ทำไม บุญ กุศล หรือ บุญ และ บาป ทั้งของเราและผู้อื่น จึงเป็น อนัตตา คับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มหาพรหมราชา, 14 มกราคม 2013.

  1. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    ทำไม บุญ กุศล หรือ บุญ และ บาป ทั้งของเราและผู้อื่น ทั้งของสัตว์อื่นๆ จึง เป็น อนัตตา คับ
     
  2. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    ไม่ใช่ไม่มีอะไร แต่หมายถึงไม่เป็นตัวตน คือไม่มีรูปร่างที่แน่นอน ไม่คงที่ เป็นอนิจจัง บอกแบบนี้ เข้าใจง่าย.......ตีความหมายกันผิดไปหมดว่า ไม่มีอะไร อย่าลืม สสารและพลังงานเป็นสิ่งเดียวกัน ที่บอกว่าไม่มีอะไร มันก็มีพลังงานไง แต่มองไม่เห็น
     
  3. thaiboy74

    thaiboy74 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +207
    อนัตตา ไม่ได้แปลว่าไม่มี แต่หมายถึงว่างจากตัวตน ที่ไม่มีอะไรให้ยึดถือครับ
    สำหรับเรื่องนี้ ผมขออ้างอิงจาก มหาไวปุลยสูตรให้ฟังสักนิดหน่อยนะครับ

    "ดูก่อนกุลบุตร อันอวิชชานี้ หาได้มีรูปร่างที่แท้จริงไม่
    ดุจบุคคลผู้อยู่ในความฝัน ที่เวลาฝันย่อมมีอยู่
    ตราบเมื่อตื่นขึ้นจึงรู้ว่าไม่ใช่ความจริง ดุจบรรดาบุปผาในอากาศ
    ที่ดับสิ้นไปในความว่างนั่นเอง อันไม่อาจกล่าวกำหนดไปว่าดับสิ้นยังที่ใด
    ด้วยเหตุไฉนนั่นหรือ ก็เพราะไร้ซึ่งสถานที่ให้เกิดขึ้น สรรพสัตว์ทั้งหลายก็ด้วย
    ความไม่ได้เกิดขึ้นนี้ ลวงให้เห็นว่าเกิดดับ เหตุนี้จึงชื่อว่า สังสารวัฏชาติมรณะ"

    อธิบาย ในที่นี้ ถ้าเราแทนคำว่าอวิชชา ด้วยคำว่ารูป ขันธ์ ธาตุ ก็จะได้ความที่เหมือนกัน
    นั่นเพราะว่า ทุกสิ่ง มันว่างจากตัวตน เป็นเพียงแค่สิ่งที่เราเข้าใจไปว่ามันมี เราจึงละเลยสัจจะที่แฝงอยู่เบื้องหลัง สิ่งนี้คือมายา ในมหายานมักเปรียบกับดอกไม้ในอากาศ เขาของกระต่าย วิมานในอากาศ ซึ่งไม่มีอยู่ เหมือนเราหลับและฝันไป ทุกอย่างในฝันมันแค่เหมือนจริง ผู้ที่ตื่นขึ้นแล้วเท่านั้น ถึงจะแยกแยะมันออก

    เมื่อธาตุทั้งสี่ เป็นอนัตตา ขันธ์ อายตนะ ก็เป็นอนัตตา เมื่อไม่มีผู้กระทำ แล้วจะมีการกระทำได้อย่างไร และเมื่อไม่มีการกระทำ กรรมก็ไม่เกิด ผู้นั้นก็บันลุ การหลงเชื่อในมายาภาพ ทำให้เราเขื่อว่าอัตตาปรากฏมี กรรมดีกรรมชั่วปรากฏมี จึงเวียนว่ายตายเกิดกันไม่สิ้นจากตัณหา อุปาทาน และอวิชชา
    ซึ่งตรงนี้เราต้องตีสัจจะให้แตก และตื่นขึ้นจากมายาภาพเหล่านั้น


    สรุปคือ สัพเพธัมมา อนัตตา ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2013
  4. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ที่เป็นอนัตตาก็เพราะ เราไม่สามารถบังคับให้เป็นตามที่เราต้องการได้
    เช่น บังคับว่า บุญเอ๋ย อย่าหมดไปนะ หรือบังคับว่า บุญเอ๋ยจงหมดไปซะ ดังนี้เป็นต้นไม่ได้ จึงเป็นอนัตตา
    บาป บุญ เป็นต้น ทั้งของเรา ทั้งของคนอื่นก็เหมือนกัน คือเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น
    นิพพาน เท่านั้น ไม่หมดไป ได้แล้วได้เลย ไม่หายไปไหน เป็นของเฉพาะตน แต่มีอานุภาพส่งผลให้สัตว์โลกทั้งหลายร่มเย็นด้วย
    นอกจากนิพพานแล้ว เป็นอนัตตาทั้งหมด ครับผม

    สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
    ต้องงดทำบาป ทุกชนิด ทั้งกาย วาจา ใจ
    กุสสะลัสสูปะสัมปะทา ควรทำบุญเยอะ ๆ ด้วยการวาจาใจที่เป็นกุศล เพื่อจะได้เป็นสะพานไปสู่เมืองนิพพาน ที่ไม่มีอะไรทำลายได้
    สะจิตตะปริโยทะปะนัง ควรชำระจิตใจ ให้บริสุทธิ์จากเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย คือ ละทั้งบาป ทั้งบุญ ให้เหลือแต่จิตที่บริสุทธิ์ ใส ๆ เหมือนน้ำที่ผ่านการกรองแล้ว สะอาดแล้ว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติใด ๆ เลย ดื่มแล้วได้ประโยชน์ที่เป็นบรมสุข (คือนิพพาน)
    เมื่อนิพพานแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องการบุญอีกแล้ว แต่ก็ยังบำเพ็ญประโยชน์ต่อไป เช่นพระพุทธองค์ทรงกระทำนั่นแล พระองค์ทำไปเพราะเพื่ออนุเคราะหฺสัตว์โลกอย่างพวกเรา ด้วยพระเมตตาธรรม หรือพรหมวิหารธรรม อย่างไม่มีประมาณ คือนับไม่ได้ เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 มกราคม 2013
  5. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    อนัตตา = ไม่ใช่ตัวตน (ไม่ได้แปลว่าไม่มี)
    หมายถึงในแง่ปรมัตถ์แล้วไม่ใช่ของใคร ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไปบังคับบัญชาให้เป็นไปตามใจเราไม่ได้ เป็นเพียงธาตุที่ปรุงแต่งประกอบขึ้นเป็นรูปกาย เป็นความรู้สึก ความรับรู้ ด้วยประสาทสัมผัส ที่เรียกว่าขันธห้า
    ดังบาลีที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา
    การทำบุญก็เป็นการปรุงแต่งจิตด้วยกุศล(อโลภะ อโทสะ อโมหะ)การทำบาปก็เป็นการปรุงจิตด้วยอกุศล(โลภะ โทสะ โมหะ)
    ท้ายสุดของทุกสิ่งคือละตัวตนของเราทั้งที่เป็นอกุศลและกุศล
    ซึ่งต้องใช้ปัญญาพิจารณาโดยถ่องแท้ที่เรียกว่าวิปัสสนา่ คือการตามดูรู้เห็นสิ่งต่างๆ คือตัวเรา สัตว์ และสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ตามความเป็นจริง คือ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตาของสิ่งต่างๆ
    คำสอนในพระพุทธศาสนาในการภาวนาจะตอกย้ำให้ละความยึดมั่น ความเป็นเรา ของเราออกให้หมด
     
  6. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    บุญบาปเป็นอนัตตาเพราะว่ามัน เกิดขึ้น ตั้งอยุ่ และดับไป ครับ
    พอเราทำบุญหรือบาป มันก็เกิดขึ้นในดวงจิตของเรารอเวลาให้ผล แต่เมื่อส่งผลหมดสิ้นแล้วมันก็ดับไป บุญบาปจึงมีการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
     
  7. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ก็เพราะมันเป็นไปตามเหตุปัจจัย...
     
  8. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    เมื่อยังมีเหตุและปัจจัยบุญและบาปก้อย่อมยังมีอยู่.....(เกิดขื้น)
    เมื่อกระทํายังเหตุและปัจจัยให้เกิดขื้นอยู่บุญและบาปก้อย่อมเกิดมีอยู่.....(แปรปรวน)
    เมื่อหมดเหตุแห่งกระทํายังเหตุและปัจจัยให้เกิดขื้นแล้วทั้งบุญและบาปย่อมดับไป.....(อนัตตา)
    ย่อมเหลือแต่จิตที่หลุดพ้นเหนือบุญและบาปเปรียบดังไฟที่หมดเชื้ออีกต่อไป
     
  9. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    เรื่องอนัตตาไม่รู้ รู้แต่ว่ามันมาเเล้วมันก็ไป

    ที่เคยได้ยินน่าจะเหมือน พระอาทิตย์ที่ขึ้น แล้ว ก็ตกจะไปให้มันมีสภาพอย่างนี้อย่างนั้นไม่ได้ (cry)

    เคยได้ยินครูอาจารย์ท่านหนึ่งบอก"มันเป็นเช่นนั้นเอง" yimm
     
  10. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    เข้าใจว่า "บุญหรือบาปเป็นข้อสรุปผลของการกระทำนั้นๆว่าเกิดประโยชน์แก่ตนหรือไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นหรือไม่ เป็นโทษแก่ตนเองหรือไม่ เป็นโทษแก่ผู้อื่นหรือไม่ มากน้อยเพียงใด"
     
  11. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    อนันตา เหมือน อากาศ เหมือนลม สัมผัสได้ว่ามีอยู่ แต่หาเจอหน้าตามันไม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...