เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พาสต้าสดเส้นแบนราดซอสเนื้อแสนอร่อย


    [​IMG]

    เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก pantip.com โพสต์โดย คุณ swin

    หาก ใครชื่นชอบอาหารอิตาเลียน คงถูกใจกันเป็นพิเศษเลย เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีเมนูอาหารอิตาเลียนที่รับรองว่าไม่ได้เลี่ยน เหมือนชื่อมาฝากกันค่ะ

    แน่นอนว่าหลาย ๆ คนเคยได้ลองทานพาสต้ากันมาบ้างแล้ว และคงจะคิดว่า โอ๊ย...ทำไมวิธีทำมันช่างยุ่งยากเสียจริง เราจึงนำวิธีทำ พาสต้าสดเส้นแบนราดซอสเนื้อ Bolognese ซึ่งแนะนำโดยคุณ swin จากห้องก้นครัว เว็บไซต์พันทิป ที่คุณสามารถทำกินเองได้ที่บ้าน และรับรองว่ารสชาติไม่แพ้ร้านอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ เลยล่ะ

    ส่วนผสมสำหรับซอสเนื้อ Bolognese

    - เนื้อบด 1 กก.

    - เบคอน 300 กรัม

    - แครอท 2 หัว

    - ซาลารี (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) 1 ถ้วย

    - หอมใหญ่ 2 หัว

    - ไวน์แดง 1 ถ้วย

    - นมสด 2 ถ้วย

    - มะเขือเทศบด 1/4 ถ้วย

    วิธีทำ

    1. เบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และหั่นผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ

    [​IMG]

    2. เอาเบคอนลงไปผัดในหม้อก่อน ให้คลายน้ำมันออกมาหน่อย ใส่ผักลงไปผัด ประมาณ 7 - 8 นาที ด้วยไฟอ่อน จนผักสุก แล้วจึงตักผัก และเบคอนขึ้นมา

    [​IMG]
    [​IMG]

    3. ใส่น้ำมันมะกอกลงไปในหม้อ 4 ช้อน แล้วใส่เนื้อลงไปผัดจนเนื้อสุก

    [​IMG]
    [​IMG]

    4. เทไวน์แดง และนมสดลงไป

    [​IMG]

    5. ใส่ผักที่ผัดไว้ลงไป และเติมมะเขือเทศบด คลุกให้เข้ากัน หรี่ไฟอ่อน ๆ เคี่ยวซอสไปเรื่อย ๆ จนถึงประมาณ 4 ชั่วโมง

    [​IMG]
    [​IMG]

    ส่วนผสมสำหรับทำพาสต้าเส้นแบน

    - แป้งสาลี 200 กรัม

    - ไข่ไก่ 2 ฟอง


    วิธีทำ

    1. ระหว่างเคี่ยวซอสเนื้อซึ่งใช้เวลานาน เราก็มาทำเส้นพาสต้าสดกัน โดยนำแป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง 200 กรัม และไข่ไก่ 2 ฟอง ผสมกัน นวดให้เข้ากันเป็นก้อน

    [​IMG]

    2. พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที นำแป้งมารีดเป็นแผ่น และตัดเป็นเส้นแบนแบบ Tagliatelle

    [​IMG]

    3. ต้มน้ำ ลวกเส้น พาสต้าสด ลวกแบบเป็นใตนิดหน่อย

    [​IMG]

    4. เมื่อลวกเส้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตักซอสเนื้อราด

    [​IMG]



    [​IMG] เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับซอสเนื้อ Bolognese Sauce

    Bolognese Sauce หรือ RAGU เป็นซอสเนื้อสำหรับราดเส้นพาสต้าหรือทำลาซานยา มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Bologna ประเทศอิตาลี จัดเป็นซอสพาสต้าที่นิยมทานกันมากที่สุดในโลก และมีสูตรการทำหลากหลายมาก เพราะเป็นสูตรสามัญประจำบ้านของแม่บ้านชาวอิตาเลียน เรียกได้ว่าแทบทุกบ้านต้องทำ ซอสเนื้อ Bolognese ได้ และแต่ละบ้านก็จะมีสูตรที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษ

    อีกทั้งเมื่อชาวอิตาลีอพยพย้ายถิ่นไปยังที่ต่าง ๆ ในโลก ก็มีการนำซอสเนื้อนี้ไปด้วย และมีการปรับเปลี่ยนสูตรไปเรื่อย ๆ รวมถึงนำซอสนี้ไปทานร่วมกับเส้นสปาเกตตี จนมีชื่อเป็น "Spaghetti alla Bolognese" ซึ่งมักเป็นอาหารที่มีอยู่ตามร้านพิซซ่าทั้งหลาย

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สูตรซอสเนื้อ Bolognese ผิดเพี้ยนไปมาก จึงมีการค้นคว้าสูตรดั้งเดิมที่แท้จริงโดยสถาบัน "Accademia Italiana della Cucina" ที่มีชื่อเสียงด้านอาหารของอิตาลี ก่อนที่จะได้ประกาศสูตรซอสเนื้อ Bolognese ออกมาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 ตุลาคม 1982

    สำหรับ การรับประทานซอสเนื้อ Bolognese แบบชาวอิตาเลียนแท้ ๆ จะรับประทานคู่กับพาสต้าเส้นแบน หรือที่เรียกว่า Tagliatelle เท่านั้น จะไม่ทานกับเส้นสปาเกตตี้ เนื่องจากเส้นสปาเกตตี้มีลักษณะกลม ไม่สามารถซึมซับน้ำซอสได้ดีเท่าพาสตาเส้นแบนนั่นเอง

    นอกจากนี้ ซอสเนื้อ Bolognese สูตรดั้งเดิม ยังมีความแตกต่างตรงที่จะใส่มะเขือเทศบด หรือมะเขือเทศสับไปนิดหน่อยเท่านั้น ขณะที่ซอส Bolognese ในที่อื่น ๆ (นอกอิตาลี) จะใส่ซอสมะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลัก และจะทานกับเส้นสปาเกตตี้เสียส่วนใหญ่

    อื้อ หือ...ขนาดแค่เห็นหน้าตาของพาสต้าเส้นสดราดซอสเนื้อ Bolognese ยังน้ำลายสอขนาดนี้ ถ้าหากได้ลองชิม รับลองว่าอร่อยติดใจอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ ^^


    .

    -http://women.kapook.com/view26965.html-

    เมนูอาหาร พาสต้าเส้นแบน ราดซอสเนื้อ แสนอร่อย

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บะหมี่ญี่ปุ่น ซู้ด-ซด ไม่รู้เบื่อ


    ฮอตฮิตติดดาว เป็นเมนูที่หนุ่มๆ สาวๆ เทใจให้มาพักใหญ่ๆ
    โดย.. ปณิฏา สุวรรณปาล
    ฮอตฮิตติดดาว เป็นเมนูที่หนุ่มๆ สาวๆ เทใจให้มาพักใหญ่ๆ ก็ต้องบรรดา “บะหมี่” ทั้งหลายสไตล์ญี่ปุ่น ที่แม้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แต่การได้ซดน้ำแกงร้อนๆ กลมกล่อมๆ ควบคู่กับการสูดเส้นนุ่มๆ เข้าในปาก โอ้วววว มันช่างยากที่จะหยุดยั้ง หยุดหม่ำได้ง่ายๆ
    บะหมี่ญี่ปุ่นมีมากมายหลายหลากให้เลือกตามรสนิยม... มาเริ่มกันที่เส้นบะหมี่ญี่ปุ่นยอดฮิตกันเลยดีกว่า...
    ราเม็ง
    บะหมี่เบสิกสุดๆ ของญี่ปุ่น มีลักษณะเส้นเล็กๆ บางๆ ทำจากแป้งสาลี ใส่เกลือ ผสมน้ำ รวมทั้งคันซุย หรือน้ำแร่ลงไปด้วย บางแห่งก็ใส่ไข่ในเส้นราเม็ง แต่ถึงไม่ใส่ก็เรียก “ราเม็ง” ได้ แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน
    แรกๆ เมื่อสมัยเมจิ เส้น “ราเม็ง” คือเส้นนำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นเส้นบะหมี่ที่เข้ากับเครื่องปรุงสไตล์ญี่ปุ่นได้ดี๊ดี ก่อนที่จะผลิตเส้นเป็นเอง โดยเส้นทางของร้านบะหมี่สไตล์ญี่ปุ่นก็ได้เริ่มต้นการแข่งขันประชันทีเด็ด กัน ณ บัดนั้น ก่อนที่อีกไม่นานก็พัฒนาไปถึงการผลิตบะหมี่ “ราเม็ง” สำเร็จรูป

    [​IMG]


    ไม่เพียงในญี่ปุ่นเท่านั้น “ราเม็ง” ยังไปโด่งดังถึงในอเมริกาและเม็กซิโกอย่างรวดเร็ว
    เนื้อบะหมี่ “ราเม็ง” ค่อนข้างยืดหยุ่น มีน้ำหนัก และมักจะออกสีเหลืองๆ ตัวเส้นสม่ำเสมอจากต้นสู่ปลายเส้น สามารถสูดซู้ดเข้าปากได้อย่างสะดวกสบาย ที่ฮิตๆ ก็มี ซัปโปโร ราเม็ง มิโซะ ราเม็ง ชิโอะ ราเม็ง ทงคัตสึ ราเม็ง และโชยุ ราเม็ง
    ชิราตากิ
    เส้นบะหมี่ญี่ปุ่นที่บ้านเราฮิตเรียกันว่า เส้นบุก หรืออาจจะเรียกอีกอย่างได้ว่า วุ้นเส้นญี่ปุ่น นั่นเองแหละ ง่ายๆ ตรงๆ เส้น “ชิราตากิ” เป็นเส้นใสๆ ทำจากบุก หรือชาวอาทิตย์อุทัยเรียกว่า คอนยักกุ หลายๆ คนชอบที่สามารถเคี้ยวได้หนุบๆ กรุบๆ อร่อยดี และยังเด็ดตรงที่กินแล้วไม่อ้วน!

