ใครคือผู้ยิงศร

ไปเจอมาในเว็บนึงค่้ะ

***

ศาสนาพุทธเถรวาท พระพุทธเจ้าตรัสบอกชัดเจนว่า พวกเราเหมือนโดนลูกศรปักอก ทำให้เกิดทุกข์ ต้องหาทางรักษาตัวให้หายทุกข์ ยังไม่ต้องไปสนใจว่าใครยิงลูกศรใส่เรา รักษาตัวให้หายก่อน เรื่องอื่นค่อยไปว่ากันทีหลังเมื่อเราดับทุกข์ได้แล้ว



แต่ศาสนาพุทธมหายาน ปรมาจารย์และสาวกนิกายนี้ เป็นพวกมีความอยากรู้อยากเห็นมาก ถ้าพระพุทธเจ้าตอบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผู้ที่ยิงศรใส่เขาไม่ได้ เขาก็ไม่ร่ำเรียนเพื่อดับทุกข์กับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า จึงต้องตรัสบอกกับเขาถึงผู้ที่เป็นคนยิงศร ศาสนาพราหมณ์เขาเรียกผู้ยิงศรนั้นว่า พระเจ้า(พรหม) แต่พระพุทธเจ้าตรัสบอกกับเขาว่า ผู้ยิงศรคือ อาทิพุทธเจ้า หรือพระไวโรจนพุทธเจ้า หรือพระธรรม และพระพุทธองค์เองก็เป็นอวตารที่ออกมาจากพระธรรม หรือพระไวโรจนพุทธเจ้า



หลังจากตรัสรู้แล้ว พระพุทธองค์นั่งเสวยวิมุตติสุข 49 วัน เรื่องที่เถรวาทเล่า เป็นข้อมูลที่ไม่ครบ (มีวาระซ่อนเร้น) จึงต้องไปหาอ่านในมหายานด้วย ผมจึงพบความจริงว่า ในขณะนั้น พระพุทธองค์ท่านได้สำแดงสัมโภคกาย เป็น องค์พระมหาไวโรจนะพุทธเจ้า ทำ พุทธกิจ สอนธรรมเหล่าพุทธะโพธิสัตว์ เรื่องนี้ในพระไตรปิฎกของเรา ไม่มีการเขียนรายละเอียดเลย แต่ปิฎกมหายาน เขาจารึกอยู่ใน อวตังสกสูตร



นี่ก็คือพระพุทธเจ้าสอนทางมหายานละเอียดยิบ เรื่องอาทิพุทธเจ้า หรือพระไวโรจนพุทธเจ้า หรือพระธรรม ได้อวตารลงมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า อย่างไรก็ตาม อาทิพุทธเจ้า หรือพระไวโรจนพุทธเจ้า หรือพระธรรม ท่านจะอวตารเป็นสัมโภคกายของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่เรียกว่า "ธยานิพุทธเจ้า"ก่อน แล้วค่อยให้ธยานิพุทธเจ้าอวตารลงมาสู่ร่างมนุษย์อีกที



เมื่อมนุษย์คนใดได้บำเพ็ญบารมีถึงขั้น ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้า โดยธยานิพุทธเจ้าจะอวตารลงมา เรียก พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์ว่า "พระมานุสสีพุทธเจ้า หรือ นิรมาณกาย" เรื่องพวกนี้ต้องไปศึกษาจากปิฎกของฝ่ายมหายาน จึงจะรู้ความจริง

***

โดยสรุป พระเจ้ามีจริง และพระพุทธเจ้า ก็เป็นอวตารของพระองค์

เรียกว่า พระอาทิพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

พระเจ้าเป็นผู้ที่ยิงศร เพราะเป็นผู้ที่ให้กำเนิดเรามาให้ตกอยู่ในห้วง

ทุกข์

 

ถ้าตำราคนละอย่างเทียบกันไม่ได้

ส่วนตัวมอง ของคนละอย่างถ้าจะเปรียบเทียบ qsqu dencee

ต้องบอกว่าไม่เหมือนกัน ศรัทราความเชื่อต่างกัน

คุยกันถ้าความอดทนไม่พอ ฝ่ายหนึ่งต้องหนี

ไม่งั้นวงแตก เรื่องลูกศรตามที่เคยเรียนมา

เป็นอุปมาอุปมัย ถ้าจำไม่ผิดในครั้งพุทธกาล

พระพุทธองค์ทรงไม่ตรัสตอบในหลายคำถาม

น่าจะทรงเล็งเห็นว่าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และเสียเวลา

 

คนละความเชื่อกันอย่างสิ้นเชิง อย่างนี้คุยกันไม่ได้ตีกันตาย เพราะพื้นฐานก็ไม่เหมือนกันแล้ว
คนเรานี่ก็แปลกอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลเป็นธรรมชาติเป็นธรรมดามักไม่สนใจ แต่อะไรที่พิสดารหวือหวาน่าตื่นเต้นเป็นนิยายกับเห็นดีเห็นงามด้วย

 

เจตนาอยากสื่อถึงอะไร เพื่ออะไร

 

ในเว็ปที่ท่าน จขกท. ไปเจอมานั้น ได้อธิบายไว้ครบหมดแล้วครับ ท่านคัดลอกมาไม่ครบเองนะครับ

ปกติเวลาที่พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดสัตว์นั้น พระองค์จะเทศน์ตามอุปนิสัยของเวนัยสัตว์นั้นๆ ซึ่งถ้าใครได้ฟังธรรมจากพระองค์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในแสนโกฏิจักรวาลก็สามารถเข้าใจที่พระองค์เทศน์สอนได้ และสามารถบรรลุมรรคผลทันทีนะครับ

