พระพุทธรูปกอดสีกานั่งคร่อมบนตัก โผล่เวียดนาม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อีโต้, 28 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678

    ผมว่า คุณคิดไปเองไกลแล้วนะครับและตีความเอาตามความรู้สึกส่วนตัวคุณ ใช่ไหมเนี่ย ผมว่าผมพูดชัดนะ ว่าเขาก็สอนให้คุณหลุดพ้นจากกองทุกข์นั้นแหละ เขาถึงกับอ้างว่าเขาจะสอนให้คุณเป็นพระพุทธเจ้าเสียด้วยซ้ำ

    แต่คุณจะหลุดพ้นยังไง ถ้าคุณไม่เรียนรู้จากความทุกข์ก่อนว่าสาเหตุมันอยู่ตรงไหน คุณจะแก้ยังไง

    เขาเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์นะ จะโต่งไปหรือเปล่าอันนี้คุณตัดสินไม่ได้หรอก จากการนั่งนึกเอาเองหรือจำคำพูดคนอื่นมาพูดนะ เหมือนพระพุทธเจ้าท่านบอกอันนี้ไม่ใช่ทาง ท่านยืนบนพื้นทางของการลองมาแล้วนะ ตันตระเขาก็ว่าเขาจะลองให้รู้ว่าที่ว่าไม่ใช่ทางนะมันเป็นยังไง จริงๆๆมันไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องไปปฏิบัติกามมุทรานะ ลามะทิเบตคุณว่าทำแบบนี้ทุกคนเปล่าล่ะ เปล่าแต่ละคนม้ันมีโรคมีปัญหาทางใจที่ต้องเรียนรู้จากบทเรียนชีวิตไม่เหมือนกัน


    เขาคิดแบบนี้แหละ

    ลามะมีเมียได้สิครับ แต่พระไม่ได้นะครับ ลามะนี่บางท่านเป็นฆาราวาสนะครับ คุณต้องรู้ตรงนี้ก่อน ไม่ใช่คิดเอาเอง ลามะหมายถึงครูผู้น่าเคารพ เป็นพระก็ได้ เป็นฆาราวาสก็ได้ เห็นลามะอย่าไปคิดว่าเป็นพระหมด พระทิเบตมีเมียไม่ได้นะครับ ที่มีเมียนี่เป็นฆาราวาสนะครับเป็นพระสึกออกมา นะ ส่วนที่มีในคราบสมี อลัชชีนี่ ไม่ต้องทิเบต บ้านเราก็เยอะ เจ้าลัทธิลามะเจ้านิกายอย่างสาเกียปะ ที่มีเมียนี่เป็นฆาราวาสนะครับแต่มีตำแหน่งเป็นสมเด็จไง แต่สืบกันมาในฐานะขุนนาง ตำแหน่งสืบทางสายเลือด ส่วนนิกายอื่นเจ้าลัทธิเป็นพระไม่มีเมีย เขาเลยใช้วิธีอวตาร เจ้าลัทธิ

    และคุณก็กำลังไม่พอใจอย่างแรงละสิ คุณถึงพยายามจับผิดผม ผมไม่ได้พูดว่าพระนันทะถูกพระพุทธเจ้าพาไปเสพ แต่ผมเน้นที่การใช้ตัญหาเป็นอุบายในการจูงใจพระนันทะเข้าหาธรรมะของพระพุทธเจ้า คอนเซ็นป์ของตันตระเขาที่ว่าเขาใช้ตัญหาเป็นอุบายในการดึงคุณเข้าหาธรรม นะมันมีอยู่แล้ว คุณไปดูสิ เขาพูดเรื่องใช้กิเลสดึงคนเข้าหาโพธิคือตันตระ ส่วนเขาจะตีความถูกผิดโต่งยังไง เป็นเรื่องของเขาครับคุณว่าเขาตีความผิดนี่ก็ความเห็นของคุณ เขาว่าเขาถูกนี่ความเห็นของเขา อันนี้มันไม่มีประโยชน์ที่จะเถียงนะ ผมว่านะ

