หากไม่มีนางแก้วฯพระโพธิสัตว์จะยังมหาปณิธานให้บริบูรณ์ได้หรือไม่?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 5 สิงหาคม 2012.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ผมมีความพิจารณาดังนี้ว่า
    เมื่อเจอะคู่บารมีแล้ว...ในบางท่านที่ยังไม่มั่นคงพอ อาจมิได้บำเพ็ญเนกขัมมะบารมีขั้นอุกกฤษ!(ขนาดยังไม่เจอหลายท่านก็รักษาศีล๕ ข้อ ๓ไว้ไม่ได้เสียแล้ว)
    ดังนั้น นางแก้ว จะมีประโยชน์ ก็ต่อเมื่อ "พระโพธิสัตว์ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว"
    หากยังมิได้รับพุทธพยากรณ์ เธอก็จักเป็น "มาร" ให้พระโพธิสัตว์ไม่เจริญก้าวหน้าในการบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี(ตัวถ่วง)

    เพราะ"สตรีเป็นมลทินของพรหมจรรย์" ดังในนิทานชาดก บางเรื่อง พระราชายังหลีกหนี้จากพระมเหสี ออกบวชเป็นฤาษี!

    มีทางเป็นไปได้มั้ย? หากไม่มีนางแก้วฯพระโพธิสัตว์จะยังมหาปณิธานให้บริบูรณ์ได้!(เพราะปรากฎว่าในเรื่อง สุเมธดาบถ ท่านมาเจอนางแก้วพร้อมได้รับพุทธพยากรณ์...ทั้งที่ในใจท่านไม่ปรารถนาอยากมีนางแก้วเลย...แต่เป็นเพราะนางนั้นได้อธิษฐานร่วมสร้างบารมีกับท่านเอง)

    ผมจึงสงสัยว่า หากเราบำเพ็ญสร้างบารมีทั้ง ๑๐ โดยไม่อธิษฐานขอมีนางแก้ว!!บางทีเราอาจบำเพ็ญบารมีต่างๆได้อย่างเต็มที่....
     
  2. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ต้องคิดว่าจริงๆ แล้วพระโพธิสัตว์ควรที่จะวางกำลังใจแบบไหนดี
    ระหว่าง เกิดมาเพื่อสร้างบารมีทั้ง ๑๐ หรือ เกิดมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกให้พ้นทุกข์

    หากพระโพธิสัตว์คิดว่าตนเองเกิดมาเพื่อสร้างบารมี แล้วมองผู้อื่น
    ว่าเป็นตัวขัดขวางบารมีนั้น กำลังใจแบบนี้จะช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไร

    ควรที่จะวางกำลังใจว่า เราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกให้พ้นทุกข์
    หากมีคนที่คิดแบบเดียวกับเราและคอยช่วยเหลือเรา เราก็ยินดีที่จะสร้างบารมีร่วมกัน

    ผมชอบคำกล่าวอยู่ประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า "หากเราไม่ลงนรกแล้วใครจะลง"
    เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นนั้นแม้ตายก็ยอม แล้วจะมากลัวอะไรกับเรื่องขัดขวางบารมี

    ถึงอย่างไรบารมีจะเต็มได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเวลา ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย
    เวลามันตายตัว ไม่ใช่ทำความดีเยอะแล้วบารมีจะเต็มไว เพียงแค่ทำเต็มกำลัง เต็มความสามารถ

    ทำเท่าที่จะทำได้ เต็มหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ไม่ใช่ใครเป็นตัวถ่วง
    หรือใครคอยขัดขวางแล้วทำให้บารมีเต็มช้าลง