    [​IMG]

    เส้น “ชิราตากิ” นอกจากอร่อยดียังมีประโยชน์ ว่ากันว่า มีไฟเบอร์สูง (จากบุก) แล้วก็ยังมีคาร์โบไฮเดรตกับแคลอรีต่ำ โดยมักจะนำมาปรุงในสุกี้ญี่ปุ่น หรือใส่ในน้ำซุปให้มีเนื้อมีหนังมากขึ้น
    โซบะ
    เส้นบะหมี่ขนาดอ้วนกว่าเส้น “ราเม็ง” ขึ้นมานิดหน่อย นับเป็นเส้นบะหมี่ที่มีออริจินัลของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง โดยทำจากแป้งบัควีต (โซบาโกะ) ผสมกับแป้งสาลี คล้ายๆ กับเส้นพาสตา คือมักจะผ่านการทำให้แห้งดีกว่าที่จะทำแบบสดๆ ใหม่ๆ
    เส้น “โซบะ” มีมากมายหลายเมนูกว่าเส้นไหนๆ สามารถเสิร์ฟได้ทั้งร้อนทั้งเย็น เมนูเด่นก็คือ บะหมี่เย็น (ซารุโซบะ กับโมริโซบะ) หรือถ้าเสิร์ฟร้อนๆ ก็มี ยากิโซบะ หรือบะหมี่ “โซบะ” ผัดสไตล์จีน แล้วก็ยังมีเส้น “โซบะ” เสิร์ฟในน้ำซุปร้อนแบบราเม็ง ทั้งคาเกะโซบะ (เสิร์ฟในน้ำซุปร้อนเฉยๆ) เทมปุระโซบะ (เสิร์ฟในน้ำซุปร้อนแต่งหน้าด้วยเทมปุระ) และโทโรโระโซบะ (เสิร์ฟในน้ำซุปร้อนแต่งหน้าด้วยไข่ลวก)
    โซเม็ง
    เส้นหมี่เล็กๆ ทำจากแป้งสาลี มักจะเสิร์ฟในสไตล์บะหมี่เย็นในช่วงหน้าร้อนมากกว่าเมนูอื่นใด แต่บางครั้งก็แอบนำไปเสิร์ฟในซุปร้อนๆ สไตล์เดียวกับเส้น “ไฮยมูจิ” กับ “อุด้ง” บ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ไม่ค่อยนิยมรับประทานร้อนๆ
    ไฮยมูจิ
    ทำจากแป้งสาลีเช่นเดียวกัน โดยขนาดของเส้นอยู่ตรงกลางระหว่างเส้น “โซเม็ง” และเส้น “อุด้ง” แล้วก็นิยมปรุงในแบบเดียวกันทั้ง 2 เส้น 2 สไตล์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน เส้นทั้ง 3 ชนิด คือ “โซเม็ง” “ไฮยมูจิ” และ “อุด้ง” ต่างก็มีสีขาว ซึ่งบางทีก็กลายเป็นตัวเลือกที่นำไปผสมผสานเพื่อความสวยงามในการจัดจาน ร่วมกับเส้นสีเหลืองและสีน้ำตาลด้วย
    อุด้ง
    เส้นอ้วนใหญ่ที่สุดที่มีเสิร์ฟในตำราอาหารญี่ปุ่น ทำจากแป้งสาลี มีความหนา 46 มล. บางครั้งก็เสิร์ฟแบบบะหมี่เย็น โดยเฉพาะฤดูร้อน แต่ไม่นิยมมากเท่าเส้น “โซบะ” กับ “โซเม็ง” เรามักจะเห็น “อุด้ง” ในซุปร้อนๆ ใสๆ (สีน้ำตาล) ของญี่ปุ่นมากกว่า แต่ที่นิยมกันอีกอย่างสำหรับเส้น “อุด้ง” อ้วนๆ นี้ ได้แก่ เคอร์รีอุด้ง หรือเส้น “อุด้ง” ราดหน้าแกงกะหรี่นั่นเอง
    มาที่ข่าวดีของคนรักเส้นญี่ปุ่น ระหว่างเดือน มิ.ย.ก.ค.ศกนี้ ไม่ต้องถ่อไปถึงญี่ปุ่น ไปแค่ห้องอาหารญี่ปุ่นมิกาโดะ โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง (โทร. 022813088) กำลังจัดโปรโมชันบุฟเฟต์บะหมี่ญี่ปุ่น สุดคุ้ม เต็มอิ่ม ไม่จำกัดเวลา!! เสิร์ฟตลอดกินได้ไม่อั้น ทั้ง ชาบูชาบู โซบะเย็น สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น อุด้งหมูเนื้อ อุด้งหน้าเทมปุระ และอุด้งรวมทะเล บะหมี่ผัดญี่ปุ่น และอีกมากมาย
    เสิร์ฟพร้อมปลาดิบ ข้าวห่อสาหร่าย ข้าวปั้นหน้าต่างๆ ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ผักดอง หรือซุปร้อนๆ และไอศกรีมหลากรส พร้อมชาเขียวร้อน/เย็นเสิร์ฟฟรีตลอดมื้อ!!! ทั้งมื้อกลางวัน (11.00-14.30 น.) และมื้อค่ำ (18.00-22.00 น.) เว้นวันอาทิตย์ เพียงท่านละ 290 บาท++ (เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ลดครึ่งราคา) รับประทานเสร็จยังมอบส่วนลด 20% ในครั้งต่อไปสำหรับมื้อค่ำเมนูตามสั่ง ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นมิกาโดะ และห้องอาหารจีน ดิ เอมเพรส อีกต่างหาก
    แล้วมาประกวดกัน ใครจะหม่ำไม่อั้นได้กี่ชาม...!?



    โพสต์ทูเดย์ กิน-เที่ยว : บะหมี่ญี่ปุ่น ซู้ด-ซด ไม่รู้เบื่อ


    .


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/93580/%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%94-%E0%B8%8B%E0%B8%94-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    หมี่ผัด ส้มตำโคราช ร้านผัดหมี่โคราชแม่แต๋ว


    [​IMG]



    ร้านผัดหมี่โคราชแม่แต๋วไม่ใช่ร้านอาหารใหญ่โตหรูหรา หากแต่เป็นร้านขายอาหารการกิน จำพวกรถเข็นที่ตั้งริมฟุตปาธซอยท่านผู้หญิงพหลฯย่านเกษตร ที่ขายอาหารจานเดียวเป็นหมี่ผัดโคราช ส้มตำ ลูกชิ้นปิ้งและไส้กรอก ที่มีทั้งคนทำงาน นักศึกษา มาอุดหนุนเป็นลูกค้าประจำสม่ำเสมอร้านผัดหมี่โคราชแม่แต๋ว เป็นร้านที่คู่ชีวิตนักสู้อย่าง คุณโหน่งและคุณจอย ที่สู้อุตส่าห์จากบ้านเกิดที่ ตำบลกระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา มายึดหัวหาดริมทางเท้า ซอยท่านผู้หญิงพหลฯขายผัดหมี่โคราช ส้มตำมานานถึง 11 ปี เริ่มต้นการขายที่แทบไม่มีลูกค้า กระทั่งมีลูกค้าติดใจรสมือการปรุง ทำให้มีการบอกปากต่อปาก โดยเฉพาะเมนูเด็ดขึ้นชื่อคือ ผัดหมี่โคราช อาหารพื้นบ้านของชาวโคราช และ คุณโหน่ง เจ้าของร้านนำตำรับการปรุงหมี่ผัดโคราชแบบโบราณมาจากแม่ มาปรุงรสให้กลมกล่อมจนใครๆ ติดใจ

    ผัดหมี่โคราชร้านนี้มีแบบ เส้นสด วุ้นเส้น และ เส้นเล็ก ที่เด่นโดนลิ้น เห็นจะเป็นผัดหมี่โคราชที่ใช้เส้นสด จากตำบลกระโทก อำเภอโชคชัย มาเป็นวัตถุดิบกับเครื่องเครา เอกลักษณ์เส้นสด ใช้แต่แป้งข้าวเจ้าอย่างเดียวมาทำ สีออกขุ่นๆ ไม่ขาวนวล แต่ตัวเส้นนุ่ม หอมธรรมชาติ

    แค่ตัวเส้นสดมีที่มาน่าสนใจ วิธีผัดปรุงรสหน้าร้านริมรถเข็นเพลินตาไม่น้อย เห็นตั้งแต่ขั้นตอนใช้น้ำมันหมู ที่ใช้มันหมูเจียวเอาน้ำมันมาใช้วันต่อวัน แล้วใส่เนื้อหมู หอมแดงสับ น้ำตาลปีี๊บ พริกป่น ซีอิ๊วดำ น้ำมะขามเปียก ที่ใช้มะขามเปียกข้ามปี มาทำเป็นน้ำมะขามปรุงรส ให้รสชาติไม่เปรี้ยวแหลม

    รสชาติของผัดหมี่โคราชเส้นสด เด่นตั้งแต่ตัวเส้นเหนียวนุ่ม ไม่แฉะ เพราะผัดได้แห้ง ส่วนรสชาติออกหวาน ไล่มาเปรี้ยว เค็ม กลมกล่อมกำลังดี ทานเคียงไปพร้อมกับผักสดอย่างหัวปลี ใบบัวบก ถั่วงอกดิบ ได้สารอาหารครบถ้วนถ้าไม่ชอบใจเส้นสด จะเปลี่ยนเป็นวุ้นเส้นหรือเส้นเล็ก ย่อมได้ เพราะรสชาติเหมือนกันต่างกันตรงตัวเส้น

