SLE (โรคภมูิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง)

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย พรีมพรีม, 26 มีนาคม 2010.

  1. พรีมพรีม

    พรีมพรีม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +273
    ลูกขอกราบนมัสการหลวงพี่อีกครั้งเจ้าค่ะ
    สาเหตุที่ลูกมิได้ปรึกษาท่านอาจารย์สุวิ เพราะว่าลูกเพิ่งได้รู้จักเวบนี้โดยบังเอิญเจ้าค่ะ อีกทั้งเพิ่งเล่นเวบนี้ได้ไม่นาน เลยมิกล้าที่จะปรึกษาผู้ใด ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องต่างๆของน้องสาวลูก ก็หนักหนาพอสมควรเจ้าค่ะ เนื่องมาจากอาการที่ตัวเค้าเป็นด้วย ภาระต่างๆในการรักษาทุกๆเรื่องอยู่ในความดูแลของลูกทั้งสิ้น เพะรา บิดา- มารดา ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวต่างไหวเจ้าค่ะ อีกทั้งตัวลูกก็มีครอบครัวแล้ว จึงเป็นปัญหาที่ลูก ต้องรับทั้ง 2ด้าน ในการปรึกษาใครๆนั้นมิได้กระทำเลยเจ้าค่ะ มีแต่ นั้งสวดมนต์ภาวนา ขอพรพระพุทธและในองค์ครูบาอาจรย์ ของลูก ช่วยให้อาการไม่หนักไปกว่านี้ อีกทั้งตัวลูกมิเคยได้หวังว่าตัวเค้าจะหายขาดเจ้าค่ะ เพราะด้วยตัวของโรคเองนั้นยังไม่สามารถรักษาหายขาดได้เจ้าค่ะ
    ....................................................................................
    จากบทสทนาที่พรีมพรีมได้รับคำชี้แนะจากหลวงพี่ไตรภพ ถึงการปรึกษาท่านอาจารย์สุวิ ด้วยเรื่องยา พรีมพรีมเองก็ได้โทรตามที่หลวงพี่แนะนำ และท่านอาจารย์สุวิ ได้ให้พรีมพรีมเข้ามาตั้งกระทู้เพื่อสอบถามนะค่ะ
    แรกเริ่มเลย น้องสาวพรีมพรีมอายุได้เพิ่งจะครบ 19 ปี ได้มีอาการ เป็นไข้ตัวร้อน แบบเป็นๆหายๆ 3 วันดี 4 ไข้ อยู่อย่างนี้ประมาณครึ่งเดือน ไม่ว่าจะไปหาหมอกี่คลีนิคก้ตาม รวมถึงการฉีดยาแก้ไข้ ก็ยังคงอาการนี้ จนกระทั้งวันหนึ่งน้องสาวพรีมพรีมอีกคนได้พาไปหาหมอที่คลีนิคหน้าหมู่บ้าน หมอได้ทำการขอเจาะเลือดไปตรวจและให้มาฟังผลวันหลัง และเมื่อมารับฟังผลหมอได้บอกว่าเหมื่อนจะเป็นโรค พุ่มพวง แต่หมอไม่แน่ใจเต็ม 100 ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และวันต่อมาได้พาน้องสาวคนเล็กไปตรวจ ผลปรากฎว่า เป็นโรค SLE แต่อาการยังไม่หนัก ด้วยตัวโรคนี้จะแสดงออกมาได้หลายแบบ หมอได้ให้ยาที่ผสมกับน้ำเกลือ มีเวลา 8 ชั่วโมง ยาจึงจะหมดจึงต้องนอน ที่โรงพยาบาล 1 คืน (ตอนนั้นใช้บัตร 30 บาท) และเวลา ตี 1 น้องสาวมีอาการปวดหัวและอาเจียน (อาการเริ่มเล่นงานแล้วค่ะ ) จากนั้นมีอาการชัก และหายใจล้มเหลว ต้องส่งตัวเข้าห้อง ICU และ ต้องนอนรักษาอยู่ในห้องICU ด้วยอาการ SLE ระดับ 4 ซึ่งร้ายแรงมากที่สุด คือ ไควายฉับพลัน และมีเลือดคลั่งในสมอง อีกทั้ง ตัวเริ่มบวม(เหมือนคุณพุ่มพวง) บวมมากๆ อีกทั้งต้องให้เลือดและยาจำนวนมาก ทั้งต้องต่อท่ออ๊อคซิเยน ทางคอ ให้อาหารเหลวทางจมูก จากจุดตรงนั้น เมื่อหมอรักษาจนอาการพอทุเลา มาได้ 2 ปีและเมื่อเดือนมกราคม อายุได้ 21 ปีอาการเริ่มกำเริ่มอีกครั้งจนต้องเข้ารักษาในห้อง ICU อีกครั้ง ด้วยอาการหายใจล้มเหลว และมีอาการตัวบวมน้ำ และชัก หมดสติ จนทำให้สมองส่วนด้านท้ายทอยเสียหาย (สมองตายส่วยท้ายทอยทั้ง 2ข้าง)เนื่องจากขาดอากาศเข้าไปหล่อเลี้ยงสมอง และมีอาการสมองบวมเนื่องจากเส้นเลือดฝอยแตก หมอจึงต้องเให้เข้ารับการผ่าตัดสมองเพื่อระบายน้ำ(เลือดที่ชึม)ออกและตัดชิ้นเนื้อสมองไปวิเคราะห์ ส่วนแขนและขาบวมมากจนหาเส้นเลือดไม่เจอเนื่องจากเส้นเลือดหลบในและเปราะบางมากๆหมอได้ทำการเจาะเส้นเลือดดำที่คอเพื่อให้ยาและน้ำเกลือ อีกทั้ง ยังคงต้องให้อ๊อดชิเยนทางคอ และอัดบอลลูนที่ปอดเนื่องจากหัวใจโต ปอดทำงานไม่ได้เต็มที และยังให้อาหารทางสายยาง นอนรักษาตัวอยู่เกือบ 2 เดือน อาการถึงทุเลาลงแต่ในปัจจุบันนี้ ตัวเค้ายังมีอาการบวมที่เท้า ถ้าเดินนานๆ และยังมีอาการเหนื่อย และ ไม่ค่อยมีแรง เวลาไปไหนมาไหนต้องคอยพยุงตลอด และการพูดจา บ้างครั้งเค้าคิดว่าจะพูดแต่ไม่สามารถเรียงคำพูดได้
    และทานยาจำนวนมากๆมือละ 15- 20 เม็ด พรีมพรีมอยากได้คำแนะนำเกียวกับตัวยาที่ช่วยในเรื่อง เลือด ด้วยเพราะตัวของโรคเค้าจะมีเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดง จนต้องเข้าไปรับเลือดเกือบทุกๆ 2 เดือน ปัจจุบันนีั้เลือดในตัวแทบไม่ใช่ของตัวเองเลย พรีมพรีมอยากจะขอท่านอาจารย์สุวิ ฃ่วยฃี้แนะด้วยค่ะ ถึงไม่หายแต่พรีมพรีมอยากให้เค้าไม่ต้องทานยาแทนข้าว อยากให้เค้าใช้ชีวิตปกติ เจ็บบางแต่ไม่หนักเท่าเดิม บางคนแนะนำให้ไปหายาโบราณบ้าง ยาหม้อบ้าง แต่ พรีมพรีม มิกล้าไปหาซื้อเองซุ่มสี่ซุ้มห้าค่ะ เพราะด้วยตัวเค้าเองต้องระวังเรื่องอะไรที่กินเข้าไป ทุกอย่าง เพราะตัวโรคแทนที่จะรับยาไปเพื่อรักษากลับด้านยาชนิดรุ่นแรง อีกทั้งผู้แนะนำได้แนะให้ลองปรึกษาท่านอาจารย์สุวิ พรีมพรีมขอกราบขอบคุณ หลวงพี่ไตรภพ ที่แนะนำให้ปรึกษาท่านอาจารย์สุวิ และกราบขอบคุณท่านอาจารย์สุวิ ที่เข้ามาตอบนะค่ะ
     
