พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    .

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%93-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B9%8C%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%AD-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%88-%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4.68899/page-110-

    .
     
  2. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดี วันเสาร์ ครับ สมาชิกทุกท่าน
     
  3. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    นํ้าผุด-นํ้าล้น ทำเงินทองกระแส"ฮวงจุ้ย"

    วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD><TD id=ext-gen16 style="WIDTH: 57px">รูปภาพ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]



    [​IMG]

    งานแฮนด์เมด งานประติมากรรม ในรูปแบบ น้ำผุด-น้ำล้น น้ำตกหินจำลอง เป็นงานที่นำความสวยงามของงานดีไซน์ผนวกเข้ากับหลัก ’ฮวงจุ้ย“ ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นไอเดียที่ทั้งสวยงามและสร้างความมั่นใจด้านสิริมงคล จนกลายเป็นอีกหนึ่ง ’ช่องทางทำกิน“ ที่สามารถสร้างจุดเด่นเน้นจุดขายให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี...


    กุ้ง-ดรุณี กลั่นกลิ่นหอม เป็นเจ้าของร้าน “น้ำผุด-ดีมีทวี” ที่มีไอเดียสร้างสรรค์งานประติมากรรม ’น้ำผุด-น้ำล้น เสริมสิริมงคล“ ออกมาจำหน่าย เจ้าตัวเล่าว่า เรียนจบศิลปะด้านประติมากรรมมาโดยตรง ซึ่งหลังจากเรียนจบก็อยากที่จะนำวิชาความรู้ด้านศิลปะที่เรียน มาสร้างสรรค์ผลงานให้ทุกคนได้เสพงานศิลปะกัน

    สำหรับการที่มาทำงานประติมากรรม น้ำผุด-น้ำล้น จำลอง ก็เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ใช้ศิลปะทางด้านประติมากรรม รวมกับไอเดีย อีกอย่าง น้ำผุด-น้ำล้น นั้นก็เป็นศาสตร์ฮวงจุ้ยที่หลายคนมีความเชื่อ ว่าถ้านำมาตกแต่งบ้านหรือที่ทำงานจะเป็นสิริมงคล จึงทำให้งานตัวนี้เป็นงานที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ที่ชอบตกแต่งบ้านในปัจจุบัน

    ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มตกแต่งบ้านสวยงาม กับตกแต่งแบบเสริมฮวงจุ้ย

    “เราเห็นว่างานที่มีการทำขายอยู่ในตลาดทั่วไปนั้นมีแต่ขนาดที่ใหญ่ เราเห็นว่าขนาดใหญ่นั้นมีราคาที่สูงและการขนส่งก็ค่อนข้างลำบาก เราจึงเกิดไอเดียสร้างสรรค์ทำให้ขนาดเล็กลง เป็นการขยายกลุ่มลูกค้าทำให้ตลาดกว้างขึ้น ซึ่งงานของเราก็จะเน้นให้งานประติมากรรมออกมามีดีไซน์ที่สวยงามหลากหลายมากขึ้น โดยเราออกแบบทำเองทั้งหมด”

    การทำ น้ำผุด-น้ำล้น จำลองนี้ คนที่จะทำควรจะต้องมีความรู้ในเรื่องของการตกแต่งอยู่บ้าง เพื่อไว้แนะนำลูกค้าได้ว่าควรจะใช้สีไหน แบบไหน จึงจะเหมาะกับสถานที่ที่ลูกค้าจะนำไปจัดวาง...

    กุ้งกล่าวต่อว่า จุดเด่นของงานที่ทำออกมานอกจากจะเน้นดีไซน์ที่สวยงามผสมผสานศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว ชิ้นงานยังมีการนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่สามารถหาได้ง่าย ๆ มาประยุกต์ดัดแปลง มาตกแต่งเพิ่ม ให้เกิดความสวยงาม อย่างพวก หินน้ำตก หินสี ถ้วยเซรามิก เป็นต้น ส่วนงานที่เป็นชิ้นงานประติมากรรมทรงต่าง ๆ นั้น ก็จะปั้นขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง

    ชิ้นงานที่ปั้นขึ้นแบบเองนั้น จะเป็นการลดต้นทุนไปได้ เพราะถ้าไปจ้างขึ้นแบบก็จะต้องเสียค่าแบบอีกประมาณ 3,000 บาทเลยทีเดียว

    วัสดุอุปกรณ์ในการทำแบบ ก็จะใช้... ปูนซีเมนต์, ทราย, สีฝุ่น, ซิลิโคน และวัสดุที่ใช้ขึ้นแบบก็จะใช้ แวกซ์, ดินน้ำมัน, ดินเหนียว แล้วแต่ความถนัด ส่วนที่ใช้ประกอบทำเป็น น้ำผุด-น้ำล้น นั้น ก็มี ปั๊มน้ำ ขนาด 7.5 โวลต์ (เป็นปั๊มที่ใช้กับตู้ปลาทั่วไป) ที่เหลือก็เป็นของตกแต่ง พวกหินน้ำตก แผ่นหินทรงต่าง ๆ เป็นต้น

