เรื่องสยองของเคาท์เตส แดร็กคิวลา ที่ร่ำลือกันว่าฆ่าสาวพรหมจารีกว่า 600 ศพ!!!!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mahamettayai, 24 พฤศจิกายน 2012.

  1. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    เรื่องสยองของเคาท์เตส แดร็กคิวลา ที่ร่ำลือว่าฆ่าสาวพรหมจารีกว่า 600 ศพ !!!! ​



    เรื่องสยองของเคาท์เตสสาว ผู้กระหายเลือดนี้ ร่ำลือกันว่าฆ่าสาวพรหมจารีกว่า 600 ศพ!!

    เรื่องเล่านี้น่าสะพรึงกลัวไม่แพ้ตำนานเคาท์แดร็กคิวลาผู้โด่งดัง
    :boo::boo::boo:

    เป็นอีกเรื่องที่ไปเจอมา น่ากลัว และสยดสยองพองขนและไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นจริงในโลกใบนี้ (จริง จริง เคยอ่านมาตั้งนานแล้ว คราวนี้เจอรายละเอียดอย่างยิบ ) ที่นำมาโพสต์นี้ ตัดตอนวีรกรรมโหดของเคาท์เตส และฉากอันน่าสยดสยองออกไปเพียบเลย ลองอ่านกันดูคร้าา จะผ่านเซ็นเซอร์มั้ยเนี่ย ??? (โอย !! อ่านแล้วมึนหัวตึบ ) คิดว่าคงยังไม่มีใครเคยมาโพสต์ ในพลังจิต นะ ?? ถ้าซ้ำก้อขอภัยด้วยค่า


    เคาท์เตส เอลิซาเบธ บาโธรี่ (Erzsabet Bathory. 1560 - 1614) เป็นหญิงสาวที่มีความเชื่อในเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะ และต้องการให้ร่างของตนเองดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงมีความคิดที่ว่า หากได้อาบเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์แล้ว จะทำให้ตนเองดูอ่อนเยาว์ได้ตลอดไป เธอจึงสั่งให้คนรับใช้ไปเอาร่างของหญิงสาวบริสุทธิ์ มากรีดเอาเลือดใส่อ่างด้วยเครื่อง ไอรอน เมเดน (Iron maiden) แล้วอาบต่างน้ำ โดยมีเหยื่อที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับเธอไปไม่น้อยกว่า 600 คน กว่าที่เธอจะถูกคนจับไปขังในคุกมืดจนตาย ได้รับสมญานามว่า

    The Blood Countess และ Countess Dracula
    :boo::boo::boo:

    เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ เกิดที่ฮังการี่ วันที่ ๗ สิงหาคม ๑๕๖๐ ตระกูลของเธอทั้งฝ่ายพ่อและแม่ล้วนเกี่ยวดองกับบรรดาแม่ทัพ ขุนพลแห่งทรานซิลวาเนีย โดยเฉพาะ สเตฟาน บาโธรี่ กษัตริย์แห่งโปแลนด์และดุ๊กแห่งทรานซิลเวเนีย ตระกูลบาโธรี่อันเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงที่สืบสายมา จากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ร่ำรวย มีอำนาจล้นหลาม เป็นที่ยำเกรงของประชาชนทั่วไป และปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายยุคสมัย

    เธอไม่ใช่เด็กหญิงที่สวยงาม ออกจะขี้เหร่ด้วยซ้ำแต่ด้วยความที่เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล จนจักรพรรดิมาร์คมิชิเลียนที่ 2 เคยมาขอดูตัว ถึงแม้เอลิซาเบธจะมีชาติตระกูลสูงส่ง แต่เหมือนนรกจับส่งมาเกิด เพราะเธอกลับมีอาการบกพร่องทางจิตอย่างรุนแรง (ตระกูลเก่าแก่มักแต่งงานกันเองในหมู่ญาติเพื่อ รักษาทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ผู้สืบสายเลือดตระกูลนี้จำนวนมากมีอาการบกพร่องทางจิตอันเนื่องมาจาก ลักษณะทางพันธุกรรม เป็นต้นว่าโรคฮิสทีเรีย พฤติกรรมรักร่วมเพศ หรือแม้แต่การสืบทอดของสาวกลัทธิบูชาปีศาจ ผู้มักมากในกาม ฯลฯ )

