เรื่องลิงๆ!!หลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย

ขอบคุณมากครับ สงสัยต้องหาเรื่องเข้าวัดอีกแล้ว

 

พระกริ่งเนื้อนวะเทดินไทย
เพิ่งบูชามาครับ สวยงามแบบโบราณเลยครับ

 

อยากทราบรายละเอียดว่า พญาวานรไม้แกะมีไม้ชนิดอะไรบ้าง และแบบหล่อลอยองค์มีไหม

 

ตอนนี้มีหมูเนื้อสัมฤทธิ์ ที่วัดออกเอง สร้างน้อยจะหมดแล้วครับ ปลุกเสกคืนจันทร์เพ็ญ หลวงพ่อท่านเมตตามากครับ อยากให้ลองไปกราบหลวงพ่อกันครับ
ขอบคุณครับ
เทิด

 

มีกะเค้าแค่ 1 ตน ไม่ทราบว่าเป็นไม้อะไร

 

ถ้าให้เดาคิดว่าเป็นไม้ตะเคียนครับ เพราะผมมีอยู่คล้ายๆแบบนี้เป็นไม้ตะเคียนเสาโบสถ์
แต่เปรียบเทียบจากรูปของพี่ไม้ของผมจะออกสีดำ และ เงากว่าครับ
ไม่ทราบว่าพี่ไปทำอะไรกับเนื้อไม้ หรือ ใช้แขวนเปลือยรึเปล่าครับ

 

กริ่งรุ่นแรก เนื้อนวะ จาร9ตัว

​

 

เหรียญหล่อโบราณ หลวงปู่แถบ

เหรียญหล่อโบราณ รูปหลวงปู่แถบ หรือพระครูแถบ ติกฺเขยฺโย(เจ้าอาวาสวัดบางพลีน้อยรูปที่5 พ.ศ. 2466 – 2504)ซึ่งหลวงพ่อนันต์ท่านนับถือมาก สร้างประมาณ300เหรียญครับ หล่อจากชนวนเหรียญเก่า ยันต์เก่า มากมาย นับว่าเป็นสุดยอดในด้านชนวนเลยครับเหรียญนี้

​

 

พญาหมูพลิกชะตา
หลองพ่อตั้งใจสร้างหมูรุ่นนี้มาก ให้ลูกศิษย์เอาไปใช้ ไม่ลำบากดังหลวงพ่อว่า "มีหมูฉันไม่มีจน"หมูรุ่นแรกหลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย ปลุกเสกวันเพ็ญเดือน12 หรือ28เดือนนี้หลวงพ่อตอนเที่ยงคืน หลวงพ่อบอกว่ารุ่นนี้หมูพลิกชะตาเน้นโชคค้าขายหากิน

​

 

ไม่ทราบว่าหมูของหลวงพ่ออนันต์ มีคาถาในการบูชาไหมครับ

 

ขอสับช้าง(คชกุศ)



คชกุศ หรือ อังกุศ (สก. องฺกุศ; มค. องฺกุส) คือขอสับช้าง เป็นเครื่องใช้ประจำกายของควาญช้าง เพื่อที่จะใช้บังคับช้างให้ทำตามคำสั่ง อย่างที่เราสามารถพบเห็นกันได้ทั่วไป โดยน้อยคนนักที่จะทราบว่า คชกุชนั้นถือเป็น ๑ ใน ๘ สิ่งมงคลของพราหมณ์ เป็นของอาถรรพ์ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งครูประกำ ที่สามารถค้ำคูณดวงชะตา และข่มอาถรรพ์ต่างๆไ ด้อย่างชงัด หมายถึง ขอบังคับช้าง ขอช้าง หรือ ตะขอช้าง หรือ ขอสับช้าง (ภาษาเหนือ) แล้วแต่จะเรียก มีอำนาจในการควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ได้ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง อำนาจ เบ็ดเสร็จ ในการควบคุม เช่น พระพิฆคเณศ จะมีปางหนึ่งที่ถือ คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง อยู่ด้วย
มีผู้รู้กล่าวว่าเป็นเครื่องรางที่วิเศษ แต่หาได้น้อยเต็มที เพราะเข้าใจกันเพียงว่าเป็นแค่เครื่องใช้อย่างหนึ่งเท่านั้น คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง เป็นของอาถรรพ์ที่เเรงครูสูงมากชนิดหนึ่งหากสร้างถูกต้องตามตำราที่ระบุไว้ เรียกว่า “พระครูประกำ”อาจารย์สูงสุดของวิชาคชศาสตร์ 4 ท่าน ลูกศิษย์ด้วยขอช้างคือ “ พระคชศาสตร์ ”

คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริงว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่งและมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นของโภคทรัพย์ จากการเป็นของอ หมายถึงการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้ เป็นคำมงคล ในภาคใต้จะมีพิธีการชนิดหนึ่งคือการฝัง "กะโจ" ที่เป็นคุณไสยแบบหนึ่งในสวนผลไม้ซึ่งหากใครกินผลไม้ในสวนนั้น โดยเจ้าของไม่อนุญาต ก็จะมีอาการผิดสำแดงจุกเสียด แก้อย่างไรก็ไม่หายต้องขอขมาและให้เจ้าของสวนมาแก้จึงจะหาย บางรายเจ้าของสวนไม่อยู่กว่าจะกลับมาแก้จุกตายคาสวน ก็มีจึงเป็นที่เกรงกลัว ไม่มีใครกล้าลักกินของในสวนโดยพละการ แต่เชื่อกันอีกว่าหากนำคชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง นี่เกี่ยวผลไม้นั้นก่อนก็สามารถนำมากินได้ โดยไม่มีอาการผิดสำแดงเรียกว่ากะโจนั้นแพ้อาถรรพ์ขอช้าง การตีมีดหมอหรือมีดชน๊อกในตำราของปักษ์ใต้ หรือตีกริชก็มักมีเหล็กอาถรรพ์หลายประการเช่น เหล็กพวยกา(กาน้ำพระเมื่อก่อนเป็นเหล็กเคลือบสี) เหล็กขอ คือ คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง เป็นสวนผสมอยู่เกือบทุกตำราเชื่อว่าข่มอาถรรพ์ดีนัก หากนำขอช้างนั้นมาประจุอาคมเพิ่มจะเป็นเครื่องรางชั้นยอดโดยนิยมบรรจุของ สำคัญเช่น เศษเชือกประกำ ตะไคร่เสาตะลุงช้างเผือก น้ำมันช้าง ผงวิเศษจากการลบยันต์หัสดี ยันต์หนุมานหักคอช้างเอราวัณ นะคชสาร จะมีอานุภาพสูงมีเทพวิญญาณมาสถิตย์คุ้มครองบนบอกได้ด้วยแรงครูประกำ ดีเด่นด้านโภคทรัพย์เรียกว่าเป็น นางกวักก็ได้ พ่อค้ารุ่นเก่าที่เล่นเครื่องรางมักเสาะหา คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง มาให้อาจารย์ที่ตนนับถือลง อาถรรพ์เพิ่มเติมให้ หากนำมาไว้ที่บ้านยังเป็นของคุมอาถรรพ์ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพ บังคับทุกสิ่ง ให้เป็นไปในทางดี ไม่ก่อกำเริบเดือดร้อน หากผู้มีวิทยาคุณอื่นจะมาลองวิชาก็มักแพ้ภัยตัวเองไป เพราะอำนาจ เหล็ก คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง สะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเอง เป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนักทั้งผู้รู้เรื่องก็มักปกปิดเก็บเงียบอมพนำเสียก็เลยไปกันใหญ่

คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง นี้ ดีในทางควบคุมคน ให้อยู่ในอำนาจด้วย เพราะเคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ในโอวาท กระด้างกระเดื่อง เพราะก็ถือว่าเป็นดีมีวิชาเหมือนกัน ก็เลยเขียนชื่อเอาขอช้างสับสะกดไว้ ปรากฏว่าเจออีกทีหงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี
มีตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่งคือ ศาลาวัดหนึ่งมีผีนางไม้ดุมากคอยรบกวนผู้พักอาศัยให้เดือดร้อนอยู่เนืองๆ จนไม่มีผู้กล้าพักอาศัยยามค่ำคืน และเป็นผีที่เหลือมือหมอคือ เป็นประเภทพฤกษาเทวาอาคมธรรมดาไม่สามารถสะกดอยู่ จนวันหนึ่งนางไม้นี้มาสิ้นฤทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีส่วยคณะหนึ่งเดินทางมาผ่านพักที่ศาลาหลังนี้พอนางไม้เริ่มออกฤทธิ์ เขย่าศาลาหัวหน้าคณะส่วยไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่เคยเรียนมนตร์ปราบผี นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์องค์ครูประกำได้ก็เอา คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง นี่สับไปที่เสาตกน้ำมันที่นางไม้นี้อยู่ ปรากฏว่าทีเดียวเท่านั้นนางไม้นั้นสิ้นฤทธิ์หมดพิษสงสงบเสงี่ยมเงียบจ๋อยไม่มารบกวนอีกเลย อ้าวก็ช้างตกมันตัวเบ้อเร่อเบ้อเท่อขออันเดียวยังสะกดอยู่เลย นางไม้ตัวเล็กๆ จะเหลืออะไรเพราะในทางไสยเวทช้างเป็นสัตว์ที่มีรังควาน (อาถรรพ์) แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัว เเม้ขนหางช้างหากนำมาทำเเหวนก็ยอดเรื่องป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ คชกุศ ขอช้าง ขอสับช้าง หรือตะขอช้าง จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ด้วยแรงครูประกำที่สูงมากจนข่มกันอยู่ นักเลงวิทยาคมรุ่นเก่าจึงมักแสวงหาขอช้างที่ลงอาคมครูประกำมาไว้ในครอบครอง ยิ่งขอนั้นสะกดช้างตกมันมาด้วยยิ่งนับถือว่าดี (แต่สุดยอดคือขอช้างมงคลคือช้างเผือกที่สุดยอดหายาก) เพราะเท่ากับได้ของมงคลพิเศษที่มีทั้งศรี คือความเป็นมงคลและเดชคืออำนาจในการสะกดข่มอยู่ในตัว

