หลวงพ่อเงิน จันโท วัดศรีวิลัย เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขงอีกรูปหนึ่ง

หากจะกล่าวถึงพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาน่ากราบไหว้เคารพนับถืออีกรูปหนึ่งแถบลุ่มน้ำโขงอีสานเหนือ ต้องนับหลวงปู่เงิน จันโท แห่งวัดศรีวิลัย อ.ท่าบ่อ
จ.หนองคาย เข้าไว้ด้วย ถึงแม้โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนค่อนประเทศจะรู้จักพระสงฆ์และพระอริยสงฆ์ในแถบนี้ในสายพระป่า (ธรรมยุติ) ซะเป็นส่วนมาก ดังเช่น หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่เหรียญ และองค์อื่นๆ แต่ยังมีพระอริยสงฆ์อีกหลายรูปที่ท่านไม่เด่นดังและไม่ทำตนเองให้เด่นดังแต่มีปฏิปทาวัตรปฏิบัติที่น่าเคารพอีกหลายรูป ซึ่งคนนอกพิ้นที่รู้น้อยมากหรือแทบไม่รู้จักเลย ดังเช่นหลวงปู่เงิน จันโท ที่จะนำเรื่องราวของท่านมานำเสนอในครั้งนี้ ท่านเป็นพระในสายมหานิกายหรือสายวัดบ้าน
สำหรับท่านที่ชื่นชอบในเรื่องราวของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ไม่ควรพลาดครับ ขอบอกว่าหลวงปู่เงินองค์นี้ ท่านไม่ธรรมดาครับ.

 

ติดตามครับ

 

กลับมาแล้วครับ ขออภัยเล่าไม่ต่อเนื่อง ออกไปทำธุรมาครับ
หลวงปู่เงินท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2523 แล้วครับสามสิบกว่าปีมาแล้ว แต่ชื่อเสียงและคุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านว่าน อ.ท่าบ่อ หนองคายและพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ ท่านไม่ได้ทำวัตถุมงคลออกมามากนัก อย่างเหรียญและรูปหล่อของท่านก็ทำออกมาแค่รุ่นเดียวเท่านั้นในปี 2521 เท่าที่ทราบนอกจากเหรียญแล้ววัตถุมงคล
ที่ท่านทำออกมาก็มีมีดหมอ ตะกรุดใต้น้ำ(ตะกรุดใบลาน) และผ้ายันต์ ซึ่งล้วนแล้วแต่
ทำเองกับมือทั้งสิ้น(ยกเว้นเหรียญและรูปหล่อ) อาจจะมีอย่างอื่นๆด้วยที่ยังไม่ทราบ
ซึ่งจะสืบค้นนำเสนอในภายหน้า

 

ขอบคุณ คุณoomdi ครับที่ติดตาม
กล่าวสำหรับมีดหมอของท่านเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างแปลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน
สำหรับผมนะครับ ทราบมาว่าชาวญวนอพยพที่หนีภัยสงครามมาพึ่งบารมีท่านเป็นผู้ทำถวายท่าน สมัยนั้นเป็นช่วงสงครามเวียดนามมีชาวญวนอพยพผ่านเข้ามาทางลาว มาอาศัยอยู่แถบจังหวัดชายแดนริมน้ำโขงจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อำเภอท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่
จ.หนองคาย นี่เยอะมาก จนต้องตั้งศูนย์อพยพเป็นหมู่บ้านทีเดียว จำได้ว่าสมัยเป็นเด็ก
พ่อเคยพามาเที่ยวศูนย์อพยพชาวญวนที่หนองคายเพราะจะมีสินค้าต่างๆ ที่ชาวญวน
ทำขายให้นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ของเก่าของมีค่าต่างๆ ที่นำติดตัวมาจากบ้านเกิดก็นำมา
ขายด้วย
สำหรับมีดหมอของท่าน ท่านคงกำหนดรูปแบบให้ทำอย่างนั้น วัสุดที่ทำใบมีดก็เป็น
เหล็กธรรมดาค่อนข้างบาง ด้ามมีดและฝักทำจากไม้ พิจารณาดูแล้วก็ไม่ทราบว่าทำจาก
ไม้อะไร แต่น่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อน เนื้อไม้คล้ายๆ ไม้มะฮอกกานีของฝรั่ง เดี๋ยวจะลงรูป
ให้พิจารณากันนะครับรวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ ของท่านด้วย

 

