ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตอนนี้คือยุดสุดท้ายเริ่มแล้ว !!!
    (บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)

    [​IMG]

    [​IMG]

    ข้อความจาก โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย

    หลังจากได้มีประสบการณ์ ครั้งแรกกับพระเจ้าในปี 1997, ข้าพเจ้าได้พูดกับพระเจ้าทุกวัน และการสนทนาของพวกเรานั้น พระเจ้าได้เตือนข้าพเจ้าในความทรงจำเกี่ยวกับ เหตุการณ์การรอคอย การถูกรับไปกลางอากาศจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หมายสำคัญ เกือบทั้งหมดได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับยุคสุดท้าย ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้บันทึกไว้ ดังนั้นมีคำถามเกิดขึ้นว่า เป็นวันและ เวลาไหน ที่จะมีการถูกรับไปกลางอากาศจะมาถึง เพราะว่าแน่นอนที่สุดว่าไกล้เข้ามา จนถึงกับกำลังเคาะประตู

    พระเจ้าได้บอกข้าพเจ้าเกี่ยวกับจำนวน ของคนที่ได้ถูกรับไปในกลางอากาศ รอบแรก ซึ่งการถูกรับไปกลางอากาศ สมาชิกในโบสถ์ มีจำนวนน้อยมาก(อยู่นอกโบสถ์จะถูกรับไปมากกว่า) และพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้เรียกว่า เจ้าสาวของพระคริสต์ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ใหญ่ เพียง 800,000 คน และเด็ก(ต่ำกว่ายี่สิบ) 9,600,000 คน เมื่อรวมเปรียบเทียบ 10,400,000 คน( 800,000 + 9,600,000 = 10,400,000 ) กับจำนวนผู้คนในโลกทั้งหมดมากกว่า 6,000,000,000 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นแสดงให้เห็นว่า น้อยกว่าหนึ่งในสิบ ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

    สำหรับจำนวนประชากรที่เหลือในโลก ยังคงหลงอยู่ภายในโลก ที่ต้องเข้าสู่ 21 เดือน ของการทุกข์ยากลำบากในโลก( Great Tribulation ) ขณะที่รอคอยรอบสอง ของการถูกรับไปกลางอากาศ (จะมาถึง) ซึ่งเรียกว่าการถูกรับไปกลางอากาศกับธรรมมิกชนผู้บริสุทธิ์(ไม่มีมลทินใดๆ) 144,000 คน

    ร่วมกับ 389,600,000 คน ในพระคำไบเบิ้ล เรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก) นี้คือคนทั้งหมดที่จะถูกรับไปจากโลก ขณะมีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งที่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ หลังจากที่ มิลลิเนียม (หนึ่งพันปีได้เสร็จสิ้น ) ดังนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้สอนจากที่โบสถ์ เพราะผู้คนที่ได้เข้าสวรรค์ ท่ามกลางคนที่มีชีวิตอยู่ในระหว่างยุคสุดท้าย ประมาณ 400,000,000 จากประชากรโลกมากกว่าขณะนี้ 6,000,000,000 คน

    ผู้ที่เหลืออยู่บนโลก หลังจากไม่การถูกรับไปกลางอากาศรอบสอง กับธรรมิกชนที่ไร้มลทิน ประมาณ 2,000,000,000, หนึ่งในสามของประชากรโลก รอการฟื้นคืนชีพ จากความตายและมีชีวิตอีกครั้ง และพระเยซูคริสต์จะได้ปกครองในระหว่างหนึ่งพันปี สวรรค์บนโลกซึ่งเรียกว่า มิลลิเนียม คนเหล่านี้ เรียกจากพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า ผู้ที่วิญญาณถูกตัดหัว และพวกเขาไม่ได้เข้าสวรรค์ หลังจากหนึ่งพันปี ที่ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาจะกลายเป็นผงคลีดิน

    ในโลก ผู้คนเหล่านี้ที่ถูกตัดหัว เพราะปฎิเสธการรับ เครื่องหมายของสัตว์ร้าย (หก - หก - หก ( 666 ) ที่มือขวา และที่หน้าฝาก) ที่จะมีชีวิต และได้ร่วมเห็นการปกครองของพระเยซูคริสต์ 1,000 ปี ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาไม่ได้ปฎิเสธพระนามของพระเจ้าจึงได้ถูกฆ่า และเห็นการปรากฏของพระเยซูคริสต์ (เสด็จมากลางอากาศที่ทุกคนเห็นว่าเป็นพระเจ้า)

    และหนังสือ 3 เล่ม ที่ข้าพเจ้าได้เขียน สำหรับพระเจ้า คือกุญแจของพวกท่านที่จะไม่พลาดการถูกรับกลางอากาศ เพราะหนังสื่อสามเล่มเป็นการช่วยเหลือ ที่ท่านสามารถจะได้รับ น้ำแห่งชีวิต ซึ่งประกอบด้วยพระคำของเจ้า ซึ่งเป็นน้ำแห่งชีวิต จำเป็นสำหรับ การบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ของท่านและความรอดด้วยพระคุณ เรียกตามพระเยซูคริสต์ ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า คำสัญญาของพระบิดา

    โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย (ผู้เขียนข้อความ)

    ที่มา http://purifysoul.com

    การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ

    [​IMG]</O>

    คำบรรยายภาพ:

    ชาวจักรวาลได้มีการเตรียมการอพยพชาวโลกมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่อาจจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนในการชำระโลกเกิดขึ้น การอพยพสัตว์ต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปบ้างแล้ว เพื่อให้เสร็จสิ้นในเวลาไม่กี่ปี

    ท่านได้ถามเราใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ท่านรู้แล้วนี่ที่มีผู้เขียนไว้ว่า “ลูกไฟจะตกจากฟากฟ้า” นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนนั้น ชั้นบรรยากาศของโลกจะถูกเผาไหม้ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยเมฆสีดำของความคิดด้านลบที่พวกท่านสร้างขึ้นมา

    แกนของโลกจะถูกกลับด้าน และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจะทำให้แผ่นทวีปต่างๆเคลื่อนตัว ไฟจะเผาไหม้กระแสพลังความคิดด้านลบทั้งหลายให้หมดไป และเมื่อนั้นโลกก็จะสามารถเข้าสู่ยุกต์ของมิติที่สูงขึ้นได้

    ชาวโลกที่ถูกช่วยชีวิตจะถูกย้ายให้ไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่น ที่ถูกเตรียมไว้ แล้วเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่นั่นชาวโลกจะถูกสอน จากนั้นพวกเขาก็จะถูกพากลับลงมาอยู่บนโลกอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของพระคริสต์จะนำพาพวกเขาลงมาสู่โลกยุกต์ใหม่แห่งดาว Aquarius

    เราขออวยพรให้แก่ท่านทุกคน<O></O>
    Ashtar Sheran

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก-เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก-ของมิตรจากต่างพิภพ-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-4
     
  2. oyllie

    oyllie Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +88
    แล้วคุณไปรู้ได้ไงครับ ว่ายุคที่ีเสื่อมขนาดนี้ ใครบ้างที่ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘
    คุณก็แค่ไป Copy ข้อความอันสวยหรูจาก Google มาหักล้าง ก็แค่นั้นเองครับ

    ส่วนในเทวดา ย่อมมี พระโสดาบันและพระสกิทาคามี เป็นแน่แท้
    แต่ในโลกมนุษย์ปัจจุบัน มีแต่ สมมุติสงฆ์เท่านั้นครับ

    คำกล่าวนี้ ผมนำมาจาก หลวงปู่ประเสริฐ์ แห่งลำพญากลาง จ.สระบุรี
    ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปแล้วเมื่อ เดือน มีนาคม 2553 พระรูปนี้ไม่ใช่ธรรมดานะครับ
    ลูกศิษย์เป็นแสนๆ มีฤทธิ์มากมาย ท่านไม่โกหกพวกเราหรอกครับ

    ส่วนใครที่ยังอยากจะเขลาเบาปัญญาต่อไป ก็สุดแท้แต่ท่านเถอะครับ
    เว็บพลังจิตนี้เป็นที่รู้ๆกัน ว่าห้ามโต้แย้ง ห้ามเห็นต่าง
    พอใครเห็นต่างขึ้นมา พอเถียงสู้เค้าไม่ได้ก็ "นรกบ้างล่ะ เดี๋ยวปรามาสบ้างล่ะ"


    ผมศึกษาเรื่องนรกมามากพอควร สิ่งใดที่จะทำให้ผมไปนรก ผมไม่ทำหรอกครับ
    ก่อนผมจะโพสต์อะไรไป ผมได้ศึกษาและไตร่ตรองดีแล้วจึงโพสต์ ผมไม่ได้โพสต์เอาสนุกครับ

    พวกที่ชอบเอานรกมาอ้าง คุณลองถามตัวคุณดูว่า คุณพ้นนรกแล้วหรือยัง
    การที่คุณมาหักล้างคำกล่าวของ หลวงปู่ประเสริฐ์ ตัวคุณก็กำลังปรามาส เช่นเดียวกัน
    ผมว่าคุณนั่นแหละครับ ที่น่าเป็นห่วงมาก การไปห่วงคนอื่นโดยที่ลืมพิจารณาตนเอง
    บางครั้งก็มีสิทธิ์ไปนรก เช่นเดียวกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2012
  3. ก เกียรติ

    ก เกียรติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +1,001
    อ้างอิง {^_^}