    เอลิซาเบธ ก็เช่นเดียวกัน ตามประวัติที่บันทึกในภายหลัง เธอเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ตามประสาลูกสาวของผู้ทรงอิทธิพล มีสุขภาพไม่แข็งแรง ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และทวีความก้าวร้าวมากขึ้นทุกที น้าสาวของเธอ มีชื่อเสียงเลื่องลือในฐานะแม่มด และมีข่าวลือว่าชอบผู้หญิงด้วยกัน ลุงของเธอเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่นับถือปิศาจ น้องชายของเธอมีพฤติกรรมเลวร้ายต่อสตรีไม่เลือกวัย และนางพยาบาลผู้ใกล้ชิดเธอก็เป็นพวกนิยมมนต์ดำ ?!?

    ในช่วงวัยเด็ก เธอชอบหนีเรียน แอบไปเที่ยวเล่นกับลูกชาวนา ชาวไร่ที่เป็นทาสติดที่ดิน จนตั้งท้องเมื่ออายุเพียง 13- 14 ปีก่อนที่จะมีผู้ใดระแคะระคาย ผู้เป็นมารดาส่งตัวเธอไปไว้ในปราสาทของตระกูล แห่งหนึ่ง ที่ห่างไกลสายตาผู้คน และอ้างว่าลูกสาวไม่สบายต้องการอยู่ในที่สงบเพื่อรักษาตัว และเมื่อทารกเกิดมาก็อาจถูกฆ่าทิ้งหรือไม่ก็ถูกส่งไปที่ลับหูลับตา ไม่ให้มีใคร รู้เด็ดขาดเลยว่าเธอเคยมีลูกกับพวกไพร่

    เมื่อเธอโตขึ้น เอลิซาเบธ เริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง หมอหลายคนทำการรักษาแต่ก็ไม่หาย จนกระทั่ง.......:boo::boo::boo:

    มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยเด็กที่เธอเกิดปวดหัวอย่างรุนแรง จนกัดเนื้อไหล่ของสาวใช้ที่เข้ามาพยาบาล หลุดออกมา สาวใช้ร้องลั่น เมื่อ เอลิซาเบธได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวใช้

    น่าแปลกที่อาการปวดหัวของเธอกลับหายเป็นปลิดทิ้ง นับแต่นั้นมา เกิดอาการปวดหัว เธอก็จะทรมานสาวใช้เพื่อให้เสียงร้องเหล่านั้นเป็นยาระงับอาการของเธอ
    ( เริ่มต้นความโหดแต่เด็ก )


    ปี 1575 เมื่อเอลิซาเบธ อายุ 15 ปี เธอแต่งงานกับท่านเคาท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่า 11 ปี ต่อมาทั้งสองย้ายที่อยู่ไปยังปราสาทเซติซ ที่กว้างใหญ่แต่มืดทะมึนดูน่าสยดสยองกลางป่าลึกบนภูเขาคาร์ลปาเชีย ในสโลวาเกีย ท่านเคาท์ออกจะจิตวิตถารเช่นเดียวกับอลิซาเบธ ทั้งสองมักตื่นเต้น สนุกสนาน กับการได้ทรมานบ่าวไพร่ อยู่ด้วยกันมา จนมีบุตรธิดาด้วยกันถึง 4 คน ท่านเคาท์มักจะไปออกรบตามที่ต่างๆจนไม่ค่อยอยู่ติดปราสาท ชีวิตสมรสของเอลิซาเบธ จึงไม่หวานชื่นเท่าใดนัก

    อาการปวดหัวของเธอกำเริบถี่ขึ้นและการทรมานสาวใช้ก็ค่อยๆหนักขึ้นทุกที เป็นต้นว่า การแทงเข็มเข้าที่ปลายนิ้วของสาวใช้ หรือจับสาวใช้มาทาน้ำผึ้งทั่วตัวแล้วโยนลงไปในห้องใต้ดินที่เต็มไปด้วยมด


    ต่อมาคนรับใช้ของเธอเป็นผู้แนะนำให้เอลิซาเบธ ใช้มนต์ดำ เธอมักจะลงไปหมกตัวอยู่ในห้องใต้ดินและประกอบพิธีกรรมประหลาดกับคนรับใช้ บ่อยครั้ง และในไม่ช้าเอลิซาเบธ ก็เริ่มมีชู้ สามีรับรู้เรื่องนี้แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หากไม่นานนักแม่ของสามีก็ย้ายมาอยู่ด้วย เธอมักประพฤติตัวเป็นภรรยาผู้เรียบร้อยต่อหน้าสามี แต่ลับหลัง เธอก็จับสาวใช้ของแม่สามีมาทรมานจนตาย