    ชอบทานส้มตำแซบ มีสิทธิสั่งจากร้านนี้มาทานได้เพราะของเขามีส้มตำรายการเด็ดไว้ให้สั่งมารับ ประทาน ถ้าจะเอาตรงคอนเซปต์ โคราช ต้องลองสั่ง ตำโคราช อธิบายง่าย ๆ เป็นส้มตำผสมระหว่างตำไทยกับตำลาว ใสทุกอย่างทั้งมะละกอ มะเขือ ถั่วฝักยาว ปูเค็ม กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว ที่ขาดไม่ได้คือ ปลาร้า ถ้าคิดจะสั่งตำโคราช ถ้าทานปลาร้าไม่เป็น มีสิทธิสั่งแบบไม่เอาปลาร้าก็ได้ แต่จะอดสัมผัสรสชาติตำโคราชแบบดั้งเดิมไปเสียสิ้น

    แม่พลอยอยากทานตำโคราชแบบไร้เส้นมะละกอ เลือกเอาสั่งตำถั่วฝักยาวแบบโคราช มีถั่วฝักยาว มะเขือเทศ มะเขือเปราะ ตำคลุกเคล้ารสน้ำยำ แล้วสั่งกากหมูกรอบมาโรยหน้า ทานไปพร้อมกัน ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ ร้านนี้มี ตำปู ตำปลาร้า ตำไทย ตำไข่เค็ม ให้เลือกสั่งทานแบบใจชอบได้หลายรายการ

    เมนู ลูกชิ้นปิ้ง ไส้กรอกย่าง ร้อน ๆ จากเตานี่ มัดใจคนชอบทานลูกชิ้นปิ้งจนอยู่หมัด ลูกชิ้นหมูแท้อย่างดี เคี้ยวหนึบ จิ้มทานกับน้ำจิ้มรสเด็ด ที่เจ้าของร้านปรุงเอง รับรองไม้เดียวไม่พอ ต้องมีไม้สอง ไม้สามและไม้ที่สี่ ตามมา ส่วนไส้กรอกหมูหอม นุ่ม อร่อยไม่แพ้กัน

    ผัดหมี่โคราชแม่แต๋ว ร้านรถเข็นที่ต้องยกนิ้วในเรื่องรสชาติให้ ร้านเล็กแต่คนทานเยอะ นึกอยากไปทานแม่พลอยรบกวนชวนให้มาทำจิตใจเย็น ๆ อย่าใจร้อนเวลาสั่ง เพราะทีมงานน้อย แต่คนทานเยอะพอควร เรื่องบริการอาจมีขาดตกบกพร่อง ถ้าพร้อมความรู้สึกด้านนี้ลองแวะดูร้านเปิดบริการจันทร์–เสาร์ ตั้งแต่ 16.00–22.00 น. ปิดบริการทุกวันอาทิตย์ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-1580-5381.

    แม่พลอย







    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=501&contentId=149861-

    http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=501&contentId=149861


    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    พักผ่อนหย่อนพุง ชวนกินตับ "โกตี๋" ก๋วยเตี๋ยวหมู สูตรโบราณ

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    ชามตราไก่


    [​IMG]
    เจ้าของร้านทายาทรุ่นที่ 2


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [COLOR=##005800]โดย พี่พุงหลามกับน้องพุงล้น[/COLOR]



    "ก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ" นับวันจะหากินยากขึ้นทุกที เจ้าเก่าแบบดั้งเดิมก็เริ่มเปลี่ยนแปลงหันไปเพิ่มโน่นนี่นั่น หนักไปทางลูกชิ้น เสน่ห์แบบเก่าๆของเนื้อหมูสับ เครื่องใน ที่พ่อค้าแม่ค้าบรรจงสับซอยจึงไม่ค่อยมีให้กินมากนัก

    ที่ท่าน้ำปากเกร็ด มีก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่า เจ้าเดิม พายเรือขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ขายมากว่า 30 ปี มีด้ามไม้พายจำนวนมากเป็นตัวการันตีความเก่าแก่ และชมตราไก่ เป็นชามกระเบื้องที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
    [​IMG]

    ร้าน "โกตี๋ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ "สูตรโบราณ ซอยวัดกู้ ยังคงความอร่อยไม่จืดจาง แม้จะนำขึ้นจากเรือมาวางขายบนบก ก็ไม่ได้ลดความอร่อย

    เรียกว่า "อร่อย คงเส้น คงวา" ตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก

    ร้าน โกตี๋ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ อยู่ในซอยวัดกู้ เมื่อถึงท่าน้ำปากเกร็ดแล้ว ก็ให้ขับรถเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยวัดกู้ ตรงไปสักระยะหนึ่ง ร้านจะอยู่ทางขวามือ ข้างโลตัส ซอยวัดกู้
    หน้าร้านมีชื่อ "ซอยอามู่เกลอ" ก่อนจะถึงวัดกู้ จะเห็นป้ายร้านเด่นชัด ก็เลี้ยวเข้าไปหาที่จอดรถในซอยมีพื้นที่กว้างขวางทีเดียว

    ขอแนะนำให้เลือกเวลาดีๆ เพราะถ้าเป็นช่วงเที่ยงตรงลูกค้าจะเยอะทีเดียว แต่ก็ไม่ถึงกับต้องเข้าคิวหรือรอนานจนโมโหหิว เพราะเจ้าเก่าเจ้าเดิมทำได้คล่องแคล่ว รวดเร็ว จนมองแทบไม่ทันทีเดียว

    สักครู่เดียวหลังจากสั่งก๋วยเตี๋ยวที่เลือกเส้นได้ตามใจชอบจะยำหรือไม่ยำก็บอกไป แต่แนะนำให้เลือกแบบต้มยำ

    เมื่อชามกระเบื้องโล้โก้ไก่หางพวง ก็ถูกยกมาเสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงโรยหน้าสารพัดอย่าง เรียกว่าเครื่องแยะโดยเฉพาะเครื่องในหมู เช่น เนื้อหมู ทั้งแบบสับและหั่น ตับหมู ไส้หมู โรยถั่วป่น พริกป่น กุ้งแห้ง และมะนาว

    [​IMG]

    หน้าที่ของคนกินก็แค่ใช้ตะเกียบกับช้อน คลุกเคล้าเส้นเครื่องปรุงให้เข้ากัน

    ยังไงก็อย่าลืมชิมก่อนปรุงเพิ่ม

    ถ้าอยากพิสูจน์ฝีมือและน้ำหนักมือพ่อค้า ขอแนะนำอย่าปรุงเพิ่ม แต่ให้สั่งเพิ่ม แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน รับรองว่าชามแรกและชามที่สอง รสชาติไม่แตกต่างกันเลย

    พอได้ชิมคำแรกแค่นั้นรู้สึกได้เลยว่า เหตุใดถึงได้เป็นก๋วยเตี๋ยวโบราณที่อยู่ยงคงกะพันมาจนถึงป่านนี้
    นั่นเพราะรสชาติที่อร่อย เครื่องในไร้กลิ่นรับรอง ว่า คนที่ไม่ชอบกินตับ จะต้องหันมากินตับ และประทับใจกับตับ หรือใครที่ไม่เคยชิมถ้าได้ ลิ้มลองที่นี่ชิ้นแรก รับรองถูกอกถูกใจ เพราะตับและเครื่องในของที่ร้านไม่เหลือกลิ่นให้ดอมดมเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญ ชิ้นเนื้อยังนุ่มลิ้น เคี้ยวง่าย

    "เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี คนแก่ก็ไม่ต้องกลัวฟันปลอมหลุด"

    คุณภาพคับช้อนเครื่องปรุงคับชาม

    สนนราคาชาวบ้านร้านตลาดชิมได้ ชามละ20 บาท ถ้าพิเศษ ก็ 30 บาท หรือแบบจัมโบ้ 35 บาท

    งานนี้ชามเดียวไม่ เคยพอ ถ้าใครสนใจแวะไปชิมก๋วยเตี๋ยวโบราณสูตรเด็ดได้ที่ซอยวัดกู้ หรือจะโทรไปสอบถามเส้นทางได้ที่ 0-892-182-794 , 0-841-616-124 หากใครอยากจะนำไปจัดงานเลี้ยง ทางร้านโกตี๋ ก็รับจัดงานนอกสถานที่เช่นกัน

    [​IMG]











    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1310034600&grpid=&catid=09&subcatid=0901-

    พักผ่อนหย่อนพุง ชวนกินตับ "โกตี๋" ก๋วยเตี๋ยวหมู สูตรโบราณ : มติชนออนไลน์

    .





    .
     
  5. urai ay

    urai ay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,668
    ค่าพลัง:
    +13,551
    ไม่ได้เข้ามาซะนาน(smile)
    เอ่ออ... ขอผัดหมี่ ตำโคราช ลูกชิ้นปิ้ง ไส้กรอกย่าง
    [​IMG] [​IMG] สองชามนี้ด้วย...
    เก็บตังค์ที่เจ้าของกระทู้ (deejai)




     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “ขนมจีนบ้านผู้การ” สูตรโบราณ รสทีเด็ด <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">17 กรกฎาคม 2554 14:36 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้านขนมจีนบ้านผู้การ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> จะทำการทำงานอะไรสมัยนี้ใครก็ว่าจะต้องมีเส้นไว้ก่อนเป็นดี แต่ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ไม่รู้จะไปหาเส้นใหญ่เส้นโตได้ที่ไหน ที่พอจะหาได้ก็คงเป็นเส้นขนมจีนที่จะพาไปลองชิมกันในมื้อนี้

    เส้นขนมจีนที่ว่านี้อยู่ที่ร้าน “ขนมจีนบ้านผู้การ” ในละแวกบางลำพู ที่ตั้งขึ้นโดย พันเอกพิเศษรังสรรค์ สุขสโมสร โดยนำสูตรขนมจีนแบบโบราณมาจากคุณแม่มาปรุงให้ลูกค้าได้ชิมกัน ซึ่งภายในร้านก็มีให้ชิมทั้งขนมจีนน้ำพริก น้ำยา ซาวน้ำ และแกงเขียวหวาน รวมถึงยังมีอาหารไทยๆ เมนูอื่นอีกด้วย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีนซาวน้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ส่วนการตกแต่งร้านนั้นก็เน้นในแนวธรรมชาติ สบายตาและนั่งสบาย มีให้เลือกทั้งชั้นล่าง และชั้นบนที่เป็นห้องปรับอากาศ และยังมีมุมกาแฟสดให้บริการกับลูกค้าด้วย