    (ผมศึกษาเรื่องนรกมามากพอควร สิ่งใดที่จะทำให้ผมไปนรก ผมไม่ทำหรอกครับ
    ก่อนผมจะโพสต์อะไรไป ผมได้ศึกษาและไตร่ตรองดีแล้วจึงโพสต์ ผมไม่ได้โพสต์เอาสนุกครับ)

    ผมก็เช่นกันครับ ก่อนที่จะโพสต์มาที่เว็ปข้อมูลมีหลักฐานพร้อม อย่างข้อนี้

    สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่ยินดีรับเงินและทอง สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่รับเงินและทอง สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรมีแก้วมีทองอันวางเสียแล้ว ปราศจากเงินและทอง เงินและทองควรแก่ผู้ใดแม้กามคุณ (สิ่งที่น่าปรารถนา) ทั้งห้าก็ควรแก่ผู้นั้น กามคุณทั้งห้าควรแก่ผู้ใด เธอพึงจำผู้นั้นไว้โดยส่วนเดียว มีปกติไม่ใช่สมณะ มีปกติไม่ใช่สมณะเชื้อสายพระศากยบุตร


    เราจะกล่าวอย่างนี้ว่า ผู้ต้องการหญ้า พึงแสวงหาหญ้า ผู้ต้องการไม้ พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการเกวียน พึงแสวงหาเกวียน ผู้ต้องการบุรุษ พึงแสวงหามหาบุรุษ แต่เราไม่กล่าวโดยปริยายไรๆว่า สมณะพึงยินดี พึงแสวงหาเงินและทอง


    ชัดเจนมากเลยนะครับ แต่จะมีน้อยมากที่ปฏิบัติได้ตามนั้น แต่ก็มีคนแย้งว่า ถ้าพระไม่มีเงินจะอยู่ได้อย่างไร ในอดีตอยู่ได้นี่ครับ ผมเด็กๆจำได้พระโดยสารรถประจำทางไปมาตามบ้านนอกในเมืองนี่ล่ะ ไม่มีรถคันไหนเก็บค่าโดยสารเลย เพราะพระแต่ก่อนไม่มีตังค์มาก ไม่จับเงินเลยครับ จะรับก็ให้ไส่ซองให้ จะซื้อก็ส่งให้ทั้งซอง หยิบเอาทอนให้เสร็จ มาปัจจุบันยิ่งบวชนานยิ่งมีเงินเยอะ ทำไมไม่ได้บุญเยอะล่ะครับ ที่สึกก็เพราะติดพันกับสีกาต้องได้สึก ตั้งตัวได้เลยครับ

    เมื่อเป็นกันแบบนี้ล่ะวงการศาสนาเลยทำให้คนคลางแคลงใจ พระใหญ่ๆที่อื้อฉาวก็ไม่จัดการได้ เ่่ท่าที่รู้มาพระที่จะจัดการนั้นจะต้องปลงอาบัติ การปลงอาบัตินี่ล่ะเรื่องใหญ่ ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ต้องนำมาสละ แล้วจะหาพระที่ใหญ่ๆที่ไหนทำเช่นนั้นละครับ จะเอาผิดพระรูปที่เป็นปัญหาให้ได้ แต่ตัวเองหมดตัว

    ถ้าที่ผมกล่าวถ้ามามิถูกมิควร แล้วอย่าไปใส่ใจ สนใจหรือครับ ถึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และควรทำ ผมว่าน่ะ ถ้าไม่จัดการอะไรให้ถูกให้ควรต่อไปก็จะเป็นปัญหา คนพุทธส่วนใหญ่ที่อึดอัดเช่นผมนี่ละ

    (ต้องปลงอาบัติ การปลงอาบัตินี่ล่ะเรื่องใหญ่ ทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ต้องนำมาสละ) ในวงเล็บถ้าไม่ใช่ใครรู้ที่แท้จริงคือ... ตอบชี้แจงมาหน่อยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  4. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    จาก...

    - พุทธทำนาย ตีความบางส่วนกันว่าอีกไม่เกิน 6 ปีต่อจากนี้ ทั้งโลกจะมีสภาวะไม่เสถียร ผู้คนจะไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปรกติ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง

    - ส่วนหนึ่งของทำนายาจากหนังสือใบลานเก่าจากประเทศลาว น้ำทะเลจะสูงถึง 20 เมตร

    - นักวิทยาศาสต์คำนวณ ถ้าน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายหมด น้ำทะเลทั่วโลกจะสูงถึง 60-70 ฟุต และมีแนวโน้มที่จะละลายเร็วกว่าที่เคยได้คำนวณกันไว้อย่างไม่น่าเชื่อ อัลกอร์ เท่านั้นที่กล้าออกมาพูดความจริง

    - ในภาพยนตร์ 2012 อนุภาคนิวตริโน จากดวงอาทิตย์หากทะลุชั้นบรรยากาศโลกลงมาได้ จะทะลุเปลือกโลกเข้าไปทำให้ชั้นที่เชื่อมระหว่างแกนโลกกับเปลือกโลกหลอมละลาย จนทำให้โลกสูญเสียสภาพสนามแม่เหล็กไปถึง 80%

    - NASA กล่าวว่าต้องใช้เวลานับพันปีที่น้ำแข็งกรีนแลนด์จะละลายหมด และเมื่อถึงเวลานั้นคงมีมาตราการณ์ที่แก้ไขหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้

    - NASA กล่าวว่าต้องใช้เวลานับพันปีที่โลกใบนี้จะเกิดปรากฏการณ์เปลี่ยนขั้วแล้วเสร็จ ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนแต่อย่างใด

    - ชาวพื้นเมืองมายา ที่อ้างตัวว่ามีบรรพบุรุษเป็นชาวมายา กล่าวว่า ปฎิทินมายา ก็แค่เป็นการทำไว้เพื่อให้คำนวณได้เพียง 144,000 วันเท่านั้น ไม่ได้แฝงคำพยากรณ์ไว้แต่อย่างใด

    - zetatalk กล่าวว่าทางการทั่วโลกกำลังปกปิดข้อมูลบางอย่าง และพยายามปิดกั้นข้อมูลที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางเศรษกิจและสังคมของเขา โดยเฉพาะข้อมูลสุ่มเสี่ยงจากสื่อทางอินเทอร์เน็ต

    "ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระบบที่ออนไล์สู่ภายนอก จะหันไปใช้มาตรฐานวีหกแทนวีสี่ทั้งหมด โดยอ้างว่าเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนไอพีแอดเดส และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดก็จะสามารถมีไอพีแอดเดสเป็นของใครของมันได้"

    "นับวันก็ยิ่งใกล้วันที่คิดว่าใช่ แต่ก็ยังไม่มีเหตุการณ์ที่ควรค่าแก่การทำให้มนุษย์โลกต้องหันมามองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่นใจแต่อย่างใด มนุษย์ผู้น่าสงสารยังคงห้ำหั่นทะเลาะเบาะแว้งกันเองอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยุติ หรือคำทำนายต่างๆที่บังเอิญสอดคล้องกันอย่างน่าตกใจจากแหล่งที่มาต่างที่ต่างเวลานั้น ถูกตีความมาอย่างผิดๆจนกลายเป็นเพียงจินตนาการของผู้สืบทอดต่อๆกันมาเท่านั้น ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนาก็ตาม..."


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • FloodMap20m.jpg
      FloodMap20m.jpg
      ขนาดไฟล์:
      254.6 KB
      เปิดดู:
      996
  5. darakul

    darakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +364
    ห้องนี้เป็นห้องภัยพิบัตินะครับทุกท่าน เรื่องที่มีข้อโต้แย้งที่ไม่เกี่ยวกับภัยพิบัติไปเปิดกระทู้ใหม่กันน่าจะดีกว่านะครับ
     
  6. koh55559

    koh55559 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +542
    หลวงปู่ท่านมรณะภาพแล้วหรอครับ ผมไม่ได้ไปที่สำนักสงฆ์
    ของท่านหลายปีว่าจะไปกราบท่านปีหน้า ใจหายจัง แล้ว
    ใครดูแลที่สำนักสงฆ์ครับยังไปได้ไหมครับ
     
  7. รักษล้านนา

    รักษล้านนา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +44
    อริยสงฆ์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่..ที่หลวงตามหาบัว...กล่าวว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก..

    อริยสงฆ์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่..ที่หลวงตามหาบัว...กล่าวว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก..

