การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

ดนตรีไพเราะ เนื้อหามีความหมายลึกซึ้งนุ่มนวลดีค่ะ

ชอบฟังมากๆ ค่ะ ดนตรีไพเราะ เนื้อหามีความหมายลึกซึ้งนุ่มนวลดีค่ะ เก้าฟังซ้ำ สองสามรอบแล้ว เลยจะขออนุญาต(deejai) คุณภูทยานฌาน2 แชร์ไปไว้ที่เฟสเก้าบ้างนะคะ ขอบพระคุณและขอโมทนาบุญในธรรมทานด้วยค่ะ

 

ศีล สมาธิ ปัญญา

อุยยยยย งานเข้า.....อิอิ:VO
ขอบพระคุณและโมทนาบุญในธรรมทานด้วยค่ะ เก้าคิดว่าทุกคนทุกดวงจิตที่เกิดมา อยากจะสร้างกุศลทำความดีกันอยู่แล้ว แต่แรงแห่งกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ตัณหา อุปาทาน ต่างๆ มันมีแรงดึงรั้งในจิตใจมากกว่า สำหรับสังคมปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ตั้งมั่นในศีลห้าให้ได้ ไม่มีสัจจะ ไม่มีหิริโอตตัปปะในจิตใจ ก็ย่อมจะสู้แรงกิเลสได้ยาก นี่ละสังสารวัฏ :z8
ถ้าทุกคนไม่พยายามช่วยกันยกจิตตัวเอง แล้วใครที่ไหนหนอจะมาช่วยยกจิตท่านได้ตลอด
ลองเถอะค่ะ เริ่มจากศีลนี่ละ ตั้งใจทำให้ได้วันละข้อ ได้แล้วเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน ชินแล้วก็ทำได้เป็นปกติ สู้ๆ ค่ะchearr

 

ไปกราบหลวงปู่บุญญฤทธิ์ ที่สวนทิพย์สิคะ (ถ้าเคยไปแล้ว..ขออภัยค่ะ)

ครูบาอาจารย์กรรมฐานรุ่นใหญ่ .. เหลือไม่มากแล้ว ^^"

รอยยิ้มหลวงปู่..เห็นแล้วมีความสุข

 

โลกต้องไม่ให้ช้ำ ธรรมต้องไม่ให้เสีย !!!​

พระธรรมเทศนาจาก หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

การจะทำทาน ก็ให้ดูคนข้างหลังด้วย จะเอาอย่างคนมีทรัพย์มาก ๆ ไม่ได้

การจะรักษาศีลแปด ก็อาจไม่จำเป็นต้องรักษาในวันพระ แต่เลือกวันที่ไม่กระทบต่อการรับประทานอาหารเย็นร่วมกับครอบครัว เพราะเป็นกิจกรรมที่สำคัญ

การภาวนาก็ไม่เน้นแต่เฉพาะนั่งหลับตาที่วัด เวลาทำการทำงาน เดินไปไหนมาไหน ก็พยายามมีสติระลึกรู้ จะปฏิบัติเก่งขนาดไหน แต่เพื่อนร่วมงานไม่คบ หรือมีแต่คนรังเกียจหรือนินทาลับหลัง จะมีประโยชน์อะไร

โลกและธรรมสัมพันธ์กัน เราสามารถหาธรรมได้จากโลก ในขณะเดียวกันในทางธรรมก็มักมีเรื่องโลก ๆ แฝงอยู่

***********************************************
หมายเหตุ

ผมขอฝากคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เรื่องโลกต้องไม่ให้ช้ำ ธรรมต้องไม่ให้เสียนี้เอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจท่านทั้งหลายว่า จะปฏิบัติธรรมอย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมหน้าที่ในทางโลกของท่านด้วยนะครับ เพราะครอบครัวของท่านยังต้องพึ่งท่านอยู่ เมื่อเวลามีภัยพิบัติมา ท่านยังมีหน้าที่ต้องพาครอบครัวของท่านไปยังที่ปลอดภัย อย่ามัวแต่นั่งหลับตาภาวนาเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียว ต้องนึกถึงความปลอดภัยของลูกเมียท่านด้วยนะครับ

 

ขอบคุณ คุณภูทยานฌาน2 ..เป็นประโยชน์มากๆครับ

สาธุครับ..