พระพุทธเจ้า กับพระเจ้า เป็นคนละคนกันนะครับ ในทางศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าอยู่ใต้กฏธรรมชาติ(กฏแห่งกรรม) และมีธรรมชาติเกิดขึ้นเองตามเหตุปัจจัยครับ
พระพุทธเจ้าไม่ได้อวตารจากใครครับ พระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ทรงบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศน์เต็มบริบูรณ์(เป็นเวลายาวนาน)ถึงได้อุบัติเป็นพระพุทธเจ้า
และไม่มีใครเป็นผู้ยิงศร มีแต่อยู่ภายใต้กฏของการกระทำของตัวเองนะครับ จะสุขมากรึทุกข์น้อย ก็เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น

​

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง คนชอบหาอะไรแปลกๆ ชอบค้นหาอะไรทีนอกเหนือความจริงที่แสดงอยู่เป็นธรรมดาๆต่อหน้าต่อตา....ตีความโน่น ตีความนี่ อีก 10000 ชาติก็ไม่พ้นทุกข์

 

จากที่อ่านดู รู้สึกจะเป็นการเข้าทรงมากกว่า อวตาร

คือ พระพุทธเจ้าเป็นร่างทรงของพระอาทิพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้า

องค์ปฐมที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เทพเจ้า ไม่ใช่สรรพ

สัตว์ในสังสารวัฏ

เพราะอดีตชาติของพระพุทธเจ้า ก็ต้องบำเพ็ญเพียรสร้างบารมี มานาน

กว่าจะมาถึงจุดนี้ เคยเกิดเป็นอะไรต่างๆมากมาย หากเป็นอวตารก็ไม่

น่ายากขนาดนี้ จากคัมภีร์มหายานก็บ่งบอกไว้ว่า พระพุทธเจ้าในโลก

แห่งแสงสว่างจะลงมาประทับมนุษย์ผู้มีบารมีถึงขั้น เพื่อเป็นพระมนุษี

พุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าในร่างมนุษย์

นำมาจากวิกิพีเดียนะคะ

พระอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าที่พบในคติความเชื่อของพุทธศาสนา

มหายาน โดยเชื่อว่าอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก กำเนิด

ขึ้นพร้อมกับโลก อยู่ในโลกชั่วนิรันดร์ เป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่งในโลก

และเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ประทับบนพรหมโลก

ชั้นอกนิฏฐ์ มีสถานะเสมอปรมาตมันในศาสนาฮินดู

***

เว็บนี้นับถือเถรวาทเป็นส่วนใหญ่ อาจมีคนไม่พอใจ

เพราะคำสอนของทางเถรวาท ไม่ได้พูดถึงชัดๆ เหมือนทางมหายาน

แต่ยังไงทางมหายานก็จัดว่าเป็นพุทธเหมือนกัน

พระไตรปิฎก เล่มที่ 15 ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค หน้า 150 เรื่อง อัค

คัญญสูตร

"ก็ผู้ใดแลมีศรัทธาในพระตถาคตตั้งมั่น เกิดแต่มูลราก ตั้งมั่นอย่าง มั่นคง อันสมณพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลกให้เคลื่อน ย้ายไม่ได้ ควรจะเรียกผู้นั้นว่า

เราเป็นบุตรเกิดแต่พระอุระเกิดจากพระโอษฐ์ ของพระผู้มีพระภาค เกิดจากพระธรรม พระธรรมเนรมิตขึ้น เป็น ทายาทของพระธรรมดังนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะคำว่า "ธรรมกาย" ก็ดี "พรหมกาย" ก็ดี "ธรรมภูต" ก็ดี "พรหมภูต" ก็ดีเป็นชื่อของพระตถาคต"

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙
สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค

"ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นธรรม"

พระเจ้าสูงสุดก็คือ พระธรรม

หากผู้ใดเห็นธรรม ได้ชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า ก็หมายความว่า พระ

พุทธเจ้าคือพระเจ้าสูงสุดนั่นเอง

 

แต่เท่าที่อ่านดู ข้อมูลทางเถรวาทครบถ้วน มากกว่าทางมหายานนะครับ
แต่ถ้าเล่มไหนที่เป็นมหายาน อ.เสถียรฯ แต่งก็จะอ่านรู้เรื่องหน่อย นอกนั้นอ่านแล้วเหมือนนิยายนะครับ ลองหาอ่านดูอีกทีนะครับ
ผิดพลาดประการใด อภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

จากความเชื่อ ความศรัทธา ขนาดนี้ คิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนความเชื่อต่างๆ เหล่านั้นได้ง่ายๆ
วิธีที่จะรู้คำตอบต่างๆ เหล่านั้นได้ คงต้อง รักษาศีลให้ บริสุทธิ เจริญ หิริ โอตัปปะ ให้ถึงพร้อม เพื่อที่หลังจากตายไป จะได้เกิดเป็นเทวดา ตั้งแต่ชั้นดาวดึงส์ ขึ้นไป แล้วถามปัญหาเหล่านี้ กับ พระอินทร์ ท่านน่าจะตอบได้ เพราะท่านได้ฟังธรรม จากพระพุทธเจ้า โดยตรงมาแล้ว และปัญหาเหล่านี้ ไม่น่าจะยากกว่า ปัญหาที่เหล่าเทวดาเคยสอบถามจาก พระพุทธเจ้า