    เล่ากันว่าเธอเป็นคนหลงใหลความสวยงามของตัวเอง? เธอจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงอยู่หน้ากระจกเงาเพื่อชื่นชมความงามของตัวเอง บำรุงผิวด้วยน้ำมัน และขี้ผึ้งนานาชนิดเพื่อให้ผิวขาวนวล เปลี่ยนเสื้อผ้าวันละ ๕ หรือ ๖ ชุด


    ชีวิตฆาตกร ( ต่อเนื่อง )ของเธอเริ่มต้นขึ้นหลังจากการตายของสามี ขณะเธออายุได้ 40 ปี สามีคู่ชีวิตทิ้งสมบัติและอำนาจทุกอย่างไว้ในมือของภรรยา และแทบจะในวันเดียวกันนั้นเอง แม่ก็จากโลกนี้ตามลูกชายไปอีกคน มีข่าวลือภายหลังว่าเป็นการวางยาพิษ เธอกลายเป็นราชินีในอาณาจักรของเธอ จะมีก็แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เป็นไปดังใจคิด ก็คือการที่ตัวเธอไม่สามารถเอาชนะกาลเวลาได้ นับวันร่างกายเหี่ยวยานไปตามกาลเวลา เธอต้องการความสวยที่เป็นอมตะตลอดกาล มีการสั่งให้แม่มดหมอผีที่คุ้นเคยทำยาคืนความสาวมาใช้หลายขนาน แต่ก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าใดนัก

    จนกระทั่ง......... เหตุการณ์ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเปิดฉากตำนานเลือดที่น่าสยดสยองของเธอ !!!!​


    เครดิตที่มาเรื่องและภาพ :
    อลิซาเบธ บาโธลี่เธอผู่ฆ่าสาวบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 600 ศพ | ThaiGoodView.com Knowledge for Thai Student
    และ เค้าท์เตส บาโธรี | Manic Nova
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2012
  2. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    มาอ่านกันต่อ เลย.......ละกัน คร้า (kiss)

    เช้าวันหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมา ขณะที่เธอส่องดูเงาตัวเองในกระจก ทันใดนั้น เธอได้พบว่าความชราเริ่มมาเยือน นึกได้ว่า อายุปาเข้าไปตั้ง 45 แล้วนี่นา แต่เธอก็ยังไม่อยากแก่และกลัวอย่างที่สุด

    เมื่อเธอหงุดหงิด ก็ยิ่งต้องหาเรื่องระบายอารมณ์และความบันเทิงใดเล่า
    จะเท่ากับการลากคนมาทรมาน


    ขณะที่สาวใช้กำลังสางผมให้กับเอลิซาเบธ ได้ดึงผมหลุดติดหวีมาหลายเส้น เธอใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือทุบเด็กสาวอย่างไม่ยั้งมือ แล้วลงมือหวดด้วยแซ่หนังผูกปมโลหะใส่เนื้อหนังมังสาของทาสชะตาขาดนั้นอย่างหนักหน่วง จนเศษหนังและหยาดเลือดทาสผู้เคราะห์ร้ายหลุดกระเด็นออกมา หยาดเลือดสาดกระเซ็นเป็นฝอยติดตามตัวเธอ เธอโบยจนทาสผู้นั้นจบชีวิต!! (เละเป็นหมูบะช่อ)

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เธอได้ค้นพบยาอายุวัฒนะสูตรใหม่โดยบังเอิญ
    เคาท์เตสพบว่าใต้รอยเลือดนั้นผิวของเธอกลับนุ่มนวลผุดผ่องเป็นยองใยราวสาวแรกรุ่นอ่อนนุ่ม ละมุนละไม ผิดกับผิวเนื้อตรงอื่นอย่างเหลือเชื่อ
    เธอคิดได้ (งัยเนี่ย?!? ) ​