    เรียบเรียงโดย แดนโลกธาตุ
    พระอริยสงฆ์ที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (พระอรหันต์แห่งประวัติชาติไทยองค์ปัจจุบัน แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ) ได้กล่าวถึงว่าท่านเหล่านี้ได้ปฏิบัติธรรมจนสามารถทำจิตให้บริสุทธิ์, และหมดแห่งกิจที่ควรทำแล้ว ก็จะมีครูบาอาจารย์ต่างๆในสายพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมากมาย ที่ท่านหลวงตามหาบัวได้กล่าวถึงประจำ แต่ในบางครั้งท่านเหล่านั้นจะไม่พูดว่าได้ขั้นไหน ๆ แล้วเพราะท่านอาจจะมองเห็นปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น คนมารุมตอม.ไม่เว้นแต่ละวันทำให้ท่านไม่ได้พักผ่อน
    ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ในวันนั้นที่ข้าพเจ้าถามพระเถระพระป่า (ไม่ขอเอ่ยนามท่าน) ข้าพเจ้าถามว่า.....ดังนี้
    ..หลวงปู่เป็นพระอรหันต์หรอครับ....ท่านก็จะตอบว่า..........ดูเอานี่ไงหันซ้ายหันขวา..
    แล้วท่านก็.....จะทำท่าหันไปข้างซ้าย...หันไปข้างขวาให้เราดู...
    คนถามก็จะอดหัวเราะไปกับท่านไม่ได้ครับ........
    แล้วท่านก็เมตตาบอกว่า....ไม่สำคัญที่จะไปถามว่าพระรูปไหนสำเร็จอะไร เราจะไปกังวลถามทำไม....เราปฏิบัติเองเรารู้เอง..ไม่ต้องถามคนอื่น...ทิ้งท้ายท่านเมตตาบอกว่า
    แต่บุญที่ทำกับพระอรหันต์ผู้หมดกิเลสนั้นได้กุศลมากเลยทีเดียวนะ....
    เหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนได้รับฟังมาจากหูโดยตรง....จากพระธรรมเทศฯองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    ท่านได้รับรองว่าท่านนั้น ท่านนี้เป็นพระอริยบุคคลหมดกิเลส หลายรูปครับ
    ผู้เขียนจึงอดที่จะเอาเอาเทศนาของหลวงตามหาบัว นั้น มาให้ผู้อ่านรู้ด้วยไม่ได้ครับ ดังนี้ครับ........
    "พระหมดกิเลสในสายหลวงปู่มั่น นี้ก็ไม่ใช่น้อย แต่ท่านไม่เปล่งบอกใครเพราะเกี่ยวกับอรรถกับธรรมเห็นธรรมดีเลิศกว่า แต่ที่เราบอกเราก็ไม่ได้อวดอุตริ ใดๆ ทั้งสิ้น จริงคือจริงไม่มีปิดบัง ไม่สงสัยในธรรม ใครจะเอาตำราไหนมาอ้าง ก็ให้มันเอามาได้เลย ที่วัดป่าบ้านตาด เราไม่สะทกสะเทือน จะชี้แจงแถลงไขให้เข้าใจเอง เอ้าเชิญมา....."
    ที่ได้ฟังท่านเปรย ๆ มาก็พอจับใจความมาว่าท่านไหนได้แล้ว...เสียดายที่ไม่ได้อัดเทปไว้ครับ....

    และนี่ก็คือท่านเปรยว่าล้วนแล้วแต่เป็นพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญของโลกเลยทีเดียว

    ท่านบอกว่า
    1. ท่านอาจารย์เจี๊ยะ จุนโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าภูริทัตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    2. หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    3. หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพลพัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี

    4. หลวงปู่ขาล ฐานวโร (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านเหล่า อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย

    5. พระอาจารย์แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร

    6. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดคีรีสุบรรพต จ.ลำปาง

    7. อาจารย์เหรียญ วรลาโภ (มรณภาพแล้วยังไม่ประชุมเพลิง) วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    8. อาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย (มรณภาพแล้วยังไม่ประชุมเพลิง) วัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

    9. หลวงปู่หลอด ประโมทิโต วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

    10. หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ (หลังศาลภูเก็ต ) อ.เมือง จ.ภูเก็ต

    11. หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    12. หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

    13. พระอาจารย์สายทอง เตชธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม (ใกล้เขื่อนจุฬาภรณ์ ) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

    14. หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าประทีปปุญญาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

    15. พระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    16. พระอาจารย์เลี่ยม ฐิตธัมโม วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

    17. หลวงปู่ทา จารุธัมโม วัดถ้ำซับมืด จ.นครราชสีมา (มรณภาพแล้ว)

    18. พระอาจารย์เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    19. อาจารย์สาย เขมธัมโม วัดป่าพรหมวิหาร อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

    20. อาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    21. หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล เขตพระโขนง จ.กรุงเทพมหานคร

    22. อาจารย์พวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร

    23. หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

    24. หลวงตาแตงอ่อน กัลป์ยาณธัมโม วัดป่าโชคไพศาล อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

    25. หลวงปู่บุญหนา ธัมทินโน วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    26. หลวงปุ่บุญพิน กตปุญโญ วัดผาเทพนิมิตร อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร

    27. หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดเหสลึก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    28. หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    29. หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี

    30. หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป วัดโพธิ์สมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

    31. พระอาจารย์ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน อ.เมือง จ.เลย

    32. พระอาจารย์อุ่นหล้า ฐิตธัมโม วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    33. พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    34. พระอาจารย์อุทัย สิรินธโร วัดถ้ำพระ อ.เซกา จ.หนองคาย

    35. หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต สำนักสงฆ์สวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

    36. พระอาจรย์วิไล เขมิโย วัดถ้ำพณาช้างเผือก อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

    37. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูล จ.พิจิตร

    38. อาจารย์อ่ำ ธัมกาโม วัดธุดงคสถานสันติวรญาณ อ.วังโป่ง จ.เพรชบูรณ์

    39. หลวงปู่ถวิล จ.อุดรธานี (ไม่ทราบที่อยู่และฉายาท่าน)

    40. อาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี

    41. อาจารย์วันชัย วิจิตโต วัดภูสังโฆ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    42. หลวงปู่มี (เกล้า) ประมุตโต วัดดอยเทพนิมิตร (วัดถ้ำเกีย ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    43. อาจารย์เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    44. อาจารย์คำแพง อัตสันโต วัดป่าหนองวัวซอ (วัดบุญญานุสรณ์ ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    45. พระอาจารย์ปัญญาวัฒโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    46. หลวงปู่มี (เกล้า) ประมุตโต วัดดอยเทพนิมิตร (วัดถ้ำเกีย ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    47. อาจารย์เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    48. อาจารย์คำแพง อัตสันโต วัดป่าหนองวัวซอ (วัดบุญญานุสรณ์ ) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    49. พระอาจารย์ปัญญาวัฒโท (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    50. ท่านฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมญาณ ) (ท่านมรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    (หลวงปู่สิม เคยปรารภให้อาจารย์มหาบัวฟัง)

    51. หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก จ.สุพรรณบุรี

    52. หลวงปู่วัดพระพุทธบาทตากผ้า (อันนี้หนังสือไม่ชัดครับเล่มนี้เก่ามากครับ )

    53. พระอาจารย์มหาโส กัสโป วัดป่าคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    54. หลวงปู่คำฟอง เขมจาโร (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดกุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

    55. หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม (วัดป่าช้าเหล่างา) อ.เมือง จ.ขอนแก่น

    56. หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วะดงคสถาน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์

    57. คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) สำนักชีบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    58. พระอาจารย์ทุย (ปรีดา) ฉันทกโร วัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย

    59. พระอาจารย์สรวง สิริปุญโญ วัดป่าศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

    60. พระอาจารย์สาคร ธัมวุธโธ วัดป่ามณีกาญจ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    61. พระอาจารย์จันทร์โสม กิตติกาโม วัดป่านาสีดา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (มรณภาพแล้ว)

    62. พระอาจารย์แยง สุขกาโม วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย

    63. หลวงปู่แฟ็บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร

    64. พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิตร อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    65. หลวงปู่ผาง โกสโล วัดภูหินแตก อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    66. หลวงปู่หล้า เขมปัตโต (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดบนนพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร

    67. ท่านพระอาจารย์สิงทอง ธัมวโร(มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ)วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    68. หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำประทุน ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    69. หลวงปู่ต้น สุทธิกาโม วัดบึงพลาราม ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

    70. หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต วัดบูรพาราม ( วัดหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์

    71. หลวงปู่ทอง จันทสิริ วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

    72. หลวงปู่ทองใบ ปภสฺสโร สำนักวิปัสสนาธุระ (ภูย่าอู่) บ.นาหลวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    73. หลวงปู่คูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    74. พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโมวัดพิชัยพัฒนาราม ( วัดป่าเขาน้อยสามผาน ) ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

    75. หลวงปู่สุทัศน์ โกสโล วัดกระโจมทอง ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    76. หลวงปู่อ้ม สุขกาโม วัดภูผาผึ้ง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

    77. ท่านพระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร

    78. ท่านพระอาจารย์หลอ นาถกโรวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม(วัดถ้ำพวง วัดพระอาจารย์วัน อุตโม) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

    79. หลวงพ่อทองคำ กาญวันวัณโณ วัดถ้ำบูชา อ.เซกา จ.หนองคาย

    80. หลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ) วัดทิพยรัฐนิมิตร (วัดป่าบ้านจิก) อ.เมือง จ.อุดรธานี

    81. พระอาจารย์ทองอินทร์ กตปุญฺโญ วัดป่ากุง (วัดป่าประชาคมวนาราม ) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

    82. หลวงปู่เผย วิริโย วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ จ.เลย

    83. หลวงปู่คำพอง ขันติโก วัดป่าอัมพวัน จ.เลย

    84. หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตร อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร

    85. ท่านพระอาจารย์วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย

    86. พระอาจารย์บุญทัน ปุญทัตโต (ท่านเพิ่งจะมรณภาพ เดือน ธค.49 ) วัดป่าสามัคคีสันติธรรม อ.ฝาง จ.ขอนแก่น

    87. หลวงปู่พิศดู ธรรมจารีย์ วัดเทพธารทอง ต.พลวง กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

    88. หลวงปู่เนย สมจิตฺโต วัดป่าโนนแสนคำ บ.ทุ่งคำ ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร

    89. หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    90. ท่านพระอาจารย์อุทัย ธมฺมวโร วัดภูย่าอู่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

