WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“พื้นดิน-ถนน” ริมตลิ่งแม่น้ำมูลสุรินทร์ทรุดยาว-ปชช.ผวาอาคารบ้านเรือนถล่ม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>29 สิงหาคม 2555 14:49 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://apis.google.com/_/apps-static/_/js/gapi/plusone/rt=j/ver=XXhbAcHbwtA.th./sv=1/am=!H1jDwnZ4JmmAOemCCw/d=1/rs=AItRSTNYRDha3i2lHx9zKKIAUzUb-FBb5A/cb=gapi.loaded_0" async="true"></SCRIPT><SCRIPT src="https://apis.google.com/_/apps-static/_/js/gapi/plusone/rt=j/ver=XXhbAcHbwtA.th./sv=1/am=!H1jDwnZ4JmmAOemCCw/d=1/rs=AItRSTNYRDha3i2lHx9zKKIAUzUb-FBb5A/cb=gapi.loaded_0" async="true"></SCRIPT><SCRIPT src="https://apis.google.com/_/apps-static/_/js/gapi/plusone/rt=j/ver=XXhbAcHbwtA.th./sv=1/am=!H1jDwnZ4JmmAOemCCw/d=1/rs=AItRSTNYRDha3i2lHx9zKKIAUzUb-FBb5A/cb=gapi.loaded_0" async="true"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>




<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000106287&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME><!--
<script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script><fb:like href="http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000106287" send="true" width="450" show_faces="false"></fb:like>--></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สุรินทร์ - พื้นดิน-ถนนคอนกรีตริมตลิ่งแม่น้ำมูล เขตเทศบาลตำบลท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ทรุดตัวลึกกว่า 1 เมตรตลอดแนวเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร ปปช.ผวาทำอาคารบ้านเรือน ร้านค้าพังถล่ม ผอ.สำนักงานเจ้าท่ารุดตรวจสอบ เร่งเสนอกรมเจ้าท่าส่งวิศวกรสำรวจเพื่อซ่อมแซมด่วน

วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่มีบ้านเรือนและร้านค้าอยู่ติดริมแม่น้ำมูลบริเวณชุมชนสามัคคี ชุมชนที่ 5 เขตเทศบาลตำบลท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ว่า ได้เกิดพื้นดินทรุดตัวยุบลงลึกเป็นระยะทางยาว สร้างความหวาดผวาให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่าอาคารบ้านเรือน ร้านค้า และโรงแรมจะพังถล่มลงไปด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่าพื้นดินบริเวณตลิ่งแม่น้ำมูล รวมทั้งถนนคอนกรีต และทางเดินคอนกรีตของเทศบาลตำบลท่าตูมเกิดการทรุดตัวลึกประมาณ 1 เมตร และดินได้พังทลายสไลด์ลงไปยังแม่น้ำมูลตลอดแนวเป็นระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร

นอกจากนี้ยังทำให้บันไดคอนกรีต ท่อระบายน้ำ และท่อน้ำประปาบริเวณตลิ่งที่ดินเกิดการทรุดตัวได้รับความเสียหายแตกหักเป็นจำนวนมาก

นางอังศุธร ศรีทองกุล เจ้าของโรงแรมศรีทองกุลริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ติดแม่น้ำมูลบริเวณที่เกิดเหตุ บอกว่า หลังจากฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาทำให้ดินบริเวณบันไดทางขึ้น-ลงติดแม่น้ำมูลของโรงแรมทรุดตัวลึกกว่า 1 เมตร แม้จะก่อสร้างด้วยปูนซีเมนต์ก็ตาม

ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงก็เกิดพื้นดินทรุดเช่นกันรวมเป็นระยะทางตลอดแนวริมแม่น้ำมูล กว่า 300 เมตร และขณะนี้ประชาชนหวาดกลัวว่าดินจะทรุดตัวขยายพื้นที่ลึกเข้ามาอีกจนถึงเขตบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งจะทำให้อาคารร้านค้า และบ้านเรือนประชาชนแตกร้าว พังถล่มลงได้

“ได้แจ้งเรื่องให้ทางเทศบาลตำบลท่าตูมทราบแล้ว แต่ทางเทศบาลฯ บอกว่าเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมเจ้าท่า ต้องรอกรมเจ้าท่ามาตรวจสอบและทำการแก้ไขปัญหาดินทรุดดังกล่าว แต่ชาวบ้านเห็นว่าเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลท่าตูม เพราะเทศบาลฯ ได้สร้างถนนคอนกรีตตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำมูล” นางอังศุธรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมานายประโยชน์ ทองภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าสาขานครราชสีมา รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำมูลที่เกิดดินทรุดตัว โดยได้เดินสำรวจ และบันทึกภาพการทรุดตัวของดินริมแม่น้ำมูลอย่างละเอียด พร้อมได้รับฟังข้อมูลจากประชาชนที่มีบ้านเรือน ร้านค้าอยู่ติดแม่น้ำมูลเพื่อรวบรวมข้อมูลหาสาเหตุการทรุดตัวของพื้นดิน