    จับประเด็นให้ถูกหน่อย เรื่องกามมันไม่ใช่ปัญหาหรอก ผมว่าคุณยังชอบเลยมั้ง มีเมียไหมล่ะ คุณไม่ได้เกิดมาเพราะเรื่องกามหรอ นี่ผมถามหน่อย ปัญหามันอยู่ที่คุณเสพแล้วคุณติด คุณติดแล้วคุณเกิดตัญหา อุปทาน ไปเรื่อยๆๆจนทุกข์จนอะไร นี่ต่างหากไม่ใช่เรื่องเพศนี่มันชั่วร้าย ดั้งนั้นคุณถึงต้องอยู่ห่างๆๆมัน นี่ตามตำรา เอาเข้าจริงคุณว่าทุกคนเข้าใจว่างี้ไหม รู้ทั้งรู้นี่แหละ แต่มันเลิกยากจริงๆๆ มันก็คือรู้แค่สมอง ไม่ใช่เข้าใจจริงๆ ก็เหมือนธรรมะ มันต้องปฏิบัติรู้แค่อ่านแค่ฟังจากสมองไม่ได้ ไฟมันร้อนลองไปจับสิรู้ว่าร้อน คุณเลิกจับทันทีไหมล่ะ

    ประเด็นไม่ใช่เรื่องเสพ คุณจับประเด็ยนหน่อยเถอะ อย่าให้อารมณ์คุณมันบังทัศนะคุณเสียหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมว่าคุณเข้าใจมากก็ดีแล้วนิครับ....ทุกคำพูดที่ผมยกมาจากคุณ ผมก็ไม่ได้ไปว่าคุณสักหน่อย ผมว่าแนวคิดเขาเป็นอย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดเอง คุณพูดอยู่ก่อนแล้วทั้งนั้นนิครับ ...

    ตามสบายเขาเถอะครับ ผมไม่ได้สนใจ และผมก็ไม่ได้มีใจศรัทธาในตันตระกับเขา..ผมและหลายๆท่านในนี้ยึดถือศึกษาและปฏิบัติตามแบบเถรวาท ดั้งเดิมจากพระพุทธเจ้าท่านมาอย่างนี้ก็ดีแล้ว....
     
  3. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    Yah เริ่มมาสาระแบบใสๆ บ้างแล้วว่ะ อ้าว คุยๆ ไปเด้อ เชียร์ๆๆ


    catt2
     
  4. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ลั้ลลา มาเป็นเพลย์บอยกันเถิด ...


    จริงๆ แล้วพระพุทธเจ้านี่ กามมากเลยอ่ะ ประวัตินะ เพลย์บอยโคตร
    ไปดูได้เลย มีฮาเร็มด้วยอ่า ผู้หญิงนอนเกลื่อนกลาด เต็ม ตรึมเลยอ่ะ
    ก่อนออกบวชอ่ะนะ แต่ดันไปเห็นคนแก่, เจ็บ, ตาย, พระ เข้า ก็เลย
    เอ๊ะใจ เอ? นี่เราโดนหลอกป่าวอ่ะ? พ่อหลอกให้เราเห็นแต่โลกด้าน
    เดียวอ่ะป่าว? ไม่ได้ละ อยู่อย่างนี้ ไม่พ้นวันหนึ่ง แก่, เจ็บ, ตาย แหง๋ๆ
    ตรูไม่อยู่ละ ไปดีกว่า ตื่นมากลางดึก อั๊ยย่ะ นางระบำเมื่อตอนกลางวัน
    นอนกลิ้ง น้ำลายไหลเยิ้ม แหวะ หลอกกันเห็นๆ ฮ่วย สวยตรงไหนว่ะ?


    ไปโรด! ...
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เสพแล้วคิดว่าไม่ติด เสพอยู่ให้คิดว่าตัวเองไม่ติด เสพไปงั้นๆหละไม่ติดอย่างนี้เหรอครับ...

    เสพแล้วบรรลุพุทธะ........ผมว่ามองอย่างไรก็เข้าข้างกิเลสตนเองชัดๆ.....

    ถ้าไม่มีอนุสัยกิเลสมันจะขึ้นมาเสพได้เหรอครับ.....

    นิพพานคือความฝัน เสพกามคือความจริง พูดที่ใหนก็อายที่นั่น.

