สะกดจิตระลึกชาติ

อยากอ่านอะ ...

 

มาแล้วๆ เอาข้อความที่ดร.ไบรอันใช้สะกดจิตมาให้ดูกัน เอามาจากหนังสือ ข้ามภพย้อนเวลาเยียวยาปัจจุบัน(Through time into healing)ที่ จุไรรัตน์ อารยะกิตติพงศ์แปล ลอกมาทั้งบทเลย ยากมาก

-------------------------------------------------------------------------
<b>เทปบันทึกเสียงเพื่อสร้างความผ่อนคลายและระลึกชาติ</b>

ถ้อยคำต่อไปนี้ถอดความจากเทปบันทึกเสียงเรื่องการผ่อนคลายและระลึกชาติ ซึ่งผมจัดทำขึ้นแจกจ่ายให้กับคนไข้หรือผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มปฏิบัติการเพื่อให้พวกเขานำไปฝึกต่อที่บ้าน คนไข้บางคนที่มีเรื่องราวปรากฏในหนังสือเล่มนี้ได้ใช้แบบฝึกหัดนี้และได้ผลน่าพอใจมาก

คุณสามารถใช้เทปม้วนนี้เพื่อรำลึกความทรงจำในอดีตโดยตรงหรือเพื่อความผ่อนคลายจิตให้สงบยิ่งขึ้น และได้สัมผัสถึงภูมิปัญญาของตนเอง

ขอทบทวนอีกครั้งหนึ่งว่า คุณอาจจะได้ภาพที่ชัดเจนจากอดีตชาติได้ในทันทีทันใด หรือคุณอาจจะได้สัมผัสเพียงบางตอนของอดีตชาติที่สำคัญเท่านั้น หรือได้สัมผัสเพียงแต่ส่วนเสี้ยวของอดีตชาติหรือของช่วงระหว่างภพขาติ คุณอาจจะพบตัวเองในสวนหรือในวัดในโบสถ์หรือในสถานที่ใดที่หนึ่ง หรือคุณอาจจะเพียงได้แค่รู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขสงบเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จงปล่อยให้ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นไปตามความหมาะสม ทำใจให้พร้อมที่จะรับรู้ในเรื่องที่ไม่ได้คาดไว้ก่อน และต้องไม่ลืมว่า ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไร ผลที่คุณจะได้รับก็จะมากขึ้นเพียงนั้น

เทปบันทึกเสียงนี้มิใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับคนทุกคน บางคนจำเป็นต้องฟังหลายเที่ยวจึงจะได้รับประโยชน์ตามที่ตนต้องการ และถ้าฟังแล้วไม่เกิดผลใดๆ เลยก็มิได้หมายความว่าคนคนนั้นขาดศักยภาพในการระลึกชาติ มันอาาจจะหมายความว่า "ผู้ไร้ปฏิกิริยา" เหล่านั้นต้องการคำชี้แนะที่เป็นเอกเทศจากนักสะกดจิตบำบัดโดยตรง

การจัดทำบทเทปบันทึกเสียงนี้ก็เพื่อต้องการให้คำแนะนำเท่านั้น ดังนั้น ควรใช้เทปนี้ก็ต่อเมื่อคุณรู้สึกสบายเหรือได้เตรียมใจไว้พร้อมแล้วที่จะสืบค้นอดีตชาติว่าความทรงจำบางอย่างอาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ หากคุณกังวลว่าจะได้รับผลกระทบกระเทือนจากบาดแผลในอดีตชาติจงอย่าได้บันทึกเทป เหรือคุณอาจจะบันทึกเฉพาะเนื้อหาเกี่ยวกับการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจเท่านั้นก็พอ เพราะเป็นส่วนที่มีประโยชน์อยู่ในตัวของมันเองอยู่