    บารมีเต็มหรือยังเขานับกันที่จำนวน "อสงไขย" ไม่ใช่การทำความดีมากหรือน้อย
    เห็นความทุกข์ของสัตว์โลกเหมือนไฟที่กำลังเผาไหม้ผมของเรา นั่นคือกำลังใจของพระโพธิสัตว์
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมกล้ากล่าวและยืนยันไว้ตรงนี้เลย ว่าพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ต้องมี มีเมีย เยอะ ลูกเยอะบริวารเยอะ และต้องบริจาคลูกเมียให้เป็น ทาน มันเป็นกฎตายตัว ของการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ไม่งั้นหมดสิทธิที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ) ไม่มีมนุษย์คนไหน และสัตว์ตัว ไหน ไม่มีเมีย เป็นบางชาติ เท่านั้น แต่ได้สิทธิ์ ที่จะเป็นพระปัจเจกระพุทธเจ้า ตรัสรู้เองแต่ไม่สอนให้ผู้อื่นตรัสรู้ตาม ถ้ามีศรัทธา ก็สอนแค่ให้อยู่ในศิลธรรมบำเพ็ญมาอย่างนั้น พระอัครสาวก มหาสาวก ปรกติสาวก พูดไปแล้ว เหนื่อย
    การเป็นพระโพธิสัตว์ ต้องขยันเกิดขยันตาย ขยันสร้างบารมี ไปเป็นพรหม เทวดา เขาไม่คิดให้หรอก ถ้าสาวกภูมิได้ เป็นเทวดาหรือพรหม บำเพ็ญต่อได้ ไอ้พวกพุทธภูมิ นี่ มันจะต้อง ไปเป็นครู อาจารย์เขา มันต้องผ่านหมด ไม่งั้นมันจะไปสอนเขาได้อย่างไร เล่า ถ้ามันไม่เรียนมาก่อน เกิดมาก่อน จิตมันต้อง ละเอียดหมดแหละ ผ่านไม่เหลือ ไม่งั้นจะได้ ฉายานามว่า สัพพัญญู ศาสดา เอก ตรัสรู้เอง ผู้รู้แจ้ง โลก เรียกว่า พระพุทธเจ้า เหนือ ๓ ภพ มนุษย์ เทวดา พรหม เหนือภพภูมิ ทั้งปวง ไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหน มันไปที่เดียวกัน มันไม่แบ่งที่ แบ่งกันที่บุญญาบารมี ตามขั้นตามชั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  4. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    มีเหตุผลดีครับ โดยเฉพาะการขยันเกิด เพื่อมาสร้างบารมี :cool:
     
  5. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    มีเหตุผลน่าฟังมากครับ :cool:
    ทำให้มองเห็นทัศนคติในอีกแง่มุมหนึ่ง จึงได้ข้อพิจารณาเพิ่มขึ้นมาอีกว่า.....

    ๑. เพื่อบำเพ็ญบารมี ๑๐ นั้นเป็น วิธีการ
    ๒. เพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ ด้วยพระมหากรุณา นั้นคือ หลักการ
    ๓. เพื่อบรรลุถึงโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้นคือ อุดมการณ์

    หากรวมทั้งสามข้อเข้าด้วยกัน จึงถึอว่าเป็น "ปณิธาน" อันยิ่งใหญ่นะครับ :cool:
     
  6. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    คนที่บอกว่ามีนางแก้วถึงจะบรรลุ มันไร้สาระครับ ถ้ามันดีจริง ใครจะอยากเป็นนางแก้ว สู้มาบรรลุเองไม่ดีกว่าเหรอ นางแก้ว แค่เป็นอุบายหาของสักการะ หาแม่ยก หาคนอุปถัมถ์แค่นั้นเองครับ
     
  7. P184

    P184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +809
    การที่มีนางแก้วคู้บารมีหรือไม่นั้นอาจจะไม่ได้สำคัญไปกว่าการบำเพ็ญบารมีเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากห้วงทุกข์

