แกะรอยสถาปัตยกรรมองค์กรซ่อนเงื่อน

The holy grail 'neath ancient Roslin waits.
Adorned in masters' loving art, she lies.
The blade and chalice guarding o'er her gates.
She rests at last beneath the starry skys


โฮลีเกรลใต้โรสลินโบราณหออารักษ์
ศิลปกรรมสุดเลิศล้ำที่ค้ำชู
มีดและจอกป้องพิทักษ์ประตูสู่
เธอรออยู่ใต้เวิ้งฟ้าดาราพราย

Davinci Code - Ending scene ​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=KcfNpfaGejA]'The Da Vinci Code'. End Scene ft the music, 'Chevaliers de Sangreal', by Hans Zimmer - YouTube[/ame]



นอกเรื่องไปนาน ... กลับมาที่อาคาร xxxxx 60 xx อีกครั้ง

(ใกล้จบแล้ว ทนอ่านอีกหน่อยนะครับ )
​

ออกตัวว่า ... ขอลอกเลียนการถอดความแบบในภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ

สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสองรูป

สามเหลี่ยมชี้ขี้น แทนความหมายของ มีด หรือ เพศชาย
สังเกตยศบนบ่าก็มีรูปใบมีด (Blade)
ยิ่งยศ-อำนาจยิ่งสูง สามเหลี่ยมยิ่งมีขนาดใหญ่

สัญลักษณ์สามเหลี่ยมชี้ลง แทน รูปจอก(Grail) หรือ สตรีเพศ
มีรูปทรงคล้ายอวัยวะเพศหญิง

หากนำปลายสามเหลี่ยมจรดกันจะมองคล้ายถ้วย (Cup)
ในภาพยนตร์ Davinci code แทนตัวของ Holy grail หรือจอกศักดิ์สิทธิ์เป็นสัญลักษณ์แทนฝ่ายคริสตจักร

ถ้านำ... สามเหลี่ยมทั้งสองมาซ้อนกัน
(ปรับขนาดให้สามเหลี่ยมมีพื้นที่เท่ากัน)
ภาพที่ได้คือ รูปดาวหกแฉก (นึกถึง ธงประเทศอิสลาเอล)
เลข 6 ของจำนวนมุมรูปดาวหกแฉก ในทางศาสนาคริสต์ แทน เลขแห่งมนุษย์ ตามความเชื่อที่ว่า : พระเจ้าทรงสร้างโลกในวันที่หนึ่งแล้วจากนั้นทรงสร้างมนุษย์ให้เกิดขึ้นในวันที่ 6
ชาวยิวบางคนจึงเชื่อกันว่าชาติพันธุ์ของตนคือกลุ่มชนที่พระเจ้าทรงคัดเลือกไว้ หลังวันพิพากษา ! (Judgement day)

หมายเหตุ : ในภาพยนตร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ทำให้ผู้ชมเชื่อว่า ใต้พิพิธภัณฑ์ Louvre คือ ที่บรรจุศพของ Mary Magdalene
แต่ ... มันเป็นเพียงภาพยนตร์ ที่ผมลากเส้นที่ตั้งอาคาร xxxxx 60 xx ไม่ได้สื่อว่าเป็นไปตามตอนจบของภาพยนตร์นะครับ


figure : Louvre museum, Paris (haonavy.com)

 

"I am the Alpha and the Omega, the first and the last, the beginning and the end."

Revelation 22:13​

ข้า เป็นดัง อัลฟาแลโอเมกา
เสมือน กาลสมภพและสิ้นสูญ
ดั่ง อุบัติกาลและจวบจนอวสาน​

วิวรณ์ 22:13​

...พอที่จะมองออกกันมั้ยครับ เดี๋ยวมาต่อ..​

.

credit : wikipedia.org

 

Alpha และ Omega ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาใหม่ เป็นเล่มที่ชื่อว่า วิวรณ์ หรือ Revelation หรืออีกชื่อคือ Apocalypse

เนื้อหาส่วนหนึ่งในพระคัมภีร์ วิวรณ์ เกี่ยวข้องกับคำพยากรณ์ โดยกล่าวถึง
การพิพากษาครั้งสุดท้าย -การฟื้นคืนชีพของผู้ตาย-การเสด็จลงมาครั้งที่สอง เป็นต้น

