ในหลวงกับหลวงพ่อฤาษีฯและพระสุปฏิปันโน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย โมกขทรัพย์, 19 พฤษภาคม 2012.

  1. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849




    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=rSTmFTdnWvo&feature=related"]???????-??????? - YouTube[/ame]


    [​IMG]


    [​IMG]





    [FONT=&quot]ในหลวงกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/FONT]




    [FONT=&quot] หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[/FONT]
    [FONT=&quot]วัดท่าซุง (วัดจันทาราม)[/FONT]
    [FONT=&quot]ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี[/FONT]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=LlJfz83TB64&feature=relmfu"]??????????????????? - YouTube[/ame]




    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=tEwuyzhSb1E&feature=related"]??????????-???????????????????? - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=fIxgPOkLdoE&feature=relmfu"]?????????????-???????????????????? - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=DMEevWT6rUk&feature=related"]?????????? ... (????) ??? - YouTube[/ame]


    หลวงพ่อสรุป
    ว่า นี่เป็นอันว่าน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ทรงสะเทือนในคำนินทาและสรรเสริญก็ทรงอุเบกขาเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นถ้าหากว่าวันนี้ อาตมาจะถวายพระพรให้ทรงอยู่ในด้านของพรหมวิหาร ๔ ก็เห็นว่าจะไม่มีผล เพราะว่าความดี ๔ประการนี้ พระองค์ทรงมีแล้วเรียบร้อยทุกประการ

    ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมมาพุทธเจ้าตรัสว่านัตถิ โลเก อนินทิโตซึ่งแปลเป็นใจความว่าคนไม่ถูกนินทาเลย ไม่มีในโลกนี้
    ฉะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงแม้ว่าจะมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ประชานิกรของพระองค์เพียงใดก็ตามทีพระราชจริยาวัตรของพระองค์ ก็ย่อมไม่เป็นที่ที่ถูกใจของบุคคลบางพวก บางคณะอาจจะมีอยู่
    ในครั้งหนึ่ง อาตมาได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ได้ปรารภกับพระองค์ถึงภารกิจที่อาตมาทำว่า
    การทำการสงเคราะห์ ปวงชนชาวไทยตามกำลังที่จะรวบรวมได้ จากบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ทำการแจกอาหารการบริโภคยารักษาโรค สร้างโรงเรียนตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ แต่การกระทำแบบนี้กลับมีคนบางพวกบอกว่า อาตมาเป็นพระการเมือง
    พระองค์ก็ตรัสว่า
    ผมก็ทราบเหมือนกัน เขาว่าหลวงพ่อเป็นพระการเมือง
    แต่พระองค์ก็ทรงถามว่า
    หลวงพ่อมีความรู้สึกยังไง
    ก็เลยถวายพระพรไปว่า
    อาตมาไม่มีความรู้สึกอะไรเพราะถือว่าอาตมาไม่เคยสมัครสภาผู้แทนราษฏร และก็ไม่เคยอยากจะเป็นรัฐมนตรีเขาจะหาว่าการเมืองหรือการบ้านก็ช่าง ถือว่าเฉย ๆถือตามหลักพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า นินทา ปสังสาขึ้นชื่อว่านินทาและสรรเสริญ เป็นของธรรมดาของโลก อาตมาไม่หนักใจในคำนินทาและสรรเสริญเพราะไม่มีความสงสัย
    ต่อนี้พระบาทมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ตรัสว่า
    ผมก็เหมือนกันแหละขอรับ เมื่อก่อนนี้เขาลือว่าผมฆ่าพี่ แต่เวลานี้เขาลือกันว่าผมฆ่าพ่อตา
    ความจริงช่วงหลัง อาตมาไม่ทราบจึงกราบทูลว่า
    การลือที่ว่าฆ่าพ่อตานั้น มีความหมายเป็นยังไง
    พระองค์ก็ตรัสบอกว่า
    เขาลือกันว่าพ่อตาผมเป็นไข้ ผมเอาเหล้ากรอกปาก แล้วเลยพาพ่อตาไปวิ่ง พ่อตาก็เลยตาย
    แล้วจึงได้ทูลถามพระองค์ว่า
    แล้วมหาบพิตร มีความรู้สึกยังไง ในเมื่อคำนินทาปรากฏขึ้น
    พระองค์ก็ตรัสว่า
    เรื่อย ๆ ขอรับ
    ก็หมายความว่า ใครจะว่ายังไงก็ช่างความดีหรือความชั่วที่จะมีขึ้นได้อาศัยการกระทำเป็นสำคัญแล้วเมื่อเราทำความดีแล้วใครจะว่าชั่ว เราก็ไม่ชั่วไปตาม ถ้าเราทำความชั่วใครจะสรรเสริญว่าดี เราก็ไม่ดีไปตาม
    นี่เป็นอันว่าน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ทรงสะเทือนในคำนินทาและสรรเสริญก็ทรงอุเบกขาเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นถ้าหากว่าวันนี้ (ประมาณปี ๒๕๓๓)อาตมาจะถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงอยู่ในด้านของพรหมวิหาร ๔ก็เห็นว่าจะไม่มีผล เพราะว่าความดี ๔ ประการนี้พระองค์ทรงมีแล้วเรียบร้อยทุกประการ.



    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ พิมพ์ครั้งที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ หน้า ๗๙







    ในหลวงสนทนาธรรมกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จากเว็บ DMC







    เรื่อง...กสินวิญญาณของในหลวง





    เป็นการสนทนากันระหว่างหลวงพ่อและในหลวงในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องสงเคราะห์ช่วยเหลือคน และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องธรรมะ ในระหว่างที่กำลังสนทนากันอยู่นี้ ตอนหนึ่งเรื่องกรรมฐาน หลวงพ่อเล่าการสนทนาเรื่อง "กสิน" ให้ลูกศิษย์ทั้งหลายฟังว่า..