    มาลองชิมเมนูเส้นๆ กันดีกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราเลือกสั่ง ขนมจีนซาวน้ำ (40 บาท) ที่เป็นสูตรแบบโบราณ คือนอกจากจะมีเครื่องเคราต่างๆ วางคู่มากับเส้นขนมจีนแป้งหมัก ทั้งสับปะรด กุ้งแห้งป่น ขิงซอย กระเทียมซอย และพริกขี้หนูซอยแล้ว ก็ยังใส่แจงลอนปลากราย ที่ใช้เนื้อปลากรายล้วนๆ มานวดพร้อมกับปรุงรส แล้วปั้นเป็นลูกๆ นำลงไปต้มจนสุกในน้ำกะทิ แล้วตักแจงลอนขึ้นมาเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงอื่นๆ ราดด้วยหัวกะทิ เทคนิคในการกินให้อร่อยก็ต้องคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พอลองชิมแล้วแจงลอนนุ่มเด้ง ส่วนตัวขนมจีนนั้นได้รสหอมมัน ได้ความเปรี้ยวหวานจากสับปะรด ความเค็มเล็กน้อยจากกุ้งแห้ง และความเผ็ดจากขิงและพริกขี้หนู

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีนน้ำพริก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เมนูถัดมา คือ ขนมจีนน้ำพริก (40 บาท) ทางร้านใช้ถั่วทองคั่วมาต้มแล้วผสมกับเนื้อกุ้งสดที่บดแล้ว นำมาเคี่ยวรวมกัน ใส่หอมแดง กระเทียม แล้วปรุงให้ออกสามรส ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม จากนั้นก็โรยหน้าด้วยหอมทอด และกระเทียมเจียว ลองชิมน้ำพริกจะได้รสชาติแบบสามรส ที่ความเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์มาจากน้ำมะกรูด น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก กินคู่กับผักเรื่องเคียงอย่าง ถั่วฝักยาวต้ม ผักบุ้งต้ม และหัวปลีซอย ก็เข้ากันเป็นอย่างดี

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีนน้ำยา</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูเส้น ขนมจีนน้ำยา (40 บาท) ที่ตัวน้ำยาจะใช้เนื้อปลาช่อนมาต้มกับสมุนไพรเพื่อไม่ใช้คาว จากนั้นก็แกะมาใช้แต่เฉพาะเนื้อ นำลงไปต้มกับน้ำกะทิ ใส่พริกแกงที่ทางร้านโขลกขึ้นมาเอง โดยใช้กระชาย พริก หอมแดง และกระเทียม นำไปต้มแล้วโขลกให้ละเอียด ก่อนจะนำมาใส่น้ำกะทิที่ต้มกับเนื้อปลา จากนั้นก็ปรุงรส ตักราดมาเสิร์ฟพร้อมกับผักต่างๆ อาทิ ใบแมงลัก ถั่วงอกลวก กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว และผักกาดดอง ลองชิมน้ำยารสชาติเข้มข้นแต่กลมกล่อม ไม่เผ็ดมากเกินไป

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวผัดปลาสลิด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากเมนูเส้นๆ แล้ว ก็ลองมาชิมอาหารไทยจานอื่นดูบ้าง อย่างเช่นเมนูนี้ ข้าวผัดปลาสลิด (50 บาท) ที่ใช้ข้าวหอมมะลิมาผัดกับหอมแดงซอยและพริกขี้หนู จากนั้นก็ปรุงรสเล็กน้อย ส่วนปลาสลิดแกะเอาแต่เนื้อแล้วนำไปทอดจนกรอบ ก่อนจะวางมาบนข้าวที่ผัดเสร็จแล้ว เสิร์ฟพร้อมกับแตงกวาและมะนาวหั่นเป็นชิ้น ลองชิมข้าวผัดรสชาติกลมกล่อมดี เข้ากับปลาสลิดกรอบที่เค็มเล็กน้อย ส่วนถ้าใครที่ชอบรสชาติจัดจ้านก็บีบมะนาวเพิ่มเติมลงไปได้ตามชอบ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ห่อหมกเนื้อปลา</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ปิดท้ายกับเมนู ห่อหมก (เนื้อปลา 35 บาท พุงปลา 45 บาท) ทางร้านใช้ปลาช่อนมากวนกับพริกแกงที่โขลกเอง นำมาห่อใส่ใบตองที่รองด้วยกะหล่ำปลี โหระพา หรือใบยอ จากนั้นก็นำไปนึ่งด้วยเตาถ่าน ลองชิมห่อหมกก็ได้รสกลมกล่อมหอมมัน เครื่องพริกแกงไม่เผ็ดมาก และยังได้เนื้อปลาแบบเต็มคำ

    แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่อิ่ม ทางร้านก็ยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ ที่น่ามาลองลิ้มกันอีก อาทิ ข้าวหมูทอดน้ำมันหอย (40 บาท) แกงเขียวหวานไก่ (40 บาท) แกงเขียวหวานหมูพริกขี้หนู (40 บาท) หมี่กรอบ (60 บาท) และ ลอดช่อง (15 บาท) เป็นต้น

    ใครอยากจะมาเพิ่มเส้นอร่อยแบบนี้ให้กับกระเพาะของตัวเอง ก็ตรงกันมาได้ที่ร้าน “ขนมจีนบ้านผู้การ” รับรองว่าจะต้องอิ่มท้องกับขนมจีนอร่อยๆ อย่างแน่นอน

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “ขนมจีนบ้านผู้การ” ตั้งอยู่ที่ 147/20 ถ.ไกรสีห์ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. การเดินทางจากเทเวศร์ ให้ตรงมาบนถนนสามเสน จนถึงสี่แยกบางลำพูแล้วตรงมาอีกเล็กน้อย สังเกตจะมีซอยทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าถนนไกรสีห์ แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนเกือบสุดถนน ให้สังเกตทางขวามือร้านจะตั้งอยู่ริมถนน มีป้ายให้เห็นชัดเจน บริเวณหน้าร้านไม่มีที่จอดรถ แต่สามารถจอดได้ที่จอดรถของกทม. ฝั่งตรงข้าม (เสียค่าบริการ) ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 10.00-16.00 น. โทร. 0-2280-7111, 0-2629-5745
    </td></tr></tbody></table>



    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000087821-



    .





    .










    .
     
  8. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    [​IMG]ว๊ากกกกกกก อยากกินนนนนนนนน
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    เมนูเส้นจานเด็ด... สปาเก็ตตี้ไข่กุ้ง

    31Share

    [​IMG]


    สปาเก็ตตี้กับไข่กุ้ง (Lisa)

    อาหารสไตล์อิตาลีที่เรารับประทานกันบ่อย ๆ เห็นจะหนีไม่พ้นเมนูสปาเก็ตตี้ทั้งหลาย เพราะเครื่องปรุงหาได้ง่าย ผัดแบบไม่ยุ่งยากก็ได้ออกมาเป็นจานอร่อยแล้วค่ะ และวันนี้เราขอนำเสนอ สปาเกตตี้กับไข่กุ้งแสนอร่อย

    ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่

    [​IMG] เส้นสปาเก็ตตี้ลวกสุก 150 กรัม
    [​IMG] กุ้งลวกสุก 50 กรัม เนย 1 ช้อนโต๊ะ
    [​IMG] น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
    [​IMG] ไข่กุ้ง 50 กรัม
    [​IMG] หัวหอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
    [​IMG] พาร์สลีย์สดสับ 1 ช้อนโต๊ะ
    [​IMG] เกลือ
    [​IMG] พริกไทยป่นตามชอบ
    [​IMG] กระเทียมสับละเอียด 1-2 ช้อนชา

    วิธีทำ

    1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก พอร้อนดีแล้วใส่เนย กระเทียม และหัวหอมใหญ่ ผัดให้สุกเข้ากันจนหอมดี แล้วใส่เส้นสปาเกตตีลวกผัดให้เข้ากันก่อน

    2. จากนั้น ใส่เนื้อกุ้งลวกตามด้วยไข่กุ้ง โรยพาร์สลีย์สับ แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง พร้อมเสิร์ฟ

    เวลาในการปรุง 10 นาที

    ส่วนผสมราคาประมาณ 210 บาท




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

    -http://lisaguru.com/foodie-goodie/cooking-v12no14-04-

    [​IMG]



    .

