำหมดล่ะ แล้วเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ก็เลยหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ

 

แต่ไม่รู้ว่า ทำไมเจ้าตัวไม่เอะใจบ้าง (หลังจากกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว) หรืออาย ฯลฯ ไม่ติดต่ออีก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

... ก็เป็นปกติอยู่แล้วนี้คะ .. ถ้าเขาโดนสวมแบบเต็มตัวเขาก็จะจำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว .. เขาจะอายทำไม .. เพราะมันไม่ใช่เขา ... เหตุการณ์แบบนี้เราเองก็เจอบ่อย ๆ จากคนใกล้ตัว ..

เพราะข้อความที่เขียนไว้ ยังเหลือหลักฐานให้กลับไปอ่านได้ ว่าไม่ใช่สำนวนเขา จริงๆแล้วเขามีองค์บารมีสูงนะ แต่จิตทางนั้นก็เก่ง แปลงร่างให้เจ้าตัวเข้าใจผิดได้ด้วย


... เรื่ององค์บารมีสูง หรือ ไม่ มันก็ช่วยอะไรมากไม่ได้หรอกคะ ถ้าเวลานั้น " กรรมชั่ว " ให้ผลเจ้ากรรมนายเวรก็จะมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง องค์ท่านก็ช่วยได้แค่บรรเทาให้แค่นั้นทำอะไรมากไม่ได้หรอกคะ .. แล้วก็บวกกับ " กรรมดี " ที่มาให้ผลช่วงนั้นมีไหม๊พอที่จะเอามาค้ำในช่วงเวลาที่กรรมชั่วให้ผลได้แค่ไหนด้วย ... มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร ..

ไม่ต้องไปรับขันธ์ หรือ แม้ตัวเองก็มีบารมีสูง ก็ยังถูกหลอกได้เหมือนกัน จิตพวกนี้ ต้องการร่างที่มีบารมี ต้องการรูปขันธ์

... อันนี้มันเป้นเรื่องของ " สติ และ ปัญญา " ของแต่ละบุคคลที่จะพิจารณาไตร่ตรองเอง .. เพราะขึ้นชื่อว่า " จิตที่ยังไม่หลุดพ้น " มีเพียงดวงจิตก็ต่างแสวงหาร่างเพื่อการสั่งสมบารมีเพื่อการหลุดพ้นทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่ เทพ หรือ ปีศาจ

คำว่า อย่าประมาทยังคงใช้ได้เสมอค่ะ

ถูกต้องที่สุดเลยจร้า คริ คริ คริ

 

... สำหรับเรื่องของคุณ mind_heart ที่ทำถือว่าดีแล้วคะ ขอให้เข้มแข็งต่อไปนะคะ เพราะถือว่าเราไปรับขันธ์รับวิชา " ถือผี " ของเขาแล้ว ... ขันธ์ มันคือ สิ่งสมมตินะคะถึงเราเอาไปลอยน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เรารับจากเขามาจะหายไปนะคะ เพราะเพื่อน อ. เราก็เคยคิดว่าจะเอาไปทิ้งเหมือนกัน พระอาจารย์ต๋องท่านก็บอกว่าทำไปก็แค่นั้น มันอยู่ที่ตัวเรา กับ คนที่เราไปรับมาต่างหาก .. ถ้าคุณเอาสิ่งนั้นไปคืนเจ้าตัวคนที่เรารับมาแล้วนั้นถือว่าไม่เป็นไร สัญญาเป็นโมฆะได้ แต่ถ้าไม่ใช่เราเพียงแค่แอบเอากระดาษจดไปลอยน้ำแล้วทำเป็นลืม .. ถือว่าขันธืนั้นยังอยู่กับเราคะ .. เพียงแค่นามสมติไม่มี ... แต่วิญญาณครูบาอาจารย์ก็ยังมีอำนาจเหนือเราอยู่ดีคะ ... พวกเขาจะรอวันที่เรากระทำผิดข้อห้ามของเขาแลกรรมชั่วให้ผล เมื่อนั้นเขาจะสำแดงฤทธิ์ออกมาเองคะ ...