    ในหลวง : หลวงพ่อบันทึกเสียงมาให้ผมคาสเซ็ทเดียว กสิน ๑๐ อย่าง คาสเซ็ทเดียว

    หลวงพ่อ : ถ้าทำได้อย่างเดียว อย่างอื่นทำได้หมด

    ในหลวง : แต่ว่า กสินวิญญาณ หลวงพ่อไม่ได้บอกมาด้วย
    ล่อกสินวิญญาณ เข้าให้ มันมีในแบบที่ไหนล่ะ(หัวเราะ) ไม่มีในแบบ ของท่านมี เอ้อ...แปลกจริงเหมือนกัน เราก็นั่งฟัง ถามมันเป็นอย่างไร กสินวิญญาณ นี่ไม่มี เมื่อวานมวยวัดเลยไม่รู้ใครเป็นใคร ท่านไม่ชอบใช้ราชาศัพท์
    ท่านบอกว่าคุยบอกลูกทุ่งๆ สบายก็มีกันแค่สองคน เมื่อวานไม่มีใครขัดคอกันเลย ปิดประตูคุยกัน เพราะว่าตอนที่ไปภูพิงค์ ท่านให้นั่งไม่มีที่พิง ใช่ไหม ต่างคนต่างนั่งพรมคนละผืน ไม่มีที่พิง เราออกมาเราก็บ่น ไอ้ภูพิงค์นี่มันพิงแต่ภู (หัวเราะ)
    เข้าไปไม่มีที่พิงเลย พวกชาววังเขาออกมา เราก็บ่นเข้าไปอีก เมื่อวานนี้มีที่พิง สวนจิตร มีที่พิง มีที่พิงให้ มีเบาะสูงกว่าพระองค์ประทับหน่อยนะ แล้วเขาจัดมีทั้งหมากทั้งน้ำร้อน มีน้ำชาแล้วก็มีน้ำเย็น แต่ไม่มีเวลากินเลย พอจ้อก็ตั้งตัวไม่ติดเลย (หัวเราะ)
    โอ้โฮ! พูดถี่ยิบ ใครบอกพระเจ้าแผ่นดินพูดช้า ที่ไหนได้ โฮ้! ตามลำพัง ล่อกันถนัด เมื่อวานออกมาเหนื่อยแฮ่กเลย นี่ความจริงปล่อยให้ท่านชกคนเดียวตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ
    เมื่อกี้เล่าถึงอะไร (พุทธบริษัทตอบ กสินวิญญาณ) เออ..ใช่! จะลืม จะไหลไปเสียแล้วนะ กสินวิญญาณ ท่านก็ตรัสถามว่า "หลวงพ่อทำมาคาสเซ็ทเดียว ทำไมกสินวิญญาณ ไม่บอก?" เราเอ๊ะ! กสินวิญญาณ มันมีที่ไหนเรียนมาเยอะแล้ว ไม่เจอะ กสินวิญญาณก็นั่งนึก ก็เลยถามท่าน บอก"พระมหาบพิตรตรัส มันเป็นอย่างไร? กสินวิญญาณ" ท่านก็บอกว่าแหม..ท่านละเอียดมากนะ เรื่องธรรมมะละเอียด ละเอียดจัด เรียกว่าพระที่คุยมาแล้วด้วกัน
    ที่ผ่านพระมาแล้ว อาตมากล้าพูดว่าหลายพันองค์ที่สัมผัสมาแล้วเรื่องปฏิบัติ นักเทศน์ไม่มีความสำคัญนะ นักปฏบัติก็มีนะที่ว่าพระหลอกๆ ไม่ใช่หมายถึงเขาเลว หมายถึงว่า"สมมติสงฆ์"ใช่ไหม พระที่ยังไม่ถึงพระโสดาบันจะเป็นขั้นไหนก็ตาม แก่แค่ไหนก็ตาม พระพุทธเจ้ายังไม่เรียกว่าพระ เรียกว่า "สมมติสงฆ์" ถ้าหากตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปท่านจึงจะเรียกได้
    นี่เคยสัมผัสกับพวกนี้มาเป็นร้อย ไม่ใช่เป็นของดี แล้วก็ยังไม่เคยมีใครพูดเรื่องกสินวิญญาณ ไอ้เราก็อ่านพระไตรปิฎกก็ไม่มีจะนึก เอ๊ะ! พระอรหันต์รุ่นนั้นน่ากลัวจะบันทึกตก(หัวเราะ) ก็เลยถามอาการ
    พระองค์ก็ทรงอธิบายว่า "สมมติว่าผมจะจับภาพกสิน คือภาพอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่จิตนึกอย่างพระพุทธรูปตั้งอยู่ข้างหน้านี่" ท่านก็ชี้ไปจุดใดจุดหนึ่ง เมื่อวานนี้ฉันออกท่ากันนะ
    ต่างคนต่างออกท่ารำกันไปในตัวเสร็จไม่ใช่ร้องอย่างเดียว ว่ากันเต็มที่ เพราะไม่มีใครขัดคอ เป็นห้องส่วนพระองค์ ปิดประตูเลย ปิดประตูลงกลอนเองเลย ชี้ไปที่พระพุทธรูป "อย่างผมนึกไปที่พระพุทธรูป ไอ้กระแสจิตนี่มันออกไปหาพระพุทธรูปที่มันยังไม่ถึง ไม่เอาเป็นองค์ อันนี้เขาเรียกว่าวิญญาณใช่ไหม?"
    บอกใช่! เอาเข้าแล้ว ตัวนี้เรียกกสินใช่ไหม บอกเขาไม่เรียกกสิน ที่พระมหาบพิตรบอก กสินวิญญาณ อาตมางงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้เรื่องเลย ท่านก็บอก "เขาเรียกว่าอะไรหรือครับ" หลวงพ่อ"เขาเรียกว่าวิญญาณัญจายตนฌาน" เป็นอรูปฌาน มันเลยกสินไปแล้ว...
    ต้องมีกสินเป็นภาคพื้นแล้วก็จึงใช้ตัวนี้ได้ บอก อ้อ...เล่นเราเกือบแย่หาว่าไม่บอก ท่านบอก บันทึกคาสเซ็ทไม่เห็นมี กสินวิญญาณ ไอ้เราก็งงติ้วเลย นี่ท่านเลยบอกถ้าจะจำอันนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ ก็เลยบอก เขาเรียกว่า
    "วิญญาณัญจายตนฌาน" เป็น "อรูฌาน" แต่ภาคพื้นจริงๆ ต้องมาจากกสินก่อน ถ้าเราจับกสินถึงฌาน ๔ แล้วค่อยมาจับวิญญาณ แต่ความจริงเขาจะไม่จับวิญญาณก่อน จะต้องจับอากาสก่อน ที่เรียกว่า "อากาสานัญจายตนฌาน"
    อากาสานัญจายตนฌาน แล้วก็เพิกทิ้งไป แล้วก็จับกสินเข้ามาอีก ให้จิตตั้งฌาน ๔ ต่อไปก็จับวิญญาณัญจายตนฌาน หลังจากนั้นเมื่อจับได้แล้วก็ทิ้งไป จับกสินขึ้นมาให้ทรงตัว ก็มาจับ อากิญจัญญายตนฌาน ที่เรียกว่าไม่มีอะไรเลย โลกนี้ไม่มีอะไรเหลือ หลังจากนันก็ทิ้งไป ก็จับ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน เป็นอรูปขั้นที่ ๔ เรียกว่าครบ "สมาบัติ ๘" อีตอนนี้ท่านก็งงบ้าง แล้วต่อไป ก็ผลัดกันงง...
    เอ...นี่ผมไม่รู้หรอก บอกมีคาสเซ็ท มีมาให้แล้ว เรื่องสมาบัติ ๘ ผมยังไม่ได้ฟังเลย เอาเข้าแล้ว ท่านจะไม่เอา ผลัดกัน ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ก็เลยอธิบาย(เหตุผลที่)ถวายพอสมควร
    เมื่อถวายไปพอสมควรแล้วก็เรื่องนี้มา เรื่องกรรมฐานนี่นะว่ากันยาวเหยียด ว่าไปว่ามา อาตมานี่ขามันไม่ดีอยู่ข้าง ไอ้ขาขวานี่ เวลานี้ขัดสมาธิไม่ได้นาน พับเพียบก็ไม่ได้นาน แต่ของท่านวางแป๊ะไปด้านซ้าย ท่านอยู่ตลอด ไม่ขยับเลยเก่งจริงๆ ๕ ชั่วโมงครึ่งนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลย แล้วไม่เคยขยับเขยื้อนแสดงอาการเมื่อย สู้! ถ้าเป็นมวยก็สู้เราไม่ได้ เราเป็นมวยแย๊บ เดี๋ยวพลิกซ้าย เดี๋ยวก็พลิกขวา(หัวเราะ) ท่านสู่เราไม่ได้ เด็ด อีท่าห่วย สู้เราไม่ได้ เรียกท่าห่วย..ใช่ไหม...