ดังที่ผมย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดจากการย้อนความทรงจำด้วยตนเองนั้นมีน้อยมาก คนจำนวนมากสามารถจัดการและประมวลความทรงจำของตนเองได้โดยไม่ลำบาก พวกเขามักจะรู้สึกว่าดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคนิคในเทปม้วนนี้จะส่งผลให้ค่อนข้างมาก หากคุณทำตามเทปม้วนนี้โดยลำพัง ย่อมถือเป็นการเสี่ยงในระดับหนึ่ง ดังนั้น หากรู้สึกเกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ใดๆ แม้เพียงเล็กน้อย เช่นความวิตกกังวลหรือการรู้สึกบาป คุณก็ควรไปพบนักสะกดจิตบำบัดเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นให้หมดไป


<b>เวลาบันทึกเทปให้อ่านถ้อยคำต่อไปนี้ด้วยน้ำเสียงอันเนิบช้า</b>
เมื่อคุณพบเครื่องหมายจุดประ (...) ขอให้หยุดเล็กน้อย และหยุดนานกว่าถ้าเครื่องหมายนั้นอยู่ในวง(ข้อควรจำ-อ่านคำอธิบายในวงเล็บในใจโดยไม่ต้องออกเสียง) ก่อนที่จะเปิดเครื่องเทป

คุณอาจจะซ้อมอ่านสักหลายครั้งก่อนเพื่อสังเกตจังหวะการเว้นวรรคที่จะทำให้คุณรู้สึกสบาย และมีเวลาคิดตามคำแนะนำต่างๆได้ทัน

ไม่ต้องรีบร้อนในการบันทึกเสียง เพราะเวลาของการฝึกไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องยาวนานแค่ไหน

ให้เล่นเทปเมื่ออยู่ในสถานที่ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่คุณสามารถผ่อนคลายได้ และเล่นในยามที่คุณแน่ใจว่าจะไม่ถูกรบกวนจากธุระต่างๆ

<i>ห้ามมิให้เปิดเทปม้วนนี้ฟังในขณะขับรถเป็นอันขาด</i>

ก่อนเปิดเทปคุณอาจจะปลดเครื่องแต่งกายบางส่วนที่ทำให้รู้สึกอึดอัดออก นอนลงบนเตียงหรือนั่งบนเก้าอี้ที่สบาย ให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งที่มาขัดจังหวะหรือรบกวนจิตใจ ถอดรองเท้า ถอดแว่นตา (หรือคอนแท็กเลนส์) ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน อย่างให้ขาพาดไขว้กัน ถ้าคุณรู้สึกว่ามีเสียงดนตรีประกอบจะช่วยให้รู้สีกดีขึ้นก็สามารถเปิดดนตรีคลอเบา ๆ ได้

คุณอาจจะทดลองใช้วิธีอื่นแทนการฟังเทป เช่น ขอให้เพื่อนอ่านบทบรรยายเหล่านี้ให้คุณฟังก็ได้

 

<b>บทบรรยายวิธีการผ่อนคลายและการรำลึกความทรงจำ</b>

หลับตาของคุณลง
เพ่งสมาธิของคุณจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจลึกๆ อย่างสม่ำเสมอ สูดลมหายใจเข้า และผ่อนออกช้าๆ
ผ่อนลมหายใจลึก ๆ เข้าออก 5ครั้ง โดยสูดลมหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปาก...ผ่อนคลาย (หยุดพักยาว, หลังจากกการหายใจ 5 ครั้งนั้นแล้ว)

ต่อจากนี้ในการหายใจออกแต่ละครั้ง ไห้ปลดปล่อยความตึงเครียด ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานทั้งปวงที่สั่งสมอยู่ในตัวออกมา