ในอักษรกรีก Alpha เป็นอักษรตัวแรก ส่วน Omega เป็นอักษรตัวสุดท้าย
หากนำตัวอักษรทั้งสองมาซ้อนกัน ความหมายโดยนัยคือ
การเริ่มต้นคือการสิ้นสุดและการสิ้นสุดก็คือการเริ่มต้น หรือ นิรันดร (Endless)

เครื่องหมายทางคริสตจักร(บางแห่ง)เลือกใช้ อักษร Alpha - Omega แทรกอยู่ในสัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นคริสตจักร

มีบ้างที่เลือกใช้รูปงูหรือมังกรกินหาง Ouroborosแทนความหมายต่อมาได้ปรับแปลงเป็นลักษณะ รูปวงกลม Circle
จนกระทั่งถูกวิวัฒน์สู่เครื่องหมาย Infinity symbol

(สัญลักษณ์ เซน แทนด้วย วงกลมเปิด เป็นปริศนาธรรมอย่างหนึ่ง ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมนะ
ครับ)

 

"The mind sees what it wants to see.."
( ใจเห็นอย่างที่มันต้องการให้เห็น)


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ

catt2catt2catt2​

 

ขอบคุณนะคะ คุณ ZincOxide ที่นำ Davinci code ภาคภาษาไทย และอิงข้อมูลเมืองไทย มาให้ติดตาม ลองอ่านไป วิเคราะห์ตามไป ชวนให้ติดตามอ่านกันเลยทีเดียวค่ะ

 

-ขอบคุณค่ะ ชอบอ่านค่ะ เรื่องแบบนี้
ถ้ามีอีกก็เอามาลงอีกนะคะ ขอบคุณค่า

 

ธนบัตรที่ประเทศอเมริกาพิมพ์ออกมามีด้วยกันหลายราคา แต่สำหรับแฟนพันธ์แท้ที่ชื่นชอบเรื่องราว ประเภท Illuminati, Freemason, New world order หรือ Conspiracy Theory
ผมเชื่อว่าบรรดาแฟนพันธ์แท้เหล่านั้นคงชื่นชอบ ธนบัตรราคา 1 ดอลลาร์ มากเป็นพิเศษโดยเฉพาะไอ้รูปปิรามิด-ตาเดียว ด้านหลัง

อันที่จริงรูปปิรามิดตาเดียวนี่ ฝรั่งมังค่ามันตีความจนแทบไม่มีอะไรจะงัดแงะแกะเกากันแล้ว ด้วยความที่ใครๆก็เอาแต่สนใจปิรามิดตาเดียวนั้น
บรุษที่อยู่อีกด้านอาจจะเกิดอาการน้อยใจ ไม่มีใครเขามาสนใจ ชายผู้นี้มีความสำคัญต่ออเมริกามากเลยนะครับ เป็นผู้นำทัพทำสงครามปลดแอกจากประเทศสหราชอาณาจักร หากไม่มีเขา อเมริกาคงไม่เกิด และที่สำคัญ

เขาคือประธานธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา

Jorge Washington-จอร์จ วอชิงตัน​

(รายละเอียด ประวัติท่านนั้นหากสนใจลองไปสืบหาอ่านกันเองนะครับ ผมหยิบเอาแค่ที่จำเป็น)

ด้วยที่ท่านเป็นประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกาจึงได้รับเกียรติจารึกชื่อและพิมพ์ภาพของท่านลงบนธนบัตรราคา 1 ดอลลาร์
ซึ่งบางที(แค่สมมติฐานมั่วๆของผม) ตัวท่านเองก็อาจจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์บางอย่างด้วย

อย่างที่ทราบกัน Alpha เป็นอักษรกรีกตัวแรกของตัวอักษรทั้งหมด
การที่ใครก็ตามที่มีคุณสมบัติเป็นบุคคลแรกของสิ่งต่างๆก็ย่อมสามารถถูกเลือกให้ไปแทน เครื่องหมาย Alpha ได้เช่นกัน ...

.... ผมว่า งานนี้ ท่านจอร์จ วอชิงตัน ก็ไม่รอด ครับ ...