... อันนี้ก็พูดตามประสบการณ์นะคะ .. บางท่านอาจไม่เจอแบบนี้ก็ได้คะ

 

.. ในวิกฤตยังมีโอกาศ .. ในความผิดพลาดยังมีโชคดีอยู่เสมอคะ อิอิ

 

... แล้วสิ่งที่ กาลีนะ เอามาให้ศึกษาดูพอมีประโยชน์บ้างไหม๊คะ .. น่าจะพอให้เข้าใจมากขึ้นนะคะ

... ส่วนเรื่องหมอดู กาลีนะ ก็บ้าดูดวงคะสมัยก่อน .. ดูไปทั่วแต่ก็เลือกที่ไปนะคะ เพราะความกลัว ( น่าจะขอบคุณความกลัว อิอิ ) แต่ส่วนมากมักมีคนมาดูให้เองไม่ได้ถามแบบไปเจอเขาแล้วคุยกันไปเขาจะทักเราขึ้นมาเลย หรือ เคยขึ้นรถประจำทางแล้วไปเจอชายคนหนึ่งตอน ม.5 เขาก็ทักเราเลยว่าแบบนี้นะ ต่อไปจะเป็นแบบนี้โดยที่ไม่รู้จักกัน และ ไม่เอาตังสักบาทด้วย ก็แปลกดี .. แต่เจอบ่อยแบบนี้ อิอิ

 

คิดเหมือนกันเลยค่ะ เลยต้องหาความรู้เพิ่มเติม
อันที่จริงมันควรจะไปถอนกับ คนที่ทำให้เรา แต่เรากลัวเขาจะว่า
เลยแอบคืนเอง จุดธุปต่อหน้าครูบา พร้อมบอกกล่าวไปแล้ว แต่มีอุปสรรคนิดหน่อย ไฟแช็กดันจุดไม่ติด ลองเดินหาเผื่อจะเจออันอื่น แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มี เลยขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เหลือบไปเห็นตอไม้ ที่ไฟใกล้จะมอด งง เหมือนกัน ตอนเข้ามา บอกได้เลยค่ะว่า ไม่มี เพราะเดินไปมา ผ่านตรงนั้นหลายรอบล่ะ

จะว่าไป ก่อนหน้านั้น ได้ไปฝึกกสิน ก็มีการไหว้ บูชาหลวงพ่อฤาษีกับหลวงพ่อปาน ใช้เทียน ดอกไม้พิธีคล้ายๆ กันเลยค่ะ

มานั้่งคิดๆดู ช่วงดวงตกหรือปัจจุบัน มันก็ไม่มีไรผิดแปลก เรื่องคนทักมีองค์ได้ยิน เราก็เฉยๆ เพราะเราเป็นพวกมีเซ้นส์นิดหน่อย แต่ก็ไม่เคยเจอผี

แต่เพื่อความสบายใจ ก็ตั้งใจไว้แล้วค่ะ รอโอกาสจะไปถอนกะ ญาติที่ตจว. อีกครั้ง :boo::boo:

 

... ก็ขอให้สำเร็จ และ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ เพราะไม่น่ามีปัญหาเพราะญาติกัน ไม่ใช่พวกตำหนักร่างทรงที่เลี้ยง ผี เพื่อหา " บริวาร " แบบของเพื่อนเรา .. อันนั้นพวกเขาต้องการวิญญาณเพื่อนเราไปทำโหงพราย .. อันนี้ก็ตามที่ได้ยินมานะคะ ..

 

" แบบของเพื่อนเรา .. อันนั้นพวกเขาต้องการวิญญาณเพื่อนเราไปทำโหงพราย .. อันนี้ก็ตามที่ได้ยินมานะคะ ..