    การเป็นห่วงใครทำให้เกิดความกังวลหรือมีความสุข?
    หากถามคนธรรมดาอาจจะตอบว่ากังวลซิ แล้วถ้าถามพระโพธิสัตว์ ท่านจะตอบว่าอย่างไร?
    ขอยกตัวอย่างอย่างนิกายมหายานทุกท่านคงรู้กันดีว่าพระโพธิสัตว์สำคัญเพียงใด
    ในนิกายมหายานหรือวัชรยานมีพระโพธิสัตว์ตั้งมากมายที่มีศักติหรือนางแก้วคู้บารมี (อย่างพระพุทธเจ้าก็มีเช่นกัน) แล้วพระโพธิสัตว์ก็ยังมหาปณิธานให้บริบูรณ์ครบถ้วนได้ มิหนำซ้ำยังได้ชื่อว่าเป็นมหาโพธิสัตว์อีก พระองค์ใดคงมิต้องพูดถึง
    ส่วนพระโพธิสัตว์ที่ไม่มีนางแก้วก็ยังคงสามารถที่จะยังมหาปณิธานให้บริบูรณ์ได้เช่นกัน
    เหตุเพราะคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตน พระโพธิสัตว์รอคอยได้ ยอมที่จะสละได้
    ดั่งความเห็นของคุณอภิราม
    " ทำเท่าที่จะทำได้ เต็มหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ไม่ใช่ใครเป็นตัวถ่วง หรือใครคอยขัดขวางแล้วทำให้บารมีเต็มช้าลง"



    บางครั้งการจะเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอาจจะพ้นวิสัยของปุถุชนธรรมดาอย่างเราๆก็เป็นได้
     
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณท่านอื่นๆเป็นอย่างไรผมไม่รู้นะ
    แต่ในตำราส่วนที่ผมรู้นี่ และสำหรับผมเองที่เป็นผู้หนึ่งที่ปรารถนาพระโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษนี้ ถ้าไม่มีนางแก้วที่มีความดีคล้ายกับแม่เลยไม่ได้ แม่นั้นเป็นผู้มีพระคุณใหญ่มหาศาลปานใด นางแก้วก็เป็นผู้มีบุญคุณใหญ่ที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนทุกรูปแบบในการสั่งสมคุณธรรมความดีใกล้เคียงกับแม่ฉันนั้น

    ก็ขอให้ทุกท่านลองย้อนศึกษาพุทธประวัติเอาแค่ย้อนอดีต28 พระพุทธองค์ที่ผ่านมามีพระองค์ใหนบ้างที่ไม่มีพระแม่นางแก้วสนับสนุนพระโพธิญาณ ถ้าจะเรียนหลักสูตรนี้เพื่อบรรลุการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล หลักสูตรเป็นแบบนี้ก็ต้องเป็นไปตามนี้ กฏเกนฑ์เป็นแบบนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ในอดีตท่านก็เป็นกันมาแบบนี้ สำรวจใจตัวเองนี่แหละว่าเราตั้งใจเรียนหลักสูตรนี้อยู่หรือปล่าว คนไม่ได้กินเกลือด้วยตัวเองรู้ได้ไงว่าเกลือมันเค็มยังไง

    สำหรับผมไม่มีคนหุงข้าวไม่ได้ เพราะงานนอกบ้านมันมาก มัวแต่หุงข้าวทำงานบ้านมันก็ไม่ทันชาวบ้านเขา มันต้องไปไถไร่ไถนาแต่เช้ามืด เลยจำเป็นต้องมีนางแก้ว ไว้คอยช่วยเหลืองานบ้านงานเรือน

    และหากไม่มีนางแก้ว เราก็ไม่มีคนดูแลความประพฤติ อาจไปคบเพื่อนพากัน กินเหล้าเมายา พาไปเที่ยวตามสถานที่บรรเทิงเริงรมณ์ต่างๆ อาจเสียผู้เสียคนซะตั้งแต่อายุไม่ครบบวช คนไม่มีนางแก้วน่ะ อาจเป็นคนเกะกะเกเร ระรานชาวบ้าน นิสัยใจคออาจหยาบกระด้าง เป็นวัยรุ่นก็อาจถูกสั่งสอน อบรมจากคนอื่นด้วยเท้าด้วยแข้ง นางแก้วน่ะมีคุณมหาศาล เดี๋ยวมาต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2014
  9. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    นางแก้ว มิใช่เรื่อง ที่พระโพธิสัตว์ต้องขวนขวาย