หลวงพ่อต้องหาตะขอที่เคยผ่านการใช้งานในการฝึกช้าง-บังคับช้างมาแล้วเท่านั้น เพราะควาญช้างจะต้องว่าคาถาอาคมที่ตะขอกำกับในการฝึก-บังคับช้าง
อีกทั้งตะขอนี้จะมีดีตรงเป็นมหาอำนาจ-บารมี และป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน และป้องกันสิ่งอัปมงคล เคราะห์ เสนียดจัญไร ลมเพลมพัดต่าง ๆ ขออันนี้เป็นตัวครู ใช้หนังสัตว์ทำเป็นด้าม ยาวประมาณ8นิ้ว

 

ตอนนี้ไปอยู่กับคุณเมียแล้วครับขอสับช้างอันนี้ นอกจากเป็นเครื่องรางแล้ว เค้าบอกเอาไว้ใช้ป้องกันตัวได้ด้วย

 

พญาวานร ซี่โครงพยูนแกะ!!!

​

ฟังครั้งแรกนึกว่าหลวงพี่ที่วัดพูดผิด จึงขอชมซี่โครงปลาพยูน หรือที่คนชาวเลมักเห็นว่าเป็นนางเงือก หลวงพี่ท่านก็ใจดีเดินเข้าไปหยิบที่กุฏิหลวงพ่อออกมาให้ชม
ลักษณะซี่โครงจะสีขาวด้านๆคล้ายงาช้าย พอมองดูใกล้ๆจะเห็นเป็นรูพรุนเล็กๆ พอขัดมันแล้วออกมาสวยน่าดูเลยครับ เลยจัดมาตัวนึง หลวงพี่บอกสร้างน้อย ตอนนี้ก็เหลืออยู่อีกซี่โครงเดียวที่วัด

 

พระปิดตา(รุ่นแรก)ไม้เสาโบสถ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

​

เมื่อครั้งได้ทำการรื้อโบสถ์เก่าวัดเครือวัลย์ (วัดหลวงพ่อแก้ว ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดัง สมัยหลวงพ่อแก้วยังอยู่ก็ใช้โบสถ์นี้ปลุกเสกวัตถุมงคล) ลูกศิษย์ได้เก็บรักษาไว้จำนวนหนึ่ง และได้นำมาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อได้นำเสาโบสถ์เสาเอกซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ "ตกน้ำมัน" หลวงพ่อจึงให้นำมาแกะเป็นพระปิดตาเพื่อเป็นการระลึกถึงหลวงพ่อแก้ว แต่รุ่นนี้วัดไม่ได้แกะเอง หลวงพ่อบอกแกะเป็นแต่ลิงก็เลยจ้างช่างชาวบ้านฝีมือดีที่ต่างจังหวัดแกะ พระออกมารูปแบบสวยงามรายระเอียดครบครันมากๆครับ อุดตระกรุดเงิน จารมือทั้งองค์ครับ สวยสง่างามมาก

 

​

สิ่งที่ชอบที่สุดของปิดตารุ่นนี้คือ นิ้วเท้าครับ แกะได้ละเอียดมาก

 

สร้อยข้อมือ กระดูกงูเห่า กันเขี้ยวงา แคล้วคลาด และแก้ปวดเมื่อยครับ คนแถววัด ห้อยสายคาดกระดูกงู และ พญาวานรของท่าน
มีประสบการณ์ด้านคงกระพัน และอีกชิ้นคือ เดือยงูเหลือม ของหลวงพ่ออนันต์ครับ (กลิ่นยังติดอยู่เลย)

 

แจ้งข่าว งานวันเกิดหลวงพ่อ เสาร์ที่ 6 กรกฎาคม นี้
ที่วัดมีจัดงานริ่มตั้งแต่เช้าครับ ท่านใดสนใจร่วมงาน เชิญที่วัดบางพลีน้อย ได้เลยครับ

 

มีใครไปที่วัดมาบ้างไหมคับ พอดีอยากจะไปเช่าวัตภุมงคลของหลวงพ่อ อยากทราบ ว่ายังมีไหมคับ

 

ต้องไปกราบท่านบ้างแล้วครับ

 

แวะมาหาความรู้ครับ ผมอยู่ บางปู