    ถ้าคิดว่าไม่ติดเสียจริงก็ไม่เสพเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ.....ตามสบายคุณเถอะครับ จะศรัทธาตันตระผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นแก้ต่างให้ซะอย่างนั้น ผิดว่าไปตามผิดเถอะครับ...

    ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  6. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ประเด็นคือผมพูดไปทาง แต่คุณตีความไปทางนี่สิ ผมไม่ได้พูดที่คุณไปยกคำพูดผมมานะ แต่ผมพูดที่คุณตีความข้างล่างไปทาง โดยที่ผมไม่ได้สื่อแบบนั้นนี่สิ ที่ผมกลุ้มใจ
    อย่างประโยคที่ว่า "ปัญหามันอยู่ที่คุณเสพแล้วคุณติด คุณติดแล้วคุณเกิดตัญหา อุปทาน ไปเรื่อยๆๆจนทุกข์จนอะไร นี่ต่างหากไม่ใช่เรื่องเพศนี่มันชั่วร้าย"
    คุณไปตีความอะไรของคุณว่า ผมบอกให้เสพแล้วอย่าไปติดอย่าไปยึดคือตันตระ นี่มันไปอีกทาง ผมพูดอย่างคุณว่าอย่าง ผมบอกเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องชั่วร้ายปัญหาคือคนทั่วไปเสพแล้วติดแล้วหมกหมุ่นอยู่กับมัน ไม่เห็นโทษของความหมกหมุ่นคือไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากมัน ผมพูดทำนองนี้ คุณตีความอะไรก็ไม่รู้
    อย่างผมบอกความคิดเชิงแบ่งแยกนิพพานออกจากสังสารวัฏ โดยเด็จขาดนี่เป็นมายาภาพทางความคิด เหมือนความฝัน ไม่ใช่นิพพานเป็นมายามันต่างออกไปนะครับ ผมพูดไปอย่างคุณเข้าใจไปอย่าง นี่มันอะไรกัน ผมพูดจาไม่รู้เรื่องหรอครับ

    แต่ก็เอาเถอะเดี๋ยวเหมือนผมปกป้องนิกายตันตระไป จริงๆๆผมไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางเขานะเพราะไม่ใช่คนทิเบต พ่อแม่ผม เกิดที่นี่ผมก็เรียนรู้มาจากท่าน ตามวัฒนธรรมคนไทยเรา
    แต่ที่ออกมาพูดแทนนี่ เพื่อสร้างความเข้าใจให้มันถูกต้องนะ ผมนะไม่อยากให้ใครมาด่าชาวพุทธบ้านเราว่า สักแต่พูดไปเรื่อยไม่ได้รู้อะไรกับเขาหรอกว่าโลกไปถึงไหน อายเขาตายห่าเลย เหมือนคนพูดเรื่องเซนคนไทยคิดว่าเซนคือนิทานตลกๆๆ นี่อายเขาตายห่าเลย