    ทำบารมีสามสิบทัศ มีเนกขัมมะ
    เนกขัมมะคือ การออกบวช การปฏิบัติ
    ก็ตรงข้ามกับการมีคู่ครองอยู่แล้ว

    เมื่อครั้งสุเมธดาบส ได้พบนางแก้วครั้งแรก
    ท่านก็ปฏิเสธ แต่พิจารณาเห็นว่า จักต้องบริจาคลูกเมียเป็นทาน
    จึงไม่ได้ปฏิเสธอะไร กระนั้นก็ดี ท่านก็ยังกลับไปป่าเพื่อบำเพ็ญต่อไป

    เรื่องนางแก้ว เป็นเรื่อง "ไร้สาระ" ที่คนมีกิเลสคิด
    พระโพธิสัตว์ทำบารมีไปเรื่อย ๆ ใครอยากจะอธิษฐานตามเป็นอะไร ๆ ก็เรื่องของเขา
    ถึงเวลาจะมีเอง เปรียบเหมือน น้ำที่มากก็ย่อมรวมตัวกัน เป็นลำธาร เป็นแม่น้ำ ยังประโยชน์แก่เหล่าชน

    เรามันพวกคนรู้มาก คิดมากเกินไป
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมกล้ากล่าวและยืนยันไว้ตรงนี้เลย ว่าพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ต้องมี มีเมีย เยอะ ลูกเยอะบริวารเยอะมาก่อน และต้องบริจาคลูกเมียให้เป็น ทาน มันเป็นกฎตายตัว ของการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ ไม่งั้นหมดสิทธิที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ) พระโพธิสัตว์ที่บารมียังอ่อนอยู่ หรือบารมีต้น ก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกตั้งมากมายของโลกนี้และโลกหน้า จนกว่าจะเข้าถึง เข้าขั้นกลาง และบารมีสุดท้าย ปรมัตถบารมี เรียนรู้ผิดถูก ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จนพิสูตรรู้ จึงยอมรับโดยดุษดี ผมว่าไม่มีพระโพธิสัตว์ องค์ไหน ไม่ขยันเกิดขยันตายหรอกนะ บำเพ็ญระหว่าง คนกับสัตว์ เพราะว่า ไปเป็นเทวดาหรือพรหม เขาไม่คิดให้ ถ้าปราถนา สาวกภูมิ บำเพ้ญต่อได้ ถ้าพระโพธิสัตว์ ขี้เกียจ เกิด มันจะนับ อสงขัยกัปไม่ได้ หรอก นอกจาก ลามาเป็น สาวก เท่านั้น สาวกบำเพ็ญบามี อย่างน้อยก็ ถ้าจำไม่ผิด ๑-๒ อสงขัยกัป บารมีเต็มแล้ว ผมเคยไปกราบ และสำผัส พระอริยเจ้า พระโพธิสัตว์ ทั้ง ผู้หญิงผู้ชาย ทั้งพระและฆราวาส ในชาตินี้ ไม่ต่ำกว่า ๕๐ พระองค์ แม้กระทั่งที่เป้น สัตว์ ก็เคยสัมผัสมาด้วยตนเองเช่นกัน มาแล้ว และบางครั้งได้ถาม จริยาวัตร บ้างพอสมควร กล้ากล่าวเช่นนี้ ลองหันหลังกลับไปสมัยพุทธกาล ดูตัวอย่างพระเทวทัต กับพระพุทธเจ้า บำเพ็ญบารมีมาพล้อมๆกัน พระพุทธเจ้าของเรา ได้ตรัสรู้ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ แต่พระเทวทัต บวชให้ ได้อภิญญา ๕ แต่ทำไมต้องตกนรก ไปหาอ่านเอาเองไม่ขออธิบาย เพราะทุกคนมีปัญญา แต่จะเอามันออกมาใช้หรือไม่ แต่ขอต่ออีก ว่า พระเทวทัต ได้รับ การพยากรณ์จากองค์สมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ว่า หลังจาก พระเทวทัต ตกนรก ขึ้นมาเป็นเทวดา แล้ว จะไปเกิด เป็นเทวดา แล้วจุติจากสวรรค์ ลงมาเกิด ได้ตรัสรู้เป็น พระปัจเจกพุทธเจ้า ตรัสรู้เอง ไม่สอนให้ผู้อื่นตรัสรู้ตาม อย่างดีมาหาท่านๆก็สอนให้อยู่ในศิลธรรม แต่ตรัสรู้ครั้ง หนึ่ง จะมีพระปัจเจกพุทธเจ้ามาตรัสรู้ นับหมื่น นับแสนพระองค์ทีเดียว ๑ พุทธทันดรผ่านไปก่อนที่ พระศรีอริยเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ของกัปนี้ นี่เห็นไหม ว่าการบำเพ็ญบารมี มันไม่แน่หรอก ที่พระโพธิสัตว แต่ละพระองค์ จะสมความปราถนาทั้ง หมด ลาก็เป็น สาวกของพระพุทธเจ้าของพระองค์นั้นๆ
    (ไม่มีพระพุทธเจ้าก็ไม่มีพระเทวทัต)(ไม่มีพระเทวทัตก็ไม่มีพระพุทธเจ้า) มันเป็นของคู่กันนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2012
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) ขออภัยสักนิดเถอะ ผมขอถามสักนิดว่า คนเรียนแค่ป.๑ จะรู้สูงของคนจบ ป.๒-๓-๔ หรือไม่ แล้วคนจบ ป.๖ มันจะรู้ของคนที่จบ ม.๓ ม.๖ หรือจบมหาลัยหรือไม่ แต่คนที่เรียนรู้ มหาลัย ม.๓ ม.๖ มันมาเป็นครู สอน ป.๑ได้ แล้วเด็กมันจะไปสอน ผู้ใหญ่ได้อย่างไร ทั้งทางโลกและทางธรรม มันคล้ายกัน นำมาเปรียบเทียบ ถ้ามันแรงไปต้องขออภัยด้วยครับ :cool:
     