    ว่าเลือดสด ๆ ของสาวแรกรุ่นมีคุณสมบัติพิเศษที่จะบันดาลให้เธอเป็นสาวอมตะได้ตลอดกาล และด้วยเหตุนี้เองโศกนาฏกรรมการฆ่าสังหารเด็กสาวกว่า 600 คนเพื่อบำรุงความงามของเธอจึงเริ่มต้นขึ้น เธอเลือกเหยื่อด้วยตนเอง โดยเฉพาะสาวเด็กสาวแรกรุ่นบริสุทธิ์ที่แสนสวยมีอกอวบอิ่ม

    เด็กหญิงคนแล้วคนเล่าต้องตายโดยถูกทรมานทั้งเป็นด้วยวิธีการต่างๆ เมื่อลูกทาสของคนรับใช้และทาสในที่ดินตายหมดแล้ว เอริซาเบทก็ให้ลูกน้องบริวารไปล่อลวงหลอกเอาสาวชาวบ้านตามชนบทเข้ามา

    ชาวบ้านที่ยากจนต่างก็ยินดีที่จะส่งลูกสาวออกมาทำงานในปราสาทเพียงเพื่อแลก กับเสื้อผ้าไม่กี่ชุด เหล่าเด็กสาวที่เข้ามาในปราสาทไม่มีใครที่รอดกลับบ้านไปได้ หลังจากถูกรีดเลือดแล้วศพพวกเธอถูกฝังไว้ในสวนหลังปราสาทโดยที่พ่อ แม่พี่น้องก็ไม่มีโอกาสจะทราบข่าว หนักขึ้นเอลิซาเบทหันไปหาพวกธิดาของพวกผู้ดีมีตระกูล บางรายเป็นลูกของเพื่อนๆผู้สูงศักดิ์ของเธอด้วยซ้ำ

    วิธีการทรมานของเอลิซาเบธนับวันยิ่งโหดเหี้ยม !!! ​


    มีทั้งการใช้เหล็กร้อนเผาลำคอ ใช้เครื่องทรมานบีบหน้าอก บางครั้งเธอก็ใช้มือทั้งสองของตัวเองล้วงเข้าไปในปากและฉีกร่างของเหยื่อออก เป็นสองซีก เด็กสาวบางคนที่พยายามจะหนีก็ถูกตัดเท้าทิ้ง และอีกสารพัดวิธีที่โหดเหี้ยมและน่าสยดสยองเกินมนุษย์ (ยิ่งกว่าในหนัง)

    สิ่งหนึ่งที่เอลิซาเบธทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์ที่ทำให้โลกต้องตะลึงก็คือ เครื่องมือทรมานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่ง Iron Maiden นั่นเอง ("ตุ๊กตาเหล็กที่ด้านหลังบานประตูมีเข็มแหลมยาวงอกอยู่ 5 เล่ม ผู้ที่ถูกเข็มเหล่านี้แทง จะถูกคั้นเลือดออกมาจนเสียชีวิต" ) แต่เนื่องจากเข็มพากันทื่อเสียหมดเพราะเป็นสนิมจากเลือด เธอจึงสั่งให้สร้างกรงเหล็กขนาดใหญ่ซึ่งมีเข็มแหลมอยู่ภายใน กรงดังกล่าวจะถูกเฟืองโซ่ยกขึ้นสูงจากพื้นโดยมีเหยื่อที่เป็นเด็กสาวอยู่ข้างใน

    เวลาผ่านไปเกือบห้าปี ลูกสาวชาวไร่ชาวนาหายสาบสูญไปจนหมด ความผิดพลาดเอลิซาเบธเกิดขึ้นเมื่อเธอไปเที่ยวที่เมืองวีน เหตุการณ์สยองจึงเริ่มเกิดต่อสาธารณชนครั้งแรก เมื่อมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องดังออกจากห้องพักของเอลิซาเบธ

    (ตอนนี้บ่าวไพร่หมดปัญญาจะเอาศพไปทิ้งไม่ให้ใครเห็นเพราะมีเหยื่อมากมาย ก่ายกอง ขนาดโยนศพออกมาให้ฝูงหมาป่ารุมกินยามดึก ก็ยังกินไม่หมด ช่วงแรกที่ชาวบ้านมาพบกองซากศพที่ซีดเผือกไม่มีเลือดอยู่เหลือเลยแม้แต่หยด เดียว เลยเกิดล่ำลือไปว่าในป่านี้มีผีดิบดูดเลือดอยู่ ) เมื่อคนเลี้ยงสัตว์ของเอลิซาเบธไปตรวจดูและพบว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของนัก ร้องสาวของสมาคมแห่งหนึ่งในเมืองนั้น ภาพที่เห็นคือ หญิงสาวถูกตัดมือ ตัดเท้า และเสียชีวิต เธอบอกกับคนเลี้ยงสัตว์ของเธอว่า นักร้องผู้นี้ทำความผิด จึงมีโทษต้องตาย และนี่คือความผิดพลาดของเอลิซาเบธ