    91. หลวงปู่ประสาร สุมโน วัดป่าหนองไคร้ ต.หนองหิน อ.เมือง จ.ยโสธร

    ท่านเหล่านี้ หลวงตามหาบัว รับรองไว้แล้วครับ ใครใกล้ที่ใดก็สามารถไปเข้าหาได้

    http://www.baanmaha.com/community/thread20779.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  8. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ในรายชื่อทั้ง 91 รายชื่อนี้
    มีอยู่ 3 องค์ที่เราเคยไปกราบ ตอนที่ท่านยังไม่ละสังขาร
    ปัจจุบันละสังขารไปแล้ว 2 องค์
    ในจำนวนนั้น มีอยู่ 1 องค์ ที่เคยช่วยชีวิตเราเอาไว้

    เราโชคดี ที่ได้อัฐของท่าน องค์ที่เคยช่วยฃีวิตเราเอาไว้

    ปัจจุบันกลายเป็นพระธาตุแก้วใสไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  9. ตั่วเฮีย

    ตั่วเฮีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +259
    ของจริงมีครับ.. เพียงแต่มันจะปะปนกัน ต้องศึกษาต้องปฏิบัติแล้ววาสนาจะนำพาให้ไปรู้จักหรือได้ใกล้ชิดครับ อย่าพึ่งไปตีขลุมเหมารวมหมด จะเป็นการปรามาสและผูกเวร แก่ตนเองครับ
     
  10. Prompiriya

    Prompiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,081
    สรุป มุนษย์เราเกิดมาก็แค่นี้แหละ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ขิ้นอยู่ว่าเกิดมาแล้วจะทำดีหรือชั่วก็อยุ่ที่ใจและจิตของคนทุกคนในโลกนี้ ทุกอย่างมนุษย์สร้างขึ้นมาทั้งนั้นตั้งแต่สมัยยุคดึกดำบรรพ์แล้ว โลกมันไม่แตกหรอกครับ แต่ทั่วโลกมันมีภัยธรรมชาติหมดนั่นแหละครับ อย่าคิดมากอะไรเกิดมันก็ต้องเกิด ทำไมพวกสร้างภาพยนตร์เขาถึงรู้ก็เพราะใช้คำว่าจินตนาการของวงการภาพยนตร์มาออกมาเป็นสื่อให้คนทั้งโลกดู ผมว่าอยู่ที่ตัวเราเองนะครับว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อครับ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทำไมจึงมองเห็นอนาคตของโลกไม่เหมือนกัน ?

    [​IMG]

    interpoo สมาชิก

    ไม่ยักกะเห็นแบบที่พระอาจารย์รัตน์บอก... แต่เห็นว่า ทางยุโรปทางเอเซีย จะมีหิมะถล่มปลายเดือนถึงต้นปี... มีแผ่นดินไหวใหญ่และสึนามิ จาก นิวซีแลนด์ถึงอินโด... บ้านเราแล้งจัดเดือน ก.พ.... แต่น้ำท่วมเดือน ก.ค. อะไรประมาณนี้ ปูเห็นไม่ร้ายแรงแบบที่พระอาจารย์บอกอะคะ... แหะๆ... ญาณปูน้อยนิด... เห็นได้แค่นี้ละคะ

    10-12-2012, 09:11 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/พระอาจ...งเตือน-ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้.396467/

    หมายเหตุ

    ทำไมจึงมองเห็นอนาคตไม่เหมือนกัน?

    คำถามนี้น่าสนใจครับ ผมขออนุญาตวิเคราะห์ตามความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ จะถูกหรือผิดอย่างไรก็ต้องขออภัย ท่านผู้ให้ข้อมูลเรื่องภัยพิบัติด้วยครับ คือผมคิดว่า กำลังของทิพยจักษุญาณนั้นมีหลายระดับดังนี้ครับ

    อภิญญามีสภาพไม่เหมือนกัน โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    เรื่องของอภิญญา คนส่วนใหญ่เมื่อฟังว่าอภิญญาแล้วก็มักจะคิดว่า ท่านที่ได้อภิญญาจะต้องมีความรู้แจ่มใสเหมือนพระพุทธเจ้าเสียทุกอย่าง เป็นการเข้าใจผิดถนัด พระพุทธเจ้าทรงเป็นสัพพัญญูคือมีบารมีเป็นจอมอรหันต์ ย่อมทรงอภิญญาดีเลิศพิเศษ สำหรับพระสาวกที่ได้มีกำลังไม่เท่ากัน และไม่มีทางจะไปเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้าได้เลย จะเปรียบให้ฟังเอาเพียงทิพจักษุญาณอย่างเดียว อย่างอื่นให้เข้าใจว่าเหมือนกัน

    ๑. ทิพยจักษุญาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความสว่างคล้ายพระอาทิตย์ส่งแสงจัด ไม่มีเมฆบัง ไม่มีเผลอ ไม่มีพลาดในการเห็น

    ๒. ของพระปัจเจกพุทธเจ้า มีความสว่างเหมือนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง มองเห็นคนกลางคืนเมื่อเดือนหงายมีสภาพอย่างไร ต่างกับกลางวันอย่างไร พิสูจน์เอาเอง

    ๓. พระอัครสาวกทั้งสอง มีความสว่างเหมือนคบเพลิงดวงใหญ่สว่าง แต่แสงสว่างไม่ไกลเหมือนความสว่างของดวงจันทร์

    ๔. ของพระอรหันต์สาวก สว่างเหมือนแสงตะเกียงดวงน้อย

    ๕. ของท่านที่ได้ฌานโลกีย์ สว่างเหมือนอากาศเมื่อพระอาทิตย์ลับแล้ว กำลังมัวตามองดูอะไรก็ไม่เห็นถนัดนัก

    ข้อเปรียบนี้ยังไม่ละเอียดพอ แต่เกรงว่าลูกหลานจะเบื่อฟัง เอามาเปรียบเทียบเพียงย่อ ๆ ท่านที่ได้ฌานและอภิญญาไม่ใช่รู้อะไรหมด ยิ่งเป็นฌานโลกีย์ด้วยแล้วยิ่งมีจังหวะพลาดง่ายเหลือเกิน เพราะมีอุปาทานมาก ต้องระวังให้มาก ถ้าไม่ประมาทคิดว่าตัวดีไม่เป็นไร ถ้าประมาทเมื่อไรเจ๊งเมื่อนั้น สำหรับพระอริยะท่านรู้ว่าท่านไม่ดีเสมอ ไม่มีความประมาทเรื่องเจ๊งไม่มี

    ทีนี้เรามาพูดกันเรื่องที่เล่ามาแล้ว ที่ฉันบอกเห็นอะไร ไปไหน คิดอะไร แล้วหลวงพ่อปานรู้เรื่องที่บอกมา ไม่ใช่ฉันอวดตัวฉัน ที่บอกก็เพื่อให้ทราบว่าหลวงพ่อปานท่านรู้อภิญญา ที่เราเรียกว่าทิพยจักษุญาณ แต่ที่แท้แล้วญาณต่าง ๆ ของอภิญญามีชื่อหลายอย่าง จะนำมาเล่าให้ฟัง

    ทีมา อภิญญามีสภาพไม่เหมือนกัน จาก คำสอน พระราชพรหมยาน

    จากคำอธิบายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่องทิพยจักษุญาณมีกำลังไม่เสมอกันดังนี้ เราก็จะได้คำตอบแล้วว่าทำไมจึงมองเห็นอนาคตไม่เหมือนกัน เปรียบเหมือนตู้เก็บเอกสารที่มี 5 ลิ้นชัก ที่เก็บข้อมูลเรื่องราวอนาคตของโลกเอาไว้ทั้งหมด แต่ผู้ที่มีทิพยจักษุญาณระดับฌานโลกีย์ เช่นนอสตราดามุส และคุณ interpoo ก็จะรู้เห็นได้แค่ลิ้นชักที่ 1- 3 เท่านั้น

    แต่การรู้เห็นอนาคตของพระอาจารย์รัตน์ เป็นการรู้เห็นระดับพระอรหันต์สาวก คือการดูจากเหตุไปหาผล ว่าเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้จะมีผลอย่างไรต่อไปในอนาคต ด้วยญาณทัศนะอันบริสุทธิ์ของท่านเอง จึงสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ลิ้นชักที่ 1-5 รู้เหตุรู้ผลที่มาที่ไป ได้อย่างแจ่มแจ้งไปตลอดทั้งหมดไม่มีติดขัด

    ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมคิดว่า ทั้งนอสตราดามุสและคุณ interpoo มองเห็นอนาคตของโลกได้แค่ในมิติที่ 1-3 เท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นอนาคตของโลกในมิติที่ 4-5 ได้ ดังนี้เมื่อโลกถูกปรับเปลี่ยนเข้าสู่มิติที่ 4 ในวันที่ 21-12-2012 แล้ว จึงทำให้เหตุการณ์ในอนาคตของโลก ถูกปรับเปลี่ยนไปด้วยดังคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสุกล ดังนี้ครับ

    อนาคตของโลกได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากคำทำนายเดิม !!!