มาแล้วครับมีดหมอหลวงพ่อเงิน จันโท สังเกตดูทั้งด้ามและฝักจะทาสีแดงออกชมพู
นะครับแต่คงไม่ใช่สีธรรมดาแน่นอน น่าจะเป็นสีจากธรรมชาติ จำพวกเปลือกไม้หรือไม่ก็
พวกน้ำจากว่านยาต่างๆ ตรงกั่นมีดจะพอกด้วยครั่ง
ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านไปเรียนวิชาทำมีดหมอมาจากไหน ทราบแต่ว่าท่านไปเรียน
วิชาต่างๆ มาจากหลายอาจารย์รวมทั้งไปเรียนจากหลวงพ่อพิบูลย์ แห่งวัดพระแท่น
บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ อุดรธานีด้วย

 

เหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่อเงินด้านหน้าและด้านหลังออกปี 2521
ในปีนั้นท่านออกรูปหล่อลอยองค์ด้วย แต่ไม่มีรูปนะครับต้องขออภัยด้วยและยังมีพระบูชา
รูปเหมือนท่านขนาดหน้าตักห้านิ้วด้วย เท่าที่สอบถามจากคนเก่าแก่แถบอำเภอท่าบ่อ
บอกว่าเหรียญท่านเด่นทางเมตตานะครับ อันนี้ผมยังไม่มีประสบการณ์ตรงกับตนเอง
แต่.......มีประสบการณ์ที่ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าบังเอิญหรือเปล่าไม่รู้ แล้วจะเล่าในภาย
หลังนะครับ

 

และนี่คือตะกรุดใบลานหรือตะกรุดใต้น้ำของท่าน เล่ากันว่าท่านดำน้ำลงไปทำด้วยตนเอง
โดยที่จีวรไม่เปียก ในสระน้ำในวัดนั่นเองปัจจุบันสระน้ำดังกล่าวถูกถมเป็นลานวัดเรียบร้อยแล้วและคนเก่าแก่ในหมู่บ้านก็ยืนยันว่าเวลาท่านออกบิณฑบาตตอนฝนตกนี่จีวรท่านไม่เปียกฝนเลย

 

ที่วัดยังมีของให้บูชาหรือเปล่า ครับ แล้ววัดอยู่ส่วนไหนของท่าบ่อครับ

 

ต้องขออภัยทุกท่านที่ติดตามด้วยครับ หายไปหลายวัน เนื่องจากลงพื้นที่ไปหาข้อมูล
เพิ่มเติม ข้อมูลที่มีอยู่ก็เป็นคำบอกเล่าต่อกันมา บางเรื่องที่เกี่ยวกับท่านก็ขัดแย้ง
กัน ต้องเข้าใจนะครับว่าท่านมรณภาพมาสามสิบกว่าปีแล้ว คนที่ทันท่านยังมีเหลืออยู่
พอสมควรในพื้นที่ แต่ก็ต่างคนต่างเล่า บางคนก็จำคนอื่นมาเล่าต่อเลยต้องกรองข้อมูล
ก่อน ซึ่งเรื่องที่นำมาเล่าและสอบถามมาส่วนใหญ่ก็หนักไปทางอิทธิฤทธิ์ อย่างพ่อเฒ่า
คนหนึ่งที่ทันท่านอายุปัจจุบันประมาณ 90 ปีแล้ว เล่าให้ฟังว่าสมัยหนุ่มตัวท่านใกล้ชิด
หลวงพ่อเงินมาก สมัยนั้นไปหาหลวงพ่อเงินแทบทุกเย็นอาศัยว่าเป็นคนใจกล้าก็กล้าซักถามหลวงพ่อไปแทบทุกเรื่อง เรื่องไหนท่านตอบได้ก็ตอบเรื่องไหนท่านไม่อยากตอบไม่อยากเล่าหลวงพ่อก็เฉยเสีย
สำหรับคุณthk ที่สอบถามเรื่องวัตถุมงคลของท่าน ท่านมรณภาพไปสามสิบกว่าปีแล้ว
หลังท่านมรณภาพแล้วที่วัดไม่เคยออกวัตถุมงคลของท่านอีกเลย หากอยากได้เหรียญ
รุ่นแรกของท่านคงต้องหาในพื้นที่เอาล่ะครับยังคงพอหาได้อยู่
บ้านว่านตั้งอยู่บนทางหลวงระหว่างอำเภอท่าบ่อกับบ้านผือครับ หาไม่ยาก ไปถึงท่าบ่อแล้วถามคนแถวนั้นก็รู้จักหมดแหละครับ

 