    “อย่างผมเองผมก็ไม่ไหว ผมเคยคิดว่าใครจะให้ผมเป็นพระเจ้าแผ่นดิน และก็ทำงานอย่างพระองค์
    ให้ผมวันละ ๑๐ ล้าน ผมไม่เอา วันละ ๑๐ ล้านนะครับ ไม่ใช่เดือนละ ๑๐ ล้าน
    นี่ผมไม่เอาหรอก ที่ไม่เอาเพราะอะไร เพราะว่าผมทำไม่ได้ ” คำกล่าว พระมหาวีระ ถาวโีร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    .
    พระธรรมเทศนาของ พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    ความก็มีอยู่ว่า เมื่อพ.ศ.๒๕๑๘ ปีนั้นหล่อรูปหลวงพ่อปาน ที่วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    ท่านหญิงวิภาวดี คือหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี ท่านได้ทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถให้ทรงมาเททอง และตามธรรมดาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ถ้าเสด็จไปไหน สิ่งมหัศจรรย์ที่เราไม่คิดจะปรากฏขึ้นเสมอ นั่นคือฝนตก อากาศปกติธรรมดาๆ
    ก็ไม่น่าจะมีฝนตก ก็มีฝนตกลงมา แต่เวลาที่ฝนตก ฝนไม่ทำความเสียหายให้แก่งานเลย
    ทุกคนกลับมีความชุ่มชื่น เพราะเวลานั้นเป็นฤดูร้อนมาก คือ เดือนเมษายน
    แต่ว่าพอเวลาใกล้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จมาถึงจริงๆ ฝนก็หายหมด
    ปรากฏว่าคนทุกคนได้รับความชุ่มใจเป็นพิเศษ

    อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นก็คือ
    ทรงจิตเป็นฌาณสมาบัติได้ดีเป็นเลิศ ผมขอสรรเสริญพระองค์
    ความจริงการสรรเสริญของผมนี่ก็คงไม่มีผลตอบสนองเป็นวัตถุ
    ทั้งนี้เพราะผมไม่ต้องการด้านวัตถุ ผมต้องการอย่างเดียวคือ
    พูดตามความเป็นจริง อย่าลืมนะผมพูดถึงเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    เป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ ถ้าไปเที่ยบกับความดีของพระองค์ล่ะ พรรณากันไม่ไหว
    ส่วนสำคัญ คือ กำลังใจของพระองค์ในการเจริญสมาธิ
    สามารถเข้าฌาน ออกฌานได้ ตามเวลา สำหรับด้านวิปัสสนาญาณนั่น
    ท่านทำถึงไหนผมไม่ทราบ ก็เป็นเรื่องความสะอาดของจิต
    แต่ผมมีความมั่นใจว่าพระองค์มีความสะอาดของจิตมากเหลือเกิน ยากที่จะพูดพรรณาได้

    และก็มีคนเขาชอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระอริยเจ้าไหม ? หรือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ?
    อันนี้ ผมก็ไม่รู้กำลังใจของพระองค์เหมือนกัน แต่ว่าถ้าดูด้านพระราชจริยาวัตรของพระองค์แล้ว
    จริยาวัตรของพระองค์แสดงออกชัดว่าเป็นพระจริยาของพระโพธิสัตว์ แต่ผมก็ไม่ยืนยันนะครับ
    เพราะผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า อันนี้เป็นการสังเกตของผมเอง

    คำว่าพระราชาผู้ทรงธรรม อย่าคิดว่าผมยกย่องพระองค์เกินความเป็นจริงนะ
    ผมบอกแล้วนี่ อันดับต้น สังคหวัตถุ ๔ ของพระองค์ครบถ้วน
    ขั้นสุดท้ายกำลังใจสูงส่งในด้านสมถวิปัสสนา และขันติ
    กำลังใจ เมตตาของพระองค์ดีมาก ใครว่าอะไรก็ตาม นินทาอะไรก็ตาม
    ไม่ทรงโต้ตอบ และก็ไม่เคยตำหนิใครว่าชั่ว อันนี้หาได้ยาก
    ถ้ามากไปกว่านี้ ผมคิดว่าเทปอีกสัก ๑๐๐ ม้วน ผมพูดเรื่องของท่านไม่จบ