    สำหรับมนุษย์ที่กำลังหวั่นกลัว ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามคำพยากรณ์ในยุคพลังงานเก่า จงรับรู้ไว้ด้วยว่า โรงเรียนโลกใบนี้มิได้โดดเดี่ยว โดยปราศจากผู้ดูแลอย่างการคิดแบบจิตมนุษย์เลย จิตจักรวาลและรูปธรรมชั้นสูงในมิติคู่ขนาน จะไม่มีวันปล่อยให้ผู้มีจิตวิญญาณอธรรม กระทำการเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขากำลังจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะถูกชำระในอีกไม่นาน ด้วยมหันตภัยธรรมชาติที่พวกเขาคาดไม่ถึง ซึ่งอำนาจที่เขามีอยู่จะไม่วันเอาชนะพลังอำนาจ แห่งธรรมะที่เป็นพลังงานด้านบวกได้

    บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จักรวาลจำเป็นจะต้องปิดมิติ ด้วยการชำระจิตวิญญาณของพวกเขาอีกครั้ง เนื่องจากจักรวาลหยั่งรู้อนาคตได้ว่า บทสรุปของมันคืออะไร ถ้าไม่ใช่มหันตภัยของมนุษย์ทั้งโลกและจักรวาลอื่น จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ ด้วยความรักแท้จริงต่อมวลมนุษยชาติ ภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่าแน่นอน

    นับจากโลกเปลี่ยนสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสมันจะไม่เป็นจริง ไม่แม่นยำอีกต่อไป เนื่องจากมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ทุกคน จะถูกเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่แตกต่างไปจากเดิม จักรวาลยืนยันว่า สงครามอันเลวร้ายที่จะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และทำลายโลก มันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว ภัยธรรมชาติที่จะทำให้โลกแตกดับ มันก็จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นดั่งคำทำนายของใครอีกต่อไปเช่นกัน

    ขณะที่สื่อคลื่นความคิดรู้ เป็นผลึกคิดรู้อยู่ในขณะนี้ มนุษย์โลกพึงรู้ว่าความเป็นไปทุกอย่างในระบบโลก ได้รับการควบคุมดูแลโดยรูปธรรมนับแสนตนในจักรวาลเรียบร้อยแล้ว

    ที่มา:- คัดลอกบางส่วนจาก :: หนังสือวันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายะโลก ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL MBA .,M.S.
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปลอดภัยไว้ก่อน..อย่าประมาทและชะล่าใจ !!!

    [​IMG]

    k_97 สมาชิก

    10 ธ.ค. 55 น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย

    9 ธ.ค. 55 นิมิตเช้านี้ ตัวเองลงจากรถที่จะไปเชียงคานเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ เมื่อเข้าเสร็จก็ออกมาซื้อหนังสือพิมพ์ ในใจคิดว่ารถยังคงไม่ออกและเบาใจว่ายังมีคนในครอบครัวอยู่บนรถอีกสองคน จึงไม่รีบกลับมาที่รถ เมื่อมาถึงรถ รถก็ออกไปแล้ว

    ภาพนี้ จะสื่อถึงว่าอย่าประมาทและชะล่าใจ แม้ว่าคิดว่ากำลังจะหนีแต่ไม่กระตือรือล้นก็จะไม่ได้ไป

    จะหนี อย่าชะล่า พาใจ
    ต้องไว ให้พ้น มือมาร
    ภัยมา จะไม่ รอนราน
    งุ่นง่าน ชักช้า อดไป

    ตามทาง มีสิ่ง พิงขวาง
    เหนี่ยวรั้ง เดินทาง ลำบาก
    ออกก่อน ถึงก่อน เพื่อนยาก
    ลำบาก ตอนต้น ปลายสบาย

    ผมเองก็จะขยับขึ้นไปรองรับแนวร่วมที่จะตามไปในเร็ววันนี้ เพื่อที่จะไปจัดการเรื่องน้ำและไฟคอยเอาไว้

    เคอิสรา

    11 ธ.ค. 55 แจ้งแนวร่วม

    ขอให้แนวร่วมทุกคนขึ้นก่อนวันที่ 21 ธ.ค. นี้ หลังจากนั้นบางทีร่างกายจะขาดการทรงตัวแล้วจะหนีไม่ได้ ไปพบกันที่ฐานเลย ก่อนขึ้นจะเมล์เบอร์โทรฯติดต่อให้ทราบทั่วกัน

    เวลา ใกล้หมด อดทำ
    น้อมนำ บัญชา พาหนี
    เร่งรีบ เข้าเถิด น้องพี่
    ชีวี เกิดยาก จากไป

    มหาประชาบดี ๙๗

    ที่มา http://palungjit.org/threads/แจ้งเตือน-โดย-k-97-a.324655/page-93
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2012
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมเห็นแต่ภาพ แต่ไม่ทราบสาเหตุ !!!

    [​IMG]

    Dream_Seer สมาชิก

    สวัสดีครับ

    นึกว่าผมแปลกอยู่คนเดียว พึ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกครับ ปกติผมเป็นคนปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิวิปัสสนา เคยได้ยินกระแสวันสิ้นโลก มาตั้งแต่ ปี 2000

    ในตอนนั้น ผมได้มีโอกาสไปถามครูบาอาจารย์ ว่า โลกมันแตกในปี 2000 หรือไม่ ท่านก็ตอบว่า ยังหรอก แต่ภัยธรรมชาติมันจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย และ อีกประมาณ 10-13 ปี ท่านก็บอกว่าประเทศไทยเราจะประสบกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงมาก และ จะมีคนตายมาก ผมก็ถามต่อว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ท่านก็บอกว่าให้เร่งปฏิบัติธรรม ถึงเวลาถ้าเราจะรอด กรรมจะกำหนดให้เรารอด แต่ถ้าเราต้องตายก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย และ ผลกรรมที่เราทำมาในอดีต ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล ให้เร่งปฏิบัติธรรมชำระจิตใจ ฝึกสติ วิปัสสนา

    โดยปกติก่อนเข้านอนทุกครั้ง ผมจะนอนดูลมหายใจ จนกระทั้งหลับไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เห็นภาพในฝันเป็นเรื่องหลัก 4 ภาพครับ จึงอยากจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ทุกคนที่นี้

    1) ผมเห็นโลกจากอวกาศ ผมเห็นภาพประเทศไทย ช่วงภาคกลาง บริเวณที่เป็นที่ราบลุ่มรูป "ก" โดนน้ำทะเลท่วมเข้ามาหมด น่าจะไปสุดอยู่แถวๆ ลพบุรี และ สระบุรี ในส่วนของเมืองริมชายฝั่งของประเทศไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน โดนน้ำทะเลท่วมไปหมด ปรากฎเป็นภูมิประเทศแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สงขลา ชลบุรี ภูเก็ต สตูล ปัตตานี นราธิวาส เป็นต้น ในขณะที่ต่างประเทศนั้น ผมเห็น ไต้หวันและญี่ปุ่น เหลือแต่เกาะเล็กๆ ในทะเลเท่านั้น ส่วนชายฝั่งของจีนน้ำก็ท่วมเข้าไปลึกพอสมควร

    ปล. ผมเห็นแต่ภาพ แต่ไม่ทราบสาเหตุ

    2) ผมเห็นภาพของทหารสองกลุ่ม ยิงต่อสู้กันกลางกรุงเทพ และคนในกรุงเทพก็พยายามอพยพออกจากกรุงเทพเพราะเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว

    3) ในเวลาไล่เลี่ยกันจากเหตุการณ์ในข้อ 2 ผมได้ยินเสียงประกาศจากวิทยุ ว่ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในประเทศไทย และ บ้านเรือนที่อยู่ตามริมแม่น้ำสำคัญๆ ของไทยถูกน้ำท่วมกวาดหายไปหมด

    4) ผมเห็นภาพของตัวเอง และผู้คนที่เดินบนท้องถนน สูญเสียการทรงตัว ไม่สามารถเดินเหมือนปกติ ผมมีอาการเหมือนตกหลุมอากาศ และหลังจากนั้นก็รู้สึกตัวเองมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ความรู้สึกตรงนั้นจะเหมือนกับเวลาเราขึ้นรถเมล์ แล้วรถเมล์ขับเร็วมาก พอถึงสี่แยกไฟแดงแล้วมันหยุด ตัวเราเหมือนจะปลิวออกไป แล้วตกลงมาด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น

    ส่วนตัวแล้วผมยังคิดว่าเมืองไทย ยังมีพระอริย มีพระโพธิสัตว์ที่มาจุติเพื่อบำเพ็ญบุญบารมีอยู่เยอะแยะ แต่ละองค์ แต่ละท่าน ก็ทิ้งขันธ์เพื่อให้พลังบุญของท่าน บรรเทาเหตุการณ์ร้ายๆ ในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา ปีที่แล้ว องค์หลวงตามหาบัวและสมเด็จวัดชนะ ท่านก็ทิ้งขันธ์ของท่าน ประเทศไทยเรายังมี หลวงพ่อคูณ มีสมเด็จพระสังฆราช และยังมีพ่อหลวงของเรา ผมก็หวังว่าบารมีของพวกท่านเหล่านั้นจะปกปักษ์รักษาประเทศไทย ให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย

    ขอให้ทุกท่านในเว็บพลังจิต จนเตรียมตนอยู่ด้วยความไม่ประมาท ประกอบกุศลกรรมเป็นนิจ อย่าได้กังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดเดาของทุกท่านทั้งสิ้น แต่ปัจจัยของการเกิดนั้นมีตัวแปรมากมาย ดังนั้นการทำนายทายทักในเรื่องของวันเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น มีการเปลี่ยนแปลงเสมอครับ ผมบอกทุกท่านได้เลย