เพื่อนที่ว่านิ.. ตายไปแล้วใช่ไหมค่ะ ไม่งั้นคงจะสะกดวิญญาณไม่ได้
พอจะเล่าสักนิดได้ไหมค่ะ จะได้บอกสู่คนอื่นๆ เพื่อระวังตัว

พวกหลอกไปทำเสน่ห์ แล้วใช้ภูตผี สะกดนิ ก็น่ากลัวเหมือนกันนะค่ะ

 

... ยังไม่ตายคะ ... เห้อ ๆ ยังเป็นคนอยู่จนทุกวันนี้คะ หลังจากที่พากันฝ่าอุปสรรคกันแทบเอาชีวิตไม่รอดมา เพื่อนคนนี้ยังมีชีวิตอยู่คะ ไปอ่านใน ผีอำ หรือ ฝันไปจะมี ...

.... พวกนี้เขาจะดูคนที่จิตแข็ง หรือ พวกที่มีแรงอาฆาตรสูง ๆ พวกอารมณ์ร้อนแรง ประมาณนี้ตอนเป็นคนนี้แหละคะ พวกที่เขาหาบริวารแบบนี้เขาจะเลือกตั้งแต่ตอนที่เป็นคนไว้แล้ว บางคนเขาก็รอให้ตายเองอันนี้จะไม่ค่อยแกร่งเท่าไหร่ แต่ถ้าทำให้ตายโหงได้แล้วสะกดวิญญาณไว้ก็ใช้งานได้แล้วคะ เพราะจะแรงกว่าวิญญาณชนิดอื่น ๆ ยิ่งพวกมีวิชาติดตัว หรือ ตายเพราะอาถรรพ์อันนี้ก็เจ๋งคะ .. เพื่อนสาวเราคนนี้เข้าประเด็นหลังคะ มันเป็นคนที่มีอารมณืร้อนแรง และ อาฆาตรสูงมาก ๆ แถมมันยังไปรับขันธ์จากเขามา แล้ว กระทำการผิดครูซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาเลยจะเอามันไปด้วยการทำให้ตายโหงด้วยอุบัติเหตุ .. แต่ไม่แน่ใจว่าคนที่ต้องการมันไปเป็นบริวารนี้คือ เจ้าตำหนัก หรือ ครูบาอาจารย์ที่มันไปรับมา และ อีกส่วนคือเจ้ากรรมนายเวรเจ้าตัวเองด้วย

 

แล้วคุณกาลีนะ เคยรู้สึกกลัวบ้างหรือเปล่า ว่าอาจจะถูกจิตไหนต้องการร่าง

ตอนเรื่องเพื่อนเราคนนี้ เรารู้สึกเลยว่า เรากลัวว่าจะโดนอย่างนั้นค่ะ (คือเพื่อนเรา ปฎิบัติมากกว่า เราเยอะมาก สวดมนต์ก็เยอะ เราทำไม่ได้ครึ่งของเขาเลย)

แล้วทำอย่างไรค่ะ เพื่อป้องกันตัวเอง

 

มีประโยชน์ มากค่ะ
คุณ กาลีนะ ใจดี ที่อุตส่าห์เหน็ดเหนื่อย มาลงเรื่องนี้ นะคะ
เพราะยังมีคน ที่ไม่เข้าใจ ทั้งหลงทางไป เพราะไร้ที่พึ่ง
เพราะคนที่มีความทุกข์ นั้น ขอเพียงความหวังเพียงเล็กน้อย ริบหรี่อย่างไร
คนที่มีความทุกข์ ก็พร้อมจะทำตาม

เค้ามาอ่าน เรื่องที่คุณ กาลีนะ เล่า แล้ว จะได้ สำรวมระวังตัว

และ คนที่เค้า มีสิ่งศักดิ์สิทธ์ คุ้มครอง หรือ วิญญาณ ที่มาช่วยมนุษย์จริง เป็นอย่างใด

 

... ขอบคุณคะสำหรับกำลังใจ (k)(k)

