สมาธิจิตติดต่อมนุษย์ต่างดาว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย AnGeliQue, 3 กันยายน 2007.

  1. AnGeliQue

    AnGeliQue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +418
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ประสบการณ์ลี้ลับ: สมาธิจิตติดต่อมนุษย์ต่างดาว</TD></TR><TR><TD>
    โดย สายทิพย์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <LINK href="/yingthai.css" type=text/css rel=stylesheet>
    สมาธิจิตติดต่อมนุษย์ต่างดาว
    ตอนที่ 1

    ณ เวิ้งจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลมีหมู่ดาวน้อยใหญ่โคจรอยู่มากมาย เป็นไปได้หรือไม่ว่านอกจากโลกใบนี้ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่แล้ว ในดาวดวงอื่นๆจะมีมนุษย์ต่างดาวอยู่เหมือนโลกของเราหรือไม่ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตครั้งที่ 11 ที่ผ่านมา ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน นักวิทยาศาสตร์ที่สนใจศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับจานบินและมนุษย์ต่างดาว ท่านได้ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรบรรยายถึงวิธีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งจากผลงานการค้นคว้าของท่านในเรื่องดังกล่าวได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวท่านเองและยังสร้างความมหัศจรรย์ให้กับคนไทยที่สนใจเป็นจำนวนมาก ขั้นตอนและวิธีการติดต่อทางจิตด้วยการทำสมาธินั้นเป็นอย่างไร เราลองมาฟังเนื้อหาที่ท่านบรรยายกัน ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านจะได้ประโยชน์และสามารถนำไปทดลองด้วยตนเองได้
    วิธีติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ซึ่งผมก็ได้ศึกษามาเกือบ 20 ปีแล้ว คือผมได้มีโอกาสเห็นจานบินเป็นครั้งแรกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ที่ผมไปเรียนต่อที่สหรัฐฯคนเห็นเป็นพันคนนะ มีคนเอากล้องส่องทางไกลมาให้ดูก็เห็นมี 2 ลำ ลอยอยู่ หลังจากนั้นผมก็สนใจและติดตามเรื่อยมา จนผมจบปริญญาเอกทางการแพทย์ที่อเมริกา พอผมกลับมาประเทศไทยผมก็ยังสนใจอยู่ ผมมาคิดว่าถ้าเราจะศึกษาเรื่องนี้ให้มากขึ้นเนี่ยเราควรจะทำอย่างไร ผมก็ไปปรึกษากับ ดร.อาจอง ชุมสายฯ เรารู้จักกันมาแต่เด็กแล้วนะ ดร.อาจองท่านเคยไปบรรยายที่จุฬาฯ ท่านบอกท่านเคยเห็นจานบินมา 30 ครั้งแล้ว ท่านบอกผมว่าที่ท่านคิดเครื่องมือที่เอาจรวดไปลงที่ดาวอังคารได้ก็เพราะ ท่านไปนั่งสมาธิที่บนเขาแล้วพวกจานบินนี่มาบอก พอท่านเสนอเข้าไปที่นาสาเขารับและก็เลยนำจรวดลำแรกไปลงที่ดาวอังคารได้ ซึ่งเมื่อผมติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ เขาก็บอกว่ารู้มั้ย อาจารย์คนนี้ (ดร.อาจอง) ก็เคยเป็นมนุษย์ต่างดาวในอดีตชาติ
    และโดยหลักของวิทยาศาสตร์คือดวงดาวบนทางช้างเผือกมีดาวเยอะแยะ ทางช้างเผือกมีดาวที่เป็นดวงอาทิตย์ 5 แสนล้านดวง ในระบบสุริยะจักรวาล ทำให้นึกถึงหนังที่พระเอกกับนางเอกนัดพบกันบนทางช้างเผือกนะ แล้วจะไปเจอกันได้ยังไงดาวแยะเหลือเกิน ผมเคยไปเรียนถามท่านอาจารย์จรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ว่าเอ๊! นางเอกกับพระเอกนัดเจอกันบนทางช้างเผือก ดวงดาวตั้งแสนล้านดวงจะไปเจอกันได้ยังไง ท่านบอก
     
  2. AnGeliQue

    AnGeliQue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +418
    สมาธิจิตติดต่อมนุษย์ต่างดาว
    ตอนที่ จบ

