สถานการล่าสุด"เกาหลีเหนือ" สั่งกองทัพเตรียมพร้อมโจมตีฐานที่มั่นสหรัฐ

เกาหลีเหนือไม่อนุญาตชาวเกาหลีใต้ข้ามแดนเข้านิคมฯ แกซอง

ขณะที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นทุกขณะ เกาหลีเหนือได้กระทำการในสิ่งที่แทบไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยการเตะถ่วงเวลาการผ่านข้ามแดนของชาวเกาหลีใต้

ทั้งนี้ กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า วันนี้เกาหลีเหนือยังไม่อนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้ 484 คน เดินทางข้ามแดนเข้าไปยังนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ทั้งที่ปกติจะเปิดด่านให้ข้ามพรมแดนเข้าไปในเกาหลีเหนือได้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น.

เหตุการณ์ล่าสุดทำให้เป็นที่วิตกกันว่า เกาหลีเหนืออาจจะปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซองจริงตามคำขู่ และหากเกาหลีเหนือดำเนินการจริงนับว่า เป็นสิ่งที่บ่งชี้ชัดถึงเหตุตึงเครียดที่ปะทุหนักระหว่าง 2 เกาหลี

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 เมษายน 2556 12:06 น.

 

ศาสนาอยู่ครบ 5000 ปีแน่นอนครับ เพราะพุทธองค์ตรัสหนึ่งไม่มีสอง
แต่จะอยู่ครบในรูปแบบไหนแค่นั้นเอง อนุโมทนา

 

มันยังไม่ยิงหรอก มันต้องปิดกั้นช่องทางอาหาร สเบียงคลังอีกเป็นปีสองปีสามปี
มันจะโจมตีถ้าเกาหลีเหนือบอกว่าไม่ได้สร้างนิวเคลีย เหมือนอีรักที่บอกว่าไม่มีนิวเคลียร์
ถ้าเกาหลีบอกว่ามีนิวเคลียร์การโจมตีอาจจะเกิดยากขึ้น
แต่ถ้าไม่มีนิวเคลียโดนแน่

 

ไม่รู้ว่าตี๋อ้วนคิดอะไรแต่ที่รู้ๆกันมันเป็นเกมการเมืองเพื่อปลุกปั่นสร้างค่านิยมในตัวผู้นำคนใหม่ให้มีฐานความมั่นคงในการครองอำนาจด้วยการสร้างศัตรูร่วมกันให้ลูกน้องที่แตกแยกและอาจหันมาฟาดตัวเองได้ไปร่ามกันเตรียมรบกับศัตรูต่างชาติ

 

เกาหลีเหนืออนุมัติขั้นสุดท้ายโจมตีทางทหารต่อสหรัฐฯ

สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีเข้าสู่ภาวะคับขัน เมื่อกองทัพเปียงยางวันพุธ(3) ขู่เปิดสงครามวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ หลังได้รับอนุมัติขั้นสุดท้ายโจมตีทางทหารโดยปราศจากความเมตตาต่อสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวกลางเคซีเอ็นเอ สำนักเสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ระบุว่าพวกเขาได้แจ้งเตือนถึงวอชิงตันอย่างเป็นทางการแล้วว่า คำขู่ของสหรัฐฯจะถูกทำลายด้วยวิถีทางโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่างๆนานา "ได้มีการพิจารณาและอนุมัติปฏิบัติการที่ปราศจากความเมตตาของกองกำลังปฏิวัติของพวกเราแล้ว"

"ช่วงเวลาแห่งการเปิดฉากขยับเข้ามาใกล้เร็วมาก สงครมบนคาบสมุทรเกาหลีอาจระเบิดในวันนี้หรือพรุ่งนี้ จากมุมมองในสถานการณ์นี้ ทางเสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ซึ่งควบคุมทุกปฏิบัติการจะใช้อำนาจทางทหารทำการตอบโต้อย่างเหมาะสมตามลำดับ"



ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 03:12 น.

