คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ประสบการณ์พระพุทโธน้อยและของอธิษฐาน

^^หนังสือที่คุณเชษฐ์ลงให้อ่านนี้ คือ หนังสือที่คุณเชษฐ์จะพิมพ์ขึ้นมาใหม่หรือปล่าครับ^^

 

ใช่ครับพี่เล็ก นำมาให้อ่านศึกษากันก่อนครับ จะได้ไม่เหงาและจะได้เผยแพร่ให้ท่านอื่นได้รับรู้กันด้วยครับ ^^

 

เมื่อสักครู่ ผมได้ปริ้นรูปคุณแม่บุญเรือน(ด้านล่างครับ) คิดว่าจะเอาไว้ให้เพื่อนๆครับ ครั้งแรกประมาณวันพุธ ปริ้นรูปคุณแม่ที่วัดท่าผา รูปเปลวเทียนตรง ไม่มีปัญหาครับ ัวนนี้ ปริ้นรูปคุรแมาที่วัดท่าผาเหมือนกัน แต่เปลวเทียนเอียงไปทางซ้าย ครั้งแรกวันนี้ปริ้นไปได้แถวแรกประมาณ4ภาพ เรียบร้อยดี พอมาแถวที่2ภาพติดแคครึ่งภาพครับ เห็นแต่หน้าคุณแม่ แล้วเครื่องปริ้นก็ขึ้นหมึกมีหมด ซึ่งหมึกดำเกือบจะเต้มหลอด ผมก็ไม่คิดอะไร เลยแก้ไขเครื่องพิมพ์ แล้วพิมพ์อีกครั้ง รอบนี้ครับ ภาพจากที่เป็นขาวดำ แดงเกือบทั้งภาพเลยครับ
ผมก็ไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร

 

เยี่ยมเลยครับ...อนุโมทนาด้วยครับคุณเชษฐ์

 

หากจะเป็นด้านเทคนิคก็คือหมึกดำมีปัญหาครับ เพราะผมเคยเป็นตอนปริ๊นภาพหลวงปู่กวย ภาพขาวดำแต่เนื่องจากสีดำมีปัญหา ภาพก็เลยออกแดง ๆ แต่ก็สวยงามไปอีกแบบทุกวันนี้ผมยังบูชาอยู่เลยครับ

 

นี่ค่ะ เพิ่งจะถ่ายเมื่อสักครู่ค่ะ แต่อาจไม่ชัดเพราะถ่ายจากมือถือค่ะ

 

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน หลานเเม่มาเเล้วคร๊าบบบบบ ^^

 

เป็นไปได้อย่างมากครับเรื่องปัญหาเกี่ยวกับหมึกดำ เพราะเราสั่งปริ้นซ์สีดำ พอเครื่องทำงานมากก็อาจจะเกิดความรวนได้ครับ

 

ใช่ครับ พี่ลูกน้ำเค็ม สวยไปอีกแบบ หรือเราจะเขียนว่า สี แดง แรงไว้ก่อน ไม่หุนหันแล่น มีพกไว้ประโยชน์ทวี สำหรับปราบปรามผู้ร้าย ให้จิตใจเข้มแข็ง มีแรงมากมาย สีแดงแรงฤทธิ์สำคัญหมาย มีไว้อย่างนี้
ก็น่าจะได้นะครับ

 

ลองเทสดูก่อนครับ ลองสั่งล้างหัวพิมพ์และเทสดูครับว่าหมึกออกครบทุกสีหรือปล่าโดยเฉพาะสีดำ

 

เรื่องเกี่ยวกับคุณแม่ครับ
เรื่องเล่าของคุณแม่บุญเรือนโดยป้า..นพรัตน์..