    วิธีการทำแบบ...เริ่มจากการขึ้นแบบทำแม่พิมพ์ตามแบบที่ต้องการด้วยแวกซ์ หรือวัสดุอื่น ๆ ตามถนัด จากนั้นก็ใช้เทคนิคการปั้นให้ได้รูปแบบตามที่ต้องการ เมื่อทำการปั้นแบบตามที่ต้องการเสร็จ ก็ใช้ดินน้ำมันทำเป็นเส้นแบ่งครึ่งแบบให้เรียบร้อย แล้วก็ใช้วาสลีนทาไปที่แบบครึ่งหนึ่งก่อน จากนั้นก็ใช้ซิลิโคนเททับลงไปให้ได้ความหนาพอประมาณ พอซิลิโคนแห้งก็ใช้ปูนปลาสเตอร์หล่อทับ พอปูนแห้งก็มาทำแบบเดิมอีกข้างที่เหลือของแบบ พอทั้งสองข้างแห้งสนิทก็แกะแยกออก ก็จะได้แม่พิมพ์สำหรับหล่อแบบที่เราต้องการ ที่เป็นแบบ 2 ชิ้นประกบกัน

    ที่ใช้ซิลิโคนทำแม่พิมพ์แทนยางพารานั้น ก็เพราะว่าซิลิโคนนั้นจะทำให้เนื้องานออกมาดีกว่า แม่พิมพ์ไม่บิดเบี้ยว ที่สำคัญมีความคงทนอยู่ได้นานกว่าการใช้ยางพาราทำ

    หลังจากที่ได้แม่พิมพ์ ก็ทำการหล่อแบบที่ต้องการโดยใช้ปูนซีเมนต์กับทรายผสมกัน ในอัตราส่วนประมาณ 60 : 40 ถ้าต้องการให้แบบมีสีสันตามที่ต้องการ ก็ให้ใส่สีฝุ่นลงไปในเนื้อปูนที่ผสม หลังจากที่ทำการผสมปูนเรียบร้อยแล้วก็นำไปเทใส่ในแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ พักทิ้งไว้จนปูนแห้งสนิท จึงทำการแกะออกจากแม่พิมพ์ ก็จะได้ชิ้นงานที่เป็น 2 ส่วน จากนั้นก็นำมาประกอบกัน เชื่อมติดด้วยปูนให้สนิท ตกแต่งให้เรียบร้อย เท่านี้ก็ได้แบบตามที่ต้องการ

    การใช้สีฝุ่นผสมเข้าไปในเนื้อปูนเลยนั้น สีของงานจะไม่ลอกเมื่อได้แบบเรียบร้อย ต่อไปก็เป็นการประกอบเข้าชุดให้สวยงาม โดยการประกอบเข้าชุดนั้นก็ขึ้นอยู่กับไอเดียการจัดวางตกแต่งตามต้องการ การประกอบนั้นเริ่มจากการเลือกอ่างเซรามิกที่สวยงาม เลือกให้สีเข้ากับงานประติมากรรมที่ทำ นำปั๊มน้ำวางตรงกลางอ่างหรือตำแหน่งที่จะจัดวางงานประติมากรรม นำที่ครอบมาครอบปั๊ม นำแผ่นหินมาวางทับ ตรวจดูให้ท่อจากปั๊มใส่ผ่านรูหินที่เจาะไว้แล้ว นำประติมากรรมแบบที่ทำมาวางบนแผ่นหินตามจินตนาการ ทำการตกแต่งด้วยหินกรวดตามความคิดสร้างสรรค์ เท่านี้ก็เรียบร้อย

    “การลงทุนทำงาน น้ำผุด-น้ำล้น-น้ำตก จำลอง ในลักษณะนี้ ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 50,000 บาท ซึ่งชิ้นงานที่ทำออกมานั้นจะมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 50% ของราคาขาย” กุ้งกล่าว
    น้ำผุด-น้ำล้น-น้ำตก ของกุ้งนั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ส่วนขนาดนั้นก็จะมีไซซ์ S-M-L โดยไซซ์ S-M มีขนาดประมาณ 8x8x10 นิ้ว ส่วน ไซซ์ L มีขนาดประมาณ 12x12x12 นิ้ว ราคาขายมีตั้งแต่ 790-890-1,290 บาท และที่เป็นไซซ์ใหญ่กว่าทั้ง 3 ไซซ์ที่ว่ามาก็มี ซึ่งราคาก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาด รูปแบบรายละเอียดของงานแต่ละชิ้น...


