-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย pmorn3339, 29 กันยายน 2011.

  1. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +510
    ผมขอมอบภาพนี้ให้ จขกท ไว้เป็นที่อ้างอิงครับ ผมเคยนำมาลงให้เพื่อนๆในเว็บนี้มาศึกษาหลายครั้งแล้ว ที่จริงพระชุดนี้ผมได้มาครบเลยทั้ง บก เรือ อากาศ และตำรวจ แต่เหลือเพียง2ตัวอย่างนี้แค่นั้นต้องบอกเพื่อนๆก่อนนะครับ พระสององค์ที่เหลือนี้ของจริงครับ ภาพถ่ายที่เห็นในตอนนี้สีอาจเพี้ยนไปเพราะถ่ายใหม่ ภาพเดิมอยู่ในอีกเครื่องนึง รับรองว่าถ้าใครไม่รู้ที่มาถ้าเห็นต้องยอมเสียทรัพย์ให้ผมตามที่เรียกแน่ครับ ลองศึกษากันดู และเป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ
    12102011114.jpg 12102011115.jpg 12102011116.jpg 12102011117.jpg
     
  2. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ดีใจด้วยครับ ทีได้ครอบครองพระแท้

    พระสมเด็จวัดพระแก้วหลังครุฑ หรือ สมเด็จธาตุพนมหลังครุฑ ที่ผมใช้คำว่า "น่าจะปลอม" หมายถึง พระเครื่องที่ นักขายพระปลอม พยายามจะแต่งนิยายว่าสร้างโดยสมเด็จโตในระหว่างปีพ.ศ.2401-2415 และได้แตกกรุเมื่อคราวบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปี พ.ศ.2519-2524 (เพื่อให้ทันการจัดงานฉลองสมโภชน์กรุงรัตนโกสินสิทร์ 200 ปี)

    ที่ผมใช้คำว่า "น่าจะปลอม" ไว้ เพราะว่า เผื่อท่านอื่นหาที่มาที่ไปได้ว่า เป็นพระเครื่องที่สร้างโดยพระอาจารย์ท่านอื่น(สร้างหลังจากปี พ.ศ.2461 คือ หลังจากประเทศสยามเปลี่ยนแปลงตราแผ่นดินจาก ตราอาร์มแผ่นดิน เป็น ตราพระครุฑพ่าห์ ในสมัยรัชกาลที่ 6) และแตกกรุมาจากกรุอื่น ที่ไม่ใช่ พระเครื่องที่แตกกรุจาก วัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้า)และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้วมรกต) พูดรวบรัดคือ อาจจะเป็นพระแท้ที่สร้างโดยอาจารย์ท่านอื่นและแตกกรุมาจากกรุอื่น ครับ

    พระสมเด็จของท่าน ด้านหลังมีตราพระครุฑพ่าห์ แสดงว่า เป็นพระเครื่องที่สร้างหลังจากปี พ.ศ.2461 แน่นอนครับ และอาจจะเป็นพระแท้ที่เกจิอาจารย์รุ่นหลังสร้างไว้ครับ

    ปัจจุบัน เห็นมีแต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นะครับ ที่ยังคงใช้ ตราอาร์มแผ่นดิน อยู่ หากยังมีหน่วยงานอื่น ช่วยโพสท์เข้ามาแบ่งปันความรู้กันด้วยครับ

    ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

    เข้ามาเพิ่มเติมอีกนิดครับ
    ผมดูพระไม่เป็น ดูพิมพ์ ดูเนื้อ รอยแตก รอยแยก รอยพับ รอยย่น ฯลฯ ดูไม่เป็นซักอย่าง
    ทำได้อย่างเดียวคือ ศึกษาค้นคว้าจากประวัติศาสตร์ หากศึกษาค้นคว้าจากองค์พระไม่ได้ ก็ศึกษาค้นคว้าจากประจักษ์หลักฐาน ที่ปรากฏอยู่ในองค์พระนั้นๆ เช่น ปี รศ. ตราเครื่องหมายต่างๆ รูปแบบตัวอักษร เป็นต้น หากองค์พระไม่มีประจักษ์หลักฐาน(หลักฐานที่มองเห็นด้วยตาเปล่า) เช่น ด้านหน้ามีแต่องค์พระ ด้านหลังพื้นผิวเรียบ ผมจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะไม่รู้ว่าจะศึกษาค้นคว้าจากอะไร

