ชุดแบบฝึกปฏิบัติสมาธิจากสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง (Councils of Light) บทที่ 9

ขอบคุณมากๆค่ะ จะลองนำไปปฏิบัติค่ะ
ขอก๊อปไว้อ่านค่ะ

 

ขอนำไปทดลองปฏิบัติ ขอบคุณค่ะ

 

บทที่ 4

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=k_kpKH2IDIk"]Lesson 4 - Breath Techniques: Ujai, Complete, So-Hum & No-breath - YouTube[/ame]
[FONT=&quot]
(จากนี้ผมขอแปลเฉพาะเนื้อความการปฏิบัตินะครับ บทนำและบทส่งท้ายต่อจากนี้จะมีเนื้อหาคล้ายกันครับ-Alophomega)

บทที่ 4 กลวิธีการหายใจ[/FONT]: [FONT=&quot]อุชชัยปราณ บูรณปราณ โสฮัมปราณ และ อปราณ[/FONT]

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่างและบาบาชี[/FONT]

[FONT=&quot]ก่อนที่เราจะเริ่มนำเธอเข้าสู่การกำหนดลมหายใจและการตั้งจิตใช้ลมหายใจเพื่อการตื่นรู้ ให้เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ เรียกแสงสว่างมาสู่ตัวข้า ณ บัดนี้[/FONT]”

[FONT=&quot]เธอจะรู้สึกทันทีว่าตัวเธออยู่ในแถบแสงสุกสว่างขนาดใหญ่อันเป็นต้นกำเนิดพลังงานที่ไหลบ่าผ่านร่างกายและพลังออร่าของเธอ แล้วจุดร่างกายอาเบื้องล่างให้ส่องสว่างและนำการเชื่อมพลังในแนวดิ่งมาสู่ตัวเธอโดยพลัน ขณะที่ดำเนินขั้นตอนนี้ให้ตรวจดูสนามพลังของเธอ คือแสงสว่างเลื่อนไหลรูปไข่ที่แผ่ออกมาจากแถบแสงศูนย์กลาง ตอนนี้เธอก็กำหนดได้ว่าจะแผ่ขยายพลังออร่าออกไปเท่าใด แล้วเธอจะปฏิบัติ [/FONT]2 [FONT=&quot]ขั้นตอนนี้ที่เราได้สอนไปแล้วไปในคราวเดียวกันเลยก็ได้[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ ตั้งจิตรวมและแผ่ขยายร่างพลังของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] แล้วตอนนี้ปล่อยให้พลังออร่าเคลื่อนไปในระยะที่เธอรู้สึกสบายมีขนาดพอดี อย่างน้อยต้องมีขนาด [/FONT]3 [FONT=&quot]ฟุตขึ้นไปทุกทิศทาง ด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา บน และล่าง และหากเธออยู่ในสถานที่ปลอยภัยและมีคลื่นความถี่สูง เธอก็อาจแผ่ขยายร่างพลังงานให้ไกลเท่าที่ใจนึก แล้วให้พึงระลึกว่าเธอต้องรับสัมผัสขอบพลังออร่าเธอได้ ให้รู้สึกถึงขอบพลังออร่าว่าเป็นเปลือกหุ้มสีทองคล้ายรังไหมพันรอบพลังงานของเธอ แม้ว่าขอบพลังจะอยู่ในระยะหนึ่งไมล์โดยรอบก็ตาม และวิธีนี้เป็นวิธีที่น่าใช้ในการแผ่ขยายพลังงานเธอออกไปหากเธออยู่ในที่ที่เปี่ยมพลังและงดงาม ไม่ว่าจะอยู่ในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์เช่นที่แห่งนี้หรืออยู่ในสวนที่บ้านเธอก็ตาม[/FONT]

[FONT=&quot]ตอนนี้ให้รับรู้ถึงสนามพลังของเธอ รับรู้ถึงความอิ่มเต็มและความสว่างไสวของพลังนั้น แล้วตอนนี้ให้กำหนดจิตเข้าไปยังช่องปราณแล้วเปล่งคำสั่งว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดใช้ช่องปราณ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] คราวนี้เธอจะสัมผัสชัดเจนถึงลักษณะธรรมชาติอันเป็นคริสตัลของช่องปราณเธอ เธอจะสัมผัสถึงลักษณะธรรมชาติอันเป็นคริสตัลสลับหลากสีสันของช่องปราณนี้ ซึ่งมีขนาดอย่างน้อย [/FONT]2 [FONT=&quot]นิ้วที่ยืดขยายตรงออกมาจากหัวใจเธอขึ้นผ่านจักรและผ่านส่วนยอดออร่าของเธอและผ่านจักรในร่างลงไปยังทวารบถดาราโลกา เมื่อเธอยืดขยายช่องปราณด้วยวิธีนี้เธอจะเปิดทวารบถดาราจักรวาลได้อัติโนมัติ ซึ่งก็คือจักรที่อยู่บนยอดออร่าของเธอและเปิดทวารบถดาราโลกาที่อยู่ตรงฐานพลังออร่าของเธอได้ด้วย[/FONT]


[FONT=&quot]จากนั้นให้เธอตั้งจิตยืดขยายช่องปราณผ่านขึ้นไปชั้นมิติต่าง ๆ แล้วเข้าสู่ใจกลางมหาสุริยะประธาน [/FONT](The Great Central Sun)[FONT=&quot] แล้วยืดลงไปผ่านมิติชั้นที่สองเข้าสู่มิติชั้นที่หนึ่งซึ่งก็คือแกนคริสตัลในกายอา เมื่อช่องปราณเธอเปิดใช้ได้แล้วก็จะสัมผัสรับรู้พลังงานสองด้านที่ไหลผ่านร่างเธอ ซึ่งก็คือพลังงานแสงสว่างประกายไฟฟ้าแห่งศิวะ คือพลังงานแห่งพระเจ้าที่สาดเป็นสายฝนเทลงมาที่ไม่เพียงผ่านทางช่องปราณของเธอเท่านั้นแต่ยังผ่านไปทั่วทั้งสนามพลังงานเธอด้วย แล้วรวมกับพลังงานคลื่นแม่เหล็กเทวีศักติอันทรงพลังลึกล้ำจากกายอา ไหลผ่านเป็นสายพลังงานตั้งตรง มีคลื่นพลังแม่เหล็กดึงดูด เพิ่มพลังแข็งแกร่ง ส่งพลังเยียวยาและเสริมอำนาจให้แก่ร่างกายเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเราก็จะนั่งสงบนิ่งอีกครั้งหนึ่งสักครู่ในท่าศานติมุทราวางมือขวาทับมือซ้ายแล้ววางลงบนตัก จากนั้นให้สัมผัสรับรู้พลังศักติและศิวะที่เคลื่อนผ่านทั่วร่าง ขณะที่เธอสัมผัสได้และขณะที่เธอรู้สึกต่อไปถึงการไหลของปราณจากเบื้องบนและเบื้องล่างอยู่ก็ให้เธอผ่อนลมหายใจแล้วใช้กลวิธีหายใจอุชชัยปราณของเหล่าโยคีทั้งหลาย ให้บีบช่องลมด้านหลังคอเล็กน้อยเพื่อให้มีเสียงถอนหายใจรื่นหูลอดออกมาจากช่องคอของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]ให้หายใจแบบถอนหายใจเช่นนี้ต่อไปบังคับให้ลมผ่านช่องคอไม่ใช่ผ่านรูจมูก แล้วเธอจะได้ยินเสียงคลื่นมหาสมุทรแทรผ่านเป็นจังหวะคลื่นขึ้นลงในมหาสมุทรอย่างวิเศษ เธอจะได้ยินเสียงลมหายใจแห่งวายุบนยอดไม้ เสียงแสนวิเศษนี้ คือเสียงลมหายใจที่นำเธอเคลื่อนเข้าสู่คลื่นความถี่แห่งสันติ ตอนนี้ให้เธอฝึกอุชชัยปราณจนชำนาญ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเธอได้ในหลาย ๆ ด้าน วิธีการหายใจนี้จะทำให้เธอผ่อนลมหายใจได้แล้วแก้การหายใจตื้น และทำให้เธอได้สูดเอาออกซิเจนเข้าในปอดได้เต็มที่ด้วย ให้หายใจอีก [/FONT]3 [FONT=&quot]ครั้ง แล้วปล่อยเช่นนี้สักครู่ในช่วงท้ายสุดของลมหายใจเข้า[/FONT]

[FONT=&quot]ตอนนี้ให้พักสักครู่ในช่วงที่เราอธิบายถึงบูรณปราณ อุชชัยปราณเป็นกลวิธีที่จำเป็นในการหายใจทางโยคะที่สมบูรณ์ และในการฝึกขั้นนี้ให้เธอสูดลมหายใจเข้าสู่ช่องท้องเป็นอันดับแรกแล้วปล่อยให้อากาศเคลื่อนเข้าไปเหมือนคลื่นเพื่อยกช่วงอกและผ่านเข้าไปยังฐานคอ แม้ว่ามีอยู่ [/FONT]3 [FONT=&quot]ขั้นตอนด้วยกันหากพูดในทางทฤษฎีแล้ว แต่ก็ไม่มีการหยุดระหว่างช่วงรอยต่อเลย หากแต่เป็นความรู้สึกสัมผัสอัศจรรย์ของคลื่นพลังปราณและออกซิเจนที่กำลังเพิ่มระดับขึ้นผ่านทั่วทั้งร่าง เธอต้องใช้ความพยายามในขั้นที่สามนี้ และเธอจะรู้สึกหรือสังเกตเห็นการบีบรัดในคออยู่บ้าง แล้วเราจะสาธิตให้เห็นในตอนนี้ ให้ดูว่าคลื่นอากาศแผ่เข้าสู่ช่องท้องเป็นอันดับแรกแล้วจึงผ่านเข้าไปในปอด ทั้งด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา แล้วท้ายเคลื่อนขึ้นไปยังต้นคอ ให้ตั้งจิตไว้ประมาณเหนือกระดูกต้นคอตรงยอดปอดทั้งสอง เราจะสาธิตให้เธอดู[/FONT]

[FONT=&quot]ลองปฏิบัติดูเหล่ามนุษย์ที่รัก ให้ลมเข้าไปช่องท้องก่อนแล้วขยายซี่โครงออกให้เติมลมเข้าไปในปอดให้เต็มที่แล้วยกขึ้นไปยังต้นคอ ผลักอากาศขึ้นไปให้อยู่เหนือกระดูกต้นคอแล้วค้างไว้สองสามวินาที[/FONT]…[FONT=&quot]แล้วปล่อยลมหายใจออก ให้ดันหน้าท้องเข้าเมื่อสุดลมหายใจ สูดลมเข้าอีกครั้งหนึ่งให้เข้าไปในใจกลางพื้นที่ปอดแล้วเคลื่อนขึ้นไปยังส่วนยอดตรงฐานกระดูกต้นคอ ให้ค้างไว้สักครู่แล้วปล่อยลมหายใจออก แล้วก็ทำอีกครั้งหนึ่ง[/FONT]

[FONT=&quot]ผ่อนลมหายใจลง ตอนนี้ให้ผ่อนลง หลับตาไว้แล้วสัมผัสรับรู้ความเบาสบายที่อยู่ภายในร่างกาย เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจะอิ่มเต็มด้วยปราณ เต็มด้วยพลังชีวิต และในช่วงที่ฝึกสมาธิโสฮัมซึ่งก็คือมนตร์กำกับลมหายใจนี้ พลังปราณที่บรรจุอยู่ในทุกเซลล์ของเธอจะปล่อยให้เธอเคลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณเป็นบางช่วง[/FONT]

[FONT=&quot]ตอนนี้ให้ผ่อนลมหายใจลงอย่างสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในร่างกาย ซึ่งก็คือภาวะนิ่งสงบ แล้วเธอก็เลือกใช้มุทราที่ชอบตั้งไว้ ปล่อยให้มือเธอเคลื่อนเข้ามุทราที่เธอเลือกในตอนนี้ ร่างกายและจิตเธอได้เคลื่อนเข้าสู่ภาวะสงบนิ่งโดยสมบูรณ์ ลมหายใจเธอช้าลง เบาบางลง และละเอียดจนกระทั่งจับได้ยากว่าลมหายใจเข้าและออกอยู่ที่ใด[/FONT]

[FONT=&quot]ให้เธอสัมผัสรับรู้พลังปราณซึ่งก็คือแสงสว่างเหลวสีทองเคลื่อนผ่านทุกเซลล์ในร่างกายในช่วงที่หายใจเข้าและออก แล้วในตอนนี้เธอจะเริ่มได้ยินเสียงโสฮัมในลมหายใจของเธอ ช่วงที่หายใจเข้าเธอจะได้ยินเสียงภายใน [/FONT]“[FONT=&quot]โส[/FONT]”[FONT=&quot] และช่วงที่หายใจออกเธอจะได้ยินเสียงภายใน [/FONT]“[FONT=&quot]ฮัม[/FONT]”[FONT=&quot] แล้วเสียงโสฮัมจะเคลื่อนเป็นจังหวะสอดประสานสนิทกับลมหายใจเข้า-ออกของเธอ ให้เธอได้ยินเสียง [/FONT]“[FONT=&quot]โส[/FONT]”[FONT=&quot] อยู่ในลมหายใจเข้าทุกครั้ง ให้สังเกตการไหลของปราณผ่านร่างกายเธอ แล้วให้เธอได้ยินเสียง [/FONT]“[FONT=&quot]ฮัม[/FONT]”[FONT=&quot] อยู่ในลมหายใจออกทุกครั้ง ให้สังเกตการไหลของปราณผ่านเซลล์ทุกเซลล์ [/FONT]“[FONT=&quot]โส------ฮัม------[/FONT]”

[FONT=&quot]เสียงภาวนาศักดิ์สิทธิ์ในลมหายใจจะนำพาเธอเคลื่อนเข้าสู่ภาวะนิ่งสงบลึกที่บางครั้งเธอจะสังเกตได้ว่าเธออยู่ในภาวะอปราณ(ไร้ลมหายใจ) ในบางช่วงบางตอนตลอดการปฏิบัติลมหายใจเข้า-ออกนี้เธอจะได้หยุดแล้วก้าวออกมาจากมิติที่สาม แล้วเคลื่อนเข้าสู่มิติที่สี่ ห้า หรือหก ตามคลื่นพลังงานของเธอในขณะนั้น ให้เธอละจากเครื่องพันธนาการแห่งกาลเวลาและสถานที่...จงได้ยินเสียง [/FONT]“[FONT=&quot]โส-ฮัม[/FONT]”[FONT=&quot] มนตร์ภาวนากำกับลมหายใจศักดิ์สิทธิ์...แล้วเคลื่อนเข้าสู่ภาวะปิติสุขสมบูรณ์ผ่านการภาวนาโส-ฮัมแห่งลมหายใจศักดิ์สิทธิ์ของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]เมื่อลมหายใจหยุดเป็นช่วง ๆ แล้ว เธอก็ไม่ต้องปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านตื่นตระหนกไปหรือหวาดกลัวภาวะอปราณ เพราะร่างกายเธอสามารถยังชีพได้สมบูรณ์ด้วยพลังปราณ ด้วยแสงสว่างเหลวสีขาวประกายทองซึ่งเป็นพลังงานของทุกสรรพสิ่ง แล้วด้วยวิธีนี้เธอจะสัมผัสรับรู้ถึงความสลักสำคัญของลมหายใจเธอ การตั้งจิตรับรู้และการควบคุมลมหายใจเช่นที่เธอทำอยู่นี้จะนำพาเธอให้เคลื่อนขึ้นสู่สภาวะเบื้องสูงแห่งการมีชีวิต เป็นการเคลื่อนเข้าสู่มิติเบื้องสูงโดยแท้ การรับรู้ลมหายใจของเธอเองเทียบเท่ากับการรับรู้ธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งอันศักดิ์สิทธิ์ สรรพสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ ในมิติที่เธอและผู้อื่นสถิตย์อยู่[/FONT]