    ผู้เขียนเคยอ่านประวัติความเป็นมาของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน จึงทราบว่าก่อนที่ท่านจะมาเกี่ยวข้องกับ มนุษย์ต่างดาว ท่านเคยมีประสบการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน คือเมื่ออายุ 10 กว่าขวบ ท่านมักพบปรากฏการณ์มหัศจรรย์ คือมักมีแสงส่องจากเมฆลงมาที่ตัวหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งที่ถึงกับเป็นลมล้มลง และมีรอยแดงที่หน้าอกเป็นวงกลม ท่านเองก็เกิดความสงสัยว่ามีอะไรอยู่หลังก้อนเมฆนั้น กระทั่งเมื่อไปศึกษาต่อยังสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ.2497 ขณะอายุ 19 ปี ก็มีโอกาสได้เห็นจานบิน 2 ลำ ที่รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐฯ ขณะไปตั้งแคมป์กับเพื่อนทำให้เกิดความสนใจเรื่อง UFOตั้งแต่นั้นมากระทั่งถึงปัจจุบัน
    และยังมีเรื่องแปลกบางเรื่องที่เกิดกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม ในช่วงแรกที่ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว เรื่องเกิดขึ้น เมื่อปี 2538 ต้นเดือนมกราคม อาจารย์หมอเทพนมได้ไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอ และมนุษย์ต่างดาวที่ร้านหนังสือใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ คนขายบอกว่าไม่มี แต่ในร้านมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาอาจารย์เทพนมบอกว่า เธอได้รับคำสั่งให้พาไปซื้อหนังสือ เธอรออยู่นานแล้ว และยืนยันว่ามีหนังสือพวกนี้แน่ๆในร้านนี้ เธอพาไปดูหลังร้าน ระหว่างเดินไปเธอถามว่า เชื่อมั้ยว่ามนุษย์ต่างดาวที่หน้าตาเหมือนพวกคุณเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งนานแล้ว และเมื่อไปถึงชั้นหนังสือหลังร้าน เธอก็ชี้ให้อาจารย์หมอเทพนมดูหนังสือจำนวนมากที่ตั้งเรียงอยู่บนชั้นหนังสือ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เธอบอกว่า
     
  3. HYRAL

    HYRAL Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +49
    เป็นส่วนหนึ่งของพุทธศาสนา หรือครับ
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    พุทธศาสนา คือ สิ่งที่คน บูชา ทางศีลและจริยธรรม

    เรื่อง มนุษย์ต่างดาว เป็น การค้นคว้า ทางวิทยาศาตร์และวิชาการ
    ไม่ใช่ศาสนา


    ไม่เหมือนคนที่มีความรู้อยู่ แค่ ระดับ ปอเนาะ..แยกไม่ออก ว่า อะไร วิทยาศาสตร์ อะไร ศาสนา

    .. ปากว่ารัก สันติภาพ..รักทุกคน..แต่เชือดทุกคน..จนกว่า จะครบ หนึ่ง หมื่น คน..10,000 คน

    หนักแผ่นดิน จริง..ๆๆๆ
    เขาลบข้อความทั้งหมดที่คุณ โปสมา ตลอด
    ยังโผล่มาอีก...อย่างนี้ เขาเรียกว่า..หน้า...ด้า..หน้า..ท...น
     
  5. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]
    ดร.เทพนมออกย้ำอีกครั้งว่า
     
  6. ozzman

    ozzman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +246
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ.....ผมเป็นคนที่รับฟังนะครับไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรโดยไร้เหตุผล
     
  7. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    :love:

    ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ​

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กันยายน 2007
  8. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    ประวัติความเป็นมาของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน
    ที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบิน


    [​IMG]


    เมื่ออายุ 10 กว่าขวบ ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ พบปรากฎการณ์ ประหลาดกับตัวเอง ที่มีแสงส่องจากเมฆลงมาที่ตัวหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งถึงกับเป็นลมล้มลง มีรอยแดงที่หน้าอกเป็นวงกลม แสงมักส่องลงมาจากเมฆ และคิดว่ามีสิ่งเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังม่านเมฆนั้น

    พ.ศ.2497 (อายุ19) เห็นยูเอฟโอ 2 ลำ (รูปร่างกลม มีโคนสีเงิน มีหน้าต่างรอบ) ขณะไปตั้งแคมป์กับเพื่อนชาวอเมริกัน ที่รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา ในตอนเช้าราว 10 : 00 น. มีคนเห็นทั้งหมดมากกว่า 1,000 คน เป็นระยะเวลานานถึง 2 ชั่วโมง เมื่อเครื่องบินขับไล่ 2 ลำของสหรัฐขึ้นสกัด ยูเอฟโอ 2 ลำ ก็พุ่งตรงขึ้นในแนวตั้งอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา ในท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆเลยทำให้สนใจเรื่องยูเอฟโอมาตั้งแต่นั้นเป็นอย่างมาก ว่ามันคืออะไรกันแน่ จึงได้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมยูเอฟโอ และ ติดตามเรื่องนี้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการทำสมาธิ ก็ได้ปฎิบัติมาราว 20 ปี เศษ