    สำหรับผู้ที่สนใจ น้ำผุด-น้ำล้น-น้ำตก สำหรับตกแต่งเสริมสิริมงคล ร้านของกุ้ง-ดรุณีนั้นอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 7 ซอย 8 เปิดขายทุกเสาร์-อาทิตย์ เบอร์โทรศัพท์คือ 08-6781-2499 และมีการนำแบบสินค้าใส่ไว้ในเว็บไซต์ให้ลูกค้าได้เลือกพิจารณาด้วย ที่ Fountainfengshui & D-Meetawee : water fountain, fengshi fountain, น้ำพุฮวงจุ้ย, น้ำตกตั้งโต๊ะ &#3605 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“.





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  4. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ความคิดเห็นในทางโลก
    ผมขอแสดงความยินดีกับคุณเพชรด้วยครับ ที่สอบผ่านข้อเขียน ของกระทรวงสาธารณสุขผ่าน ทั้ง 2 สาขา ผมคิดว่า คุณเพชร ทำงาน ประจำอยู่แล้ว และมีความสนใจในเรื่องแพทย์แผนไทย จึงได้ไปศึกษาเพิ่มเติม ทางด้านสมุนไพร ซึ่งเป็นการแพทย์ทางเลือก อีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถลดการใช้ยาแผนปัจจุบันลงจากเดิมได้ เพราะ ยาแผนปัจจุบัน ถ้าเราใช้กันเยอะๆ มันจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพของเรา และสะสมในร่างกาย ของเรา อีกด้วย แต่ถ้า มาเลือกใช้สมุนไพร ซึ่ง คนไทยเรา ก็ ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ผมว่า มีผลดีต่อสุขภาพเรามากขึ้น เพราะสมุนไพร จะไม่ตกค้างในร่างกายและผลข้างเคียง ก็ จะน้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน มีผลดีทางอ้อม แก่ประเทศชาติด้วย คือสามารถลดการนำเข้าตัวยาที่ต้องใช้ในการผลิตยาแผนปัจจุบัน ทำให้ช่วยให้ประเทศชาติลดงบประมาณรายจ่ายลงไป ซึ่งต่อไป ถ้าคุณเพชร ได้ศึกษาควมรู้ทางด้านแพทย์แผนไทยจบแล้ว ก็จะสามารถ นำความรู้ด้านยาสมุนไพร ต่างๆ มาแนะนำแก่สมาชิกชมรมทุกท่าน ให้รู้จักตัวยาสมุนไพรแต่ละตัว ว่ามีประโยชน์ อย่างไรบ้าง เพราะบางครั้งสมุนไพร เราอาจจะมีอยุ่ที่บ้านเราเอง โดยที่เราอาจจะไม่ทราบ ผมขอให้กำลังใจ คุณเพชร สอบผ่านทุกวิชา ด้วยนะครับ

    ความคิดเห็นทางธรรม
    ผม คิดว่า การที่คุณเพชร ได้ไป สอบข้อเขียน ของกระทรวงสาธารณสุข คุณเพชร น่าจะใช้หลัก อิทธิบาท 4 คือ ข้อ1. ฉันทะ คุณเพชร มีความสนใจ พอใจรักใคร่ในวิชาตัวยาสมุนไพร ซึ่งเป็นกำลังใจข้อแรก ที่จะช่วยให้คุณเพชร กระทำในข้ออื่นๆ ต่อไป ข้อ2. วิริเยนะ เมื่อคุณเพชร สนใจวิชาแพทย์แผนไทย ก็ จะมีความพากเพียร ในการค้นคว้าหาความรู้ อย่างขมักขเม้น ติวข้อสอบอยู่เสมอ ธรรมะ ข้อนี้สำคัญมาก จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ ข้อ3.จิตตะ คุณเพชร เอาใจใส่ฝักไฝ่ เกี่ยวกับตัวยาสมุนไพร แต่ละประเภท อยู่เสมอ จนจำขึ้นใจ ข้อสอบมาแบบไหน ตอบได้หมดครับ รวมถึง การมีสมาธิ ในการค้นคว้าหาความรู้ด้วยครับ ข้อ4.วิมังสา คุณเพชร คงจะสอดส่องเกี่ยวกับเหตุและผลของยาสมุนไพร อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดปัญญา ซึ่ง หลักทั้ง4 ข้อนี้ มันจะเชื่อมโยงกัน จะขาดข้อหนึ่งข้อใด ไปไม่ได้ ครับ ผมคิดว่า การที่คุณเพชรสามารถผ่านข้อเขียนได้แต่ละวิชา น่าจะนำหลัก ทั้ง4 ข้อนี้มาใช้ประโยชน์ในการศึกษาหาความรุ้ครับ ซึ่งข้อที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้อ2.วิริเยนะ เพราะว่าคนเรา จะทำกิจการอะไร ก็ตาม ถ้ามีข้อนี้แล้ว ผม รับรองว่า ประสบผลสำเร็จทุกรายครับ ขอให้คุณเพชร ประสบผลสำเร็จ สอบผ่านทุกวิชาด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2011
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">"ทางช้างเผือก บนกำแพงเมืองจีน" 1 ใน 10 สุดยอดภาพท้องฟ้ายามค่ำ </td> <td align="right" valign="baseline" width="102">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 มิถุนายน 2554 16:48 น.</td></tr></tbody></table>