  12. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    มีบริวารเยอะอันนี้ยอมรับ
    แต่บริวารนี้ สามารถทำได้จากการทำบุญร่วมกัน
    หรือเกิดเมื่อท่านออกบวช แล้วมีผู้ศรัทธาท่าน

    เช่น ชาวแคว้นฯ ในสมัยยุค สุเมธดาบส
    หรือท่านเป็นพระมหากษัตริย์ ก็จะเป็นชาวเมือง
    หรือท่านเป็นผู้นำ เช่นเมื่อท่านเป็นมาณพหนุ่ม พร้อมเพื่อนอีก 32 คน
    ที่ชาติต่อไปท่านได้เป็นพระอินทร์
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านก็มิได้ขวนขวายจะมีอะไร

    เรื่องลูกเมีย มีเมียเดียวก็ยุ่งตายอยู่แล้ว
    มีหลายเมีย วัน ๆ คงไม่ต้องทำอะไร
    จะตีกันตาย
    ใครคิดจะมี ก็มีไปเถิด

    ลองดูยุคปัจจุบัน ที่นับว่าเป็นพระโพธิสัตว์
    เกือบทั้งหมดจะเป็นพระ

    ลองหาพระโพธิสัตว์ที่มีเมียลูกเยอะ ล่ะมีไหม

    เรื่องไม่มีพระเทวทัต ไม่มีพระพุทธเจ้า อันนี้ไม่ใช่
    ถึงไม่มีพระเทวทัต ก็มีพระพุทธเจ้าได้
    ต้องใช้คำว่า ไม่มีอุปสรรค ก็ไม่มีพระพุทธเจ้า

    ไม่ได้จะโต้แย้งอะไร กับใคร
     
  13. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    อธิบายเพิ่มเติม เรื่องการไม่ขวนขวาย