    พ.ศ. 2535 เริ่มทำสมาธิอย่างจริงจัง เพื่อติดต่อกับผู้ขับขี่ยูเอฟโอจากคำแนะนำของ ดร. อาจอง ชุมสาย แต่ติดต่อไม่ได้ ยานบินไม่มาปรากฎให้เห็นหลังทำสมาธิ

    พ.ศ. 2537 เริ่มรู้สึกว่าติดต่อได้กับผู้ขับขี่ยูเอฟโอ ถ่ายภาพยูเอฟโอได้ที่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อ 5 มิถุนายน 2537 เวลาประมาณ 10 โมงเช้า มีความรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวก่อนที่ยูเอฟโอจะมา และความรู้สึกนี้จะเกิดทุกครั้งก่อนยูเอฟโอจะมา หรือเมื่อเขามาคอยอยู่แล้ว

    [​IMG]

    พ.ศ. 2538 ต้นเดือนมกราคม ได้ไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ คนขายบอกว่าไม่มี ยังไม่ได้ขนมาจากร้านเก่า แต่มีผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง ที่กำลังยืนจ้องอยู่และเข้ามาบอกว่า เธอได้รับคำสั่งให้พาไปซื้อหนังสือ ยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว รออยู่ตั้งนานแล้วไม่เห็นสนใจ ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวทันสมัย ผมยาวเลยไหล่ นุ่งกางเกงบูยีนส์ ยืนยันว่า มีหนังสือพวกนี้แน่ในร้านนี้ และพาไปดูที่หลังร้าน ระหว่างเดินไปเธอถามว่า เชื่อไหมว่ามนุษย์ต่างดาว ที่หน้าตาเหมือนพวกคุณ เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งนานแล้ว? ก็ตอบไปว่าไม่ทราบ เธอยิ้มแล้วถามว่า ไม่ทราบจริง ๆ หรือแกล้งไม่ทราบ...เมื่อเข้าไปใกล้ชั้นหนังสือหลังร้าน เธอก็ชี้ให้ดูหนังสือจำนวนมาก ที่ ตั้งอยู่บนชั้นหนังสือ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และบอกว่า นี่ไงหนังสือที่คนขายบอกว่าไม่มี คุณเลือกซื้อเอาตามใจชอบ หมดหน้าที่ของฉันแล้ว...กล่าวจบก็เดินจากไป ผู้หญิงคนนี้ถือถุงช้อปปิ้งไว้ทั้งสองมือ ที่น่าประหลาดก็คือ ทำไมเธอจึงบอกว่าถูกสั่งให้มาพาไปชั้นหนังสือยูเอฟโอ และพาไปหาหนังสือได้ถูกต้อง

    ต่อมาราวอีก 1 สัปดาห์ ผู้เขียนไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อน ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ใน กทม. ก็พบผู้หญิงคนนี้อีก เธอจ้องเขม็งยิ้มและโบกมือให้ แต่ไม่ได้พูดกัน ทำให้สงสัยว่า เธอติดตามดูเราหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นก็ไม่พบอีกเลย มีพระที่เก่งทางการทำสมาธิ และสามารถติดต่อกับผู้ขับขี่ยานบินได้เช่นกัน บอกว่า...ผู้หญิงที่เล่าให้ฟังนี้ ไม่ใช่มนุษย์นะ อย่าไปคบหาสมาคมด้วย...

    พ.ศ. 2539 ผู้เขียนเป็นประธานจัดการประชุมมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ระหว่างวันที่ 15 - 16 มิถุนายน 2539 และจัดให้มี นิทรรศการ ภาพยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว เป็นครั้งแรกในประเทศไทย มีประชาชนเข้าชมงานนี้ทั้งหมดหมื่นคนเศษ เกิดปรากฏการณ์พิเศษ 2 อย่างที่ทำให้คิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ คือ

    1. หลังจากนิทรรศการยูเอฟโอผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ สุนัขดัลเมเชียน เพศเมียตัวใหญ่ที่บ้านเกิดตายอย่างลึกลับ ทั้งที่มีสุขภาพดี คือ การนอนตายอยู่ในสระบัวที่น้ำลึกไม่ถึงคืบ สัตวแพทย์ไม่รู้ว่าเป็นอะไรตาย ตามตัวไม่มีบาดแผลอย่างใดทั้งสิ้น และไม่ได้จมน้ำตายอย่างแน่นอน

    2. อีกสัปดาห์ต่อมา หลังจากสุนัชตายอย่างลึกลับแล้ว มีโทรศัพท์เข้ามาราวตี 2 เสียงประหลาดพูดเป็นเสียงผู้ชาย เมื่อรับสายและนึกด่าในใจ ว่าใครหนอช่างไม่มีมารยาทโทร.เข้ามาดึกดื่น ก็ได้ยินเสียงพูดรัวเป็นภาษาแขก และพูดต่อมาเป็นภาษาไทยว่า...เราคือมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ ขณะนี้ยานบินของเรากำลังลอยอยู่เหนือบ้านท่าน เรารู้นะว่าท่านกำลังด่าเรา แต่เวลาหลังเที่ยงคืน เป็นเวลาที่การติดต่อทางจิตทำได้ดีที่สุด