.... เหมือนที่โบราณว่าไว้ " เชื่อคนแก่ดีกว่าเพราะเขาอาบน้ำร้อนมาก่อน ... โดนน้ำร้อนลวกมาก่อนด้วย 55555 "

.... ก้คิดไว้นานแล้วว่าจะลงดีไหม๊ ติดเกรงว่าไม่เหมาะสม !! ลองปรึกษาพี่ในเว็ปท่านก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นอะไรเลยเอามาลง ... เพราะก่อนหน้านี้เราเองก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอกคะ คือ " ไม่รู้ " แถมไม่รู้จะถามใครด้วย .. ตอนเด็กไม่มีความรู้เรื่องร่างทรงพวกนี้หรอกคะ จะรู้ เรื่องผี เรื่องคุณไสยย์ อาถรรพ์มากกว่า ... มาเรียนรู้เอาตอนโตนี้แหละคะ และ มันยังเกิดในชีวิตด้วย .. พอมาเข้าพลังจิตก็คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นที่ไม่รู้เหมือนเราบ้าง อย่างน้อยอาจแก้ไขชีวิตไม่ให้จมดิ่งจนแก้ไม่ทัน ..... ครั้งหนึ่ง กาลีนะ เคยเจอกับคำว่า " ล่มจม " มาแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ในตอนนั้นมันก็ทำให้กาลีนะหาทางแก้ไขให้ตนเอง และ คนใกล้ตัวพลิกให้มันดีขึ้นมา .. อย่างน้อยเราก็ยังไม่ตายยังมีลมหายใจใช่ไหม๊คะ

.... ถึงเราไม่เก่งไม่เป็น ... แต่ไม่ใช่ว่าโลกนี้จะไม่มีคนที่เขาช่วยเราไม่ได้ เพียงแต่เราต้องช่วยตัวเราเองก่อน ... ถึงจะมีผู้ที่อยากยื่นมือมาช่วยเรา เทพ เทวดา ท่านก็ต้องดูเราด้วยว่าทำตัวดีขึ้น หรือ ปล่อยให้จมลง ก่อนที่ท่านจะช่วยใครสักคน ... กาลีนะเคยทำได้มาแล้ว พวกคุณก็น่าจะทำได้เหมือนกัน .. สู้ ๆ นะคะ

 

แล้วคุณกาลีนะ เคยรู้สึกกลัวบ้างหรือเปล่า ว่าอาจจะถูกจิตไหนต้องการร่าง

... กลัวคะ ไม่ใช่กลัวเทพจะใช้ร่างนะคะ กลัวพวกที่เป็นมิจฉาทิฐิจะมาหลอกใช้ร่างเราต่างหาก ... เพราะเราอาจสร้างกรรมชั่วโดยไม่รู้ตัว อันนี้กลัวมาก .. ส่วนตัว กาลีนะ มีอยู่แล้วคะพวกที่ต้องการร่าง ส่วนมากจะมักฝันว่า มี ผี , ปอบ , เทพ เทวดา มาขออยู่ด้วย .. มาชวนเป็นเพื่อน ฯ ตั้งแต่จำความได้อยู่แล้วจนเรียกว่าเป็นปกติก็ว่าได้ .. แต่มาถึงบางอ้อก็ตอนหัดตรวจดวงตนเองนี้แหละคะ ว่าทำไม ... มันบ่งชี้มาในดวงเราเลยคะ ( ของกาลีนะ ) ว่าเป็นมิตรกับ ผี และ สามารถเข้าทรงได้ เลยยิ่งศึกษาวิธีระวังตัวไม่ให้พลาด

ตอนเรื่องเพื่อนเราคนนี้ เรารู้สึกเลยว่า เรากลัวว่าจะโดนอย่างนั้นค่ะ (คือเพื่อนเรา ปฎิบัติมากกว่า เราเยอะมาก สวดมนต์ก็เยอะ เราทำไม่ได้ครึ่งของเขาเลย)
แล้วทำอย่างไรค่ะ เพื่อป้องกันตัวเอง