    รัชกาลที่ ๓ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีบันทึกไว้ที่พระสมุทรเจดีย์ ไว้ว่า

    บุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ จะเพื่อมนุษย์สมบัติก็หาไม่ เพื่อเทวสมบัติก็หาไม่
    แต่เพื่อพระโพธิญาณเท่านั้น

    แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวในใจท่าน
    โภคทรัพย์ ความเป็นกษัตริย์ ความเป็นทิพย์ในสวรรค์ อะไรต่าง ๆ ท่านมิได้ปรารถนาเลย
    แต่แน่นอนสิ่งนี้ย่อมเกิดแก่ท่านตามธรรมดา ตามผลบุญอยู่แล้ว
     
  14. โพธิวิถี

    โพธิวิถี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    150
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +580
    หากไม่มีนางแก้วฯ

    เรื่องราวของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ เป็นเรื่อง อจินไตย อย่างหนึ่ง สุดปัญญาที่มนุษย์ทั้งหลายจะคาดหมายได้ ด้วยเหตุปัจจัยที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ทำให้เกิดปัญญาแก้ไขการเกิดในวัฏฏสงสารนี้ได้ พระโพธิสัตว์ แต่ละองค์ยังไม่เข้าใจองค์อื่น ด้วยรูปแบบและวิธีการของท่านอีกทั้งระยเวลาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขออนุโมทนากับบุญกุศลของทุกท่าน ขอความงอกงามแห่งศีลธรรมพร้อมทั้งจิตใจที่ผ่องแผ้วด้วยบารมีจงเกิดมีกับทุกท่าน
     
  15. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ผมลอง ค้นข้อมูลในบารมี 30 ทัศ ที่พระโพธิสัตว์ต้อง บำเพ็ญสั่งสมให้เต็มเปี่ยม แล้ว
    ไม่มีข้อไหน ระบุว่าต้องมี นางแก้ว
    ดังนั้น จะมี หรือไม่มีนางแก้ว ก็ได้
    หากมีนางแก้ว พระโพธิสัตว์ ก็จะใช้นางแก้วเป็นส่วนช่วยในการสร้างบารมี
    หากไม่มีนางแก้ว พระโพธิสัตว์ ก็ยังสามารถ สั่งสมบารมี 30 ทัศให้เต็มเปี่ยมได้
     
  16. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    สืบเนื่องจากหัวข้อกระทู้ และการร่วมแสดงความคิดเห็นจากเพื่อนสมาชิกทุกท่าน(เป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว)
    ผมจึงได้ข้อพิจารณาเพิ่มเติมขึ้นมาอีกว่า.......

    หากพระโพธิสัตว์ในชาติปัจจุบัน ท่านบำเพ็ญบารมี ยิ่งใน "เนกขัมมะบารมี" แล้ว
    ควรที่จะเบื่อหน่ายคลายกำหนัด และจับ อารมณ์ พระนิพพาน เป็นอารมณ์!!
    น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้สูง ครับ ที่ท่านจะมิได้คำนึงถึงเรื่องนางแก้วคู่บารมี
    ว่ามีส่วนสำคัญในการบำเพ็ญ "พุทธการกธรรม"


    แต่ทั้งนี้ เพราะท่านยังไม่ละปณิธานเดิม จึงมิอาจเข้าสู่พระนิพพานได้!
    อยู่ที่สมัยใด ท่านบำเพ็ญบารมี เด่นในเรื่องไหนเป็นส่วนมาก ก็จะมีทัศนคติ และปกติในการบำเพ็ญด้านนั้นอยู่เนืองๆ

    เช่น เมตตาบารมี ก็จะโน้มไปเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเป็นส่วนมาก,ทานบารมีก็จะมุ่งสงเคราะห์ทางวัตถุ,ทางการสละ,การให้ในรูปแบบต่างๆ ตามกำลังของตน(บารมี,อุปปารมี,ปรมัตถปารมี)เป็นต้น

    ผมเข้าใจอย่างนั้น ครับ.....
     