    เราทราบว่าท่านสนใจยานบินของพวกเรามาก พวกเราได้ไปดูนิทรรศการที่ท่านได้จัดแล้ว ขอบใจที่ช่วยเผยแพร่ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง พวกเราอยากขอเชิญท่านไปพบในวันพฤหัสฯ หน้า ที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่แก่งกระจาน ชาวบ้านเรียกกันว่า "เกาะโสมพันปี" เราและยานบินจะลงมาพบกับท่าน เวลา 1 ทุ่มตรง ขอให้ไปคนเดียว...ผู้เขียนขณะนั้นนึกในใจว่า สงสัยคนบ้าโทร.มามากกว่า

    ในวันรุ่งขึ้นมีลูกศิษย์ที่สนใจด้านยูเอฟโอมาหา และเล่าให้ฟังว่าเขาและครอบครัวเพิ่งเห็นยูเอฟโอที่ลาดพร้าว เมื่อไม่นานก่อนหน้านั้น เวลาประมาณ 3 ทุ่ม พอเล่าให้ฟังถึงเรื่องการติดต่อ เขาก็กระตือรือร้นมาก ขอไปพบแทน ผู้เขียนก็ไม่ได้นึกถึงอันตรายอันอาจเกิดขึ้นได้ หากเข้าไปใกล้ยูเอฟโอ ก็บอกเขาว่า... "อาจารย์ไม่ว่างไปไม่ได้ ถ้าเธออยากไปก็ไปได้ แต่เอาเพื่อนไปด้วย และระวังตัว" เพราะถ้ามันมาจริง ๆ ก็คงยงุ่เหมือนกัน ลูกศิษย์คนนี้อยู่มหาวิทยาลัยปี 4 เรียนดี สุขภาพดี เขาไปกับเพื่อนอีก 3 คน ต่อมาอีก 3 วัน เพื่อนของเขาติดต่อมาบอกว่า ลูกศิษย์คนดังกล่าวตายเสียแล้วอย่างลึกลับ คืนแรกพวกเขาไปด้วยกัน 4 คน รอแต่หัวค่ำจนเช้าบนเกาะที่ชาวบ้านบอกว่า เห็นจานบินขึ้นลงบ่อย ๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ลูกศิษย์เขาบอกว่า เราไปกันหลายคนเขาคงไม่มา ขออยู่อีกคืน ขอไปอยู่คนเดียว เพราะเกาะเตียนโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่อยู่เลย ตอนเย็น เพื่อนก็เอาเรือหางยาวไปส่งไว้ และจะมารับกลับตอนเช้า เขาก็เตรียมกล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป เครื่องวัดเสียงไว้ครบ ตอนเช้าเพื่อนมารับ ก็พบนอนตายอยู่บนตลิ่ง น้ำตื้น เช่นเดียวกับสุนัข ดัลเมเชียน ตำรวจได้มาชันสูตรศพ ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายหรือถูกงูกัด ไม่รู้สาเหตุของการตาย ของผู้ชายอายุราว 20 กว่า สุขภาพดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นนักกีฬาอีกด้วย ตำรวจลงในบันทึกประจำวันว่า สาเหตุการตายคือหัวใจวาย

    เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกัน ทำให้ต้องสงสัยว่า มันอาจเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอก็ได้ เขาอาจไม่ต้องการให้เราเปิดเผยมากในเรื่องยูเอฟโอ และมนุษย์ต่างดาว ผู้เขียนรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกศิษย์คนนี้ต้องตายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่อาจเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอด้วย

    พ.ศ. 2540 ในแต่ละปี ผู้เขียนได้รับเชิญไปประชุม หรือบรรยายในต่างประเทศด้วยหัวข้อ การสาธารณสุข หรือสิ่งแวดล้อมปีละ 7 - 8 ครั้งทั่วโลก สังเกตว่าตั้งแต่ พ.ศ. 2539 - 2540 เป็นต้นมา ขณะอยู่ในเครื่องบิน หากทำสมาธินึกถึงผู้ขับขี่ ยูเอฟโอ ภายใน 5 -10 นาที ยูเอฟโอจะปรากฎให้เห็น 1-8 ลำ แต่มักบินอยู่ในระยะไกลกว่าเครื่องบินโดยสาร และบินสูงกว่า 40,000 ฟุต เห็นกันหลายครั้ง ถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอได้หลายครั้ง รู้สึกว่าพอทำจิตให้นิ่ง นึกถึงเขาและบอกในใจว่าหากท่านอยู่ใกล้ ๆ ขอให้นำยานมาปรากฎให้เห็น...ยานบินก็ปรากฎทุกครั้ง ฝรั่งที่นั่งข้าง ๆ ก็เห็นเช่นกัน มีทั้งยานรูปร่างกลมและยาว