[FONT=&quot]ด้วยการกำหนดจิตรับรู้ลมหายใจของเธอขณะที่เธอครองพลังงานแห่งสรรพสิ่งไว้ เธอจะเข้าสู่การรับรู้ของพลังที่สถิตย์ในสิ่งอื่นด้วย การรับรู้พลังงานจากพระผู้เป็นต้นกำเนิดในทุกชีวิต มนุษย์ พืช สัตว์ และ แร่ธาตุ และรูปชีวิตแสงสว่าง เมื่อเธอเข้าสู่ภาวะการรับรู้แล้ว เมื่อเธอพร้อมที่จะลืมตาขึ้นอีกครั้งเธอจะสัมผัสรับรู้พลังงานที่แผ่กระจายออกมาจากสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งได้[/FONT]

[FONT=&quot]บาบาชีจะขอกล่าวกับเธอ ณ บัดนี้[/FONT]



“[FONT=&quot]เธอคือพรศักดิ์สิทธิ์สำหรับเราเหล่าบุตรธิดาแห่งโลก เราได้เฝ้าดูเธอหลุดพ้นจากขีดจำกัดทางโลกอยู่ นี่คือหนทางการปฏิบัติแห่งเราที่จะแสดงให้เห็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางโลกในขณะที่เธออาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ นี่เป็นหนทางแห่งพระพุทธองค์และอีกท่านที่รู้จักในนามเยชัว (พระเยซู) ท่านเหล่านี้เรารู้จักใกล้ชิดเป็นอย่างดี หากแต่เรามาเพื่อบอกว่าเธอผู้ดำเนินชีวิตบนโลกในขณะนี้ไม่ได้รับความรักความเอ็นดูจากเราน้อยลงไปเลย และในสายตาของเราเธอก็ไม่ได้ลดละความกล้าหาญของเธอลงไปเลยแม้แต่น้อย[/FONT]

[FONT=&quot]มีผู้กล่าวว่าบาบาชีจะปรากฏแก่ผู้ที่อัญเชิญเรามา และนี่ก็เป็นความจริง เราเป็นผู้แนะแนวทางให้เฉพาะผู้ที่ต้องการจะหลุดพ้นจากกายหยาบผ่านการปฏิบัติกรียาและปราณยาม และบัดนี้วิธีปฏิบัติก็ได้มาสู่รูปแบบอันเรียบง่ายผ่านทางช่องสื่อสารเช่นที่เป็นอยู่นี้เหล่ามนุษย์ที่รัก[/FONT]

[FONT=&quot]เราขอกล่าวอีกครั้งว่าเธอไม่ได้รับความรักความเอ็นดูน้อยกว่าผู้ที่ทำหน้ารับสารที่เราแปลข้อความอยู่ในตอนนี้ผ่านตัวเธอลงมา เธอจงรู้ไว้ว่า เธอได้รับความรัก เธอได้รับการสนับสนุน และผู้ที่มาช่วยเธอนั้นรักเธอสุดหัวใจฉันพี่น้องภายในห้วงจักรวาลแห่งความรักและแสงสว่าง นมัสเต[/FONT]”

 

มาดันให้นะครับ คงจำผมได้นะครับ
ผมใช้เวลา 12 ปี
แต่ทุกท่านวันนี้ จะได้สิ่งนั้น เพียง 12 นาทีเท่านั้นครับ
เพียงมีความตั้งมั่น เพียร
และต้องเชื่อด้วยใจจริงว่าสิ่งนั้นมี สิ่งนั้นย่อมเกิดแน่นอน
ไม่ต้องอาศัยฝึกสมาธิมากหรอกครับ
ทุกคนทำได้ ไม่ยกเว้นสักคนเดียว ขอบอก
มหิศวระ

 

ฝึกขั้นต้นๆ อย่ามองข้ามสัมผัสของความรู้สึก อย่าคิดเพียงว่าเป็นลมผ่านมาท่านั้น
เอาความรู้สึกไปวางไว้ที่ฝ่ามือ
ดันมือเข้า ออก ออกเร็วยาว 10 ส่วน ดันเข้า 3 ส่วน จะรับรู้พลังขั้นต้น พักครู่หนึ่ง
ใช้ลมหายใจเข้าช่วยโดยสูดลมหายใจลึกๆ กลั้นไว้ เห็นไหมพลังเริ่มแน่น ส่ายไปมา
การทดลองว่าพลังตนเองแน่นหนาเพียงใด
แบมือข้างใดก็ได้ ไว้ มือข้างหนึ่ง ชี้ลงไปกลางฝามือสู่ประมาณใดก็ได้ เริ่มต้นที่ต่ำๆ ก่อน
แล้วปล่อยพลังลงไป เดียวจะมีพลังจากนิ้ว มาวิ่งเล่นบนฝ่ามือเอง
ลองดูครับ ผมนั่งเล่นบางวัน เกือบสว่างแต่ลองหลายๆ วิธีครับ
เดียวจะมีสิ่งหนึ่งให้สายฟ้าท่าน
เตรียมใจเหอะ

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆ ครับ ที่นำเนื้อหาที่น่าสนใจมาให้ศึกษา
สาธุ สาธุ

 

ขอขอบคุณ คุณ มหิศวระ เช่นกันครับที่นำประสบการณ์ส่วนตัวมาแบ่งปันกัน

ช่วงนี้อาจจะยังไม่ได้แปลเพิ่มนะครับเพราะต้องสะสางงานด่วนให้เสร็จทันเวลาก่อน
แต่ก็จะไม่ลืมที่จะแปลแบบฝึกนี้นะครับ (ปัจจุบันมีถึงบทที่ 9 แล้วครับ)

ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ

 

ผมจะเข้ามาเรียนและพัฒนาเรื่อยๆ นะครับ

 

ตามลายเซ็นต์ของคุณมหิศวระมาอ่านค่ะ
คิดว่าคุณคงอายุไม่มาก แต่ความรู้นี่เรียกว่าเก่าแก่เลย
ความรู้สึกจากการเขียนของคุณ คุณเป็นคนที่เข้าใจอะไรๆ
อย่างที่เรียกว่าเข้าใจและเมตตา มีความปรารถนาดี

ขออภัยที่ชื่มชมผ่านกระทู้นี้นะคะ ทั้งๆที่จริงก็คิดว่าอะไรที่ออกนอกหน้า
ไม่ค่อยจะงามสักเท่าไหร่ แต่โลกขณะนี้ไม่รู้จะเปลี่ยนฉากวันไหน
หากรู้สึก(ในทางที่ดี) รีบบอกดีกว่านะคะ

ขอบคุณเจ้ากระทู้ที่ตั้งใจแปลค่ะ ตามอ่านอยู่นะคะ

ตื่นเต้นสำหรับรูปภาพและคำสอนของบาบาจีมากค่ะ
ตั้งแต่แรกที่เห็นภาพท่านเมื่อกว่าสิบปีก่อน มีภาพท่านเก็บไว้ มีที่พกในกระเป๋าสตางค์
ทราบเรื่องราวของท่านนิดหน่อย มีเทปบทสวดสรรเสริญท่านที่(อาจารย์
ของเรา) อัดมาจากโบสถ์ที่อเมริกา ก็รู้สึกว่าคล้ายจิตใจเราส่วนหนึ่งติดตาม
ท่านไป รู้สึกแอบสงสัยตัวเองว่าลึกๆเรามีปณิธานแบบโยคีซะละมั้ง แต่ในชีวิต

จริงไม่ได้เรื่องอะไรเลยค่ะ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยค่ะ

 

ขอคัดลอก บทที่ 4 ก่อนนะ

 

ผมอายุ 34 ครับ ไม่มาก (เหลือไม่มากครับ)
ชมผมก็เหมือนชมตนเองครับ ถ้าเข้าใจตนเองย่อมเข้าใจผู้อื่น
บ่งบอกว่าท่านเองเป็นคนคิดไกล ทั่วถึง ไม่ประมาทในกาลทั้งปวง
เป็นคนมองโลกด้วยเหตุผล ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง
เป็นคนที่ควรยกย่อง ควรต้อนรับ และควรบูชา

 

ค่ะ อายุกลางๆ เปล่าค่ะ-ล้อเล่น
ยังหนุ่มอยู่ค่ะ อายุเท่าน้องชาย(ในสายธรรม)
แต่เป็นน้องที่เราได้รับคำแนะนำทางความคิดนะคะ ไม่ใช้พี่สอนน้อง
กลายเป็นน้องสอนพี่ เป็นน้องที่มีความรู้ประหลาดๆ มาสื่อที่จิต
แล้วเขาก็ถ่ายทอดบอกเล่าให้เราฟังอีกต่อ อาจจะคล้ายๆกันนะ

 

บทที่ 5

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=BznalUASB1c"]Lesson 5 - Nadi Shodhana - Third Eye & Pineal Awakening - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทที่ [/FONT]5 [FONT=&quot]นาฑีโศธนะ [/FONT]–[FONT=&quot] การปลุกพลังตาที่สามและต่อมไพเนียล[/FONT]

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

[FONT=&quot]เราจะขอทดสอบสมรรถภาพของเธอในการใช้กลวิธีที่เราได้ให้บทเรียนไปแล้ว จงเตรียมพร้อมด้วยประสิทธิภาพและความรวดเร็วแล้วเปล่งคำสั่งดังว่า[/FONT] “[FONT=&quot]ข้าฯ เรียกแสงสว่างมาสู่ต้วข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] แล้วขณะนี้สายธารลำแสงสีขาวสว่างเจิดจ้าสดสวยก็จุดประกายตัวเธอสว่างขึ้น แล้วจึงเคลื่อนเข้าสู่การเชื่อมต่อแนวดิ่งโดยฉับพลันทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง และภายในแถบแสงสว่างนี้เธอจะสังเกตเห็นว่าทวารบถดาราจักรวาลและโลกาเปิดออกพร้อมด้วยกัน[/FONT]

[FONT=&quot]ให้เริ่มกำหนดจิตไว้ที่จักรหัวใจแล้วให้เธอเปิดช่องปราณ ณ บัดนี้ เปล่งคำสั่งดังว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดช่องปราณของข้า ณ บัดนี้[/FONT]!”

[FONT=&quot]ตามด้วย [/FONT]“[FONT=&quot]ข้าฯ ตั้งจิตรวมและขยายร่างพลังของข้า ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] แล้วปล่อยให้พลังออร่าเธอแผ่ขยายออกไปให้ได้ขนาดรอบวงที่เธอรู้สึกสบายพอเหมาะกับตัวเธอ ให้สังเกตตรงขอบพลังว่าเป็นเปลือกหุ้มสีทองของรังไหมเปี่ยมชีวิตอันเป็นพลังออร่าของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งคำสั่งว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ขอพลังใดที่ข้าฯ ปล่อยปะละทิ้งไปจงหวนคืนสู่ตัวข้า ณ บัดนี้[/FONT]!”[FONT=&quot] พลังงานของเธอจะหลั่งไหลเข้ามายังพลังออร่าแล้วประจุพลังเพิ่มขึ้น แล้วให้เธอสัมผัสรับรู้ว่าตัวเธอเองในตอนนี้ได้เข้าสู่โลกภายในแล้ว อยู่ในโลกภายในแห่งแสงสว่าง พลังงาน และจิตสำนึกตัวตนภาคสูงประจำตัวเธอ นี่มิใช่หรือคือเรื่องอันน่าทึ่งที่เธอสามารถพาตัวเธอให้เข้าสู่โลกภายในได้เปี่ยมประสิทธิภาพเช่นนี้? นี่ไม่ใช่หรือคือเรื่องที่น่าที่งที่เพียงเธอหลับตาลงเธอก็พาตัวเธอเองเข้าสู่ภายในยังร่างพลังงานของเธอได้[/FONT]!

[FONT=&quot]และขั้นตอนต่อไปนี้คือการนำตัวเธอให้เข้าสู่การกำหนดจิตจับลมหายใจ นี่คือส่วนสำคัญที่สุด ให้ใช้อุชชัยปราณบัดนี้ อันเป็นเสียงถอนหายใจเสนาะหูแห่งลมหายใจของเธอนั่นเอง...[/FONT]

[FONT=&quot]และด้วยวิธีอันละเอียดอ่อนกว่ากลวิธีที่เราสอนไว้แล้วเธอจะใช้อุชชัยปราณและบูรณปราณพร้อมกันกับนาฑีโศธนะ - การหายใจผ่านรูจมูกสลับข้าง เธอจะจับสัมผัสได้อีกครั้งถึงลมหายใจที่เข้าขยายช่องท่องเป็นอันดับแรก ต่อไปยังซี่โครง แล้วเคลื่อนขึ้นสู่ฐานคอด้วยลมหายใจเข้า[/FONT]

[FONT=&quot]แต่คราวนี้เมื่อเราหายใจผ่านรูจมูกทีละข้าง จุดกำหนดจิตของเธอจะอยู่ที่พลังงานที่เพิ่มขื้นทุกขณะผ่านสุศุมนาเข้าสู่อาชญา (จักรตาที่สาม อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว) ตามลมหายใจเข้าทุกครั้ง เมื่อเธอสูดลมหายใจผ่านรูจมูกซ้ายแล้วพลังเคลื่อนเลื่อนคลานคล้ายงูใหญ่จะเคลื่อนขึ้นผ่านสุศุมนา แล้วพาดผ่านระหว่างคิ้วทั้งสองเพื่อปลุกพลังสมองซีกขวา เมื่อที่เธอสูดลมหายใจผ่านรูจมูกขวาแล้วพลังเลื่อนเคลื่อนคลานคล้ายงูใหญ่จะเคลื่อนผ่านสุศุมนา แล้วพาดผ่านระหว่างคิ้วทั้งสองแล้วปลุกพลังสมองซีกซ้าย นี่คือวิธีที่ทำให้ปลุกพลังต่อมไพเนียล นี่คือหนทางที่ฝึกให้สมองเธอทำงานประสานกลมกลืนกันทั้งสมองซีกซ้ายและขวา[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ฝึกกลวิธีนี้พร้อมความรู้สึกผ่อนคลายและปิติสุข ไม่ต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า ไม่ต้องตั้งจิตเข้มจนเธอคลาดกับความปิติสุขและความเจริญใจในแสงสว่างที่ฉายขึ้นมาจากมูลธารตรงฐานระบบจักรของเธอ แล้วแสงนั้นได้จุดประกายส่องสว่างแก่ต่อมไพเนียล ปลุกพลังตาที่สามของเธอ แล้วนำพาเธอให้เข้าสู่ภาวะสมบูรณ์แบบและความถึงพร้อมในฐานะมนุษย์ในร่างแสงสว่าง[/FONT]

