จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาบุญกับครูเพ็ญและน้องเมิล มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ

    โดยเฉพาะ น้องเมิล ในฐานะเป็นตัวตั้งตัวตีจิตบุญ ฮ่าๆ
    พี่ภูว่าจะว่าๆ ว่าจะอยู่นั่นแหล่ะ ว่าจะให้ครูเพ็ญมาช่วยกันจับจิตบุญ มาซ่อมและซ้อม หรือปัดฝุ่นกันใหม่ พี่ภูเข้าใจดีว่า จิตบุญจักต้องออกเผชิญ นอกจากกิเลสตนเอง ยังมีกิเลสคนอื่นหรือ กิเลสโลก กระแสโลก
    แต่จะไม่มีผลต่อจิตบุญที่มีอินทรีย์แก่กล้า
    แต่จะมีผลเฉพาะจิตบุญที่ยังไม่มีอินทรีย์แก่กล้า ไม่คอยหมั่นทรงฌานเป็นปกติ ชอบทำจิตตก/หล่นฌาน สติห่างจิตและจิตห่างพระ สติปัญญายังไม่มากพอ

    เหตุผลทั้งปวง สาเหตุหลักๆก็มาจาก จิตพวกเราไม่ทรงฌานเป็นปกติ จึงเป็นผลทำให้จิตไม่นิ่ง เมื่อสติมีไม่มากพอ จึงเป็นเหตุทำให้จิตไม่นิ่ง ถ้าจิตเราไม่นิ่ง ธรรมชาติของจิตก็มักไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ หรือกลับไปวิ่งตามกระแสโลกเหมือน แต่จิตเขาจะปรับตัวได้ไวกว่าผู้ที่ไม่เคยฝึกจิต ไม่เป็นทุกข์ร้อน ร้อนรนมากหรือนานนัก เดี๋ยวจิตก็จะสั่งเราเองให้กลับเข้าไปสู่ความสงบได้ดังเดิม(ฌาน) สติเป็นอาหารที่ดีของจิต ฌานเป็นที่พักอาศัยที่สะดวกสบายของจิต ปัญญาเป็นNAV/GPSของจิต(ตัวนำร่องหรือนำพาดวงจิตเราไปในทิศทางที่ดีเสมอ หรือมีทางออกที่ดีให้เราเสมอ)

    ทั้งสติ สมาธิ ปัญญา แท้ที่จริงเป็นทางออกจากทุกข์ของทุกๆท่านกันอยู่แล้ว แต่พวกเราเจริญภาวนากันไม่ถูก และไม่มีผู้รู้จริงนำทาง หรือ ไม่มีผู้คนให้ความสนใจ ในปฎิบัติกันจริงๆ
    และต่อไปนี้ ถึงเวลาจิตเกาะพระ ได้รับนโยบายมาให้ปฎิบัติในเชิงรุก ไม่รับเหมือนแต่ก่อนมาแล้ว ศาสนาพุทธไม่มีวันเสื่อมสลาย เห็นแต่จิตใจคนตกต่ำหรือเสื่อมลงเทุกวัน ยกเว้นผู้ที่ฝึกจิตมาดีเยี่ยม จิตผู้คนเหล่านั้นจะมีแต่จิตใจที่ยกสูงขึ้น พัฒนาสูงยิ่งๆขึ้นไป แต่ที่น่าสงสารและเวทนาก็คือ ผู้ที่ไม่มีโอกาสปฎิบัติ หรือมีโอกาส แต่ปฎิบัติไม่จริงจัง หรือปฎิบัติไม่ถูกทิศทางอันควรจะเป็นไป ตามเจริญรอยตามมรรคมีองค์ ๘ นั้น