 

ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่ช่วยกันแชร์
ที่เล็งเห็น หรือเห็นคุณค่าเรื่องศีล เรื่องธรรม เพราะจิตของคน ของมนุษย์นั้น ในเบื้องต้นจะต้องมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเราก่อน เมื่อแข็งแรงดีแล้ว ท้ายที่สุดจิตจะเป็นผู้ปล่อยวางได้เอง

คนส่วนใหญ่มักเข้าไปถึงแค่อามิสบูชา แต่มีส่วนน้อยเหลือเกินที่เข้าถึงปฎิบัติบูชา เพราะด้วยเหตุกำลังใจของตนเป็นหลัก
ถ้าบุคคลใดกำลังใจเต็ม หรือบุญบารมีมากพอแล้ว ก็จะทำให้ผู้นั้นเข้าถึงธรรมปฎิบัติบูชาได้เอง(สักวันนึง)

กำลังใจในที่นี้หมายถึง บุญ หรือบารมีของตนเอง
กำลังใจที่กล่าวมานี้ ได้มาจากไหน? หรือสร้างกันได้อย่างไร?
ก็ที่พวกท่านทั้งหลายกำลังกระทำความดีกันอยู่นั้น โดยเริ่มต้นจากบุญภายนอก ไปหาบุญภายใน ได้แก่
1.การทำทาน ทำบุญต่างๆ
2.การฟังเทศน์ ฟังธรรม สวดมนต์ไหว้พระ
3.การรักษาศีล การทำสมาธิ หรือการทำภาวนา
เป็นต้น

สำหรับพวกที่กำลังใจเต็ม หรือมั่นใจว่าบุญ หรือบารมีของตนพร้อมแล้ว ก็ขอให้ทุกท่านรีบเดินทางเข้าสู่สายอริยมรรค หรือทางสายกลางกันได้เลย อย่ารอช้า
เพราะธรรมปฎิบัตินี้เป็นสายตรงเข้าสู่มรรค ผล นิพพานโดยเฉพาะ อันเป็นสายที่ร่มเย็น เยือกเย็น สงบสุขของจิตใจเป็นที่สุด
และเราแทบจะไม่ต้องไปตามหาความสุขจากบุคคลอื่น หรือสิ่งอื่นๆจากที่ไหนเลย

แต่สำหรับผู้ที่กำลังใจยังไม่เต็ม หรือยังไม่พร้อมเข้าสู่การปฎิบัติ นอกเสียจากจะไปตามหาครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆแล้ว ก็ขอให้ท่านยึดเรื่องศีลเป็นหลักก่อน เพราะถ้าศีล(หยาบ)ในเบื้องต้นยังรักษากันไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องศีลกลาง ศีลละเอียด หรืออย่าไปพูดถึงการทำสมาธิ หรือการทำภาวนากันเลย
เพราะถ้าศีลยังรักษากันไม่ได้ การทำสมาธิ หรือการทำภาวนาก็จะไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าที่ควรนัก
ผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลาย จึงถือโอกาสนี้ไปสำรวจตนเอง ว่าทำไม? เราปฎิบัติธรรมมาก็ตั้งหลายปีแล้ว ทำไมทำไม่สำเร็จ หรือไม่มีดวงตาเห็นธรรมเหมือนคนอื่นๆเขาสักที
ผมขอตอบด้วยความเคารพอย่างนี้นะครับว่า ศีลครบ? เพราะว่าตนเองเป็นผู้ปฎิบัติจะต้องทราบเป็นอย่างดี เพราะไม่มีใครคอยช่วยดูแล หรือรักษาศีลแทนกันได้
(แต่ไม่ต้องรอรักษาศีลให้ครบ100%ให้ได้เสียก่อน จึงจะเริ่มทำภาวนา
อันนั้นคิดผิดแล้วครับ เพราะผู้ปฎิบัติใหม่ๆทำกันไม่ได้หรอก ขอแค่รักษาศีลหยาบๆให้ได้ก่อน ถ้ารักษาได้แล้ว ศีลนั้น หรือบุญบารมีนั้นจะนำพาท่านไปรักษาศีลกลาง ศีลละเอียดกันได้เองในภายหลัง)
และเราเท่านั้นที่จะต้องเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องศีลของตนเองให้ดี
เพราะศีลนั้นถือว่าเป็นด่านแรก และสำคัญที่สุดก่อนที่พวกท่านจะไปทำบุญใหญ่กัน(บุญภายใน) หรือเรียกว่า การเจริญสติภาวนานั้น
นอกจากสมาธิ ปัญญาแล้ว ศีลจึงถือว่าเป็นหัวใจหลักของพระพุทธศาสนา
หรือย่อมาจากมรรคมีองค์8 ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
และเส้นทางนี้เท่านั้นที่จะนำพาดวงจิตของพวกเราไปสู่อริยบุคคล(จิตที่เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์) หรือมรรค ผล นิพพาน หรือเพื่อความหลุดพ้นแห่งทุกข์ และเพื่อหลุดพ้นภัยจากวัฎฎสงสารนี้กันได้