[FONT=&quot]จากนั้นให้เธอใช้มือซ้ายทำท่าชินมุทรา นี่คือการทำให้วงจรพลังงานประจุพลังงานเต็มภายในร่างแสงสว่างของเธอ แล้วกำนิ้วชี้และนิ้วกลางมือขวาลงไว้ แล้วเธอจะใช้นิ้วหัวแม่มืออุดรูจมูกขวาและนิ้วนางอุดรูจมูกซ้ายได้[/FONT]

[FONT=&quot]เราจะเริ่มขึ้นตอนแรกด้วยบูรณปราณ ให้หายใจเข้า แล้วในขณะที่เธอกลั้นลมหายใจอยู่ให้รู้สึกว่ามีแสงสว่างและพลังปราณผ่านเข้ามายังภายในสมอง แล้วหายใจออก หายใจเข้าผ่านรูจมูกทั้งสอง เมื่อกลั้นลมหายใจแล้วเอานิ้วโป้งอุดรูจมูกขวาไว้ แล้วหายใจออก[/FONT]

[FONT=&quot](รอบที่ [/FONT]1[FONT=&quot])[/FONT][FONT=&quot] หายใจเข้ารูจมูกซ้าย (ให้นึกว่ามีแสงสว่างสุกสกาววิเศษสุดเคลื่อนขึ้นสู่สมอง แล้วกลั้นหายใจเอาแสงสว่างเก็บไว้ตรงนั้น) หายใจออกรูจมูกขวา แล้วเข้าขวา...ออกซ้าย[/FONT]
[FONT=&quot](รอบที่ [/FONT]2[FONT=&quot])[/FONT][FONT=&quot] (ให้พลังงานเคลื่อนขึ้นพร้อมลมหายใจเข้า) เข้าซ้าย...แล้วออกขวา เข้าขวา (ให้รู้สึกว่าแสงสว่างในสมองจุดประกายตาที่สามของเธอ) ...ออกซ้าย (แล้วขณะที่หยุดหายใจแผ่วเบาเมื่อปล่อยลมหายใจออกนั้น จะรู้สึกถึงสภาวะไร้กาลเวลา)...แล้วปฏิบัติต่อไป[/FONT]
[FONT=&quot](รอบที่ [/FONT]3[FONT=&quot])[/FONT][FONT=&quot] เข้าซ้าย... (ให้เก็บแสงสว่างไว้ในต่อมไพเนียลแล้วรู้สึกการปลุกพลังภายในสมองเธอ) ... ออกขวา เข้าขวา...ออกซ้าย[/FONT]
[FONT=&quot](รอบที่ [/FONT]4[FONT=&quot])[/FONT][FONT=&quot] ปฏิบัติอีกรอบ (เข้าซ้าย...ออกขวา เข้าขวา...ออกซ้าย) แล้วลดแขนขวาคลายลง[/FONT]

[FONT=&quot]อาชญา อาชญา อาชญา ตั้งจิตไว้ที่อาชญา คือตาที่สาม ณ บัดนี้ ตอนนี้เธอจะรู้สึกว่าสมองเธอได้รับการจุดประกายส่องสว่างแล้ว และเธอรู้สึกถึงคุณสมบัติสองสิ่งอันแสนวิเศษนี้ เธอจะรู้สึกถึงร่างกายเธอว่าผ่อนคลายและหนักอึ้งลึกล้ำ และความรู้สึกเบาสบายซึ่งก็คือแสงสว่างส่องไสวภายในพรหมกันทรซึ่งเป็นพื้นที่ภายในสมองเธอที่อุ้มต่อมไพเนียลที่ลอยเสมือนอยู่ในหอคริสตัล ให้จับสัมผัสความเบาสบายในตามที่สามและสมองของเธอในขณะเดียวกันที่เธอดึงเอาแสงสว่างขึ้นมาทุกครั้งที่หายใจเข้า[/FONT]

[FONT=&quot]นาฑีโศธนะคือกลวิธีทางโยคะที่ทรงพลังที่สุดวิธีหนึ่งที่มนุษย์สามารถฝึกปฏิบัติบนโลกได้ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ชำระนาฑีหรือช่องสื่อส่งพลังภายในร่างกายของเธอแต่ยังเป็นกลวิธีซี่งได้รับการออกแบบเพื่อปลุกพลังตาที่สาม เพื่อปลุกพลังอาชญาและทำให้สมองทั้งสองซีกเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน อันนำมาสู่ภาวะตื่นรู้[/FONT]

[FONT=&quot]กลวิธีนี้จะนำพลังจิตวิญญาณมาสู่ตัวเธอพร้อมกันกับที่เธอดึงเอาพลังแห่งกายอาและพลังกุณฑาลินีขึ้นสู่ร่างพาหนะในทุกช่วงลมหายใจเข้า กลวิธีนี้จะเป็นการปลุกพลังมาสู่ตาที่สามในรูปของการสัมผัสรับรู้ความสามารถในการมองทะลุผ่านม่านบังตา คือผ่านกายหยาบในโลกมิติที่สามของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]วิธีนี้จะทำให้จิตผ่องใส เธอหลายคนที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมง เธอหลายคนที่ใช้สมองส่วนในคิดคำนวณอยู่หลายชั่วโมงนั้น จงรู้ไว้ว่านาฑีโศธนะจะทำให้จิตเธอกลับผ่องใสเข้าสู่กายเธอได้ วิธีนี้จะนำไปสู่ภาวะสงบนิ่งและการผ่อนคลายอันลึกล้ำมาสู่ร่างกายเธอ นอกจากนี้ในช่วงเช้าวิธีนี้ยังช่วยนำสันติสุขและจิตผ่องใสมาเติมให้ชีวิตเธอได้ทั้งวัน และในตอนเย็นก่อนนอนก็จะช่วยเธอผ่อนคลายระบบประสาทและชำระจิตของเธอด้วย วิธีนี้ใช้ได้หลากหลายมิใช่หรือ? วิธีนี้ไม่ใช่หรือคือยาครอบจักรวาลแก่เธอหลายคนที่ไม่สบายและเจ็บป่วย?[/FONT]

[FONT=&quot]เราแนะนำให้เธอปฏิบัตินาฑีโศธนะ [/FONT]5 [FONT=&quot]หรือ [/FONT]7 [FONT=&quot]หรือบางทีอาจทำ [/FONT]3 [FONT=&quot]รอบก็ได้ในตอนที่เธอต้องการฟื้นพลังตัวเธอแล้วทำให้เธอกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล เราแนะนำกลวิธีนี้ก่อนสื่อจิตรับสาสน์ ก่อนเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณนำทาง ก่อนการปฏิบัติการรักษา ก่อนการทำสมาธิ หลังจากที่ปฏิบัตินาฑีโศธนะแล้วเธอก็จะอยู่ในสภาวะเปี่ยมพลังจิตอันผ่องใส[/FONT]

[FONT=&quot]เธอหลายคนไร้ซึ่งจิตผ่องใส และเธออีกหลายคนที่ลองปฏิบัติสมาธินิ่งหลากรูปแบบแล้ว และยังไม่เข้าถึงภาวะสงบนิ่ง เธอจะพบว่าเพียงปฏิบัตินาฑีโศธนะก็จะนำเธอให้เข้าสู่ภาวะสงบนิ่งได้เอง แล้วเราจะปฏิบัติให้สำเร็จอีก [/FONT]3 [FONT=&quot]รอบ[/FONT]

[FONT=&quot]เราอยากให้เธอสังเกตสิ่งเหล่านี้ไว้[/FONT]:

• [FONT=&quot]เราอยากให้เธอสังเกตและเพิ่มพลังแสงสว่างซึ่งเลื่อนไหลขึ้นไปผ่านช่องพลังงานศูนย์กลางเข้าสู่พรหมกันทรภายในจุดศูนย์กลางสมองของเธอ[/FONT]
• [FONT=&quot]เราอยากให้เธอสังเกตภาวะสงบนิ่งลึกที่เกิดขึ้นภายในจิตและร่างของเธอด้วย[/FONT]
• [FONT=&quot]เราอยากให้เธอสังเกตลักษณะการขยับเขยื้อนร่างกายผ่านบูรณปราณ ให้เธอดึงเอาคลื่นพลังงานขึ้นไปยังฐานคอในลมหายใจทุกครั้ง และจะทำให้เธอรู้สึกสัมผัสกับภาวะสถิตย์บนยอดคีรีในขณะที่เธอกลั้นลมหายใจไว้[/FONT]
• [FONT=&quot]แล้วเธอจะสัมผัสรับรู้ความรู้สึกอีกด้านหนึ่งในช่วงท้ายสุดในลมหายใจออก ณ จุดสุดท้ายของลมหายใจเมื่อผ่อนคลายเต็มที่จะมีช่วงหยุดพักซึ่งก็คือภาวะสงบนิ่งแห่งภาวะไร้กาลเวลาและสถานที่[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ลมหายใจของเธอเคลื่อนไปตามจังหวะเป็นธรรมชาติ แล้วเธอจะหายใจเก็บเข้าไว้เต็มก่อนที่จะกลั้นลมหายใจ แล้วเธอก็จะปล่อยลมหายใจออกให้หมดไป เธอก็จะสัมผัสรับรู้ถึงช่วงหยุดลมหายใจตามปกติซึ่งเป็นสภาวะไร้กาลเวลาเปี่ยมสุขนั่นเอง[/FONT]

[FONT=&quot]และให้เราเริ่มหายใจอีกครั้ง...(ทำอีก [/FONT]3 [FONT=&quot]รอบทั้งหมด)[/FONT]
[FONT=&quot]จากนั้นลดแขนคลายลง แล้วตั้งจิตไว้ที่ อาชญา ให้เลื่อนลูกตาเข้าไปภายใน เคลื่อนขึ้นขยับไปด้านหลังเข้าสู่ใจกลางสมองเธอ แล้วเธอจะพบว่าตัวเธออยู่ในพรหมกันทร ถ้ำภายในแห่งเหล่าโยคี ให้สังเกตในตอนนี้ว่ามีแสงสว่างหรือความมืดหรือไม่ ดูว่ามีสีสันหรือคลื่นสั่นสะเทือนไหม เห็นว่ามีภาพหรือข้อความที่ส่งมาจากตัวตนภาคเบื้องบนประจำตัวเธอหรือเปล่า[/FONT]

[FONT=&quot]เธออาจถามว่า [/FONT]“[FONT=&quot]มีสิ่งใดที่ฉันจำเป็นต้องรู้อีกหรือไม่?[/FONT]”[FONT=&quot] แล้วเธอต้องวางใจในคำตอบที่ส่งผ่านมา เธอที่รักทั้งหลาย[/FONT]!
[FONT=&quot]เธอต้องวางใจในคำตอบแรกสุดที่ส่งเข้ามา และขจัดความสงสัยออกไป เพราะบางคราวคำตอบนี้เป็นคำตอบที่เธอทราบดีอยู่แล้ว และมันผุดขึ้นย้ำเตือนเธออีก ให้สัมผัสกับความเบาสบายของพลังงานในสมองเธอ ในจิตเธอ แล้วรู้สึกผ่อนคลายลึกล้ำภายในร่างกายและความคิดของเธอด้วย[/FONT]

[FONT=&quot]นี่ไม่ใช่หรือคือของขวัญจากบาบาชีโดยแท้ และเหล่าปรมาจารย์โยคีทั้งหลายที่ได้ดำเนินตามหนทางปฏิบัติแห่งความภักดีเต็มหัวใจ ที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้สื่อลงมาผ่านวิธีนี้เพื่อช่วยในการวิวัฒน์สภาพของเธอในช่วงเวลานี้ [/FONT]

[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]

 

เข้ามาบอกว่าติดตามตลอดนะครับเจ้าของกระทู้

 

บทที่ 6

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Rh5OT7V6XpU"]Lesson 6 - Babaji on The Breathless State through Postural Adjustment - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทที่ [/FONT]6: [FONT=&quot]การเข้าสู่ภาวะอปราณโดยใช้การปรับเปลี่ยนท่าทางและอานุภาพแห่งความกตัญญู[/FONT]

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

‘[FONT=&quot]เราขอทดสอบเธออีกครั้งหนึ่งเหล่ามนุษย์โลกที่รักทั้งหลายเพื่อดูว่าเธอมีประสิทธิภาพเท่าใดในการตั้งฐานพลัง ตั้งศูนย์กลางพลังและรวบรวมพลังเข้าสู่ตัวตนเนื้อแท้ของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งเสียงสั่งดังว่า[/FONT] ‘[FONT=&quot]ข้าฯ เรียกแสงสว่างมาสู่ตัวข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]เมื่อลำแสงพระวิญญาณสีขาวส่องสว่างไหลเทลงมาผ่านร่างกายและร่างพลังงานเธอ ก็ให้มองเห็นทวารทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างพลังออร่าของเธอเปิดออก ทวารบถดาราจักรวาลและทวารบถดาราโลกาจะเปิดออกโดยอัศจรรย์แล้วทำให้สายธารพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นต้นกำเนิดไหลผ่านช่องปราณเธอได้[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งเสียงสั่งดังว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดใช้พลังออร่า ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]แล้วเปิดพลังตัวเธอเองเหมือนกับเปิดหลอดไฟให้สว่าง เปิดใช้ร่างพลังงานจนเธอรับรู้ถึงพลังออร่าของเธอทั้งเบื้องหน้าและหลัง ซ้ายและขวา บนและล่าง จากนั้นให้ตั้งฐานจากช่องท้องด้วยพลังหฤทัย [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯ ขอตั้งฐานพลังยึดไว้กับดวงหฤทัยแห่งกายอา ณ บัดนี้[/FONT]!’