    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพถ่ายทางช้างเผือก ที่พาดเหนือป้อมปราการกำแพงเมืองจีน โดยเซียวฮวา </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเยนซี - โครงการศึกษาดาราศาสตร์ระดับโลก The World at Night (TWAN) และ Global Astronomy Month ร่วมประกาศผลการประกวดภาพถ่าย "ท้องฟ้าและแผ่นดิน" จากช่างภาพผู้พิสมัยท้องฟ้ายามค่ำทั่วโลก ใน 2 หัวข้อใหญ่ ทั้ง "ความงดงามของธรรมชาติจักรวาลอันยิ่งใหญ่" และ "มลพิษที่กำลังสร้างปัญหา" โดยมีช่างภาพส่งรูปมาประกวดภาพท้องฟ้า จากทั่วทุกมุมโลก

    นิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิค ได้รายงานผลผู้ชนะ 10 คน กับ 10 ภาพมหัศจรรย์ท้องฟ้ายามค่ำ เมื่อกลางเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีภาพ "ทางช้างเผือก บนกำแพงเมืองจีน" ติด 1 ใน 10 สุดยอดภาพท้องฟ้ายามค่ำ (Best Night-Sky Pictures of 2011) ด้วย

    "แผ่นดินไม่เคยอวดว่ากว้าง แผ่นฟ้าไม่เคยอ้างว่าสูง" ภาพของ เซี่ยวหัว ที่บันทึกความงามของทางช้างเผือกหนือประตูป้อมบนกำแพงเมืองจีน ในเดือนเมษายนปีนี้ สะท้อนกังวานสัจธรรมความยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่งของธรรมชาติ ด้วยมีอยู่ก่อน และจะยังคงดำรงอยู่ต่อไปหลังจากที่ทุกสิ่งบนโลกมลายเป็นธุลี

    นายบาบัค ทาเฟรชิ ผู้ก่อตั้ง TWAN และ เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสิน กล่าวว่า เสน่ห์ของภาพท้องฟ้าจรดแผ่นดินนั้นมีมนต์สะกดสายตาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยามเช้า สาย สนธยา หรือราตรี การถ่ายภาพท้องฟ้า มวลหมู่ดาวในยามค่ำ อยู่ร่วมเฟรมเดียวกับผืนแผ่นดิน ยิ่งทำให้เราหลงใหลและรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

    (ชมภาพชนะการประกวด International Earth and Sky Photo Contest ของโครงการ The World at Night และ Global Astronomy Month )

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 1 (ร่วม)
    แสงออโรราสีเขียวมรกต ครอบเป็นโดมทางช้างเผือกเหนือโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาปธารน้ำแข็ง ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ถ่ายในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2553 โดย สเตฟาน เวตเตอร์ (Stephane Vetter)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 1 (ร่วม)
    ภาพดาวระยิบเหนือกลุ่มหมอกที่ปกคลุมหมู่บ้านริมทะเลสาบทรอนซี (Traunsee) และเทือกเขาแอลป์ ในออสเตรีย ถ่ายเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2553 โดยโธมัส คูวรัท (Thomas Kurat)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 1 (ร่วม)
    ต้นไม้กับมวลหมู่ดาวและลมหายใจของจักรวาล จากประเทศออสเตรเลีย ถ่ายเมื่อเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2553 โดย อเล็กซ์ เชอร์นีย์ (Alex Cherney)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 2
    แสงสว่างของเมืองอีสฟาฮาน (Isfahan) ประเทศอิหร่าน ดูเปล่งปลั่งดังทองที่ปลายของทางช้างเผือก ถ่ายในเดือนเมษายน 2553 โดย Mehdi Momenzadeh ในภาพปรากฎให้เห็นว่ามลภาวะกำลังสร้างปัญหาขึ้น ณ ที่แห่งนี้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 3 (ร่วม)
    สะพานในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ในเดือน กุมภาพันธ์ 2553 ถ่ายโดยมิเกล คลาโร (Miguel Claro)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 3 (ร่วม)
    ภาพมุมกว้างพาโนรามาของเกาะ เรออืนีอ็อง (Reunion Island) ประเทศฝรั่งเศส ถ่ายในเดือนกรกฎาคม 2553 โดยลุค เปอโรต์ (Luc Perrot) เห็นทางช้างเผือกเหนือ Piton de la Fournaise ภูเขาไฟที่ยังคุอยู่

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 4 (ร่วม)
    แม้ว่าแสงไฟจากเมืองเล็กๆ จะบดบังจักรวาล แต่ภาพที่ถ่ายจากภูเขาในเกาะ เรออืนีอ็อง (Reunion Island) ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนกันยายน 2553 โดย ลุค เปอโรต์ (Luc Perrot) นี้ ยังคงเห็นดวงดาวศุกร์สุกสกาว