สำหรับผู้ใดยังไม่แน่ใจในศีลของตนว่าจะครบหรือไม่ ขอให้ท่านดูที่ศีลหยาบก่อน(ศีล5) คือผิดหรือไม่ผิดในเบื้องต้น ขอให้ท่านดูที่ตัวเจตนาของท่านเป็นหลัก เพราะจิตตนเองจะรู้ดีที่สุดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราแทบไม่ต้องไปถามผู้ใดเลย

แต่ถ้ากำลังใจของตนเองดีแล้ว แม้กระทั่งภัยพิบัติฯนี้ ก็มิอาจมากระทำแก่จิตใจของตนได้ ถึงจะหนีก็ไม่หนีก็มีค่าเท่ากัน แต่ถ้าหนีก็ต้องหนีอย่างมีสติกัน แต่ถ้าคุณหนีแบบไม่มีสติกัน ก็ไม่ต่างกับคนบ้า ที่กำลังเดินอยู่ข้างถนน
และถ้าท่านไม่มีสติกันแล้ว ดูแลตนเองก็ยังไม่ได้เลย แล้วท่านจะไปดูแลคนครอบ หรือคนรักของท่านกันได้อย่างไร
(ลองไปคิดดูกันเอาเองนะครับ)

ขอขอบพระคุณอีกครั้งนึง

 

ธรรมสวัสดีครับ คุณภูทยานฌาน2 ที่นับถือ

ขอโมทนา สาธุ ในการให้ธรรมะเป็นทาน ในครั้งนี้ครับ
"สติ" คำเดียวสั้นๆ แต่มีความหมาย ถ้าเราเข้าใจมัน ทุกอย่างมีคำตอบในตัวมันเอง นับเป็นความอัศจรรย์ ที่เราไม่เคยรู้จักจริงๆ ต้องขอบคุณท่านวิทยากร และยุวพุทธิกสมาคม ที่ได้จัดรายการที่ดีๆ และ ขอขอบคุณ คุณภูทยานฌาน2 ที่นำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูด้วยนะครับ

ผมเองก็ได้ติดตามอ่านข้อความทั้งหลายที่คุณภูทยานฌาน2 ได้นำมาโพสในหลายๆกระทู้ ในเว็ปพลังจิตอยู่เสมอๆ แต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็น เพราะพูด(เขียน)ไม่เก่ง แต่ชอบอ่าน แล้วพิจารณาตาม ก็เข้าใจและรับรู้ได้อย่างไม่มีข้อกังขา รวมทั้งจากท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วย พออ่านดูก็รู้สึกได้เลยว่า อ้อ..เราก็ปฏิบัติเป็นปกติอยู่แล้วนี่ อะไรประมาณนี้ และพอจะแยกออกว่าของใครถูกหรือผิดอย่างไร