นายประโยชน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นดินที่ทรุดตัวบริเวณดังกล่าวแล้วพบว่า เป็นดินที่รับน้ำฝนมากจนอิ่มตัวจึงเกิดการทรุดตัวลงเป็นแนวยาวประมาณ 300 เมตร ทำให้ถนนคอนกรีตแตกเสียหาย และน่าเป็นห่วงอาคารบ้านเรือนของประชาชนที่ตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำมูล ซึ่งทางสำนักงานเจ้าท่าสาขานครราชสีมาจะได้ทำหนังสือและส่งภาพถ่ายไปยังกรมเจ้าท่า เพื่อให้จัดส่งวิศวกรลงมาสำรวจพื้นที่ และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการซ่อมแซมช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป









</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman
<IFRAME style="DISPLAY: none" id=rufous-sandbox frameBorder=0 scrolling=no allowtransparency="true"></IFRAME>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้ผลิตโถสุขภัณฑ์แดนปลาดิบเผยโฉม มอเตอร์ไซค์พลัง "อึ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>29 สิงหาคม 2555 18:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - โตโต้ ผู้ผลิตสุขภัณฑ์รายใหญ่ของญี่ปุ่นเผยโฉม มอเตอร์ไซค์ "พลังอึ" ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลร่วม 300 กิโลเมตร ด้วยเชื้อเพลิงจากมูลสัตว์เต็มถัง

บิลเลด ยานพาหนะพลังสิ่งปฏิกูลคันแรกของโลก เป็นจักรยานยนต์ 3 ล้อ มีชักโครกเป็นที่นั่งแทนอานทั่วไป และยังมีม้วนกระดาษชำระขนาดยักษ์ตั้งอยู่ด้านหลัง

ทว่า เมื่อพริตตี้สาวสวยขึ้นไปนั่งเพื่อทดลองขี่มอเตอร์ไซค์คันนี้ เจ้าชักโครกก็ร้องเตือนว่า เธอยังไม่ได้เติม "แก๊ส"

เคนจิ ฟูจิตะ โฆษกบริษัทโตโต้เผยกับผู้สื่อข่าวในย่านชานกรุงโตเกียวว่า แก๊สชีวภาพ ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับมอเตอร์ไซค์คันนี้ ไม่ได้มาจากอุจจาระของมุษย์ แต่เป็นมูล และของเสียจากปศุสัตว์

"พวกเราหวังเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับลูกค้าเกี่ยวกับโครงการสีเขียวของเราผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ฝักบัว และชักโครกประหยัดน้ำ" ฟูจิตะเสริม

บริษัทโตโต้ ซึ่งผลิตชักโครก ติดอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งทำความร้อน ที่ฉีดน้ำควบคุมแรงดัน และอุณหภูมิได้ หรือมีดนตรีประกอบ ยังไม่มีแผนที่จะขายมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=373><TBODY><TR><TD vAlign=top width=373 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฝนหนักน้ำท่วมโบราณสถานอยุธยาหลายแห่ง

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2555 19:04



ฝนตกหนัก น้ำไหลท่วมโบราณสถานอยุธยา หลายแห่ง นักเที่ยวผิดหวัง ไม่ได้เข้าชม

สภาพอากาศที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบ ตลอดทั้งวัน ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆฝน และในช่วงบ่าย ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เป็นเวลานับ 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโบราณสถาน และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด น้ำฝนที่ตกลงมาไหลสะสมเจิ่งนองท่วมขังโบราณสถาน ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่มีโปรแกรมเดินทางมาชมโบราณสถานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ต้องผิดหวัง ต้องเดินทางกลับ เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

B5 - War Room Falkman

 

พ่อเมืองลับแลสั่งปชช.เก็บของไว้ที่สูง

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2555 19:21น.



พ่อเมืองอุตรดิตถ์ สั่ง ประชาชน 2 หมู่บ้าน เก็บของขึ้นที่สูง พร้อมสั่งติดตาม เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำป่า ต่อเนื่อง

นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาชน หมู่ 3 และ หมู่ 6 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ให้เก็บข้าวของ ทรัพย์สินมีค่า เช่น รถยนต์ หรือ เครื่องยนต์ทางการเกษตร จอดไว้ที่สูง ให้พ้นระดับน้ำ ที่ไหลจากภูเขาสูง ต.แม่พูล อ.ลับแล มีลักษณะสีแดงขุ่น เพิ่มระดับ และไหลลงคลองแม่พร่อง จะเอ่อล้นทะลักท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก อ.ลับแล และ อ.เมือง ที่ผ่านมา จ.อุตรดิตถ์ ติดตามและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยอันเกิดจากน้ำป่า และฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง

B5 - War Room Falkman

 

ฝนถล่มสตูลน้ำในคลองละงูไหลท่วมถนน

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2555 18:53น.