    ขอบคุณอีกครั้งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2012
  3. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +510
     
  4. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    เคยเล่าในเวปนี้นานแล้วว่า ตอนซ่อมวัดพระแก้ว มีเด็กแถวบ้านไปเป็นคนงานในนั้นกลับมาทีหอบมาขายสารพัดพิมพ์ โดนกันไปทั่วเลยเลี้ยงเหล้ามันเมาได้ที่เหยียบคอถามเลย ที่มามีเป็นกองๆ ริมฝั่งเจ้าพระยาแถวกรมยุทธการทหารเรือจนถึงท่าพระจันทร์ ปัจจุบันนี้ก็ยังมี บอกให้พวกที่เก็บพระกรุนี้ไปเดินดู หรือเอารถกะบะไปขน ก็ไม่ไปกัน ไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ ก็ให้พวกแกโดนกันไป
     
  5. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    นิยาย "ประวัติศาสตร์จอมปลอม"
    ต้องใช้ "หลักฐานความจริงทางประวัติศาสตร์" เอาไปหักล้างครับ
    ไม่เช่นนั้น คนเหล่านี้ ก็จะยังคง "บิดเบือนประวัติศาสตร์" อยู่ร่ำไป

    ความเห็นแก่ตัวของคน ยอมทำแม้แต่ แต่งนิยายบิดเบือนประวัติศาสตร์ชาติไทย(โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีพระสมเด็จกรุธาตุพนม...ที่จะเอามานำเสนอในโอกาสต่อไป) เพื่อขายพระปลอม ที่กลุ่มของตัวเองทำขึ้นเท่านั้น โดยไม่สนใจว่า อนุชนรุ่นหลังจะศึกษาประวัติศาสตร์กันยังไง อันไหนจริง อันไหนปลอม

    เพราะเงิน เพราะความโลภ ตัวเดียว ยอมให้คนยอมทำแม้แต่ บิดเบียนทำลายประวัติศาสตร์ชาติไทย
     
  6. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    พระที่นำมาโชว์ให้ดูประกอบบทความนั้นล้วนแต่ อภิมหาโค ตะ ระ ปลอมทั้งสิ้นแบบ ไม่มีคำว่า น่าจะ นำหน้าด้วย

    ในสมัย ร.๕ ไม่มีช่างเทวดาที่ไหนแกะคาถาชินบัญชรทั้งหมดลงบนพื้นที่ทีเพียง ๑ ถึง ๒ นิ้วได้หรอก ถ้าไม่ใช้การย่อส่วน และเลเซอร์ยิง อีกอย่างดูจากแบบตัวหนังสือหลังพระใช้ฟร้อท์ตัวหนังสืออะไร อังสนา ตาโฮมา เวียรดาน่า ฯลฯ สมัยนั้นมีใช้แล้วหรือยัง มีพิรุจชัด ๆ
     
  7. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    รบกวนท่านผู้รู้ ดูเป็น ช่วยวิจารณ์ด้วยครับ ผมดูไม่เป็นจริงๆๆ

     
  8. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    y

    เพื่อให้ "นิยายน้ำเน่า" สมจริงสมจัง
    นักสร้างพระปลอม ลงทุน ตกแต่งเปลี่ยนแปลงสภาพบริเวณ อุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส
    บิดเบือนรูปภาพทางประวัติศาสตร์ กันเลยทีเดียว

    [​IMG]

    รูปบริเวณอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (เดิม)
    จาก http://www.artgazine.com/shoutouts/viewtopic.php?t=11143


    [​IMG]

    รูปบริเวณอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (ของปลอม)
    (ที่นักขายพระปลอมแต่งเติมโดย ใส่องค์พระธาตุพนมเพิ่มเติมเข้าไป)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  9. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ขอบคุณครับที่ได้ "ฟันธง" ไปเลย
    เย้...มีแนวร่วมแล้ว
     
  10. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467

    เพื่อให้ "นิยายน้ำเน่า" สมจริงสมจัง
    นักสร้างพระปลอม ลงทุน ตกแต่งเปลี่ยนแปลงสภาพบริเวณ อุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เลยทีเดียว
    แก้ไขบิดเบือนรูปภาพทางประวัติศาสตร์ โดยไม่อายฟ้าดิน


    -------------------------------------


    สุดๆเลยนะครับพวกนี้
    ไม่สนใจว่า อนุชนรุ่นหลังจะเข้าใจประวัติศาสตร์ผิดๆ ที่พวกมันแต่งนิยายไว้เลย

     
  11. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ค้นข้อมูล สมเด็จพระธาตุพนม 4-5 วัน ตาแหมดแล้ว
    ขอเรียบเรียงก่อนการนำเสนอก่อนนะครับ

    ได้ความรู้เรื่องพระอีกเยอะเลย โดยเฉพาะพระสายอาจารย์เสาร์-อาจารย์มั่น
    อ่านจนเพลินเลย
     
  12. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467

    เอานิยาย
    ก่อสร้าง เจดีย์พระธาตุพนม ปี 2407-2408
    มาให้อ่านอีกครั้ง เป็นต้นเรื่องครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2011
  13. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    r
    ช้าไปนิดนะครับ ยังมีข้อสงสัยข้อมูลบางส่วนอยู่
    เอาไปเฉพาะที่ ตรวจสอบข้อมูลแล้วล่ะกัน

    นิยายขายพระ ตอนแตกกรุ (ที่นักขายพระ "สมเด็จกรุธาตุพนม" ยังตกลงกันยังไม่ได้ว่า จะให้ แตกออกมาจากกรุไหน)

    1. กลุ่มแรก แตกกรุ ออกมาจาก พระธาตุพนม(จำลอง) จากหน้าพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) จำนวน 2 ครั้ง
    ครั้งแรก พ.ศ.2411 และครั้งที่ 2 แตกกรุพร้อมกับสมเด็จวัดพระแก้ว เมื่อคราวบูรณพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้วมรกต) ปี พ.ศ.2519-2524 (เพื่อเตรียมงานฉลองกรุงฯ 200 ปี ในปี พ.ศ.2525)

    2. กลุ่มที่ 2 พระสมเด็จพระธาตุพนมสร้างเมื่อ พ.ศ.2401-2408 เพื่อบรรจุกรุ เจดีย์พระธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อคราว รัชกาลที่ 4 มีบัญชาให้ สมเด็จโต ไปทำการ ก่อสร้างพระธาตุพนมองค์ใหม่ เมื่อ พ.ศ.2407-2408 แล้วแตกกรุออกมาเมื่อคราวพระธาตุพนมล้มเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น.

    --------------------------------
    ด้วยสาเหตุ สถานที่แตกกรุ ที่นักขายพระยังตกลงกันไม่ได้ ทำให้ผมปวดหัวอยู่หลายวันเลย
    ------------------------------------------------ ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  14. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
  15. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    นิยายเรื่องที่ 1
    สมเด็จธาตุพนม แตกกรุ วัดพระแก้ววังหน้า

    [​IMG]