ถ้าคุณภูทยานฌาน2 มีธรรมะดีๆ ถ้าไม่เป็นการรบกวน ก็อยากจะขอให้นำมาเผยแพร่เยอะๆนะครับ จะติดตามดูและศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนะครับ


----------เป้าหมายสุดท้ายของชีวิต คือ พระนิพพาน-----------

 

ผมจะโพสต์รอคุณอัญญาสิทธิ์ฯ ไปพลางๆก่อน
แต่ถ้าท่านมาแล้ว ผมก็จะหยุดทันทีนะครับ

ถ้าท่านจะไปตามหาครูบาอาจารย์ หรือพระอรหันต์กันที่ไหนก็ตาม ท่านก็จะพูดไม่กี่เรื่อง นอกจากการภาวนาแล้วก็ยังมีเรื่อง สติ หรือศีลเป็นหลัก
ขอเราอย่าแค่รู้ธรรมะกันเฉยๆ หรือแค่ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้า หรือพระอริยเจ้าเท่านั้น นั่นมันไม่มีประโยชน์อันใด เพราะไม่ได้ช่วยให้ท่านพ้นทุกข์
นอกจากพวกเราไปยึดท่านแล้ว แต่ถ้ารักท่านจริงๆ ก็ขอให้นำธรรมะของท่านมาปฎิบัติตามนะครับจึงจะได้ผล
เพราะศาสนาพุทธสอนพวกเราให้พึ่งพาตนเองก่อน
เช่น ต้องขยันทำสติให้เกิดอยู่บ่อยๆ เมื่อสติมี ศีลก็มีตามเอง

ธรรมะนั้นไม่มีผู้ใดสอนกันได้หรอก มีเพียงแต่เราเท่านั้นที่จะต้องเข้าไปให้ถึงกระแสจิต กระแสธรรมของตนเอง
เพราะที่แท้จริงธรรมะนั้นก็อยู่ภายในจิตของตนเท่านั้น เพียงแต่จะหากันเจอหรือไม่ เท่านั้นเอง

"สติมา ปัญญาเกิด"

"จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว"

เอาสองคตินี้ไปคิดดูเองนะครับ

ธรรมไม่ใช่เรื่องของพระเพียงอย่างเดียว หรือเป็นเรื่องของผู้อื่น หรือต้องรอให้หัวงอกก่อนจึงปฎิบัติ ขอโทษนะครับ ไม่รู้ว่าเราจะอยู่มีลมหายใจกันถึงวันพรุ่งนี้กันหรือเปล่า อย่าประมาทนะครับ

ธรรมะมิใช่อยู่ที่ไหน ที่แท้ธรรมะนั้นก็อยู่ที่กาย ที่ใจของทุกๆคนอยู่แล้ว ลองทำจิตให้นิ่ง ให้ว่างกันดูสิ! แล้วท่านจะมองเห็นธรรมะต่างๆกันได้เอง

ความสุขหากันได้ง่ายที่สุดก็แค่ทำจิตให้นิ่ง จิตว่าง จิตบุญฯ
พูดง่าย แต่ทำยากใช่ไหม๊?
ก็เหมือนกับคนดีทำชั่วยาก แต่ทำดีง่าย หรือคนชั่วทำดียาก แต่ทำชั่วง่าย
นั่นเอง เหมือนกัน

สำหรับผู้ปฎิบัติทั่วๆไป แล้วเราจะรู้กันได้อย่างไรว่าทำสำเร็จกันหรือไม่
ง่ายนิดเดียว ก็ลองค่อยๆถามใจตนเองดูสิว่า เมื่อเราเริ่มปฎิบัติกันมา จนถึงทุกวันนี้ จิตใจของตนเองเป็นอย่างไร? (เวลาไม่เกี่ยว ดูที่จิตอย่างเดียว)
หมายถึงจิตใจของตนเป็นทุกข์มากน้อยเพียงไร?
ปล่อยวางกับสิ่งทั้งปวงกันได้มากน้อยเพียงไร?
และจิตใจของเรานั้นสุขสบายมากน้อย หรือจิตเบา จิตนิ่งสงบ จิตเยือกเย็นมากน้อยเพียงไร?