พายุฝนถล่มสตูลหนัก น้ำในคลองละงู ไหลท่วมถนน-บ้านชาวบ้านแล้ว ผู้ว่าฯ ประกาศเฝ้าระวังอุทกภัยด่วน

สถานการณ์จากฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สตูล ใน 2 - 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้ น้ำในคลองดูสน และน้ำในคลอง อ.ละงู ได้เอ่อท่วมล้นบ้านเรือนชาวบ้าน ไร่นา และสวน ถนนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่ที่ 1 - 5 ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล รวมถึง หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 ต.ตำมะลัง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำ ยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ฉลุง ได้นำกระสอบทรายมาวางกั้นบริเวณตามแนวคลองเพื่อเป็นเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านและท่วมถนนบริเวณชายคลองดังกล่าว ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 มีน้ำเพิ่มขึ้น และได้ไหลเข้าท่วมบ้านชาวบ้าน ในขณะนี้แม้ว่าฝนจะหยุดตกบ้าง แต่ชาวบ้านยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพบนท้องฟ้ายังมืดครึ้ม และทำท่าจะมีฝนตกหนักลงมา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิศาล ทองเลิศ ยังประกาศให้ประชาชนเฝ้าระวังอุทกภัยในขณะนี้ รวมถึงเรือประมงขนาดเล็ก ห้ามออกจากฝั่ง

B5 - War Room Falkman

 

ผมอยู่นนท์ จัดเต็มครับฝน

 

หวังว่าช่วงวันที่ซ้อมแผนระบายน้ำ จะไม่มีฝนตกหนักหรือพายุของจริงเข้ามาสมทบกันในวันนั้นนะครับ :VO

 

มาไหวซะใกล้เลยครับ อาจารย์ พายุเบาลงทางฝั่งเรายังไม่เห็นเป็นตัวเป็นตน(โชคดี) แต่น้องไหว ไหวซะใกล้เราเลย

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=center>[SIZE=+1]ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก" [/SIZE]
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2555
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=left>ในช่วงวันที่ 1-6 กันยายน 2555 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่า
ไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย
ประกาศ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.

(ลงชื่อ) สมศรี ฮั่นตระกูล (นางสาวสมศรี ฮั่นตระกูล) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
</TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา - ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุฝนถล่ม 6 หมู่บ้านชายแดนสุรินทร์ – วัดบ้านพังกว่า 50 หลัง “หลวงพ่อ”เจ็บสาหัส</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 10:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>พายุฝนถล่ม 6 หมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ต้นไม้ใหม่ เสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน จนท.เร่งช่วยเหลือ วันนี้ ( 31 ส.ค.) </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สุรินทร์ - พายุฝนพัดถล่ม 6 หมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชา อ.พนมดงรัก สุรินทร์ ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้าหักโค่น ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ศาลาการเปรียญวัดพังถล่มทั้งหลังทับหลวงพ่ออายุ 60 ปี บาดเจ็บสาหัส จนท.หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น

วันนี้ (31 ส.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดนไทย-กัมพูชา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ เร่งทำการตัดต้นไม้ที่หักโค่นและซ่อมแซมติดตั้งเสาไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน หลังเกิดพายุฝนพัดถล่มอย่างหนักเมื่อเย็นวานนี้ รวม 6 หมู่ ประกอบด้วยหมู่ที่ 1,2,3,4,9และ หมู่ที่ 12 ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดเล็ก ใหญ่หักโค่นจำนวนมาก บางต้นล้มขวางถนน และทับเสาไฟฟ้าแรงสูงจนหักล้มลงมา ทำให้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ และบ้านเรือนพังเสียหายจำนวน 54 หลัง บางหลัง เช่น บ้านของ นายคำสิงห์ สมบูรณ์ อายุ 60 ปี พิการขาข้างเดียว ซึ่งพักอาศัยอยู่กับภรรยาและหลาน ถูกพายุพัดหอบหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งหลัง

นอกจากนี้ พายุฝนยังพัดศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ของวัดบ้านตาเมียง มีความยาว 50 เมตร กว้าง 15 เมตร ซึ่งโครงหลังคาเป็นเหล็ก มูลค่าก่อสร้างนับล้านบาท พังถล่มลงมาทั้งหลังทับหลวงพ่อโส ซึ่งเป็นพระลูกวัด อายุกว่า 60 ปี ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์รักษา มีแผลที่ศีรษะกว้างอาการสาหัส โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ ได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอพนมดงรัก , นายธวัชชัย รัตนสงคราม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตาเมียง และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ , เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เร่งพ่นยากำจัดลูกน้ำ ยุงลายหลังระบาดหนักในมหาสารคามเดือนเดียวป่วยเพิ่ม 100 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 10:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>มหาสารคาม - สถานการณ์โรคไข้เลือดออกระบาดเพิ่มไม่หยุด ล่าสุด พบผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 400 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมากว่า 100 ราย ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกพ่นยากำจัดยุง หวั่นหน้าฝนระบาดหนัก

นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์เวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในจังหวัดมหาสารคาม ส่วนใหญ่จะแพร่ระบาดในพื้นที่ซ้ำซาก ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มมีฝนตก ทำให้การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกเพิ่มสูงขึ้น

จากข้อมูลระบาดวิทยาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2555 มีจำนวน 465 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 48.53 ต่อแสนประชากร แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาถึง 132 ราย

กลุ่มอายุที่พบมาก คือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมา คือกลุ่มอายุ 5-9 ปี และ 15-24 ปี โดยพบการระบาดมากที่อำเภอกันทรวิชัย เมืองมหาสารคาม พยัคฆภูมิพิสัย วาปีปทุม และแกดำ

ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกพ่นสารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อไข้เลือดออก ตามบ้านเรือน หมู่บ้านที่เคยเกิดการแพร่ระบาด และตามโรงเรียนต่าง ๆ ในส่วนของประชาชนทั่วไปควรหมั่นสำรวจจุดน้ำขังรอบ ๆ บริเวณบ้าน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ใส่ทรายอะเบทในน้ำ และหมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน

หากมีอาการไข้สูง หน้าแดง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาเจียน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยะลาป่วนรับวันชาติมาเลย์! พบวัตถุต้องสงสัยเกลื่อนเมืองใน 6 อำเภอ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 09:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ยะลา - เกิดเหตุป่วนเมืองยะลา วางกล่องวัตถุต้องสงสัย ขึ้นธงชาติมาเลเซีย พร้อมเขียนข้อความเย้ยการทำงานของเจ้าหน้าที่ หลายสิบจุดใน 6 อำเภอ คาดกลุ่มแนวร่วมต้องการแสดงศักยภาพ ท้าทายอำนาจรัฐ ซึ่งวันนี้ตรงกับวันชาติมาเลเซีย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (31 ส.ค.) เกิดเหตุกลุ่มก่อความไม่สงบ วางวัตถุต้องสงสัย หลายจุดในพื้นที่ อ.เมืองยะลา อ.ยะหา อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และอ.รามัน โดยหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ เก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

โดยที่ อ.เมืองยะลา ร.ต.ต.จักรพงศ์ เพชรกาศ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายวางวัตถุต้องสงสัย ไว้ที่บริเวณถนน - สะพานลอย ตรงข้ามโรงเรียนธรรมวิทยา ถนนสิโรรส ย่านตลาดเก่าเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา หลังรับแจ้ง จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ของ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ในที่เกิดเหตุบริเวณถนนสายดังกล่าว คนร้ายได้วางกล่องต้องสงสัยไว้ที่บริเวณริมถนน และบริเวณสะพาน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จึงได้เข้าตรวจสอบด้วยการยิงทำลาย จากการตรวจสอบพบว่า แนวร่วมได้นำกล่องนม กล่องสีสเปรย์ พร้อมพันด้วยผ้าเทปและ สายไฟ มาประกอบเป็นระเบิดปลอมวางตั้งไว้ ตามจุดต่างๆ ที่บริเวณโดยรอบโดยเจ้าหน้าที่ยิงทำลายและเก็บกู้ไว้ได้กว่า 10 ลูก นอกจากนั้น คนร้ายได้ยังได้แขวนธงชาติไทย และธงชาติมาเลเซีย พร้อมเขียนข้อความในป้ายผ้าสีขาว เย้ยการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยสามารถเก็บได้กว่า 30 ผืน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งว่าพบกล่องต้องสงสัยในลักษณะเดียวกัน ที่บริเวณถนนสาย 418 บ้านท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยได้ 3 ลูก รวมทั้งมีป้ายข้อความเดียวกัน และธงชาติ อีกหลายผืน นอกจากนี้ ยังมีวัตถุต้องสงสัยที่บริเวณ ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งกลุ่มแนวร่วมได้ตั้งกล่อง ไว้ 4 กล่อง รวมทั้ง มีป้ายผ้าลักษณะเดียวกัน ข้อความเดียวกัน และมีธงขาติ แขวนไว้ด้วยกัน

