การเปิดเผยตัวของ มนตด.(ถ้ามีจริง)

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ ผมคิดว่าเค้าคงไม่อยู่ ๆ ประกาศตัวออกมาแบบโต้ง ๆ แน่ครับ เพราะหากปุ๊บปั๊บออกทีวีแล้วบอกว่ามาอยู่บนโลกนี้นานแล้วและอเมริกาปกปิดไว้ คงวุ่นวายน่าดูเพราะอเมริกาจะถูกหมายหัวจากนา ๆ ประเทศทันที ผมคิดว่าสิ่งที่เค้าจะทำก็น่าจะเป็น

1. ให้เสนอข่าว ufo บ่อย ๆ เพื่อเริ่มจูงใจถึงการมีอยู่จริง ด้วยความร่วมมือของ มนตด. ในการปรากฏ ufo บ่อยขึ้น
2. นาซ่าแกล้งพบเจอดาวดวงใหม่นั่นนี่ พบเอเลี่ยนบนดาวดวงอื่น และสุดท้ายก็ยืนยันได้ว่าเอเลี่ยนมีจริงและนาซ่าเพิ่งรู้นะเนี๊ยะ แบบเนียน ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้มานานแล้ว
3. สุดท้ายก็จะมีการเปิดเผยตัวจริง ๆ แบบเนียน ๆ ว่าพวกเค้า(มนตด.) เพิ่งมาที่นี่ อเมริกาและนาซ่าเพิ่งรู้นะเนี๊ยะ เพิ่งติดต่อได้ อะไรแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ทำงานด้วยกันมาตั้งนานแล้ว

และตอนนี้หลาย ๆ อย่างก็ได้ทำไปบ้างแล้ว คือข้อ 1. และ 2. คิดเห็นยังไงกันบ้างครับ

 

เหลื่อ ข้อ 3 ละ จะรอดู ว่าจะเปิดเผยเมื่อไหร่

 

เพิ่มไปอีกก็คือ มีหนังเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมากมายช่วงนี้ แล้วก็ที่อเมริกาช่อง History Channel มีเรื่องเกี่ยวกับเอเลี่ยนบ่อยมากๆ พวกเขามีตัวตนมานานมากแล้ว รอที่จะปรากฎตัวออกมาเท่านั้นเองครับ ไม่นานคงได้รู้ความจริงกันเสียที หวังว่าในช่วงชีวิตของพวกเรา คงได้พบเห็นพวกเขานะครับ

 

เขาว่าจะโผล่ จะโผล่ ตั้งนานล่ะ.! รอจนอารมณ์อยากดูหายไปเกือบหมดเลย
เห็นแต่ในคลิปต่างๆ จนชินกับหน้าตาแบบ หัวโตตัวเล็กแขนยาว ก็อย่างที่เห็นๆกันนั่นแหละ.!
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง.! ก็ ไม่อยากเจอแล้วละ มันหมดความตื่นเต้นกับของแปลกแล้ว เพราะ
ไม่เห็นว่ารูปร่างหน้าตาจะดูดีตรงไหน เท่ ก็ ไม่เท่ (น่าเกลียดอีกต่างหาก)

แล้วยังคิดจะผสมสายสายพันธุ์กับมนุษย์อีก.! ถ้าไม่วางยาสลบ สาวๆที่ไหนจะเอา 55555
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงขยายพันธุ์แบบวิทยาศาสตร์แทนที่จะเป็นธรรมชาติ
ขนาดพวกกันเอง ยังรับไม่ได้.! 555 (คุยกันเล่นๆนะ) เพราะยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

สิ่งที่เรายังหลงเหลือความอยากรู้ในตัวพวกเขาก็คือ ความสามารถที่ดูเหลือเชื่อ.!
เพราะมันเกินความสามารถของมนุษย์ (ตามที่เป็นข่าว)

 

หลายวันที่แล้ว มีโอกาสได้ขอความรู้จาก รศ. บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ. สถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ เรื่อง ม.น.ต.ด.