เป็น เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ตอนที่อยู่ 1.บ้านพระโขนง 2.บ้านนาซา 3.สามัคคีวิสุทธิ์ หรือเหตุการณ์ต่างๆที่คุณป้านพรัตน์ อยู่ในเหตุการณ์และจดจำไว้แบบไม่รู้ลืม และผมได้นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อไว้เป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าต่อไป ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านของตัวผู้อ่านเอง ส่วนข้าพเจ้าตัวผู้เขียน ขอถ่ายทอดมาจากความจริงที่ได้ฟังมาจากคุณป้า นพรัตน์ บางคำพูดก็ต้องเขียนออกมาเพื่อให้ไพเราะบ้างบางประโยชน์ นะขอรับ
เรื่องที่1.
สมัยที่คุณแม่อยู่ที่บ้านพระโขนง วันหนึ่งคุณแม่แกงไก่ ใส่มะเขือพวง โรยใบโหระพา เมื่อแกงเสร็จ จึงสั่งให้ ป้านพรัตน์ นำแกงไก่ไปทิ้ง ป้านพก็นึกในใจว่าแกงยังไม่ได้กินเลย จะเอาไปทิ้งทำไมเก็บความสงสัยไว้ในใจ แต่ก็ทำตามที่คุณแม่สั่ง แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทิ้งที่ไหน ก็ถือแกงออกมาจากบ้าน แล้วก็นำไปเท่ทิ้งที่หัวสะพานทั้งหมด เมื่อมาถึงบ้าน คุณแม่ก็ถามป้านพว่า เอาไปทิ้งที่ไหน ป้าก็ตอบคุณแม่ว่า ที่หัวสะพานเท่ทิ้งทั้งหมดหม้อเลย เท่านั้นเอง คุณแม่ก็ว่า อีนพ ทำไมโง่อย่างนี้ ( อีที่คุณแม่ ใช้นำหน้า ก็คือน้อง ) ที่คุณแม่ให้เอาไปเททิ้งนะ ความหมายคือ ให้เอาไปแจก ตามบ้านในละแวกชุมชนใกล้เคียงกับบ้านสามัคคีวิสุทธิ์ เพื่อเป็นทานเพื่อแบ่งปัน ชาวบ้านในย่านชุมชนเดียวกัน นัยยะสำหรับ แกงไก่ใส่มะเขือพวงใส่ใบโหระพา ไก่เป็นสัตว์ที่คุ้ยเขี่ย ขยันคุ้ยเขี่ยหากิน มะเขือพวงทำการงานจะได้สามัคคีกัน ได้อะไรจะได้เป็นพวงใหญ่ ใบโหระพา พากันรวย ในวัย 20 ปี ถึง 40 ปี เป็นวัยที่อยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว คุ้ยเขี่ยหากินในการตั้งตัวในการประกอบอาชีพ

เรื่องที่2.
วันหนึ่งที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ์ ก็มีลูกศิษย์มากันมากมายตามปกติ คุณแม่ก็จะเรียกใช้งานหรือแบ่งงานกันทำเป็นปกติ เช่น ทำกับข้าว กวาดถูพื้นบ้าน ล้างห้องน้ำ ป้านพรัตน์เล่าว่า ก็มีท่านผู้หญิงท่านหนึ่งออกมาจากวัง นั่งร้องไห้อยู่ ทุกคนก็สงสัยว่าร้องไห้ทำไม จึงพากันถาม ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้คำตอบว่า เสียใจมากไม่เคยมีใครเรียกนามนำหน้าว่า ..อีเลย.. ในชีวิต เพราะอยู่รับใช้ในราชวังมามีแต่คนให้เกียร เพราะเป็นคุณหญิงอีกต่างหาก อยู่ๆมาคุณแม่กับมาเรียก .. อี.. ทุกคนเลยไปบอกคุณแม่ คุณแม่ก็เลยมาบอกว่า อีที่ใช้แทนเรียกนะความหมาย ก็คือน้องสาว นั้นเอง นัยยะสำหรับ เรื่องนี้ คุณแม่จะไม่แบ่งชั้นวรรณะ ในหมู่ลูกศิษย์และทุกคนที่มาหาท่านที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ์
เรื่องที่3.
คุณแม่ไม่มีฟัน แต่คุณแม่กินหมากและ ชอบกินไอศครีม (ไอติม) คุณแม่ไม่ทาน 1.หัวปรีกล้วย เพราะกลัวอัปปรีจันไร 2.ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อ วัวควาย 3.ไม่ทานขนมจีน น้ำยา เดี๋ยวไร้น้ำยา
เรื่องที่4.
ดอกไม้ที่คุณแม่ชอบ คือ 1.ดอกบานไม่รู้โรย ทำการสิ่งใดก็ไม่มีวันร่วงโรย 2.ดอกป็อบปี่ และจะไม่ชอบเอาพวงมาลัยมาคล้องคอพระพุทธรุปและรูปเหมือนบูชา ท่านให้วางใส่พานหรือที่หน้าตัก
เรื่องที่5.
ป้านพรัตน์เล่าว่า ก่อนที่คุณแม่จะเสียชีวิต ก้ได้เรียกลูกศิษย์เข้าไปสั่งเสียเป็นเรื่องๆไว้ให้กับลูกศิษย์ ส่วนป้านพรัตน์นั้น คุณแม่ได้ถามป๋านพรัตน์ว่า ไปที่หลังคนอื่นได้ไหม คุณป้านพรัตน์ก็ไม่เข้าใจในการสั่งเสีย จนคุณแม่ถามย้ำอีกและเสียงดังขึ้น จนป้ารับปากคุณแม่ ว่าได้จ๊ะ แล้วคุณแม่ก็ปากไปๆๆๆ จนคุณป้าก็มาเริ่มเข้าใจก็เมื่อเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นศิษย์ เริ่มจากกันไป ก็เหลือไม่กี่ท่านแล้วที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ให้ศิษย์รุ่นลูกรุ่นหลานได้ทราบถึงความดีและแนวทางการเข้าถึง เส้นทางธรรม การปฎิบัตของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
เรื่องที่6.
คุณแม่จะไม่ชอบให้เรียกนามท่านว่าแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ท่านบอกว่าท่านไม่ใช้แม่ชี และท่านจะไม่ชอบให้ใครเขียนชื่อท่าน และนามสกุลแบบผิดๆ ให้พากันจำไว้นะครับ
เรื่องที่7.
มีนายตำรวจท่านหนึ่งมาถามหาคุณแม่ ในเวลาแต่เช้าตรู่ ขณะนั้นคุณแม่กำลังจะเข้าห้องน้ำ นายตำรวจท่านนั้นเมื่อเห็นคุณแม่ ก็รีบตรงเข้าไปหาและถามคุณแม่ว่า เมื่อคุณแม่เห็นมีแขกมาหา ก็ถามว่ามีธุณะอะไร นายตำรวจท่านนั้นก็เลยบอกคุณแม่ว่าจะมาขอหวย เท่านั้นเองคุณแม่ก็ไล่นายตำรวจท่านนั้นไป ว่าไปๆๆๆ อย่างเสียงดัง ปรากฏว่ามือที่ถือกระโถนปัสสาวะคุณแม่ ก็หลุดมือ ปัสสาวะราดตัวนายตำรวจท่านนั้นไปด้วยความโมโห ปรากฎว่า นายตำรวจท่านนั้น ถูกหวยและได้นำเงินมาถวายคุณแม่ ป้านพรัตย์เล่าพร้อมกับหัวเราะและบอกว่ายังจำ เลขหวยงวดนั้นได้เลยว่าเลขอะไร ผมก็เลยถามป้านพรัตน์ว่า ที่บ้านไม่มีห้องน้ำหรือ ป้าบอกว่ามี แต่คนแก่จะลุกขึ้นม่เข้าห้องน้ำบ่อยๆนะลำบาก คุณแม่เลยใช้กระถาน ป้ายังบอกว่า ปัสสาวะคุณแม่หอมอีกต่างหาก เล่าแล้วยากโดนฉี่คุณแม่บ้างจังเลย