นอกจากนี้ ในเขตเทศบาลนครยะลาแล้ว ยังพบคนร้ายก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน อีกลายจุดที่เป็นรอยต่อเขตเมืองยะลา ซึ่งขณะนี้ เบื้องต้นโดยรวม มีจำนวน 6 จุด เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ทยอยเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐาน ตามจุดต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ส่วนตามพื้นที่ อำเภอต่างๆ ของ จังหวัดยะลา ทั้ง อ.กรงปินัง อ.รามัน อ.ยะหา อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ธารโต ยังพบว่า กลุ่มแนวร่วมได้วางกล่องต้องสงสัย พร้อมธงชาติ ป้ายข้อความ โดยทุกจุดมีลักษณะเดียวกันหมด โดยที่ ในพื้นที่ อ.บันนังสตา คนร้ายได้วางกล่องต้องสงสัย รวม 6 จุด ส่วนที่ อ.กรงปินัง เจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ระเบิดปลอมได้ 4 ลูก ป้ายผ้า รวม 60 กว่าผืน

ทั้งนี้ วัตถุต้องสงสัยที่พบหลายสิบจุดในพื้นที่จังหวัดยะลานั้น ยังไม่มีวัตถุระเบิด เป็นเพียงกล่องต้องสงสัยที่บรรจุทราย แบตเตอร์รี่ และวงจรอิเลคทรอนิคส์เท่านั้น มีรายงานจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้ มองได้ว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันชาติของมาเลเซีย กลุ่มบุคคล คนร้าย แนวร่วม ในพื้นที่ ซึ่งบางคนถือ 2 สัญชาติ ได้ออกมากระทำการดังกล่าว เพื่อแสดงศักยภาพ และท้าทายอำนาจรัฐ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุความวุ่นวายดังกล่าวถนนหลายสาย ที่พบวัตถุต้องสงสัย ได้ถูกปิดกั้นการจราจร เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และทำให้ครูในพื้นที่ ที่ต้องเดินทางไปสอนได้มีคำสั่งด่วนให้เดินทางไปรวมตัวกันที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 และมีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มารักษาความปลอดภัย และเดินทางร่วมกับคณะครูไปส่งยังโรงเรียนต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุลอบวางระเบิดยังเกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี และนราธิวาส โดยเฉพาะที่ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นใน 12 อำเภอ เกือบ 40 จุด อาทิ อ.ยี่งอ 2 จุด ตากใบ 10 จุด จะแนะ 3 จุด อ.เมือง 2 จุด อ.บาเจาะ 2 จุด อ.สุไหงปาดี 8 จุด อ.ศรีสาคร 8 จุด อ.ระแงะ 8 จุด อ.แว้ง 1 จุด และ อ.สุไหงโก-ลก 1 จุด ส่วนที่ตัวเมืองปัตตานี เป็นเหตุป่วนประมาณ 30 จุด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

5-7 ก.ย.55จะทดลองปล่อยน้ำผ่าน กทม. แล้วจะยังไงกัน

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รวมฮิตสะพาน Made in China ทรุด พัง ถล่ม ทลาย ในรอบ 10 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 10:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นในหน้าสื่ออยู่เสมอ สำหรับเหตุการณ์สะพานขนาดใหญ่ในจีนที่มีมูลค่าการก่อสร้างมหาศาลแต่กลับชำรุดก่อนเวลา หรือแม้แต่ถล่มลงมา จนสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่สัญจร อาทิเช่น กรณี เมื่อเช้ามืดของวันที่ 24 ส.ค. 2555 เกิดเหตุสะพานแขวน 8 เลน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนสนามบิน มูลค่าการก่อสร้าง 1.9 ล้านหยวน ในเมืองฮาเอ่อร์ปิน (ฮาร์บิน) มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งเปิดใช้เพียง 9 เดือน เกิดพังถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย

อย่างไรก็ตาม สื่อจีนรายงานว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สะพานในประเทศจีนทั้งที่เพิ่งสร้างเสร็จหรือกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างเกิดการทรุดตัวแล้วหลายสิบแห่ง โดยสาเหตุสำคัญ 3 ลำดับแรกเกิดจาก ฝนตกหนัก การก่อสร้างที่ไม่เหมาะสม และการใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน

วันที่ 25 ส.ค. 2555 สื่อจีนได้รวบรวมภาพเหตุการณ์สะพานใหญ่ในจีนถล่มชำรุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 - 2555 มาให้ชมกันเกือบ 30 กรณี