    อย่างเรื่องตันตระแบบพุทธเนี่ย เมื่อก่อนตำราฝรั่งจะเขียนว่าจุดเสื่อม เสพกามบรรลุธรรม สวดมนต์เพิ่มราคะ เลี้ยงผี คูณไสย์ อะไรเทือกนี้ เล่มแรกคือตำราของ เอ็ดเวริด์ คอชเช่ ที่นี้พอคนไทยยุคก่อน เขียนหนังสือ อย่างคึกฤษธิ์ อย่างสมัคร บุราวาศ นี่คุณว่าเขาเอามาจากไหนก็เอามาจากตำราพวกนี้ แล้วสอนกัน สืบๆๆมา เสถียร โพธินันทะ นี่ผมทึ่ง
    มาก แกไม่ได้ยกย่องลัทธิลามะ แต่แกเขียนด้วยความเข้าใจ คุณเคยอ่านงานเขียนที่แกเขียนเรื่องลัทธิตันตระไหม มันไม่ถูกหมดหรอก แต่มันก็ละม้ายคล้ายความเข้าใจคนยุคนี้ตามตำราฝรั่ง ต้องเข้าใจว่าท่านเขียนมานานแล้วความรู้นี่มันมีพัฒนาไปเรื่อยๆๆแหละ โลกมันไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งๆๆที่ยุคนั้นคนยังไม่รู้เรื่องนี้เลย รู้ตามเอ็ดเวริด์ คอชเช่ ทั้งนั้น
    เดี๋ยวนี้ทิเบตแตก ลามะหนีไปอินเดีย ไปยุโรป ไปอเมริกา ไปสอนตันตระแบบพุทธ ไปเขียนหนังสือ คุณไปดูตำรายุคนี้สิ ฝรั่งมันเขียนว่าไง ต่างกันจากหน้าตีนเป็นหลังมือเลย มันเขียนซะเลิศลอย จนน่าหมั่นไส้ ผมอ่านผมยังขำ อะไร มันจะดีขนาดนั้น เมื่อก่อนมันเขียนซะไม่มีชื้นดี ที่ต้องอ้างฝรั่งเพราะความรู้เราอิงมาจากมันเกือบหมด อย่างพุทธประวัติที่เรารู้เนี่ยเพราะงานวิจัยฝรั่งเป็นแม่แบบทั้งนั้น ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า แล้วเราคนไทยยัง จะพึ่งทิฎฐิ จากตำราเมื่อห้าสิบปีก่อน อยู่อีกหรอไม่เปิดหูเปิดตาบ้าง อย่างพื้นที่ชีวิต อาทิตย์นู้นไปสัมภาษณ์ทะไลลามะ แกสอนอะไรสติปัฏฐาน แล้วรูปแบบปฏิบัติก็เหมือนบ้านเรา ปรัชญาที่เทศน์ เหมือนไหมล่ะ ไปดูสิ เราต้องหัดเปิดหูเปิดตาบ้าง

    แต่ไม่ต้องไปเอาอย่างเขา เราสนใจจริตไปทางไหนก็เอาที่มีประโยชน์ต่อเราที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  7. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ยุคเจริญรุ่งเรืองของมหายานและตันตระในไทย


    ก็คือ ยุคก่อนเจ้าชัยวรมันที่เจ็ดไงครับ ยุคนั้น พราหมณ์และตันตระเจริญมาก
    ต่อมา เจ้าชัยวรมันที่ ๗ ก็พัฒนาให้กลมกลืน ก็เลยพัฒนาไปสู่ "มหายาน"
    แล้วปรับไปว่า "กษัตริย์คือพระโพธิสัตว์" สลักรุปหน้าตัวเองบนปราสาท อ่ะ
    เพื่อความมั่นคงครับ ดีกว่า ให้ประชาชนเอาใจไว้ที่พวกพราหมณ์ฤษีตันตระ
    วัฒนธรรมที่ตกทอดมาสำหรับ "ตันตระไทย" ก็คือ พวกเวทมนต์ เครื่องลาง
    ของขลัง ฯลฯ น่ะหละ


    เณรแอร์นี่ รับตันตระไทยมาเต็มๆ
    เถรวาทมาทีหลัง จากศรีลังกา ยุคพ่อขุนฯ อ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ตามสบายเขาเถอะครับ เขาจะปรับปรุงหาใหม่อย่างไรก็ตามสบายเขาเถอะ ผมไม่เลียนแบบเขา เถรวาทไม่เลียนแบบเขา เถรวาทเราไม่ได้ยึดตำราแค่เมื่อ ๕๐ ปีก่อนล่วงมานี้ เถรวาทเรายึดมาตั้งแต่ ๒๕๐๐ กว่าปีก่อนแล้วครับ ยึดคำสอนเดิมตั้งแต่ไม่มีตำราเสียด้วยซ้ำ.....

    ตามสบายเขาเถอะครับ เขาจะเสพกามเพื่อบรรลุพุทธะก็ช่างเขาเถอะครับ เขาจะเสพแบบคิดว่าตัวเองจะหลุดพ้นก็ช่างเขาเถอะครับ....