อาจารย์บอกว่า น่าจะมีจริงนะ แต่คงจะอยู่นอกระบบสุริยจักรวาลของเรา

เพราะแถวๆ นี้ กล้องดูดาวจากโลก ส่องไปทั่วแล้ว ไม่เจอดาวที่คล้ายโลก ต้องส่องไปไกลๆ ถึงจะเจอดาวคล้ายโลก ประมาณเดียวกับ ดาวเคลปเปอร์ 22 บี ซึ่งที่ผ่านมา เจอมาแล้ว 200 กว่าดวง

ส่วนวิวัฒนาการ กับรูปร่างหน้าตาเค้าจะเป็นไง ก็เป็นเรื่องที่ยังคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ

อ้อ....อาจารย์เค้าคิดว่า ม.น.ต.ด. น่าจะมีพลังจิตนะ แล้วหลายกลุ่ม ก็เทคโนโลยีสูงกว่าชาวโลกมากๆ

 

อย่าคิดมากไปเลย หากมีการมาจะมาแบบเปิดเผยเลยจะมาแบบอยู่ร่วมกันขอให้รักษาจิตให้บริสุทธิ์และขอให้โลกได้เกิดสันติก่อน ส่วนรูปร่างหน้าไม่ต้องกลัวขอให้อ่านที่จิตและมองที่ใจของเราก็พอ เพราะสภาพที่เราอยู่มันต่างกันขอให้รักกันมากๆนะเพราะโลกใบนี้ยังมีสิ่งสวยงามเสมอ ขอให้เปิดใจก็พอ เรารอการพบกันอย่างสันติhello4

 

ถ้า มนตด. ทำเหมือนข้อที่ 3 จริง (3. สุดท้ายก็จะมีการเปิดเผยตัวจริง ๆ แบบเนียน ๆ ว่าพวกเค้า(มนตด.) เพิ่งมาที่นี่ อเมริกาและนาซ่าเพิ่งรู้นะเนี๊ยะ เพิ่งติดต่อได้ อะไรแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ทำงานด้วยกันมาตั้งนานแล้ว)งั้นก็แสดงว่า มนตด. ไม่ได้มีจิตวิญญาณที่สูงส่งกว่ามนุษย์ นะสิ เพราะเขาไม่ได้พูดความจริง เพราะสิ่งมีชีวิตที่มีจิตสำนึกสูง ย่อมอยู่กับความจริง ไม่น่าจะโกหก..

 

นี่ก็หน้าตายอดนิยมของ ม.น.ต.ด. ที่ชาวโลกคิดว่าเค้าเป็นสินะ

 

ผมว่าไม่น่าเปิดเผยตัวหรอกครับ
ต้องรอศักยภาพเทคโนโลยีของเรา
เดินทางท่องอวกาศได้จริงจังเสียก่อน
เพราะไม่อยากให้หนูทดลองของเขาพัฒนาไปผิดพลาด
(เข้าใจเรื่องนี้ ต้องแนะนำให้ดู ancient aliens ช่อง History)

ลองนึกดูว่า วันที่มีการประกาศตัวให้เราเห็นว่าเราไม่ได้โดยเดี่ยว
วันนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ขั้วอำนาจใหม่ขึ้นมา
ใครที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่า ก็เป็นพระเจ้ากลายๆอยู่แล้ว

ลองดูเรื่อง V (The Vistor 2009) ดูสิครับ
จริงไม่มีทางเหมือนในซีรีย์นั้นแน่นอน
ถ้าเขาเปิดตัวจริงต้องมี agenda (แผนการลับ) บางอย่างอยู่แล้ว
(ในหนังคือการดำรงเผ่าพันธ์ของเขา)
นั่นหมายถึงเขาจะเป็นพระเจ้าเราแทน และจะเข้ามาใช้งานเราแน่นอน

 

อยากรู้กันจริงๆเหรอครับ?

 

ถ้ามาเปิดเผยตัวที่โลกได้
ก็ไม่ธรรมดาหล่ะนั่น
ขอให้มีสัจจะอะไรก็แล้ว
แต่ที่พวกเขาได้คุยกับเมกา
ไว้ก็แล้วกันหากกลับลำ
ขึ้นละซวยแน่ทีนี้ จะรับมือ
ไหวไหม

 

ทำเนียบขาวยัน ไม่พบ'มนุษย์ต่างดาว' ปัดปกปิดหลักฐาน

แต่ทำไม....