24 ส.ค. 2555 สะพานหยังหมิงทาน ในเมืองฮาเอ่อร์ปิน (ฮาร์บิน) มณฑลเฮยหลงเจียง มูลค่าการก่อสร้าง 1.9 ล้านหยวน ใช้งาน 9 เดือน เกิดถล่ม เป็นเหตุให้รถบรรทุก 4 คันพลิกคว่ำตกลงเบื้องล่าง จากเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย (ภาพ/หวั่งอี้)


19 ก.ค. 2554 สะพานเป่าซานหรือ สะพานไป๋เหอ ในเขตหวยโหรว กรุงปักกิ่ง พังถล่มลงมาเป็นรูปตัว W เนื่องจากไม่สามารถรับน้ำหนักของรถบรรทุกหินและทรายได้(ภาพ/ซินหวา)


19 ส.ค. 2553 สะพานข้ามแม่น้ำสือถิงเจียง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายเป่าเฉิง วิ่งระหว่างเมืองเต๋อหยังและเมืองก่วงฮั่น มณฑลเสฉวน โดนน้ำหลากซัดจนขาดสะบั้น ส่งผลให้ขบวนรถไฟสายซีอาน - คุณหมิง ตกลงไปในน้ำ 2 โบกี้ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยผู้ประสบภัยกว่า 1300 คนออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งในอุบัติเหตุครั้งนั้น สื่อจีนรายงานว่าไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต(ภาพ/CFP)


12 มี.ค. 2555 สะพานซานต้า เมืองโหลวตี มณฑลหูหนาน เกิดเหตุแผ่นสะพานระหว่างตอม่อถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้สะพานซานต้าเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในมณฑล มูลค่าการก่อสร้างสะพานราว 108 ล้านหยวน แต่เนื่องจากเหตุเกิดในเวลากลางคืนไม่มีคนงานอยู่ จึงไม่มีผู้เสียชีวิต (ภาพ/CFP)


15 ก.ค. 2554 สะพานข้ามแม่น้ำเฉียนเจียง เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียงถล่ม ส่งผลให้รถบรรทุกหล่นลงมาจากสะพาน จนสร้างความเสียหายให้ถนนด้านล่าง คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้สะพานแห่งนี้มีมูลค่าการก่อสร้างราว 500 ล้านหยวน เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2540 และปิดซ่อมแซมในปี 2548 ต่อมาในปี 2549 ได้ปิดซ่อมแซมอีกครั้ง โดยสื่อจีนรายงานว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุถล่มครั้งนี้ ทางการพบว่าสะพานมีรอยร้าวและกำลังเตรียมทำการซ่อมแซม แต่มาเกิดเหตุชวนสลดขึ้นเสียก่อน(ภาพ/CFP)


19 ส.ค. 2553 สะพานข้ามแม่น้ำเหล่าติ้ง เทศบาลตำบลหวยหยวน เมืองฉงโจว มณฑลเสฉวนไม่สามารถทานกระแสน้ำป่า โดนซัดพังทลาย ตัวสะพานจมลงใต้น้ำราว 60 เมตร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สาบสูญ 1 ราย(ภาพ/CFP)


14 ก.ค. 2554 สะพานกงก่วน เมืองอู๋อี๋ซาน มณฑลฝูเจี้ยน ด้านทิศเหนือเกิดพังลงมา ส่งผลให้รถบัสท่องเที่ยวตกลงไปจากสะพาน จนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และบาดเจ็บอีก 22 ราย โดยสะพานแห่งนี้มีมูลค่าการก่อสร้าง 17 ล้านหยวน(ภาพ/CFP)


26 ธ.ค. 2553 สะพานข้ามทะเล ที่เทศบาลตำบาลฉินหนาน เมืองเหยียนเฉิง มณฑลเจียงซู ทรุดตัวพังลงมากเป็นความยาว 60 เมตร ซึ่งเป็นผลมาจากเรือแล่นชน (ภาพ/CFP)


8 มิ.ย. 2553 สะพานข้ามแม่น้ำจิ่นเจียง มณฑลจี๋หลิน ที่มีความยาว 100 เมตรบนถนนระดับมณฑลสาย 302 ถล่ม ส่งผลให้รถบรรทุกหล่นลงในแม่น้ำจิ่นเจียงพร้อมแผ่นสะพาน ขณะที่รถแท็กซี่อีกคันหนึ่งที่เบรคไม่ทันหล่นตามลงมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย(ภาพ/CFP)


14 ส.ค. 2550 สะพานข้ามแม่น้ำถัวเจียง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงเฟิ่งต้า ในเขตอำเภอเฟิ่งหวง มณฑลหูหนาน ถล่มก่อนเปิดใช้งานไม่กี่วัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 64 ราย บาดเจ็บ 22 ราย สูญเสียราว 39.74 ล้านหยวน(ภาพ/CFP)