    พระพุทธเจ้าเราบัญญัติไว้ในพระวินัยถ้าเป็นพระสงฆ์ เสพเข้าก็ปาราชิกแล้ว ขาดจากความเป็นพระ ไม่ต้องไปพูดว่าเรียนรู้กิเลสหลอกครับ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นยาพิษ จะเรียนรู้ว่าเป็นยาพิษลองกินดูก็ได้นิครับ จะได้ตายไปได้เสียเปล่าๆ.....

    เอานะครับ จะแนะนำตันตระอะไรอีกก็ตามสบายคุณเถอะนะ...ถือว่าวันนี้ก็มีความรู้เพิ่มว่าตันตระตามแนวคิดคุณเป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  9. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]


    ปาท่องโก๋ของจีน
    ก็ได้รับอิทธิพลมาจาก
    ตันตระไทย คือ เจ้าตัวนี้นี่เอง


    [​IMG]


    เย้ย! มะม่ายช่ายยย ล่ะ แหะๆๆๆ


    อ่ะ อยากลองมั้ย "ปาท่องโก๋รักยม" หรือว่า "รักยมชุบแป้งทอด" ดี ติดต่อได้ที่ เณรแอร์อ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  10. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    อ่านให้ดีนะครับ ว่าลามะไม่จำเป็นต้องเป็นพระ เป็นฆาราวาสเขาก็เรียกว่าลามะ งั้นทะไลลามะก็มีเมียแล้วสิครับ คุณอ่านที่ผมพูดไหมเนี่ย หรือลากไปเรื่อยตามอำเภอใจคุณละเนี่ย ผมว่าผมพูดชัดเจนนะ เมื่อก่อนผมเข้าใจว่าลามะนี่เป็นพระไปมีเมียนี่มันศีลขาดสิ ว่ะ แต่เอ๊ะที่มีเมียเป็นฆาราวาส แต่ฆาราวาสที่ปฏิบัติธรรมเก่งๆๆสอนเก่งๆๆ ก็เป็นลามะได้ ไม่ใช่แค่พระ เหมือนสาวกฆาราวาสของพระพุทธเจ้าในยุคพุทธกาลหลายๆๆคน พระส่วนพระลามะส่วนลามะ ลามะคือชื่อเรียกครูสอนธรรมที่ได้รับการยอมรับ

    อีกอย่างหนึ่งตำราห้าสิบปีก่อนเดี๋ยวนี้มันเขียนกันใหม่ข้อมูลใหม่แล้ว นับประสาอะไรกับตำราเมื่อสองพันกว่าปีครับ เรื่องไม่กี่วันก่อนคุณจำได้ไหมล่ะอย่างละเอียดนับประสาอะไรเรื่องเมื่อสองพันห้าร้อยปีก่อน คุณบอกยึดตามก่อนมีตำรา แล้วก่อนมีตำราคุณใช่วิธีท่องใช่ไหมคุณว่าท่องเอากับเขียนในกระดาษอะไรมันเพี้ยนน้อยกว่ากัน คุณจะไม่ลืมบ้างตกบ้างเลยหรอก มนุษย์นะไม่ใช่คอมพิวเตอร์นี่มองตามความจริง


    คุณอย่าลืมหลักกาลามาสูตรสิ พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสสออนให้ดูโก้ๆๆนะครับ
    นี่ผมไม่ได้บอกพระไตรปิฏกผิดนะ แยกประเด็นหน่อย

    แต่อยากจะชี้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ใช่คนเขียนพระไตรปิฏก พระไตรปิฏกเขียนขึ้นครั้งแรกในอีกห้าถึงหกร้อยปีหลัง ก่อนหน้านั้นท่องกันมา แล้วมาเขียนเขียนแล้วก็สังคายนากันต่อมาเรื่อยๆๆตามสภาวการณืเข้าไปประเทศไหน พอเริ่มมีปัญหาของปลอมปนเข้ามาก็มีการสังคายนากันทีตามมติที่ประชุม คุณแน่ใจได้ไงว่าในนั้นมีพุทธพจน์แท้ทั้งหมด สองพันกว่าปีมันไม่ใช่น้อยๆๆนะคุณ ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมหลุดเข้ามาบ้างตกหล่นบ้าง นี่มันเหลือวิสัย เกินไป เราต้องมองด้วยความเข้าใจหน่อยแล้วจะไม่ประมาท