  17. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    จริงเหรอ ที่เด็กสอนผู้ใหญ่ไม่ได้ เด็กอนุบาลสอนให้ปู่ย่า ตายาย เล่น computer tablet มีมั้ย ชาวบ้านสอนวิธีการนวดแบบโบราณให้นักศึกษากายภาพบำบัด มีมั้ย ถ้าคุณมองเฉพาะวุฒิการศึกษา ที่เป็นเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ในแบบแนวเดียว คุณก็มองได้แค่ที่คุณเขียนแหละ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความรู้ที่เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นได้ ไม่จำเป็นต้องตามหลักสูตรอย่างเดียว
    เปิดตาเปิดใจให้กว้างครับ
     
  18. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    แรกๆเธอเป็นนางแก้วที่แสนดี อยู่ไปๆไหงกลายเป็นนางยักษ์ษิณีไปได้!

    ในกรณีเช่นนี้แสดงว่าคุณธรรมไม่เสมอกัน บารมีเป็นลบ

    ผู้บำเพ็ญบางท่านอาจพิจารณาไปว่าไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องดิ้นรนแสวงหา เดี๋ยวนางก็มาเอง
    ตามลำดับขั้นของบารมีนั้นๆ เป็นเรื่องของ...

    "บารมีจัดสรรค์" "กรรมจัดสรรค์"

    ขอให้เรามั่นคงในปณิธานบำเพ็ญบารมีอันประกอบด้วยมหากรุณาในเวนัยสัตว์ทั้งหลายก็พอ

     
  19. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    การจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านั้นต้องสั่งสมบารมีให้ครบ 30 ทัศเต็มเปี่ยมบริบูรณ์
    การบริจาคบุตรภรรยาเป็นระดับทานบารมีเท่ัานั้นเพราะยังเป็นสมบัตินอกกาย (ต้องสละชีวิตจึงถือเ้ป็นปรมัตถบารมี) แต่ว่าบุตรภรรยาเป็นเครื่องผูกรัดในอยู่ในภพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เรียกว่าการสละบุตรภรรยาเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เป็นด่านหินที่ยากจะ่่ผ่านที่สุด ยกตัวอย่างพระพุทธเจ้าของเราในสมัยที่เป็นพระเวสสันดร ยังเผลอสติคิดจะสังหารชูชกที่ทำทารุณต่อพระโอรสและธิดาเลย ขนาดทรงบำเพ็ญบารมีมา 20 อสงไขยจนบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว ยังยากที่จะที่ตัดความรักความอาลัยในบุตรธิดาได้ การสละบุตรภรรยาเป็นทานจึงเป็นจุดสำัคัญมากในการสร้างบารมี ถ้า่ผ่านไม่ได้ก็เป็นบำเพ็ญบารมีไม่สำเร็จเป็นพระพุึทธเจ้าไม่ได้
    แต่ว่าการสละบุตรธิดาเป็นทานไม่ใช่หลักของการสร้างบารมีเพราะเป็นแค่บารมีชั้นต้น แต่สำคัญเพราะเป็นด่านสำคัญที่ใครๆก็ยากจะ่ผ่านได้ ซึ่งการสร้างบารมีเปรียบเหมือนการเล่าเรียนในชั้นเรียน แต่การสละบุตรภรรยาเหมือนการสอบ ถ้าสอบไม่่่ผ่านก็ต้องเรียนซ้ำอยู่อย่างนั้นเรื่อยไปจนกว่าจะ่ผ่าน นักสร้างบารมีมักสอบตกตรงนี้มากที่สุด แล้วคนทั่วไปหลงไปอบายก็เพราะเรื่องบุตรภรรยาหรือสามีมากที่สุด
    การเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องผ่านหลักสูตร 30 ทัศจนสมบูรณ์ครบถ้วนทุกหลักสูตร หย่อนอันใดอันหนึ่งไม่ไ่ด้ บางพระองค์ก็ผ่านหลักสูตรแต่ละหลักสูตรด้วยความยากง่ายเร็วช้าต่างกัน พระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ก็มีจุดที่่ผ่านยากแตกต่างกันไปตามอุปนิสัยส่วนตัว แต่ก็ต้องผ่านเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  20. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    ลองฟังความเห็นนางแก้วบ้างดีไหมคะท่านแมวเหมียว?
    บารมี ๑๐ มีอะไรกันบ้างคงทราบกันดีเนอะ...