    -http://women.kapook.com/view28227.html-

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“บะหมี่หัวโต” เหนียวนุ่ม เด้งสด รสเด็ดโดนใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>24 กรกฎาคม 2554 13:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000090928-</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : ผ่านมาแวะกิน (travel_astvmgr@hotmail.com)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศที่นั่งภายในร้านบะหมี่หัวโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านอาหารอร่อยๆ ที่ขายกันมาอย่างยาวนานในกรุงเทพฯ ของเรานั้นก็มีอยู่หลากหลายร้าน ซึ่งระยะเวลาในการขายที่ยาวนานและยังมีลูกค้าแวะเวียนกันไปอย่างไม่ขาดสายนั้นก็เป็นเครื่องรับประกันได้ถึงความอร่อยถูกปาก อย่างเช่นร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปลองชิมกันในวันนี้ ก็เปิดขายกันมากว่า 40 ปีแล้ว และยังคงเป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของบะหมี่ในย่านศรีย่าน

    ร้านนี้มีชื่อว่า “บะหมี่หัวโต” ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่เส้นบะหมี่ที่ไม่เหมือนร้านไหนๆ คือ จะเป็นบะหมี่เส้นใหญ่ กลม เด้ง ที่ทางร้านทำเองสดๆ ชั่วโมงต่อชั่วโมง มีส่วนผสมของแป้ง ไข่ไก่ และน้ำ โดยไม่ได้ใส่สี หรือสารกันบูดลงไป ส่วนกรรมวิธีการทำก็ยังใช้มือนวดแป้งให้ได้ที่ ก่อนจะใช้เครื่องมาตัดเป็นเส้นๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดงหมูกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มาลองชิมเมนูอร่อยของร้าน บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดงหมูกรอบ (40 บาท พิเศษ 45 บาท) ที่ใช้เส้นบะหมี่ที่ทางร้านทำเอง ส่วนตัวเกี๊ยวนั้นก็ใช้แป้งแบบเดียวกับที่ทำเส้นบะหมี่มาทำเป็นแผ่นแล้วใส่ไส้หมูบดปรุงรส หมูแดงจะเลือกใช้สะโพกหมูมาหมักกับเครื่องเทศต่างๆ ทิ้งไว้ข้ามคืนจากนั้นก็นำมาย่าง ส่วนหมูกรอบจะใช้สามชั้นที่มีเนื้อเยอะมาหมัก ก่อนจะนำไปต้ม แล้วทอดถึงสองครั้ง จากนั้นก็จะนำไปย่าง และอีกหนึ่งความพิเศษของจานนี้ก็คือ จะใส่กระเทียมเจียว ซึ่งเป็นกระเทียมที่ตากแห้งแล้วนำมาเจียวพร้อมกับใส่เครื่องปรุงรสลงไปด้วย ชิมเมนูนี้ได้รสบะหมี่ที่นุ่มเด้ง เกี๊ยวนุ่มเต็มปากเต็มคำ หมูแดงไม่หวานมาก หมูกรอบเนื้อนุ่มหนังกรอบ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวซี่โครงหมูอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากนั้นมาชิม ข้าวซี่โครงหมูอบ (30 บาท) ที่ใช้ข้าวหอมมะลิหุงสุกร้อนๆ ราดด้วยซี่โครงหมูอ่อนที่นำมาหมักกับเครื่องเทศจีน ก่อนจะนำไปตุ๋นจนเปื่อยถึง 4 ชั่วโมง และเสิร์ฟมาพร้อมกับคะน้าฮ่องกงลวก ลองชิมแล้วซี่โครงหมูเปื่อยนุ่มละลายในปาก น้ำราดที่ได้จากการตุ๋นซี่โครงก็หวานหอมดี คะน้าฮ่องกงกรอบๆ กินคู่กันเพิ่มรสชาติ

    และมาถึงเมนู กระเพาะปลา (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ทางร้านใช้กระเพาะปลาแท้ๆ มาล้างและต้มหลายเที่ยว ทำให้ไม่คาว ไม่มัน ส่วนตัวน้ำซุปนั้นต้มแยกกันต่างหาก เป็นกระเพาะปลาสไตล์จีนที่ใส่ทั้งเลือด น่องไก่ หน่อไม้ เห็ดหอม และไข่นกกระทา ซึ่งเวลาจะเสิร์ฟนั้นถึงจะนำน้ำซุป กระเพาะปลา และเครื่องเคราต่างๆ มาปรุงผสมกัน กระเพาะปลาชามนี้หอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แต่ถ้าใครที่ชอบให้มีรสชาติจัดจ้านขึ้น จะเติมจิ๊กโช่วลงไปอีกเล็กน้อยก็ยังได้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระเพาะปลา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนเมนูกินเล่นที่ร้านนี้ก็มีให้ลองชิม อย่างเช่น ปอเปี๊ยะสด (20 บาท) ที่จะใช้แผ่นแป้งปอเปี๊ยะมาห่อกับไส้ที่ใส่มาทั้งหมูตั้ง กุนเชียง เต้าหู้พะโล้ ถั่วงอก แตงกวา และไข่เจียว ส่วนน้ำราดจะเป็นสไตล์จีนที่มีส่วนผสมของน้ำมะขามเปียก น้ำกะทิ พริกไทย และเครื่องเทศจีน นำมาเคี่ยวรวมกันหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้น้ำราดที่เหนียวข้น ชิมปอเปี๊ยะสดได้รสหวานๆ เค็มๆ หอมเครื่องเทศจีน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปอเปี๊ยะสด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนอีกเมนูหนึ่งที่ลองชิมก็คือ ปอเปี๊ยะทอดและถุงทอง (20 บาท) เริ่มจากปอเปี๊ยทอดที่นำแป้งปอเปี๊ยะมาห่อกับไส้วุ้นเส้น ผสมกับหมูสับและผักรวม ก่อนจะนำไปทอด ส่วนถุงทองจะใส่ไส้ ข้าวโพด แครอท ถั่วลันเตา และหมูสับ จากนั้นก็นำไปทอดให้เหลืองกรอบ ชิมทั้งสองอย่างนั้นกรอบนอกนุ่มใน จิ้มกับน้ำจิ้มหวานที่ทางร้านเคี่ยวเอง ซึ่งจะได้รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ จากบ๊วย ซึ่งหากใครอยากจะกินปอเปี๊ยะทอด หรือถุงทองเพียงอย่างเดียว ก็สามารถสั่งแยกเป็นจานๆ ก็ได้ หรือจะสั่งรวมกันมาในจานเดียวแบบเราก็ไม่ว่ากัน

    หรือถ้าใครอยากลองเมนูอื่นๆ ก็แวะเวียนมาลิ้มชิมรสกันได้ทั้ง บะหมี่หมูแดงแห้ง/น้ำ (25 บาท พิเศษ 30 บาท) เกี๊ยวหมูกรอบแห้ง/น้ำ (30 บาท พิเศษ 35 บาท) ข้าวหมูแดงหมูกรอบ (30 บาท พิเศษ 35 บาท) ข้าวไก่ย่างเทริยากิ (30 บาท) เป็นต้น นักกินคนไหนที่ชื่นชอบบะหมี่เหนียวนุ่มรสชาติถูกปากแบบนี้ ก็ต้องไปลองชิมกันที่ร้าน “บะหมี่หัวโต”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปอเปี๊ยะทอดและถุงทอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “บะหมี่หัวโต” ตั้งอยู่ที่ 436/28 ถ.นครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางจากถนนนครไชยศรี ให้วิ่งตรงมาทางตลาดศรีย่าน จนถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งมาอีกประมาณ 100 เมตร สังเกตทางซ้ายมือจะมีทางเข้าห้างท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เลี้ยวเข้าไป ร้านบะหมี่หัวโตจะอยู่ด้านหลังห้าง สามารถจอดรถได้บริเวณที่จอดรถของห้าง (เสียค่าจอด) ทางร้านรับออกงาน รับทำอาหารกล่อง และมีบริการเดลิเวอรี่ (คิดค่าส่งตามระยะทาง) ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. (มีวันหยุดเดือนละ 2-3 ครั้ง ควรโทรศัพท์ถามก่อน) โทร. 08-9171-3883, 08-0588-7771

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “บะหมี่หัวโต

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000090924-</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : บะหมี่หัวโต

    ประเภทอาหาร : อาหารจานเดียว

    เมนูจานเด่น : บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดงหมูกรอบ,ข้าวซี่โครงหมูอบ,กระเพาะปลา,ปอเปี๊ยะสด,ปอเปี๊ยะทอด,ถุงทอง

    บรรยากาศร้าน : โปร่งโล่ง

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 436/28 ถ.นครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางจากถนนนครไชยศรี ให้วิ่งตรงมาทางตลาดศรีย่าน จนถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งมาอีกประมาณ 100 เมตร สังเกตทางซ้ายมือจะมีทางเข้าห้างท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้เลี้ยวเข้าไป ร้านบะหมี่หัวโตจะอยู่ด้านหลังห้าง

    สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณที่จอดรถของห้าง (เสียค่าจอด)

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. (มีวันหยุดเดือนละ 2-3 ครั้ง ควรโทรศัพท์ถามก่อน)

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-9171-3883, 08-0588-7771 ทางร้านรับออกงาน รับทำอาหารกล่อง และมีบริการเดลิเวอรี่ (คิดค่าส่งตามระยะทาง)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>






    .
     
  11. ~:*พนมวัน*:~

    ~:*พนมวัน*:~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,214
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    'เส้นบะหมี่ไข่'หาตลาดขายได้ไม่ยาก


    [​IMG]



    ปัจจุบันอาหารจานเส้นเข้ามามีบทบาทกลายเป็นอาหารจานหลักของคนไทยทั่วไป มีคนหันมาทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งก็เปิดช่องว่างอาชีพผลิตวัตถุดิบองค์ประกอบในการขายก๋วยเตี๋ยวให้กว้าง ขึ้น และวันนี้ทางทีมงาน “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำ “เส้นบะหมี่ไข่” ขาย ซึ่งหาตลาดขายได้ไม่ยาก มาให้ลองพิจารณากัน...