[FONT=&quot]แล้วส่งเส้นใยแสงสว่างนี้จากช่องท้องลงไปสู่คริสตัลมหามารดาอันเป็นดวงหฤทัยแห่งกายอา คือองค์พระแม่แห่งพื้นพิภพ ส่งพลังเข้าสู่กลางหฤทัยในพระองค์ แล้วเทรักจากจักรหัวใจลงไปยังพระองค์ สัมผัสพลังความรักแห่งพระมารดาไหลกลับคืนมาเข้าสู่ร่างกายและร่างพลังงานของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ตรวจดูในขณะนี้ว่าพลังงานของเธอยังอยู่กับตัวหรือไม่ [/FONT]‘[FONT=&quot]ขอพลังใดใดที่ข้าฯ ปล่อยปละละทิ้งไปจงหวนกลับคืนสู่ตัวข้า ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]แล้วจงสัมผัสรับรู้พลังนั้น เธอไม่ต้องคิดถึงสิ่งใดแต่ให้สัมผัสรับรู้พลังงานของเธอที่กลับคืนมาผ่านสายเส้นพลังงานทั้งหลายที่สานเกราะพลังออร่าของเธอส่องประกายฉายสว่างสมบูรณ์เต็มที่ในขณะนี้[/FONT]

[FONT=&quot]เราสอนเธอไว้แล้วถึงหนทางเคลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณโดยผ่านการเคลื่อนเข้าสู่เสียงสวดศักดิ์สิทธิ์แห่งโส-ฮัม มนตร์แห่งศานติอันเป็นมนตร์ภาวนากำกับลมหายใจ ตอนนี้เราจะอธิบายวิธีที่เราจะช่วยขยายร่างกายให้อยู่ในรูปที่ทำให้เธอรับเอาพลังปราณได้มากขึ้น[/FONT]

[FONT=&quot]ใช้บูรณปราณในตอนนี้ แล้วให้เคลื่อนเข้าสู่ภาวะขั้นที่สอง สูดลมหายใจเข้าสู่ช่องท้องให้ขยายออก แล้วในขณะที่ดำเนินขั้นตอนนี้ก็ให้จบอยู่เพียงขั้นที่สองเท่านั้น ให้ซี่โครงของเธอขยายออกทั้งด้านหน้า หลัง ซ้ายและขวา แล้วหยุดอยู่ที่จุดนี้สักครู่ (หมายเหตุจากโซลารา[/FONT]: [FONT=&quot]ตรงนี้ไม่ได้ให้เธอหยุดหายใจไปโดยสิ้นเชิง เพียงแค่ให้ตั้งจิตแผ่ขยายร่างกายบริเวณซี่โครงมากกว่าที่จะหายใจขึ้นต่อไปสู่ฐานคอ)[/FONT]

[FONT=&quot]เมื่อเธอปล่อยลมหายใจออกแล้วให้รักษาระดับการขยายในซี่โครงของเธอ จากนั้นปล่อยให้ลมหายใจเคลื่อนออก แล้วรู้สึกว่าช่องท้องหดตัวเพื่อรักษาระดับซี่โครงให้ขยายออก ลองปฏิบัติขั้นนี้อีกครั้ง หายใจเข้า...และออก... รักษาระดับการขยายตัวไว้บริเวณซี่โครง แล้วผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้[/FONT]

[FONT=&quot]บัดนี้บาบาชีจะกล่าวถึงปรากฏการณ์นี้ คือการยอมให้ร่างกายของเธอปรับตัวในทางที่จะทำให้เธอรับพลังปราณได้เพียงพอโดยไม่ต้องหายใจ[/FONT]


[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
“[FONT=&quot]มีภาพแสดงอยู่มากมายที่เธอได้เห็นเป็นรูปโยคีนั่งปฏิบัติอยู่ในถ้ำ เหล่ามนุษย์ที่รัก ภาพของเราเองนั่นแหละที่เป็นโยคีมีซี่โครงแผ่ขยายและหน้าท้องที่หดเข้า ลักษณะนี้มีผู้ตีความถ่ายทอดสำนักโยคะต่าง ๆ ว่าเป็นสิ่งที่เธอต้องออกแรงบังคับ เป็นสิ่งที่เธอต้องฝึกฝนและปฏิบัติให้ชำนาญในระดับของร่างกาย[/FONT]

[FONT=&quot]ทว่าเช่นเดียวกับที่ครูและต้นกำเนิดพลังเทพา-เทพีนุภาพได้ช่วยชี้แนะเรามาก่อนแล้ว เราก็มาปรากฏที่นี่ขณะนี้เพื่อช่วยเหลือเธอขณะที่เธอเปิดพลังแห่งหัวใจรับการปรากฏกายศักดิ์สิทธิ์ของเรา เมื่อเธอเปิดพลังแห่งหัวใจรับการปรากฏอันศักดิ์สิทธิ์แห่งสรรพสิ่งนั้น เธออาจจะขอให้เราช่วยชี้แนะในการเคลื่อนลมหายใจเข้าและออกจากร่างกายในแบบที่จะทำให้รับแสงสว่างหรือพลังปราณเต็มอัตราได้ เมื่อเราได้ช่วยชี้แนะโซลารา อาน-ราแล้ว เธอจะสังเกตได้ว่าซี่โครงของเธอขยายตัวพร้อมด้วยการไล่ลมออกซึ่งเป็นแรงผลักของลมหายใจ แล้วเราขอสาธิต ณ บัดนี้[/FONT]

[FONT=&quot]โซลารา อาน-ราไม่สามารถปฏิบัติเช่นนี้ได้โดยปราศจากคำชี้แนะ เราได้ช่วยเธอเป็นครั้งคราวในการประสาทพลังครั้งแรกในวิหารที่อียิปต์ วิธีการปฏิบัติเช่นนี้ก็ใช้ในอียิปต์ แอตแลนตีส รวมถึงเลมูเรียด้วย และบัดนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะเข้าถึงวิธีปฏิบัตินั้นได้และเราก็มาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยชี้แนะ ให้เธอขอคำชี้แนะด้วยหัวใจ ณ บัดนี้[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจเข้าโดยใช้อุชชัยปราณให้ซี่โครงของเธอแผ่ขยายออก แล้วตั้งจิตขอคำชี้แนะในจังหวะเดียวกับที่หายใจไล่ลมออก ในช่วงไล่ลมหายใจนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องหายใจเข้าอีกแล้ว เธอจะรู้สึกถึงระลอกคลื่นพลังงานและการจัดระเบียบภายในร่างกายของเธอซี่งนำให้เธอเข้าสู่สภาวะสงบนิ่งลึกซึ่งซี่โครงของเธอยังคงตรึงขยายไว้[/FONT]

[FONT=&quot]สำหรับเธอหลายคนก็อาจยังทำไม่ได้ในทันที ดังนั้นก็ให้เธอฝึกต่อไป ใช้อุชชัยปราณเพิ่มความแข็งแรงและควบคุมการไหลเข้าออกลมหายใจ แล้วเปิดหัวใจรับคำชี้แนะจากบาบาชีแล้วขอให้ร่างกายและลมหายใจได้รับการปรับแต่งในรูปแบบที่จะช่วยให้ตัวเธอให้เข้าสู่ภาวะอปราณในมิติที่ [/FONT]4 5 [FONT=&quot]และ [/FONT]6 [FONT=&quot]ได้ จงฝึกขั้นนี้เดี๋ยวนี้ เหล่ามนุษย์ที่รัก...[/FONT]

[FONT=&quot]เธอไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนทุกประการเสียหมดเพราะวิธีที่ให้ไปเป็นเพียงการทดลองปฏิบัติโดยใช้อุชชัยปราณ เป็นลมหายใจลึกยิ่งซึ่งทำให้พื้นที่ภายในปอดและซี่โครงขยายออกเต็มที่ และเธอจะรู้สึกถึงอิสรภาพ ความรู้สึกสัมผัสแห่งอิสระและการไว้วางใจว่าเธอจะได้รับคำชี้แนะเมื่อเธอร้องขอ[/FONT]

[FONT=&quot]ในการชี้แนะครั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนเส้นทางไหลเวียนพลังปราณของเธอโดยผ่านการปรับเปลี่ยนแนวกระดูกสันหลัง เธออาจรู้สึกว่ากระดูกสันหลังกำลังเรียงตัวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ร่างกายเธอจำเป็นต้องเป็นอิสระเพื่อทจะได้สัมผัสรับรู้ความรู้สึกนี้ เธอต้องไม่พิงหลังกับเก้าอี้หรือกำแพง เราขอแนะนำให้เธอฝึกท่านั่งขัดสมาธิในแบบต่าง ๆ แล้วมูลธาร ฐานจักรของเธอก็จะเชื่อมเข้าโดยตรงกับกายอา มารดาพิภพของเธอได้[/FONT]

[FONT=&quot]ขอให้เธอรู้จักปล่อยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนอย่างอิสระ ให้คลายข้อต่อขัดแน่นของเธอ สะโพก เข่า ข้อเท้า จงมั่นใจว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือด้วยลักษณะนี้คือท่าทางของเธอ ด้วยลมหายใจและด้วยความสามารถสัมผัสรับรู้ปราณภายในร่างกายและสัมผัสรับรู้ปราณของสรรพสิ่งนั้น[/FONT]”

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

‘[FONT=&quot]เมื่อเธอหายใจผ่านช่องปราณขณะนี้ให้สูดเอาพลังงานจากเบื้องบนและเบื้องล่างเข้าสู่กลางใจเธอ ให้แย้มยิ้มขณะที่ปฏิบัติและเคลื่อนเข้าสู่สถานที่แห่งความรักและความกตัญญู สูดลมเข้าสู่หัวใจผ่านช่องปราณพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วเคลื่อนตัวเธอเข้าสู่สภาวะแห่งรักและความกตัญญู[/FONT]

[FONT=&quot]ความรักและความกตัญญูคือส่วนประกอบหลักสองสิ่งซึ่งทรงอานุภาพที่สุดในการนำภาวะพลังงานที่เธอดึงดูดเข้าหาตัวเธอ ทุกสิ่งสรรพอันเป็นแสงสว่างสูงสุด ทุกสิ่งสรรพอันเป็นเลิศที่สุดแก่เธอ ความปิติ ความสุขและความสมบูรณ์พูนสุขบนโลกใบนี้ เราขอใช้อัตราส่วนโมเลกุล [/FONT]H2O [FONT=&quot]ของน้ำเป็นตัวอย่าง เราประกอบรักส่วนหนึ่งและความกตัญญูอีกสองส่วน ด้วยรักและขอบคุณ เราขอขอบคุณ[/FONT]

[FONT=&quot]ให้เปิดหัวใจและกล่าวในจิตว่า [/FONT]“[FONT=&quot]ด้วยรักและขอบคุณ เราขอขอบคุณ[/FONT]”[FONT=&quot] แด่ของขวัญอันเป็นของเราบนโลกใบนี้ ด้วยรักและขอบคุณ เราขอขอบคุณแด่ผืนฟ้าและปุยเมฆอันรุ่งโรจน์ไพศาล แด่ดวงจันทร์กระจ่างงดงาม และดวงอาทิตย์ทรงพลังอันยิ่งใหญ่ แด่หมู่ดวงดาวพร่างพราวทั่วท้องนภาสีครามยามราตรี แด่ความงดงามและความรักแห่งพืชพันธุ์และสัตว์ทั้งหลายแห่งกายอา หายใจเข้าสู่หัวใจของเธอผ่านช่องปราณ...แย้มยิ้ม...แล้วกล่าวว่าด้วยรักและขอบคุณ เราขอขอบคุณแด่ของขวัญซึ่งเป็นของเธอ แด่มิตรสหาย ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักที่คอยเป็นกำลังใจให้เธอ แด่อานุภาพและความงามอัศจรรย์ของร่างกายเธอ แด่ความปิติยินดีในผัสสะทั้งหลาย ความสุขใจที่เธอได้รับผ่านผัสสะ กลิ่นไอแห่งเกลียวคลื่นมหาสมุทร แสงสะท้อนต้องน้ำค้างบนยอดหญ้ายามอรุณรุ่ง เสียงดอกตูมกุหลาบผลิบานในสวนศรี รสอร่อยเลิศล้ำของผลหมากรากไม้ พืชผักสวนครัวและธัญญาหารทั้งหลาย...และสัมผัสแห่งสายธารซึ่งมอบเป็นของขวัญแด่เธอในโลกกายภาพนี้...[/FONT]

[FONT=&quot]ด้วยรักและขอบคุณ เราขอขอบคุณแด่ของขวัญแห่งการมีชีวิตเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสภาพนี้ เธอเลือกตั้งจิตมุ่งไปยังสิ่งที่รุ่งเรือง งดงาม ศักดิ์สิทธิ์ มากกว่าที่จะพุ่งความสนใจไปยังภายนอกโลกของเธอในมิติเบื้องสูง เธอกำลังเปิดหัวใจมอบความรักและความกตัญญูแก่สรรพสิ่งนั้นในโลกแห่งกายภาพของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]เพราะนี่ไม่ใช่หรือคือสิ่งที่เธอปรารถนาที่ได้เนรมิตขึ้นมาในโลกแห่งกายภาพขณะนี้แล้ว?[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจผ่านช่องปราณเข้าสู่กลางใจเธอ แล้วให้รอยยิ้มแห่งปิติสุขฉายบนใบหน้า เปิดหัวใจมอบพลังความรักและความกตัญญูแด่ทุกสรรพสิ่งที่เป็นของเธอแล้ว นี่จะทำให้คลื่นความถี่ของเธอสั่นสะเทือนรับกับภาวะแม่เหล็กแห่งการดึงดูด ดึงดูดเอาความงดงามเพิ่มขึ้น ความสมบูรณ์พูนสุขเพิ่มขึ้น ความรักและกำลังใจเพิ่มขึ้น สมดุลมากขึ้น สันติสุขและความลงตัวในภาวะเป็นอยู่และในชีวิตของเธอ และเมื่อสิ่งนี้ปรากฏขึ้นในชีวิตของเธอแล้ว เธอก็จะช่วยในการนำความปิติ ความสมบูรณ์พูนสุข และความงดงามมาสู่ชีวิตของผู้อื่นรอบข้าง แล้วเธอก็จะปลูกเมล็ดพันธุ์โชติยุคลงบนดวงดาวของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]นี่เป็นสิ่งที่สนุกมิใช่หรือ? วิธีนี้ไม่ได้ยากเกินกว่าวิธีรังสรรค์เนรมิตอื่นใดเลย[/FONT]

[FONT=&quot]เราสุขใจเมื่อได้สอนเธอจากสถานที่แห่งพลังมหาเทวี ผู้ที่ยังไม่เคยมายลทะเลสาบกว้างใหญ่นี้ก็อาจซึมซับเอาความรักและอานุภาพของทะเลสาบเพียงแค่มองดูในขณะนี้...แค่มองดูภาพของทะเลสาบ เชื่อหรือไม่ว่าเธอเองก็เคลื่อนย้ายพลังงานจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเหมือนอย่างเช่นการรักษาทางไกลได้ นี่ไม่ได้มีอะไรต่างกันเลยเพราะสรรพชีวิตทุกสิ่งบนกายอาเชื่อมถึงกันผ่านโครงข่ายสายใยแห่งแสงสว่างแห่งมหามารดา แล้วเธอก็ใช้หัวใจรับและส่งพลังงานจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ บนกายอาได้[/FONT]

[FONT=&quot]เราขอมอบความรักอันยิ่งใหญ่ให้แด่เธอเหล่ามนุษย์ที่รัก จากเราสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง [/FONT]
[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]’

 

บทที่ 7

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=qvYqBFieDgI"]Lesson 7 - Nadi Shodhana Stage 2 & Prana immersion - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทที่ [/FONT]7: [FONT=&quot]นาฑีโศธนะขั้นที่ [/FONT]2 [FONT=&quot]และภาวะอปราณผ่านการหลอมรวมกับพลังปราณ[/FONT]

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

‘[FONT=&quot]เธอมองภาพออกในขณะนี้แล้วว่าคำอธิษฐานของเธอคือคำบัญชา ดังนั้นเมื่อเธอสวดคำภาวนาให้รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพเกินกว่าที่เธอได้เรียนไปแต่เริ่มแรกในการฝึกปฏิบัติสมาธิขั้นต้นแล้วนั้นเธอจงรู้ไว้ว่าคำอธิษฐานของเธอจะสัมฤทธิ์ผลแน่ เธอจงรู้ไว้ว่าเธอเป็นผู้กำกับควบคุมร่างกายและร่างพลังงานของเธอเอง และจงเสาะแสวงเพื่อสัมผัส เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์แห่งผลลัพธ์ในการฝึกปฏิบัติด้านพลังงานแต่ละครั้งในปัจจุบันขณะ[/FONT]

[FONT=&quot]คำกล่าวของเราทำให้บางคนขมวดคิ้วนิ่วหน้าเข้มแล้วพูดว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]อ๋อ อย่างนี้ฉันต้องรีบทำให้สำเร็จซะแล้ว[/FONT]!’ [FONT=&quot]แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น เธอต้องผ่อนคลายลง [/FONT]–[FONT=&quot] ปล่อยไปตามสบายแล้วเพลิดเพลินกับการปฏิบัติ จงรู้สึกถึงอานุภาพในตัวเธอ จงรู้สึกว่าเธอแผ่ขยายและดึงพลังของเธอกลับได้...รู้สึกว่าเธอเรียกพลังกลับมาได้ดั่งใจนึก[/FONT]! [FONT=&quot]แล้วเราจะเริ่มปฏิบัติกัน[/FONT]

‘[FONT=&quot]ข้าฯ เรียกแสงสว่างมาสู่ตัวข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]ให้มองเห็นสายธารแห่งพลังงานแสงสว่างจากเบื้องบนและไม่เพียงแค่นั้นเธอจงมองเห็นแสงสว่างส่องประกายฉายองค์กายอาเบื้องล่างด้วย และเชื่อมตัวเธอเข้ากันในแนวดิ่งทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง[/FONT]

‘[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดทวารบถดาราจักรวาลและทวารบถดาราโลกา ณ บัดนี้[/FONT]!’