    ถึงแม้ พวกชาวบ้านจะไม่กล้าพูดออกมาดังๆ ในที่สาธารณะ แต่ก็มีการซุบซิบ โดยเฉพาะเรื่องรถม้าจากปราสาทที่วิ่งไปมาในเวลาค่ำคืน และในคืนนั้นจะมีหญิงสาวหายไป? ชาวบ้านนำเรื่องไปปรึกษานักบวชนิกายลูเธอแรนที่ชื่อ ไอแวน แม็กยารี นักบวชท่านนี้ก็นำเรื่องไปปรึกษาทางการอย่างลับๆ บางที เรื่องอาจจะไม่ลุกลาม หากเธอหยุดยั้งที่ชาวบ้านธรรมดา แต่ เค้าท์เตส บาโธรี เริ่มลักพาตัวลูกสาวของขุนนางระดับล่าง ความหยิ่งยโสว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ ทำให้เธอเหิมเกริมจนทำอะไรไม่ยั้ง นอกจากนี้ ญาติของเด็กหลายรายยืนยันว่าเด็กสาวที่ตายกันเป็นกองๆใกล้ปราสาทของเอ ลิซาเบธ ล้วนแล้วแต่ถูกล่อลวงให้มาที่ปราสาทเธอ

    ปี 1610 กษัตริย์แม็ทเธียส ที่ ๒ แห่งฮังการี่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังปราสาท เพื่อสืบสวนหาสาเหตุการหายตัวของหญิงสาวจำนวนมาก
    เดือนธันวาคมปี 1610 เมื่อมาร์ควิสเธอร์โซซึ่งเป็นญาติของเอลิซาเบธ ไปยังห้องใต้ดินของปราสาท

    เขาก็ต้องผงะกับสิ่งที่ตัวเองพบทั้ง เครื่องทรมานจำนวนนับไม่ถ้วน รอยเลือดที่ชโลมอยู่แทบทุกที่และศพที่ต้องตายอย่างทรมานกองเป็นภูเขา
    มีเด็กสาวบางคนถูกช่วยออกมาได้ ขณะที่นอนหายใจรวยรินเกือบเสียชีวิต !!!
    :boo::boo::boo:

    และแล้วเรื่องราวอันโหดเหี้ยมของเคาท์เตสสาว ก็พรั่งพรูจากหญิงสาวที่รอดชีวิต หลายคนถูกบังคับให้กินเนื้อจากศพของเด็กสาวคนอื่น จนบางคนกลายเป็นคนวิกลจริต และเมื่อเข้าไปถึงห้องชั้นบนสุด พวกเขาก็ได้พบหลักฐานอีกหลายชิ้น เจ้าของปราสาทหลบหนีไป แต่พวกเขาก็ตามเธอจนพบ


    เอลิซาเบธ บาโธรี่ ถูกสอบสวนในปี ค.ศ. 1610 ทั้งชาวไร่ชาวนาและบรรดาผู้ดีมีตระกูลทั้งหลายต่างอาฆาตแค้น และญาติสนิทของเธอเองก็โกรธเคืองอย่างหนักเพราะเธอทำให้วงศ์ตระกลูบาโธรี่เสื่อมเสีย ถึงตอนนี้ไม่มีอำนาจใดๆที่จะช่วยให้เธอพ้นผิดไปได้ ถึงแม้ว่าจะมีการนำบันทึกของเอลิซาเบธ มาตรวจสอบ พบรายชื่อของหญิงสาวจำนวนกว่า 650 ราย แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้ว่ารายชื่อเหล่านั้นเป็นรายชื่อเหยื่อหรือว่าอะไร จึงต้องตัดสินจากโครงกระดูกที่พบและคำบอกเล่าจากผู้รอดชีวิต ทำให้มีการตัดสินว่า เหยื่อของเคาท์เตส บาโธรีมีจำนวน 80 ราย