... จำไว้นะคะว่า .. ของพวกนี้เขาวัดกันที่ " จิต " บางคนทำมามาก ทำมานาน แต่จิตใจไม่เคย ปล่อยวาง ไม่รู้จักเจริญสติ ใจไม่นิ่ง สวดเป็นนกแก้วนกขุุนทอง ไปวัดเพื่อเอาหน้า มีเยอะแยะคะ ... รักษาจิตใจเราให้ดี ให้ สงบ มีสติ ปัญญา รู้ตัวอยู่เสมอ แค่นี้ก็ช่วยได้คะ แล้วก็อาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์ " ที่เราเคารพ " มาคุ้มครองตัวเราขอให้ท่านช่วยเสริมอีกแรงแค่นี้ก็เยี่ยมแล้วคะ ... คริ คริ

.... แต่ถ้าใจไม่ศัทธา ไม่เคารพ มีเอาไว้เฉย ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนหินไร้ค่าอยู่ดีแหละคะ พระถ้าไม่ปลุกบ่อย ๆ ท่านก็ไม่อยู่ได้นะคะ

 

ขอบคุณค่ะ เราคิดว่า คำถามนี้ คงไม่ได้ประโยชน์เฉพาะกับเราแน่ค่ะ (ถึงเล่าเรื่องเพื่อนโดยไม่ได้ขออนุญาต) เพื่อ..เข้าเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ตอนที่รู้เรื่องเพื่อนว่า มีจิตมาร (ไม่รู้ใช้คำนี้เปล่า) มาใช้ร่าง ไม่แน่ใจกว่า กรณีอย่างนี้ โดยแบบเต็มตัว หรือ แค่แฝง (ถึงไม่แน่ใจว่า ทำไมเจ้าตัวไม่เอะใจ กลับไปอ่านว่า ข้อความนั้นๆ แตกต่างกับตัวเขาสิ้นเชิงค่ะ)
เพราะถามญาติธรรม เขามักไม่ค่อยตอบ พวกนี้เขาจะพูดน้อยค่ะ ไม่อธิบายมาก เพราะมักบอกว่า อธิบายกันไม่หมด เรื่องมาร

ได้ถามญาติธรรมค่ะ ว่าเราจะโดนมั้ย (เรามันคนกรรมเยอะด้วยค่ะ) กลัวมากค่ะ (กลัวเพี้ยนนั่นล่ะ) ญาติธรรมบอกเจริญสติที่ทำปฎิบัติอยู่ช่วยได้

ตอนนั้นเพื่อนเปลี่ยนไปมาก จนน่ากลัวเลยค่ะ น้ำเสียงคนละคน ดุ

และ จิตนั้นฉลาดด้วย แชทห้องรวม จะมีพี่อยู่คนนึง ที่บารมีสูง (เอะใจ) เริ่มทักขึ้นมา เขาหลบไปคุยส่วนตัวเลย พยายามหลบพี่คนที่บารมีสูงกว่า เพราะกลัวโดนจับได้
แต่ไม่พ้นค่ะ เพราะเอะใจกันทั้งกลุ่ม (ต่างคนต่างแอบคุยส่วนตัวกันเองว่า มีอะไรแปลกๆนะ กับเพื่อนคนนี้แน่ๆ)

ฉลาดอีก เลิกเข้าห้องแชทด้วย เลิกติดต่อกับทุกคน (โทรติดต่อแค่เรา เพราะเราไม่รู้ ดูไม่เห็น และทำอะไรเขาไม่ได้) แต่จิตนั้นหนีไม่พ้นค่ะ

พวกนี้ฉลาดค่ะ จะรู้ว่า ใครทำอะไรเขาได้ /ไม่ได้


แล้วทำไมคุณกาลีนะ เป็นมิตรกับผีได้ คะ ผีเยอะ ถึงอยากมาใช้ร่าง

 