    ปล. ขอแถมสำหรับผู้ปฎิบัติ ถ้าผู้ใดรู้สึกจุกที่อกในขระทรงฌานหรือภาวนาใดๆ ก็ตาม ขอให้ท่านติดสายกราวด์ หมายความว่า ให้ผู้นั้นแผ่กระจายบุญกุศลของท่านออกสู่ปลายทุกส่วนขอองอวัยวะของร่างกาย โดยกำหนดจิตสื่อ/แผ่อุทิศ บุญกุศลให้ไปกับสพพรสิ่ง อันได้แก่ ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร อย่าเก็บ อย่าอั้นไว้นาน เดี๋ยวระบบประสาทตามร่างกายจะไม่สบาย พี่ภูไม่ทราบว่า ครูใกล้ชิดเคยบอกกันไหม๊ ขอให้รับทราบทั่วกันไป ณ บัดนี้....สาธุๆ

    ขอฝากอีกเรื่องหนึ่งก็คือ โดยฌแพาะจิตบำเพ็ญกับจิตบุญ เมื่อการปฎิบัติจิตเกาะพระไปได้สักระยะนึง จิตจะเริ่มเข้าสู่ความนิ่ง ความว่าง ความละเอียดของจิต จิตจะมักไปพบเจอกับสิ่งที่ละเอียดไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความละเอียดของจิตผู้ปฎิบัติท่านนั้น
    อันได้แก่ หูไปได้ยินเสียงแต่มองไม่เห็น ตาเห็นบางสิ่งบางอย่าง หรือ จิตไปรับรู้บางอย่าง ขอให้ท่านจงเข้าใจว่า ท่านกำลังรับมาจากในโลกทิพย์
    เหตุการณ์นี้ ขอให้ผู้เจริญทั้งหลาย ขอให้เข้าใจว่า เป็นเรื่องปกติ อย่าไปให้ราคา หรือความสำคัญมากนัก เพราะเมื่อผู้ปฎิบัติจริงนั้น ย่อมได้ของจริงๆ ได้แก่ จิตที่ละเอียดนั้นจะไปรับรู้เรื่องราวหรือสิ่งต่างๆในโลกทิพย์ เป็นเรื่องธรรมดา อย่าได้ไปตื่นเต้น ไเดี๋ยวจะบ้า สตินะ..สติ ท่องกันไว้ แต่ถ้าท่านเห็นเป็นนิมิตที่ไม่ดีหรือเห็นผีเห็นสาง ก็ขอให้ท่านจงอุทิศบุญกุศลไปให้เขาทั้งหมด อย่าได้กักไว้ เพราะการให้ในโลกทิพย์จะต่างกับโลกมนุษย์ เพราะโลกมนุษย์ยิ่งให้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ หรือเราให้มากเราก็เดือดร้อน ให้ทางโลกให้ได้มากที่สุดก็คือ ให้แค่เราไม่เดือดร้อน แต่ถ้าใครให้มากจนตนเองเดือดร้อนก็ผิดศีลละเอียดตนเองเข้าไปอีก
    พวกเราพอจะมองเห็นศีลละเอียดกันมั๊ย? แต่ถ้าไม่เห็น ไม่เข้าใจ ขอให้ถามกันมาได้ เดี๋ยวจะอธิบายให้ละเอียด โดยยกศีลละเอียดของคนถามนี่แหล่ะ ใครถามอะไรก็จะตอบของธรรมหรือศีลหรือจิตผู้นั้น คนอื่นไม่เกี่ยว เพราะแต่ละคน แต่ละดวงจิตนั้น มีภูมิธรรม มีภูมิปัญญาไม่เท่ากัน