    ก็รวมความว่าวันนั้นเข้าไป พระองค์ทรงแสดงชัดไม่เคยถือพระองค์
    และผมเองก็เป็นพระป่าพระดง ราชาศัพท์ผมก็ใช้กับเขาไม่เป็น
    ไม่รู้ว่า พระเขาพูดกับพระเจ้าแผ่นดินว่าอย่างไร ผมก็เล่นลูกทุ่งตามปกติของผม
    ท่านถามมาผมก็ตอบไป ผมจำไม่ได้ว่าท่านถามเรื่องอะไรบ้าง มาในช่วงหลังพอจะนึกออก
    ท่านถามถึงภาวะความเป็นไปของชาติและประชาชนในชาติ
    เห็นไหมบรรดาเพื่อนภิกษุสามเณร และญาติโยมพุทธบริษัท
    ท่านไม่ได้ถามว่าพระองค์จะมีความสุข พระองค์เองจะร่ำรวยขนาดไหน
    ไม่ได้เคยปรารภถึงพระองค์เองเลย ทรงปรารภเฉพาะเวลานี้บ้านเมืองมันเต็มไปด้วยความคับแคบ
    บรรดาประชาชนอดอยากยากจนกันมาก ฝืดเคืองมาก ท่านถามว่า
    “ต่อไปชาติเราจะเจริญรุ่งเรืองขนาดไหน และจะมีความอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน?”
    ผมก็ถวายพระพรไป บอกว่า “หลังจากนี้ไปเข้าเขต พ.ศ.๒๕๒๔ บ้านเมืองของเราจะเข้าเขตฟ้าสาง”

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง







    "[FONT=&quot]ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"[/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับปฐมเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกล่าวความเช่นนี้ ก็เกิดมาจากการที่ท่านได้กล่าวเตือนญาติโยมบางรายที่ไปนมัสการว่า[/FONT]
    "[FONT=&quot]การ[FONT=&quot]ที่คุณเอาธนบัตรที่มีรูปในหลวงไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนั้น ไม่ดีเลย[/FONT][FONT=&quot]เพราะในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์[/FONT][FONT=&quot]การเอาพระรูปของท่านไปไว้ในที่ต่ำอย่างนั้น ย่อมบังเกิดโทษเป็นอันมาก[/FONT][FONT=&quot]ทีหลังอย่าพากันทำ..!![/FONT]?!"[/FONT]
    [FONT=&quot]พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)(เจ้าคุณนรฯ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร[/FONT]




    "[FONT=&quot]พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น[FONT=&quot]แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย.."[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง [FONT=&quot]เชียงใหม่[/FONT]


    [/FONT]


    [FONT=&quot]ครั้งหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]มีผู้พูดถึง"ผู้ยิ่งใหญ่"ระดับประเทศบางท่านให้หลวงพ่ออุตตมะ[FONT=&quot]วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย[/FONT][FONT=&quot]วัดป่าสาลวัน[/FONT][FONT=&quot]นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า"เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์[/FONT][FONT=&quot]เบื้องหน้า"ฟัง สังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน"เฉย"มากๆ[/FONT][FONT=&quot]ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า[/FONT]
    "[FONT=&quot]เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากเหมือนกับในหลวงหรอก..!!!!!"[/FONT]


    [/FONT]