 

ก่อนอื่น ที่ทำให้ผมเชื่อว่า ท่านจอร์จ ตกเป็นตัวแทนสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ขอให้ลองไปสังเกตธนบัตรดอลลาร์ราคาต่างๆ ตามลิงค์นี้เลยครับ ธนบัตรอเมริกา (ผมขี้เกียจแนบรูป)

มันเยอะหลายใบ ใช่มั้ยครับ งั้นลองดู ธนบัตรราคา 1 , 2 และ 100 ดอลลาร์ ดู บุคคลทั้งสามแตกต่างยังไงกับ บุคคลในธนบัตรราคาอื่นๆ ... บุคคลทั้งสามล้อมด้วยกรอบรูปวงรี แต่ธนบัตรใบอื่นๆไม่มีกรอบ

แต่มีเพียง ท่านจอร์จ คนเดียวเท่านั้นที่มีกรอบเป็นรูปอักษรกรีก Omega เห็นอย่างชัดเจน (โดยไม่มีป้ายชื่อบดบัง)

มีคำถามอีกว่า แล้ว Alpha ละ ?

ความแนบเนียนอย่างหนึ่งคือ .. การแปลงสัญลักษณ์เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ท่านจอร์จถูกติ๊ต่างแทนด้วย Alpha ไปแล้ว
แต่เพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่างต้องทำให้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยสร้างรูปทรงขึ้นมา โดยไม่ให้ผิดสังเกตมากนัก
สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาก็คือ ... พุ่มไม้ทั้งสองด้าน และ ยอดด้านบนที่ราบเรียบของกรอบวงรี

(ธนบัตรใบละ 2 และ 100 ดอลลาร์ กลับไม่มียอดวงรีที่แบนราบและไม่มีพุ่มไม้ ... แปลกมั้ยละ ?)

ธนบัตรอเมริกา ถูกใช้เกือบทั่วทั้งโลก สิ่งที่สื่อสารออกไป มันคือ ใบปลิวโฆษณาประชาสัมพันธ์ดีๆนี่เอง โดยเฉพาะธนบัตรที่มีราคาเพียง 1 ดอลลาร์

 

นี่คือ สถาปัตยกรรมรูปทรงปิรามิดที่ใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีที่สุด ...

He that hath an ear, let him hear what the Spirit saith to the churches; To him that overcometh will I give to eat of the hidden manna, and will give him a white stone, and on the stone a new name written, which no man knoweth, he excepted, that receiveth it.

Revelation 2:17​

ท่านทั้งหลายพึงสดับสรรพสารแห่งพระองค์
ศิลาขาวและมานนาที่ซ่อนไว้
พระองค์ย่อมกำนัลต่อผู้มีชัย
นามใหม่ที่จารึกบนศิลา
ผู้ได้รับพึงล่วงรู้แต่เพียงผู้เดียว

วิวรณ์ 2:17​

Washington monument-อนุสาวรีย์วอชิงตัน​

 

ค้นข้อมูลไปเรื่อยๆดันไปเจอว่า ข้อมูลที่ผมตั้งสมมติฐานมานั้น ดันไปคล้ายกับนวนิยายของ แดน บราวน์ The Lost symbol

สารภาพว่าไม่รู้มาก่อน เพราะผมเป็นคนชอบดูภาพยนตร์มากกว่าที่จะอ่านนวนิยายเรื่องยาวๆ (เพิ่งรู้ว่ามีนวนิยายเล่มนี้ ขนาดสามก๊กนี่ผมอ่านมาสองสามปีแล้วยังไม่จบเลย)

หากเนื้อเรื่องจะคล้ายก็คงคล้ายกันแค่หยิบฉาก กรุงวอชิงตัน ดีซี มาดำเนินเรื่อง แต่ผมเชื่อว่าผลสรุปน่าจะแตกต่างกัน ใครอ่านนวนิยายเรื่องนี้มาแล้วหากอยากสปอย ก็ยินดีครับ ผมเขียนเล่าอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า (เอ๊ะ หรือว่ากำลังเป็นอยู่ )

สมมติฐานที่ผ่านๆมาและต่อไปนับจากนี้ ผมพยายามจะไม่ใช้การสรุปความตรงๆ เพราะอยากให้พิจารณากันเอง ด้วยเหตุที่ข้อมูลซึ่งเขียนไปอาจกระทบหลายองค์กร หากวันใดกระทู้นี้หายไปก็ขอให้ท่านคิดซะว่า ที่เคยอ่านเคยเห็นมานั้น เป็นเพียง ความฝัน