ในการหายใจเข้าแต่ละครั้ง ให้คุณสูดพลังแห่งความสงบซึ่งล้อมรอบตัวคุณเข้าไป
ผ่อนคลายตัวเองในระดับลึกยิ่งขึ้น
ต่อจากนี้ จินตนาการหรือสร้างภาพ หรือสร้างความรู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าผาก และบริเวณใบหน้า...
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อขากรรไกร...
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ลำคอและไหล่ของคุณ(ความตึงเครียดของร่างกายมักจะสะสมอยู่ที่บริเวณนี้)
ผ่อนคลายแขนของคุณ...
ผ่อนคลายขาของคุณ...
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลัง...
ปล่อยให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องของคุณผ่อนคลายอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลมหายใจของคุณสม่ำเสมอ ลึก และราบเรียบ
ลมหายใจที่อ่อนโยนแต่ละครั้งจะทำให้คุณผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่อนคลายลึกลงเรื่อย ๆ
จินตนาการหรือสร้างภาพหรือสร้างความรู้สึกว่าเหนือศีรษะของคุณมีแสงสว่างดวงหนึ่ง มีแสงสว่างอยู่ภายในศีรษะของคุณ ใช้จิตของคุณเลือกสีที่ชอบที่สุดให้แก่แสงนั้น(หยุด)


ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสงสว่างสวยงามนี้ได้สัมผัสในขณะที่ค่อยๆ แผ่ไปตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะ เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และเซลล์ทุกเซลล์ภายในร่างกายจะผ่อนคลายโดยถ้วนทั่ว กำจัดความเจ็บปวดและความเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งมวลให้มลายหายไปจนหมดสิ้น

แสงดังกล่าวจะทำให้ระดับความผ่อนคลายลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ
คุณได้สัมผัสกับความสงบวิเวกอย่างลึกซึ้งแล้ว
ต่อจากนี้คุณจงมองหรือรู้สึกจินตนาการให้แสงสว่างแผ่ลงมาจากศีรษะของคุณ...ลงมากที่หน้าผากของคุณ...ดวงตาของคุณ...รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นอีก

คุณจะมองเห็นหรือรู้สึกหรือจินตนาการเห็นแสงสว่างแผ่ไปที่ขากรรไกรของคุณ...แล้วแผ่ลงมาตามโครงศีรษะ...ทำให้ภวังค์ของคุณดิ่งลึกลงไปอีก
แสงค่อยๆ เคลื่อนตัว แผ่ไปยังลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อคอ และกล้ามเนื้อภายในลำคอเกิดความผ่อนคลาย ผ่อนเส้นสายภายในลำคอของคุณ
คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีก(หยุด)


จินตนาการหรือสร้างภาพหรือสร้างความรู้สึกให้แสงสว่างซึ่งได้ผ่อนคลายและบำบัดอาการของกล้ามเนื้อทุกส่วน เส้นประสาททุกเส้น และเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของคุณนี้แผ่ไปยังบริเวณไหล่ของคุณ ...แล้วแผ่ลงไปตามแขนทั้งสองของคุณ ตลอดลงไปยังมือและนิ้วมือแต่ละนิ้วของคุณ(หยุด)


มองหรือรู้สึกหรือจินตนาการให้แสงสว่างนั้นแผ่ไปยังบริเวณแผ่นหลังตอนบน...และแผ่นอก จากนั้น แผ่เข้าสู่หัวใจ ซึ่งจะสูบฉีดแสงสว่างให้แผ่กระจายไปตามเส้นโลหิตทั่วร่าง...

แสงแผ่เข้าไปในปอดของคุณ และกำจายสีสันอันสวยสดงดงาม...
กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังตอนบนผ่อนคลายลงอย่างเต็มที่
บัดนี้ แสงสว่างจะแผ่ไปตามระบบประสาททั้งหมด ไปสู่กล้ามเนื้อทุกส่วนและเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย...
คุณกำลังอยู่ในสภาวะที่สงบและผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง
คุณกำลังรู้สีกถึงความวิเวก หรือปีติในความสงบ(หยุด)