    อีกอย่างจริงๆๆแล้ว คุณไม่มีทางรู้หรอกสูตรไหนพระพุทธเจ้าตรัสสูตรไหนไม่ เพราะคุณไม่ใช่พระพุทธเจ้า คุณจะแยกได้ไง พระเถระที่ประชุมสังคายนาที่อินเดีย ที่ลังกา ที่ประเทศที่รับจากลังกามาอีกที ก็ไม่มีทางแยกได้แบบเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นส์ ยกเว้น ถ้าคุณได้ยินจากหูจริงๆๆก็ว่าไปอย่างคุณถึงบอกสูตรนี้พระพุทธเจ้าตรัสผมได้ยินมาเลยล่ะ

    ทีนี้ประเด็นไม่ใช่เรื่องพระไตรปิฏก เพราะผมไม่ได้พูดกับคุณเรื่องพระไตรปิฏก อย่าพูดว่าคุณปฏิบัติตามพระไตรปิฏก แล้วมันไม่ใช่แบบนี้ อันนี้ก็แค่ความเห็นคุณ ทางทิเบตเขาหาสูตรในพระไตรปิฏกมาสนับสนุนความเชื่อเขาได้เป็นเล่มเหมือนกัน สูตรแบบในบาลีด้วยซ้ำไป ทีนี้อย่าถามผมว่าสูตรไหนพระพุทธเจ้าสอนให้เสพกามนะ เขาไม่ได้ยกมาแบบนั้น เขาไปยกมาอย่าง ตัญหาใช้เป็นอุปายะในการสอนธรรมได้จริงๆๆ พระพุทธเจ้าใช้มาแล้ว อะไรเทือกนี้

    คุณต้องมองจุดนี้ด้วย ดั้งนั้นจึ่งอยู่ที่ว่าคุณไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขามันก็เท่านั้น แต่ผมก็อยากจะชี้ว่าความไม่เห็นด้วยของคุณมาจากความเข้าใจจริงๆๆแล้วไม่เห็นด้วย หรือคุณไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ทิฏฐิในใจคุณมันเป็นแบบนี้ และคุณก็ยึดถือมันฉันมีความคิดแบบนี้มันจะถูกจะผิดสาระมันจะเป็นยังไงฉันจะหลับหูหลับตาค้านไว้ก่อนล่ะ


    เถรวาทก็เถรวาทสิ วัชรยานก็ส่วนวัชรยาน คุณบอกคุณมองในมุมเถรวาทมุมเถรวาทของคุณก็ต้องมาจากการเข้าใจในเถรวาทจริงๆๆ และ วัชรยานจริงๆๆ คุณถึงจะไปวิพากษ์เขาได้ไปตัดสินเขาได้นะครับ ว่าในมุมเถรวาทนะมันเป็นไงเห็นด้วยเพราะไม่เห็นด้วยเพราะ อีกอย่างเราพูดเรื่องพุทธศาสนาแบบทิเบตในแง่สาระธรรมเราอาจจะเอาพระไตรปิฏกมาวิเคราะหได้ว่าสาระเหมือนหรือต่างจากพระไตรปิฏกอย่างไร นี่ไม่แปลก

    ผมกำลังพูดว่าฝรั่งเขียนตำราใหม่เรื่องตันตระเพราะเข้าใจผิด เมื่อนานมาแล้ว แล้วความเข้าใจผิดนี้มันไปทั่วโลกจนคนอื่นเข้าใจว่าพุทธทิเบตคือเสพกามบรรลุธรรม ซึี่งไม่ใช่ฝรั่งรู้แล้ว แล้วแก้ความเข้าใจผิดนี้แล้วเผยแพร่ไปทั่วโลก ทีนี้คุณว่าคุณวิจารณ์เขาด้วยพระไตรปิฏก คุณวิจารณ์อะไร ก็วิจารณ์ทัศนะที่เข้าใจผิดของฝรั่งเมื่อครั้งนู้น ที่คนไทยเราไปเรียนมาจากเขาอีกที ใช่ไหม? แล้วมันเกี่ยวอะไรครับ มันผิดไปแล้วคุณจะไปวิจารณ์อะไรอีก ถ้าคุณจะวิจารณืหรือคุณจะใช้คำอื่นว่า พูดถึงเขา คุรก็ควรจะพูดในทัศนะที่ถูกต้องแล้วสิครับ ว่าทัศนะนี้ คุณเห็นด้วยเพราะอะไร ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร ตรงกับพระไตรปิฏกตรงไหนอย่างไร จึงจะถูกนะ