    และในปีนี้เองที่การติดต่อทางจิตเป้นไปอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวคือ เมื่อการติดต่อทางจิตจะมาถึง จะรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เริ่มต้นจากลำคอ ท้ายทอย แผ่ซ่านไปยังศรีษะและใบหน้า และลงมาที่แขนทั้ง 2 ข้าง ลำตัวและ ขาทั้ง 2 ข้าง ตามลำดับ หลังจากได้รับความรู้สึกนี้แล้ว อาจมีบางอย่างปรากฎขึ้น คือ

    1. หากตั้งคำถาม ก็จะทราบคำตอบทันทีชัดเจน ฝรั่งเรียกว่า "intution" คือรู้คำตอบทันที และอธิบายไม่ได้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

    2. บางครั้งได้ยินเสียงพูดในศรีษะ แต่ไม่ได้ยินทางหู การได้ยินอีกลักษณะคือ ทางโทรศัพท์ เช่น เคยได้ยินคราวแรก ดังได้เล่าให้ฟังมาแล้ว คือ เขาจะพูดภาษาแขกรัวเร็ว เรียกชื่อเราว่า "พีระติ" และถ้าไม่ขอให้เขาพูดเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เขาก็จะพูดเป็นภาษาเขาตลอดไป

    ในเดือนพฤศจิกายน 2540 ผู้ติดต่อมาเป็นเสียงผู้หญิง ถามว่า..."พีระติ เจ้าลืมเผ่าพันธุ์ของเจ้าหมดแล้วหรือ ลืมดาวอังคารแล้วหรือ แต่เจ้าก็ลงมาอยู่ในโลกนี้ 5 พันกว่าปีแล้ว ยังไม่อยากกลับบ้านของเราอีกหรือ..." สิ่งที่เล่าให้ฟังนี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นอกจากบางครั้งอัดเสียงได้ทางโทรศัพท์ แต่ถ้าไม่ขออนุญาตก่อนก็อัดเสียงไม่ติด จะได้ยินแต่เสียงผู้เขียนพูดอยู่คนเดียว ผู้ขับขี่ยูเอฟโอ ที่ติดต่อมาเป้นคนแรก เป็นผู้หญิงนี้บอกว่า ชื่อ "พาราซิทัล" เขาบอกให้เรียกเขาว่า "มนุษย์ดาวอังคารก็แล้วกัน" เขาบอกว่า เขาได้รับมอบหมายให้มาช่วยโลกนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และตำแหน่งของเขาในดาวอังคารเป็น รองพระเจ้าแผ่นดิน เขาอธิบายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่มาติดต่อ...เพราะสายพันธุ์ เดียวกันจึงติดต่อด้วย และบอกว่าผู้เขียนเป็น เพื่อนสนิทของเขา เมื่ออยู่ดาวอังคารด้วยกัน เขาบอกว่ามนุษย์ต่างดาว มีทั้งกลุ่มที่ดี และกลุ่มไม่ดี แต่กลุ่มเขาเป็นกลุ่มดี หวังช่วยเหลือมนุษย์ทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ได้มายึดครองโลกนี้เลย เขาได้เคยพาผู้เขียนขึ้นไปดูบนยานบินใหญ่ของเขา 2 ครั้ง และพาไปดูที่ดาวอังคาร 1 ครั้ง ไปทางจิต เห็นบ้านเป็นแก้วผลึก ยอดแหลม ๆ ทุกหลังอยู่ใต้ดิน ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เขาชี้ให้ดูบ้านหลังหนึ่งที่ปิดตายอยู่ เขาบอกว่า นี่คือบ้านของท่าน ปิดตายมานานแล้ว เพราะเจ้าของบ้าน ภรรยาและลูกอีก 2 คน ได้ลงมาปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์นานแล้ว ไม่มีใครอยู่เลย

    เขาอธิบายถึงการมาด้วยยานหรือจุติมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นการเวียนว่ายตายเกิดข้ามดาว ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ส่วนมากการเวียนว่ายตายเกิด จะเกิดเฉพาะในแต่ละดาวเท่านั้น ไม่ไปเกิดข้ามดาว สิ่งที่เล่ามานี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะพิสูจน์ได้ แต่ในอนาคตอาจมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์เรื่องที่ได้รับการบอกเล่านี้ได้