มองหรือรู้สึกหรือจินตนการให้แสงสว่างดังกล่าวแผ่ไปยังบริเวณท้องของคุณ...และบริเวณแผ่นหลังตอนล่าง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและประสาทในบริเวณนั้น...
มองให้แสงสว่างแผ่ไปที่สะโพก...
แผ่ไปตามขาทั้งสองข้าง...ตลอดลงไปยังที่เท้าและนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว...เพื่อให้ร่างกายทั้งร่างของคุณอาบไว้ด้วยแสงสว่างอันบรรเจิดนั้น...
คุณกำลังรู้สึกสงบอย่างยิ่ง
ต่อจากนี้ มองหรือรู้สึกหรือจินตนาการว่าแสงสว่างดังกล่าวห่อหุ้มร่างกายทั้งร่างของคุณอยู่ เหมือนตัวคุณอยู่ในรังดักแด้หรือในวงรัศมีของแสงสว่าง แสงดังกล่าวจะปกป้อง ทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์...
คุณกำลังรู้สึกสงบและผ่อนคลายยิ่งขึ้น...สงบและผ่อนคลาย...
ในขณะที่ผมนับถอยหลังจาก 5 ถึง 1 เมื่อได้ยินเสียงตัวเลขแต่ละตัวคุณจะรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นตามลำดับ จนเมื่อนับถึง 1 คุณจะอยู่ในภวังค์ลึก จิตของคุณจะเป็นอิสระ อยู่เหนือพ้นกาละและเทศะ
คุณจะสามารถรำลึกถึงเรื่องราวใด ๆ ก็ได้
5 ...
4 รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น...
3 ดิ่งลึกมากขึ้น ดิ่งลึกลงไปทุกขณะ...
2 จวนแล้ว...
1 ...
บัดนี้คุณได้อยู่ในภวังค์แห่งการผ่อนคลายอันลึกล้ำแล้ว แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายอย่างไรในตอนนี้หรือต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะยังอยู่ภายใต้กการควบคุมได้

ตอนนี้คุณอาจจะยุติการผึกสร้างความผ่อนคลายไว้แต่เพืยงเท่านี้โดยไม่คิดจะทำต่อไปให้ถึงขั้นรำลึกความหลัง คุณเพียงแต่ลืมตาขึ้นเท่านั้นก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ในทันที โดยที่ยังคงสมรรถภาพการควบคุมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจไว้ได้เหมือนเดิม คุณจะรู้สึกสบายและปลอดโปร่งมากขึ้น
ถ้าคุณตัดสินใจที่จะเดินหน้าเพื่อระลึกชาติก็ให้มองหรือรำลึกหรือจินตนาการว่าตนเองกำลังเดินช้าๆ ลงบันไดที่สวยงามไป(หยุด)


ที่เชิงบันไดขั้นสุดท้าย คุณมองเห็นประตูเปิดอยู่บานหนึ่ง มีแสงสว่างอยู่นอกประตู
คุณรู้สึกผ่อนคลายและสงบยิ่งนัก
คุณเดินตรงไปที่ประตูอย่างตระหนักดีว่าจิตของคุณไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกาละและเทศะอีกต่อไป และคุณจะรำลึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับคุณเองได้ทั้งหมด
เมื่อคุณผ่านประตูบานนั้นไป เข้าสู่แสงสว่าง คุณก็จะอยู่ในอีกกาละหนึ่ง
ปล่อยให้จิตใต้สำนึกของคุณเป็นผู้เลือกกาลเวลาว่าจะให้เป็นปัจจุบันชาติหรือไปสู่ชาติภพอื่น
คุณอาจจะรำลึกกลับไปยังกาลเวลาซึ่งเป็นที่บังเกิดของรากเหง้าแห่งสภาพอาการป่วย ตลอดจนเหตุปัจจัยและอารมณ์ต่าง ๆในปัจจุบันของคุณ(หยุดยาว)