    สุปรีชา หงส์สวาสดิวัฒน์ หรือ “อากู๋ชา” เจ้าของสูตร “บะหมี่ไข่” และเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ จ.ราชบุรี เล่าให้ฟังว่า สู้ชีวิตมานาน กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ผ่านอะไรมามากมาย และเปลี่ยนอาชีพมาหลากหลายอาชีพ เริ่มตั้งแต่ช่วงเป็นวัยรุ่นก็รับจ้างปั้นโอ่ง ทำอยู่นานหลายปีก็เบื่ออาชีพลูกจ้าง จึงขยับขึ้นมาขายโอ่งแทน แต่อาชีพนี้ก็มีค่าใช้จ่ายมาก ทั้งค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายจิปาถะ จึงเปลี่ยนเป็นประกอบอาชีพค้าขายอย่างอื่น อาทิ ฟูก ที่นอน แต่ก็ทำได้ไม่เวิร์ก เลยเปลี่ยนเป็นขายของกินตามตลาดนัด อย่าง ปลาทู หอยแมลงภู่ กุ้ง เรียกว่าขายสารพัดอย่างที่มีกำไรเลี้ยงครอบครัว

    “แล้วต่อมาก็ขายผลไม้ ทำประมาณ 2 ปีก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่เหลือเงินเก็บ สุดท้ายพี่สาวก็เลยบอกให้ลองขายก๋วยเตี๋ยวดู ผมก็โอเคเลย เพราะมีคนสอนวิธีทำให้ ขายก๋วยเตี๋ยวได้ระยะหนึ่งก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 3 ปีก็หันมาทำลูกชิ้นเอง เพราะแต่ละวันเราใช้ลูกชิ้นเยอะ ก็ต้องเอาต้นทุนไปลงค่าลูกชิ้นวันหนึ่งเกือบ 2 ใน 3 ของรายได้ พอทำลูกชิ้นเอง ก๋วยเตี๋ยวยิ่งขายดีกว่าเดิม ต่อมาก็ทำบะหมี่และเกี๊ยวเองเพิ่มเติม โดยเรียนจากผู้ที่เคยทำอาชีพนี้มาก่อนแล้ว ซึ่งสูตรทุกอย่างที่ได้มา จะนำมาปรับให้เป็นสูตรของตัวเอง” เจ้าของช่องทางทำกินรายนี้เล่า

    นอกจากขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว อากู๋ชายังทำลูกชิ้นหมูขายด้วย ในราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 120 บาท และขายส่งกิโลกรัมละ 100 บาท

    สำหรับการทำ “เส้นบะหมี่ไข่” นั้น อุปกรณ์ในการทำหลัก ๆ ก็มี เครื่องนวด, เครื่องกระแทกอัดแน่น, เครื่องรีด นอกนั้นก็จะเป็นอุปกรณ์ครัวเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ

    ส่วนผสม/วัตถุดิบการทำ “เส้นบะหมี่ไข่” หลัก ๆ ก็มี แป้งสาลี, โซเดียมคาร์บอเนต, ไข่ไก่, เกลือป่น, น้ำสะอาด และแป้งนวลที่ใช้สำหรับโรยบะหมี่

    ขั้นตอนการทำ “เส้นบะหมี่ไข่” เริ่มจากนำแป้งสาลีมาร่อน 3-4 ครั้งเพื่อให้แป้งเบา ตั้งพักไว้ในอ่างผสม ทำเป็นบ่อตรงกลางแป้ง ละลายเกลือป่นและโซเดียมคาร์บอเนตในน้ำสะอาด ตอกไข่ไก่ใส่ตามลงไป ตีให้เข้ากัน เสร็จแล้วเทลงไปผสมกับแป้งสาลี ทำการนวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี นำเข้าเครื่องกระแทกแป้งให้แน่น เสร็จเอาผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด ๆ คลุมปิดไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง (ในขั้นตอนนี้หากไม่มีเครื่องนวดและเครื่องกระแทกแป้ง ก็ใช้มือนวดไปเรื่อย ๆ ขณะนวดก็ทุ่มน้ำหนักมือไปที่แป้ง นวดจนแป้งเหนียวนุ่ม มีความยืดหยุ่น เด้ง ๆ ดีแล้วก็พักไว้)

    ต่อไปเป็นขั้นตอนการรีดแป้งเป็นแผ่น โดยโรยแป้งนวลลงบนกระบะที่จะรีดแผ่นแป้งเตรียมไว้ จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่ได้มาเข้าเครื่องรีด ทำการรีดทับให้เป็นแผ่นยาว ไล่จากหนาไปหาบางตามความต้องการ เสร็จแล้วนำแป้งนวลมาโรยเส้นบะหมี่ที่ได้ แล้วจับให้เป็นก้อนด้วยมือ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับจุดเด่นของเส้นบะหมี่ไข่เจ้านี้นั้น อากู๋ชาบอกว่า อยู่ที่ความเหนียว นุ่ม ยืดหยุ่น และก้อนใหญ่ โดยแต่ละก้อนน้ำหนักอยู่ที่ 100 กรัม หรือเท่ากับ 2 ก้อนของบะหมี่ที่วางขายตามตลาดทั่ว ๆ ไป การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน หากเก็บไว้นานไปเมื่อนำไปใช้เส้นจะเละ

    ใครสนใจ “เส้นบะหมี่ไข่” และลูกชิ้น ของอากู๋ชา ก็ต้องไปที่ร้าน ปรีชาลูกชิ้นหมู ปรีชาบะหมี่เกี๊ยว เลขที่ 73/2 หมู่ 10 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี อยู่บริเวณสามแยกเขางู ซึ่งร้านนี้ทำเงินจากการรับจัดงานนอกสถานที่ได้ด้วย โดยคนที่สนใจเรียนรู้การทำบะหมี่ แผ่นเกี๊ยว ลูกชิ้น เพื่อเป็น “ช่องทางทำกิน” ลองติดต่อสอบถามไปที่ โทร. 08-1197-5780 และ 08-1668-3998.

    เชาวลี ชุมขำ / ชนิกานต์ วงศ์สุธารส / อนุสรา แสงเงิน : เรื่อง-ภาพ




    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=525&contentId=154088-


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    กำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป


    [​IMG]

    อาหารช่วยชีวิตเวลาหิวของใครหลายคน บางคนนำไปปรับปรุงดัดแปลงเพิ่มความน่าทานตามใจชอบ แต่บางท่านก็ทานเพราะความจำเป็น วันนี้จึงขอพาไปรู้จักกับที่มาที่ไปของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน

    บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือ "มาม่า" ที่คนไทยชอบเรียกกันจนเคยชิน อาหารสำเร็จรูปสุดสะดวก แทบทุกคนต้องเคยพึ่งพาเวลาไม่สามารถหาอาหารอื่น ๆ ทานได้ หรือบางท่านก็ตั้งใจปรุงใส่นั่นใส่นี่ หรือนำเอาไปผัดไปยำจนออกมาหน้าตาน่ารับประทาน แต่เคยรู้กันไหมว่า เจ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากไหน

    ผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา คือ "อันโด โมโมฟุกุ" ชาวญี่ปุ่น ท่านเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทในกลุ่มนิชชิน ที่มาที่ไปก็มาจากในฤดูหนาวของโอซาก้า มีคนจำนวนมากต่างพากันไปต่อแถวรอกินราเม็นร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นจัด อันโดรู้สึกเห็นใจจึงเกิดไอเดียบางอย่างขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1958 โดยนำเส้นราเมนที่ได้จากการผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ มาทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้นออกไป ทำให้เก็บไว้ได้นาน และแค่เพียงเติมน้ำร้อน เส้นก็จะคืนสภาพเดิม สามารถกินได้ทันที ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะว่าเส้นผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่แล้ว จึงเกิดอาหารที่เรียกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น บรรจุอยู่ในชามที่เรียกกันว่า "ด้ง" ซึ่งค่อนข้างใหญ่เทอะทะ ต่อมาในค.ศ. 1971 จึงพัฒนาให้รับประทานได้สะดวกยิ่งขึ้นในรูปแบบถ้วยสำเร็จรูปมีส้อมใส่ไว้ให้ เสร็จสรรพ เวลาจะกินน้ำซุปก็สามารถยกถ้วยขึ้นมาซดได้เลย

    บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีวิธีทำที่สะดวกคือเพียงแค่เติมน้ำร้อนก็ทานได้ทันที และที่สำคัญมีราคาที่ไม่แพง ในปัจจุบันมีหลากหลายรสชาติ แล้วแต่ผู้ผลิตแต่ละเจ้าจะคิดค้นขึ้นมาได้ และถึงแม้ "นิชชิน" จะเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา แต่ "มาม่า" เป็นยี่ห้อแรกที่คนไทยรู้จัก จึงเรียกกันจนติดปาก แม้จะมียี่ห้ออื่นเข้ามา แต่ก็ยังเรียกมาม่าจนถึงปัจจุบัน.





    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=154140-

    http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=154140

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ผู้บริโภคอ่วม! ค่าแรง 300 ดันก๋วยเตี๋ยวพุ่งชามละ 70


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

    ผู้ผลิตอาหารชี้ การปรับค่าแรง 300 ดันราคาก๋วยเตี๋ยวพุ่งชามละ 70 บาท วอนขอเวลาปรับตัวรับค่าแรง 2 ปี

    เมื่อ วันที่ 1 สิงหาคม นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ออกมาแถลงว่า นโยบายค่าแรง 300 บาท จะส่งผลกระทบต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น 40% และส่งผ่านไปยังราคาอาหารให้ปรับเพิ่มขึ้นอีก 20% ซึ่งจะทำให้อาหารมีราคาเพิ่มสูงขึ้น อย่างเช่น ราคาก๋วยเตี๋ยวจากปัจจุบันอยู่ที่ชามละประมาณ 35-40 บาท ต้องปรับเพิ่มถึงชามละ 70 บาทเลยทีเดียว

    ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรง 300 จะกระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมาก หรือมีซัพพลายเชนยาว ซึ่งก็คือ อุตสาหกรรมมีการผลิตซ้ำหลายขั้นตอน เช่น อาหาร รองเท้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์

    สำหรับ โครงสร้างราคาก๋วยเตี๋ยวที่ปรับราคาขึ้น ก็เนื่องมาจากต้นทุนค่าแรงที่ปรับขึ้นของโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว โรงงานผลิตลูกชิ้น ผู้ผลิตถั่วงอก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตตลอดซัพพลายเชนสูงขึ้น ราคาก๋วยเตี๋ยวจึงพุ่งสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน

    อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (ประกอบไปด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย) ได้มีการหารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยมีความเห็นว่า ภาคเอกชนจะเข้าไปหารือกับรัฐบาลใหม่ทันทีใน 2 สัปดาห์แรกหลังตั้งรัฐบาล โดยเห็นว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำควรใช้วิธีทยอยขึ้นมากกว่าการปรับขึ้นครั้ง เดียว เพื่อให้เวลาในการปรับตัว 2 ปี



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก -http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20110801/402751/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87300%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%9970-80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A1.html-

    [​IMG]