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพถ่ายทางช้างเผือก ที่พาดเหนือป้อมปราการกำแพงเมืองจีน โดยเซียวฮวา </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 4 (ร่วม)
    ภาพถ่ายทางช้างเผือกที่พาดเหนือแนวกำแพงเมืองจีน ถ่ายในเดือนเมษายน 2554 ปีนี้เอง โดยเซียวฮวา ประหนึ่งว่าความยิ่งใหญ่ยืนยงและยาวนานนับพันๆ ปีของมนุษยชาติทั้งหลาย เมื่อเทียบไปแล้ว ต่างเป็นเพียงชั่วกระพริบตาของจักรวาล สรรพชีวิตล้วนเป็นเช่นนี้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="395"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="395"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 5 (ร่วม)
    แสงจากพอร์ตแลนด์ โอเรกอน สหรัฐอเมริกา ถ่ายในเดือนธันวาคม 2553 ถ่ายโดยเบน คานาลส์ (Ben Canales)

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="387"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="387"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อันดับ 5 (ร่วม)
    ดวงดาวหมุนวน ที่ขั้วโลกเหนือ ในเดือนธันวาคม 2553 ถ่ายจากชายฝั่งทะเลสาบโมโน ในแคลิฟอร์เนีย โดย แกรนท์ เคย์ (Grant Kaye)
    </td></tr></tbody></table>
    -http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000071407-

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สวัสดีวันอาทิตย์หรรษาครับ


    พึ่งกลับจากโรงพยาบาลมา

    ไว้มาเล่าให้ฟังครับ


    .
    </td></tr></tbody></table>
    เมื่อวานนี้ ตอนเย็น ผมไปปากคลองตลาด ไปหาซื้อพวงมาลัย ด้วยความรีบร้อนทำให้ผมเดินไม่ได้ดูทางให้ดี ข้อเท้าก็เลยแพลง

    แต่ในตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร กลับมาถึงบ้านก็ทานข้าว ก็ยังไม่ค่อยมีอาการ

    พอนอนไปถึง 5 ทุ่ม ปรากฎว่า มีอาการปวดที่เท้ามากพอสมควร ผมก็เลยไปหาหมอ ก่อนไป ผมลองโทร.ไปที่ บจ.กรุงไทยพานิชประกันภัย (ผม(ทำบัตรและ)ได้เบอร์จากบัตรเดบิต Blue Diamond ของบมจ.ธนาคารกรุงไทย ) แต่ไม่สามารถติดต่อกับพนักงานได้เนื่องจากเป็นเวลานอกทำการ และได้ทราบข้อมูลว่ามีรายชื่อของโรงพยาบาลที่ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษา พยาบาลล่วงหน้าภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครอง ซึ่งโรงพยาบาลที่ผมเ้ข้าไปรักษานั้น มีรายชื่ออยู่ในนั้นด้วย จากเอกสารของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย KTB Shop Smart Blue Diamond

    เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ปรากฎว่า ทางโรงพยาบาลไม่ทราบเรื่องนี้เลย ผมเองคงต้องสอบถามเข้าไปที่ บจ.กรุงไทยพานิชประกันภัย และ จะแจ้งเรื่องนี้เข้าไปที่ คปภ.พร้อมทั้งจะส่งเอกสารของบัตรเดบิต Blue Diamond ของบมจ.ธนาคารกรุงไทย ให้กับทาง คปภ.ได้รับทราบด้วยว่า เอกสารที่ให้กับลูกค้านั้น ไม่สามารถเชื่อถือได้

    ผมให้ ผบทบ.ผม จดชื่อพนักงานของโรงพยาบาลมา เพื่อเวลาที่ผมทำหนังสือถึง คปภ.และ บจ.กรุงไทยพานิชประกันภัย จะได้อ้างอิงถึงด้วย

    ดังนั้น หากท่านใดที่ทำบัตรเดบิตและมีประกันภัยอุบัติเหตุที่อยู่ในบัตร ต้องศึกษาให้ดีก่อน ก่อนที่จะทำ เนื่องจากอาจจะเจอในกรณีแบบผมก็ได้

    ที่สำคัญ หากได้ทำไปแล้ว ควรรับเอกสารที่เกี่ยวข้องกลับมาที่บ้านด้วย และ จดชื่อของพนักงานผู้เสนอการทำบัตรเดบิตไว้ด้วย ก็จะดี เพื่อในวาระต่อไป หากเกิดเหตุใดๆขึ้น จะได้อ้างอิงถึงได้ว่า มีพนักงานชื่อนี้ แจ้งรายละเอียดมาอย่างนี้ และรายละเอียดก็ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง การแจ้งต้องทำเป็นหนังสือแจ้งถึงธนาคาร , บริษัทประกัน และ คปภ. ดีที่สุดครับ