ขอบคุณค่ะ เราคิดว่า คำถามนี้ คงไม่ได้ประโยชน์เฉพาะกับเราแน่ค่ะ (ถึงเล่าเรื่องเพื่อนโดยไม่ได้ขออนุญาต) เพื่อ..เข้าเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ตอนที่รู้เรื่องเพื่อนว่า มีจิตมาร (ไม่รู้ใช้คำนี้เปล่า) มาใช้ร่าง ไม่แน่ใจกว่า กรณีอย่างนี้ โดยแบบเต็มตัว หรือ แค่แฝง (ถึงไม่แน่ใจว่า ทำไมเจ้าตัวไม่เอะใจ กลับไปอ่านว่า ข้อความนั้นๆ แตกต่างกับตัวเขาสิ้นเชิงค่ะ)
เพราะถามญาติธรรม เขามักไม่ค่อยตอบ พวกนี้เขาจะพูดน้อยค่ะ ไม่อธิบายมาก เพราะมักบอกว่า อธิบายกันไม่หมด เรื่องมาร

ได้ถามญาติธรรมค่ะ ว่าเราจะโดนมั้ย (เรามันคนกรรมเยอะด้วยค่ะ) กลัวมากค่ะ (กลัวเพี้ยนนั่นล่ะ) ญาติธรรมบอกเจริญสติที่ทำปฎิบัติอยู่ช่วยได้

ตอนนั้นเพื่อนเปลี่ยนไปมาก จนน่ากลัวเลยค่ะ น้ำเสียงคนละคน ดุ

และ จิตนั้นฉลาดด้วย แชทห้องรวม จะมีพี่อยู่คนนึง ที่บารมีสูง (เอะใจ) เริ่มทักขึ้นมา เขาหลบไปคุยส่วนตัวเลย พยายามหลบพี่คนที่บารมีสูงกว่า เพราะกลัวโดนจับได้
แต่ไม่พ้นค่ะ เพราะเอะใจกันทั้งกลุ่ม (ต่างคนต่างแอบคุยส่วนตัวกันเองว่า มีอะไรแปลกๆนะ กับเพื่อนคนนี้แน่ๆ)

ฉลาดอีก เลิกเข้าห้องแชทด้วย เลิกติดต่อกับทุกคน (โทรติดต่อแค่เรา เพราะเราไม่รู้ ดูไม่เห็น และทำอะไรเขาไม่ได้) แต่จิตนั้นหนีไม่พ้นค่ะ

พวกนี้ฉลาดค่ะ จะรู้ว่า ใครทำอะไรเขาได้ /ไม่ได้

.... มันก็มีทั้งฉลาด และ โง่ เหมือนคนนี้แหละคะ บอกแล้วไงคะ ทุกอย่างวัดกันที่ " จิต " เพราะถ้าคุณมีสติอยู่แล้ว " ปัญญา " ก็จะตามมาเป็นของคู่กัน ... ภพภูมิก็เช่นกันพวกมีฤทธิ์คือพวกที่เขามีสติรู้ตนควบคุมจิตตนเองได้ไว แถมไม่ต้องมาแบกกายหยาบแบบเรา ๆ อีกด้วยเรื่องฤทธิ์จึงเกิดขึ้นได้แน่นอน .. แต่หากมนุษย์เรามี " สติ สมาธิ บารมี " มันก้เหมือนมีภูมิคุ้มกันเป้นเกราะให้ตนเองนั้นแหละจร้า ...

แล้วทำไมคุณกาลีนะ เป็นมิตรกับผีได้ คะ ผีเยอะ ถึงอยากมาใช้ร่าง

.... ข้อนี้ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ... พอดีกาลีนะเอาดวงตนเองไปตรวจลัคคนาเองมันก็ขึ้นมาแบบนี้เลยคะ ...