เมื่อคุณปรากฏในแสงสว่างนั้นแล้ว ก่อนอื่น ขอให้มองเท้าของคุณ ดูว่าคุณสวมรองเท้าชนิดไร เป็นรองเท้าสวม รองเท้าแตะ หรือรองเท้าผ้า หรือไม่ได้สวมรองเท้าเลย...
จากนั้นค่อยพิจารณาดูร่างกายของคุณเอง...
มองดูเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่...
มองดูมือของคุณ...
มองดูว่าคุณมีลักษณะอย่างไร...
เป็นช่วงกลางวันหรือลางคืน...
คุณอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน...
พยายามดูว่า คุณรู้วันเวลาในขณะนั้นหรือไม่(หยุด)


มองไปรอบ ๆ สำรวจสภาพภูมิประเทศ สิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบ ๆ และมีคนอยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่ ถ้ามี คุณอาจจะพูดคุยกับพวกเขาได้ บางทีพวกเขาอาจจะตอบคำถามของคุณได้
ค้นหาคำตอบที่คุณเคยถาม หาสมุฏฐานของอาการของคุณออกมา(หยุดยาว)


ใช้เวลาสำรวจช่วงระยะเวลานั้น ๆให้มากขึ้น
คุณอาจจะนึกเดินหน้าหรือย้อนหลังกลับในกาลเวลาใดก็ได้ตามความต้องการ
ถ้าคุณรู้สึกวิตกกังวล คุณก็เพียงลอยตัวอยู่เหนือร่างกายและคอยสังเกตการณ์เท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปร่วมรู้สึก เข้าร่วมเหตุการณ์นั้นด้วยตนเองก็ได้

หรือเพียงแต่ลืมตา และยุติกระบวนการฝึกทั้งหมดเพียงเท่านี้ก็ได้ถ้าคุณต้องการ
พิจารณาเหตุการณ์และความเข้าใจที่สำคัญๆ ทั้งหลายด้วยมิติที่กว้างขวางขึ้นว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น และมีความหมายที่แท้จริงว่าอย่างไร?
คุณเข้าใจแล้ว(หยุดยาว)


มองดูว่ามีใครบางคนในชาตินั้นมาเกี่ยวข้องกับปัจจุบันชาติของคุณหรือไม่(หยุดยาว)

ถ้าคุณต้องการ เดินหน้าต่อไปยังช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตในชาตินั้นเพื่อสัมผัสกับความตายของคุณ(หยุดยาว)

ลอยตัวอยู่เหนือร่าง และทบทวนขีวิตของคุณ คุณได้รับบทเรียนอะไรบ้าง (หยุดยาว)


ตอนนี้ ถึงเวลาที่คุณจะต้องกลับมาแล้ว
อีกสักครู่ ผมจะนับ 1 ถึง 5 เมื่อนับถึง 5 แล้วให้ลืมตาขึ้น จากนั้นคุณก็จะฟื้นสติคืนมาอย่างสมบูรณ์ รู้สึกโล่งโปร่งสบายเป็นอย่างยิ่ง สมรรถภาพในการความคุมร่างกายและจิตในกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยสมบูรณ์ คุณจะจำเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกครั้งที่คุณฝึกทำเช่นี้ คุณจะผ่อนคลายในระดับที่ลึกลงไปได้เรื่อยๆ
1. กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย เส้นประสาททุกเส้นผ่อนคลายโดยสิ้นเชิง
2. ค่อยๆ ตื่นขึ้น รู้สึกสบายมาก
3. มีความรู้สึกตื่นตัวขึ้นเรื่อยๆ
4. ใกล้จะรู้สึกตัวแล้ว รู้สึกดีมาก
5. ลืมตาขึ้นมีสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ รู้สึกสบายไปทั่ว

 

อยากฟังเสียงใสๆ ที่ทำการบันทึกเสียงสะกดจิตอันนี้จังเลย...พอจะมีใครอนุเคราะห์บ้างครับ

เสียงตัวเองฟังทีไร ...สยองทุกที (แทนที่จะสะกด ... กลายเป็นว๊ากเกอร์..ซะงั้น)

 

อยากให้คนอื่นมาสะกดมากกว่า สะกดตัวเองอ่ะ
เพราะ
1 สะกดไม่ได้ผล
2 สะกดได้ผล แต่ตื่นเองไม่ได้ -_-"