    นางแก้วจะมีความสำคัญในบารมีอยู่หนึ่งข้อคือ ทานบารมีค่ะ
    อย่างที่ทราบกันดีอยู่ ในชาติสุดท้ายที่พระเวสสันดรบริจาคภรรยาและบุตรเป็นทาน
    ต้องใช้กำลังใจสูงมากแค่ไหน เมียยังพอว่า..แต่ลูกนี่สิ เกิดจากเลือดเนื้อของเราเอง
    มีพ่อแม่ที่ไหนที่ไม่รักลูกบ้าง บางคนตายแทนลูกได้ด้วยซ้ำ
    เพราะฉะนั้นท่านแมวพอจะบอกได้ไหมล่ะคะว่า...
    พระโพธิสัตว์สามารถสอบผ่านบารมีข้อนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีภรรยาและบุตร?


    ถ้าไม่เข้าใจอารมณ์นี้...ก็คงต้องลองแสวงหาบุตรในอุทรดูนะคะ แล้วลองสละลูกดู
    จะพบว่าแค่คิดยังน้ำตาไหลเป็นทางน่ะเป็นอย่างไรค่ะ...


    เมื่อลองบุตรแล้ว จะลองสละภรรยาดูอีกสักคนก็ไม่เสียหายนะคะ
    ลองจินตนาการก็ได้ค่ะ สำหรับท่านที่ไม่อยากมีภาระเป็นคนเป็น ๆ
    ลองคิดว่า เรามีภรรยาอยู่ ๑ คน เธอน่ารักและแสนดี
    แม้เรื่องเคืองใจสักน้อยหนึ่งจากเธอ เราก็ไม่เคยได้รับ
    เธอให้แต่ความสุขกาย สบายใจแก่เรา
    แม้เมื่อเรามีความทุกข์ยากลำบากเลือดตาแทบกระเด็น
    เธอก็ไม่เคยห่างหายจากข้างกายไปไหน ยอมกัดฟันสู้กับเรามาทุกรูปแบบ
    ไม่ว่าใครจะว่าเราไม่ดี แต่เธอก็ยังยืนสู้อยู่เคียงข้าง
    คอยให้กำลังใจและปลอบโยนใจแก่เราเมื่อเราท้อถอยและเสียใจ
    เธอเป็นทั้งคนรัก เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก
    เป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุด และไม่เคยทอดทิ้งไปไหน...


    เมื่อคิดได้แล้วก็ลองจินตนาการว่ามีบุคคลหนึ่งมาขอภรรยาแสนดีของเราไปโดยไม่มีเหตุผลใด ๆ
    เราจะสามารถสละได้ไหม? ลองถามตัวเองดูนะคะ...

    และไม่ใช่ว่าการสละภรรยาและบุตรนี้จะเป็นการสละแค่ครั้งเดียวนะคะ
    เราต้องสละภรรยาและลูกเป็นทานไม่รู้กี่หมื่นชาติ แสนชาติ
    แค่ครั้งเดียวยังทุกข์ใจขนาดนี้ ถ้าแสนครั้ง จะทำได้ไหม?


    บางคนบอกว่าการสละภรรยาและบุตรนี้เป็นแค่บารมีชั้นต้น
    ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์จริง
    แม้แต่ชีวิตท่านก็สละให้ภรรยาและบุตรได้ค่ะ (คนอื่นยังสละให้ไม่ยากเลยนิ)
    การสละชีวิตตัวเองจึงถือว่าไม่ยากเท่าการสละภรรยาและบุตรแน่นอนค่ะ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...