    "...[FONT=&quot]เหตุการณ์[FONT=&quot]ที่น่าทึ่งที่สุดคือ เมื่อปี พ.ศ.[/FONT]2531 [FONT=&quot]เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ[/FONT][FONT=&quot]ได้เสด็จไปนิมนต์หลวง ตาไปในงานในวัง ปกติหลวงตาท่านไม่ค่อยไปไหน[/FONT][FONT=&quot]แต่ตอนที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ไปนิมนต์ ท่านไปนิมนต์ด้วยพระองค์เอง[/FONT][FONT=&quot]เรายังจำได้.. วันนั้นเป็นวันที่ [/FONT]7 [FONT=&quot]มกราคม [/FONT]2531 [FONT=&quot]เป็นปีเฉลิมราชรัชมังคลาภิเษกที่ทรงครองราชย์มากกว่ากษัตริย์ใด ในประวัติ[/FONT][FONT=&quot]ศาสตร์ไทย ท่านนิมนต์หลวงตาเข้าวัง มาเป็นขบวนใหญ่ หลวงตาท่านจะอยู่ที่กุฏิ[/FONT][FONT=&quot]ท่านให้เราควบคุมดูแลญาติโยม ดูแลพวกทหารที่มา พระเจ้าอยู่หัวฯ[/FONT][FONT=&quot]จะเสด็จมาตอน [/FONT]6 [FONT=&quot]โมงเย็น[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อขบวนพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาถึง[/FONT] [FONT=&quot]เรายืนตรงนี้ ผู้ว่าฯ สายสิทธิ์ยืนตรงนี้ หมออวย [FONT=&quot]แล้วใครต่อใครยืนเป็นแถวรอรับเสด็จ[/FONT] [FONT=&quot]แล้วท่านก็ขึ้นไปข้างบนซึ่งหลวงตารอท่านอยู่แล้ว ส่วนเราก็อยู่ตรงบันได[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนหลวงตาอยู่ข้างบน ที่ขึ้นไปก็มีพระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จครบหมดเลย[/FONT] [FONT=&quot]พระราชินี พระบรมฯ พระเทพฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ[/FONT] [FONT=&quot]หมดทั้งครอบครัวเพื่อจะนิมนต์หลวงตาไปงานพิธีในวัง[/FONT]
    [FONT=&quot]พอพระองค์ท่านกราบหลวงตาเสร็จ ท่านก็ถวายคำถามแรก ( พระเจ้าอยู่หัวเรียกหลวงตาว่า "หลวงปู่" )[/FONT][/FONT]
    "[FONT=&quot]หลวงปู่... สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร" โอ้... พระเจ้าอยู่หัวถามปัญหาหลวงตาขนาดนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงตาตอบว่า...[/FONT]
    "[FONT=&quot]พุทธ [FONT=&quot]ภูมิ ก็เหมือน ดั่งเรานั่งรถไฟ[/FONT] [FONT=&quot]นั่งรถไฟไปเชียงใหม่หรือนั่งรถไฟไปอุดรนั่นแหละพุทธภูมิ[/FONT] [FONT=&quot]แต่ถ้าเรานั่งจักรยานมาหรือนั่งมอเตอร์ไซค์[/FONT] [FONT=&quot]ขี่มอเตอร์ไซค์ไปนั่นแหละ...สาวกภูมิ เพราะฉะนั้นการเป็นพุทธภูมิก็คือการ[/FONT] [FONT=&quot]นำคนไปได้เยอะ ๆ ส่วนสาวกภูมินั้นนำไปได้น้อยๆ ไม่ได้มากนัก อย่างเก่งก็ [/FONT]1 [FONT=&quot]คน หรือ [/FONT]3-4 [FONT=&quot]คน ก็ว่ากันไป นั่นคือสาวกภูมิ เข้าใจไหมล่ะพ่อหลวง"[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]พระเจ้าอยู่หัวฯ ตอบหลวงตาว่า "เข้าใจแล้วหลวงปู่ แล้วนิพพานเป็นอย่างไรนะ หลวงปู่"[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวง[/FONT] [FONT=&quot]ตาตอบ : "อ้อ พ่อหลวงเหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ [FONT=&quot]รู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน อยุ่บนกุฏินี่เหรอ[/FONT] [FONT=&quot]วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะ แต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี้แหละ[/FONT] [FONT=&quot]แต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด[/FONT] [FONT=&quot]นี่แหละพระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน"[/FONT]
    [FONT=&quot]และเมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]ขอบารมีหลวงตาช่วยต่ออายุให้แม่หลวง (คือสมเด็จย่า) [FONT=&quot]ตอนนั้นสมเด็จย่าทรงประชวรอยู่ หลวงตาท่านก็ตอบปฏิเสธเลยว่า...[/FONT] "[FONT=&quot]พ่อหลวงนั่นแหละก็จัดการเองได้ ขอเองได้" ท่านว่างั้นนะ...[/FONT] "[FONT=&quot]พ่อหลวงก็สามารถจัดการได้เอง" ท่านบอกไปเลยนะว่า...[/FONT] [FONT=&quot]ให้พระเจ้าอยู่หัวขอเอง จัดการเอง จัดการเองอาตมาต่อให้ไม่ได้หรอก[/FONT]
    [FONT=&quot]พระเจ้าอยู่หัวฯ ได้กราบลาว่า "เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว จะกลับแล้ว ท่านหลวงปู่มีอะไรจะบอกไหม"[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงตาท่านได้เทศน์สั้น ๆ ว่า[/FONT]
    "[FONT=&quot]การ [FONT=&quot]เป็นพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อความเป็นพุทธะ[/FONT] [FONT=&quot]พอจบพุทธภูมิได้ก็เป็นพระพุทธเจ้า แล้ว พระพุทธเจ้าก็มีพุทธกิจ [/FONT]5 [FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]ตอนเช้าบิณฑบาต ตอนบ่ายสอนคหบดีมนุษย์ทั่วไป ตกเย็นสอนนักบวช สมณะชีพราหมณ์[/FONT] [FONT=&quot]ตอนกลางคืนแก้ปัญหาเทวดา พอมาตอนเช้ามืดเล็งญาณดูสัตว์โลก[/FONT] [FONT=&quot]สัตว์โลกตัวไหนมีกิเลสเบาบางพอที่จะบรรลุธรรมได้[/FONT] [FONT=&quot]ท่านก็จะเล็งญาณดูรีบไปโปรดก่อน[/FONT] [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าสร้างบารมีพุทธภูมิจนได้เป็นพระพุทธเจ้า[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็มีพระพุทธกิจ [/FONT]5 [FONT=&quot]อย่างนี้ แต่...[/FONT] [FONT=&quot]ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของประเทศไทยปรารถนาอะไร[/FONT] [FONT=&quot]ทำงานกันจนไม่มีเวลาจะพักผ่อน..เอาล่ะ ๆ ... อาตมาจะให้พร"[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]พอฟังมาถึง[/FONT] [FONT=&quot]ตรงนี้นะ เรายังจำได้แม่น เพราะพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านถามเรื่องพุทธภูมิ [FONT=&quot]เสร็จแล้วพอท่านจะลากลับ หลวงตาท่านสรุปให้เสร็จสรรพเลย...[/FONT] [FONT=&quot]ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของไทยทำงานปรารถนาความเป็นอะไร...[/FONT] [FONT=&quot]ทำงานกันจนไม่มีเวลาพักผ่อน... เอาล่ะ ๆ ...อาตมาจะให้พร[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อพระเจ้า[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]อยู่หัวท่านเสด็จลงมา ท่านก็ตรัสว่า อยากให้ท่านอาจารย์อยู่กับหลวงตาไปนาน ๆ ...[FONT=&quot]เราก็ได้ตอบท่านว่า เจริญพร...มหาบพิตร อาตมาก็อยากจะอยู่[/FONT] [FONT=&quot]แต่ถ้าถึงเวลาที่อาตมาจะต้องเอา ตัวเองให้รอด อาตมาก็ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน[/FONT] [FONT=&quot]เพราะทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล ถึงเวลาไปก็ต้องไปเหมือนกัน[/FONT] [FONT=&quot]แล้วพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็บอกขอทำบุญกับหลวงตา [/FONT]200,000 [FONT=&quot]ถวายอาจารย์ [/FONT]20,000 [FONT=&quot]แล้วท่านก็ถามว่าพระที่อยู่ในวัดนี้กี่รูป เราก็ตอบท่านทั้งหมด [/FONT]29 [FONT=&quot]รูปรวมหลวงตานั่นแหละ... ท่านจึงถวายให้รูปล่ะ [/FONT]2,000 "[FONT=&quot]แล้วปัจจัยจะให้ไว้กับใคร" ท่านถาม...ท่านหยิบออกมาให้เลยนะ ท่านผู้ว่าฯ[/FONT] [FONT=&quot]ยังรับมือสั่น พระเจ้าอยู่หัวไม่เพียงมากราบหลวงตา[/FONT] [FONT=&quot]ท่านมาที่วัดท่านยังมาทำบุญกับพระด้วยปัจจัยที่เตรียมพร้อมจากพระหัตถ์ของ[/FONT] [FONT=&quot]ท่านเอง จากนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เสด็จออกไปเยี่ยมประชาชนแล้วก็ขึ้นรถไป[/FONT]
    [FONT=&quot]นั่น[/FONT][/FONT][FONT=&quot]แหละเราได้ฟังมา เรื่องของพุทธภูมิ เรื่องของพระโพธิสัตว์[FONT=&quot]สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร เสร็จแล้วพอตอนจบขอพร[/FONT][FONT=&quot]หลวงตาท่านก็สรุปและให้พร จึงบอกได้ว่าเป็นบทสนทนาของจอมปราชญ์...[/FONT]
    [/FONT][FONT=&quot]ในหลวงสนทนาเรื่อง"พุทธภูมิ"กับหลวงตามหาบัว[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่มานิตยสาร น่านฟ้า ปีที่[/FONT]1 [FONT=&quot]ฉบับที่ 8 [FONT=&quot]ประจำเดือนธันวาคม [/FONT]2550 [FONT=&quot]หน้า[/FONT]18