รัฐบาลสหรัฐฯ เผย ยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ยืนยันว่ามนุษย์ต่างดาวติดต่อกับมนุษย์โลก และระบุว่าไม่ได้ปกปิดข้อมูลใดๆ ต่อสาธารณชน รวมถึงไม่ปฏิเสธว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่นอกโลกจริง...

นายฟิล ลาร์สัน เจ้าหน้าที่อาวุโสแห่งสำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งทำเนียบขาว แถลงเมื่อ 7 พ.ย.ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีหลักฐานว่ามีสิ่งมีชีวิตหรือมนุษย์ต่างดาวนอกโลก หรือมนุษย์ต่างดาวติดต่อมายังชาติพันธุ์มนุษย์ และไม่มีหลักฐานท่ีน่าเชื่อถือว่าหลักฐานที่ว่านี้ถูกปกปิดต่อสาธารณชน แต่ไม่ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ ดังที่นักวิทยาศาสตร์และนักคณิตศาสตร์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง ในหมู่ดาวหลายล้านล้านดวงในจักรวาล แม้โอกาสที่จะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมีน้อย

ถ้อยแถลงของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยากจะเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เป็นการตอบสนองคำร้องของกลุ่มผู้ยื่นคำร้อง 2 กลุ่ม รวมทั้งกลุ่มวิจัย “แพระไดม์” ซึ่งล่ารายช่ือประชาชนได้กว่า 17,000 คนทางเว็บไซต์ ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว เพราะเชื่อว่ามีการปกปิดความจริงในเรื่องนี้

การตอบคำร้องดังกล่าวมีขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งเว็บเพจในอินเทอร์เน็ตชื่อ “วี อาร์ เดอะ พีเพิล” (เราคือประชาชน) เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้ประชาชนร่วมกันยื่นคำร้องคาใจต่างๆ ถึงรัฐบาล ซึ่งถ้ามีผู้ร่วมลงนามในคำร้องนั้นๆ เกิน 5,000 คน รัฐบาลจะตอบสนองภายใน 30 วัน แต่ต่อมาเพิ่มจำนวนผู้ร่วมลงนามในคำร้องขึ้นเป็นอย่างน้อย 25,000 คน

ตั้งแต่โครงการ “วี อาร์ เดอะ พีเพิล” ถูกตั้งขึ้น มีกลุ่มผู้ยื่นคำร้องแล้วหลายเรื่อง รวมทั้งขอให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย มีผู้ร่วมลงนามกว่า 100,000 คน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ชี้แจงว่าทำไม่ได้ เพราะเหตุผลหลายประการ นอกจากนี้ ยังมีผู้ยื่นคำร้องเรื่องการแต่งงานในหมู่รักร่วมเพศ และเรื่องหนี้เงินกู้ของนักศึกษาด้วย.

โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆนะ...
จากการที่อ่านข้อมูลมาหลายๆแหล่ง
พอจะจับใจความได้ประมาณว่า......

E.T. หรือ Extra terrestrial นั้น
มีสภาพเป็นพลังงาน เป็นแสงว่าง
ซึ่งไม่สามารถจับต้องได้โดยมนุษย์บนโลกเรานี้
ให้สมมุติอุปมาว่าพวกเขาเป็นคลื่น FM


ในขณะที่มนุษย์บนโลกอย่างเราๆท่านๆเนี่ย
เป็น Physical reality คือเป็นกายหยาบที่จับต้องได้
ให้สมมุติว่าอุปมาว่ามนุษย์อย่างเราเป็นคลื่นAM

แล้วสมมุติต่ออีกว่า.....
คลื่นFM มันมีความถี่ดีกว่า ละเอียดกว่า
E.T. จึงเห็นมนุษย์บนโลกเราอย่างง่ายๆสบายๆ
ในขณะที่คลื่นAM ของพวกเราความถี่ไม่ละเอียดพอ
เราจึงมองเห็นแต่..พวกเราด้วยกันเอง...
มองเห็นสัตว์ ทะเล ภูเขา ตาของคนเรามองเห็นได้แค่นั้น
(เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นPhysical reality )