 

จ่อเปิดสงคราม!โสมแดงอนุมัติโจมตีนิวเคลียร์สหรัฐฯ ด้านมะกันรุดตั้งระบบต้านขีปนาวุธ

เอเจนซี/เอเอฟพี - สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีเข้าสู่ภาวะคับขัน เมื่อกองทัพเปียงยางวันพุธ(3) ขู่เปิดสงครามวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ หลังได้รับอนุมัติขั้นสุดท้ายโจมตีทางทหารโดยปราศจากความเมตตาต่อสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ในเวลาไล่เลี่ยกันเพนตากอนก็แถลงเตรียมส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธนำวิถีล้ำสมัยไปยังเกาะกวมสัปดาห์หน้า โดยนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม อ้างถึงอันตรายจากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวกลางเคซีเอ็นเอ สำนักเสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ระบุว่าพวกเขาได้แจ้งเตือนถึงวอชิงตันอย่างเป็นทางการแล้วว่า คำขู่ของสหรัฐฯจะถูกทำลายด้วยวิถีทางโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่างๆนานา "ได้มีการพิจารณาและอนุมัติปฏิบัติการที่ปราศจากความเมตตาของกองกำลังปฏิวัติของพวกเราแล้ว"

"ช่วงเวลาแห่งการเปิดฉากขยับเข้ามาใกล้เร็วมาก สงครามบนคาบสมุทรเกาหลีอาจระเบิดในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ด้วยมุมมองในสถานการณ์เช่นนี้ ทางเสนาธิการทหารกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ซึ่งรับผิดชอบควบคุมทุกปฏิบัติการ จะใช้อำนาจทางทหารทำการตอบโต้อย่างเหมาะสมตามลำดับ"

แม้เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเดือนธันวาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าเปียงยางคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีสำหรับพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีปที่สามารถยิงได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ฮาวายและเกาะกวม ก็อยู่นอกรัศมีของขีปนาวุธพิสัยกลาง ทว่าก็มีความเป็นไปได้ที่เป้าหมายการโจมตีจะอยู่ที่ฐานทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ในคำขู่เมื่อเร็วๆนี้ เกาหลีเหนือ ประกาศก้องเล็งแผ่นดินอเมริกา รัฐฮาวาย และเกาะกวม เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ คำประกาศอันแข็งกร้าวซึ่งผลักคาบสมุทรเกาหลีอยู่บนขอบเหวและจุดชนวนให้อเมริกาปรับเปลี่ยนสถานะการป้องกันตนเอง รวมถึงแผนติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธด้วย

"พฤติกรรมบางอย่างของพวกเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงถึงความอันตรายแบบโต้งๆและที่แท้จริงของพวกเขา" ฮาเกล บอกกับผู้ชมระหว่างร่วมบรรยาย ณ มหาวิทยาลัยป้องกันแห่งชาติในวอชิงตัน พร้อมชี้ว่าท่าทีของเปียงยางเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แถมยังเป็นคำขู่โจมตีโดยตรงต่อเกาะกวม ฮาวายและชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯด้วย

"พวกเขามีขีดความสามารถทางนิวเคลียร์และตอนนี้ยังมีความสามารถด้านขีนาวุธด้วย" เขากล่าว "เราจริงจังกับคำขู่ของพวกเขา เราจำเป็นต้องจริงจับกับคำขู่เหล่านั้น เราจำเป็นต้องทำทุกทางเท่าที่จะทำได้ ทำงานร่วมกับจีนและชาติอื่นๆเพื่อบรรเทาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ผมหวังว่าเกาหลีเหนือจะลดโวหารที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งลง"

ไม่นานหลัง ฮาเกล แสดงความเห็น ทางเพนตากอน ก็เผยว่าได้ส่งระบบป้องกันขีปนาวุธแบบ Terminal High Altitude Area Defense(THAAD) เพื่อป้องกันฐานทัพสหรัฐ บนเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิก จากภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ

THAAD ซึ่งย่อมาจาก Terminal High Altitude Area Defense เป็นระบบที่ติดตั้งบนรถบรรทุกหนัก สามารถหาตำแหน่งและทิศทางการโจมตีด้วยขีปนาวุธของศัตรูได้ ซึ่งระบบจะส่งจรวดพุ่งขึ้นสกัด และทำลายขีปนาวุธศัตรูกลางอากาศ ขณะที่เกาะกวมเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหรัฐ อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาหลีเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3,380 กิโลเมตร

"สหรัฐฯต้องไม่ประมาทท่ามกลางการยั่วยุของเกาหลีเหนือและต้องพร้อมสำหรับปกป้องดินแดนของเมริกา พันธมิตรและผลประโยชน์ของประเทศ" โฆษกเพนตากอนกล่าว

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เกาหลีเหนือประกาศปิดกั้นไม่ให้เข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมเกซอง ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพียงหนึ่งเดียว และยังแหล่งหาเงินตราสกุลแข็งแหล่งสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือด้วย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเปียงยางถือเป็นการโหมกระพือวิกฤตรอบล่าสุด ซึ่งเริ่มต้นขึ้นจากการทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง จากนั้นเกาหลีเหนือยังข่มขู่ที่จะโจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้การที่สหประชาชาติเพิ่มมาตรการลงโทษตนเองสืบเนื่องจากการเดินหน้าพัฒนาอาวุธอานุภาพร้ายแรงดังกล่าว ตลอดจนการที่โซลกับวอชิงตันเดินหน้าดำเนินการซ้อมรบใหญ่ประจำปีร่วมกัน

เหตุตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีรอบนี้ นอกจากจุดชนวนขึ้นโดยโสมแดงแล้ว ทางด้านสหรัฐฯก็ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างชนิดไม่มีลดราวาศอก โดยได้แสดงแสนยานุภาพทางทหารให้เป็นที่ประจักษ์ในภูมิภาคนี้ชนิดที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์อย่าง บี-52 ซึ่งเป็นรุ่นเก๋า และบี-2 ที่มีเทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ (สเตลธ์) อันทันสมัย ตลอดจนเครื่องบินขับไล่ เอฟ-22 ซึ่งมีเทคโนโลยีสเตลธ์เช่นกัน เข้าไปร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ รวมทั้งยังเรือพิฆาต 2 ลำที่มีระบบอาวุธต่อต้านขีปนาวุธชั้นเยี่ยม ไปประจำการในน่านน้ำนอกชายฝั่งของโสมขาวอีกด้วย

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/R4VQ_wqUkOg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


กองทัพเกาหลีเหนืออกคำสั่งพร้อมทำสงคราม



ระบบต่อต้านขีปนาวุธนำวิถีล้ำสมัย THAAD ที่สหรัฐฯ เตรียมส่งไปประจำการที่เกาะกวม

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 04:15 น.

 

เกาหลีใต้สุดทน! ประกาศตอบโต้รุนแรง หากเกาหลีเหนือยั่วยุข่มขู่อีก​

บินสเตลท์เอฟ 22 ของสหรัฐ เดินทางถึงเกาหลีใต้แล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการซ้อมรบ ขณะที่ผู้นำของเกาหลีใต้ประกาศว่า จะตอบโต้อย่างรุนแรง หากได้รับการยั่วยุใดๆเพิ่มเติมจากเกาหลีเหนืออีก

ประธานาธิบดีปาร์ค กึนฮเย ของเกาหลีใต้ประกาศว่า หากมีการยั่วยุใดๆจากเกาหลีเหนือต่อประเทศชาติและประชาชนชาวเกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะตอบโต้อย่างรุนแรง เนื่องจากได้รับการขู่คุกคามจากเกาหลีเหนืออย่างหนัก

ส่วนเครื่องบินรบสเตลท์เอฟ 22 ของสหรัฐ เดินทางถึงเกาหลีใต้แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการเปิดฉากการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในปฏิบัติการยกพลขึ้นบกและยุทธวิธีทางการรบ นอกจากนี้ เกาหลีใต้จะร่วมมือกับสหรัฐ พัฒนาระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ โดยกองกำลังสหรัฐประจำเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า เกาหลีเหนือจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆจากการยั่วยุหรือข่มขู่คุกคาม แต่จะยิ่งทำให้เกาหลีเหนือถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น และนานาประเทศจะพยายามสร้างสันติภาพและเสถียรภาพให้เกิดขึ้นบนเอเชียตะวัน ออกเฉียงเหนือ

ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของทางการเกาหลีใต้ รายงานอ้างกระทรวงกลาโหมว่า มีการจัดตั้งแผนฉุกเฉินเพื่อยับยั้งความเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้กองทัพ สามารถโจมตีเกาหลีเหนือได้ หากเกาหลีเหนือแสดงสัญญาณใดๆที่บ่งบอกว่า อาจจะมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธโจมตีเกาหลีใต้ โดยแผนการดังกล่าวจะได้รับการวางรูปแบบอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังมีแผนจะเร่งพัฒนาระบบขีปนาวุธป้องกันตนเองอีกด้วย

ขณะเดียวกันสื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า ในการประชุมพรรคแรงงานเกาหลีเหนือที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการกลางของเกาหลีเหนือได้ประกาศว่า อาวุธนิวเคลียร์คือชีวิตของประเทศชาติ พร้อมให้คำมั่นว่าจะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการ แต่งตั้งนายชเว บูอิล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในคนใหม่ โดยการแถลงดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือออกมายืนยันการเปลี่ยนแปลงในระดับเจ้าหน้าที่ ระดับสูง ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นความพยายามของผู้นำเกาหลีเหนือในการสร้างฐานอำนาจให้มั่นคงยิ่งขึ้น

ที่มา news.springnewstv.tv 2013-04-02 09:19:04

 

สื่อเกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเผยเกาหลีเหนือเคลื่อนขีปนาวุธ

By สำนักข่าวไทย TNA News | 4 เม.ย. 2556 08:43

สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างข่าวกรองว่า จากการตรวจสอบดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือเคลื่อนขีปนาวุธพิสัยกลางมาทางชายฝั่งตะวันออก

 

โสมแดงเคลื่อนขีปนาวุธประชิดชายฝั่งตอ.-ลือหึ่งไล่แรงงานเกาหลีใต้ออกจาก “แกซอง” ก่อน 10 เม.ย.