  2. ลุงชิด

    ลุงชิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +218
    อ.จ. สุวิ สวัสดีครับ
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โรคภัยไข้เจ็บที่ประหลาดๆ ส่วนใหญ่ล้วนมีเจ้าของไข้อยู่
    ที่เบาที่สุด ก็คือมนุษย์เราแส่หามาใส่ตัวเอง ซึ่งเป็นวิบากกรรมติดตามมา
    ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรตัวจริงเสียงจริง และรับสมอ้าง ตามเกาะทวงถาม
    แต่ที่หนักสุด มักมีตัวช่วยมาไล่กระทืบคนป่่วยให้ทรุดเร็วขึ้น

    การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเจ็บไข้ หรือยุ่งเกี่ยวกับกรรมที่ทำให้ชีวิตอับเฉา
    ผู้เข้าไปยุ่งเกี่ยวมักถูกถามเสมอว่า
    งานนี้ เอ็งมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย
    หรือจะมาช่วยรับใช้หนี้สินนี้ และโดยมากไม่ค่อยรอคำตอบ ผู้เข้าไปช่วยก็โดนอัดเละไปแถบหนึ่ง

    ผู้มีฝีมือ มึงอัดมา กูก็อัดกลับ ดูซิใครจะแน่กว่า ถ้าชนะ โรคภัยก็รามือ (แต่อย่าเผลอนะ)
    แต่ถ้าแพ้ คนที่เข้าไปช่วยก็เละ คนไข้ก็เละ
    ซึ่งล้วนก่อกรรมใหม่ทั้งสิ้น

    การเปิดกรรม การรักษาไข้ ล้วนอยู่ในข่ายนี้ทั้งสิ้น
    ผู้เข้าไปช่วยเลือ ต้องรู้วิธีเจรจาต่อรอง โดยส่วนใหญ่ต้องควักสำรองจ่ายหนี้สินให้ก่อน
    หรือไม่ก็ต้องเป็นนายหน้าค้ำประกันให้คนไข้ ว่าจะใช้หนี้ให้อย่างนี้ๆนะ
    เขาก็ตกลงรับ แต่ตัวคนไข้ซิ ดูนายหน้าพูดไม่กี่คำก็สำเร็จแล้ว ดูง่ายๆ
    และโดยมากมักเบี้ยวคำสัญญา นายหน้าก็รับเละลูกเดียว
    คนสองคนพอรับไหว แต่มากๆเข้า ไอ้คนที่ทำตัวเป็นนายหน้าก็ตกระกำลำบากเอง เจ็บไข้เอง ชีวิตตนเองก็อับเฉา
    ยิ่งช่วยคนมากเท่าใด ด้วยหวังในบุญ แต่ตนเองยิ่งตกต่ำ ยิ่งบาดเจ็บ
    แต่ฝีมือในการช่วยคนกลับยิ่งก้าวหน้า เหมือนมากด้วยบารมี(ก็มีบญค้ำนี่)
    ก็แน่ละ นายหน้าค้ำประกันมันหน้าบางนี่ พอไอ้คนที่ค้ำประกันไว้มันเบี้ยว นายหน้าก็จ่าย จ่ายง่ายด้วย ไม่เหนื่อยแรงทวง

    แต่กับสุวิ เป็นอีกเรื่อง
    เมื่อถูกถามว่าเกี่ยวอะไรด้วย ก็ตอบมันไปว่า ตูเป็นหมอโว้ย(ทั้งพฤตินัยและนิตินัย มีครุฑคุ้มหัวอยู่ด้วย)
    มีหน้าที่ รักษาไข้
    ถ้ามันฉลาด มันก็จะถามอีกว่าที่มารักษาเนี่ยมีเทียบเชิญหรือไม่ ถ้าไม่มีมันก็ถือว่า เสือ....ก
    เราก็เถียงไม่ได้ แพ้มัน(ก็รับเละเช่นกัน)

    ดังนั้นการรักษาไข้บางงาน สุวิจึงต้องให้เจ้าของไข้ที่แท้จริง เอ่ยปากขอให้รักษา
    จึงจะมีข้ออ้าง งานนี้ตูมีเทียบเชิญโว้ย จะไล่กระทืบมันได้เต็มไม้เต็มมือหน่อย(แหะๆ อ้างว่าทำตามหน้าที่จะ)