    ด้วยเหตุนี้คำทำนายต่างๆ ที่ได้มีการเผยแพร่ออกมานั้น แต่ละคนก็จะเห็นตามญาณทัศนะที่แตกต่างกัน เหมือนตาบอดคลำช้าง แต่สุดท้าย มันก็คือช้างนั้นเองครับ แต่อาจจะเห็นในมุมที่ต่างกันออกไป แต่เมื่อนำคำทำนายต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน ประเด็นก็จะเป็นประเด็นเดียวกัน ดังนั้นอย่าได้หัวเราะหรือดูถูกคำทำนายเหล่านั้น

    11-12-2012, 02:33 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สรุป-ง...17-ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี.384056/page-8
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2012
  14. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    11 ธ.ค. 55

    ภาพที่เห็นน่าจะเป็นทหารย่อเข่ากำลังประทับปืนเล็งไปยังเป้าหมาย

    เมื่อครู่ ได้คุยกับญาติธรรมสายฮ่มภะพอจับใจความได้ว่า ภัยของคนน่าจะมาก่อน ส่วนข้างบนเขายังต่อรองกันอยู่ว่าจะเลื่อนอีกไหม? ใจผมว่ายากครับเที่ยวนี้

    เคอิสรา
     
  15. Prompiriya

    Prompiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,081
    พรุ่งนี้ 12-12-12 ----------3 แดน โลกธาตู เปิดแล้ว ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ต่อนรับกันหน่อยนะครับ วันนี้ 16.00 น ร้อนผิดปกติครับ
     
  16. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    เมื่อวานนี้, 06:26 PM #4
    ติงติง
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต




    วันที่สมัคร: Mar 2009
    สถานที่: โลกมนุษย์
    ข้อความ: 24,005
    Groans: 4
    Groaned at 23 Times in 23 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 29,396
    ได้รับอนุโมทนา 52,330 ครั้ง ใน 13,968 โพส
    พลังการให้คะแนน: 12517
    วันที่ ๑๒/๑๒/๒๐๑๒
    น่าจะมีผลคือจำได้ว่าเป็นวันที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า
    ทานข้าวกันอย่างมีความสุข
    __________________
    หิริโอตฺตปฺ ปิยญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ


    สมาชิก 7 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ติงติง ในข้อความที่เขียนด้านบน
    AYACOOSHA (วันนี้), KSG 427 (เมื่อวานนี้), kwansao (เมื่อวานนี้), psri (เมื่อวานนี้), นพณัฐ (เมื่อวานนี้), มณีเมขลา20 (วันนี้), สายฝนฉ่ำเย็น (เมื่อวานนี้)
    [ อานิสงค์การอนุโมทนา ]


    ติงติง
    ดูรายละเอียดของ
    ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ ติงติง
    ติงติง Donation Stats
    View ติงติง's Videos

    เมื่อวานนี้, 06:30 PM
     
  17. naichain

    naichain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +314
    ผมอ่านดูแล้วจะเริ่มไรัสาระมากขึ้นแล้ว ผมจึงขอให้ผู้แสดงความคิดเห็นของท่านให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านวิชาการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงด้วยแทนที่ความเดาของตัวเองเพื่อ เพื่อนๆๆในเว็ปได้อ่านจะได้มีข้อมูลที่ชัดเจนและแม่นยำครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จริงหรือที่จะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในปี 2556 !!!

    [​IMG]

    ตามที่มีผู้สอบถามมาที่ข้าพเจ้าจำนวนมากว่า จริงหรือในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน – จะเกิดหายนะครั้งใหญ่บนโลกใบนี้นั้น

    ข้าพเจ้าขออนุญาตเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ข้าพเจ้าได้ทราบมาจากพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ (มิใช่ข้อมูลในพระพุทธศาสนา) และ ท่านทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ หรือ ถอดกายละเอียดออกจากกายหยาบได้ โดยไปรับรู้เรื่องของอดีต และ ไปรับทราบเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยท่านให้ลูกศิษย์ที่มีคุณวิเศษทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลาน ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกันว่า

    “ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมจะล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปเรียน ไปอบรม ไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้ แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้ หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจาก จะถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับร่างของทุกชีวิตบนโลก ไม่ให้ทรงตัวยืนได้ ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”

    เรื่องดังกล่าว ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ท่านกล่าวอย่างขึงขังจริงจังในการสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ศิษย์รุ่นสุดท้าย เมื่อวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ซึ่งข้าพเจ้าก็เป็น 1 ใน 150 คนของศิษย์รุ่นสุดท้ายของพระอาจารย์รัตน์ฯ ในยุคของพลังงานเก่า ยุคที่กระแสแม่เหล็กขั้วลบ ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และ กระแสไฟฟ้าลบ จากกาแล็คซี่อัลโดรมีด้า มีอิทธิพลสูงบนสรรพสิ่งในโลกมนุษย์ โดยข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมากับหูของตนเอง อีกทั้งท่านให้ผู้มีพลังฌานสำนักใดก็ตาม จะร่วมทำการพิสูจน์ทราบด้วยก็ได้ ศิษย์กรรมฐานทุกรุ่นของท่านจะร่วมการพิสูจน์ก็ได้ โดยบรรดาศิษย์กรรมฐานของท่านนั้น พระอาจารย์รัตน์ฯ ให้ใช้พีระมิดแปดเหลี่ยมชนิดหลอด (พีระมิดแปดเหลี่ยมสี่ก้อนหันปลายแหลม ชนกันสองคู่) โดยให้จิตไปหมุนพีระมิดรอบละ 1 วันเป็นอุปกรณ์ช่วยในการตรวจสอบว่า จะมีเหตุการณ์ณ์อะไรเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

    บรรดาศิษย์กรรมฐานของท่าน ที่ยังไม่มีพลังแก่กล้ามากนัก ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้ข้อมูลที่คล้ายกัน และ แตกต่างจากพระอาจารย์รัตน์ฯ ก็มีประปราย ฐานข้อมูลที่เป็นองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ฯ นั้น มี 2 ช่วงเวลา ที่ท่านให้สังเกตความผิดปกติ คือ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2555 และวันที่ 25 ธันวาคม 2555 แต่ข้อมูลจากศิษย์กรรมฐานบางท่าน และ ครูบาอาจารย์สายอื่น พบว่า ขณะนี้ บรรดาครูบาอาจารย์ และ บรรดาเทพเทวาฝ่ายดี หรือ ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ หรือ ฝ่ายขาวนั้น ตั้งขบวนทัพได้รวม 8 ทัพใหญ่แล้ว โดยได้พยายามผนึกกำลัง เพื่อให้เลื่อนเวลาของการเกิดของหายนะใหญ่ในครั้งนี้ออกไป โดยได้พยายามบรรเทาความหายนะดังกล่าวอย่างเร่งรีบ

    ในขณะที่ฝ่ายมาร หรือ เทพเทวาฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ หรือ เทวดาที่มีใจหยาบช้า หรือ ฝ่ายซาตาน หรือ ฝ่ายมาร ได้จัดกำลังเพียง 5 ทัพเท่านั้น แต่ ฝ่ายมาร หรือ เทพเทวาฝ่ายมิจฉาทิฏฐินั้น เป็นการนำโดยท่านท้าววสวัตตีมาร ซึ่งเป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นสูงสุด คือ สวรรค์ชั้นที่ 6 (สวรรค์นั้น ในพระไตรปิฎกท่านกล่าวไว้ว่า มีทั้งหมด 6 ชั้น คือ

    สวรรค์ชั้นแรก คือ จาตุมหาราชิกา
    สวรรค์ชั้นที่สอง คือ ดาวดึงส์
    สวรรค์ชั้นที่สาม คือ ยามา
    สวรรค์ชั้นที่สี่ คือ ดุสิต
    สวรรค์ชั้นที่ห้า คือ นิมมารดี
    สวรรค์ชั้นสูงสุด คือ ปรนิมมิตวสวัตตี

    จำนวนทัพของพญามาร แม้มีเพียง 5 ทัพ แต่ฤทธิ์อำนาจนั้น มีมากกว่าบรรดาครูบาอาจารย์ และ บรรดาเทพเทวาฝ่ายดี หรือ ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ แม้มีมากถึง 8 ทัพก็ตาม แต่ฤทธิ์อำนาจมีค่อนข้างน้อย ดังนั้น ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ จึงค่อนข้างมั่นใจว่า หายนะครั้งใหญ่นี้ จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว

    สำหรับลูกศิษย์ของท่านบางราย และ ครูบาอาจารย์สายอื่น นั้น ได้ตรวจพบกระแสพลังงานว่า กระแสพลังงานในโลก ยังแปรปรวนอยู่ ซึ่งในวันที่ 17 ธันวาคม และวันที่ 25 ธันวาคม 2555 อาจยังไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นตามที่พระอาจารย์รัตน์ฯตรวจพบในนิมิตก็ได้ นั่นคือ อาจมีการเลื่อนเวลาการเกิดหายนะออกไปได้อีกระยะหนึ่ง จากการดำเนินการด้วยเมตตาของ 8 กองทัพเทพเทวาฝ่ายดี แต่ สภาวะการเฝ้าระวัง นั้น ครูบาอาจารย์ท่านให้ใช้หลัก ของ 8 – 8 – 8 เป็นสิ่งบอกเหตุเช่นเดียวกัน 8 สิ่งบอกเหตุดังต่อไปนี้ ไม่ต้องเกิดครบ หากเกิดเพียง 4 ใน 8 ประการ ท่านต้องเริ่มเตรียมเสบียงอาหารโดยเร็ว และ เตรียมการอพยพ เหตุ 8 ประการ ที่จะปรากฏ คือ