‘[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดช่องปราณของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]สองคำสั่งหลังนี้เป็นการเปิดทวารบถดาราจักรวาลและทวารบถดาราโลกาและเปิดใช้ช่องปราณของเธอในสองรูปแบบที่ต่างกัน คำสั่งทั้งสองจะนำให้สายธารพลังงานเข้มข้นจากพระผู้เป็นต้นกำเนิดให้ไหลผ่านทั้ง [/FONT]12 [FONT=&quot]จักรได้มากขึ้น แล้วการเปิดทวารบถดาราจักรวาลและทวารบถดาราโลกาบริเวณยอดและฐานพลังออร่าของเธอจะช่วยในการส่งหรือเปิดใช้ช่องปราณทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างได้โดยแท้[/FONT]

[FONT=&quot]ช่องปราณของเธอโดยปกติแล้วจะตั้งอยู่บริเวณเหนือศีรษะและใต้ฝ่าเท้า แต่เมื่อเธอเปิดใช้ช่องหายใจพลังทิพย์ในขณะนี้ก็ให้เธอยืดช่องปราณนี้เข้าไปยังมหาสุริยะประธานแล้วขยายเข้าสู่เบื้องล่างตรงไปยังแกนกลางมหาคริสตัลแห่งกายอา แล้วเธอก็จะเชื่อมต่ออย่างที่ควรจะเป็นได้[/FONT]

[FONT=&quot]ให้รับรู้ถึงพลังออร่าของเธอ ทั้งด้านหน้า-หลัง ซ้าย-ขวา บนและล่าง [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯ เปิดใช้ร่างพลังงานของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]แล้วให้สัมผัสขอบเปลือกหุ้มแสงสว่างทองอร่ามล้อมรอบพลังออร่ารูปไข่ขณะที่เธอเปล่งคำสั่ง จงปกป้องโดยสมบูรณ์ จงจินตภาพให้ชัดแจ้ง แล้วจงรับรู้ได้ถึงความใหญ่ของขนาดพลังออร่าเธอในขณะนี้[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วตอนนี้ให้มองเห็นแสงทอประกายสว่างยิ่งขึ้นเมื่อเธอสั่งว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ขอพลังใดใดที่ข้าปล่อยปละละทิ้งไปจงหวนกลับคืนสู่ตัวข้า ณ บัดนี้[/FONT]!’

[FONT=&quot]หากเธออยู่ในสถานที่อันปลอดภัยแล้ว หากเธออยู่ในสถานที่เปี่ยมคลื่นพลังขั้นสูงและกระจ่างหมดจดไม่ว่าที่นี่จะอยู่นอกชายคาในป่าใหญ่หรืออยู่ในห้องพักหลับนอนของเธอ ก็ให้ใช้คำสั่งว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯ แผ่ขยายร่างพลังงานของข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]!’ [FONT=&quot]จงแผ่ขยายร่างพลังงานโดยให้ธาตุแห่งกายอาเคลื่อนเข้าสู่สนามพลังออร่าของเธอและไม่เพียงแค่นั้นยังเชื่อมพลังและเยียวยารักษาตัวเธอด้วย พลังนี้ยังนำสันติสัมผัสมาสู่ตัวเธอ นำสัมผัสแห่งการแผ่ขยายและการแผ่กระจายของคลื่นพลังงานในบางส่วนมาสู่ตัวเธอ[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อเธอขยายสนามพลังแสงสว่างสีขาวทองอร่ามออกไปทุกทิศทางก็ให้รับรู้ถึงขอบเขตพลัง ให้รับรู้ถึงเกราะกำบังที่อยู่นอกขอบสนามพลังงานออร่าของเธอด้วย[/FONT]

[FONT=&quot]เราจะฝึกนาฑีโศธนะ ณ บัดนี้ คราวนี้จะฝึกแบบง่ายก่อนจะเริ่มเรียนวิธีการในขั้นถัดไป ให้ตั้งมือขวาขึ้นแล้วกำสองนิ้วแรกลงไว้ มือซ้ายตั้งในท่าชินมุทรา คือเคหะสถาน อันเป็นการเชื่อมต่อจากที่ที่เธอจากมาและที่ที่เธอหวนกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นและจุดจบในแต่ละรอบชีวิต[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจเข้า อุดรูจมูกขวาแล้วหายใจออก เข้าซ้าย...กลั้นหายใจเก็บเอาแสงสว่าง คือปราณที่เธอได้เคลื่อนขึ้นผ่านช่องสื่อศูนย์กลางในสมองเธอ...ออกขวา (แล้วเข้าขวา)...รู้สึกถึงแสงสว่างในต่อมไพเนียลในพรหมกันทร ประหนึ่งมณีประทับอยู่กลางสมองเปล่งรัศมีส่องสว่างถ้วนทั่วในเซลล์สมองทุกเซลล์...แล้วออกซ้าย[/FONT]

[FONT=&quot]ทำอีกสองรอบพร้อมเสียงสวด ณ บัดนี้ เข้าซ้าย [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’[FONT=&quot](กลั้นหายใจโดยเงียบ)[/FONT][FONT=&quot] ออกขวา [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’[FONT=&quot]เข้าขวา [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’[FONT=&quot]ออกซ้าย [/FONT]‘[FONT=&quot]ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]’ [FONT=&quot]...แล้วคลายแขนลง[/FONT]

[FONT=&quot]เธอเริ่มเห็นแล้วว่าในการฝึกปฏิบัตินาฑีโศธนะจะมีการเคลื่อนไหวโดยธรรมชาติไปทั่วทั้งร่างกายพร้อมกับลมหายใจเข้า และรู้ว่ากระดูกสันหลังยืดขยายขึ้นซึ่งเป็นการแผ่ขยายของซี่โครงเธอ และหากเธอปล่อยให้การไหลเวียนนี้รับรู้ได้ทั่วทั้งร่างกายแล้ว เธอจะพบว่าศีรษะเธอจะยกเงยขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่ลมหายใจเคลื่อนเข้าสู่ตาที่สาม[/FONT]

[FONT=&quot]เรามาฝึกวิธีนี้อีกสักรอบเถิด อุดรูจมูกขวา หายใจออกแล้วเริ่มได้ (เข้าซ้าย) เงยหน้าขึ้นเมื่อสุดปลายลมหายใจ อุดรูจมูกอีกครั้ง ออกขวา แล้วปล่อย (เข้าขวา) เมื่อเธอหายใจเข้าแล้วดึงเอาพลังงานขึ้นไปนั้นให้สัมผัสระลอกคลื่นพลังสั่นผ่านกระดูกสันหลังเธอ เงยหน้าขึ้น อุดรูจมูกไว้...ออกซ้าย[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ฝึกอีกรอบพร้อมเงยหน้า (เข้าซ้าย) [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]แล้วปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนไหวไป เธอที่รักทั้งหลาย ปล่อยให้พลังจัดระเบียบร่างกาย แล้วรู้สึกผ่อนคลายพร้อมลมหายใจออก (ออกขวา) [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]เข้าขวา[/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]ออกซ้าย[/FONT]‘[FONT=&quot]ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]’ [FONT=&quot]แล้วคลายแขนลง[/FONT]

[FONT=&quot]เราเริ่มปฏิบัติวิธีนี้เพื่อสอนเธอเรื่องพันธะพลังหรือจุดกักพลัง มีทั้งหมดด้วยกันสามประการอันเป็นวิธีที่จะช่วยเธอในการดึงพลังงานนี้ผลักขึ้นไปได้โดยเปี่ยมประสิทธิภาพ จุดกักประการแรกคือ มูลพันธะ อยู่ที่ฝีเย็บตรงกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณฐานล่างสุดซึ่งเธอนั่งทับอยู่นั่นเอง เมื่อเธอหายใจเข้าให้ขมิบกล้ามเนื้อส่วนนี้เล็กน้อย เธอจะสัมผัสความรู้สึกสุขสมในการดันพลังขึ้นคล้ายการปั๊มพลังเข้าสู่ระบบพลังงานร่างกายเธอ แล้วค้างไว้ ให้ขมิบล็อคหัวปั๊มนี้ขณะที่เธอกลั้นลมหายใจอยู่ แล้วปล่อยเมื่อเธอหายใจออก เราเรียกวิธีนี้ว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]การกักพลังฐาน[/FONT]’

[FONT=&quot]อุดรูจมูกขวาแล้วหายใจออก เข้าซ้ายแล้วเริ่มกักพลังฐาน ขมิบค้างไว้ ค้างไว้ ค้างเอาไว้ แล้วขณะที่เธอกลั้นลมหายใจเอาแสงสว่างเข้าไว้บริเวณอาชญา(จักรตาที่สาม)ก็ให้สัมผัสถึงฐานพลังเคลื่อนขึ้นอย่างสุขสม แล้วคลายออก หายใจออกขวา แล้วเข้าขวา กักพลังไว้ กักตรงฐาน ตรงจุดนั้นแหละ ขมิบค้างไว้ในช่วงที่เธอกลั้นลมหายใจ....แล้วออกซ้าย[/FONT]
[FONT=&quot]ทำอีกรอบหนึ่งพร้อมกักพลังฐานและเงยหน้าขึ้น เข้าซ้าย [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]ก้มหน้าเก็บคาง กักพลังฐานค้างไว้นิ่ง ๆ ออกขวา [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]เข้าขวา [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]แล้วเงยหน้าขึ้นเมื่อสุดปลายลมหายใจเข้า อุดรูจมูกไว้ กักพลังฐาน ออกซ้าย [/FONT]‘[FONT=&quot]ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]’ [FONT=&quot]แล้วคลายออก[/FONT]

[FONT=&quot]เธอที่รักจงรู้ไว้ว่าการใช้จุดกักพลังเมื่อตอนที่เราค่อย ๆ เริ่มสอนเธอไปนั้นเกิดคุณประโยชน์มหาศาลแก่ร่างกายและร่างพลังงานของเธอยิ่งนัก บทฝึกนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นบทฝึกน่าเบื่อหรือซับซ้อนอะไรเลยในการฝึกนาฑีโศธนะ[/FONT]

[FONT=&quot]เราขอให้เธอฝึกปฏิบัติสองขั้นที่เพิ่มมาในช่วงคั่นการฝึกนี้ก่อนการฝึกบทถัดไป[/FONT]

[FONT=&quot]1. เมื่อหายใจเข้าทุกครั้งในการฝึกนาฑีโศธนะก็ให้ใช้วิธีกักพลังฐาน ซึ่งเป็นการขมิบกล้ามเนื้อฝีเย็บที่ไม่ทำให้เกิดการเกร็งหน้าท้องแต่ก็ให้ความรู้สึกสุขสม มูลพันธะนี้ช่วยในการดันพลังขึ้นผ่านทางกระดูกสันหลังและยังเลี่ยงการสูญเสียพลังงานด้วยการผ่านจุดเริ่มระบบพลังงานของเธอด้วย[/FONT]
2. [FONT=&quot]การเงยหน้าและก้มหน้าเก็บคางคือการเริ่มใช้จุดกักพลังขั้นที่สาม คือการกักพลังคาง ในช่วงนี้ให้เธอจับความรู้สึกว่าวิธีนี้ช่วยเพิ่มระดับพลังงานในจักรคอเข้าสู่ตาที่สามได้มากเท่าไหร่ในขณะเดียวกันที่เธอเงยหน้าเล็กน้อยในช่วงสุดปลายลมหายใจเข้า[/FONT]

[FONT=&quot]เราจะฝึกบูรณปราณในตอนนี้ผ่านรูจมูกทั้งสองซึ่งเมื่อสุดปลายลมหายใจกำลังลมจะผ่อนลง สงบนิ่งและเปี่ยมสันติซึ่งเธอจะเลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณได้เอง[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจเข้าให้เป็นระลอกคลื่น ณ บัดนี้ หายใจเข้าไปยังช่องท้อง เข้าไปซี่โครงและปอด เข้าไปยังฐานคอแล้วกลั้นหายใจไว้ตรงนั้น แล้วปล่อยออก แล้วแย้มยิ้มขณะหายใจเข้า ใช้อุชชัยปราณเข้าช่วย...แล้วปล่อยออก ทำครั้งสุดท้าย...แล้วปล่อยออก[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วคลายออกได้ หายใจให้สะดวก ปล่อยร่างตามสบาย ตั้งจิตจับลมหายใจในตอนนี้แต่ให้จับความรู้สึกมากกว่ากลไกการหายใจเข้าออกหรือรู้สึกลมหายใจผ่านร่าง แล้วเธอจะได้หลอมรวมประสาทสัมผัสทั้งหมดไว้ในแสงสว่างสีขาวทองอร่ามแห่งปราณ เธอจงมองเห็นปราณเคลื่อนขึ้นและลง ผ่านเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายด้วยใจจดจ่อ ด้วยความกตัญญู ด้วยความนิยมยินดี แล้วหลอมรวมเข้ากับโลกแห่งแสงสว่างหลอมเหลวสีทองภายในร่างกายเธอ และขณะที่เธอพิจารณาลมหายใจ พลังงานภายในลมหายใจก็จะไหลพรากผ่านเซลล์ทั้งหลาย เธอจะพบว่าในบางช่วงลมหายใจเธอหยุดไป เธอจะพบว่าตัวเธอเองอยู่ในภาวะสงบนิ่งซึ่งเป็นการก้าวออกจากเครื่องพันธนาการแห่งเวลาและสถานที่แล้วเคลื่อนเข้าสู่มิติเบื้องสูง ปล่อยให้ร่างกายเธอโยกหรือเคลื่อนไป ปล่อยให้ร่างกายได้รับการจัดท่าทางให้เหมาะสม[/FONT]

[FONT=&quot]เธอบางคนกำลังสัมผัสรับรู้ได้ว่าการแผ่ขยายของซี่โครงช่วยให้รับเอาพลังปราณได้เพียงพอในปอด แล้วเธอจะไม่ต้องหายใจสักสองสามวินาทีหรือเป็นนาทีเลย และเธอจะอยู่ในสภาวะแห่งความปิติ เมื่อเธอเริ่มสัมผัสรับรู้ห้วงไร้เวลานี้ได้แล้วเธอจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณในการฝึกปฏิบัติสมาธิหรือการเชื่อมต่อครั้งต่อไป บางคราวอาจเป็นการถ่ายและรับพลังรักษา บางทีอาจเป็นช่วงที่เธอมองดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม เธอจะรู้สึกภาวะนี้ทอดยาวออกไป[/FONT]
[FONT=&quot]เธอจะเคลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณนี้ได้เองก็ต่อเมื่อเธอตระหนักรู้ภายในแล้วว่าเธอตั้งอยู่ในปราณแห่งพระผู้เป็นต้นกำเนิด ที่ไม่ต้องการอวัยวะช่วยหายใจ อาหาร หรือน้ำในการยังชีวิตให้คงอยู่เลย การที่เธอตั้งอยู่ในปราณและการตระหนักรู้ภายในตัวเธอเองช่วยให้เธอก้าวออกมาจากร่างกายของเธอเป็นครั้งเป็นคราวเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น[/FONT]

[FONT=&quot]เราขอให้ความรักอันมหาศาลจงบังเกิดแก่เธอ [/FONT]
[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]!’