แต่อะไรที่มีความถี่ละเอียดสูงมากไปกว่านี้
มนุษย์ไม่อาจจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าๆ
ทีนี้ E.T. เนี่ยมีสภาวะที่ละเอียดมากๆๆๆ
หรือจะเปรียบว่าละเอียดเป็นสภาวะแสงสว่าง

แน่นอนว่า ตาหยาบๆของมนุษย์อย่างเราๆท่านๆ
จึงมองไม่เห็น E.T.
ทั้งๆที่แม้ว่า
E.T. เขาอาจจะยืนอยู่ข้างตัวเรา
เขาเห็นเรา แต่ เรามองไม่เห็นเขา

ทีนี้พอจะมองออกไหมว่า
ความที่มนุษย์บนโลกเรามีคลื่นคนละอย่างกับ E.T.
จะยังไง้ ยังไง มันก็จูนกันได้ยาก
(เราจึงไม่สามารถมองเห็น E.T ด้วยสองตาของเรา)

ถ้าคิดจะจูนคลื่นกับพวก E.T. ได้
มนุษย์บนโลกอย่างพวกเราคงจะต้อง
เปลี่ยนตัวเองให้เแป็นคลื่น FM เสียก่อน
ลองนึกภาพตามดูสิว่า
ถ้ามนุษย์เป็นคลื่น FM คลื่นเดียวกันกับ E.T.
(สมมุติไง) นั่นก็หมายความว่า....
เราย่อมจะสามารถมองเห็น E.T. ได้

ขอเพิ่มอีกนิดนึงว่า
ที่เรามองไม่เห็น E.T.นั้น
นอกจากเป็นเพราะตาเปล่าของมนุษย์อย่างเรา
มองไม่เห็น E.T เพราะว่าตาของเรามันไม่ละเอียดพอ

ส่วนนึงก็ด้วยที่พวกเขาใช้โหมดพรางตัวด้วยในบางกรณี
เราจึงมองไม่เห็นพวกเขา
ถ้าสมมุติว่าพวกเขาเปลี่ยนโหมดพรางตัว
มาให้เรามองเห็นด้วยตาเปล่า
ก็ใช่ว่าจะดีต่อสายตาของคนเรานะ
(อ่านเจอมาว่า) ก็เป็นอันตรายต่อสายตามนุษย์ด้วยเหมือนกัน

อันนี้อธิบายไม่ค่อยเป็น แต่ด้วยความเข้าใจเอาเองว่า
ทำนองว่าพวก E.T.เขาเอง
ก็มีสภาวะหรือรังสี(หรืออะไรสักอย่าง)
ที่เป็นอันตรายต่อสายตาคนบนโลก
เลยเป็นว่า....คนบนโลกเรา
ไม่สามารถมองเห็น E.T. ด้วยตาเปล่าได้ง่ายๆ

เว้นแต่ เขาทำให้เรามองเห็น อยากให้เราเห็น
หรือคนที่ฝึกจิต ฝึกสมาธิมากพอ
พอจิตละเอียดมากๆ เป็นคลื่นความถี่สมอง
ในระดับ 8-10 เฮิรตซ์ ความถี่ระดับนี้ทำให้
E.T.(กลุ่มที่ดี) เขาจะสามารถ
มาสื่อได้ทางจิต...แทนทางสายตา...ว่างั้นเถอะ


ทีนี้(อีกรอบ).....
พวก E.T. นอกโลก
หมายถึงเฉพาะกลุ่มดีนะ
(เพราะ E.T. ก็มีทั้งที่ไม่ดีด้วย)
เขาก็หวังดีอยากให้คนบนโลกนี้
มีสภาวะเป็นแสงสว่างอย่างพวกเขา

ดังนั้น E.T. กลุ่มดีนี่จึงพยายาม
ช่วยชาวโลกเราในหลายวิถี หลายวิธี หลายรูปแบบ
เพื่อให้คนบนโลกเปลี่ยนตัวเองจากคลื่นAM
ให้มาเป็นคลื่นFM ให้ได้แบบพวกเขา