    แต่ถ้าผู้ใดอยากมีภูมิธรรม ภูมิปัญญามากๆ ทำง่ายนิดเดียวก็คือ...
    ผู้ปฎิบัติไม่ละทิ้งฌาน(ธรรมนี้จะหมายถึงจิตบุญเท่านั้น เพราะถือว่าจิตบุญทุกท่านเคยเข้าถึงความละเอียดของจิตตนเองมาแล้ว) และ
    ผู้ปฎิบัติคอยหมั่นวิปัสสนากับธรรม โดยเฉพาะสิ่งที่กำลังกระทบจิตอยู่ทุกขณะ หรือให้พิจารณาธรรมอยู่แต่ปในปัจจุบัน เท่านั้น ธรรมอดีต แม้นกระทั่งผ่านไปแล้วหนึ่งลมหายใจหรือธรรมอนาคต ก็อย่าได้นำมาพิจาราณา เพราะมันเสียร่ำเวลา หรือเป็นใบไม้นอกกำมือของพระพุทธองค์ พระองค์ท่านให้เหตุผลว่า มันไม่มีประโยชน์อันใด
    แต่จริงๆแล้ว ธรรมะนั้นมีมากมายก่ายกอง ดั่งต้นไม้มีใบมากมาย นั่นเอง
    แต่จะนำใบไม้ที่นำมาเพื่อประโยชน์เท่านั้น

     
  2. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ถิ่นไทยในป่ากว้าง.. ห่างไกล
    อนาถแสงอารยธรรมใด.. ส่องบ้าง
    เห็นเทียนอยู่รำไร.. เล่มหนึ่ง
    ครูนั่นแหละ.. อาจสร้าง.. เสกให้.. ชัชวาลย์

    ม.ล.ปิ่น มาลากุล
     
  3. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    อย่า อยู่ อย่าง อยาก
    ยังอยาก ย่อมอยู่ยาก ยุ่งยิ่ง
    ยอมอยู่ อย่างยุบอยาก ยิ้มเยือน
    อยากยิบ อยากยับ ยุ่งเหยิง ยับเยิน

    เขียนไปได้ไงน้อเรา!!?? :(
    jumgerman 84
     
  4. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    โอปนยิโก

    การรักษาไม่สบายใจ วิธีเดียวคือหยุดคิด
    การคิดดีคิดถูก คือโอปนยิโก น้อมเข้ามาดูตัว

    ทำใจสงบแล้วพิจารณาไม่สบายใจนี้ เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ความรู้สึกที่ไม่ดี ให้เราพิจารณาว่าความไม่สบายใจก็เพียงแค่ไม่สบายใจ ความรู้สึกไม่ดีก็เพียงความรู้สึกไม่ดีเท่านั้น

    หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ

    เมื่อเกิดความรู้สึกตัวชัดเจน รู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ความรู้สึกตัวชัดเจน กายกำลังทำอะไรอยู่ เพียงเท่านี้ไม่สบายใจก็จะหายไป ไม่สบายใจตั้งอยู่ไม่ได้ เมื่อมีสติสัมปชัญญะ
    จริงๆ แล้วการทำใจให้สบายก็เพียงเท่านี้
    เพียงรู้จักคิดดีคิดถูกแล้วก็เจริญสติสัมปชัญญะ
    เพียงเท่านี้ไม่สบายใจต่างๆ ก็จะหายไป...
    ****************************************
    คัดจากหนังสือธรรมบรรยายเรื่อง "สอนเดินจงกรม" โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,094
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ครูนั่นแหละ

    =================================
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=5RMrltCDCwI]Bette Midler-Wind Beneathe my wings.mp4 - YouTube[/ame]

    แด่ท่านอาจารย์ภูและคุณครูเพ็ญค่ะ จากพวกเรา"จิตเกาะพระ"
     
  6. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681
    ขอนำคำกลอนเตือนสติ ที่เคยพบเจอ มาฝากเพื่อนพ้องน้องพี่
    เอาไว้พิจารณาให้เห็นถึง สัจจธรรม เสี้ยวหนึ่งแห่งความจริงในชีวิต




    เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง

    เมื่อหม่นหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา

    เมื่อไม่มี มวลมิตร ไม่มองมา

    เมื่อมอดม้วย หมูหมา ไม่มามอง...