 

บทที่ 8

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=UBsAQjwLwdg"]Lesson 8 AWAKENING KUNDALINI Stage 1 - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทที่ [/FONT]8: [FONT=&quot]การปลุกพลังกุณฑาลินีขั้นที่ [/FONT]1

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

‘[FONT=&quot]เราส่งผ่านบทฝึกครั้งนี้จากเกาะที่เปรียบดั่งสวนศรีตั้งแต่ต้นจรดปลายและเราขอให้เธอแต่ละคนที่ได้สดับคำสอนเรานี้ไม่ว่าจะนั่งปฏิบัติอยู่แห่งใดบนกายอาก็ให้นึกภาพว่าตัวเธอนั้นนั่งอยู่ในสวน จงหลับตาลงแล้วปล่อยให้จิตสร้างภาพตัวเธอขึ้นมาให้นั่งอยู่ในสวนศรีแห่งกายอา[/FONT]
[FONT=&quot]ที่แห่งนี้มิใช่สวนสวยดารดาษด้วยพุ่มไม้แต่งและกุหลาบงามหรอก[/FONT]
[FONT=&quot]ที่นี่คือสวนศรีแห่งองค์กายอา อันมีต้นไม้ พืชพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายอาศัยรวมอยู่ จงรู้ไว้ว่าถึงเธอนั่งอยู่ในสถานที่ปฏิบัติสมาธิแห่งใด จะทำสมาธิในอพาร์ทเม้นท์หรือนั่งปฏิบัติบนชายหาด หรืออยู่ในสวนจริง ๆ ไม่ว่านั่งปฏิบัติอยู่ที่ใดเธอก็สามารถพาตัวเธอให้รับรู้ถึงความงดงามแห่งกายอาและสัมผัสพลังงานแห่งพระเคราะห์อันเป็นที่รักดวงนี้ที่ทำให้เธอมีและใช้ชีวิตอยู่ได้ในขณะนี้[/FONT]

[FONT=&quot]ขณะที่อยู่ในสวนศรีแห่งกายอานี้จงตั้งจิตนำเข้าสู่ภายในจับที่ลมหายใจ เมื่อเธอตั้งจิตพาตัวเธอให้จับรับรู้ลมหายใจแล้วทุกสิ่งก็จะเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ [/FONT]
[FONT=&quot]ความคิดทั้งหลายจะดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งดับลงหมดสิ้นและการจิตของเธอจะตั้งอยู่ที่ลมหายใจ ไม่จับที่ใดเลยเว้นแต่ลมหายใจเท่านั้น[/FONT]

[FONT=&quot]การเคลื่อนเข้าสู่การตั้งจิตรู้ลมหายใจจะนำเธอสู่การรับรู้ร่างพลังงานโดยอัตโนมัติ สัมผัสได้ถึงแสงสว่างและพลังงานภายในร่างกายของเธอเองที่อยู่ภายในพลังออร่าและภายในร่างแสงสว่างทรงอานุภาพยิ่ง เราขอให้เธอตั้งจิตรับรู้อยู่ในปัจจุบันขณะโดยไม่ต้องพึ่งคำสั่งใดใดที่เคยใช้เลย[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ต้องออกคำสั่งเรียกใช้หรือแผ่ขยายร่างพลังงานของเธอ เพียงแค่เธอตั้งอยู่ในร่างพลังงาน...เพียงตั้งอยู่ในแสงสว่างสีขาวทองอร่ามนั้นอันเป็นสนามพลังของตัวเธอเอง[/FONT]
[FONT=&quot]ตั้งจิตจับลมหายใจด้วยในคราวเดียวกัน[/FONT]
[FONT=&quot]ตั้งจิตรับรู้ปราณที่ไหลพรากผ่านลมหายใจซึ่งนำเอาพลังชีวิตและพละกำลังเข้าสู่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเธอและพร้อมกับการตั้งจิตรับรู้สนามพลังของเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]และขณะนี้ด้วยการตั้งจิตเลือกมากกว่ากล่าวคำอธิษฐานออกไปก็ให้เธอแผ่ขยายร่างพลังงานออกไปให้ไกลเท่าที่เธอรู้สึกว่าพอเหมาะกับเธอได้ จงมั่นใจว่าเธอจะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับการปกป้อง จงวางใจได้ว่าเธอแผ่ขยายสนามพลังงานของเธอออกไปได้โดยไร้ภยันตรายใด ๆ [/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้สนามพลังจะมีขนาดประมาณ [/FONT]11 [FONT=&quot]ฟุตในทุกทิศทาง... หรืออาจจะมีขนาด [/FONT]22 [FONT=&quot]ฟุตในทุกด้าน... หรือบางทีหากเธออยู่ในสถานที่อันสวยงามและอยู่ในธรรมชาติก็ให้เธอปล่อยให้สนามพลังงานของเธอแผ่ขยายออกไปเป็นอนันต์เข้าสู่พลังงานแห่งสรรพสิ่งนั้นได้[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วตั้งจิตไว้ที่สุศุมนา ตั้งไว้ที่ช่องพลังงานกลางแห่งแสงสว่างที่เลื้อยขดขึ้นผ่านจักรภายในของเธอทั้งหมด ให้มองเห็นว่าเป็นแท่งพลังงานศูนย์กลางแห่งแสงสว่าง แสงสีขาวอันมีสีสันแห่งสายรุ้งฉายอยู่เต็มภายในนั้น[/FONT]
[FONT=&quot]เธอจะเพิ่มระดับพลังงานและแสงสว่างนี้ผ่านนาฑีโศธนะ[/FONT]
[FONT=&quot]เธอฝึกอย่างที่เราสอนให้ใช้จุดกักพลังเป็นกันแล้ว ก็ให้ใช้จุดกักพลังในตอนนี้เลย[/FONT]
[FONT=&quot]วางมือซ้ายลงเคลื่อนสู่ชินมุทรา[/FONT]
[FONT=&quot]อุดรูจมูกขวาด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาแล้วหายใจออก[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเราจะเริ่มฝึก เข้า-ซ้าย ออก-ขวา ดึงเอาแสงสว่างขึ้นผ่านสุศุมนา เข้า-ขวา ออก-ซ้าย[/FONT]
[FONT=&quot]คลายแขนลง[/FONT]
[FONT=&quot]เราขอให้โซลารา อาน-ราสวดมนต์นำเข้าสู่ภาวะปิติในขณะนี้ในช่วงที่เธอดำเนินการฝึกหายใจสลับรูจมูกอยู่ จะไม่มีการบอกขั้นตอนใด ๆ อีกในช่วงนี้ เธอน่าจะทราบดีว่าจุดประสงค์ของการฝึกนี้คือการยกระดับแสงสว่างและพลังงานพร้อมกันกับลมหายใจทุกช่วงให้เคลื่อนขึ้นเข้าสู่อาชญาคือพรหมกันทร หากเธอได้ฝึกการกักพลังแล้ว เธอก็จะใช้จุดกักพลังนี้เมื่อหายใจเข้าแล้วกลั้นลมหายใจไว้ แล้วคลายออกเมื่อหายใจออก เธอจะเงยหน้าขณะที่สูดลมหายใจเข้าสุด แล้วปล่อยให้แสงสว่างฉายขึ้นมาผ่านจักรคอได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้วก้มหน้าเก็บคางขณะกลั้นลมหายใจไว้[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเธอจะมองเห็นแสงสว่าง แสงนั้นจะปรากฏให้เธอเห็น เธอจะมองเห็นแสงสว่างนั้น[/FONT]’

[FONT=&quot]โซลารา อาน-รา[/FONT]: ‘[FONT=&quot]ฉันจะอธิบายให้เธอเหล่าพงศ์พันธุ์แห่งแสงสว่างได้ฟังในตอนนี้ว่าจิตวิญญาณนำทางประจำตัวฉันต้องการให้เธอปฏิบัตินาฑีโศธนะโดยไม่มีการอธิบายขั้นตอน แล้วด้วยการปฏิบัติพร้อมเสียงสวด [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’ [FONT=&quot]เธอจึงจำเป็นต้องคุ้นเคยกับการฝึกนี้และถ้าหากว่าเธอสับสนในการจับลมหายใจเข้าออกกับการใช้นิ้วมือช่วยก็ให้จำไว้ว่าเธอหายใจเข้าออกผ่านรูจมูกข้างเดิมเสมอ เธอทำเช่นนั้นตลอดหลังจากครั้งแรกที่ได้ปฏิบัติไป[/FONT]
[FONT=&quot]เธอหายใจเข้ารูจมูกซ้ายแล้วกลั้นหายใจไว้ เมื่อเธอหายใจออกผ่านรูจมูกขวา เธอจะหายใจเข้าผ่านรูจมูกเดิม(ขวา)แล้วกลั้นเอาไว้[/FONT]
[FONT=&quot]เธอจะสลับนิ้วอุดก็ต่อเมื่อเธอกลั้นลมหายใจเท่านั้น[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเมื่อสลับนิ้วแล้วหายใจออกผ่านรูจมูกซ้ายแล้วเธอจะหายใจเข้าอีกแน่นอน หายใจเข้าแล้วหายใจออกผ่านรูจมูกเดิม[/FONT]
[FONT=&quot]จากนั้นให้รู้สึกว่าทำเสร็จไปหนึ่งรอบเต็ม ฉันจะบอกรอบแล้วเธอจะได้จับลมหายใจเข้าได้...เข้าซ้าย สูดขึ้นไปยังยอดภูผา หายใจออกขวา เข้าขวาแล้วออกซ้าย และนั่นคือการทำเสร็จหนึ่งรอบแล้วเธอจะจบด้วยการกลับมาสู่จุดเดิม[/FONT]
[FONT=&quot]ตอนนี้เราจะมาปฏิบัติกันสักสี่ห้ารอบดู[/FONT]
[FONT=&quot]เธอจะหายใจเข้าเมื่อฉันสวด [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’[FONT=&quot]เมื่อเสียงสวดเงียบลงให้กลั้นหายใจเอาไว้[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจออกด้วยรูจมูกอีกข้างเมื่อฉันสวด [/FONT]‘[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]’
[FONT=&quot]หายใจเข้าเมื่อฉันสวดอีกครั้ง[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเธอจะได้ยินสัญญาณว่าจะครบรอบแล้วเพราะคำสวดเปลี่ยนไปเล็กน้อยในตอนท้าย [/FONT]‘[FONT=&quot]ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]’
[FONT=&quot]เอาละ ตอนนี้เตรียมตัวให้ดีแล้วตั้งจิตส่งไปยังแสงสว่าง แสงนั้น ลำแสงฉายในสุศุมนาที่อยู่ช่องตรงกลางนั้น ฉายขึ้นในลมหายใจทุกช่วง เมื่อหายใจออกเธอไม่ต้องทำสิ่งใดเพิ่มเติมเลยนอกจากผ่อนคลายลง[/FONT]
[FONT=&quot]เราจะเริ่มละ อุดรูจมูกขวา เตรียมหายใจเข้ารูจมูกซ้าย[/FONT]

[FONT=&quot]รอบที่หนึ่ง โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบที่สอง โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบที่สาม โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]ต่อไป โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบสุดท้าย โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วคลายแขนลงได้[/FONT]
[FONT=&quot]ตั้งจิตไว้ที่อาชญาเข้าสู่ตาที่สาม[/FONT]’



[FONT=&quot]บาบาชีกล่าวกับพวกเรา[/FONT]: ‘[FONT=&quot]เราเฝ้าดูเธอเคลื่อนเข้าสู่ภาวะปิติบริบูรณ์ด้วยการฝึกด้วยวิธีนี้ และนี่ก็ยังความยินดีให้เราเป็นอย่างยิ่ง[/FONT]! [FONT=&quot]กลวิธีการฝึกนี้ช่างปฏิบัติได้ง่ายเหลือเกินเมื่อถ่ายทอดผ่านโซลารา อาน-รา ช่างเข้าถึงได้ง่ายยิ่งนัก เราเฝ้าดูพวกเธอผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติปราณยามเพียงน้อยนิดเคลื่อนเข้าสู่ภาวะแห่งปิติได้อย่างง่ายดาย[/FONT]
[FONT=&quot]เราจะช่วยชี้แนะเธอในตอนนี้หากเธออธิษฐานจิตจากภายใน หากเธออธิษฐานให้บาบาชีช่วยชี้แนะเธอในตอนนี้ในการจัดท่าปฏิบัติ แล้วคำขอก็จะสัมฤทธิ์ผล[/FONT]
[FONT=&quot]เราจะกล่าวถึงท่านั่งปฏิบัติของเธอ ณ บัดนี้ คนที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ขอให้รู้ว่าเธอจะรู้สึกดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ใกล้พระแม่ธรณี เป็นสิ่งสมควรยิ่งเมื่อเธอนำจักรฐานให้ตั้งชิดกับพื้นดินยิ่งขึ้น[/FONT]
[FONT=&quot]ปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกันมากนักแล้ว และเธอไม่ต้องนั่งอยู่ในท่าปทุมอาสนะก็ได้[/FONT]
[FONT=&quot]เพียงเธอนั่งตามลูกคนนี้ เอาเท้าข้างหนึ่งชิดเข้ามา แล้วเอาเท้าอีกข้างวางไว้ด้านหน้า และถ้าหากเธอที่รักอยากใช้อาสนะรองก้นกบก็ย่อมได้และถ้าวางหมอนไว้ใต้เข่าก็จะช่วยได้อีกแรงหนึ่ง แล้วข้อต่อขัดแน่นของเธอจะคลายออกทันท่วงทีและเธอจะได้รับผลดีอย่างมหาศาลจากการปฏิบัติปราณยามในท่านั่งบนพื้นเช่นนี้[/FONT]

