นายสุมนมาลาการ ผู้ถวายดอกไม้แด่พระพุทธองค์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 8 ธันวาคม 2012.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]

    [​IMG]

    นายสุมนมาลาการ เป็นชาวเมืองราชคฤห์ เขามีหน้าที่นำดอกมะลิวันละ 8 ทะนาน
    ไปถวายพระเจ้าพิมพิสารแต่เช้าตรู่ทุกวัน ได้ทรัพย์วันละ 8 กหาปณะ

    ต่อมาเช้าวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังถือดอกไม้จะเข้าประตูเมือง
    พระพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาตพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์
    ทรงเปล่งพระรัศมีด้วยพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่
    เขาเห็นอัตภาพของพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใส พลางคิดว่า
    ถึงแม้จะถูกพระราชาเมื่อไม่ได้รับดอกไม้จะฆ่าเราหรือขับไล่เราออกจากเมืองก็ตาม
    เราก็จักบูชาพระพุทธเจ้า จึงนำดอกไม้ที่จะถวายพระราชาทั้ง 8 ทะนานบูชาพระพุทธเจ้า

    เมื่อถวายแล้วได้มีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นยิ่งนักและได้ตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปหน่อยหนึ่ง
    แล้วก็ถือกระเช้าเปล่าเดินกลับบ้านไปด้วยสีหน้าอันเอิบอิ่ม
    เมื่อถึงบ้าน นายสุมนมาลาการได้เล่าเรื่องที่ตนได้นำดอกไม้บูชาพระพุทธเจ้าให้ภรรยาฟัง
    ถูกภรรยาซึ่งเป็นหญิงไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาด่าว่าเขาว่าจักนำความพินาศมาให้ตระกูล
    และรีบนำความเข้ากราบทูลพระราชา และทูลความที่ตนไม่เห็นดีเห็นงามด้วย

    ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสาร พระองค์ทรงเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา
    เมื่อได้สดับดังนั้น ทรงทราบว่าหญิงนี้เป็นผู้ไม่มีศรัทธา จึงทรงทำเหมือนกับทรงกริ้ว
    แล้วรีบเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ถวายบังคมแล้วตามเสด็จไป

    พระพุทธเจ้าเมื่อจะทรงประกาศเกียรติคุณของนายมาลาการให้ปรากฎแก่มหาชนทั่วไป
    จึงประทับที่พระลานหลวงไม่เสด็จเข้าไปในพระราชวัง
    พระราชาได้ถวายภัตตาหารแก่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์
    ตามส่งพระพุทธเจ้าเสด็จกลับวัดเวฬุวันแล้ว จึงมีรับสั่งให้นายสุมนมาลาการเข้าเฝ้า

    เมื่อนายสุมนมาลามาเข้าเฝ้าแล้ว พระเจ้าพิมพิสารตรัสยกย่องสรรเสริญเขาว่าเป็นมหาบุรุษ
    แล้วพระราชทานสิ่งของ 8 ชนิด ได้แก่ ช้าง ม้า ทาส ทาสี เครื่องประดับ นารี อย่างละแปด
    และทรัพย์อีก 8 พันกหาปณะ และบ้านส่วยอีก 8 ตำบล

    ตกเย็นวันนั้น พระภิกษุทั้งหลายพากันสนทนาในโรงธรรม
    กล่าวถึงเรื่องการบูชาพระพุทธเจ้าของนายสุมนมาลาการแล้วได้รับของพระทาน 8 อย่างจากพระเจ้าพิมพิสาร

    พระพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสว่า

    ภิกษุทั้งหลาย บุคคลทำกรรมใดแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้เอิบอิ่ม มีความสุขใจ นั่นแหละเรียกว่า กรรมดี


    ที่มา http://www.br.ac.th/elearning/social/jitraporn/Buddhism M6/Unit8_4.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ธันวาคม 2012
  2. monsy

    monsy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +341
    ขออนุโมทนาจากจิตที่เป็นกุศลด้วยค่ะ กำลังนั่งทบทวนกุศลที่เคยทำแล้วจิตเป็นกุศลอยู่พอดีเพราะตอนนี้งานยุ่งมากและทรัพย์ก็มีจำกัด อยากไปบุญก็เลยไม่ได้ไปแต่ก็ตั้งจิตไป และก็ถือศีล8 แปดระหว่างนี้อยู่ ไม่เดือดร้อนเพื่อนร่วมงาน ไม่เดือดร้อนคนที่บ้านเป็นกุศลอันเกิดจากเราปฏิบัติแล้วก็คอยนึกถึงบุญที่เคยทำมาแผ่เมตตาไป มาอ่านเจอกระทู้ก็เลยอิ่มใจไปด้วยเลย
     
  3. jamesnuke

    jamesnuke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +224
    ขอเสริมครับ และพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์นายสุมนมาลาการว่า เธอจักไม่ไปสู่ทุคติและจักท่องเที่ยวในเทวดาและมนุษย์ตลอดเเสนกัลป์ ในที่สุดเเสนเเห่งกัลป์จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า สุมนะ...
    ความจริงนายสุมนมาลาการนั้น ได้บำเพ็ญปัจเจกภูมิมาแล้ว ๒ อสงไขยแล้ว มาเกิดในกัลป์นี้ได้เจอพระพุทธเจ้าจึงได้รับพยากรณ์ต่ออีก หลัง
    จากนั้นต้องสร้างบารมีต่อไปอีกเเสนกัลป์ จึงจะเต็มปัจเจกภูมิ ๒ อสงไขย กับอีกเเสนกัลป์ เช่นเดียวกับพระเทวทัตต์ ได้สร้างบารมีมาแล้ว
    ๒ อสงไขยเต็ม แต่เศษเเสนกัลป์ ต้องอยู่ในนรกอเวจี เหตุเพราะได้ทำกรรมอันหนักกับพระพุทธเจ้า ในอนาคตหลังสิ้นกรรมในนรกเเสนกัลป์แล้ว
    จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจพุทธเจ้า นามว่า อัฏฐิสสระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...