    เจดีย์พระธาตุพนม(จำลอง) ใช้ คอมพิวเตอร์แต่งขึ้น

    http://www.meeboard.com/view.asp?user=saravutrasameepen&groupid=46&rid=369&qid=2..
    <O:p</O:p
    หลังจากท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯแล้ว ท่าน (สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี) และ ท่าน (เจ้ากรมพระราชวังบวรวิไชชาญ) ท่านได้ปรึกษาหารือจะทำการสร้างเจดีย์ขึ้น ที่หลังอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส วัดพระแก้ว (วังหน้า) เพื่อบรรจุพระธาตุ ที่ท่านสมเด็จฯ ได้พบตามเจดีย์เก่าที่ผุพังและได้เก็บสะสมไว้ ให้ได้บรรจุเจดีย์ดังเดิม ...จึงอยากให้สร้างเจดีย์ขึ้น...ราวปี 2400 และได้มีการสร้างพระพุทธพิมพ์มากมายเพื่อบรรจุลงไปด้วย จึงได้ระดมช่าง 10 หมู่ช่วยกันสร้างและแกะแม่พิมพ์...และช่างอีกส่วนก็ทำการสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุ ตามความประสงค์ ของ (องค์สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี)<O:p</O:p

    การสร้างพระในครั้งนั้น (สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี) ท่านได้นำพระธาตุ และ ลูกปัดโบราณ และผงเก่าพระพุทธรูปที่ชำรุด ผงทอง วัตถุมงคลต่างๆ บางส่วนที่ท่านได้พบและสมสมไว้ เช่น แร่เหล็กไหล พระนาคปรก และพระอรหันตธาตุ ฝังและผสมลงไปในเนื้อพระและยังมีการนำพระที่ทางวังหน้าได้สร้างไว้มาร่วมบรรจุในเจดีย์อีกด้วย....!<O:p</O:p

    พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ อีกจำนวนมากที่ได้จากสถานที่ต่างๆอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำใสโถแก้วลงรักปิดทองอย่างดีแล้วนำบรรจุไว้ที่เจเดย์พระธาตุ ที่สร้างขึ้น...<O:p</O:p

    ส่วนพระของวังหน้า ที่จะนำมาทำการบรรจุลงไปด้วยก็จะทำการนำแผ่นทองคำมาปั๊ม คำว่า (ขรัวโต พระธาตุ) เพื่อให้ทราบว่าจะนำไปบรรจุที่เจดีย์พระธาตุ และยังเป็นที่ระลึกของการสร้างเจดีย์พระธาตุ อีกด้วย การก่อสร้างใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงแล้วเสร็จ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลังจากท่านได้นำ พระธาตุ และ ลูกปัดโบราณ และ พระพุทธพิมพ์ วัตถุมงคลต่างที่สร้างขึ้นและบรรจุเจดีย์ พระธาตุพนมจำลองเป็นเสร็จพิธีและปิดเจดีย์.......

    [FONT=Georgia, Times New Roman, Times, serif]เมื่อปี พ.ศ 2411 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ทรงขึ้นครองราชย์ ก็มีการสร้างพระครั้งใหญ่ดังที่กล่าวมาแล้ว พระพุทธพิมพ์ที่สร้างในครั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็ได้นำบรรจุในเจดีย์พระธาตุด้วย....[/FONT]
    จึงถือว่าเป็นการเปิดกรุเจดีย์ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2411 นั้นเอง


    ----------------------------------------------------------------------------------
    นิยายเรื่องที่ 1
    สมเด็จธาตุพนม แตกกรุ วัดพระแก้ววังหน้า
    --------------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  16. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    นิยายเรื่องที่ 2
    นิยาย ตอน สมเด็จกรุพระธาตุพนม แตกกรุ วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม

    เมื่อปี พ.ศ. 2407 วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2407 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน10 ปีชวด จุลศักราช 1226 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4ได้ทรงโปรดเกล้าสถาปนาสมณศักดิ์พระเทพกวี ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ กับได้ทรงรับสั่งมอบหมายท่านให้เป็นแม่กองไปบูรณะองค์พระธาตุพนมด้วย ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พร้อมด้วยท่านเจ้าคุณธรรมทานาจารย์(เจ้าคุณแนบ) ท่านเจ้าคุณธรรมถาวร(เจ้าคุณช่วง)พร้อมด้วยพระปลัดโฮ้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบองค์พระธาตุพนม ในขณะนั้นชำรุดเสียหายมากน่าจะไม่สามารถทำการบูรณะซ่อมแซมได้ จำเป็นต้องสร้างพระธาตุพนมใหม่ทั้งองค์ ก็ควรที่จะได้สร้างพระเครื่อง พระบูชา บรรจุไว้ในเจดีย์องค์พระธาตุพนมด้วย เพื่อเป็นพุทธบุชา รัชกาลที่4 ทรงเห็นด้วยและโปรดให้ดำเนินการได้กับทรงมีรับสั่งให้สร้างให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2408