 

White stone หรือ ศิลาขาว ปรากฏชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิล ฉบับ วิวรณ์ 2:17 (Revelation 2:17 ) มีการกล่าวถึง พระนามใหม่ของพระเจ้า โดยมีเพียงบุคคลผู้รับศิลาขาวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ล่วงรู้พระนามนี้ได้
นอกจากนี้กล่าวถึง มานนา (Manna) เข้าใจว่ามีลักษณะเป็นก้อนวัตถุหรือเมล็ดพันธุ์บางอย่าง (อันนี้ตีความจากรูป - บางตำราก็กล่าวว่า Manna เป็นสาส์นลับของพระเจ้าที่ถูกซุกซ่อนไว้บนสวรรค์) อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกว่า Manna ถูกซุกซ่อนแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า บุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่ผู้ถูกคัดเลือก จะไม่มีสิทธ์ล่วงรู้ได้ แตกต่างกับ ความลับของพระนามใหม่ที่ถูกบนศิลาขาว บุคคลที่มีสิทธิ์ล่วงรู้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วคำถามต่อมาก็คือ

บุคคลผู้นั้น(ควรจะ)เป็นใคร ?​

 

ก่อนที่จะไปหาคำตอบนั้น

ขอย้อนกลับมาที่ อนุสรณ์สถานวอชิงตัน อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา โดยสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ 1888 ใช้เวลายาวนานถึง 36 ปี โครงสร้างเป็นหินหลายชนิด ยอดปิรามิดด้านบนทำด้วยโลหะอะลูมิเนียม ความสูงประมาณ 169 เมตร

อนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้ผ่านการบูรณะมาแล้วหลายครั้งตลอดเวลากว่า 120 ปี ล่าสุดเมื่อปี 2011 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์ ส่งผลทำให้เกิดรอยร้าว ทางการจึงปิดซ่อมแซม คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2014

รูปร่างของอนุสรณ์สถานวอชิงตันเรียกว่า Obelik ถูกออกแบบโดย สถาปนิก Robert Mill ใช้แนวคิดมาจากเสากรีกโบราณ เรียก รูปทรง Obelik มีสถานที่ดังๆหลายแห่งเลือกใช้ศิลปะรูปทรงนี้ แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักคงไม่พ้น … เสาโอเบลิก ตั้งอยู่ใจกลาง Saint Peter’s square กรุงโรม ประเทศอิตาลี

อาคารด้านหน้าเสาโอเบลิก นั้นคือ มหาวิหาร Saint Peter's Basilica ใช้ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาและเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังศพนักบุญคนสำคัญของพระเยซู เสาโอเบลิกที่เห็นมีรูปทรงคล้ายอนุสรณ์สถานวอชิงตันต่างตรงที่จตุรัสแห่งนี้ยอดปิรามิดถูกคลุมด้วยไม้กางเขน และสร้างมานานหลายร้อยปี …

(ลองคิดให้ปวดหัวเล่นๆก็ได้ครับว่า … ยอดปิรามิดของ Saint Peter’s square ทำไมต้องถูกคลุมด้วยไม้กางเขน ?)

หากมองว่า

มหาวิหารเป็นสัญลักษณ์แทนนักบวชผู้รับใช้ศาสนา
เสาโอเบลิกก็คือสัญลักษณ์ของอัศวินผู้พิทักษ์คริสตจักร (หอกนักรบหรือใบมีด) นั่นเอง…..

