ขอถามเกี่ยวกับการฝึกสมาธิและกสิณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กิเลสชน, 14 สิงหาคม 2012.

  1. กิเลสชน

    กิเลสชน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    เพิ่งเข้าใหม่ครับ มีคำถามเกี่ยวกับสมาธิหลายข้อมาก ขอถามเลยก็แล้วกันครับ

    1. จะเลือกแบบไหนดีครับ

    ผมเพิ่งฝึกกสิณมาไม่กี่ปีครับ ก่อนหน้านี้นั่งสมาธิยังไงๆก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่พอลองฝึกกสิณปรากฏว่าเกิดอาการคล้ายปิติเร็วมาก ตัวงอไปงอมา ร่างกายโยกคลอน ล่าสุดก็ลอยสูงขึ้นๆ เมื่อเช้าทำสมาธิตอนว่างๆใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีตัวก็โยกไปมาแล้วครับ แบบนี้ผมเลือกถูกแล้วใช่ไหมครับที่ฝึกกสิณ

    และที่สำคัญคือจิตผมอยู่นิ่งไม่เป็นครับ ต้องหาอะไรมาจดจ่อ ตอนแรกเลยเลือกกสินไฟเพราะคิดว่ามันชำระล้างทุกอย่างได้ และเปลวไฟก็ไม่หยุดนิ่งเลยจดจ่อกับการขยับไหวของเปลวไฟได้ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกสิณน้ำเพราะพระท่านทักมา เลยเปลี่ยนมาเป็นหมุนก้อน(กสิณ)น้ำแทน พอมาคิดอีกทีก็น่าจะเปลี่ยนเป็นกสิณลมเพราะไม่หยุดนิ่ง

    ตรงนี้ล่ะครับที่อยากทราบความเห็น ว่าการเลือกฝึกกสิณน้ำของผมถูกแล้วหรือยัง ควรเปลี่ยนเป็นกสิณชนิดอื่นดีไหมครับ

    2.สีของกสิณ

    เรื่องนี้ได้ฟังมาจากหลายที่ครับ เลยสงสัยว่าเพ่งกสิณจำเป็นต้องเป็นสีด้วยหรือเปล่า อย่างกสิณไฟต้องเป็นสีแดง เป็นสีธรรมชาติของมันหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนสีตามใจชอบจะถือเป็นกสิณโทษหรือเปล่าครับ

    3. ลักษณะของกสิณ

    มีข้อจำกัดในการเพ่งหรือเปล่าครับว่าต้องเพ่งเป็นภาพหรือของจริง เพ่งภาพเป็นของจริงในมโนสติเลยได้ไหมครับ เพราะผมก็ใช้วิธีนี้โดยไม่รู้ผิดถูก(ไม่มีครู) เพราะผมถนัดด้านสร้างภาพครับ เพราะนอนหลับยากเลยสร้างภาพเรื่องราวต่างๆในหัวฆ่าเวลาให้หลับประจำเลยทำเก่ง อย่างไฟก็เป็นกองไฟ น้ำก็เป็นก้อนน้ำ โดยไม่ต้องมองของจริงก่อนเข้าสมาธิ

    4. อาการปิติ

    เคยอ่านเจอเลยพบว่าอาการร่างกายบิดเบี้ยวคือปิติด้วย ถามใครก็บอกว่าธาตุไม่สมดุล -*- เลยอยากถามว่าอาการปิติมันอย่างไรกันแน่ครับ ผมเคยเป็นแค่ ร่างกายบิดเบี้ยวไป ลำตัวหรือแขนโยกไปมาเอง ร่างกายหมุนวนอยู่กับที่ ตัวค่อยๆลอยสูงขึ้นๆ

    และอาการปิติมีลำดับขั้นหรือเปล่า เพราะนั่งทีก็เจอแบบนึง และมักไม่เจอมากกว่าสองอย่างในครั้งเดียว เลยอยากรู้ว่ามีลำดับขั้นหรือเปล่าว่าแบบไหนคือลำดับเริ่มต้น แบบไหนคือระดับสูง