30 เม.ย. 2549 สะพานอี้หง เทศบาลตำบลไป๋หม่า เมืองเหลียนหยวน มณฑลหูหนานถล่ม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย(ภาพ/ตงฟังIC)


21 ส.ค. 2551 สะพานยักษ์ส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายหย่งไถเวิน เขตหมู่บ้านจินซื่อถัง เขตหวงเหยียน มณฑลเจ้อเจียง เกิดเหตุคานสะพานถล่ม มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย(ภาพ/ตงฟังIC)


15 มิ.ย. 2550 สะพานข้ามแม่น้ำจิ่วเจียง เมืองฝัวซาน มณฑลก่วงตง พังทลายกินพื้นที่ราว 200 เมตร เนื่องจากถูกเรือบรรทุกทรายแล่นชน ส่งผลให้มีรถยนต์ 4 คันตกน้ำ มีผู้หายสาบสูญจากเหตุการณ์ทั้งสิ้น 9 ราย (ภาพ/ตงฟังIC)
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รังแตนยักษ์โผล่ทะลุหน้าต่างห้องเรียน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 สิงหาคม 2555 17:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นี่มิใช่ประติมากรรมใด เป็นรังแตนยักษ์ของแท้ ที่หน้าต่างอาคารเรียนวิทยาลัยอาชีวะศึกษาในเมืองลิ่วอัน มณฑลอันฮุย (ภาพ ลิ่วอันซินเหวิน)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่ดับเพลงสวมชุดเกราะป้องกัน เข้าไปจัดการเก็บกวาดรังแตน หลังจากที่ใช้น้ำฉีดจนรังแตนแตกเมื่อวันที่ 27 ส.ค. (ภาพ ลิ่วอันซินเหวิน)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> สื่อจีนรายงานเมื่อวันจันทร์(27 ส.ค.) มีรังแตนใหญ่ยักษ์ โผล่สร้างความสยดสยอง ที่หน้าต่างของอาคารเรียนชั้น 3 วิทยาลัยอาชีวะศึกษา ในเมืองลิ่วอัน มณฑลฑลอันฮุย รังแตนยักษ์นี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่าครึ่งเมตร น้ำหนักถึง 3 กิโลกรัม!

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงได้มา “ปลดชนวน” รังแตนมหาภัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“รังแตนนี้ ใหญ่มากเลย เปิดเทอมแล้ว พวกผึ้งอาจไปต่อยคนเข้า น่ากลัวจริงๆ ตอนนี้ เอาพวกมันออกไปแล้ว ก็โล่งอกไปที!” เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบวิทยาลัย กล่าว

โรงเรียนฯดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตชานเมือง และอาคารเรียนที่พวกแตนมาสร้างรังยักษ์ ก็อยู่ในมุมลับตาผู้คน ประกอบกับเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ช่วงเวลา 2-3 เดือนห้องเรียนร้างไร้ผู้คน พวกผึ้งได้โอกาสทองต่อเติมขยายรังกันเปรม จนกระทั่งกระจกหน้าต่างทานน้ำหนักของรังแตนไม่ไหว แตกร้าว

เมื่อวันเปิดเทอมใกล้เข้ามาทุกที แต่ด้วยรังแตนนี้ใหญ่ยักษ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าเมตร เจ้าหน้าที่โรงเรียนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ จึงโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

ในที่สุด เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงก็มาจัดการ ใช้เครื่องมือฉีดน้ำใส่รังแตนจนแตกหล่นลงมา จากนั้นจึงเข้าไปปลดรังแตนเปล่า.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นาซาส่งยานแฝดขึ้นไปตรวจแถบรังสีรอบโลก-ศึกษาผลกระทบพายุสุริยะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 สิงหาคม 2555 20:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพวาดสาธิตยานแฝดอาร์พีเอสบีที่จะบินวนอยู่ในแถบการแผ่รังสีแวนอัลเลน (นาซา/รอยเตอร์/ห้องแล็บฟิสิกส์ประยุกต์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> นาซาส่งยานแฝดขึ้นไปศึกษาแถบการแผ่รังสีรอบโลก เพื่อทำความเข้าใจสภาพอวกาศอันรุนแรงจากพายุสุริยะที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของดาวเทียมและการสื่อสารอื่นๆ ในโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงเข้าใจถึงพื้นฐานของแถบการแผ่รังสีดังกล่าว