    -http://hilight.kapook.com/view/61404-



    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [FONT=Tahoma,]ช็อก!ก๋วยเตี๋ยวจ่อขึ้นชามละ80บาท ส.อ.ท.ชี้พิษค่าแรง300-วอนรัฐให้เวลาปรับตัว2ปี



    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>นาย ดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทยว่า ที่ประชุมกกร. เตรียมเสนอผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาเป็นวาระแรก และภายใน 2 สัปดาห์หลังจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จะเสนอผลกระทบจากนโยบายประชานิยมต่างๆ ให้รัฐบาลทราบ หลังจากให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยศึกษา ซึ่งกกร.เป็นห่วงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

    ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ทำให้ต้นทุนต่างๆ สูงขึ้น และแนวโน้มราคาสินค้ายังแพงขึ้นจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบ ดังนั้น รัฐบาลควรปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดดีที่สุด หากตรึงราคามากเกินไป ปัญหาอื่นก็ตามมา จึงควรคุมราคาในระยะสั้นเท่านั้น

    นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลให้ราคาสินค้า เช่น ราคาก๋วยเตี๋ยวอาจขยับเพิ่มเป็น 70-80 บาท/ชาม จากปัจจุบันอยู่ที่ 30-35 บาท/ชาม ขณะที่สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าจะปรับขึ้นอีก 20% หลังรัฐบาลขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว 6 เดือน ดังนั้น นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวควรทำเป็นขั้นบันได โดยใช้เวลา 2 ปี เพื่อให้เอกชนได้ปรับตัว

    "โครงสร้างราคาก๋วยเตี๋ยวที่จะปรับราคา ขึ้นก็มาจากต้นทุนค่าแรง อย่างโรงงานผลิตลูกชิ้นค่าแรงกว่า 100 บาท/วัน ถ้าขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ก็ต้องขึ้นราคา ไหนจะโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว ต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ ทั้งถั่วงอก และพืชผักก็ต้องขึ้น ฐานมันจะปรับขึ้นหมดเป็นงูกินหาง เพื่อทดแทนค่าครองชีพที่ปรับตัวขึ้นสูง" นายวิศิษฏ์กล่าว

    ส่วนนายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ รองนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย เปิดเผยว่า 12 สมาคมอุตสาหกรรมที่มีสมาชิก 2,273 ราย ซึ่ง 95% เป็นเอสเอ็มอี และสัดส่วน 50% ของสมาชิกเป็นผู้ส่งออกที่จะได้รับผลกระทบทันทีและรุนแรงจากการปรับขึ้นค่า แรงขั้นต่ำ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออก 107,680 ล้านบาท/ปี และมีแรงงาน 972,000 คน ดังนั้น หากปรับค่าแรงเป็น 300 บาท/วัน จะทำให้ต้นทุนค่าแรงสูงขึ้น 35-40% แต่ต้นทุนรวมจะสูงขึ้นจากฐานเดิม 12-15% ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาขายขึ้น ขณะที่ทางลูกค้ายอมรับไม่ได้และจะยกเลิกคำสั่งซื้อ หันไปซื้อสินค้าประเทศคู่แข่งแทนทั้ง จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย

    "ประเมิน แล้วว่าหากต้องขึ้นค่าแรง 300 บาทในทันที จะทำให้ 12 สมาคมต้องปลดแรงงานทันที 3 แสนคน คิดเป็น 30% ของแรงงานกว่า 9 แสนคน ขณะที่ผู้ประกอบการอาจต้องปิดกิจการถึง 50% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมด เพราะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ ซึ่งผลกระทบตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาว่างงาน และอาจทำให้ประเทศเสียหายนับแสนล้าน จึงเตรียมเสนอผลกระทบให้รัฐบาลต่อไป" นายอารักษ์กล่าว
    [/FONT]




    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEF5TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB3TWc9PQ==-

     
  17. suwan405

    suwan405 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    อ่านแล้วหิวเลย น้ำย่อยอาละวาด
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ดราก้อน เอ็กซ์ เด่นรสเมนูบะหมี่จากไอเดีย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]






    สะดุดและติดใจในความแสนเก๋ด้านแนวคิดของร้าน ที่ดูแตกต่างจากร้านบะหมี่ทั่วไปที่คุ้นเคย เพราะร้านอาหารจีนแนวใหม่ “ดราก้อน เอ็กซ์” นำประสบการณ์จากตำหนักไท อีสานคลาสสิก และภัตตาคารมังกรหลวงมาขยายความอร่อยเพิ่มอีกหนึ่งมุม ที่โซนอาหารชั้น 5 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เน้นการเปิดทางเลือกให้นักชิมมีส่วนร่วม เลือกเส้นที่ใช่ เลือกซอสที่ชอบ เลือกหน้าตามใจ แล้วปรุงเป็นเมนูบะหมี่รสเด่นถูกปาก

    ถ้าชอบแนวคิดนี้ ลองมาใช้ความคิดสร้างสรรค์เมนูบะหมี่สักมื้อ แม่พลอยลองมาแล้ว และเริ่มต้นที่เมนูบะหมี่ ทำสดใหม่ทุกวัน มีบะหมี่สามรสสามสีให้เลือก เป็น บะหมี่งาดำ บะหมี่ใบเตย และ บะหมี่ไข่เข้มข้น เติมแต่งปรุงซอสปรุงพิเศษ เพิ่มเติมให้รสชาติบะหมี่ มี ซอสเซี่ยงไฮ้ ซอสเอ็กซ์โอ และ ซอสพริกไทยดำซึ่งใส่ได้ในปริมาณน้อย ปานกลาง และมาก ตามแต่จะเลือก หน้าบะหมี่ มีให้เลือก 13 หน้า

    ครั้นถึงคราวแม่พลอยอยากใช้ความคิดสร้างสรรค์บะหมี่ในแบบเส้นที่ใช่ ซอสที่ชอบและเลือกหน้าตามใจและถูกปากได้เมนูบะหมี่ในแนวคิดลองชิมรสบะหมี่ เมนูแรกเป็น บะหมี่งาดำซอสเอ็กซ์โอ หน้าเนื้อปู ดูสีสันโทนเดียวกันมีบรอกโคลีเคียงมาให้ บะหมี่เหนียวนุ่ม เนื้อปูสดซึมแทรกด้วยรสชาติของเอ็กซ์โอซอสออกหวาน เผ็ดนิดหน่อย ผสมรวมกัน แถมเด่นด้วยหอยเชลล์แห้งหรือกังป๋วย

    บะหมี่ไข่เข้มข้น แม่พลอยเลือก หน้าเฉโปซอสพริกไทยดำ บะหมี่ไข่เหนียวนุ่ม ลงตัวกับซอสพริกไทยดำเข้มข้น คุ้นลิ้น เฉโปที่มีทั้งเป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบทั้งนุ่มทั้งกรอบทั้งหอม ไม่เชื่อต้องลอง

    บะหมี่ใบเตย แม่พลอยสั่งแบบสร้างสรรค์เป็นเมนูเจ เลือก หน้าเห็ดชิเมจิซอสเซี่ยงไฮ้ เพราะได้รับคำแนะนำว่า ถ้าจะทานแบบเจจริง ๆ ต้องเลือกซอสเซี่ยงไฮ้ เมนูนี้ไม่มีจืด เพราะมีรสชาติออกเผ็ดของซอสเซี่ยงไฮ้

    ถ้ายังรู้สึกว่าทานบะหมี่หน้าต่าง ๆ ที่คลุกซอสหลากประเภทดูแห้งไป แนะนำให้สั่ง ซุปซี่โครงหมู ซุปปีกเป็ดตุ๋นยาจีน และ ซุปซีฟู้ด รับรองถึงความกลมกล่อมทุกเมนูชอบแบบทานเล่นแบบเบา ๆ แนะนำ สลัดผักหอยเชลล์คานิ ติดใจตรงน้ำสลัดที่มีส่วนผสมวาซาบิทานแล้วรู้สึกโล่งคอสดชื่นดีจริง ถ้านักชิมชอบทานของทานเล่นประเภท ขนมจีบ ซาลาเปา โดยเฉพาะขนมจีบปู ขนมจีบกุ้ง และขนมจีบหมู แนะนำให้ลองสั่งมาทานดู ไม่มีผิดหวัง

    แฮ่กึ๊น เป็นหนึ่งเมนูทานเล่น ที่มีความกรอบนิด ๆ ของแผ่นเต้าหู้ม้วนกุ้งสดเป็นไส้ในเป็นความเด่นจิ้มทานกับน้ำจิ้มบ๊วย เปาะเปี๊ยะขาปู ในแบบฟิวชั่น แบบตะวันตกพบตะวันออก ที่ใช้กุ้ง เนื้อปู เคล้ารสมายองเนส ชีสทอดออกกรอบนอกนุ่มในทานตอนร้อน ๆ รสชาติออกหอมหวาน

    ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติที่มีทั้ง เมนูบะหมี่ อาหารจานเดียว อาหารสั่งเป็นเซต ลองแวะเวียนผ่านไป เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ตรงไปสร้างสรรค์เมนูบะหมี่ในแบบต้องการ ที่ดราก้อน เอ็กซ์ สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2550-0362.