    ซึ่งทุกสรรพสิ่งก็หนีไม่พ้นกฏไตรลักษณ์ไปได้
    ล้วนมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดา
    นั่นคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


    นิวเวป จบ.๑๔
     
  7. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยา ไม่มีบุตร..อุ๊ย อยากส่งกลอนด้วยน่ะค่ะ...
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอทำความเข้าใจเรื่อง สติ
    เพราะมีจิตบุญหลายท่านยังสับสน แต่ไม่รู้จะตั้งต้นถามอย่างไร

    ตามที่ครูพร่ำ หรือ คอยพูดย้ำเตือนผู้ปฎิบัติว่า สตินะ..สติน่ะ
    เฉพาะผู้ปฎิบัติหรือจิตบุญบางท่าน ที่มักขยันทำจิตหลุด จิตตก หรือไม่คอยหมั่นทรงฌาน

    แต่สำหรับผู้ปฎิบัติ หรือจิตบุญที่คอยหมั่นทรงฌานอยู่เป็นปรกตินั้น ไม่ต้องตามหาสติของตนซะให้หนื่อย
    เพราะใน๘ระที่จิตเขาทรงฌานอยู่นั้น เป็นจิตที่มีสติสัมปชัญญะ หรือมีสติมากครบถ้วนอยู่แล้ว
    พวกเราไม่ต้องไปตามหา เพราะสติไปรวมกับจิตเรียบร้อยแล้ว

    แต่ผู้ที่จิตมิได้ทรงฌานเท่านั้น จำเป็นต้องมีสติให้มาก โดยการเรียกสติตนเองกลับคืนมาง่ายที่สุด
    ก็คือ ระลึกหรือนึกถึงพระบ่อยๆ เนืองๆ

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่ชอบทำจิตหลุด จิตตก จิตไม่คอยหมั่นทรงฌานเป็นปกตินั้น
    พวกท่านกำลังตั้งตนอยู่ในความประมาททั้งสิ้น สำหรับพวกที่เผลอสติบ่อย
    เพราะท่านอาจจะไปเยี่ยมอบายภูมิก่อน ไปพระนิพพานก็เป็นได้
    แต่ถ้าท่านตายในขณะที่จิตเป็น อกุศล จงพึงระวังให้ดี

    ปล. เฉพาะจิตบุญ ท่านจะละขันธ์๕ให้เด็ดขาด โดยฝึกแยกกาย แยกจิตให้ชิน
    หรือคอยหมั่นละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ประการให้หมด แต่ถ้าละไม่หมด จิตก็ไปพระนิพพานไม่ได้
    แต่ถ้าเป็นจิตบุญแล้ว ไม่ขยันทรงฌาน ท่านจะเสียใจภายหลัง(ระวังให้ดี บบ.เตือนบ่อยมากเลย)
    เพราะจิตอาจจะไปไม่ถึงพระนิพพาน คืนวานก่อนรับสื่อจากบบ.พระองค์มีพระมหาเมตตากับเหล่าจิตบุญมาก
    พวกจิตบุญก็ทำให้พระองค์ท่านสบายใจกันด้วย ผมรับรองจนเหนื่อยแล้ว
    พี่ภูปรึกษาครูเพ็ญแล้ว ท่านบอกว่าไงรู้ป่าว พี่ภูอย่าไปรับรอง นี่จิตพี่ภูคงมีเมตตามากเกินไป
    พี่ภูโดนอีก แต่บบ.ไม่ได้ตำหนิแต่อย่างไร ได้แค่เตือนเท่านั้น มิได้กล่าวโทษแต่อย่างไร
    มีแต่พี่ภูนี่แหล่ะ เที่ยวไปรับรองจิตบุญไปทั่ว แล้วทำไงได้ พวกท่านก็ลองมาเป็นพี่ภูกันบ้าง
    พวกท่านจิตบุญ ถ้านึกไม่ออก ก็ขอให้นึกว่า คนๆนั้นเป็นลูกเต้าของตนสิ นั่น เห็นมั๊ย เข้าใจแล้วดิ่