    ท่านพาราซิทัล เป็นผู้นำยานบินมาปรากฏมากที่สุด คำว่า "พาราซิทัล" เพิ่งทราบจากเพื่อนชาวอินเดีย ที่เชี่ยวชาญ ทางภาษาอินดีสโบราณบอกว่า แปลสั้น ๆ ว่า "เหนือมนุษย์" แต่ท่านพาราซิทัล ท่านก็บอกว่า ท่านไม่ใช่เทวดา พรหมหรือผี แต่เป็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเป็นมนุษย์ชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของดาวอังคาร มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม จริยธรรมสูงกว่ามนุษย์มาก มีอายุยืนหลายพันปี สามารถพิชิตโรคทุกชนิดได้หมดแล้ว

    จานบินได้มาปรากฏให้ลูกชายผู้เขียนเห็นในเดือนมกราคม 2542 เมื่อเขากลับมาเยี่ยมบ้านจากสหรัฐอเมริกา ส่วนก่อนหน้านั้นในปี 2540 จานบินได้ไปปรากฏที่เมือง ฟิลาเดลเฟีย ที่ซึ่งลูกชายของผู้เขียนเรียนอยู่ จานบินนี้ถ่ายภาพได้ใกล้ ๆ ที่พักของเขา คือ Independence Hall ที่แสดง Liberty Bell ของสหรัฐ ท่าน "พาราซิทัล" บอกว่า จะช่วยดูแลให้ ไม่ต้องวิตก เขาอ้างว่า เขาบินด้วยวิธีเจาะมิติ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ปรากฏที่เมืองฟิลาเดลเฟียได้แล้ว บินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ ใช้เวลามนุษย์ 1 นาที แต่ถ้าเป็นเครื่องบินโดยสารธรรมดาใช้เวลา 55 นาที

    เมื่อ 15 มกราคม พ.ศ. 2541 ผู้อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกคน ได้โทร.เข้ามาหาผู้เขียน ณ ที่ทำงาน ราว 9 โมงเช้า พร้อมกับบอกกับเลขาฯ ว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว ต้องการพูดกับหมอเทพนม ซึ่งเลขาฯ เล่าว่าพูดเป็นภาษาแขกก่อน แล้วจึงพูดเป็นภาษาไทย เลขาฯคิดว่าคงเป็นคนสติไม่ดีโทร.เข้ามา จึงวางหู แต่ก็โทร.เข้ามาอีก พูดเช่นเดียวกันและบอกว่า คุณคงคิดว่าผมบ้า แต่ผมจะบอกว่าคุณชื่ออะไร คุณมีลูก 2 คน ชื่ออย่างนั้น ๆ ปรากฏว่าถูกต้องหมด เลขาฯ จึงยอมให้พูดกับผู้เขียน พอผู้เขียนรับสาย เขาก็พูดภาษาแขกด้วยทันทีอีก จนต้องบอกว่าผมฟังไม่รู้เรื่อง ขอให้พูดภาษาไทยหรืออังกฤษดีกว่า เขาจึงพูดภาษาไทย เสียงแปล่ง ๆ ช้า ๆ เป็นเสียงผู้ชาย เขาบอกว่า

    พวกนาซ่า ตั้งชื่อเขาว่า "เอ็ดดี้" เขาเคยถูกพวกนาซ่าจับไปขังอยู่นาน และบอกว่า เขามาจากสุดขอบจักรวาล ห่างออกไป 50 ล้านปีแสง จานบินของเขามาตกที่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ในปี ค.ศ. 1958 ตกริมภูเขา เขาเคยมาประเทศนี้ราว 800 ปีมาแล้ว ในสมัยสุโขทัย ท่าน "เอ็ดดี้" เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจานบิน และมนุษย์ต่างดาวมาก ท่านบอกว่า ที่มาติดต่อด้วย เพราะสายพันธุ์เดียวกัน และแนะนำให้รู้จักกับ เจ้าอาวาสวัดสันโป่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน บอกว่าติดต่อกันอยู่เสมอ ให้เบอร์โทรศัพท์ด้วย ผู้เขียนจึงได้รู้จักกับพระองค์นี้ เพราะผู้ขับขี่ยูเอฟโอแนะนำ ได้ไปค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงพบว่า

    1. ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง สมัยพระญาลิไท มีการพรรณนา ถึงจักรแก้วที่มายังเมืองนั้น และเอ็ดดี้ยืนยันภายหลังอีกว่า ถูกต้อง นั่นคือเมืองที่เขามาจริง

    2. องค์การนาซ่า ได้เผยแพร่ภาพที่ถ่ายได้ ด้วยกล้องดูดาวจาก HUBBLE SPACE STATION ที่สุดขอบจักรวาลด้านหนึ่งนอกโลก เป็นรูปคล้ายตึกหลายชั้น ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเอ็ดดี้ ก็ยืนยันว่า นั่นแหล่ะบ้านของเขา ใช้เวลาบินด้วยแสงราว 9 ชั่วโมงเวลามนุษย์จึงถึง เขาบอกว่ามีลูก 1 คน ตัวเขาภรรยาและลูก ไม่มีอวัยวะเพศ แต่แบ่งเป็นชายหญิง เมื่ออยากมีลูกกัน ชายหญิงก็ยืนจ้องหน้ากัน เอามือ 2 ข้างแตะกัน ลูกก็จะเกิดทันที ลอยลงมาในแคปซูลและต้องเอาไปเลี้ยงให้ตัวโต