[FONT=&quot]ตอนนี้เราจะสอนเคล็ดวิชาบางอย่างให้ เป็นเคล็ดวิชาซึ่งช่วยในการปลุกพลังงูแห่งการตื่นรู้โดยใช้พลังกุณฑาลินี[/FONT]
[FONT=&quot]ขณะนี้ให้ใช้อุชชัยปราณ หายใจให้เข้มแข็งสุดความสามารถ และขณะที่เธอหายใจแรงด้วยวิธีนี้จงใช้มูลพันธะคือจุดกักพลังฐาน แล้วจินตภาพจักรทั้งเจ็ดให้เกิดเป็นแสงสว่างเคลื่อนผ่านจักรทั้งหมดนั้น ให้เห็นเป็นภาพดอกไม้กำลังผลิดอกบานออกอยู่[/FONT]
[FONT=&quot]เรามาฝึกขั้นนี้กันเถิด[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจเข้าโดยใช้อุชชัยปราณผ่านจมูกแล้วให้แสงสว่างเปิด มูลธาร สวาธิษฐาน มณีปุระ อนาหตะ วิสุทธะ อาชญา และสหัสราร[/FONT][FONT=&quot](ชื่อเรียกจักรในภาษาสันสกฤตตั้งแต่จักรที่[/FONT] 1 [FONT=&quot]ขึ้นมาถึงจักรที่ [/FONT]7[FONT=&quot])[/FONT]
[FONT=&quot]เธอจงมองเห็นภาพจักรนี้ฉายเป็นสีรุ้งเพราะถึงแม้ว่าเหล่าอารุฒาจารย์ที่เคารพได้กล่าวชัดแจ้งแล้วว่าสีจักรกำลังเปลี่ยนไปเป็นสีเหลื่อมประกายมุกโปร่งแสง แต่เราก็มีจุดประสงค์ที่ต้องการให้เธอทราบจากมุมมองของเราในการรับรู้สีจักรว่าเป็นสีรุ้ง ในการรับรู้ว่ามูลธารฉายประกายแดง สวาธิษฐานฉายประกายส้ม มณีปุระฉายประกายเหลือง อนาหตะฉายประกายเขียว วิสุทธะฉายประกายฟ้า อาชญาฉายประกายคราม และสหัสรารฉายประกายม่วงอันมีแสงประกายขาวเจืออยู่[/FONT]
[FONT=&quot]เธอไม่ต้องรู้หรอกว่า(ดอกบัวประจำจักร)แต่ละดอกมีกลีบดอกเท่าไหร่แต่ให้จินตภาพจักรทั้งหมดให้เป็นดอกบัวในรูปแสงสว่าง เป็นดอกบัวที่เปล่งสีสันในรูปแสงสว่าง และดอกบัวเหล่านี้ก็เบ่งบาน บัวผลิดอกและแย้มกลีบออกขณะที่เธอกำหนดจิตไว้ที่ดอกบัวนั้น[/FONT]
[FONT=&quot]เรามาลองฝึกหายใจอีกครั้งหนึ่ง และคราวนี้แทนที่เราจะใช้ชื่อเรียกสันสกฤต เราก็จะใช้สีประจำจักรเรียกแทน[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจเข้าโดยใช้อุชชัยปราณ ณ บัดนี้ หายใจเปิดกลีบดอกสีแดงตรงฝีเย็บ สีส้มตรงท้องน้อย สีเหลืองตรงลิ้นปี่ สีเขียวตรงหัวใจ สีฟ้าใสตรงคอ สีครามตรงอาชญา(กลางหน้าผาก) และสีม่วงตรงกลางกระหม่อม[/FONT]
[FONT=&quot]คงเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่จะมองเห็นดอกไม้เหล่านั้นโดยเร็ว นี่แหละเธอจึงต้องฝึกปฏิบัติ เธอต้องรู้ดีด้วยว่าการรวมจิตมั่นจะไม่ช่วยให้สัมฤทธิ์ผลในบางกรณี แต่แค่มองเห็นดอกไม้เหล่านั้นอย่างสบายใจและยินดีเช่นเด็กน้อยมองดอกไม้นั่น ให้เธอจินตนาการให้เห็นภาพมากกว่าที่จะหวังให้ดอกไม้จะแสดงสีสันออกมาเช่นภาพถ่ายดิจิตอลให้ปรากฏในจิตใจและร่างกายของเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วเราจะฝึกปฏิบัติโดยใช้อุชชัยปราณ ใช้มูลพันธะ จุดกักพลังฐาน แล้วนำเอาพลังเคลื่อนผ่านจักรทั้งหมดลงไปยังพื้นดินในครั้งนี้ด้วยไม่ใช่แค่นำพลังขึ้นสู่ตาที่สามเท่านั้น[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าการนึกภาพจักรทั้งหมดทำได้ยากในครั้งนี้แล้ว ก็ให้เธอมองเห็นแสงสว่างเคลื่อนผ่านตั้งแต่กลีบดอกสีแดงของมูลพันธะผ่านสุศุมนา เปิดกลีบดอกบริเวณสหัสรารตรงกลางกระหม่อม เธอจะรู้สึกว่าสหัสราร ดอกบัวพันกลีบ เปิดออกที่สุดปลายลมหายใจเข้าและเมื่อเธอประคองลมหายใจเข้าเอาไว้ เธอก็จะสัมผัสรับรู้ภาวะแห่งปิติบริบูรณ์และการตื่นรู้[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเราจะเริ่มฝึกกัน[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจเข้า แล้วปล่อยออก[/FONT]
[FONT=&quot]ปล่อยให้ร่างกายได้รับการช่วยให้จัดท่าจัดทาง[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจเข้าแล้วปล่อยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนเป็นระลอกคลื่นพร้อมลมหายใจเข้า[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจออก ดึงพลังขึ้นด้วยจุดกักพลังฐาน[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจเข้า แล้วแย้มรอยยิ้มแห่งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขณะที่เธอนั่งอยู่ในท่าปฏิบัติสมาธิ ขณะที่เธอจินตภาพสหัสรารเป็นมงกุฏเพชรเปิดออกและเรืองรองโดยสมบูรณ์[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วหายใจออก[/FONT]
[FONT=&quot]ทำอีกครั้งหนึ่ง ดึงกล้ามเนื้อบริเวณฐานเชิงกราน...ขมิบเกร็งไว้เล็กน้อย...รักษาจุดกักไว้ขณะที่กลั้นลมหายใจ...ครองพลังไว้แล้วพลังนั้นจะช่วยในการปลุกพลังกุณฑาลินีให้ตื่นขึ้น[/FONT]
[FONT=&quot]และเมื่อเธอหายใจออกก็ให้ผ่อนคลายลง....ปล่อยตามสบาย...เข้าสู่ความนิ่งสงบแล้วสดับฟังเสียงโสฮัมในลมหายใจเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]ให้ผ่อนลมหายใจของเธอให้อ่อนกำลังและเบาบางลง ซึ่งต่างจากอุชชัยปราณที่ลมหายใจเคลื่อนรุนแรงยิ่งนัก ให้พิจารณาลมหายใจ กระแสศักดิ์สิทธิ์แห่งลมหายใจเธอไหลพรากเข้าและออกผ่านเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย[/FONT]
[FONT=&quot]ระดับพลังปราณที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกกำลังกายและปอดทำให้เธอเคลื่อนเข้าสู่ภาวะอปราณอยู่เป็นครั้งคราว[/FONT]
[FONT=&quot]ในห้วงแห่งความสงบนิ่งนี้จงพิจารณาลมหายใจ ลมหายใจหยุดอยู่ตรงนี้และตรงนั้นแล้วความสงบนิ่งก็จะอุบัติขึ้นซึ่งก็คือสมาธิ คือการรู้ว่าตัวเธอเองเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง การรับรู้ว่าตัวเธอเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นพลังงานต้นกำเนิด บัดนี้เธอสัมผัสรับรู้ได้แล้ว เธอคือศิวะหรือศักติผู้เปี่ยมปิติที่ประทับอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติสมาธิของเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]จงใช้เวลานี้ปฏิบัติตนให้ศักดิ์สิทธิ์ เธอที่รักทั้งหลาย ให้ชำระบริเวณปฏิบัติสมาธิด้วยน้ำมันหอมจรุงนาสิกและสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ จุดเทียนแล้วนั่งลงบนอาสนะทำสมาธิแล้วเคลื่อนเข้าสู่สภาวะเทวะและเทวี เคลื่อนเข้าสู่จิตสำนึกหนึ่งเดียวให้ได้ดั่งใจนึก[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะนี่เป็นสิ่งจำเป็นที่เธอจะสัมผัสรับรู้ตัวเธอในสภาวะนี้ขณะที่เธอเปลี่ยนสภาวะและเยียวยาโลกจากความทุกข์หม่นหมอง เธอต้องสัมผัสภาวะปิติสุขเพื่อสรรสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นบนโลก[/FONT]
[FONT=&quot]พวกเธอหลายคนฝึกปฏิบัติด้านจิตวิญญาณโดยการอ่าน ศึกษา และประพันธ์หนังสือ แต่ว่าก็ยังมิอาจสัมผัสรับรู้ได้โดยสมบูรณ์นัก[/FONT]
[FONT=&quot]ขอความรักจากเราจงสถิตย์กับท่านและขอความรักจากเหล่าอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ช่วยแนะแนวเธอจงบังเกิดแก่เธอในคราวนี้ด้วย[/FONT]
[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]’

[FONT=&quot]โซลารา อาน-รา[/FONT]: ‘[FONT=&quot]ฉันอยากจะบอกกับเหล่าพงศ์พันธุ์แห่งกายอาที่รักว่าฉันรู้สึกตื้นตันใจเหลือเกินที่ได้สื่อคำสอนจากบาบาชี แม้ว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ฉันได้ทราบแล้วก็ได้ปฏิบัติอยู่เธอหลายคนก็คงจะทราบว่านี่เป็นพลังงานเช่นเดียวกันกับที่ผ่านร่างฉันมาเป็นเวลานานแล้ว และฉันก็สรุปเอาว่าพลังงานนี้ส่งตรงมาจากสภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่างผู้เป็นกัลยาณมิตรแห่งห้วงจักรวาลนั่นเอง แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่าบาบาชีได้เข้ามาให้คำชี้แนะในภารกิจพิเศษเพื่อใช้ปราณยามและกลวิธีการปฏิบัติสมาธิแบบโบราณ เป็นวิถีทางเก่าแก่แห่งโยคี ที่ท่านได้มาปรากฏตั้งแต่เริ่มบทฝึกชุดนี้เพียงแต่ท่านไม่ได้เอ่ยนามของท่าน[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วฉันก็รู้สึกปิติยินดีเป็นล้นพ้นที่ได้สื่อสารโดยมีสติและรู้สึกได้ว่าพลังงานของท่านแผ่มาถึงตัวฉัน รูปที่ฉันได้ใช้แทนบาบาชีในเว็บไซต์และในวีดีโอเป็นภาพหลักที่ฉันรับรู้ท่านได้ และเธอสามารถดูภาพท่านได้บนเว็บไซต์ ท่านมีภาพแสดงอยู่หลายรูปแบบ หลายรูปหน้าและรูปลักษณ์ และนี่ก็เป็นรูปหนึ่งที่ดูเหมือนท่านที่สุดในสำหรับฉันในขณะที่สื่อสารกับท่าน ท่านมีพลังออร่าเป็นสีชมพู[/FONT]

[FONT=&quot]และขอให้ความรักและพรประเสริฐจงบังเกิดแก่เธอทุกคนและฉันจะพบเธออีกในบทฝึกต่อไป หวังว่าเธอจะเพลิดเพลินกับการปฏิบัตินะคะ นมัสเต[/FONT]’

 

บทที่ 9

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=3bcT57JLieg"]Lesson 9 - Kundalini Awakening Stage 2, Nadi Shodhana Stage 3 - YouTube[/ame]

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]บทที่ [/FONT]9: [FONT=&quot]การปลุกพลังกุณฑาลินีขั้นที่ [/FONT]2 [FONT=&quot]และนาฑีโศธนะขั้นที่ [/FONT]3

[FONT=&quot]สภาที่ปรึกษาแห่งแสงสว่าง[/FONT]

“[FONT=&quot]หลับตาลงเถิดไม่ว่าเธอจะอยู่แห่งใดบนโลกเปี่ยมพรศักดิ์สิทธิ์นี้ หลับตาลงแล้วเคลื่อนเลื่อนเข้าโดยสงัดผ่านการอธิษฐานจิต ตอนนี้จงตั้งจิตอธิษฐานจากภายใน ตั้งจิตอัญเชิญแสงสว่างสีขาวให้มาสู่ตัวเธอ ณ บัดนี้แล้วให้มองเห็นแสงนั้นไหลรินผ่านร่างพลังงานและร่างกายเธอ แล้วจุดประกายเรืองรองกายอาเบื้องล่างแล้วเธอก็จะเห็นและสัมผัสได้ถึงคริสตัลแกนกลางแห่งกายอา ตั้งจิตภายในตั้งฐานพลังผ่านหัวใจและช่องท้องเข้าสู่มหาคริสตัลแกนกลางและเมื่อเธอตั้งฐานพลังด้วยวิธีนี้ก็จะมีสายรกเคลื่อนจากสวาธิษฐานลงผ่านมูลธารแล้วดูดติดเข้ากับมหาคริสตัลเหล็กกล้าแห่งกายอา เธอจะรู้สึกร่างกายสั่นก้องกังวาน สั่นเป็นเสียงฮัมหึ่ง และกระตุกตามคลื่นพระองค์ ร่างกายเธอจะหนักอึ้ง ผ่อนคลายล้ำลึกและเป็นสุข จงสัมผัสว่าตัวเธอเชื่อมพลังภายในเข้ากับสุศุมนา เข้ากับช่องสื่อพลังกลางที่พาดผ่านจักรทั้งหมด[/FONT]

[FONT=&quot]ตั้งจิตภายในอธิษฐานเพื่อเปิดใช้ช่องปราณจากจักรหัวใจ แล้วดันพลังภายในหายใจเอาช่องปราณเชื่อมเข้ากับใจกลางแห่งมหาสุริยะประธาน ดันช่องปราณลงเชื่อมเข้ากับมหาคริสตัลแกนกลางแห่งกายอา[/FONT]
[FONT=&quot]ตั้งจิตอธิษฐานจากภายในแล้วสั่งรวบรวมและขยายร่างพลังงาน ตั้งจิตรวมแสงสว่างจนเธอเปิดใช้ร่างพลังงานดั่งการเปิดสวิตซ์ไฟ[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วแผ่ขยายพลังออร่าของเธอออกไปในระยะที่พอเหมาะพอดีกับเธอในตอนนี้[/FONT]

[FONT=&quot]จากนั้นเรียกพลังงานของเธอกลับมาในตอนนี้ กล่าวในจิตว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ขอพลังงานใดใดที่ข้าฯ ปล่อยปละละทิ้งไปจงหวนกลับมาสู่ตัวข้า ณ บัดนี้ - ขอพลังงานใดใดที่ข้าฯ ปล่อยปละละทิ้งไปจงหวนกลับมาสู่ตัวข้า ณ บัดนี้[/FONT]’

[FONT=&quot]และบัดนี้เธอคือเหล่ามนุษย์โลกเปี่ยมพรประเสริฐผู้เปิดรับพลัง แผ่ขยาย อิ่มเต็มภายในสนามพลังงาน เป็นผู้ตั้งฐานยึดไว้ในกายอา เชื่อมเข้ากับสรรพสิ่งเบื้องบนและสรรพสิ่งเบื้องล่างได้ และนี่คือสิ่งที่ทรงพลังมิใช่หรือ? เธอไม่ได้เปี่ยมล้นด้วยพลังของเธอเองอย่างนั้นรึ? เธอเป็นผู้ที่สามารถตั้งฐานพลัง ตั้งหลัก และเชื่อมตัวเธอด้วยวิธีนี้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น คำอธิษฐานของเธอคือคำบัญชา มันเป็นเช่นนี้เสมอและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป คำอธิษฐานของเธอคือคำบัญชา เธอคือสิ่งมีชีวิตทรงอำนาจ เธอควบคุมพลังงานของเธอเอง ไม่ต้องพูดถึงการสูญเสียพลังงานของเธอเพราะผู้อื่น สถานที่ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ อีกแล้ว เพราะนั่นคือภาพสะท้อนแห่งการลดทอนอำนาจ ไม่มีใคร สถานที่ใด หรือสถานการณ์ไหนที่จะลดทอนพลังของเธอไปได้เว้นเสียแต่เธอยอมให้เป็นเช่นนั้น จงรับทราบนับแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่าเธอเป็นผู้กุมพลังงานของเธออยู่เสมอ[/FONT]