    ขออีกเรื่องนึง ก็คือ...
    สำหรับจิตบุญยังไม่แน่ใจ หรือไม่รู้ตนเองตัดกิเลสละเอียดของตนเองได้แล้วหรือยัง?
    ขอให้สังเกตดูจิตตนเอง ในขณะที่มีสิ่งมากระทบจิตนั้น แต่ถ้านิ่งและเฉยรู้ก็รอดไป
    แต่ถ้าไม่ใช่ควรระวังให้ดี จิตขึ้นพระนิพพานไม่ได้ ไม่รู้ด้วย บอกกัน เตือนกันจนเหนื่อยแล้วว่า
    ให้คอยหมั่นทรงฌานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้าใจมั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เพราะในขณะจิตบุญทรงฌานอยู่นั้น เป็นเขตแดนบุญและกุศลแทบทั้งสิ้น ดูง่ายๆก็คือ
    ลมหายใจจะละเอียด ลมหายใจจะแผ่วเบา เหมือนเราหายใจไม่อิ่ม แต่อิ่มมาก ตรงนี้สุสบายใจมากๆ
    เพราะจิตกำลังsave energy(ประหยัดพลังจิต)

    ขอกลับมาที่เดิมใหม่ก็คือ ขอให้จิตบุญคอยดูจิตทุกขณะจิต หรือมีสิ่งใดๆมากระทบจิต
    ขอยกตัวอย่าง เช่น..
    เมื่อมีคนชมเรา(เธอดี หล่อ/สวย น่ารัก เท่ แรด เอ๊ย เริ๊ด เชิด โสด เซ็กซี่ หรู ดุดี มีสไตล์)
    แต่ถ้าจิตของเราตามอารมณ์ที่คนอื่นชม หรือตัวลอยไปกับคำชมนั้นๆ ละก้อ อันนี้เสร็จแน่ๆ
    หรือ เมื่อคนมาตำหนิ ติเตียน ด่าพ่อล่อแม่ ตบหน้าตีหัว ฆ่าเราทิ้ง
    หรือใครก็ตามมาทำให้เราโกรธ หรือไม่สบายใจ เป็นต้น รีบหันมาดูที่จิตตัวเดียวว่า
    มันไปหลงโกรธ หลงไม่พอใจ หลงไปวิ่งตาม อันนี้ก็เสร็จอีก

    สรุปแล้ว ทั้งชมหรือไม่ชม จิตจะต้องนิ่งเหมือนหิน หรือคล้ายหินให้ได้ ไม่ได้ก็ใกล้เคียง
    หรืออย่าไปวิ่งตามหรือแกว่งนิดหน่อย แล้วกลับมาทัน เอ่อ อันค่อยยังชั่ว
    หรือ แปลว่า ธาตอินทรีย์ทั้ง๕ ยังไม่ค่อยแก่กล้า
    แต่ถ้าสำหรับจิตผู้ที่เข้าไปถึงความละเอียดมาก ความว่าง จิตอนัตตา พวกนี้จะไม่มีผลสักนิดเดียว

    พี่ภูทราบนะว่ามีใครบ้าง ไม่อยากเอ๋ยชื่อ
    แต่ถ้าบบ.ไม่เตือน พี่ภูก็จะไม่ส่งPMไปหานะ
    บอกแล้ว จิตเกาะพระ ไม่ปล่อยพวกท่านแน่ๆ ถึงจบกิจไปแล้วก็ตาม
    แต่ตราบใดจิตบุญยังมี/ครองขันธ์ ๕ อยู่ พึงอย่าตั้งอยู่บนความประมาท
    ขนาดพระอรหันต์ ท่านยังไม่ละสังขาร ท่านไม่ลืมเจริญสติภาวนา หรือทรงฌานเป็นปกติ
    หรือที่หนักกว่านั้นก็คือ เข้านิโรธไปเลย
    พวกคุณอย่าไปแอบดูจิตพระสงฆ์กันนะ เพราะมีอยู่หลายท่าน พอปิดกุฏิไปแล้ว แอบไปนอนหลับ
    แต่ถ้าเป็นพระอริยเจ้า ท่านจะนั่งฌานหลับแทน
     
