เรื่องเด่น แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ

ทำผิดขั้นตอนลองอีกครั้งครับ

 

*** รับแซบ ....ครับ ***

 

ลองอีกครั้งครับ

 

สงสัยไม่เก่งจริงๆลองถึงสามครั้งแล้วยังเหมือนเดิมไม่เป็นไร มาเล่าเรื่องกันต่อดีกว่าครับ ในระยะนี้ท่านผู้อ่านต้องระวังเกี่ยวกับน้ำให้มากนะครับ ผมขอเล่าเรื่องคาถาดีกว่าแต่ไม่ใช่ของหลวงปู่ ซึ่งเมื่อเช้านี้ผมได้เอามาพิจารณาใหม่ปรากฎถึงความลึกซึ้งของคำแปลมาก จริงๆคาถาไม่ต้องแปลหลอกครับแต่เมื่อแปลออกมาแล้วเอามาพิจารณารู้สึกถึงเข้ากับเหตุการณ์ในระยะนี้ได้เป็นอย่างดี ผมขออนุญาตหลวงปู่สรวงเอาคาถานี้มาเตือนสติ ท่านผู้อ่านกระทู้ของผมด้วยนะครับลองพิจารณาดูครับว่า คาถานี้เตือนอะไรเราหลวงปู่สรวงท่านได้ให้คาถากันภัยพิบัติกันน้ำไว้ว่า
"อ้ม เกรอะ เกรอะ เกรอะ เตียงตึ๊ก เกรอะ เกรอะ ตึงได อ้ม สติสวาหะ"
พระคาถานี้เป็นภาษาเขมรแปลว่า "ลุงคนหนึ่งดื่ม ดื่ม ดื่ม ดื่ม
น้ำเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม จนร่างกายแตกออกเป็นกิ่งก้านสาขาเป็นลำธาร
ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรเพราะดื่มด้วยสติ"
มีใครพอเข้าใจปริศนาธรรมของคาถานี้ไหมครับ

 

พุทธศาสนาเราไม่มีคำว่าบังเอิญครับ

วันนี้วันโกน พรุ่งนี้วันพระ(รู้นะว่าวันอะไร) คุณหญ้าแห้งเตรียมพร้อมหรือยังครับ

 

แฮ่ ๆ แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ ไว้ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ

 

พรุ่งนี้วันหวยออกเจ้าค่ะคุณพี่^-^^-^^-^แฮ่แฮ่
เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ

 

คิดว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจนะ ถ้าคนอย่างท่านสารวัตรไม่เข้าใจ (ไม่อยากเชื่อเลย) ลองกราบเรียนถามกับหลวงปู่มีชัยดูก็ได้ เพราะอาตมาก็พอจะทราบอยู่บ้างว่า หลวงปู่ท่านศรัทธาและเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ และเข้าอุปสมบทที่วัดป่าไตรวิเวก ของหลวงปู่สาม อกิญจโน ซึ่งท่านทั้งสองก็เป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ใหญ่สายพระป่ากรรมฐานฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ซึ่งองค์รัชกาลที่ ๔ ซึ่งตอนนั้นพระองค์ท่านยังทรงผนวชอยู่เป็นผู้สถาปนาคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกายขึ้นมา เพราะทรงเห็นว่าคณะสงฆ์ไทยฝ่ายมหานิกาย ในสมัยนั้น ยุคนั้น ประพฤติปฏิบัติย่อหย่อนในธรรมวินัยเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงเกรงว่าจะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเร็วขึ้น จึงทรงตั้งนิกายใหม่ขึ้นมา คือฝ่ายธรรมยุติกนิกาย สังเกตุง่ายๆ คือถ้าเป็นคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ชอบอยู่ในวัดตามหมู่บ้าน หรือในเมือง ชอบศึกษาเล่าเรียนแต่ส่วนปริยัติ แต่ไม่ค่อยชอบปฏิบัติธรรมสักเท่าไหร่ ถึงจะมีอยู่บ้างก็เป็นส่วนน้อย ส่วนคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินิกาย ถึงจะมีวัดอยู่ในเมือง แต่ก็ชอบศึกษาแต่พอรู้ แล้วก็ไปปฏิบัติธรรม เจริญกรรมฐานอยู่ในป่า หรือตามวัดป่า ตามแบบอย่างครูบาอาจารย์ คนส่วนมากจึงเรียกว่าพระป่า หรือพระกรรมฐาน เหมือนอย่างหลวงปู่มีชัย เป็นต้น เข้าใจผิดถูกอย่างไร ต้องขออภัยท่านผู้ที่รู้ยิ่งกว่ามา ณ ที่นี้ด้วย