[FONT=&quot]กลวิธีปลุกพลังงานขั้นพื้นฐานที่เราได้สอนไปแล้ว อันประกอบด้วยการเรียกแสงสว่างมาสู่ตัวเอง การตั้งฐานพลังเชื่อมเข้าสู่มหาคริสตัลแกนกลาง การเปิดใช้ช่องปราณ การรวบรวมและแผ่ขยายสนามพลัง การเรียกพลังงานของเธอกลับคืน สิ่งเหล่านี้คือกลวิธีปลุกพลังขั้นต้นที่เราได้ให้พวกเธอไว้ในบทฝึกปฏิบัติด้านพลังงานแล้ว เธอไม่ต้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำอีกเมื่อเธอได้ฝึกกลวิธีเหล่านี้จนชำนาญแล้ว อันที่จริงจุดประสงค์ของบทฝึกเหล่านี้ก็คือการได้สอนเธอให้รู้จักวิธีเหล่านี้ เพื่อให้เธอสัมผัสรับรู้ผลของกลวิธีที่แบ่งเป็นส่วน ๆ แล้วเธอก็จะสามารถใช้วิธีเหล่านั้นเมื่อยามจำเป็น[/FONT]

[FONT=&quot]บางคราวก็จำเป็นต้องตั้งฐานพลังของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกภายในช่วง [/FONT]24 [FONT=&quot]ชั่วโมง บางโอกาสเธอก็อยู่ในภาวะการตั้งฐานพลังสมบูรณ์และจำเป็นต้องมีกลวิธีอื่นอีกหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นเพิ่มเข้ามาด้วย หากเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย หากว่าเธอรู้สึกว่าพลังของเธอลดน้อยถอยลง หากรู้สึกว่าถูกลดทอนอำนาจ หากรู้สึกว่าโกรธ และหากเธอสัมผัสรับรู้ถึงการควบคุมอำนาจระหว่างตัวเธอแลผู้อื่นอยู่แล้วละก็ เธอคงต้องเรียกพลังงานของเธอกลับคืนมา [/FONT]‘[FONT=&quot]ขอพลังใดใดที่ข้าฯ ปล่อยปละละทิ้งไปจงหวนกลับคืนสู่ตัวข้าฯ ณ บัดนี้[/FONT]’ [FONT=&quot]แล้วเฝ้าดูและสัมผัสผลลัพธ์แห่งคำบัญชานี้ ผลแห่งการทวงพลังเธอให้กลับคืนมา เฝ้ามองดูและสัมผัสรับรู้ผลลัพธ์ภายในร่างกายและร่างพลังงานขณะที่เธออัญเชิญแสงสว่างมาสู่ตัวเธอ ขณะที่เธอตั้งจิตรวมและแผ่ขยายร่างพลังงานของเธอ ขณะที่เธอเปิดใช้ช่องปราณ ผลลัพธ์นั้นต้องเป็นความรู้สึกที่เธอที่สัมผัสรับรู้ได้ไม่อย่างนั้นเธอก็จะพลาดจุดสำคัญไป เมื่อเธอสัมผัสกับความรู้สึกเมื่อตั้งฐานพลังแล้ว เธอก็จะสัมผัสกับความรู้สึกเมื่อไร้การตั้งฐานพลังได้ เมื่อเธอรับรู้ความรู้สึกที่มีพลังอำนาจอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว เธอก็จะรู้สึกถึงการทอนอำนาจได้[/FONT]

[FONT=&quot]บัดนี้เราจะสอนการปฏิบัตินาฑีโศธนะขั้นสุดท้ายให้ ซึ่งเป็นสุดยอดกลวิธีอัศจรรย์แห่งปราณยามในโชติยุคนี้ เพราะกลวิธีต่อไปนี้จะเพิ่มระดับพลังงานและชำระจิตใจเธอพร้อมกับการผ่อนคลาย ตั้งฐานพลังและการตั้งศูนย์ตัวเธอด้วย กลวิธีต่อไปนี้จะเป็นจุดชนวนให้เปลวเพลิงกุณฑาลินีลุกโชนขึ้นผ่านสุศุมนาเข้าปลุกพลังอาชญา กลวิธีต่อไปนี้จะประสานสมองทั้งซ้ายขวาได้สำเร็จและนำความสมดุลโดยแท้ระหว่างศักติและศิวะ คือเทวีและเทวา อันเป็นจิตเทวภาคแห่งสตรีและบุรุษมาสู่ตัวเธอ[/FONT]

[FONT=&quot]เราได้สอน[/FONT] ‘[FONT=&quot]จุดกักพลังฐาน[/FONT]’ [FONT=&quot]เช่นที่เธอเรียกอยู่นี้ไว้ให้แล้ว วิธีนี้คือการขมิบกล้ามเนื้อฐานเชิงกรานในช่วงที่เธอหายใจเข้าแล้วคงสภาพนี้ไว้เมื่อเธอครองพลังไว้ที่อาชญา และเราได้สอนเธอแล้วในการเงยหน้าขึ้นตรงปลายสุดลมหายใจเข้าเพื่อให้พลังงานเลื่อนระดับขึ้นโดยง่ายผ่านวิสุทธะแล้วเข้าสู่อาชญา[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วเราจะอธิบาย ณ บัดนี้ว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]จุดกักพลังคาง[/FONT]’ [FONT=&quot]จะปิดโดยสมบูรณ์โดยการก้มคอเก็บคางคล้ายท่านางรำบาหลีและจะอธิบายว่าการก้มคอเก็บคางและก้มศีรษะลงเล็กน้อยจะบีบช่องคอแคบลงในท่าที่จะทำให้พลังงานพุ่งขึ้นสู่อาชญาได้ทรงพลังยิ่งขึ้น จากนั้นเมื่อถึงปลายสุดลมหายใจเข้าขณะที่เธอเงียหน้าขึ้นและอากาศได้เข้ามาจนกระทั่งถึงจุดอิ่มเต็มในลมหายใจเข้า ก็ให้เธอก้มคอเก็บคางอย่างเป็นธรรมชาติขณะที่เธอกลั้นลมหายใจเอาไว้ และการก้มคอเก็บคางจะเร่งให้พลังงานไหลผ่านช่องคอแล้วเข้าสู่ตาที่สามได้[/FONT]

[FONT=&quot]ขั้นสุดท้ายนี้จะเกิดขึ้นได้เองหากเธอเธอชำนาญในการใช้บูรณปราณพร้อมกันในลมหายใจทุกช่วงแห่งการปฏิบัตินาฑีโศธนะ ในการฝึกบูรณปราณที่เราได้อธิบายไปแล้วว่าช่องท้องเธอจะได้รับอากาศเติมเต็มเป็นอันดับแรกและเมื่อพลังงานเพิ่มระดับขึ้นและอากาศเข้ามายังซี่โครงของเธอ ซี่โครงนั้นก็จะขยายออกจนทำให้ลิ้นปี่ตึงแน่นอยู่หน่อยนึง[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ฝึกปฏิบัติวิธีนี้พร้อมด้วยบูรณปราณผ่านรูจมูกทั้งสอง[/FONT]
[FONT=&quot]ใช้อุชชัยปราณ หายใจเข้าสู่ช่องท้อง เข้าสู่ปอด แล้วเข้าสู่ช่องคอในที่สุด และด้วยซี่โครงที่แผ่ขยายออกแล้วก็ให้เธอสัมผัสถึงลิ้นปี่ดูแล้วเธอจะสังเกตเห็นว่ามันตึงอยู่ไม่ได้อ่อนนุ่ม และนี่ก็ใช้ได้แล้วสำหรับการใช้จุดกักพลังกระบังลม ความรู้สึกนี้เพียงพอที่จะเปิดใช้จุดกักพลังในพื้นที่อ่อนนุ่มซึ่งช่วยในการอัดพลังขึ้นสู่ตาที่สามของเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]และเมื่อเธอหายใจเข้าในทุกช่วง เธอจะเปิดใช้จุดกักพลังที่ฐาน ที่กระบังลม และที่คางเป็นลำดับสุดท้าย และการฝึกพลังนี้จะทำให้การปฏิบัตินาฑีโศธนะทรงอานุภาพและเพลิดเพลินยิ่งจนเธอจะไม่อยากปฏิบัติโดยไร้วิธีช่วยเหล่านี้เลย[/FONT]

[FONT=&quot]หายใจด้วยบูรณปราณหนึ่งรอบ...หายใจเข้า แล้วหายใจออก เตรียมมือขวาไว้ในท่ามุทรา[/FONT]
[FONT=&quot]หายใจเข้า อุดรูจมูกขวา และเราจะเริ่ม ณ บัดนี้[/FONT]

[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]–[FONT=&quot] ออกขวา โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ออกซ้าย[/FONT]
[FONT=&quot]ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบที่ [/FONT]2: [FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot]กักฐาน กักกระบังลม กักคางไว้ ปล่อยจุดกักทั้งหมด ออกขวา โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot]กักจุดพลังค้างไว้ ค้างไว้ ค้างเอาไว้ ออกซ้าย ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบที่ [/FONT]3: [FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT][FONT=&quot]- โอม นะมาฮฺ ชีวา[/FONT]–[FONT=&quot] มองที่นิ้วมือโซลารา อาน-ราหากเธอพลาด โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]

[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]
[FONT=&quot]รอบสุดท้าย[/FONT]:[FONT=&quot]โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา - โอม นะมาฮฺ ชีวา [/FONT]–[FONT=&quot] ชีวา โอม นะมาฮฺ[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วตั้งจิตรู้ไว้ที่อาชญา...ในพรหมกันทรอันศักดิ์สิทธิ์และลับแล เป็นพื้นที่เร้นลับในศูนย์กลางสมองของเธอ...คือต่อมไพเนียลอาบแสงสว่างเหลวสีขาวประกายทองส่องจรัส ต่อมไพเนียลจะได้รับการปลุกพลังโดยพลังกุณฑาลินีที่กำลังตื่นขึ้นผ่านสุศุมนา ณ บัดนี้ จงมองดูพลังกุณฑาลินีกำลังตื่นขึ้น เป็นพลังที่ปลุกขึ้นโดยจุดกักหรือพันธะทั้งหลายอันเป็นจุดกักพลังกายแสนวิเศษหรือเป็นเครื่องอัดพลังที่รวบรวมพลังงานให้เลื่อนระดับขึ้นผ่านขึ้นทางสุศุมนา[/FONT]
[FONT=&quot]บัดนี้กระแสพลังแม่เหล็กไฟฟ้าได้ปลุกขึ้นแล้วในโพรงสมองของเธอและสิ่งที่เธอสัมผัสรับรู้อยู่นี้คือแสงสว่างสีขาว แสงขาวในศูนย์กลางสมองเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]บางคนสัมผัสรับรู้ถึงแสงวาบสีขาวน้ำเงิน ฉายอยู่ระหว่างโพรงสมองด้านข้างและแสงวาบนี้คือการวิวาห์ คือการประสานพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งเดียวแห่งศิวะและศํกติภายในสมองของเธอ แล้วดึงดวงตาทั้งสองเข้าสู่ภายใน ดึงขึ้นด้านบนแล้วถอยมาด้านหลังเข้าสู่พรหมกันทร...เป็นถ้ำสีครามเร้นลับมีเปลวเพลิงม่วงแห่งเซนท์เจอร์แมน [/FONT](St. Germaine)[FONT=&quot] เป็นแสงส่องสว่างภายในถ้ำนั้น[/FONT]

[FONT=&quot]จากเปลวเพลิงสีม่วงนั้นให้เธอส่งเส้นพลังงานลงไปผ่านจักรคอในตอนนี้ ผ่านวิสุทธะแล้วเข้าสู่เอกหฤทัยในทรวงอก เอกหฤทัยคือประกายเทอควอยส์เจิดจรัสหมุนวนอยู่ภายในทรวงอกซึ่งบัดนี้ได้รับการจุดประกายและรอบล้อมด้วยเปลวเพลิงสีม่วงจากอาชญา[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งเสียงดังว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯคือตัวข้าฯ...ข้าฯคือตัวข้าฯ...ข้าฯคือตัวข้า[/FONT]’
[FONT=&quot]นี่คือการเชื่อมต่อกับจิตภาคสูง คำกล่าวว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]คือตัวข้าฯ[/FONT]’ [FONT=&quot]คือเสียงสะท้อน คือการยอมรับ คือคำอัญเชิญแด่จิตภาคสูงเพื่อให้มาสถิตย์เป็นหนึ่งเดียวกับเธอ บุคลิกและจิตภาคสูงจะหลอมรวมเข้ากันและกันอย่างเบิกบาน เธอไม่ต้องสละละทิ้งบุคลิกภาพตัวตนเธอเพื่อการตื่นรู้หรอกเธอที่รักทั้งหลาย เพราะห้วงแห่งการวิวัฒน์เป็นช่วงเวลาที่จิตตัวตนภาคพระคริสต์(จิตวิญญาณบริสุทธิ์)ลงมายังร่างกายและบุคลิกภาพของเธอโดยสมบูรณ์จนเธอสามารถแสดงตัวตนออกมาได้เต็มเปี่ยมอย่างเบิกบานใจ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตอาสา ทรงอานุภาพ เปี่ยมสุข เป็นผู้สมบูรณ์พร้อมทุกด้านจริงแท้เช่นที่เธอเป็นอยู่ในขณะนี้[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งเสียงดังว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]ข้าฯ สมบูรณ์พร้อมโดยแท้เช่นที่ข้าฯ เป็นอยู่ในขณะนี้[/FONT]’
[FONT=&quot]เธอแต่ละคนคือความสมบูรณ์แบบ ความงดงาม อำนาจ สุขภาพ แสงสว่าง คริสตัล เทพ[/FONT]

[FONT=&quot]เปล่งเสียงดังว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]รูปชีวิตเทวคริสตัลแห่งแสงสว่างคือตัวข้าฯ[/FONT]’

[FONT=&quot]ลืมตาขึ้นมาเธอที่รักทั้งหลาย ใช้เอกหฤทัยมุทราแล้วเปล่งเสียงดังว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]รูปชีวิตเทวคริสตัลแห่งแสงสว่างคือตัวข้าฯ[/FONT]’

[FONT=&quot]เธอจงเปล่งคำสั่งนับแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกวันในกระจกเงา เธอจะมองเข้าไปในกระจก มองเข้าไปในดวงตาของเธอเองแล้วระลึกว่า [/FONT]‘[FONT=&quot]รูปชีวิตเทวะคริสตัลแห่งแสงสว่างคือตัวข้าฯ[/FONT]’
[FONT=&quot]และนี่เป็นสัญญาณว่านวยุคแห่งโชติกาลได้ฤกษ์เบิกอรุณบนพระเคราะห์งามวิจิตรของเธอแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]นมัสเต[/FONT]”

 

ติดตามตลอดนะครับ เปนพระคุณอย่างยิ่งครับ

 

ข้าฯ คือ ตัวข้าฯ ข้าฯ คือตัวข้าฯ ข้าฯคือ ตัวข้าฯ

ข้าฯสมบูรณ์พร้อมโดยแท้.. เช่นที่ข้าฯเป็นอยู่.. ขอบคุณท่านจขกท ครับ