จรวดแอตลาส 5 (Atlas 5) นำยานแฝดเรดิเอชันเบลต์สตอร์มโพรบส์ (Radiation Belt Storm Probes) หรือยานแฝดอาร์บีเอสพี (RBSP) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ทะยานฟ้าอย่างราบรื่นจากฐานยิงจรวดในสถานีกองทัพอากาศเคปคานาเวอรัล (Cape Canaveral Air Force Station) ในฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อบ่ายวันที่ 30 ส.ค.2012 ตามเวลาประเทศไทย

เป้าหมายในการส่งยานแฝดดังกล่าวเพื่อศึกษาแถบการแผ่รังสีอันรุนแรงของโลก โดยสเปซด็อทคอมระบุว่ายานทั้งสอง จะวนอยู่ในแถบการแผ่รังสีแวนอัลเลน (Van Allen belts) ซึ่งอนุภาคมีประจุพลังงานสูงนับล้านล้านอนุภาคที่ส่งมาจกาดวงอาทิตย์ถูกสนามแม่เหล็กโลกดักไว้ ซึ่งอนุภาคที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงนี้สามารถทำทำลายแก่ดาวเทียมและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อมนุษย์อวกาศในวงโคจร

ดังนั้น เพื่อรับมือกับแวดล้อมที่มีการแผ่รังสีอย่างรุนแรง องค์ประกอบสำคัญของยานแฝดอาร์เอสพีจึงถูกหุ้มด้วยอลูมิเนียมหนา 8.5 มิลลิเมตร

แถบด้านในของแถบการแผ่รังสีแวนอัลเลนนั้นจะขยายจากบรรยากาศชั้นบนสุดของโลกขึ้นไปถึงระดับความสูง 6,437 กิโลเมตร ส่วนแถบด้านนอกจากจะเริ่มจากระดับความสูงมากกว่า 12,800 กิโลเมตร ขึ้นไปถึงระดับความสูงกว่า 41,800 กิโลเมตรเหนือโลกของเรา โดยแถบการแผ่รังสีนี้การเคลื่อนไหวตลอดเวลาและสามารถขยายออกได้มากขึ้นระหว่างเกิดพายุสุริยะ

แม้ว่าแถบการแผ่รังสีจะถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี 1958 แต่จนถึงทุกวันนี้แถบดังกล่าวก็ยังคงเต็มไปด้วยความน่าฉงน เช่นการตอบสนองต่อการปะทุของดวงอาทิตย์ที่มีบางรูปแบบที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจ ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์ของยานอาร์บีเอสพีคาดหวังว่ายานแฝดจะช่วยให้นักวิจัยเข้าถึงพื้นฐานของปัญหาเหล่านั้นได้

“อาร์บีเอสพีถูกออกแบบเพื่อตอบคำถามว่าแถบการแผ่รังสีเหล่านี้ตอบสนองต่อพายุสุริยะอย่างไร” นิโคลา ฟอกซ์ (Nicola Fox) นักวิทยาศาสตร์และรองผู้อำนวยการโครงการภารกิจยานแฝดจากห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory) ในลอเรล แมรีแลนด์ กล่าว

ทั้งนี้ การส่งยานถูกเลื่อนจากกำหนดคือวันที่ 23 ส.ค.หลังพบปัญหาขัดข้องออกมา 2 วัน และต้องเลื่อนกำหนดอีก 5 วัน เพื่อเลี่ยงสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจจากพายุหมุนเขตร้อนไอแซค (Tropical Storm Isaac) อย่างไรก็ดี ในการส่งจรวดก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น

เมื่อผ่านระยะเวลา 60 วันในการทดสอบระบบในวงโคจรแล้ว ยานอวกาศลำใหม่ที่ติดตามการแผ่รังสีนี้จะเริ่มต้นการทำงานในปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ 2 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าแถบแวนอัลเลนซึ่งเป็นแถบการแผ่รังสีรูปโดนัท 2 แถบรอบโลกนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพอวกาศ (space weather) ของโลกเราอย่างไรบ้าง ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริง เพราะว่าสภาพอวกาศที่รุนแรงนั้นสามารถคว่ำการทำงานของดาวเทียมและรบกวนสัญญาณของดาวเทียมระบุพิกัดจีพีเอส การสื่อสารวิทยุ รวมถึงระบบส่งกระแสไฟฟ้าได้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยานแฝดอาร์พีเอสบีติดอยู่บนยอดจรวดแอตลาส 5 ระหว่างทะยานฟ้า (นาซา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพขณะจรวดแลตลาสทะยานฟ้าพร้อมนำยานแฝดขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ (นาซา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากนาซาทีวีขณะจรวดไต่ระดับความสูงขึ้นไป (นาซา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพวาดจำลองแถบการแผ่รังสีแวนอัลเลนรูปโดนัทที่อยู่รอบโลก (นาซา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>