เอเอฟพี - เกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลางซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไปยังชายฝั่งตะวันออกของประเทศแล้ว พร้อมประกาศให้แรงงานเกาหลีใต้เดินทางออกจากนิคมอุตสากรรมแกซองซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเปียงยางกับโซล ภายในวันที่ 10 เมษายน สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงาน วันนี้(4)

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่เคยได้รับแจ้งจากเกาหลีเหนือให้อพยพพลเมืองออกจากแกซอง

ยอนฮัป อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวการทหารซึ่งเผยว่า การเคลื่อนย้ายขีปนาวุธครั้งนี้ไม่ได้รอดพ้นสายตาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯและเกาหลีใต้ไปได้

“ดูเหมือนอาวุธที่ถูกเคลื่อนย้ายจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง มูซูดัน” เจ้าหน้าที่โสมขาวคนหนึ่ง ระบุ

“เราจะเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดว่า เกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธเพราะมีเจตนาที่จะโจมตีจริง หรือเพียงต้องการข่มขู่สหรัฐฯเท่านั้น”

ด้านหนังสือพิมพ์ อาซาฮี ชิมบุน ในญี่ปุ่น ก็เผยรายงานที่ตรงกัน

ขีปนาวุธ “มูซูดัน” ถูกนำมาแสดงต่อชาวโลกเป็นครั้งแรกในพิธีสวนสนามของกองทัพเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2010 โดยเชื่อกันว่าพิสัยโจมตีน่าจะอยู่ที่ราวๆ 3,000 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีข่าวว่าเกาหลีเหนือเคยทดสอบขีปนาวุธรุ่นนี้มาก่อน

แหล่งข่าวกรองเผยกับ ยอนฮัป อีกว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธในวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งรัฐโสมแดง และเป็นปู่ของผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานดังกล่าว แต่เน้นย้ำว่าทหารเฝ้าจับท่าทีของเปียงยาง “ตลอด 24 ชั่วโมง”

“เราเชื่อว่าการยิงขีปนาวุธเกิดขึ้นได้เสมอ และได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้ว” วี ยอง-ซอป โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงต่อสื่อมวลชนโดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงวานนี้(3)ว่า ได้ส่งระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดินไปคุ้มกันเกาะกวม ซึ่งอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 3,380 กิโลเมตร และเป็นบ้านของทหารอเมริกันราว 6,000 นาย รวมถึงฐานเรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิด

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้ขีปนาวุธมูซูดันจะสามารถโจมตีเกาะกวมได้ในทางทฤษฎี แต่เมื่อขาดการยิงทดสอบก็ทำให้ศักยภาพของมันยังไม่อาจเป็นที่เชื่อถือได้ แม้จะเป็นเป้าหมายที่ใกล้ยิ่งกว่าเกาะกวมก็ตาม

สำนักข่าวยอนฮัป ยังรายงานโดยไม่อ้างแหล่งข่าวว่า โสมแดงประกาศให้ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีใต้ เดินทางออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซองที่ห่างจากชายแดนโสมขาวประมาณ 10 กิโลเมตร ภายในวันที่ 10 เมษายนนี้

อย่างไรก็ดี กระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่เคยได้รับคำเตือนดังกล่าวอย่างเป็นทางการ และเช้าวันนี้(4) ก็ยังมีพลเมืองเกาหลีใต้ 823 คนทำงานอยู่ที่เมืองแกซอง

“รายงานข่าวคงมีความผิดพลาด เกาหลีเหนือเพียงแจ้งให้หลายบริษัทที่แกซองส่งรายชื่อพนักงานซึ่งมีกำหนดเดินทางกลับกรุงโซล ภายใน 10 เมษายนนี้” โฆษกหญิงประจำกระทรวงฯ ระบุ


ขีปนาวุธ "มูซูดัน" ซึ่งถูกนำมาแสดงในพิธีสวนสนามของกองทัพเกาหลีเหนือเนื่องในวันคล้ายวันเกิดอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 2012

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 10:08 น.