.... " หากเจ้าชะตาชีวิตนี้มีศรัทธาออกบวชจะเป็นคนที่มีเชื่อเสียงโด่งดัง เป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่เห็นแก่ตัว ถ้าหากเป็นคนทรงเจ้า ให้เข้าผีได้ ก็จะมีวิญญาณเป็นมิตร มีเทพยดาอารักษ์คุ้มครอง "

... แถมสังเกตตัวเองมาตลอดมันก็คงเป้นแบบนั้นจริง ๆ เพราะผีชอบมาหา ในหลายรูปแบบ เห้อ ๆ ดีนะเวลาหลับจะไม่กลัวผี !!

 

มีน้องคนหนึ่งเขาเล่าให้ผมฟัง ว่าน้าเขามีวิญญาณมาอยู่ด้วยเป็นประมาณคนทรงนี้แหละ ถ้าเราไม่ยอมวิญญาณนั้นก็จะประมาณว่าทำร้ายให้เจ็บป่วยต่างๆ แรกๆก็ไม่ยอมให้มาแต่พอเกิดอาการเจ็บป่วยเลยยอม และตอนนี้ครอบครัวเขาก็ยอมรับวิญญาณนั้นแล้วด้วย แถมวิญญาณนั้นยังบอกไว้อีกว่าถ้าคนนั้นตายไปก็จะไปอยู่กับลูกเขาแทน...แต่ที่แปลกคือพอญาติเขาสวดมนต์ อย่างชินบัญชร น้าคนนั้นก็จะรู้สึกปวดหัวอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าทำบุญแล้วเขาจะรู้สึกดี ...ผมฟังน้องเขาเล่าแล้วก็อยากจะช่วยน้องเขาอยู่แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรแถมเขาไปยอมรับกันแล้วทั้งครอบครัว เลยไม่อยากไปยุ่งอะไรมาก ได้แต่เตือนน้องเขาว่าอยากไปรับขันธ์อะไรกับใคร

 

เห็นข้อความที่เกริ่นไว้แล้วก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับเพราะบางเรื่องนั้นไม่ทราบมาก่อนเลย เลยทำให้เข้าใจเรือ่งพวกนี้ได้ดีขึ้น แต่ในฐานะผู้ที่ไม่ค่อยทราบเรือ่งก็เลยอยากจะทราบในส่วนของคำว่า เถรวาท นั้นจริงๆแล้วมันคล้ายๆกับคำว่า เทวา หรือ เทวะ อยู่ไม่น้อย (จริงๆแล้วในตำราหรือในข้อมูลอื่นๆความหมายหรือที่มาของเถรวาทมันก็ชัดเจนนะครับ เพียงแต่ต้นกำเนิดของคำนี้ในแบบฮินดี หรือ อื่นๆมันใกล้เคียง เทวะ หรือ เทวา มาก ซึ่งไม่แน่ใจเช่นกันว่าแผลงมาอีกทีหรือเปล่า) เท่าที่ทราบมาบ้างมันจะมีนิกายบางนิกายของพราหมณ์ และ บางนิกายของพุทธศาสนา ที่อยู่ก้ำกึ่งกัน นับถือพระพุทธเจ้าคนละองค์ สิ่งที่สงสัยมากๆก็คือแท้จริงแล้วทั้งสองอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งเดียวกันแต่แผลงกันไปกันมาและปรากฎให่้เราเห็นสัมผัสหรือศึกษากันตามเหตุปัจจัยหรือไม่ เมื่อมีความเชื่อในแบบใดมากกว่าสิ่งนั้นก็จะปรากฎให้เราเห็นหรือเรียนรู้เป็นวัฒนธรรมสืบต่อกันไป เหมือนสิ่งที่เจริญกว่าเรามากมาย เขาอยากปรากฎตัวให้เราเห้นสัมผัสหรือเรียนรู้อะไรยังไงก็ได้ตามเหตุปัจจัยที่เราเป้นอยู่ในปัจจุบัน ทำนองนั้นแหละครับ