    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ดูแลสุขภาพควบคุมความดันโลหิตสูง ห่างไกล 'ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา'


    ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ในความจริงแน่แท้สิ่งนี้เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ต้องการของทุก ๆ คน ความรู้เข้าใจเท่าทันถึงต้นสายปลายเหตุก่อนต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยเหล่า นี้จึงมีความสำคัญยิ่ง

    ความดันโลหิตสูง เป็นอีกโรคหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นภัยเงียบคุกคามการดำเนินชีวิต รวมทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีกมากมายทั้ง โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หัวใจโต หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โรคไตเสื่อม ไตวาย นอกจากนี้ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา ยังถือเป็นอีกภาวะหนึ่งที่มีผลมาจาก โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งกลไกการเกิดขึ้น ผศ.นพ.ครรชิต ลิขิตธนสมบัติ อาจารย์ประจำหน่วยโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความรู้ว่า เมื่อเรามีโรคความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลานาน ๆ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ก็จะทำให้หัวใจห้องล่างด้านซ้ายทำงานหนักขึ้น เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างด้านซ้ายหนา ตามมาด้วยหัวใจห้องล่างด้านซ้ายโตและหัวใจล้มเหลวในที่สุด

    ผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนามักพบบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ห้องล่างด้านซ้าย ซึ่งที่พบกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เกิดจากผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หากปล่อยให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงนาน ๆ แล้วไม่ได้รับการรักษา กล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายก็จะทำงานหนักและหนาตัวขึ้น นอกจากนี้ภาวะผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนายังอาจเกิดจากโรคลิ้นหัวใจตีบซึ่งเป็น ลิ้นที่กั้นหัวใจห้องล่างซ้ายกับหลอดเลือดแดงใหญ่

    “เวลาที่เราพูดถึงกล้ามเนื้อหัวใจหนามักพูดถึงหัวใจห้องซ้ายล่าง ซึ่งเป็นห้องหลักที่สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆของร่างกาย หากดูจากระบบไหลเวียนโลหิตซึ่งโดยปกติเลือดเสียจะอยู่ที่หัวใจห้องขวาบนและ ห้องขวาล่าง จากนั้นจะส่งเลือดไปฟอกต่อที่ปอด เลือดดีก็จะกลับมาที่ห้องซ้ายบนและห้องซ้ายล่างตามลำดับ แล้วหัวใจห้องซ้ายล่างก็จะบีบตัวนำเลือดดีออกไปที่หลอดเลือดแดงใหญ่เพื่อไป เลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

    ซึ่งหากจะเปรียบ หัวใจห้องซ้ายล่าง เหมือนกับปั๊มน้ำ ปั๊มเลือดดีออกไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งในโรคความดันโลหิตสูงนั้น ความดันในหลอดเลือดแดงสูงขึ้นปั๊มดังกล่าวก็จะทำงานมากขึ้น เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างหนาขึ้น เลือดดีจากปอดและหัวใจห้องซ้ายบนก็ไม่สามารถลงมายังหัวใจห้องซ้ายล่างได้ เกิดการท้นของเลือดไปที่ปอดและเกิดภาวะน้ำท่วมปอดได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายหรือเหนื่อยอย่างเฉียบพลัน นอกจากนี้เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจหนามาก ๆ จะเกิดภาวะหัวใจห้องล่างซ้ายพองโตและเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวตามมาในที่สุด”

    การหลีกไกลปลอดภัยจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างหนาและล้มเหลว จึงควรต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกาย รักษาโรคความดันโลหิตสูงนับตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการลดความเค็มในอาหารทุกชนิด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การลดน้ำหนัก การพักผ่อนให้เพียงพอ และการทานยาลดความดันโลหิตเป็นประจำ

    “โรคความดันโลหิตสูง พบได้บ่อยขี้นเมื่อมีอายุสูงขึ้นราว 50 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ มักตรวจพบโดยบังเอิญ มีเพียงส่วนน้อยที่ปรากฏอาการ อย่างเช่น ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ปวดบริเวณท้ายทอย ฯลฯ การตรวจสุขภาพจึงมีความสำคัญซึ่งแพทย์จะช่วยวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดขึ้น ได้”

    นอกจากนี้ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา ยังสามารถพบ ได้ในผู้ป่วยอีกกลุ่มโรคหนึ่งที่เรียกว่า โรคกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างหนาผิดปกติแต่กำเนิด ( Hypertrophic Cardiomyopathy) ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก โรคดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงแต่อย่างใด แต่เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับพันธุกรรมซึ่งนับแต่เกิดมา กล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างมีความหนากว่าปกติโดยไม่มีสาเหตุ