เรื่องราวของหลวงพ่อเงินที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ได้สอบถามมาจากคนเก่าแก่ในพื้นที่
ผิดตกบกพร่องประการใดจากที่ท่านผู้รู้ท่านอื่นได้รับทราบมาก็ต้องขออภัยด้วย
และขอน้อมรับความผิดนั้นเอง หากผิดพลาดไปก็ขออย่าให้เป็นบาปกรรมอันใดเลย
เพราะผมเองก็ไม่เคยพบตัวจริงของท่านเพียงแต่มีความเชื่อและศรัทธาในปฏิปทา
ของท่านเลยเคารพกราบไหว้ท่านเป็นครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง และอยากเผยแพร่
เรื่องราวของท่านให้ได้รับรู้กันในวงกว้างขึ้นบ้างเท่านั้นเอง

 

ประสบการณ์จากวัตถุมงคลของหลวงพ่อเงินบางคนมีประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว
อย่างลูกศิษย์ที่ท่านสักยันต์ให้ มีประสบการณ์เรื่องเหนียวสุดๆ มาแล้ว โดยเฉพาะ
ยันต์หมวกเหล็กของหลวงพ่อขึ้นชื่อลือชามาก ท่านจะสักให้รอบศรีษะ ตอนที่ท่าน
ยังอยู่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งใกล้ไกลมาหาท่านมิได้ขาด เรียกว่าหัวบันไดไม่แห้ง
ทีเดียว โดยเฉพาะลูกศิษย์จากฝั่งลาวท่านมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนฝั่งโน้น
มาก ทหารลาวจะมาขอวัตถุมงคลจากท่านมากรวมทั้งมาให้ท่านสักให้ อย่าลืมว่าช่วงนั้น
สงครามอินโดจีนกำลังคุกรุ่นอยู่ ของที่ท่านทำให้นอกจากสักยันต์แล้วก็มีพวกตะกรุดต่างๆ

 

เรื่องประสบการณ์จากยันต์หมวกเหล็กที่หลวงพ่อสักให้ลูกศิษย์มีอยู่ว่า ศิษย์คนนั้น
ได้ไปมีเรื่องราวทางชู้สาวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทางฝ่ายผู้หญิงให้ทางฝ่ายชายไปเจรจาสู่ขอ
ตามประเพณี เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันอยู่นั้นได้ถามว่าผู้ชายจะรับเลี้ยงดู
ผู้หญิงหรือไม่ อาจจะด้วยความเจ้าชู้หรือไม่คิดจริงจังกับฝ่ายหญิงอยู่แล้ว ฝ่ายชายได้ตอบ
ว่าไม่เอาจะขอเสียไหมแทน (ศัพท์ทางอีสานไหมแปลว่าค่าปรับ) ปรากฏว่าฝ่ายหญิงที่รอ
คำตอบอยู่คงจะนึกรู้ในใจอยู่แล้วว่าผู้ชายไม่คิดจริงจังกับตนเองแต่แรกแล้ว ผู้หญิงคนนั้น
ไม่มีใครทันสังเกตว่าเธอเอามีดขอ (เป็นมีดใช้งานทางอีสานมีลักษณะคมโค้งด้ามยาว)
แอบไว้ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อฟังคำตอบแล้ว

 

ขออภัยท่านที่ติดตามครับ เมื่อสักครู่แบตโน๊ตบุ๊คจะหมดเลยต้องรีบส่งก่อน.............
ต่อครับ....เมื่อได้ฟังคำตอบแล้ว ด้วยความแค้นสุดขีดที่ถูกหยามหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
หล่อนตวัดมีดขอฟันฉับเข้าที่กลางหัวเจ้าหนุ่มเร็วยิ่งกว่าใครจะคาดคิดหรือคว้าไว้ได้ทัน....
..................................................................................................
เจ้าหนุ่มก็ไวพอตัว แต่........ไม่อาจหลบพ้นคมมีดไปได้ ได้เพียงแต่เบี่ยงหัวหลบเท่านั้น
คมมีดตวัดลงที่ช่วงต่อระหว่างคอกับหัวไหล่..................................................
...................................ปรากฏว่า คมมีดไม่อาจระคายผิวได้เลย เล่าว่าตัวมีดกระดอนขึ้นทันทีเหมือนฟันลงบนยางรถยนต์อย่างไรอย่างนั้น
เรื่องต่อจากนี้ ไม่ทราบครับ เขาเล่าถึงแค่นี้ ตอนนี้ขอเล่าสำนวนแบบนิยายหน่อยนะครับ
เพื่อความตื่นเต้น......... นั่นคืออานุภาพของยันต์หมวกเหล็กที่หลวงพ่อสักให้หนุ่มคนนั้น
คุ้มครองไว้ ไม่งั้นคงกลายเป็นผีหัวขาดไปแล้ว

 

นี่คือรอยสักที่หลวงพ่อเงินสักให้ลูกศิษย์ชาวบ้านว่าน ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นยันต์อะไร
ผมเองก็ลืมถามเจ้าตัว แต่น่าจะเป็นทางด้านคงกระพันและเหนียวเป็นหลัก
เพราะการสักยันต์ส่วนใหญ่ก็เน้นกันไปทางนั้นอยู่แล้ว
รูปดูไม่ชัดเท่าไหร่นะครับเพราะถ่ายด้วยมือถือ