    1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเครงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน จะมีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ในพื้นที่ราบเรียบธรรมดา หรือ มีการเดินไม่ตรงทางตามปกติ เดินเอนเอียงคล้ายคนเมา หรือ มีอาการอ่อนเพลียง่าย และ/หรือ

    2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ

    6. มีไฟฟ้าดับในสถานที่ต่างๆ ในประเทศต่างๆ เป็นครั้งคราว เป็นวัน หรือ หลายวัน (เช่น ที่เกาะสมุย ไฟฟ้าดับไป 3 วัน 3 คืนทั้งเกาะ เมื่อสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นต้น)

    7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน จะมีการขัดข้องของระบบการสื่อสารโทรคมนาคมบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ เชื่อมอินเทอร์เน็ทไม่ค่อยได้ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

    8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา มีข่าวดาวเทียมตก

    เมื่อใดก็ตาม มีเหตุเกิดถึง 4 ประการจาก 8 ประการแรกแล้ว ท่านต้อง เฝ้าสังเกตไปอีก 8 วัน ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก เพราะพลังงานกดทับมีมาก นั่นคือ ในช่วงที่เรานั่งอยู่ หรือ ยืนอยู่ก็ตาม เผลอตัวหน่อยเดียว เราเองก็นั่งงอ หรือ งุ้มตัวไปแล้ว นั่นคือเมื่อไรก็ตาม เรารู้สึกอยากงอตัวลง หรือ งอตัวลงอย่างไม่รู้สึกตัว มองไปที่คนอื่นๆ ก็ทำท่างอตัวคล้ายๆกับเรา เหมือนๆกับตัวเราที่งอตัว โดยเราสามารถจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเองด้วย อีกทั้ง เริ่มมีการหายใจติดขัด หายใจไม่คล่องจมูกมากขึ้น

    ท่านใด หรือ ญาติพี่น้อง ลูกหลานผู้ใด ที่อยู่ต่างระเทศ จะอยู่ที่ญี่ปุ่น ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกาก็ตาม ขอให้รีบหาเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว หากเดินทางได้ในวันที่นั่งงอตัว หรือ เดินงอตัวในวันแรกได้ ย่อมปลอดภัยมากที่สุด ค่าเครื่องบินจะสูงกว่าปกติ 10 เท่าตัวก็ควรจ่าย เพราะถ้าลังเล โอกาสการมีชีวิตอยู่รอด เพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น จะมีน้อยมากๆ ในการอยู่อาศัยในประเทศอื่นๆ หากหาตั๋วเครื่องบินไม่ได้ในวันแรก ท่านจะมีเวลาไม่เกิน 8 วันสุดท้าย ที่จะต้องหาตั๋วเครื่องบินให้ได้ ก่อนที่ทุกคนบนโลกใบนี้ จะหยุดการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด และ ต้องนอนกับพื้นถึง 42 วัน โอกาสรอดชีวิตในต่างประเทศนั้นมีน้อยมากๆ ขอให้ทุกท่านกลับมาเมืองไทย มาอยู่ในสถานที่ที่แวดล้อมไปด้วยญาติพี่น้อง ในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณ ย่อมมีความปลอดภัยมากกว่าอย่างแน่นอน

    รวมทั้ง ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก ขอให้ท่านรีบเดินทางไปหาที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณโดยเร็ว น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ท่านอยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเร็ว (ชายทะเลใหม่อาจไปอยู่ที่สระบุรี ลพบุรี และ นครสวรรค์ สำหรับพื้นที่ภาคกลาง จะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าปี 2554) โดยท่านมีเวลาเหลือเพียง 8 วันสุดท้ายที่จะอพยพออกจากที่อยู่อาศัย และ ที่ทำงาน ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนสัณฐานของโลกครั้งใหญ่ พื้นดินในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตกนั้น อาจยุบจมหายไปได้

    ความรุนแรงมากที่สุด น่าจะเกิดขึ้น เป็นเวลารวม 42 วัน โดยครูบาอาจารย์สายอื่นท่านว่า 8 ทัพเทพเทวา สายมิจฉาทิฏฐิ อาจเลื่อนหายนะออกจากวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 ได้สำเร็จก็ได้ แต่ถ้าเลื่อนไปแล้ว ต่อไปจะเกิดเมื่อไรนั้น ครูบาอาจารย์สายอื่นท่านว่า ให้สังเกตสัญญาณ 8 – 8 – 8 ดังกล่าว เมื่อมีเหตุปัจจัยดังกล่าว ย่อมมีหายนะในช่วง 42 วันต่อไป ขอย้ำว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว จะไม่มีการเรียน ไม่มีการอบรม ไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆ รวมทั้ง จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด หากอยู่ระหว่างการเดินทาง ต้องหยุดการเดินทางทั้งหมดก่อน เพราะพลังงานของกระแสแม่เหล็กโลก และ พลังงานกระแสไฟฟ้าลบ เข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่น จนไม่เหลือช่องว่าง และ ทุกคนย่อมไม่สามารถทรงตัวยืน เดิน ตามปกติได้ และ ถ้าจะเคลื่อนไหว ต้องเคลื่อนไหวโดยการคลานสี่เท้า รวมทั้งต้องนอนตะแคงใบหน้ากินอาหาร และ กรอกน้ำใส่ปากในช่วง 42 วันอันตรายดังกล่าวนี้ก็อาจเป็นได้

    ขออนุญาตเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ก่อนหน้าวิกฤติช่วง 42 วันนี้ ท่านต้องรีบเตรียมสำรองอาหาร ที่รับประทานได้ง่ายที่สุด หากเป็นแคปซูลได้ยิ่งดี อาหารที่ไม่ต้องเสียเวลาปรุง ไม่ต้องสนใจในรสชาติ ขอให้ท้องอิ่ม เพื่อให้รักษากายหยาบ ให้มีลมหายใจอยู่ให้รอดในช่วง 42 วันที่ยืนเดินไม่ได้ ท่านต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มบนพื้นห้องนอนด้วย ขอให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน มีสติในทุกสถานการณ์ มีความปลอดภัย รอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากในช่วง 42 วันดังกล่าว เพื่อจะได้มีชีวิตในยุคพลังงานใหม่ที่ดี ที่กาแลคซี่ไตรแองกูลัม ซึ่งจะมีพลังมโนธาตุ และ พลังปราณที่ดี ผู้คนจะมีจิตใจที่ดีงาม มีศีลธรรมสูง และ ขั้วโลกจะได้เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออก แทนขั้วโลกเหนือ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีท่านว่า จะมีอุณหภูมิ 17-24 องศาเซลเชียสในประเทศไทย

    ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
    อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ ผู้รวบรวม และเรียบเรียงอย่างเร่งรีบ เพื่อการแจ้งภัยให้ทราบอย่างเร่งด่วน


    ที่มา http://palungjit.org/threads/สรุป-ง...7-ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี.384056/page-10
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เฉพาะท่านที่เชื่อว่าอาจจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้น !!!

    [​IMG]

    สกายนาย สมาชิก

    เฉพาะท่านที่เชื่อว่าอาจจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้น........แต่เดิมสมัยยังหนุ่มผมเคยทำงานอยู่ที่จ.พิษณุโลก(ต่อมาผมได้ย้ายมาทำงานที่จ.เชียงใหม่จนถึงปัจจุบัน)........ในตอนนั้นผมได้เริ่มต้นสนใจในการฝึกสมาธิจึงได้มีโอกาสไปฝึกสมาธิแบบกสิณ กับทางอาจารย์ท่านหนึ่งมาก่อน ต่อมาได้มีโอกาสอ่านหนังสือประวัติหลวงปู่ปานที่เรียบเรียงโดยหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง....และผมได้มีโอกาสฝึกสมาธิมโนมยิทธิในสายหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง ......ทำให้ผมเกิดความศรัทธาและความเคารพรักในพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง เป็นอย่างสูง...รวมไปถึงผมมีความเคารพรัก หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง เป็นอย่างสูงเช่นกัน.......ดังนั้นเมื่อใดมีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญในชีวิต ผมจึงมักขอกราบขอความเมตตากราบขอพรให้ท่านทั้งสองนี้ช่วยสงเคราะห์ผมมาแล้วหลายๆครั้ง.....

    ...........ในเรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้.....แต่เดิมผมมีความสงสัยอย่างยิ่งว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่....ต่อมาผมได้ทราบมาว่าได้มีท่านผู้หนึ่ง(ขอไม่เปิดเผยนาม) ซึ่งท่านได้ใช้มโนมายิทธิขึ้นไปขอความเมตตากราบเรียนถามหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ว่า “ภัยพิบัติใหญ่นี้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะมีผลร้ายแรงมากน้อยเพียงใดกับประเทศไทย”...ถ้าผมจำไม่ผิดได้รับทราบคำตอบมาว่า “ภัยพิบัติใหญ่นี้จะเกิดขึ้นจริง แต่จะไม่มีผลร้ายแรงกับประเทศไทยเหมือนตามที่เขาว่ากันนั้น”.......แต่เพื่อความไม่ประมาท ผมก็เตรียมการสิ่งของจำเป็นต่างๆไว้รองรับสถานะการภัยพิบัติดังกล่าวไว้แล้ว โดยนำเอาแบบอย่างมาจากหลายท่านในเว็บบอร์ดนี้.....