 

เกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลางแล้ว

สำนักข่าวยอนฮัปของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนือได้เคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีขีดความสามารถโจมตีเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยรายงานข่าวนี้สอดคล้องกับรายงานของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยคาดว่าขีปนาวุธดังกล่าว อาจจะเป็นขีปนาวุธมูซูดาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่า เกาหลีเหนือมีวัตถุประสงค์ในการยิงขีปนาวุธดังกล่าว หรือต้องการจะแสดงแสนยานุภาพ โดยกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กำลังเฝ้าจับตามองเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ได้ส่งระบบตรวจจับขีปนาวุธที่มีการติดตั้งไว้ที่ภาคพื้นดินไว้ที่เกาะกวม เพื่อรับมือกับการคุกคามของเกาหลีเหนือ ที่อาจโจมตีเป้าหมายของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่า เกาหลีเหนือเคยทดสอบขีปนาวุธชนิดนี้มาก่อน
ขณะเดียวกัน นายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า การคุกคามของเกาหลีเหนือถือเป็นเรื่องที่จริงจัง พร้อมยืนยันระบบป้องกันขีปนาวุธที่เกาะกวม มีระบบตรวจจับขีปนาวุธที่มีเรดาร์ทันสมัย สามารถรับมือกับเกาหลีเหนือได้อย่างสบาย

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 10:48 น.

 

คิดอีกมุม จริงๆแล้วเกาหลีเหนือ ก็อาจจะอยากปลดแอกจากจีนและรัสเซียก็ได้ โดยทำเป็นล่อให้อเมริกาเข้ามาทำสงคราม ถ้าแพ้ก็จะถือว่าได้เปลี่ยนประเทศมาสู่เสรีทุนนิยมอย่างเนียนๆ แบบไม่เสียเชิง ทำไมถึงอยากปลดแอก ก็เพราะว่าตั้งแต่อยู่กับพี่จีนมา ดูเหมือนว่าพี่จีนช่วยไม่เต็มที่ คือประมาณว่าค้าขายเอาแต่กำไรมากๆ พอประชาชนอดอยาก ก็ไม่ได้ช่วยอย่างเต็มกำลัง

 

แบบพี่จีนใช้แต่ประเทศเกาหลีเหนือเป็นแค่หนังหน้าไฟ เป็นรัฐกันชนสำหรับอเมริกาแค่นั้นเอง ไม่ได้ช่วยสร้างความเจริญอะไรให้แก่เกาหลีเหนือเลย

 

(eek)(eek)(eek)(eek)
เอาซะทีเถอะ เห่าจังดู Pearl Harbor ซิ พี่ยุ่นเราไม่มีเห่าซักคำ ซัดเลย ขืนยิงออกมาได้โดน มะกัน กระหายสงครามลองนิวเคลียร์ตัวใหม่แน่ รุนแรงกว่า Fat man รวมกับ Little boy หลายเท่า แถมโดนข้อหาอาชญกรสงครามอีก ลูกก็เพิ่งเกิด

 

บัวแก้วเตรียมมาตรการอพยพคนไทย หากเกิดสงครามเกาหลี

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมองว่า ท่าทีของเกาหลีเหนือนั้น เป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่เพื่อความไม่ประมาท รัฐบาลได้เตรียมมาตรการสำหรับอพยพคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้กว่า 40,000 คน ซึ่งหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จะสามารถประสานงาน เพื่อทำการอพยพ และให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

โดยกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้รับรายงานที่ระบุว่า เอฟบีไอเตือนว่า ไทยติดอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 5 ของโลก ที่มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้าย แต่หากพบว่ามีการแจ้งเตือนจริง จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม สภาความมั่นคงติดตาม และตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 18:10 น.

 

สงสัยจะเคลื่อนย้ายไปแลกอาหารตรงชายแดนเกาหลีใต้เป็นแน่ เพราะกินบ่ได้


ประชาชนอดอยากยากจนข้นแค้นจะตายอยู่แล้ว

 

ถ้าระเบิดนิวเคลียร์ทำงาน...