เดี๋ยวจะพากลับไปที่กรุงวอชิงตันอีกครั้งครับ​

 

บางท่านอาจจะงง…ตอนแรกไอ้หมอนี่เขียนเรื่องที่เกิดประเทศ(แห่งหนึ่งในอาเซียน)

ทำไมตอนหลังๆมันพาข้ามน้ำข้ามทะเล (และกำลังพาออกทะเล)มาถึงอเมริกา

ขอตอบเลยว่า … เรื่องราวในประเทศที่เกี่ยวกับ องค์กร เอ่อ … นั่นแหละ
ผมยังคิดไม่ออกแต่ยังพอมีมุกสำรองอยู่บ้างสองสามเรื่อง เอาไว้เล่าตอนท้ายๆ

(ไม่รู้จะท้ายตอนไหน กำลังติดลม )

 

กลับมาที่ กรุงวอชิงตัน อีกครั้ง

ตามโมเดลของมหาวิหารในกรุงวาติกัน ตอนนี้ผมสมมติให้อนุสรณ์สถานวอชิงตัน รูปทรงโอเบลิก เป็น ตัวแทนสัญลักษณ์อัศวินผู้พิทักษ์ แต่จะพิทักษ์ศาสนาหรือพิทักษ์อะไรนั้น ลองพิจารณากันเองนะครับ

(ลองย้อนกลับไปดูคำถามที่ผมชวนคิดให้ปวดหัวใน ความคิดเห็นที่ #32 อีกทีครับ)

หากเปรียบเทียบภูมิทัศน์รอบๆ อนุสรณ์สถานกับบริเวณจัตุรัส Saint’s Peter แล้ว สถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ตำแหน่งคล้ายกับตำแหน่งของมหาวิหาร นั่นก็คือ …

Lincoln Memorial อนุสรณ์สถานลินคอลน์​

 

ตอนคุณ ZincOxide หยิบเรื่อง กรุงวอชิงตัน ดีซี มาเล่า ก็เหมือนกับว่าคุ้นๆ ว่าเคยได้อ่านมาจากอะไร พอคุณ ZincOxide พูดถึงเรื่อง THE LOST SYMBOL ขึ้นมา ถึงได้ ..... อ๋อ ..... เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่อ่านนานแล้ว เลยจำเนื้อหาไม่ค่อยได้มากนัก แต่การได้อ่่านเรื่องที่คุณ ZincOxide เล่าก็สนุกเช่นกันค่ะ ก็เลยขอสมัครเป็นผู้อ่านต่อไปค่ะ

 

Abraham Lincoln-อับราฮัม ลินคอล์น​

ท่านเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของอเมริกา ไม่ได้เป็นนักรบ-นักปฏิวัติเหมือนเช่นท่านจอร์จ วอชิงตัน แต่ทว่าท่านเป็นนักปฏิรูปการเมืองการปกครองคนสำคัญในประวัติศาสตร์อเมริกา ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับยกย่องเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา น่าเสียดายที่ความขัดแย้งทางการเมือง นำพาท่านไปสู่ความตาย อับบราฮัม ลินคอร์น ได้เสียชีวิตด้วยการถูกลอบสังหาร ขณะที่เข้าชมการแสดงละครเวทีที่โรงละครฟอร์ด ในปี 1865

ต่อมา ทางการอเมริกาได้สร้างอนุสรณ์สถานลินคอล์นขึ้นรูปแบบอาคารแบบกรีกโบราณ มีเสาทั้งหมด 36 ต้น แทนจำนวน 36 รัฐ (ขณะที่ลินคอล์นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี) พร้อมจารึกทั้งชื่อรัฐทั้ง 36 ไว้ด้านบน ส่วนด้านในเป็นรูปปั้นเต็มตัวในท่านั่ง ด้านหลังจารึกสุนทรพจน์ประวัติศาสตร์ของท่านเอาไว้ ว่า

IN THIS TEMPLE
AS IN THE HEARTS OF THE PEOPLE
FOR WHOM HE SAVED THE UNION
THE MEMORY OF ABRAHAM LINCOLN
IS ENSHRINED FOREVER

ย้อนกลับไปที่ วิวรณ์ 2:17

“…. ศิลาขาวและมานนาที่ซ่อนไว้
พระองค์ย่อมกำนัลต่อผู้มีชัย …” ​

ศิลาขาว ถูกแทนด้วย อนุสรณ์สถานลินคอล์น ซึ่งสร้างมาจากหินอ่อนสีขาว

ผู้มีชัย หมายถึง บุรุษนักปฏิรูปคนสำคัญของประวัติศาสตร์อเมริกา …

Abraham Lincoln

ผู้ที่กุมความลับ พระนามใหม่ของพระเจ้า ไว้นั่นเอง​

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ The New name หรือพระนามใหม่ที่จารึกไว้บนศิลาขาวนั้นถูกซ่อนไว้ส่วนใดของอนุสรณ์สถานลินคอล์น ?