    ฉะนั้น การสร้างพระเจดีย์องค์พระธาตุพนม การสร้างพระเครื่อง พระบูชา จำนวน 84,000 องค์ เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระธาตุพนมจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2407 เป็นต้นมา

    ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ได้กำหนดให้การก่อสร้างองค์พระธาตุพนมให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2408 การพิมพ์ พระเครื่อง พระบูชาจำนวน 84,000 องค์ จึงต้องช่วยกันพิมพ์ทั้งที่วัดระฆัง และที่วัดพระธาตุพนม ส่วนผสมในการสร้างพระนั้นเหมือนกันทั้งสองวัดจะแตกต่างกันอยู่บ้างก็ตรงที่ ใครจะนำส่วนผสมอะไรใส่ลงในครกแต่ละครั้งมากกว่ากันเท่านั้น ส่วนพระที่สร้างที่วัดระฆังนั้น ท่านเจ้าพระคุณธรรมทานาจารย์(เจ้าคุณแนบ) ท่านได้ลงรักปิดทองไว้ด้วย
    สำหรับการนำพระเครื่อง พระบูชา บรรจุลงในองค์พระเจดีย์นั้น มื่อได้ทำการสร้างพระเจดีย์องค์พระธาตุพนมเสร็จเรียบร้อยแล้วได้จัดให้มีการสมโภช เฉลิมฉลององค์พระเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

    http://www1.mod.go.th/heritage/nation/oldcity/nakhonpanom5.htmffice


    [B][/B]
    [URL="http://image.ohozaa.com/view/44jfo"][IMG]http://image.ohozaa.com/i/49d/IjgfY.JPG[/IMG][/URL][URL="http://www1.mod.go.th/heritage/nation/oldcity/nakhonpanom5.htmffice"][/URL]


    สถานที่แตกกรุ ของ [U]กลุ่มที่ 2[/U] เจดีย์พระธาตุพนม วัดธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    (วรรคนี้เรื่องจริง) จากการพังทลายขององค์พระธาตุพนม เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้สำรวจพบสิ่งของต่าง ๆ ที่บรรจุอยู่ภายในองค์พระธาตุพนมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ พระบรมสารีริกธาตุ ได้พบผอบที่บรรจุพระอุรังคธาตุ และเจดีย์ศิลาจำลองจากยอดภูเพ็ก และที่ส่วนยอดบัวของฐานชั้นที่สอง พบผอบทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒๘๐ องค์ และมีผอบแก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒๕ องค์ ผอบทองคำบรรจุพระธาตุอรหันต์ ๔ องค์ และผอบอีกใบหนึ่งบรรจุพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยหนึ่งองค์ หน้าตักกว้างหนึ่งนิ้ว ในเครื่องบริขารมีช้างแก้ว ๔ เชือก และกวางแก้วหนึ่งตัว
    [​IMG]

    พระธาตุพนม ปัจจบัน ได้รับการบูรณจากกรมศิลปากร

    ในวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๒๒ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกทรงเป็นประธานยกฉัตรพระธาตุ ในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๒๒พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทรงบรรจุพระอุรังคธาตุ
    ------------------------------------------------------------------------------

    นิยาย กล่าวถึง มีการสร้างพระธาตุพนมองค์ใหม่แทนองค์เดิม(เพื่อที่จะได้บรรจุพระเครื่องเข้ากรุ) ในปี 2408 โดยอ้างว่า พระธาตุพนมองค์เดิมชำรุดเสียหายมาก จนไม่สามารถทำการซ่อมแซมได้