ในความเห็นของนักนิวเคลียร์ไทยมองว่าเป็นแค่คำขู่ที่สหรัฐฯ ร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ใกล้ๆ ถิ่นโสมแดง อีกทั้งเปียงยางกับโซลไม่ห่างกันมาก ใกล้กันเหมือนนครสวรรค์กับกรุงเทพฯ ถ้าถล่มกันจริงก็ตายทั้งคู่ แต่หากเกาหลีเหนือเกิดลูกบ้าขึ้นมาจริงๆ คอมเฟิร์มว่ารังสีมาไม่ถึงไทย

การเมืองในบ้านร้อนไม่พอการเมืองโลกก็ดูจะระอุด้วย ล่าสุดเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายทั้งในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นไปยังชายฝั่งตะวันออกของประเทศแล้ว พร้อมประกาศให้แรงงานเกาหลีใต้เดินทางออกจากนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเปียงยางกับโซล ภายในวันที่ 10 เม.ย.56

ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้สอบถามไปยัง ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเกาหลีเหนือยิงระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นมาจริงๆ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าท่าทีของโสมแดงน่าจะเป็นเพียงการขู่ จากการที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ร่วมกันซ้อมรบใกล้ๆ กับเกาหลีเหนือ

โซลซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาหลีใต้ และเปียงยางซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาหลีเหนือนั้นห่างกันประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งนักนิวเคลียร์ไทยเปรียบเทียบว่าเป็นระยะทางใกล้กันประมาณจากกรุงเทพฯ ไปนครสวรรค์ ดังนั้น คิดว่าไม่น่ามีการยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่กัน เพราะหากทำเช่นนั้นก็เสียหายทั้งคู่

“ไม่อยากให้คิดแบบนั้น เขาคงไม่ถอยไปเหมือนกรณีฮิโรชิมา ซึ่งครั้งนั้นมีคนตายเป็นแสน แต่ถ้ามีการยิงระเบิดนิวเคลียร์คราวนี้จะมีคนตายเป็นล้าน ถ้าถล่มจริงคงเสียหายมาก แต่ตอนนี้อากาศบ้านเขาหนาว คงไม่ใจร้อนเหมือนกรณีที่เกิดในกรุงเทพฯ แต่ถ้ายิงระเบิดนิวเคลียร์ รังสีก็มาไม่ถึงบ้านเรา ต่างจากกรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่นที่มีไอโอดีนรังสีและถูกกระแสลมพัดไป” ดร.สมพรให้ความเห็น

พร้อมกันนี้ ดร.สมพร ยังได้อธิบายการทำงานของระเบิดนิวเคลียร์คร่าวๆ ว่ามี 3 ขั้นตอน

ตอนแรกจะเกิดแรงอัดหรือแรงระเบิดมหาศาลด้วยความเร็ว 300-500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คล้ายกับพายุทอร์นาโด ทำให้บ้านเรือนเสียหายและราบเป็นหน้ากลอง

ตอนที่สองคือเกิดความร้อนมหาศาล 2,000-3,000 เหมือนกองไฟที่ราดคนตายเรียบในชั่วพริบตา และ

ตอนสุดท้ายจะเกิดรังสีตามมา และเป็นขั้นที่ฆ่าคนน้อยที่สุด เพราะส่วนใหญ่เสียชีวิตไปในสองขั้นตอนแรกแล้ว

“เหมือนทอร์นาโดอัดเปรี้ยง ในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะหวังผล ที่คนตายเรียบ อาคารและบ้านเรือนเสียหายหมดในรัศมีนี้ ส่วนรังสีนั้นฆ่าทีหลังสุด” นักเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไทยกล่าว


ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 14:19 น.

 

สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่สอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


เบนิโต มุสโสลินีกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สองผู้นำเผด็จการในทวีปยุโรปก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

สาเหตุเบื้องต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง คือ ความตึงเครียดเกี่ยวกับชาตินิยม ประเด็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข และความไม่พอใจอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และสมัยระหว่างสงครามโลกในทวีปยุโรป รวมทั้งผลกระทบของ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930

เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ลงเอยด้วยการปะทุของสงคราม ซึ่งมักเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการบุกครองโปแลนด์ โดยนาซีเยอรมนี ความก้าวร้าวทางทหารนี้เป็นผลมาจากการตัดสินใจของผู้นำของเยอรมนีและญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้นจากการปฏิบัติอันก้าวร้าวและบรรจบกับการประกาศสงคราม


สนธิสัญญาแวร์ซาย

สนธิสัญญาแวร์ซายมิได้ประนีประนอมให้แก่เยอรมนีแต่อย่างใด ฝ่ายพันธมิตรผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันมิให้เยอรมนีกลับขึ้นมาท้าทายอำนาจในทวีปยุโรปอีกครั้ง