    [/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อต้นปีพ.ศ. [/FONT]2498 [FONT=&quot]คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมได้ปรารภกับศิษยานุศิษย์ของท่านว่า
    "[FONT=&quot]มีใครเป็นห่วงพระเจ้าแผ่นดินองค์น้อย(ในหลวง)บ้าง..[/FONT]??"
    [FONT=&quot]เมื่อทุกคนกล่าวรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากมีข่าวที่น่าเป็นกังวลมาให้ได้ยินอยู่ คุณแม่บุญเรือนก็ว่าต่อไปอีกหน่อยว่า[/FONT][/FONT]
    "[FONT=&quot]ถ้าเป็นห่วง ก็ขอให้แม่อธิษฐานช่วยพระองค์ท่านซิ" (ตามอริยประเพณี พระอริยะจะทำการสิ่งใดโดยปราศจากเหตุหรือไม่มีผู้อาราธนามิได้)[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อ[/FONT] [FONT=&quot]ศิษย์ทุกคนกล่าวคำขอให้คุณแม่ใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยในหลวงให้ทรงพระเจริญและ [FONT=&quot]แคล้วคลาดจากสรรพภยันตรายทั้งปวงแล้ว คุณแม่บุญเรือน[/FONT] [FONT=&quot]โตงบุญเติมจึงได้กำหนดที่จะไปเข้า"นิโรธสมาบัติ"[/FONT] [FONT=&quot]คุ้มครองถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[/FONT] [FONT=&quot]ที่บ้านนาซา(เป็นเคล็ดให้เรื่องร้าย"สร่างซา"ลงไป)[/FONT] [FONT=&quot]ของนางสาววาย(เป็นเคล็ดให้เรื่องราวที่ไม่ดีมีอันต้อง"วาย"หายสูญ ไป)[/FONT] [FONT=&quot]วิทยานุกรณ์ (น้องสาวพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์)[/FONT] [FONT=&quot]ที่ปากน้ำประแสร์[/FONT] [FONT=&quot]จ.ระยองเป็นเวลาถึง [/FONT]1 [FONT=&quot]ปีเต็ม โดยช่วงนั้น[/FONT] [FONT=&quot]คุณแม่บุญเรือนได้สั่งห้ามมิให้ศิษย์คนใดเข้ามารบกวนท่านในช่วงเวลานั้นเป็น[/FONT] [FONT=&quot]อันเด็ดขาด..!!!![/FONT]

    [FONT=&quot]ที่มา[/FONT],[FONT=&quot]หนังสืออนุสรณ์ อดีตเจ้าอาวาส วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง พ.ศ. [/FONT]2551



    [/FONT]

    "[FONT=&quot]มีแต่คนที่ไม่ฉลาดเท่านั้น ที่จะไม่รู้ว่า ในหลวงพระองค์นี้ดีอย่าง[/FONT]
    ([FONT=&quot]พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร)

    [/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อ[/FONT] [FONT=&quot]หลายสิบปีก่อน ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 [FONT=&quot]ถูกลอบปลงพระชนม์ ถึงเสด็จสวรรคต หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก[/FONT] [FONT=&quot]พระนครศรีอยุธยา เคยเล่าว่าท่านเกิดความสลดสังเวชมาก ว่าคนไทยหลายคน[/FONT] [FONT=&quot]ยังขาดกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อพระเจ้าอยู่หัว ท่านคิดอยู่เสมอว่า[/FONT] [FONT=&quot]จะให้คนไทยมีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ได้อย่างไร..[/FONT]