    เดือนมกราคมปี 1611 เธอถูกตัดสินคดี และเนื่องจากตระกูลบาโธรี่ ได้ยื่นฎีกา เธอจึงรอดพ้นจากโทษประหาร ขณะที่ผู้มีส่วนร่วมในการสังหารทุกคนต่างถูกตัดสินโทษเผาทั้งเป็น ได้แก่สาวใช้สองคนที่ทำหน้าที่ค้นหาและจับผู้หญิงสาวเคราะห์ร้ายมาสังเวยแก่เธอ ส่วนการตัดสินโทษของเอลิซาเบธ ถูกโอนให้เป็นอำนาจของตระกูลบาโธรี่

    เธอถูกจองจำอยู่ในปราสาทของเธอเองในห้องขังเล็กๆอันมืดมิด ซึ่งประตูถูกโบกปูนปิดตายตลอดชิวิต


    21 สิงหาคม ปี 1614 ก็เป็นวันที่ปราศจากสัญญาณชีวิตจาก เอลิซาเบธ บาโธรี่ ช่องเล็กๆ เพียงช่องเดียวก็ได้ถูกอิฐก่อปิดสนิทลง แต่บางตำนานก็ว่าเธอหนีออกไปได้และกลายเป็นผีร้ายอยู่ในป่าของฮังการี่ ทุกวันนี้ ปราสาทเซติซ บนภูเขาคาร์ลปาเชีย ในสโลวาเกีย ที่ซึ่งในอดีตเป็นสถานที่สังหารเหยื่อของเอลิซาเบธ ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่น แม้จะเหลือแต่ซากปรักหักพังแล้ว แต่มันก็ยังน่าสะพรึงกลัวอยู่เช่นเดิม

    ขอบคุณเครดิตที่มาเรื่องและภาพ : http://www.thaigoodview.com/node/99806
    และ เค้าท์เตส บาโธรี | Manic Nova
    รววมทั้งเว็บอื่นๆ อีกมากมาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    ต้องขออภัย :'( :':)'(
    เพื่อน ๆ สมาชิก และท่านผู้ที่พลาดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ทุกท่าน
    พอดีเป็นมือใหม่อ่ะค่า
    อัพโหลดรูปใหญ่ขึ้นกระทู้ไม่เป็น
    จริง ๆ มีรูปประกอบเนื้อเรื่อง
    เลยทำให้สูญเสียอรรถรสของเนื้อเรื่องไปบ้าง
    แต่รูปเล็กที่เอาขึ้นท้ายกระทู้
    เลือกแล้วว่าสยดสยองพอประมาณ
    คงไม่ว่ากันนาคร้า ขออภัยจริงๆ
     
  4. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    ตามกรรมที่เธอสร้างไว้ และกรรมที่เขาทำกับเธอไว้ :Z2
     
  5. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    ขออนุญาต เปลี่ยนหัวข้อกระทู้ เพราะเดี๋ยวเผื่อมีการพิสูจน์ภายหลังว่าเรื่องทั้งหมดอาจเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเธอ (เดี๋ยวโดนลูกหลานเธอฟ้องร้อง)

    เนื่องจากได้ข้อมูลมาใหม่ว่าหลายฝ่ายสันนิษฐานว่าทางโบสถ์คาทอลิกอาจนำเรื่องของเธอมาแต่งขยายเนื้อความเพื่อช่วยให้ลัทธิของพวกเขามีความเชื่อถือในเรื่องพระเจ้ากับซาตาน


    นอกจากนี้คนที่ทำการจับกุมคือกษัตริย์แมทเทียสที่ 2 ซึ่งประวัติได้ระบุว่าเป็นลูกหนี้ ของอลิซาเบธที่ยืมเงินเธอไปรบในสงครามมากมายแล้วไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ จึงใส่ร้ายเธอ

    ซึ่งตามกฎหมายยุโรปกลางระบุว่า หากเจ้าหนี้ติดคุกถือว่าเรื่องหนี้สินที่แล้วมันต้อง มีอันยกเลิกไป

    ถ้าจริงก็น่าสงสารทั้งเหยื่อและตัวเธอเอง ที่ยึดติดในสังขารร่างกายจนกระทั่งสร้างวิบากกรรมอย่างหนัก :'( :':)'( เฮ้อ

    แต่ถ้าไม่เป็นความจริง นึกว่าอ่านนิยายสยองขวัญเรื่องนึงแล้วกันค่า
    อ่านแล้วก้อลืม ๆ ไป
     
  6. BBrisa

    BBrisa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +92
    ขอบคุณค่ะ เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

    คนจิตไม่ปกติทำบาปฆ่าคนเป็นร้อยอย่างนี้ ถือว่าบาปมั้ยคะ เพราะเค้าทำไปเพราะความไม่รู้(รึเปล่า??)
     