สนธิสัญญาแวร์ซายถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูว่าเป็นมลทินของสงคราม เพราะเป็นการโยนความผิดให้แก่จักรวรรดิเยอรมนีและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเดิม และลงโทษอย่างหนักเพื่อเรียกร้องให้พวกเขารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงคราม โดยผู้ชนะสงครามได้หวังว่าสนธิสัญญานี้จะได้กลายเป็นสิ่งที่สามารถธำรงสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกได้

ผลที่ตามมมา คือ เยอรมนีจำเป็นต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมหาศาล การสูญเสียดินแดนอาณานิคมทั้งหมด การจัดระเบียบทางเชื้อชาติขนานใหญ่ หลังจากนั้น เศรษฐกิจเยอรมันก็ร่วงดิ่งลงไปอย่างหนัก อัตราเงินเฟ้อสูงลิบสาธารณรัฐไวมาร์จำเป็นต้องพิมพ์ธนบัตรกว่าล้านล้านฉบับออกมาและต้องกู้ยืมเงินจำนวนมหาศาลจากสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้หนี้แก่สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ชนะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง


ที่มา...สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่สอง - วิกิพีเดีย



เพิ่มเติม...ความเห็นส่วนตัว (ถูกหรือผิดไม่ว่ากันนะครับ)

วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้จางหายไป...การอัดฉีดเม็ดเงินด้วยการพิมพ์กระดาษทิชชู่ที่มีเครื่องหมายดอลล่าร์...ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ไม่มีออร์เดอร์จาก USA และ EU เข้ามาในประเทศไทย

EU กำลังกอดคอกันตาย (ส่วนหนึ่งเจ๊งเพราะ Subprime ของอเมริกา)...หลายประเทศรู้ตัว....จึงรีบกว้านซื้อทองคำแท่งมาตุนไว้...ก่อนจะไม่มีอะไรให้คว้า

เกาหลีใต้เอง...ก็ทำแบบเดียวกัน

เกาหลีเหนือ...อยู่ในภาวะหลังชนฝา...ไม่รบก็อดตาย (ด้วยการคว่ำบาตร)

แต่หากฝืนรบ...ก็ยังมีโอกาส...หรือมีโต๊ะเจรจาเกิดขึ้น...หากไม่ยิงอะไรสักลูก...คงไม่มีใครตั้งใจฟัง...เกาหลีเหนือ...?

รูปแบบของสงครามโลกครั้งที่สอง...คงพอเอามาเทียบเคียงได้บ้างไม่มากก็น้อย

หาก...อเมริการบ - EU ก็รบด้วยแน่นอน (เศรษฐกิจกำลังไปไม่รอดทั้งคู่)...แต่รูปแบบใดนั้นน่าจะกำลังหารือกัน

เช่นเดียวกับที่เคย....บุกอิรัก...อเมริกาโจมตีโดยไม่รอผลการลงมติของ UN และไม่มีใครกล้าว่าสักคำ

การรบช่วยให้เกิด

- ชาตินิยม...และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (มีประเด็นร่วมกัน)

- ช่วยระบายอาวุธ...ทดสอบอาวุธใหม่ (แบบเดียวกับที่อิสราเอลเอา Mini Nuke ไปทดสอบ)

- เมื่อมีอาวุธใช้ไป...ก็มีการจ้าง-สร้างอาวุธทดแทน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ CashFlow

- ประเทศแพ้สงคราม...เสียค่า...ปฏิกรรมสงคราม....โดนสูบทรัพยากรในรูปแบบต่างๆ

- การบูรณะประเทศ จากซากปรักหักพังแม้จะขมขื่น...แต่ก็สร้างชาตินิยม...และเิกิดโครงการขนาดใหญ่...เมื่อถึงจุดต่ำสุด...ก็ต้องไต่ขึ้นไปจากศูนย์....เป็นธรรมดา (ตย.คือ...เยอรมัน ญี่ปุ่น)

ปล.

เกาหลีเหนือ...ส่งออกถ่านหิน...มีอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล เหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ และปุ๋ย...แต่ที่ผลิตได้น้อยเพราะมีไฟฟ้าไม่เพียงพอแก่ภาคอุตสาหกรรม

ดังนั้น...การเอาประเทศเกาหลีเหนือ...มาเจียระไน...ให้เป็นเพชร...จึงไม่ใช่เรื่องยาก...เพียงแต่ชาติมหาอำนาจ...ไม่อยากเสียเวลาพัฒนาประเทศนี้...แค่นั้นเอง

หรือจะเกรงใจ...ประเทศจีน ?