    -------------------------------------------------
    นิยายเรื่องที่ 2
    นิยาย ตอน สมเด็จกรุพระธาตุพนม แตกกรุ วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม
    ----------------------------------------------------- ​


    o.th/heritage/nation/oldcity/nakhonpanom5.htmffice


    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2011
  17. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ก่อนเดินเรื่อง ขอเล่าประวัติ จังหวัดนครพนม มาพอสังเขป ก็แล้วกันนะครับ

    http://webnakhonphanom.moi.go.th/portal/page?_pageid=33,114037&_dad=portal&_schema=PORTAL


    เดิมพื้นที่จังหวัดนครพนมเคยเป็นมหานครของอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่รุ่งเรืองในอดีตประมาณราวต้นพุทธศตวรรษที่ 12เป็นอาณาจักรอิสระไม่ขึ้นกับใคร มีอาณาจักรร่วมสมัยคือ อาณาจักรทวาราวดี อาณาจักรละโว้ และอาณาจักรศรีวิชัย เป็นต้น ซึ่งอาณาจักรต่างๆ ได้ผลัดเปลี่ยนกันมีอำนาจเหนืออาณาจักรอื่น ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 อาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ได้เสื่อมอำนาจลง ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรขอม ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ 18ชื่อของ ศรีโคตรบูรณ์ ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในนาม เมืองโคตรบูรณ์ เป็นเมืองในอาณาจักรล้านช้าง มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวง โดยพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง ทรงสร้างเมืองที่ปากห้วยหินบูรณ์ (ปากห้วยบรรจบลำน้ำโขงฝั่งซ้ายตรงข้ามอำเภอท่าอุเทน เหนือเมืองนครพนม) ให้ชื่อเมืองใหม่ว่า ศรีโคตรบูรณ์ สืบราชสมบัติมาได้หลายองค์ ต่อมาย้ายเมืองมาตั้งที่ป่าไม้รวก ห้วยศรีมัง ริมแม่น้ำโขงฝั่งซ้าย (คือเมืองเก่าใต้เมืองท่าแขกในปัจจุบัน)<O:p</O:p
    ถึงปี พ.. 2297 มีพระนครานุรักษ์ ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์ มีความเห็นว่าเมืองมิได้ตั้งอยู่ที่ปากห้วยหินบูรณ์แล้ว จึงได้เปลี่ยนนามเมืองใหม่ว่า เมืองมรุกขนคร เพราะถือว่าสร้างขึ้นในดงไม้รวก นามเมืองศรีโคตรบูรณ์ จึงได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ครั้งนั้น
    <O:p</O:p
    ปี.. 2330 ย้ายเมืองมาตั้งทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ปากห้วยบังฮวก บรรจบกับแม่น้ำโขง (ปัจจุบันอยู่ระหว่างบ้านดอนนางหงส์ท่า ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม เลยลงไปถึงบ้านธาตุน้อยศรีบุญเรือง ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม) เมืองรุกขนคร เมื่อย้ายมาตั้งที่ปากห้วยบังฮวก โดยประมาณ 20ปี น้ำได้กัดเซาะตลิ่งพังลงมามาก จึงได้ย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านหนองจันทร์ (ห่างจากตัวเมืองนครพนมปัจจุบันไปทางทิศใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร) ตั้งชื่อเมืองใหม่ว่า นครบุรีราชธานี
    <O:p</O:p
    ปี.. 2337 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามเมืองเสียใหม่ว่า เมืองนครพนม ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ
    [​IMG]

    สยามสมัย พระเจ้ากรุงธนบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  18. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ประวัติศาสตร์ ประเทศไทย

    [​IMG]

    [​IMG]

    อยุธยา

    [​IMG]

    พ.ศ.2429 ก่อนเสียดินแดน ( จริงๆ แล้ว เป็นแค่เสียการ "คุ้มครอง" ประเทศราช)

    [​IMG]

    อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ร่างข้อตกลงเพื่อจะ "แบ่งเค๊ก" ประเทศสยาม
    สีน้ำเงิน อังกฤษจะเอา
    สีเหลือง ฝรั่งเศสจะเอา