  7. llnuhyper

    llnuhyper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +885
    การฆ่าชีวิตของผู้อื่นเป็นบาป แต่หากกระทำโดยไม่ได้เจตนาก็ถือว่าเป็นเวร กรรม
    แต่เรื่องนี้จะมองว่าไม่รู้ไม่เจตนาก็คงยากอยู่นะครับ ตั้งหลายร้อยคน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2012
  8. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    เป็นคำตอบของคำถามเรื่องเหตุผลต้นกรรมที่ อาจมีคนๆหนึ่งถูกรังแกทารุณจากผู้คนเป็นสิบเป็นร้อยคน จนกระทั่งตายไป แล้วก็ถามว่า คนๆนั้นทำอะไรผิดนักหนาถึงได้มีชะตากรรมแบบนี้ คำตอบคือเรื่องนี้ล่ะครับ
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ในประวัติศาสตร์แห่งโลกวัฏสงสานมันมีอะไรแปลกๆเยอะ ที่หาคำอธิบายไม่ได้........คนบางคนอย่าง อลิซาเบท ทบาโธรี่ ก็มีทั้งด้านเลว และด้านดี เคยดูในหนังเป็นเรื่องของ
    อลิซาเบท บาโธรี่ทั้งฉบับอังกษ และก็ฉบับ ฮังการี่ เพื่อนๆลองไปหามาดูภาพสวยดี..........

    แต่เรื่องเคาเตสเลือดก็ทำให้นึกถึง หนังสือ The saint and The sinner เป็นเรื่องความสัมพันธ์ รักแบบอบอุ่น ระหว่าง กิลล์ เดอ เร กับ โจแอน ออฟ อาร์ค

    ผู้ซึ่งสมัยนั้นฝ่ายตรงข้ามกล่าวหานางว่าเป็นแม่มด ในขณะที่ฝ่ายที่สนับสนุนนาง กล่าวว่านางเป็นตัวแทนของพระเจ้า และตั้งนางเป็นนักบุญหญิงหลังจากที่โดนเผาไฟ แต่ประเด็นที่เราสนใจคือ ตรงที่ โจแอน ออฟ อร์ค เป็น สาวพรมจรรย์ แต่มีความรักเช่นกัน ในระหว่างที่มีสงครามเธอถูกส่งให้ไปเป็นตัวแทนของพระเจ้าเดินนำขบวนทัพทหาร ของฝ่ายฝรั่งเศสไปสู้กับอังกฤษ (เธอไม่ต้องรบ แค่มีหน้าที่ขี่ม้า และโบกธงเฉยๆ) เมื่อนั้นเองที่เธอได้ไปพบกับ
    กิลล์ เดอ เร แม่ทัพหนุ่มเชื้้อสายขุนนางใหญ่ ซึ่งได้ก่อเป็นความรักความผูกพันธ์แบบแปลกๆ ซึ่งเป็นสิ่งดีงาม แบบเพื่อนมีต่อเพื่อน ชายชาตินักรบมีต่อ สาวน้อย หรือพี่ชายต่อน้องสาว กิลล์เคยขอ โจน แต่งงาน กิลล์มองว่าเด็กสาวร่างบอบบาง ถักเปียผูกโบว์สีฟ้า และแต่งกายเหมือนกับเด็กผู้ชายเช่นโจแอนนั้นดูน่ารักดี แต่โจนก็ ปฏิเศทที่จะแต่งงานกับกิลล์ เธอออกจะมีนิสัยบางอย่างคล้าย ทอมบอยด์ คือ เธออยากมีความสัมพันธ์ที่ดีงาม.... ที่มีพวกผู้ชายชาติทหารเหล่านี้เป็นเพื่อนมนับน่าถือตาเธอในฐานะสาวน้อยเพียงคนเดียวของกลุ่ม ที่นำพวกผู้ชายชั้นแม่ทัพนายกอง นับพัน ซึ่งในสมัยนั้น หญิงน้อยคนนักจะได้มาดำรงค์ตำแหน่งเช่นเธอ และเธอมองว่าความสัมพันธ์ แบบ รักเทิดทูนต่อ แม่พระหญิงของกลุ่มนั้นดีกว่า การมีสัมพันธ์รักแบบหญิงชายและ การแต่งงานอย่างเปิดเผย