    5. หลังปิติ

    แล้วหลังจากปิติเราควรทำอย่างไรต่อเมือ่เกิดปิติ ไล่อ่านเขาก็บอกว่าปล่อยมันสนใจแค่ก้อนกสิณก็พอ บางที่ก็บอกว่าอย่าใส่ใจกองลม
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,442
    ค่าพลัง:
    +35,042
    รออีกไม่นานนะเดี๋ยวมีคนมาช่วยอธิบาย..แต่ฝึกกสิณมีข้อดีตรงจะได้กำลังสมาธิที่ค่อนข้างมั่นคง..สามารถใช้ทำอะไรๆได้หลายๆอย่างนะครับ..
    เป็นกำลังใจให้นะครับ..
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ขอถามเกี่ยวกับการฝึกสมาธิและกสิณ<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    (ข้อ๑) จริงๆผมก็เริ่มเบื่อแล้วครับ เที่ยวไปดูทั่วหมด คุณถามเลือกแบบไหนดี คุณชอบแบบไหน ให้ทำแบบที่จิตคุณชอบ ไม่ต้องเปลี่ยน อีก ถ้ากำลังใจคุณไม่แข็งพอ กสินไฟอย่าเอา อาการโยกโครง กับตัวลอยขึ้น เป็นตัว ปิติครับคุณเปลี่ยนมาหลายอย่าง ผมว่าถ้าคุณชอบ กสินน้ำดี ทำไม่ต้องลังเลสงสัยเดี๋ยวยากนานเหมือนผมครับ (ข้อที่) ๒ คุณสนเพียง หลับตาจำภาพ น้ำ ภาวนา ว่า น้ำๆๆๆๆ เรื่อยไป น้ำต้องใส่ภาชนะ ถ้วยหรืออะไรก็ได้ ที่กลมๆ หลับ ให้เห็นภาพ น้ำ ที่อยู่ในภาชนะ เมื่อภาพเลือนหายไป ลืมดูภาพใหม่ เมื่อติดใจ ในตาใน ดูแป๊บเดียว ทำเรื่อยไป จน น้ำในถ้วย ใสเหมือนแก้ว ผลึก เป็นประกาย และบังขับให้ใหญ่ได้เล็กได้ ตามความประสงค์ และฝึก ให้อยู่ บนหัว อยู่ในอก ได้ อยู่เหนือสดือ เอาเบื้องต้นที่ผมว่ามาดีกว่าครับจำภาพให้ได้ ติดตาใน

    ข้อที่(๓) ดีมากๆครับคุณบอกชอบสร้างอโนภาพ ไม่ต้องทำอย่างอื่นหรอกครับ นอกจากนึกถึงภาพ น้ำในภาชนะเท่านั้น จำภาพได้จนคุณ ทำได้อยู่นานเป็นชั่วโมง และอธิษฐานให้ใหญ่ได้เล็กได้ และสีเปลี่ยนเป็นแก้ว ใสผลึก ดังที่ผมอธิบายมา ถ้าคุณทำได้เมื่อไหร่ ไปหา พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ท่านจะสอนให้ ได้

    ข้อที่ (๔) อาการปิติน่ะถูกแล้ว ไปถามไอ้คนไม่รู้เรื่องมันจะรู้ได้อย่างไร อาการปิติมีดังนี้ ขนพองสยองเกล้า ขนลุกขนชัน กายใหญ่ เป็นโพรงใหญ่ กายโยกโครง ไปมา ปิติน้ำมูกน้ำตาไหล ตัวหมุนเหมือนลูกข่าง ตัวลอยสูงขึ้นลง ตัวลอยส่วนใหญ่ไม่มีใครค่อยเป็น ส่วนใหญ่ เขาจะผ่านกันแค่ อย่างเดียวครับ เอาแบบที่ผมว่าน่ะก่อน อย่าไปสนใจว่าขั้นไหน ทำถึงมันรู้ของมันเอง แต่ก็มีหลายประเด็นนะ จับประเด็นเดียวพอ

    ข้อที่(๕) เอาจิตจับที่กสินเท่านั้นแหละจริงๆ อธิบายซ้ำซากแล้ว ทั้ง ๕ ข้อมันวกไปวนมาถามยังไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  4. juna

    juna Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +32
    อนุโมทนา สาธุ

    ศึกษาได้จากคำภีรวิสุทธิมรรค และครูบาอาจารย์กำกับสอนชี้แนะ เช่น หลวงพ่อเจริญ จ.ราชบุรี สายธรรมยุติ หรือหลวงปู่เนย พรรณานิคม จ.สกลนคร(ละสังขารแล้ว)
    ปล.ข้อควรระวัง คืออารมณ์ที่รุนแรงกว่าเดิมและง่ายขึ้น อุปกิเลสที่เด่นชัด อกุศลที่เห็นได้ง่าย สิ่งเหล่านี้เป็นสัมปยุตตธรรม ศีลจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการฝึกสมถฯ เพื่อให้มีหิริโอตตัปปะไว้ควบคุมเจตนาและเจตสิกข์หากควบคุมได้ อินทริยย่อมกล้าแกร่งไม่หลงในกิเลสได้ ควรค้นหาจริตของตนให้เจอเสียก่อนที่จะเลือกวิชากสิณ ควรหาที่สัปปายะที่เหมาะกับวิชา ควรสรรหาอุปกรณ์ที่สมควร ควรศึกษาวสี5 สัมมัปธาน4 และต่างๆอีกมากมาย เพื่อความเข้าใจมรรคจิตที่ถูก เจริญๆนะ
     
  5. กิเลสชน

    กิเลสชน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณสำหรับคำตอบดีๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...