การรบผ่านตัวแทน...จึงน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้

เกาหลีใต้...ตัวแทน...ทุนนิยมเสรีตะวันตก (ประเทศอะไรเอ่ย...นิยมตะวันตก...ยอมให้ตะวันตกมาสูบทรัพยกรได้อย่างเสรี โดยที่คนในประเทศนั้นๆไม่มีปากเสียง)

เกาหลีเหนือ...ตัวแทน...คอมมิวนิสต์ยุคสุดท้าย (ที่ยังไม่ปรับตัวเหมือนจีน)...และกำลังจนตรอก

สัญญาณคือ...จรวดพิสัยกลางถูกเคลื่อนกำลัง...จรวดต่อต้านก็ถูกติดตั้งแล้ว

.

 

ถ้าเอากันจริงๆแบบ เกาหลีเหนือ vs สหรัฐอเมริกา แบบที่ไม่ต้องมีประเทศอื่นเข้ามาช่้วย ผมว่าแฟร์ๆ

แต่การวิเคราะห์ สหรัฐ เจ้าเล่ห์ กำลังเล่นเกมอยู่ ถ้าเกาหลีเหนือใจร้อน อาจจะเดินตกหลุมของสหรัฐที่ขุดรอไว้ หากเกาหลีเหนือเปิดก่อน สหรัฐก็อ้างนู้น นี้ นั้น ได้ สหรัฐชอบทำตัวเป็นตำรวจโลก ชอบเข้าไปยุ่งกับประเทศอื่นๆ โลกวุ่นวาย เพราะเจ้านี้มาตลอด ตั้งแต่ปลุกผีคอมมูนิสต์ จอมลวงโลกเรื่องไปลงโลกพระจันทร์
สร้างระบบ สิทธิสภาพนอกอาณาเขตแบบใหม่ เอากฏหมายลิขสิทธิ์ไปบังคับใช้ในสหประชาชาติ
ถ้ากฎหมายนี้มีตั้งแต่สมัยหลุย์ ปลาสเตอร์ เรดิสัน ฯลฯ โลกนี้คงจุดเทียนกัน ยามค่ำคืน คนตายกันวุ่นวายด้วยเชื้อโรค
อเมริกา คือ มหาอำนาจ จักรวรรดินิยม ปลอมตัวมาในคราบนักบุญ มันทำไปเพราะได้ผลประโยชน์ ตั้งแต่ เอาน้ำมันจากอิรัก

 

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/BSHXUEBlnWg?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

North Korea 'ratifies' nuclear strike against US

เผยแพร่เมื่อ 4 เม.ย. 2013

North Korea's military says it's now officially authorized to wage a nuclear attack against the US - to counter what it calls Washington's aggression. Pyongyang warns an explosion is imminent - and war could break out 'today or tomorrow'.

South Korean-based journalist Joseph Kim has more on the latest in a series of threats.




RT LIVE http://rt.com/on-air

Subscribe to RT! http://www.youtube.com/subscription_c...

Like us on Facebook http://www.facebook.com/RTnews
Follow us on Twitter http://twitter.com/RT_com
Follow us on Google+ http://plus.google.com/+RT

RT (Russia Today) is a global news network broadcasting from Moscow and Washington studios. RT is the first news channel to break the 500 million YouTube views benchmark


.

 

ทั่วโลกห่วงสถานการณ์เกาหลีเหนือ หลังทวีความรุนแรง

คำขู่ล่าสุดของเปียงยางกระตุ้นความกังวลไปทั่วโลกอีกครั้ง บัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวขณะเยือนโมนาโกว่า เป็นห่วงสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และคิดว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเฉพาะจีน ควรมีบทบาทสำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์นี้

เช่นเดียวกัน สหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้เปียงยางยุติการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น และกลับสู่โต๊ะเจรจากับนานาชาติ

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงกร้าว โดยระบุว่าเกาหลีเหนือเพิกเฉยไม่แยแสต่อมติฉบับต่างๆ ของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น การกระทำเช่นนี้ “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”

ภายหลังกองทัพเกาหลีเหนือประกาศว่า ได้รับอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอเมริกา รวมถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ยุน ดุ๊กมิน อาจารย์ของสถาบันวิชาการทูตแห่งชาติของเกาหลี ในกรุงโซล แสดงทัศนะว่า คำขู่ล่าสุดของเกาหลีเหนือนี้คล้ายกับคำขู่เมื่อเดือนที่แล้ว เพียงแต่มีน้ำหนักมากขึ้นจากถ้อยแถลงว่า “ได้รับอนุมัติแล้ว” ซึ่งน่าจะหมายถึงการอนุมัติจากคิม จองอึน ผู้นำสูงสุด

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 เมษายน 2556 23:15 น.