(ลองตอบตนเองดูนะครับ)

 

โมทนา...สาธุ และยินดีที่ได้รู้จักด้วยครับนะครับ
ผมขอดีใจ และขอยินดีกับภายใน คือจิตของท่านด้วยนะครับ
เพราะจิตท่านรู้ จิตท่านถึงแล้ว ซึ่งก็จะนำความสงบสุข ความร่มเย็นมาสู่ตนเองและคนรอบข้าง เพราะผมพอจะมองเห็นแสงสีขาวในตัวคุณ ผมสัมผัสได้อย่างนี้ฯ
(ขอโทษท่านอื่นๆด้วย เพราะดีใจที่ได้พบเจอญาติสันติธรรม ทั้งๆที่เราก็ต่างไม่เคยพบเจอ หรือเห็นตัวเป็นๆกันหรอก)

และทุกท่านก็สามารถปฎิบัติกันได้เหมือนกันหมด นอกเสียจากท่านจะเริ่มต้นปฎิบัติกันเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ตามที่ผมกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วครับว่า กำลังใจ(บุญ หรือบารมี)ของตนเท่านั้น ถ้าถึงก็จะนำพาทุกท่านไปปฎิบัติกันได้นะครับ
แต่ขอให้เริ่มฝึกสติให้เกิดบ่อยๆก่อน เดี๋ยวสำหรับศีลนั้นจะรักษาง่ายไปเอง

ผมก็พูดไม่เก่งหรอกครับ เพียงแต่พูดออกมาจากข้างในมากกว่าครับ
ผมก็เพียงมีวัตถุประสงค์เดียวก็คือ ไม่อยากเห็นผู้คนเป็นทุกข์กัน
ถามว่าอุเบกขามีไหม๊? ผมมีเยอะครับ แต่ผมไม่อยากเห็นแก่ตัว คือไม่อยากนั่งอมยิ้ม เป็นสุขแต่เพียงผู้เดียว เพราะในขณะที่ผู้อื่นยังเป็นทุกข์ทางกาย ทางใจกันมากมาย
คือผมเมตตา และอยากให้กำลังใจกันมากกว่า
เพราะเวลานี้โลกของเรากำลังต้องการความรัก(แบบเมตตา) ความสมัคคี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หรือช่วยเหลือกันครับ

ผมจึงขอแบ่งความสุขใจที่กระผมกำลังได้รับมีอยู่มากมายในขณะนี้ฯ
ให้กับทุกๆท่าน โดยเฉพาะผู้กำลังเป็นทุกข์กาย ทุกข์ใจนะครับ....
ขอให้ทุกๆท่านจงปลอดภัย และขอให้ดวงจิตมีพระพุทธเจ้ากันมากๆนะครับ

 

สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ตั้งอยู่เป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา

ทุุกข์เท่านั้นที่เกิด
ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป​

นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ
ไม่ใช่สตรี ไม่ใช่บุรุษ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา

ภาพยนตร์

 

ขออนุโมทนาในความปรารถนาดีที่คุณภูทยานฌาน2มอบให้กับเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายนะครับ สาธุครับ ^_^

 

เสร็จจากภาระกิจงานบุญแล้วครับ จะตอบคำถามในส่วนที่เหลือให้ครับ

หลายท่านถามผมมาเรื่องสถานที่ใน จ. หนองคาย ว่าปลอดภัยหมดทุกที่ ทั้งจังหวัดหรือไม่

อันนี้ขอเรียนว่าหลายที่ใน จ. หนองคายปลอดภัยแต่ในหลายพื้นที่ของ จ.หนองคาย ก็จะกระทบหนักเหมือนกันครับ โดยเฉพาะแถบใกล้ๆแม่น้ำโขงน้ำจะพัดผ่านมหาศาล ดินและบ้านจำนวนมากจะไปพร้อมกับสายน้ำ แม่น้ำโขงในบางที่จะกว้างขึ้นมาก ผมเข้าใจว่าเมื่อถึงเวลานั้นคนในแถบ จ. หนองคายจะเหลือเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ครับ