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    pporjai*, ภูทยานฌาน2, Survival, newwave1959, เมธญา, ตะกั่วป่า, Patcharawan, watjojoj

    ธรรมะสวัสดีทุก ๆ ท่านนะคะ รวมทั้งไฟเขียวคุณพี่ต้อย-สุภาทรด้วยค่ะ
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พี่ภูขอหน่อยๆๆ คันปาก..อิอิ
    ใครบอกคุณพี่ว่า อายภรรยาไม่มีบุตร แต่ถ้าภรรยาหรือคุณสามีคนใดคนหนึ่ง เป็นหมันละ ประเด็นนี้อันเป็นต้องตกกระป๋องไป
    แต่ผมว่าออ-ดอครับ ฮ่าๆ พอแร๊ะๆๆ ห้ามใครมาต่อยอด พี่ภูนะ
    เพราะพี่ภู..จบแร๊ะๆ ห้ามต่อนะ โดยเฉพาะคุณวัฒ ห้ามๆๆๆ
    ขอโทษนะครับ คุณพี่พอใจ ปกติผมไม่เคยคัดคอเลยสักครั้งเดียว ฮ่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤศจิกายน 2012
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ขอกลับมาที่เดิมใหม่ก็คือ ขอให้จิตบุญคอยดูจิตทุกขณะจิต หรือมีสิ่งใดๆมากระทบจิต
    ขอยกตัวอย่าง เช่น..
    เมื่อมีคนชมเรา(เธอดี หล่อ/สวย น่ารัก เท่ แรด เอ๊ย เริ๊ด เชิด โสด เซ็กซี่ หรู ดุดี มีสไตล์)
    แต่ถ้าจิตของเราตามอารมณ์ที่คนอื่นชม หรือตัวลอยไปกับคำชมนั้นๆ ละก้อ อันนี้เสร็จแน่ๆ
    หรือ เมื่อคนมาตำหนิ ติเตียน ด่าพ่อล่อแม่ ตบหน้าตีหัว ฆ่าเราทิ้ง
    หรือใครก็ตามมาทำให้เราโกรธ หรือไม่สบายใจ เป็นต้น รีบหันมาดูที่จิตตัวเดียวว่า
    มันไปหลงโกรธ หลงไม่พอใจ หลงไปวิ่งตาม อันนี้ก็เสร็จอีก

    สรุปแล้ว ทั้งชมหรือไม่ชม จิตจะต้องนิ่งเหมือนหิน หรือคล้ายหินให้ได้ ไม่ได้ก็ใกล้เคียง
    หรืออย่าไปวิ่งตามหรือแกว่งนิดหน่อย แล้วกลับมาทัน เอ่อ อันค่อยยังชั่ว
    หรือ แปลว่า ธาตอินทรีย์ทั้ง๕ ยังไม่ค่อยแก่กล้า
    แต่ถ้าสำหรับจิตผู้ที่เข้าไปถึงความละเอียดมาก ความว่าง จิตอนัตตา พวกนี้จะไม่มีผลสักนิดเดียว
    ......................................................
    สาธุ ๆ ๆ ๆ จ้า ๆ ๆ
     
  12. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ปล. เฉพาะจิตบุญ ท่านจะละขันธ์๕ให้เด็ดขาด โดยฝึกแยกกาย แยกจิตให้ชิน
    หรือคอยหมั่นละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ประการให้หมด แต่ถ้าละไม่หมด จิตก็ไปพระนิพพานไม่ได้
    ......................................................................
    นิพพานกันเถิดชาตินี้....
     
  13. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ต่อนิดนึง ๆ ๆ ค่ะ อ.ใหญ่ภู เด่วนี้..เป็นหมัน ก็มีลูกได้ค่ะ เอาใส่หลอดทดลองเพราะเชื้อ ..อือ ๆ ๆ มหัศจรรย์ยิ่งเหลือเกิน....
     