    เรื่อง/ภาพ : แม่พลอย



    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=501&contentId=155331-



    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > อาฟเตอร์เวิร์ก > เดลินิวส์ชวนชิม > ดราก้อน เอ็กซ์ เด่นรสเมนูบะหมี่จากไ



    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทำไมจึงเรียกขนมจีน


    [​IMG]

    ขนมจีน อาหารประเภทเส้นทานคู่กับน้ำยาต่าง ๆ ทั้งที่เป็นอาหารคาวแต่ทำไมเรียกขนม แล้วมาจากจีนหรือเปล่า วันนี้มีเฉลย

    ขนมจีน อาหารคาวชนิดหนึ่งของไทย เวลารับประทานต้องทานคู่กันระหว่างเส้นขนมจีนยาว ๆ สีขาวที่ทำจากแป้งกับน้ำยาชนิดต่าง ๆ มากมาย ทั้งน้ำยากะทิ น้ำยาป่า หรือแกงเขียวหวาน เป็นต้น ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น แกล้มกับผักสด เช่น กะหล่ำปลี ถั่วงอก ผักดอง แตงกวา ฯลฯ มองดูแล้ว นี่ไม่ใช่ขนมสักนิด และก็ไม่น่าจะมาจากประเทศจีนด้วย แล้วชื่อ "ขนมจีน" มาจากไหน

    ขนมจีน ไม่ได้มาจากประเทศจีน แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า "คนอมจิน" ซึ่งเป็นภาษามอญ "คนอม" หมายถึง จับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ส่วน "จิน" แปลว่า ทำให้สุก คำว่า "คนอม" น่าจะใกล้เคียงกับคำในภาษาไทยว่า "เข้าหนม" แปลว่าข้าวที่นำมานวดให้เป็นแป้งเสียก่อน ซึ่งภายหลังน่าจะกร่อนเป็น "ขนม" จริง ๆ แล้ว ขนม ในความหมายดั้งเดิมจึงมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจในปัจจุบัน ขนม หรือ หนม ในภาษาเขมร หรือ คนอม ในภาษามอญหมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง ดังนั้นขนมจีน จึงน่าจะเพี้ยนมาจาก คนอมจิน

    ดั้งเดิมทีเดียวขนมจีนเป็นอาหารมอญ แล้วจึงแพร่หลายไปสู่ชนชาติอื่น ๆ จนเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมจนกระทั่งถึงปัจจุบัน สามารถหาทานได้ทั่วไป ภาษาเหนือเรียกขนมจีนว่า "ขนมเส้น" ภาษาอีสาน เรียกว่า "ข้าวปุ้น".


    .

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=155609-



    .

    http://www.dailynews.co.th/newstartp...ntentId=155609


    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขี่รถถีบผ่อบ้านโบราณเมืองแพร่

    คอลัมน์ตำนานแผ่นดิน : ขี่รถถีบผ่อบ้านโบราณเมืองแพร่ : อ.ไชยแสง กิระชัยวนิช

    "เฮียบ๊วย" คุณเฉลิมพันธ์ เหล่าสุขสมบูรณ์ ชมรมร้านอาหารเมืองแพร่ จองตั๋วให้ผมพาแม่มะลิ นั่งเครื่องบินลำเล็กๆ 18 ที่นั่ง ไปสัมผัสอากาศเย็นสบาย กลางหุบเขา จ.แพร่ เมืองเล็กๆ ที่เป็นทางผ่านขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่เป็นเมืองที่มีอารยธรรมเก่าแก่กว่า 1,200 ปี แพร่จึงเป็นเมืองโบราณกว่าเชียงใหม่



    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]




    [​IMG]



    เที่ยวเมืองแพร่ครั้งนี้ผมได้ คุณโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ชวนผมขี่รถถีบผ่อบ้านโบราณ ไหว้พระ 9 วัดในเมืองแพร่อย่างมีความสุข อาจารย์รัตน์ พนมขวัญ คุณพ่อของนายกโชคชัยเกิดที่กรุงเทพฯ บ้านเดิมอยู่ในสวนพลูที่ตลาดพลู ปัจจุบันสวนหมากพลูถูกโค่นทิ้งกลายเป็นห้างเดอะมอลล์ท่าพระ อาจารย์รัตน์ ชอบชีวิตชนบท จึงไปเป็นนักเรียนป่าไม้รุ่นที่ 2 จ.แพร่ จบแล้วใช้ชีวิตดูแลป่าไม้สักทั่วภาคเหนือ ขึ้นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้แพร่ บุกเบิกวิชาการป่าไม้จนมีชื่อเสียง มีลูกศิษย์ดูแลป่าทุกภาคทั่วประเทศ ชาวป่าไม้จึงร่วมใจกับสร้างอนุสาวรีย์อาจารย์รัตน์ พนมขวัญ ไว้เป็นอนุสรณ์ที่จ.แพร่
    ส่วนลูกชายชอบชีวิตการปกครอง เรียนจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบ แล้วไปเรียนวิชาช่างที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กลับมาทำงานปกครองดูแลเทศบาลเมืองแพร่ นายกโชคชัยพยายามปกป้องของดีเมืองแพร่ ไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลานชาวแพร่ตลอดไป
    นายกโชคชัยอยากให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สัมผัสเมืองแพร่อย่างใกล้ชิด จึงจัดรถถีบ (รถจักรยาน) 200 คัน เก็บไว้ที่เทศบาลเมืองแพร่ โรงแรมที่พักอีกหลายแห่ง ให้นักท่องเที่ยวยืมถีบรถชมเมืองแพร่ สูดอากาศสะอาดทั่วเมืองแพร่ ถีบรถในเมืองแพร่ได้ออกกำลังกาย เป็นความสุขท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
    เรือนไม้สักโรงเรียนป่าไม้แพร่ เรือนไม้สักบริษัทอีสต์เอเซียติ๊ก เรือนไม้สักมิชชั่นนารี คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ที่ผู้ว่าฯ แพร่ทุกคนไม้กล้าขึ้นไปนอนชั้นสอง บ้านวงศ์บุรี ที่ถอดแบบและขนไม้สักทองมาสร้าง พระที่นั่งวิมานเมฆ บ้านไม้สักอายุกว่า 100 ปีในเมืองแพร่ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
    อ.ชินวร ชมภูพันธ์ คณะวัฒนธรรมเมืองแพร่ จัดทำหนังสือ ผ่อบ้าน หันเมือง รวมภาพและเรื่องราวบ้านโบราณเมืองแพร่ไว้เป็นเล่มใหญ่ จนรัฐบาลสหรัฐยกย่องให้ชาวเมืองแพร่ เป็นนักอนุรักษ์ที่เก็บรักษามรดกวัฒนธรรมท้องถิ่น ไว้เป็นประวัติศาสตร์ของไทยและโลกด้วย เทศบาลเมืองแพร่ โทร.0-5451-1060 www.phraecity.go.th
    ข้าวซอยเจ๊เล็ก อร่อยที่สุดในเมืองแพร่
    ถีบรถเที่ยวเมืองแพร่กับนายกโชคชัยถึงเที่ยง เฮียบ๊วยพาผมไปกิน ข้าวซอยเจ๊เล็ก ร้านขายข้าวซอยเก่าแก่ของเมืองแพร่ "เจ๊เล็ก" คุณปัทมา ประเทศรัตน์ ทำข้าวซอยเนื้อเปื่อย ข้าวซอยไก่ ข้าวซอยกระดูกหมู ข้าวซอยเครื่องในหมู ราดน้ำข้าวซอยขลุกขลิก โรยข้าวซอยทอดมาให้กินคู่กัน
    เส้นข้าวซอยเหนียวนุ่ม อร่อยเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ เจ๊เล็กใช้ไข่เป็ดที่เลี้ยงกันมากที่บ้านทุ่งโฮ้ง ตีผสมลงในแป้งนวดให้ข้าวซอยเหนียวขึ้น น้ำข้าวซอยสูตรเด็ดของเจ๊เล็ก ใช้พริกจากยอดดอยที่ปลูกโดยชาวกะเหรี่ยง โขลกกับพริกไทยเม็ดตรามือ ทำให้พริกแกงมีกลิ่นหอม รสเผ็ดอร่อยเป็นพิเศษ
    ข้าวซอยเจ๊เล็ก ใช้น้ำกะทิสดๆ เคี่ยวกับพริกแกงให้หอมมกลมกล่อม ราดน้ำแกงพอให้ชุ่มเส้นข้าวซอย ใส่เนื้อเปื่อยน่องไก่ตุ๋นซี่โครงหมูตุ๋น กินกับผักกาดดองที่ล้างจนสะอาด ไม่มีกลิ่นเปรี้ยวตกค้าง ผมกินข้าวซอยเจ๊เล็กอร่อยหมดชาม ไม่เหลือแม้แต่น้ำแกงที่ให้มานิดเดียว เจ๊เล็กบอกว่าน้ำแกงแห้งขลุกขลิกอย่างนี้อร่อยจนหยดสุดท้าย
    ราดหน้าหมูอึ๋ม มีไข่ดาวโปะมาบนเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดกรอบๆ กับเนื้อหมูหมักนุ่มๆ ขนมจีบ ที่ลูกสาวเจ๊เล็กทำขึ้นมาให้ลูกค้ากินคู่กับข้าวซอย ประภาส ประเทศรัตน์ ลูกสาวคนเล็ก เรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ แต่มาช่วยแม่ขายข้าวซอยทำ หมูสะเต๊ะ อร่อยๆ ให้ผมกินกับข้าวซอย
    กินข้าวซอยจนพุงกาง เจ๊เล็กทำลอดช่องน้ำกะทิแตงไทย ใส่น้ำแข็งเกล็ดมาให้กินชื่นใจแบบไทยๆ ทุกวันนี้เจ๊เล็กให้ลูกๆ ออกไปเปิดเจ๊เล็กข้าวซอยอีกสองร้าน น้องบอมคนเล็กมาช่วยแม่ทำ ข้าวซอยทอด ใส่ถุงขาย เตรียมขยายกิจการข้าวซอยของแม่ ให้ร้านข้าวซอยเจ๊เล็ก กระจายออกไปทั่วภาคเหนือ
    แต่ผมขอแนะนำให้ไปกินข้าวซอยเจ๊เล็ก ที่ร้านดั้งเดิมริมถนนน้ำคือ เป็นบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี ข้างในมีเรือนไม้สักหลังใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ นักเรียนดีเด่นของเมืองแพร่ ทีมงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ไปกินข้าวซอยอร่อยๆ ในบ้านเกิดรองนายกรัฐมนตรี มีที่ไหนในโลกครับ
    ร้านข้าวซอยเจ๊เล็ก จ.แพร่ โทร.08-9490-3526, 0-5462-0113



    -http://www.komchadluek.net/detail/20110807/105173/%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%96%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%88.html-





    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...