 

เคยฝึกอัดใส่เทปครับ
ตั้งใจมากๆ

...
พอเปิดฟังแล้ว...
มันกลั้นขำไม่อยู่ครับ ตลกเสียงตัวเองง่ะ 5555

 

ผมว่าสะกดตัวเองปลอดภัยกว่าให้คนอื่นที่ไม่ใช่หมอสะกดน่อ จิงบ่ อิอิ

เท่าที่ศึกษามา...ถ้าเราสะกดจิตตัวเอง จนถึงเงื่อนไขที่เราปลุกตัวเองมันก็จะตื่นนะครับ
ถ้าไม่ตื่น มันจะตื่นเองเมื่อเราหลับจนอิ่ม...ตื่นมาแล้วสบายเลยหละ :[ :[

...ผมว่าหลักการคล้ายกับมโนมยิทธิเต็มกำลังนะครับ ...
แต่มโนมยิทธินี่ พึ่งแรงพลังกำลังใจตัวเองอย่างมากเลย
เอ้อ ... ไม่มีไรละคับ นึกไม่ออกแล้ว ...

 

อยากไปสะกดจิตเหมือนกันนะ
เพราะรู้สึกว่า.....เรื่องไม่เป็นเรื่องชักหมักหมมอยู่ในใจ
บางที เราคิดไม่ออก แต่มันดันเป็นตะกอน นอนก้นอยู่ที่จิต
ได้ระบายออกมาบ้าง ตะกอนคงน้อยลง
จิตใจคงเบาสบายขึ้น.... จริงไหม

 

น่าสนใจจังครับ

 

เดี๋ยวจะลองอัดเสียงดูค่ะ เพื่อนชอบให้อัดไปบรรยายงานนำเสนอ ตอนแรกๆฟังเสียงตัวเองแล้วรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ตอนนี้ก็ชินแล้ว แต่ถ้าเอามาให้คนอื่นฟังคงไม่ไหว แต่จะลองใส่ดนตรีประกอบกับใส่เอ็ฟเฟ็กเสียงดูค่ะ

 

อาจารย์ชนาธิป ก็ได้ทำซีดีสะกดจิตระลึกชาติออกมาขายแล้ว จะเป็นซีดีที่อัดเสียงของอาจารย์ที่ใช้ในการสะกดจิตระลึกชาติ เห็น อ.เค้าออกบูตขายในงานหนังสือ ที่บูตชมรมนักสะกดจิตแห่งประเทศไทย

 

ขอแนะนำหนังสือเรื่อง Old Souls หับ Life Between Life ครับ แต่ผมอ่านแล้วมีคำถามนึง ไม่ทราบใครตอบได้บ้าง คือ คนที่เกิดมามีปัญหาทางสมองหรือเด็กที่ยังไม่รู้ความหล่ะครับ หลังจากตายไป การรับรู้จะเป็นอย่างไร และถ้าเกิดใหม่ (ถ้าเกิดได้ใหม่) ระดับสติปัญญาจะเป็นอย่างไร ในแง่นี้มีคำอธิบายความเกี่ยวข้องของสมอง ระดับการรับรู้ กับจิตวิญญาณยังไงบ้าง

 

ขอผู้รู้ช่วยให้ข้อคิดเห็นข้างบนด้วยครับ ผมว่าถ้าเราสามารถอธิบายได้ ข้อโต้แย้งของการระลึกชาติก็จะหมดไป เนื่องจากตอนนี้ข้อสงสัยก็คือถ้าคนเป็นอัลไซเมอร์ หรือตอนแก่ตัวไป ไม่รับรู้ใดๆ หรือเด็กที่ยังไม่รู้ความใดๆ ทั้งสิ้น หรือคนที่มีปัญหาทางสมอง จะอธิบายการกลับมาเกิดยังไง

 

น่าลองมากเลยครับ เด๋วคงต้องหาเวลาว่างๆมาทำแล้วล่ะครับ