    [FONT=&quot]สำหรับ[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]องค์ของหลวงปู่ดู่เองนั้น ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ [FONT=&quot]แม้กาลเวลาล่วงเลยไป หลายสิบปี กิจวัตรอันหนึ่งที่ท่านทำอยู่มิได้ขาด คือ[/FONT] [FONT=&quot]การสวดมนต์ถวายพระพรแด่ในหลวงทุกวันตลอดมา[/FONT] [FONT=&quot]ขอให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมิ่งขวัญคนไทยตลอดไป[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงพ่อยัง[/FONT][/FONT] [FONT=&quot]ได้กล่าวไว้อีกว่า เพราะพระเจ้าแผ่นดิน(ร.9) [FONT=&quot]ท่านปฏิบัติ(ธรรม)[/FONT] [FONT=&quot]ต่อไปพุทธศานาในเมืองไทยจะเจริญขึ้น เพราะท่านเป็นผู้นำเป็นแบบอย่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]สมัยหนึ่งเมื่อหลวงปู่ดู่ ยังทรงสังขารอยู่นั้นบ่ายของวันที่แดดร่มลมตก จู่ ๆ ท่านก็เปรยกับคณะศิษย์ที่ประกอบด้วย "คนตาดี" หลายคนว่า[/FONT][/FONT]
    "[FONT=&quot]พวกแกลองดูทีซิว่า มีพระรูปไหนอยู่กับในหลวงบ้าง"[/FONT]
    [FONT=&quot]เข้าใจว่าท่านคงหมายถึง กายทิพย์หรือบารมีที่พระมหาเถระแต่ละองค์อธิษฐานพิทักษ์รักษาในหลวง[/FONT]
    [FONT=&quot]ศิษย์ท่านหนึ่งก็ "เข้าที่" ตามหลวงปู่สั่ง พักหนึ่งก็ลืมตาแล้วตอบว่า[/FONT]
    "[FONT=&quot]หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปางครับ"[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงปู่ยิ้มแล้วว่า "นั่นองค์หนึ่งละ มีใครอีก"[/FONT]
    [FONT=&quot]ศิษย์แสนซนคนหนึ่งตอบทันที "หลวงพ่อนั่นแหละครับ"[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านมองหน้าแล้วถาม "ทำไมแกจึงว่าอย่างนั้น"[/FONT]
    [FONT=&quot]ศิษย์อธิบายว่า[/FONT]
    "[FONT=&quot]อ้าว ก็หลวงพ่อรู้ได้ว่ามีองค์นั้น องค์นี้อยู่กับในหลวง แสดงว่าหลวงพ่อก็ต้องไปมาด้วยน่ะสิ ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไง"[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อเข้าเนื้อท่านโบกมือให้ยุติเรื่องทันที ศิษย์ก็ถึงที่ยิ้มไป...[/FONT]




    [FONT=&quot]เรา[/FONT] [FONT=&quot]อย่าเห็นสิ่งปลีกย่อยดีกว่าส่วนรวมส่วนใหญ่นะ ส่วนใหญ่นั่นละเป็นของสำคัญ [FONT=&quot]พ่อกับแม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อะไรที่เป็นหลักของชาติ[/FONT] [FONT=&quot]เป็นหัวใจของชาติให้พากันรักกันสงวน อย่าพากันทำลาย[/FONT] [FONT=&quot]ลูกเต้าจะอวดดีกว่าพ่อกว่าแม่มันไม่ดีละ[/FONT]

    [FONT=&quot]คิดดูในพุทธศาสนาพระเจ้าอาชา ตศัตรูทำลายพระราชบิดา ก็ไม่เห็นเจริญอะไร[/FONT] [FONT=&quot]ท่านว่า เย เกจิ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คตา เส น เต คมิสฺสนฺ อบายภูมึ[/FONT] [FONT=&quot]พวกสัตว์ทั้งหลายถ้านึกลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์[/FONT] [FONT=&quot]มีความเทิดทูนในสิ่งที่ดีงามที่มีคุณมีประโยชน์ทั้งหลายแล้วผู้นั้นเจริญ[/FONT] [FONT=&quot]ผู้ใดไปทำลายหลักใหญ่แล้วจะเอาให้ส่วนเล็กๆนี้ขึ้นครองบ้านครองเมืองมันก็[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ดี ให้พากันรักษาหลักใหญ่เอาไว้[/FONT]

    [FONT=&quot]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือหัวใจของชาติไทยเรา นี่ให้พากันจำเอาไว้นะ[/FONT] [FONT=&quot]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนี้คือหัวใจของ[/FONT] [FONT=&quot]ชาติไทยเรา ให้พากันเทิดทูน อย่าพากันดูถูกเหยียดหยามทำลาย[/FONT] [FONT=&quot]เช่นอย่างจะทำลายจะไม่ให้มีพระเจ้าอยู่หัว มันคนเกิดมาแล้วพ่อแม่ตายหมด[/FONT] [FONT=&quot]มีแต่ลูกกำพร้าหยิมแหยมๆ มันใช้ไม่ได้นะ[/FONT] [FONT=&quot]สกุลใดที่มีคนคับแคบอยู่ในบ้านนั้นเมืองนั้นแล้วสกุลนั้นไม่เจริญ[/FONT] [FONT=&quot]สกุลใดที่มีความกว้างขวาง มีจิตใจอันกว้างขวาง[/FONT] [FONT=&quot]พิจารณารอบคอบเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมผู้นั้นเป็นผู้ดี[/FONT]

    [FONT=&quot]นี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ของพวกเราคือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ[/FONT] [FONT=&quot]ให้พากันทะนุถนอมนะ อย่าพากันไปทำลาย จะมีแต่ลูกหยอมแหยมๆ[/FONT] [FONT=&quot]พ่อแม่ผู้ให้ความร่มเย็นไม่มีมันไม่เกิดประโยชน์[/FONT] [FONT=&quot]อย่างไรต้องรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ ในประเทศไทยเราก็คือ[/FONT] [FONT=&quot]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี[/FONT] [FONT=&quot]นี้คือหัวใจของชาติให้พากันเคารพเทิดทูน[/FONT] [FONT=&quot]อะไรที่เป็นหลักใหญ่ของชาติของส่วนรวมให้พากันรักษา พากันเทิดทูน[/FONT] [FONT=&quot]อย่าพากันทำลายโดยอวดดี[/FONT]

    [FONT=&quot]ดังที่ท่านว่าอึ่งอ่างกับวัวนั่นละ[/FONT] [FONT=&quot]เราก็เห็นในนิทานอีสปแต่ก่อนเรียนหนังสือ อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้นนี่[/FONT] [FONT=&quot]วัวมันตัวขนาดไหน ลูกอยู่ในรู แม่ไปหากิน ลืมแล้วนิทานอีสป[/FONT] [FONT=&quot]มันเป็นอย่างไรละทีนี้ (ลูกเห็นวัว[/FONT] [FONT=&quot]พอแม่กลับมาเล่าให้แม่ฟังว่าเจอตัวอะไรไม่รู้ใหญ่มาก แม่ก็พองตัว[/FONT] [FONT=&quot]ลูกว่าใหญ่กว่านี้อีกค่ะ) ได้ไหมๆ สุดท้ายสิ่งที่ได้คือพุงแตก นี่ระวังนะ[/FONT] [FONT=&quot]ตัวเล็กๆ อย่าไปพองตัว มันไม่สมควรจะพอง อึ่งอ่างกับวัว[/FONT] [FONT=&quot]วัวมันตัวใหญ่ขนาดไหน อึ่งอ่างตัวเท่ากำปั้น มาพอง มันตัวเท่านี้ไหมๆ[/FONT] [FONT=&quot]เรื่อย สุดท้ายเลยตาย เข้าใจไหม นี่อึ่งอ่างกับวัวมันไม่ดีอย่างนั้นละ[/FONT][/FONT]
    หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี





    ประมวลภาพ ในหลวงและพระสุปฏิบันโน





    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล


    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    วัดบูรพาราม
    ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ในหลวงทรงถวายโอสถแด่หลวงปู่ขาว อนาลโย


    ในหลวงกับหลวงปู่ขาว อนาลโย


    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกองเพล
    ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี


    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง
    ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร


    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    วัดป่าอุดมสมพร
    ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ


    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง
    ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม


    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    วัดป่าสัมมานุสรณ์
    ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="94%"><tbody><tr><td class="postbody" valign="top">[​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่หลุย จันทสาโร


    หลวงปู่หลุย จันทสาโร
    วัดถ้ำผาบิ้ง
    ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร


    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    วัดถ้ำผาปล่อง
    ต.บ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงพ่อเกษม เขมโก


    หลวงพ่อเกษม เขมโก
    สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ (ประตูม้า)
    ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง


    </td></tr><tr><td>


    </td></tr><tr></tr></tbody></table>[​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต


    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
    วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    ต.บ้านโคก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น



    <table class="forumline" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="row2" rowspan="2" align="center" valign="top">



    [​IMG]

    </td><td class="row2" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="18" width="342"><tbody><tr><td class="postdetails">


    </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top">


    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="94%"><tbody><tr><td class="postbody" valign="top">[​IMG]

    ในหลวงกับครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์)






    [​IMG]

    [​IMG]
    ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ
    ที่พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐


    ในหลวงกับหลวงพ่อวัน อุตฺตโม


    หลวงพ่อวัน อุตฺตโม
    วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง)
    ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

    ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์)
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ต.นาทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>




    [​IMG]
    ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระราชาคณะชั้นราช
    ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชอุดมมงคล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔

    ในหลวงกับหลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ


    หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ
    วัดวังก์วิเวการาม
    ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี


    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงพ่อพุธ ฐานิโย


    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน
    ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    [​IMG]

    [​IMG]

    ในหลวงกับครูบาพรหมา พรหมจักโก


    ครูบาพรหมา พรหมจักโก
    วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน



    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด
    ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี


    [​IMG]

    ในหลวงกับพระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว สุวณฺณโชโต)


    พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว สุวณฺณโชโต)
    วัดสุทธิตวราราม
    ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร



    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงปู่นำ ชินวโร


    หลวงปู่นำ ชินวโร
    วัดดอนศาลา
    ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง


    [​IMG]

    ในหลวงกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสารเถร)


    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสารเถร)
    วัดราชผาติการาม
    แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กทม.

    [​IMG]

    ในหลวงกับหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ


    หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
    วัดบ้านไร่
    ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา


    <table border="0" height="36" width="100%"><tbody><tr><td nowrap="nowrap" valign="top" width="80%">


    </td></tr></tbody></table>สหธรรมิกท่านหนึ่ง(ซึ่งผมสนิทใจว่าต้องเป็นบุคคลไม่ธรรมดา)ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า

    ถ้าจะเลือกกราบพระภิกษุที่กราบได้สนิทใจ (หมายถึงพระอริยบุคคล หรือพระโพธิสัตว์ อย่างใดอย่างหนึ่ง)

    ให้พิจารณาเลือกพระภิกษุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงมีพระราชศรัทธา

    เพราะพระองค์ทรงมีพระปรีชาญาณยิ่งนัก และทรงปฏิบัติกรรมฐานได้อย่างยอดเยี่ยม

    ทรงเป็นพุทธมามกะที่ยอดเยี่ยมในสยาม สมควรที่พสกนิกรควรดำเนินตามแบบอย่างพระองค์ครับ

    ขอขอบคุณ เวปลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net ที่เอื้อเฟื้อภาพครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2012
  2. กายคตา

    กายคตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +732
    สาธุ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์หนึ่งเดียวในโลก
     
  3. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    มหากะสัตโต มหาโพธิสัตโต วันทามิ

    เจริญธรรมครับ
     
  4. kim2533

    kim2533 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,613
    ค่าพลัง:
    +6,305
    พระองค์บำเพ็ญบารมีมาดีจึงได้พบพระดีมากมายครับ สาธุ
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  6. ชลกนก

    ชลกนก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +187
    สาธุ อนุโมทนา ครับ อ่านแล้วน้ำตามันไหลเอง เลยเกิดปิติ ครับ
     
  7. soft_soft

    soft_soft เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +890
    อนุโมทนาอย่างยิ่ง !!!
    ต่อไปนี้ ผมจะไม่เอาธนบัตร กับ เหรียญที่มีรูปในหลวง ใส่ในกระเป๋ากางเกงอีกแล้วครับ เพื่อไม่เป็นการปรามาสท่านอีก :cool:
     
  8. packtuza

    packtuza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +29
    สาธุ สาธุ สาธุ ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร
     
  9. ทามาก็อต

    ทามาก็อต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +359
    กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าเคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินในหลวงรัชกาลที่ 9 ลูกขออโหสิกรรมด้วย
    ขออนุโมทนาบุญทั้งปวงที่พ่อหลวงท่านได้ตั้งใจสร้างไว้ด้วยความเคารพ
    สาธุๆๆๆๆ:cool:
     
  10. ขุนไกรพลพ่าย

    ขุนไกรพลพ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +184
    สาธุ จะจดจำไว้ว่าจะเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ......... ทรงพระเจริญ
     
  11. ไข่ต้ม14

    ไข่ต้ม14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +385
    สาูธุค่ะ
     
  12. diego

    diego Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +27
    สาธุครับ เกิดมาได้ชมพระบารมีของพระองค์เพียงครั้งเดียวและเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ภาพและความรู้สึกตินนั้น ยังจำได้ดีเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
     
  13. Klay9

    Klay9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +622
    ขออนุโมทนาบุญกับพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยทุกประการครับ
     
  14. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
    ขอจงทรงพระเจริญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...