    ...........แต่เดิมเมื่อตอนที่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่จ.เชียงใหม่ใหม่ๆ...ผมได้ทราบว่ามีพระภิกษุอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดตั้งอยู่ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่ในขณะที่ยังมีชิวิตอยู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง ในช่วงบั่นปลายของชีวิตของหลวงพ่อท่าน ท่านมักนำกฐินเดินทางมาทอดที่วัดนี้พร้อมทั้งนำลูกศิษย์มาพักที่วัดนี้เกือบเป็นประจำทุกปี .......และผมทราบมาว่า หลวงพ่อท่านได้พยากรณ์บอกแก่ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านเองไว้ว่า พระภิกษุองค์นี้เป็นพระอรหันต์แล้วนะ(ขออภัยผมขอไม่เปิดเผยชื่อพระภิกษุอาจารย์ท่านนี้ เนื่องจากตอนนี้ท่านกำลังป่วยมาก ผมจึงไม่อยากจะให้ใครไปรบกวนท่าน)

    ....แต่เชื่อว่าแค่ผมพูดมาแค่นี้ ทางลูกศิษย์วัดท่าซุงหลายๆท่านคงรู้แล้ว...ว่าพระภิกษุอาจารย์ท่านนี้คือท่านผู้ใด....ซึ่งในตอนที่เพิ่งย้ายมาอยู่จ.เชียงใหม่นั้น ผมจึงได้ไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์พระภิกษุอาจารย์ท่านนี้ด้วย......เนื่องจากมีคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ ว่าอาจเกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้นในช่วงสงกรานต์ ดังนั้นเมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมานี้...ผมได้ฝากลูกศิษย์ใกล้ชิดท่าน เขาไปกราบเรียนถาม...พระภิกษุอาจารย์ท่านนี้ว่า....”ภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2555 นี้หรือไม่”.......ซึ่งผมได้รับทราบคำตอบกลับว่า “ยังไม่เกิดในเดือนเมษายน 2555 อีกนานถึงจะเกิด”

    ......ต่อมาผมได้ไปก่อสร้างสถานที่หลบภัย(บ้านคอนเทนเนอร์)ไว้ที่จ.เชียงราย ไว้รองรับภัยพิบัติดังกล่าว.....ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านจึงไปบอกข่าวของผมนี้ไปบอกแก่กับพระภิกษุอาจารย์ท่านนี้ให้ทราบ...และท่านได้เมตตาบอกข้อความผ่านลูกศิษย์ของท่านมายังตัวผม ซึ่งเท่าที่ผมจำข้อความได้นั้น มีสาระสำคัญว่า “จ.เชียงราย จะเสียหายจากภัยพิบัติมากกว่าจ.เชียงใหม่ ที่อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จะกลายเป็นทะเล ต่อไปมีแต่คนจ.เชียงรายจะอพยพย้ายมาอยู่ที่จ.เชียงใหม่ ...แล้วทำไมคนจ.เชียงใหม่(หมายถึงตัวผม)นี้ กลับทำไมจะย้ายอพยพไปอยู่จ.เชียงรายกันอีก”..........

    ............และเมื่อประมาณวันที่ 5 ธันวาคม 2555ที่ผ่านมา น้องชายของผมซึ่งมีความกังวนใจกลัวว่า ภัยพิบัติใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือน ธันวาคม 2555 นี้แล้วตัวเขาจะอพยพหนีภัยจากกรุงเทพฯมาไม่ทันการ เขาจึงอยากให้ผมสอบถามข้อมูลเรื่องนี้ ...แต่เนื่องจาก ท่านพระภิกษุอาจารย์รูปนี้ ท่านกำลังป่วยอยู่ ผมเกรงใจท่านและไม่ได้ไปกราบเรียนถามท่าน...ผมจึงขอให้ผู้หนึ่งให้ท่านได้ใช้มโนมยิทธิขึ้นไปขอความเมตตากราบเรียนถามหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ว่า “ภัยพิบัติใหญ่นี้จะเกิดขึ้นในเดือน ธันวาคม 2555นี้ หรือไม่”

    .......และถ้าผมจำไม่ผิดได้รับทราบคำตอบมาว่า “ภัยพิบัติใหญ่นี้จะไม่เกิดขึ้นในเดือน ธันวาคม 2555 นี้ แต่จะเกิดขึ้นในปีหน้า(2556) ถ้าหากไม่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะไปเกิดขึ้น ในเดือนธันวาคม (หมายถึง อาจจะเกิดขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ 2556 หรือ ธันวาคม 2556 เดือนใดเดือนหนึ่งในสองเดือนนี้)”..........โดยขอให้เพื่อนๆสมาชิกในเว็บบอร์ดนี้ ได้โปรดพิจารณาใช้วิจารณญาณของตนเอง พิจาณาว่าจะเชื่อหรือไม่อย่างไร......และถ้าหากข้อมูลนี้เป็นความจริง....... ก็เท่ากับว่าเบื่องบนยังคงให้โอกาสให้เวลา ให้พวกเราสามารถมีเวลาเตรียมตัวเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย.........ครับ/สกายนาย

    ที่มา http://palungjit.org/posts/7110933
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มีตัวแปรอื่นทำให้ระยะการลุกไม่ขึ้นสั้นลงได้ !!!

    [​IMG]

    ดาบหัก สมาชิก

    ช่วงระยะเวลาที่คนและสัตว์ประเภทคลานเช่นหมู หมา วัว ควาย ยกเว้นสัตว์เลือยคลานพวกงู จระเข้ ตะขาบ ฯลฯ จะเหมือนลุกไม่ขึ้น จะสั้นหรือยาวกว่าตามที่ได้หยั่งรู้ความสัมพันธ์ระหว่างวงกลมเล็ก (คน, โลก ,สุริยจักรวาล) กับ วงกลมใหญ่(กาแลคซี่ต่างๆ) โดยอาศัยพลังของจิต และ พลังปิระมิด เข้าไปรู้ เห็นในอนาคต .....มีตัวแปรอื่นให้ระยะการลุกไม่ขึ้นสั้นลงได้ เช่น

    มีพลังงานจากดาวบางดวง เข้ามาทำให้แนวแรงที่กระทำต่อคน สัตว์ พลังปราณอันเป็นแกนกลางของโลก เปลี่ยนทิศทางไป ซึ่งตัวนี้เองเรายังไม่อาจเห็น ทราบได้ในเวลานี้ รอดูตั้งแต่วันที่ 17 ไป ว่าจะมีนกสัตว์บนฟ้าตกลงมา หลงทิศทางหรือไม่ ถ้ามีจำนวนมาก ก็เตรียมตัวให้มากไว้ ตั้งสติสัมปชัญญะให้ดี ส่วนคนที่มีสติละเอียด เห็นมวลพลังงานที่กลางกาย ก็จะทราบเอง ให้สังเกตุดีๆละกัน

    .....ขอย้ำว่า ไม่ใช่ เรื่องโลกแตก โลกสลาย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงพลังงาน จากละเอียดไปสู่หยาบ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ....สรรพสิ่งล้วนอนัตตา หากเรายังอยู่ในวัฏฏะ ไม่อาจบังคับบัญชาทุกสิ่งได้ รับฟัง ไม่แตกตื่น แต่จงตื่นตัว เพื่อหยั่งรู้สัจจธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อนำไปสู่สิ่งที่เหนือจากไตรลักษณ์...จะเกิดหรือไม่ เราจะได้เห็นสัจจธรรมในตัวเรา ในคนทั้งหลาย ในโลกธรรม และ ในกฏเกณฑ์แห่งธรรมาชาติ

    แรงที่กระทำ กระทำต่อสิ่งมีชีวิตที่มีธาตุรู้ในตัวมาก เช่นคน สัตว์ที่เดินคลาน เป็นต้น ไม่ใฃ่แรง F=MA หรือ F=G ร่างกายคนมีธาตุรู้มาก จะถูกแรงนี้ เข้ากด เข้าปะทะมาก การเคลือนไหวสั่งการของระบบประสาท ต้องใช้ธาตุรู้ หรือปราณ ซึ่งสัมพันธ์กับธาตุรู้ในเซลล์ต่างๆ เป็นไปได้ยากขึ้น การเคลือ่นไหว การทรงตัวก็ยาก จึงเหมือนกับไม่มีแรงทางกายต้านแรงใดๆก็ตาม แต่หลายท่านยังนึกถึงแรงค่า G หรือแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อรูปกายเพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าหิน ต้นไม้ ตึกรามบ้านช่องก็ต้องพังไปด้วยเพราะหนักกว่าคนมาก

    การเริ่มเข้ากด จะเข้ากดที่บริเวณท้อง ซึ่งเป็นฐานกาย (คนที่ศึกษาด้านกายละเอียดที่ซ้อนกันตรงศูนย์กลางกายคงเข้าใจ หรือคนที่เดินปราณมารวมศูนย์ที่กลางกายแถวๅท้องได้ คงจะเข้าใจ) ยิ่งผ่านวันที่ 17 ธค.ไปนานเข้าๆ แรงกดต่อธาตุรู้ที่ศูนย์กลางกาย หรือบริเวณท้องก็มากขึ้น แล้วจะตีโค้งอ้อมขึ้นมากดระบบธาตุรู้ในกายที่มีตามส่วนต่างๆ โดยเฉพาะส่วนบนให้ก้มลงมา จนไม่สามารถทรงตัวได้

    หมายเหตุ ที่เขียนมาโพสนี้ เป็นความเข้าใจของกระผมเอง ไม่ใช่ตามที่พระอาจารย์รัตน์บอก 100%

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สรุป-ง...17-ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี.384056/page-9
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...