  14. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    พี่ภูขอหน่อยๆๆ คันปาก..อิอิ
    ใครบอกคุณพี่ว่า อายภรรยาไม่มีบุตร แต่ถ้าภรรยาหรือคุณสามีคนใดคนหนึ่ง เป็นหมันละ ประเด็นนี้อันเป็นต้องตกกระป๋องไป
    แต่ผมว่าออ-ดอครับ ฮ่าๆ พอแร๊ะๆๆ ห้ามใครมาต่อยอด พี่ภูนะ
    เพราะพี่ภู..จบแร๊ะๆ ห้ามต่อนะ โดยเฉพาะคุณวัฒ ห้ามๆๆๆ
    ขอโทษนะครับ คุณพี่พอใจ ปกติผมไม่เคยคัดคอเลยสักครั้งเดียว ฮ่าๆ



    อันนี้พี่ภูจะแกล้ง สว หรือเปล่าครับนี่
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ืืืฟรีนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย (ยกเว้น คุณครูแนท)
    ถ้าเสียตังค์ลูกหว้าถึงจะไป หรือว่าขึ้นรถไฟไม่เป็นกันแน่ ฮ่า ไปทางเรือได้ป่าววว


    พี่ภูขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ไปร่วมสัมมนาจิตเกาะพระในครั้งนี้ด้วย
    แต่ถ้ารวมคุณฐิติมา ศิษย์ครูอัญญะมณี ก็เป็น ๖๔ ท่าน

    ปกติตามที่รู้มาว่ามีประมาณ ๖๐ ท่าน แต่เหตุไฉน เกินมาอีก ๔ ท่าน
    พอมารู้ทีหลังก็ อ๋อ ที่แท้หลวงพ่อของเรานี่เอง ไปดลจิตลูกหลานของท่านมาใหญ่เลยคราวนี้ ยังๆ ตัวเลขยังไม่หยุดนิ่งนะ คุณวิทย์
    ครูเพ็ญเอ๊ย มันเกิดอะไรขึ้น...ที่นี่ เดี๋ยวในงานหลวงพ่อก็มา ไม่เชื่อไปถามคุณแม่อัญญะมณีดูนะะะะะ เห่อๆๆๆ พี่ภูอยากจะร้องเพลงอะไรดีวุ๊ยน่ะะะ

     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    555+ ครูวัฒ ท่านอย่าเอ็ดไป เดี๋ยว สส. สว. จะตื่น
    โดยเฉพาะครูเพ็ญ คุณพี่สุภาทร ครูจู่มเยอรมัน
     
  17. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    กลุ่มนี้ จิตใจวัยรุ่นยิ่งกว่าครูวัฒน์อีกนะคะ ขอบอก ๆ ๆ 5555
     
  18. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ก๊าบผ๊ม อิๆๆๆๆๆๆ ร้อนตัว เย็นจิต
    ใครมาอ่านคงพิลึกๆดี :cool::cool:
     
  19. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    พี่เพ็ญคงเหนื่อยขันธ์มากแน่ๆครับ จิตบุญยิงคำถามเป็นชุด ดึกทุกวันแหงๆ (โดยเฉพาะผมเอง ) ได้คำตอบที่พี่เพ็ญเขียนแล้ว สมเป็นครูละเอียดจริงๆครับ :cool::cool:
    ใครที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาแล้วก็อย่าดับแซ่บ หายจ้อยนะครับ มาช่วยพี่เพ็ญสอนรุ่นน้องต่อๆกันไป
     
  20. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณพี่พอใจ สบายดีนะค่ะ ไม่เห็นตั้งนาน หายไปไหนมาค่ะ ช่วงนี้ไม่มีเพลงมาฝากเหรอค่ะ เกษนึกอยากทานส้มตำ เลยอยากฟังเพลงลูกทุ่งค่ะ 5555+ เกี่ยวกันมั้ยนี้ คุณพี่พอใจจะเก็ตมั้ยนาาา...อิๆๆ ({)({)({)
     

แชร์หน้านี้

Loading...