    แต่ชีวิตคนก็มักจุดหักเหที่ปวดร้าวเสมอ ....โจนเองก็ถล่ำลึกเกิน เธอมองไกลเกินสิ่งที่ผู้หญิงในสมัยควรจะมอง ถ้าเธอแต่งงานกับกิลล์ และเลิกดันทุรัง อยากเป็นผู้นำหญิงพรหมจรรย์ ก็คงไม่ต้องรบกับพวกอังกฤษจนถูกจับเผาไฟตาย...... เมื่อโจน ออฟ อาร์ค โดนกลั่นแกล้งและถูกจับไปเผาไฟ กิลล์ เดอ เร ได้ พยามช่วยและเขาต้องไปเห็นคนที่ตัวเองรัก เทิดทูน โดนเผาไฟ ตายต่อหน้าต่อตา อย่างที่ช่วยอะไรไม่ได้ และหลังจากโจแอนตาย กิลล์ก็รบทัพจับศึก และได้สร้างแผลใจ จากการเห็นคนที่รักตาย และการฆ่าฟันกันอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน จนจากคนดีๆ ความเจ็บปวดที่เป็นแผลเรื้อรังก็ทำให้จิตใจวิปลาส แตกสลาย เมื่อร่างกายทนไม่ไหวก็ต้องปรับสภาพจากความเกลียดกลัวมาชินชาจนกลายเป็นชื่นชอบ ในการสงคราม และบ้าเลือดกระหายเลือด ในที่สุด

    มันดูเหมือนเรื่องเหลือเชื่อ ที่ผู้ชายอันเป็นที่รักที่บูชา ที่คุ้มครองป้องกัน ของ นักบุญหญิง โจอัน ออฟ อาร์ค กลับมีชีวิตในช่วงหลังเป็นฆาตรกรโรคจิต สมคบพวกพ่อมดหมอผี และเที่ยวจับเด็กผู้ชาย และเด็กหญิงวัยที่ ยังไม่มีร่างกายสมบูรณ์เพศ และแลดู คล้ายเด็กผู้ชายมาข่มขื่น (และข้อสังเกตคือ เด็กที่เอามาทั้ง ชาย และหญิง คือมีลักษณะไร้เดียง เป็น สาวน้อย รูปร่างคล้ายเด็กผู้ชายเช่นเดียวกับ โจน) และทรมานในปราสาท ครั้นเมื่อหาเด็กชายและเด็กผู้หญิงแทบหมดเมือง ก็ต้องหันไปจับเด็กสาววัยรุ่นที่มีรูปร่างผอมบาง คล้ายเด็กผู้ชาย ไปข่นขืนและทารุณกรรมแทน จนเป็นเหตุให้ต้องโดนจับและจบชีวิตลง เช่น อลิซาเบท บาโธี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  10. OMG_WTF

    OMG_WTF Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +48
    ถ้าเป็นสมัยนี้ซักชีวิตเดียวคงฆ่าไม่ได้ เพราะ

    [SIZE="7"]สาวพรหมจารีมัน มันหาไม่เจอ[/SIZE]
     
  11. anusaya

    anusaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +212
    เศร้าอ่ะ
     
  12. vanriot

    vanriot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +156
    จริงๆก็ชอบอ่านแนวประวัติศาสตร์อยู่หลายคนนะ โดยเฉพาะพวกลอร์ด บาร๊อค แปลกๆเนี่ย

    อ่านแล้วก็สยองดีแต่พอเลื่อนมาเจอ คุณ OMG_WTF ที หลอนกระเจิงเลย 555

    นั่นสิเนอะ ใครเค้าจะ เก็บความซิงไว้ชิงโชคกันละ
     
  13. บูชิตา

    บูชิตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +278
    คำเดียว.....สยองงงงง!
     
  14. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
  15. Rescue157

    Rescue157 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +61
    :boo: น่ากลัว ต้องพกกระเทียม :boo:
     
  16. taotaoeiei

    taotaoeiei สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6

    อ่านไปอ่านมา

    ขวัญกระเจิงก็อันนี้แหล่ะ 555+
     

แชร์หน้านี้

Loading...