อ้างอิง/http://khunmaeboonrean.com/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2/

 

555 ความคิดดีครับ ดีซะอีกนะครับไม่เหมือนใครด้วย เหมือนภาพหลวงปู่กวยของผมมีหนึ่งเดียวในโลก

 

เท่านี้ก็ชัดแล้วล่ะครับพี่ณิ ถ้าเป็นผีเสื้อกลางคืนตัวใหญ่ คนเก่าแก่จะบอกว่าจะนำพาวิญญาณคนที่เสียชีวิตมาครับ ^^

เตรียมประจำการกะดึกแล้วหรือครับน้องท็อป ^^

 

สวัสดีครับน้องท็อป คิดว่าวันนี้จะออกไปดริ๊งส์ ๆ คืนวันศุกร์ตามประสาวัยรุ่น เพราะเห็นตอนเช้าบอกว่าอาจนะไม่ได้เข้าตอนดึก

 

เรื่อง คุณแม่ฯท่านกินหมาก ตอนแรกเท่าที่ผมทราบมาว่าท่านไม่ได้กิน แต่หากทางป้านพรัตน์ ยืนยันว่าท่านกินหมาก ผมขอปรับเปลี่ยนข้อมูลไปตามที่ป้านพรัตน์ บอกเล่าไว้ครับ เนื่องจากท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดที่สุดในบั้นปลายชีวิตของคุณแม่ฯท่านครับ ^^

 

สวัสดีครับพี่ ช่วงนี้พักผ่อนก่อนครับ ดื่มมากๆไม่ไหวครับ ร่างกายทรุดโทรมเปลืองเงินเปลืองทองด้วยครับ เก็บเงินไว้หาเช่าพระคุณเเม่ท่านดีกว่าคร๊าบบ ^^

 

เยี่ยมเลยครับ คิดได้แบบนี้ตั้งแต่วัยรุ่นเลย ปรบมือให้ดัง ๆ เลยครับ ;ปรบมือ

 

ดูท่าทางอีก 2-3 วัน กระทู้เราน่าจะได้เวลาฉลองเหมือนกันนะครับ ^^ เราต้องฉลองแบบไม่เหมือนชาวบ้านครับ เป็นเอกลักษณ์ดีครับ

 

ฉลอง 600 ครับคุณเชษฐ์ พลุผมพร้อมจุดเสมอครับ 555 ;aa8

 

ไม่ใช่ว่าผมคิดได้ตั้งเเต่ตอนนี้หรอกครับพี่ เเต่ผมเริ่มเที่ยวกลางคืนมาตั้งเเต่อายุยังไม่ 20 เลยครับ เพื่อนชวนไปก็ไปเรื่อย ผมเเก่เเดดอะครับ เที่ยวเร็วไปหน่อย มาถึงตอนนี้เลยอิ่มตัวอะครับ เเต่ผมว่าผมโชคดีที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาเร็ว ทำให้ตอนนี้เริ่มเบนทิศทางหันเข้าสู่ธรรมะเริ่มหมั่นทำบุญทำกุศลมากขึ้นครับผม ><