เราจึงได้ยิน ได้เห็นคอนเซปเรื่องการยกระดับจิตใจ
ยกระดับวิญญาณภายใน
ปรับ DNA ฯลฯ
เพื่อช่วยให้ชาวโลกสามารถก้าวไปสู่
มิติเดียวกันกับมิติที่พวก E.T. เขาเป็นอยู่

เคยหาคำตอบว่า....E.T. จะทำไปทำไม?
คำตอบที่ได้ก็ได้มาจากหลายแหล่ง
แต่มีภาพรวมๆทำนองว่า
ที่พวกเขาต้องมาช่วย Blue planet ใบนี้
มันก็เปรียบไปเหมือนคล้ายๆทฤษฎี
butterfly effect น่ะนะ

คือถ้า blue planet ที่เราอยู่มันแย่
มันไม่ได้แย่แค่ดาวดวงนี้ใบเดียวในเอกภพ
มันจะมี side effect ต่อดาวอื่นๆ
ในเอกภพที่อยู่ร่วมกันด้วย

ทำนองว่าเห็นเพื่อนบ้านกำลังแย่ไฟกำลังไหม้บ้าน
จะอยู่เฉยก็คงจะไม่ใช่
อย่างน้อยก้ต้องเข้าไปช่วยดับไฟ
E.T. ก็คงมอง Blue planet ของเราแบบนี้

อันนี้เป็นความสนใจ ความเชื่อส่วนตัวจริงๆ
ว่าข้างนอก blue planet ของเรานั้น
....มี E.T. อยู่....

 

ถ้าเป็นอย่างที่ คุณandromeda ว่ามา (ถึงจะเป็นความเห็นส่วนตัว)
แสดงว่าในความคิดของคุณ ภาพทุกภาพ หรือแม้แต่แอเรีย 51 ก็
ไม่มีจริงนะซิ เพราะสภาพพลังงานที่จับต้องไม่ได้ ย่อมถ่ายออกมาเป็นภาพ
ที่เราเห็นๆไม่ได้เช่นกัน ในความคิดคุณเป็นเช่นนั้นด้วยใช่เปล่า.?

 

ตอบตามตรงเลยค่ะว่าไม่ทราบเหมือนกัน
เพราะเป็นคนชอบสะสมข้อมูล
เรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นชีวิตจิตใจ
จึงมีข้อมูลมาจากหลายคนหลายแหล่ง


แต่ด้วยนิสัยชอบอ่านก็จะอ่านไปเรื่อยๆๆ
เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
ทีนี้ข้อมูลที่อ่านๆๆมาเนี่ย
ก็จะมีความแตกต่างกันไป

ยกตัวอย่างง่ายๆว่า
คำว่า E.T. เนี่ยบางแหล่งก็บอกว่า
มีสภาวะเป็นกายละเอียดมากจนเป็นแสงสว่าง

แต่พอไปอ่านข้อมูลอื่นๆอีก
ก็จะบอกว่าE.T. เป็นกายหยาบก็มี
(เช่น มนุษย์ต่างดาวที่แอเรีย 51 เป็นต้น)
ซึ่งครายออนเคยบอกอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข
ว่าเรื่องราวของแอเรีย 51 นั้นไม่ใช่เรื่องโคมลอย

อ่านแล้วงงไหม ?
ขออธิบายเพิ่มเติมค่ะว่า
ครายออนนั้นมีหลายคนเรียกว่าเป็นพวกมนุษย์ต่างดาว
แต่จริงๆแล้วครายออนเป็นจิตวิญญาณระดับสูง
มีรูปร่างคล้ายผีเสื้อโปร่งแสง
หรือพูดอีกอย่างก็ได้ว่า
ครายออนเป็นสนามพลังเแห่งสันติสุข
เห็นไหมว่าเรียกได้หลายชื่อเหลือเกิน


แต่เราส่วนใหญ่เวลานึกถึงชื่อครายออน
ก็มองไปตรงคำว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว
(ทั้งๆที่ไม่มีร่างกาย เป็นกายละเอียด เป็นแสงสว่าง)
ส่วนมนุษย์ต่างดาวที่แอเรีย 51 นั้น
ครายออนก็บอกว่านั่นก็เป็นมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน


มาถึงตรงนี้..คงพอจะนึกภาพออกแล้วนะคะ
ว่าเวลาพูดคำว่ามนุษย์ต่างดาว
การรับรู้(perception)ของคนบนโลก
ก็ยังมองได้ 2 อย่าง(ในเรื่องเดียวกัน)
คือมีทั้งแบบไม่มีกาย(เป็นกลุ่มแสงสว่าง)
บางข้อมูลจะเรียกว่าเป็น E.T. พวก right
และแบบมีรูปมีร่าง อย่างที่แอเรีย 51
บางข้อมูลจะเรียกว่าเป็น E.T. พวก left
เป็นต้น

จากข้อมูลที่อ่านๆมาเลยแยกแยะตามความเข้าใจว่า
มองว่าถ้าเป็น E.T.ที่ดี มีจิตละเอียด
จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีรูปร่าง
และจะมาช่วยคนบนโลกยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น(กลุ่ม Right)
เช่น ครายออนมาจากจักรวาลอื่นที่อยู่ไกลจากโลกเรา 14 ล้านปีแสง
อิซซ์มาจากดาวที่ไกลจากโลก 11 ล้านปีแสง


แต่ถ้าเป็น E.T. ที่ไม่ค่อยปรารถนาดีต่อโลกเรา
ต้องการครอบครองโลกนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง(กลุ่ม Left)
เท่าที่อ่านเจอพวกนี้จะมีรูปมีร่างเป็นตัวเป็นตน
เช่น สายพันธุ์ Grey กลุ่มนี้อยู่ภายใต้
การปกครองของชาวไรเจเลียน(Rigelians)
ซึ่งทำงานโดยตรงให้กับอาณาจักรดราโค(Draco)
พวกGrey เก่งในเรื่องการลักพามนุษย์บนโลกเรา เป็นต้น

 

ขอบคุณ คุณandromeda ในคำตอบ
ก็พอจะเข้าใจแล้วละว่า ในความเข้าใจของคุณเป็นอย่างไร

ลึกลับดีนะกับสิ่งที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก เลยต่างคนต่างมี ในจินตนาการ

เคยอ่าน ครายออน มาบ้างนิดหน่อย แต่เพราะมีความคิดแย้งในบางอย่าง
เลยทำให้อ่านไม่ได้ทั้งหมด

 

มนตด. เมืองไทยเราพบเจอได้มากมาย หุหุหุ มนุษย์ต่างด้าว

 

ดีใจจัง มีคนคิดแบบเราด้วยแฮะ โดยส่วนตัวผมก็เชื่อว่ามีพวกนี้อยู่ มีการดำรงอยู่จริง สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นพลังงาน และ มีสิ่งมีชีวิตแบบกายสัมผัสได้ เหมือนเคยอ่านเจอที่ไหนซักแห่ง ที่พระพุทธเ้จ้าตรัสว่า ไม่มีสิ่งใดพ้น ดิน น้ำ ลม ไฟ อย่างมนุษย์เรา จัดอยู่ด้วยการรวมธาตุทั้งหมด แล้วแสดงผลโดยธาตุดิน อะไรประมาณนี้(ขี้เกียจอธิบาย แต่ลองคิดๆดูเอง)บางที เทพ เทวดา ยักษ์ ก็อาจจัดเป็นมนุษย์ต่างดาวด้วยก็ได้ถ้าลองมองไปทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นแล้ว สิ่งมีชีวิตอาจมีสภาพแบบ
มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้
มองไม่เห็น สัมผัสได้
มองเห็น สัมผัสได้
มองเห็น สัมผัสไม่ได้

 

ขออภัยเจ้าของกระทู้ หลงเข้ามาอ่านเพราะนึกว่ามีเวชย์มนต์ควบคุมตดได้ จะไว้ให้เมียฝึก ก่อนนอน เพราะทำผมฝันร้ายทุกที

 

บนฟ้าที่เห็นทุกทั่วโลกมีแต่ของปลอม มนุษย์ต่างดาวจริงคุยเฉพาะกับคนปฏิบัติธรรม