    โรคดังกล่าวจะมีการหนาตัวของหัวใจห้องซ้ายล่าง โดยเฉพาะผนังที่กั้นระหว่างหัวใจห้องซ้ายล่างและขวาล่าง ซึ่งผนังจะหนามากจนอุดกั้นการไหลของเลือดจากหัวใจห้องซ้ายล่างออกไปยังหลอด เลือดแดงใหญ่ จากสถิติพบว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติมาแต่กำเนิดดังกล่าวเป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันที่ พบบ่อยที่สุดในคนที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีลงมา ต่างจากกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 35 ปีขี้นไป มักจะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันจากเส้นเลือดหัวใจตีบตัน แต่อย่างไรก็ตามโรคกล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายล่างหนาผิดปกติแต่กำเนิดนี้พบได้ น้อยและพบได้ไม่บ่อย

    “ในโรคนี้จะมีการหนาตัวของกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายโดยไม่ทราบสาเหตุและ ไม่เกี่ยวเนื่องกับความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโอกาสเสียชีวิตเฉียบพลันถือได้ว่าเป็นโรคทางพันธุกรรมซึ่ง จะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และถ้าตัดชิ้นเนื้อมาตรวจก็จะพบว่ากล้ามเนื้อบริเวณนั้นหนาตัว ไม่เรียงตัวกันเป็นระเบียบและแทรกด้วยผังพืด”

    การจะทราบได้ถึงความเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าวอาจมีความยากลำบากด้วยไม่มี สัญญาณใดบ่งบอก เว้นแต่มีประวัติคนในครอบครัวที่เคยเป็นโรคหรือเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว

    แต่อย่างไรก็ตามก่อนต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยดังกล่าวแพทย์ท่านเดิมฝากคำแนะ นำถึงโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเป็นโรคที่เป็นมาแต่ กำเนิดและอาจมีอาการขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากครอบครัวใดเคยมีประวัติของโรคดังกล่าวและถ้าอายุยังไม่มากและมีอาการ หน้ามืดหมดสติ เหนื่อยง่าย ฯลฯ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยก่อนที่โรคดังกล่าวจะ ลุกลามเกินการรักษาแก้ไข.

    เคล็ดลับสุขภาพดี : 'ขมิ้นชัน' สมุนไพรไทยมากคุณประโยชน์ป้องกันมะเร็ง

    ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรไทยที่เรารู้จักกันดี เพราะมีสรรพคุณทั้งทางด้านยารักษาโรคและใช้ในการประกอบอาหารให้ได้รสชาติดี วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีจึงมีวิธีทำขมิ้นชันใช้เป็นยาในการทาสมานแผลและรับ ประทานแก้โรคต่าง ๆ มากมาย

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักขมิ้นชันกันก่อน โดยขมิ้นชันมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa L.(C.domestica Valeton) และชื่อท้องถิ่นได้แก่ ขมิ้น ขมิ้นป่า ขมิ้นทอง ขมิ้นดี ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว (เชียงใหม่) ขี้หมิ้น, หมิ้น (ใต้) ตายอ (กะเหรียง–กำแพงเพชร) สะยอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) มีลักษณะ ต้น เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดินลักษณะรูปไข่ มีแขนงแตกออกด้านข้างทั้งสองด้าน เนื้อในของเหง้ามีสีเหลืองส้ม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบ เป็นใบเดี่ยวแทงขึ้นมาจากเหง้า เรียงเป็นวงซ้อนทับกัน ใบเป็นรูปหอก ดอก เป็นช่อแทงออกจากเหง้า แทรกขึ้นมาระหว่างก้านใบ รูปทรงกระบอก กลีบดอกสีเหลืองอ่อน

    สำหรับสรรพคุณในการบำรุงร่างกายได้แก่ ช่วยบำรุงตับ รักษาระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ หืด ไอ เวียนศีรษะ รักษาอาการปวดและอักเสบเนื่องจากไขข้ออักเสบ เพราะมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้นกันให้แก่ร่างกาย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง มีฤทธิ์ขับน้ำดีช่วยในการย่อยและป้องกันไม่ให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดี มีฤทธิ์ขับลม และมีการศึกษาการใช้ขมิ้นชันรักษาโรคกระเพาะในประเทศไทย (โรงพยาบาลศิริราช) พบว่า ได้ผลดี นอกจากนี้ยังมีการค้นพบสรรพคุณใหม่ ๆ ของขมิ้นชันเช่น การป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด การชะลอความแก่ การเป็นสารต้านมะเร็งและเนื้องอกต่างๆ ซึ่งการกินอาหารผสมขมิ้นชันสามารถทำลายเชื้อไวรัสที่ผ่านมาทางอาหารได้ รวมทั้งสามารถป้องกันมะเร็งจากสารก่อมะเร็งต่าง ๆ