 

ปัจจุบันนี้อุปกรณ์ในการสักยันต์ของหลวงพ่อยังคงเก็บไว้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ของท่าน
พิพิธภัณฑ์นี้เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2554 นี่เอง โดยชาวบ้านและลูกศิษย์ที่ยังคงศรัทธาใน
ตัวท่าน ได้เก็บรวมรวมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของท่านตลอดจนสิ่งของต่างๆ ที่หลวงพ่อ
ท่านได้เก็บสะสมไว้เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ อาทิเช่น ของโบราณต่างๆ ของอาถรรพ์ต่างๆ
อย่างเช่นหม้อดินเผาโบราณที่ท่านใช้ผ้ายันต์ปิดปากหม้อไว้มัดด้วยด้ายสายสิญจน์
ซึ่งยังคงไม่มีใครกล้าเปิดดูกระทั่งทุกวันนี้ เพราะเปิดแล้วไม่รู้จะเจออะไร................
บรื่อ.....ลักษณะคล้ายๆ หม้อแม่นาคนั่นหละครับท่าน...................................

 

นี่คือพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อเงิน จันโท เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสิ่งของของท่าน
ไว้ น่าเข้าไปชมมากครับ มีของหลายที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน บางอย่างไม่คิดว่าจะมีอยู่
ไม่ได้ถ่ายรูปภายในมาครับเนื่องจากท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันและทางวัดท่านไม่อนุญาต
ให้บันทึกภาพ หากอยากชมภายในคงต้องไปดูด้วยตนเองครับ

 

ภาพถ่ายบริเวณภายในวัด มุมต่างๆ วัดศรีวิลัยไม่ได้เป็นวัดใหญ่โตอะไร เป็นวัดเล็กๆ ประจำหมู่บ้านว่าน ม.2 เท่านั้นเอง น้อยคนนักที่จะทราบว่ามีพระอริยสงฆ์ผู้เรืองวิทยาคมไม่แพ้ใคร เป็นผู้สร้างขึ้นและเคยอยู่จำพรรษาจนสิ้นอายุขัย ท่านมรณภาพเมื่อปี 2523 อายุท่านเท่าที่คำนวณดูจากบันทึกที่ฐานรูปหล่อรูปเหมือนท่านขนาดเท่าองค์จริง บันทึกไว้ว่ารูปหล่อนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 2521 ตอนท่านอายุ 74 ปี ท่านมรณภาพปี 2523 ก็เท่ากับว่าอายุ 76 ปี ส่วนพรรษาเท่าใดคงต้องไปดูจากหนังสือประวัติวัดศรีวิลัย ซึ่งบันทึกประวัติ
ท่านพอสังเขปไว้ ตอนนี้หนังสือนั้นไม่ได้อยู่ใกล้มือ กลับบ้านแล้วจะนำมาภาพมาลงให้ชม
กันนะครับ
ตอนท่านมรณภาพนั้น เมื่อฌาปนกิจเรียบร้อยแล้วปรากฏว่ากระดูกท่านกลายเป็นแก้วผลึกใสในทันทีที่เผาเสร็จ เรียกว่ากลายเป็นพระธาตุในทันทีเลยทีเดียว

 

ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ตอนนี้ขออนุญาตไปวัดสงน้ำพระเนื่องในวัน
สงกรานต์ปีใหม่ไทยๆ ก่อนนะครับ ไว้กลับมาแล้วจะมาเล่าต่อครับ ขอให้โชคดี ร่ำรวย
อย่าเจ็บอย่าไข้กันนะครับ เดินทางระมัดระวังตัวกันหน่อยนะครับ โชคดีครับทุกท่าน

 

พอมีกับเค้าบ้างครับ อ่านในอุดร108 แล้วศรัทธาเลยหามาติดตัวครับ

ผ้ายันต์หลวงพ่อเงิน



ผ้ายันต์ท่านจะนำใบหนาด มาวางทับบนผ้ายันต์จนใบหนาดแห้งติดไว้กับผ้ายันต์ หรือก็จะถู ๆ ทาๆ ให้ใบหนาดติดบนผ้ายันต์ทุกผืน และผ้ายันต์ท่านจะพิมพ์ลายนิ้วมือกันปลอม ถามผู้รู้ ผ้ายันต์อ่านว่าภาษาขอมว่า"พระครูจันสมานคุณ(เงิน)"

 

ตะกรุดดำน้ำพอกผง หลวงพ่อเงิน