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ขอให้จับขโมยได้ครับ

แต่ว่าโจรขโมยพระด้วย

 

กราบอนุโมธนาด้วยครับผมนะเข้าใจครับท่านแต่ที่ขอให้ท่านอธิบายนั้นเพราะอยากให้ท่านอธิบายในเชิงปริยัตินั้นเองครับและเหตุผลข้อสองก็คือให้ท่านได้ช่วยอธิบายจะได้มีความหลากหลายในเชิงอักษรครับท่าน อย่างไรก็ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ครับท่าน

 

สวัสดีครับคุณพี่รุ่ง

ผมก็มาแอบอ่านเก็บข้อมูลตลอดเหมือนกันครับ

 

yimmyimmyimmขอกราบงามๆทั้ง2ท่านค่ะ

 

ไม่ได้มีเจตนาจะว่าอะไรท่านสารวัตรเลยนะ ขออภัยหากว่าข้อความของอาตมา ทำให้ท่านสารวัตรไม่สบายใจ หรือเข้าใจผิดกัน

 

กราบหลวงปู่มีชัย รอรับพรครับ



ท่านสารวัตรก็ทำภาพใหญ่ได้แล้วนี่ครับ แตที่เห็นเล็กก็เพราะว่าไฟล์ต้นฉบับมีขนาดเล็ก และถ้าไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่เกินไป จะต้องลดขนาดภาพลง ไม่อย่างนั้นภาพจะล้นจอครับ

 

ไม่เลยครับท่านผมไม่ได้คิดอะไรหลอกครับไม่ได้ไม่สบายใจและไม่ได้เข้าใจผิดท่านเลยครับมิกล้าด้วยซ้ำไป ผมเคารพและให้เกรียติท่านมากครับจากใจจริง ครับ

 

ตื่นไม่ทันคุณเมฆดำเลยเข้ามาช้ามิให้รอนานขอพรหลวงปู่มีชัย ให้ทุกท่านมีโชค มีชัย ชัยยะ ชัยยะ ไชโย ครับทุกท่าน

 

กราบหลวงปู่ พร้อมรับพร
เพื่ออนาคต

ขอบคุณสารวัตร ครับ

ชัยยะ ชัยยะ ไชโย

 

แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ (7 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
รตอ ประกิจ
วันนี้ 09:24 AM
โดย หญ้าแห้ง
3,516 109,940

 

ถือเสียว่าชดใช้กรรมเก่า เราเอาของเขามาก็ใช้คืนเขาไป

โบราณาจารย์ให้คาถาป้องกันขโมยเอาไว้ดังนี้

ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงการะณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตตัง ชานามิ ชานามิ

เสกหมอนก่อนนอน ๓ จบ หากมีใครบุกรุกเข้ามาจะรู้ตัวก่อนแล
เสกเป็นประจำทำจิตให้เห็นเป็นกำแพงแก้วล้อมที่อยู่ที่พัก
กันโจรกันขโมยแล

อีกบทเป็นของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ ตัวคาถาว่าดังนี้

พุทธังอย่านะ อย่านะ โจรัง จิตตังพันธังจังงัง จงงัน โสภะคะวา อิติปิอิ

ธัมมังอย่านะ อย่านะ โจรัง จิตตังพันธังจังงัง จงงัน โสภะคะวา อิติปิอิ

สังฆังอย่านะ อย่านะ โจรัง จิตตังพันธังจังงัง จงงัน โสภะคะวา อิติปิอิ


ลองเอาไปสวดดูท่านว่ากันขโมย แต่ถ้าเป็นกรรมเก่าแก้ไม่ได้
แต่จะผ่อนหนักเป็นเบา คือจะบันดาลให้ขโมยหาของสำคัญ ๆ มีค่าไม่เห็น
จะเอาไปได้เฉพาะของที่ไม่มีค่า หรือมีค่าไม่สูงนัก เป็นการตัดกรรม
เข้าทำนองว่าไหน ๆ ก็ได้มาแล้วเอาติดมือไปสักหน่อยเป็นการแก้เคล็ด

คาถาของหลวงพ่อเดิมท่านว่าห้ามจดให้ท่องจำเอา อย่าลืม นะโม ๓ จบก่อนท่องคาถาทุกครั้ง