    [​IMG]

    การเสียดินแดน (อย่างที่บอก เป็นแค่การเสียการ "คุ้มครอง")

    [​IMG]

    ประเทศไทย หลังรัชกาลที่ 5

    -------------------------------------------------
    เอามาลงเพื่อที่จะบอกว่า
    จริงๆ แล้ว จังหวัดนครพนม เป็นเขต "คุ้มครอง" แบบ "ประเทศราช"
    อยู่ในอาณาจักรล้านช้าง(เดิมคืออาณาจักรโคตรบูรณ์)
    เพื่อจะเล่าเรื่อง ลำดับการบูรณะองค์พระธาตุพนม ต่อไป
    -----------------------------------------------------------------------

    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=offway&month=26-06-2008&group=5&gblog=13<O:p</O:p
    http://iseehistory.socita.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538711184&Ntype=15<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แผ่นดินสยามที่เสียไป - ความคิดเห็น
    http://thaiaudio.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E2%80%9C%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B4/<O:p</O:p<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  19. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    อ่านเเล้วครับกว่าจะครบได้เเทบแย่

    ขอบคุณครับ

    อ่านเเล้วหายโง่ไปเยอะเลยครับ
     
  20. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    เล่าเรื่อง เมืองประเทศราช

    หัวเมืองประเทศราช หมายถึง เมืองขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองที่มีความแตกต่าง ด้านชื้อชาติ ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง หัวเมืองประเทศราชจะจัดการบริหารปกครองตนเอง โดยเพียงแต่ส่งเครื่องราชบรรณาการเป็นต้นไม้เงินต้นไม้ทอง ทรัพย์สินสิ่งมีค่ามายังเมืองหลวงทุก 3 ปี 1 ครั้งและยามศึกสงครามให้ส่งกำลังคนและเสบียงมายังเมืองหลวงตามใบบอก และความผูกพันระหว่างประเทศราชกับเมืองหลวงนั้นขึ้นอยู่กับพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ในลักษณะพึ่งพาให้การคุ้มครองจากการรุกรานของชาติอื่นๆ หรือยอมอ่อนน้อมเพราะเกรงการรุกรานจากไทย ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "การสวามิภักดิ์"

    แต่ การสวามิภักดิ์ มิได้หมายถึง ตกเป็นสมบัติของรัฐที่มีอำนาจมากกว่าแต่อย่างใด เพียงแต่หมายถึงยอมอยู่ใต้อำนาจบาตรใหญ่ ความคุ้มครอง ของรัฐที่มีอำนาจมากกว่าและยอมจ่าย ค่าคุ้มครอง ซึ่งเรียกว่า เครื่องราชบรรณาการ ตามที่รัฐที่มีอำนาจมากกว่าเรียกมาเท่านั้นเอง

    การเสียดินแดนในรัชสมัยราชการที่ 5 เป็นความขัดแย้งระหว่างสยามกับอังกฤษและฝรั่งเศส คือ แต่ละประเทศพยายามแข่งขันกันช่วงชิงดินแดนประเทศราชมาเป็นของตนแต่ผู้เดียว ดังนั้น กรณี การ “เสียดินแดน” ของประเทศสยาม คือผลของการแย่งชิงประเทศราชกัน เมื่อสยามแพ้ สยามจึง “ไม่ได้ดินแดนมาเป็นของตน” เมื่อ อังกฤษและฝรั่งเศสชนะจึงได้ "ดินแดนประเทศราช" ไปเป็นอณานิคมของตนเอง หรืออาจพูดได้ว่า สยาม "ไม่เคยเสียดินแดน" เพียงแต่ "เสียเมืองขึ้นที่เคยเป็นประเทศราช" ของตนเองไป



    http://www.thaigoodview.com/node/18406
    http://thaiaudio.wordpress.com/2011/02/08/%E0%B8%98%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E2%80%9C%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B4/<O:p</O:p

    >
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...