    ที่พูดมาทั้งหมดนี่ เพียงแต่แค่อยากชี้ให้ดูเท่านั้น อย่างกัลยาณมิตร นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  11. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138

    ตอบคำถามผมสิครับที่ถามใว้ข้างบน อย่าละเลยที่ผมถามสิครับเหล่าเถรวาสของแท้ดั่งเดิมทั้งหลาย คุนบอกเจริญรอยตามแต่ปัจจุบันที่คุนทำกันมันขัดกับที่พระพุทธเจ้าสอนใว้นะคับ ในบอกเจริญรอยตามไงครับ งั้นตอบผมหน่อยตามข้างบนเลย
     
  12. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ยุคแรก ยุคเจริญ ยุคเสื่อม ยุคปฏิรูป


    ผมคิดว่าไม่ว่าลัทธิ นิกายไหนๆ ก็มีได้ครับ ยุคแรกๆ แน่นอนว่ามันใสมาก
    อะไรต่อมิอะไร ค่อนข้างไม่ถูกปรุงแต่งครับ พอเชื่อได้มาก ส่วนยุคเจริญ
    น่ะหรือ? มันก็มีอะไรๆ เพิ่มเข้ามาเยอะครับ ปรุงแต่งไปตามความเจริญนั้น
    แต่มันก็ช่วยให้เจริญทางโลก แพร่ลงไปในกลุ่มคนระดับฐานล่างลงที่มีคน
    จำนวนมากขึ้น นั่นเอง ต่อมา ยุคเสื่อม ก็คือ ยุคที่มันไม่ได้เรื่องแล้วอ่ะ มัน
    แทบไม่เหลืออะไรใสๆ เหมือนปลายน้ำอ่ะนะ มีแต่ของปรุงแต่ง เลยเสื่อม
    และท้ายสุด "ยุคปฏิรูป" ก็อาจมีได้ครับ เช่น ตันตระเก่า, ตันตระใหม่, ยุค
    ปฏิรูปตันตระ อะไรอย่างเงี้ย มันก็อาจทำให้เราได้อะไรกลับคืนมาบ้างจาก
    การปฏิรูปครับ เพียงแต่จะให้มันเหมือนยุคแรก ดั้งเดิมเลย คงไม่ได้ แต่มัน
    ก็ดีกว่าปล่อยให้อยู่ใน "ยุคเสื่อม" ต่อไป อ่ะนะ


    คุณว่ามั้ย? เอ? แล้วเถรวาทเราตอนนี้ มันยุคไหนอ่ะ?
     
  13. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ใครจะรู้ว่า "เอ้ย มันเป็นการเมืองนี่หว่า?"


    เช่น การสร้างเรื่องขึ้นมาว่า "รัฐบาลอเมริกันรู้เรื่อง UFO นะ"
    แต่ไม่ยอมบอก เป้าหมายคือ กระตุ้นให้กลุ่มคลั่ง UFO ออก
    มารวมตัวประท้วงรัฐบาล นั่นเอง

    เช่น การสร้างเรื่องขึ้นมาว่า "พระพุทธรูปไทยอยู่ในส้วมนะ"
    เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง ทำให้เกิดความไม่
    สงบ วุ่นวาย หรือหยั่งเชิงดูปฏิกริยาว่าจะตอบโต้อย่างไร? มี
    ความเป็น "เสรีภาพ" แ่ค่ไหน? หรือกลายพันธ์เป็นสังคมนิยม
    ไปแล้วอ่ะ นั่นแหละ เขาดูได้ หยั่งเชิงคนในประเทศนั้นๆ ได้

    และอะไรๆ อีกหลายๆ เรื่องครับที่ "มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของ
    มวลชน" เรื่องนั้นๆ ก็กลายเป็น "ไม้ขีดไฟทางการเมือง" ได้อ่า