    3. จากหนังสือ Top Secret เขียนโดย Timothy Good ได้กล่าวถึงจานบินลำหนึ่งว่ามาตก ที่ใกล้ภูเขา ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1958 ซึ่งทางกงศุลอเมริกัน ได้ส่งคนพร้อมตำรวจไทย ไปค้นหายูเอฟโอที่ตก แต่ไม่พบ และได้เขียนจดหมายลับ รายงานทำเนียบขาว มีหลักฐานแน่ชัด

    4. มีเพื่อนของผู้เขียน อยากเห็นมนุษย์ต่างดาวมาก จึงบอกให้ไปหาพระทีลำพูน พอแจ้งความประสงค์ให้พระทราบพร้อมกับนามบัตรของผู้เขียน พระท่านก็บอกว่า คืนนี้ให้ไปนอนในโบสถ์ ห้ามส่งเสียงดัง ราว 2 ยามกว่า จะได้เห็นอะไรดี ๆ เพื่อนของผู้เขียนเล่าว่า เข้าไปนอนในโบสถ์ใหญ่ที่อำเภอลี้คนเดียว ในโบสถ์พระท่านให้เปิดไฟไว้บางดวง เพื่อไม่ให้กลัว และแล้วราว 2 ยามกว่า เพื่อนผู้เขียนบอกว่า เห็นพระเดินเข้ามาในโบสถ์กับมนุษย์คนหนึ่ง ตัวสูงกว่าพระราว 1 คืบ แต่งชุดแนบเนื้อสีฟ้า ใส่บูตดำยาวถึงหัวเข่า มีแขนขาเป็นมนุษย์ แต่มือรู้สึกยาวผิดปกติ คือถึงเข่า มีนิ้วยาว 3 นิ้ว มนุษย์ตนนี้เดินเข้ามาอย่างเงียบมาก และมาหยุดก้มดูเพื่อนของผู้เขียนด้วย ทำให้เขาเห็นว่า มนุษย์ผู้นี้หน้าเป็นสี่เหลี่ยม ตาใหญ่ จมูกและปากเล็ก หน้าและมือใสเหมือนแก้ว เพื่อนผู้เขียนบอกว่ารู้สึกตกใจกลัวมาก ตัวสั่นไปหมด แต่แล้วมนุษย์ประหลาดก็เดินตามพระไปหลังโบสถ์ พอรุ่งขึ้นได้พบกับพระคุณเจ้า ท่านก็ถามว่า...เห็นของจริงแล้วชอบไหม คืนนี้คุยกับเขาไหมล่ะ เพื่อนผู้เขียนรีบกราบลาบอกท่านว่า ลูกได้เห็นครั้งหนึ่งก็เป็นบุญตา แต่ถ้าต้องคุยด้วยไม่เอาแล้วครับ พระท่านก็ยิ้ม ๆ ไม่พูดว่ากระไร

    สิ่งมีชีวิตสองรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ นี้เป็นผู้ที่ติดต่อกับผู้เขียนตลอดมา ทั้ง 2 ท่าน กล่าวเหมือนกันว่า ต้องการมาเตือนมนุษย์เกี่ยวกับ ภัยพิบัติใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2543 รายละเอียดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว 2 คนนี้มากมายที่จะเล่าสู่กันฟังได้ แต่จะเป็นความจริงแค่ไหนผู้เขียนไม่ทราบ ต้องรอให้อนาคตเป็นตัวพิสูจน์ความถูกต้องและความจริง


    :love: ​
     
  9. crazybmw

    crazybmw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +331
    "ผมไปพักที่โรงแรมจุลดิศ ตอนนั้นไปกับ ดร.พิจิตร รัตตกุล ไปเที่ยวกันน่ะ แล้วตอนกลางคืนพวกจานบินก็มา ทีแรกท่านไม่เชื่อ แล้วเวลามานี่เขาฉายไฟลงมาด้วยคล้ายๆเขารู้ว่าเราอยู่ที่กาญจนบุรีก็มีจานบินฉายไฟลงมา พอฉายไฟลงมามันจับคนไปได้นะ"


    -----------


    ที่เขาใหญ่ นี่ ผมเคยไปพักเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นรร.จุลดิสนี่แหละ ครับ ตอนปี 1998 เดือนพย. ไปดูฝนดาวตกกันกับเพื่อนประมาณสิบคน