    แหะๆ.... ในงานนี้ หมอสุวิ ต้องการเทียบเชิญนะ จะเอาเทียบเชิญไว้คุ้มหัวหน่อย
    มันใช้แทนหมวกกันน๊อกได้นะ
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เมื่อกระทู้ได้เปิดขึ้น มีคำร้องถึงหมอสุวิแล้ว
    ตูมีเทียบเชิญแล้ว ก็ลงมือได้

    โรค SLE เป็นโรคที่เกิดจากไวรัส ที่มีจิตหนึ่งบงการอยู่

    ตัวโรคจริงๆ รักษาง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก
    ใช้เพียง ตรีผลา ตัวเดียว ก็สามารถรงับอาการได้ และคืนสุขภาพให้ดีขึ้นได้อย่างช้าๆ
    ถ้ามีเงินหน่อย ก็ใช้เพียง เห็ดหลินจือ และ โสมคน อย่างละนิด วันละครั้งเดียว(กินคนละเวลากัน) ก็จะดีเร็วขึ้น
    แต่ถ้าได้เข้าสูตรยา เช่น ยาประกายเงิน ของสุวิ โรคก็จะหายเร็วขึ้น

    แต่ช่วยไม่ได้เลย เมื่อไวรัสเหล่านี้มีลูกพี่คุ้มหัวอยู่
    พอได้ยาที่กำจัดไวรัสได้ ไอ้ลูกพี่ก็เพียงโยกธาตุในกายให้เสียสมดุลย์ เพียงนิดหน่อย ให้เป็นปรปักกับยา
    เพียงเท่านี้ ยาไร้ประสิทธิภาพในการรักษา ซ้ำก่อโรคเพิ่มให้กับร่างกายอีก

    งานนี้ คนไข้รักษามานานแล้ว เพียงดีขึ้นแล้วทรุดลง สลับกันไปมา นานเป็นปีๆ
    เจ้าของไข้คงต้องตัดสินใจแล้ว ว่าจะรักษาแบบมีทางเลือก
    หรือจะรักษากับหมอไม่มีทางเลือกอย่างหมอสุวิ<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    SLE เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง ImmuneSystem ซึ่งเป็นแล้วรักษาให้หายขาดยาก

    แต่ปัจจุบันมนุษย์ได้ค้นพบสาเหตุว่าเกิดจากการผลิตเอนไซม์ในร่างกายบกพร่อง จำเป็นต้องหามาเสริมเพื่อให้ร่างกายผลิตภูมิต้านทานขึ้นมาเพียงพอที่จะต่อสู้กับอาการของโรค

    จริงๆแล้วเคยแนะนำผู้คนในเวปนี้หลายคน แต่คนเหล่านั้นก็มีกรรมบดบังทำให้ไม่เชื่อเรา
    เลยไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร

    หากรายนี้ไม่รู้จะหาวิธีรักษาได้อย่างไรอีก ก็ PM มาถามก็แล้วกัน ยังมีหนทางแก้ไขอยู่อีก ครับ
     
  6. พรีมพรีม

    พรีมพรีม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +273
    ห่างหายจากกระทู้นี้ไปนานเนื่องจาก ตัวพรีมพรีมเองได้ตั้งครรถ์ เลยไม่ได้เข้ามาดุจากคำตอบทุกๆท่านที่เมตตา วันนี้ขอถือโอกาศแจ้ง ณ.ปัจจุบัน อาการคงทีไม่มีทรุดและได้งดยาทุกชนิดลงเหลือเพียง 3 เม้ด เท่านั้นค่ะ ด้วยอำนาจบุญ ที่มีความสัมพันธ์กันมากับพระแม่แม่กวนอิม(กำลังใจของตัวเอง) ได้ช่วยให้อาการเหล่านั้นลดลง(ยังไงก็ไม่หายขาด) พรีมพรีม กราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้ช่วยชี้แนะมากๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...