    .... จะจุดตัวเอง ก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา เพียงปรารถนา
    เจ้าทานตะวัน หันมอง ... (จากเพลง ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน)
     
  14. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ผมขอให้ยุคนี้เป็นยุคเกือบจะเสื่อม ท่ามีพระที่ยึดตามพระไตรปิฎก ปฏิเศษเงินทอง สันโดษ กล้าที่จะปกป้องศาสนา มรณภาพหมดแล้วนะ แต่ส่วนใหญ่พระที่ลุกมาปกป้องศาสนากลับโดนคนด่าบ้าเพราะ สังคมในยุคนี้ ประเพณี ความอคติของคน ๆลๆ เพราะคนเราถูกปลูกฟังอะไรมาผิดๆตั่งแต่เกิดโตมามันก็ว่าสิ่งนั้นดี ใครมาตำหนิ่ก็ต่อต้านไม่รับฟัง พวกบัวใต้น้ำครับ
     
  15. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    เีรียนรู้จากตำรา คือ การเรียนที่ล้าหลังมากๆๆๆๆๆ


    สมัยนี้ พวกฝรั่งเอานักเรียนออกนอกห้องอ่ะ นั่งใต้ต้นไม้ดูทุเรียนร่วงอ่ะมั้ง
    ฮ่าๆๆ แต่เขาว่ามาอ่ะนะ ว่ามันส์ไก่มาก ไอ้ตำราเนี่ย อ่านๆ ไปโคตรจะโง่เลย
    เรียกว่า "หัดเป็นนักเสพสื่อว่ะ" เลยยิ่งอ่านยิ่งโง่ ก็เขาเขียนอะไรมา ก็เชื่อ
    หมดอ่ะ ฝรั่งเลยปรับหลักสูตรอะไรที่สูงๆ ออกจากตำราหมด ไปเลย ทำจริง
    เอา "ประสบการณ์เป็นครูว่ะ" ปรากฏว่า มันดันไปเจอ วัชรยาน เขาทำมาก่อน
    เอ้ย ไงว่ะเนี่ย? ฝรั่งเพิ่งรู้ แต่พระวัชรยาน ทิ้งตำรา เข้าป่า เรียนรู้กะประสบการณ์
    มานานแล้วอ่ะ? ฮ่วย เลยหันกลับมาเขียนตำราชมวัชรยานบ้าง ตันตระบ้าง ยกใหญ่


    ไม่มีไรอ่ะ เล่าให้ฟังเ่ล่นๆ แบบว่าเลียนแบบเด็กนักเรียนนอกอ่ะนะ หุๆๆ
     
  16. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138

    ประสบการณ์เป็นคตูสินะครับ ผมกระจ่างแล้วขอบคุนครับ
     
  17. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    มามะ เป็นนักเรียนนอกกัน (นอกโลกอ่า)


    ตะลึ่ง ตึง โป๊ะ
    ชึ่งๆ โป๊ะๆ ชึ่ง



    catt2
     
  18. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ยังดีที่ฝรั่งยังฉลาดแล้วบ้าง คนไทยบางคนนี่สิครับ ทุกวันนี้ยังเป็นขี้ข้าความคิดฝรั่งเมื่อห้าสิบปีร้อยปีก่อนกันอยู่เลย
    หัดออกไปเปิดหูเปิดตา เรียนรู้เสียบ้างว่าความเชื่อความเข้าใจที่ตัวเองคิดว่ารู้นี่มันจริงไหม อะไรเป็นอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  19. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ยังงี้ต้องส่งไปเรียนนอกเลย (นอกโลกอ่า)


    ชึ่งๆ โป๊ะๆ ชึ่ง
    ตะลึ่ง ตึง โป๊ะ!



    fly_pig
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  20. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    สงสัยว่า จะได้ขยะอวกาศติดมือมามิใช่น้อย รู้สึกว่าพี่ฝรั่งจะขนไปทิ้งมิใช่น้อย วันดีคืนดีกรรมมันสนอง มันก็ลอยมาชนดาวเทียมให้ระเบิดเล่น 5555
     

แชร์หน้านี้

Loading...