 

คุณอัญญาสิทธิ์คะ แล้วคนที่ไม่ถือศีล5 และไม่สนใจด้านปฎิบัติธรรม แต่อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย จะรอดจากภัยพิบัติไม๊คะ

 

คุณ JINKLE :- คนที่ไม่ถือศีล5 และไม่สนใจด้านปฎิบัติธรรม แม้จะอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ก็จะไม่รอดจากภัยพิบัติ ครับ ผมจะไม่ลงรายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านั้นนะครับ ไม่อยากให้จิตไปติดภาพที่น่าสมเพทเวทนาของคนไม่มีศีล ไม่มีธรรมครับ

เอาบุญใหญ่มาฝากทุกท่านครับ

ภาพจากงานหล่อพระธรรมจักร(สมโภชน์ในวันที่ 6 เม.ย 55)เพื่อประดิษฐาน ณ ด้านหน้า มหาเจดีย์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ มีมหาเมตตาจาก องค์อชิตะสัมมาสัมพุทธเจ้า ปู่ขาวมหาราช(พระพุทธเจ้าวิปัสสี) องค์พระบรมจักรพรรดิ์และองค์พระศรีอริยเมตตรัย ได้มาประสิทธิ์พระธรรมจักร พร้อมทั้งเทพเทวดา และพญานาค หลายตระกูล ร่วมอนุโมทนา ครับ

พระธรรมจักร พระองค์นี้สำคัญยิ่งต่อพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาล เพราะเป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงถึง จุดเริ่มต้นการหมุนของพระธรรมจักรแห่งพระศาสนาในกึ่งพุทธกาล หรืออีกนัยยะนึงก็คือ เป็นกงจักรของพระพุทธเจ้า ที่จะนำพาให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองสืบไป ซึ่งเป็นองค์รวมแห่งกงจักรของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ตั้งแต่องค์ต้นธาตุต้นธรรม(พระอชิตะสัมมาสัมพุทธเจ้า) จนถึงพระองค์สุดท้ายภายหลังพระสมณโคดมบรมครู รวมทั้งองค์บรมจักรพรรดิ์และพระศรีอริยเมตตรัย

 

รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุการค่ะ

 

คุณ ลูกน้ำเค็ม :- ภูเขาแถบ จ. ชลบุรี ต่อไปส่วนใหญ่จะกลายเป็นเกาะกลางทะเล ก็ค่อนข้างอยู่ยากครับ แถวเขาเขียวที่สูงๆก็สามารถใช้หลบภัยได้ครับ(ไม่แน่ใจว่าห่างจากทะเลระยะกี่ กม. แม้อาจจะหนีจากภัยเรื่องน้ำได้ แต่ต้องผจญกับความอดอยาก ครับ

 

สวัสดีครับ ขอถามในทางตรงข้ามนะครับ
แล้วคนที่ถือศีล5 เป็นคนดีมีศีลธรรม สนใจด้านปฏิบัติธรรม แต่ไปอยู่ในที่ีที่ไม่ปลอดภัย จะรอดมั้ยครับ ผมเชื่อว่าคนดีก็มีเยอะ แต่อาจจะไม่ร้ข้อมูลพวกนี้

ขอบคุณครับ

 

คุณ nicklc2 :- คำว่า คนที่ถือศีล 5 เป็นคนดีมีศีลธรรม สนใจด้านปฏิบัติธรรม หากเป็นคนดีมีศีลธรรมจริงๆนั้นก็จะมีเหตุให้รอดได้ แต่หากไปอยู่ในสถานในที่ีที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งมีกรรมร่วมกับคนหมู่มาก ก็อาจจะไม่รอดเช่นกันครับ ดังนั้นผู้ที่จะรอดได้ นอกจากจะสร้างกรรมดีในปัจจุบันแล้ว ในอดีตเขาต้องก็ต้องประกอบกรรมดีและมีบุญบารมีมาแต่อดีตด้วยครับ

 

ขอบคุณมากครับ