 

ขอบคุณมากครับกำลังติดตามอ่านอยู่ครับ

สิ่งที่เห็นจากเบื้องหน้ามักเป็นสิ่ง ลวง
สิ่งที่ซุกซ่อนไว้เบื้องหลังมักเป็นสิ่ง จริง

ทุกๆประเทศย่อมมีหน่วยลับ ยิ่งองค์กรที่ต้องการครอบงำประเทศอื่น หน่วยลับจะใหญ่โตและสำคัญกว่าฉากหน้ามากมายนัก

 

หากสมมติฐานที่ว่า...อับราฮัม ลินคอล์น เป็น ผู้ที่ได้รับของกำนัลเป็นศิลาขาว(White stone) ซึ่งจารึกพระนามใหม่ของพระเจ้าไว้ ความลับนี้ก็มีเพียงอับราฮัม ลินคอล์น เพียงคนเดียวที่ทราบ

ถ้าพระนามใหม่ของพระเจ้าแทนด้วยตัวอักษร ก็มีความเป็นไปได้มีสองอย่าง คือ

หนึ่ง ชื่อ รัฐทั้ง 36 รัฐ ซึ่งปรากฏอยู่ที่ด้านบนส่วนหน้าของอนุสรณ์สถานลินคอล์น (ภาพแรก)

สอง คือ สุนทรพจน์ประวัติศาสตร์ด้านหลังรูปปั้นของท่าน

ถ้าหากว่า พระนามใหม่ของพระเจ้านั้นไม่ใช่ทั้งสองอย่างแต่มันถูกแทนด้วย ... สัญลักษณ์ ...

และเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนพอสมควรเลยทีเดียว
(ขอยืมคำว่า The Lost Symbol-สาส์นลับที่สาปสูญ มาใช้ ฟังแล้วดูเทห์ดี )

black_pig black_pig black_pig

 

...มาต่อไวๆเลยน่ะครับ อย่าปล่อยให้อารมณ์ค้าง

 

ศาสนจักรยังมีนักบุญกับอัศวินผู้พิทักษ์ แล้วทำไมองค์กรที่ยิ่งใหญ่ระดับสหรัฐอเมริกาจะมีไม่ได้

… บุรุษหนึ่งดุจอัศวิน อีกบุรุษดั่งนักปกครอง …​

เสาโอเบลิก-อนุสรณ์สถานวอชิงตัน เป็นตัวแทนของอัศวินผู้พิทักษ์

อนุสรณ์สถานลินคอล์น เป็นตัวแทนของนักปกครอง

ทั้งสองอนุสรณ์สถานตั้งตระหง่าน หันเบื้องหน้าเข้าหากัน อัศวิน และ นักปกครอง เหมือนกับว่าถูกจัดไว้สำหรับเหตุผลบางอย่าง ซึ่งจะแตกต่างจากเสาโอเบลิกกับมหาวิหาร Saint ‘s Peter ที่นครวาติกัน

บริเวณพื้นที่ตรงกลาง เป็นส่วนของ World War II memorial สร้างเสร็จไว้เมื่อ ปี 2004 เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกทหารที่ร่วมรบในสมัยสงครามโลกที่ 2 และมีสระน้ำใหญ่และมีความยาว ชื่อว่า Reflecting pool เป็นสระน้ำธรรมดา สำหรับสะท้อนเงาของอนุสรณ์สถานวอชิงตัน

รูปปั้นขนาดใหญ่ของประธานาธิบดีลินคอล์นในลักษณะของท่านั่ง เหมือนกับตั้งใจสร้างให้มีขนาดใหญ่เทียบเทียมกับความสูงตะหง่านของเสาโอเบลิกหรืออนุสรณ์สถานวอชิงตัน

สังเกตว่าระดับสายตาของรูปปั้นลินคอลน์ไม่ได้มองไปที่เสาโอเบลิกที่อยู่ด้านตรงข้าม กลับก้มหน้ามองต่ำลงเล็กน้อย

ระดับสายตาของรูปปั้นลินคอล์น คือ เข็มทิศที่จะชี้ไปยังสัญลักษณ์ที่ถูกซ่อนไว้ …