    รร.นี้ มีสนามหญ้ากว้างมากๆ ให้นอนดูฝนดาวตกได้ หลังรร.จะมีภูเขา คืนที่ดูดาวตกกัน เราพากันมานอนดูดาวตกที่สนามหญ้า ประมาณ ตี สามถึงตีห้าดูดาวตกกันสนุกไปเลย จนบางคนเริ่มง่วงก็หลับไปบ้างก็มี

    แต่ผมและเพื่อนก็ต้องตื่นขึ้นมาดูอีกครั้งเมือเห็นแสงสีส้ม ลองอยู่ด้านหลังโรงแรม คือลอยอยู่ระหว่าง ภูเขากับโรงแรม อยู่ประมาณเหนือพื้นไม่สูงมากนัก น่าจะประมาณ 200 เมตร ค่อยๆลอยสูงขึ้นพร้อมกับมีลูกไฟ พุ่งตกลงด่านล่างเป็นระยะๆ ค่อยๆลอยช้าๆ จนสูงขึ้นและแยกเป็นสองดวง ค่อยๆลอยลับตาไป
    ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ตอนแรกคิดว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ หรือจะเป็นโคมลอย แต่ใครจะมาจุดล่ะครับ ตอนประมาณ ตีสามตีสี่เนี่ยนะ

    แต่บริเวณเขาใหญ่นี่ก็ได้ยินว่ามีจานบินอยู่เหมือนกันเลยไม่แน่ใจ ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกัน
     
  10. intah

    intah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +562
    เ อาอีกๆ
     
  11. arut

    arut สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมมีคำถามครับ เกี่ยวกับ UFO ครับ เกี่ยวข้อง กับปี 2012 ไหม?

    หลังจากที่ผมได้ทราบข่าวเกี่ยวกับ ปี 2012 คือ จะเกิดภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่บนโลกใบนี้ แต่ติดตามข่าวเรื่อยมา และได้อ่านบทความ ที่สัมภาษณ์อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ที่รู้จักในนาม ผู้ที่คิดค้น รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก

    บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลกว่า

    ผมขอนำข้อความสำคัญ มาลงนะครับ
    โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก ตอนนี้สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าสร้างกี่ลำและ สร้างเพื่ออพยพ คนบนโลกทั้งหมดไหม(อาจารย์สุมิตรทำงานกับNASAครับ)
    พร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่าโดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยีเพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

    "โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"

    เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทยเพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน ้ำท่วมโลกค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อเนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน น่าเศร้านะครับ ที่เราเลือกกลุ่มคนเหล่านี้มานำประเทศไทย



    "อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมากโดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมดยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรงไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่าเพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"

    นี่เป็นคำยืนยันจากปากของ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยานักวิทยาศาสตร์ไทยจากองค์การนาซ่า ที่หลายคนอาจเชื่อ แต่หลายคนอาจไม่เชื่อขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นอกจากอาจารย์สุมิตรแล้วยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกลายคนที่พยายามจะมาเตือนคนไทยเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วมล้างโลกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ดร.สมิทธ ธรรมสโรชประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายกรุงเทพฯ จมใต้น้ำในปีพ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) และอีกท่านที่รู้จักกันดี คือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณอยุธยา ทำนายอนาคตโลกต้องเกิดภัยพิบัติครั้งมโหฬารในปี พ.ศ.2560(ค.ศ.2017) โดยท่านทำนายไว้เมื่อปี พ.ศ.2548


    ผมล่ะเศร้าใจจริง ๆ ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา มีความรู้และจิตสำนึกน้อยมาก
    ผมเคยเห็นวัตถุ สิ่งหนึ่งอยู่บนท้องฟ้าตอนกลางวันครับ เป็นจุดสีขาวทรงกลมพอมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเคลื่อนไปข้างหน้าทีล่ะน้อย ๆ ครับ ครั้งแรกคิดว่าเป็นดาวเทียม แต่ลองมาค้นใน google แล้วเขาบอกว่า ดาวเทียมไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ ทำให้ผมมั่นใจเลยว่ามนุษย์ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว ในจักรวาล เกือบลืมที่ผมเห็นนั้นนานแล้วครับ ประมาณ 3-4 ปี ครับ ผมเองก็อยากจะติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวบ้างครับ เผื่อในเวลาที่เหลืออีกไม่กี่ปี ก่อนที่โลกจะเจอกับหายนะ ผมอยากจะถามมนุษย์ต่างดาวว่าพอจะมีอะไรช่วยประเทศไทยได้บ้างไหม
     
  12. nut--tun

    nut--tun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +113
    ถ้าอยากรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวมาที่โลกเราทำไมตามหลักของความรู้ใหม่ เชิญที่เวป

    http://mezyweb.freetzi.com/INDEX.htm

    นะคับ ในนั้นจะมีคำตอบอยู่คับ หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...