    วิธีทำขมิ้นชันเป็นยารักษาโรคกระเพาะ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในกระเพาะ นำเหง้าแก่ล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตากแดดจัดประมาณ 1–2 วัน แล้วบดให้ละเอียดผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนหรือบรรจุเป็นแคปซูล ขนาด 250 มิลลิกรัม เก็บไว้ในขวดสะอาดและปิดให้มิดชิด รับประทานครั้งละ 2–3 เม็ด วันละ 3–4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ส่วนวิธีทำแก้อาการท้องร่วงท้องเดิน ใช้เหง้าแก่สดยาวประมาณ 2 นิ้ว ปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด แล้วตำให้ละเอียดเติมน้ำสะอาดลงไป คั้นเอาแต่น้ำรับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ 3–4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน และวิธีทำแก้โรคผิวหนังเรื้อรังหรือสมานแผล นำผงขมิ้นผสมน้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นแผลหรือใช้เหง้าฝนน้ำข้น ๆ ทารักษาโรคผิวหนังผื่นคัน แก้อาการแพ้และอักเสบจากแมลงกัดต่อยหรือรักษาฝี หากมีอาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ให้หยุดใช้ในทันที

    เมื่อรู้จักสรรพคุณและวิธีทำยาของขมิ้นชันกันขนาดนี้แล้วหากใครเป็นแผลหรือ มีอาการเจ็บป่วยข้างต้นอย่าลืมเลือกใช้ขมิ้นชันในการรักษากันบ้างนะคะ รับรองว่าได้ผลดีแน่นอน แต่มี ข้อควรระวังที่สำคัญคือควรทำผงขมิ้นชันเอง เพราะผงขมิ้นชันที่ขายในท้องตลาดส่วนมากทำจากขมิ้นอ้อยและกรรมวิธีในการทำ มักใช้ความร้อนทำให้น้ำมันหอมระเหยซึ่งมีฤทธิ์รักษาโรคระเหยไปทำให้การรักษา ไม่ได้ผลเท่าที่ควร.

    (ข้อมูลโดย กลุ่มสารนิเทศและวิเทศสัมพันธ์ สนย.กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก )

    สรรหามาบอก

    - โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาและผู้มีสุขภาพดี ร่วมบริจาคโลหิตในโครงการ “ประชาชนชาวไทยทำความดีบริจาคโลหิตถวายพ่อของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา” ใน วันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2554 ตั้งแต่เวลา 09.00-14.30 น. บริเวณชั้น G (ฝั่งแผนก อายุรกรรม) โรงพยาบาลไทยนครินทร์ บางนา-ตราด กม.3.5 สอบถามโทร. 0-2361-2727

    - คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญผู้สนใจร่วมประชุมวิชาการร่วมคณะแพทยศาสตร์สามสถาบัน พ.ศ. 2554 : จุฬาฯ-รามาฯ ศิริราช “๘๔ พรรษาองค์ราชัน สามสถาบันเทิดไท้ วิชาการแพทย์ก้าวไกล สุขภาพประชาไทยยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 15-17 มิถุนายน 2554 (ภาควิชาการ) และวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2554 (ภาคประชาชน) ณ อาคารอิมแพ็คคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Joint Conference in Medical Sciences 2011

    ทีมวาไรตี้
    .

    Daily News Online > หน้าวาไรตี้ > ดูแลสุขภาพควบคุมความดันโลหิตสูง ห่างไกล 'ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา'

    .
     
  9. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีวันอาทิตย์ ครับ สมาชิกทุกท่าน
     
  10. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    แสดงว่า เราต้องสำรองจ่ายเงินสด ออกไปก่อนสิครับ คุณ SITHIPHONG ขอให้หายไวๆ นะครับ
     
  11. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    2 ฉบับเกือบ 5 แสน

    วันอาทิตย์ ที่ 12 มิถุนายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    วันนี้ได้นำธนบัตรที่เรียกว่ารุ่น 1 สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลรัชกาลที่ 8 มาให้ชมรวม 2 ฉบับ

    ผู้อ่านหลายคนคงจะตกอกตกใจว่าทำไมธนบัตรราคา 5 บาท รัชกาลที่ 8 จึงมีราคาสูงถึง 190,000 บาท และราคา 20 บาท จึงมีราคาสูงถึง 220,000 บาท

    ที่ผ่านมาเมื่อนำธนบัตรราคาสูงมาตีพิมพ์ให้ดูกันก็จะมีผู้สอบถาม โดยเฉพาะทางโทรศัพท์มาว่า ตนมีธนบัตรรูปร่างเหมือนที่ตีพิมพ์ ต้องการจะขาย จะขายที่ไหน ราคาเท่าใด

    ต้องแจ้งให้ทราบว่าธนบัตรที่ตีพิมพ์ไว้นั้น จะเป็นธนบัตรที่หายาก

    ขอแจ้งให้ทราบทั่วกันว่าธนบัตรที่มีราคาสูงนั้น จะต้องมีสภาพที่สมบูรณ์ 100% ไม่ผ่านการใช้มาก่อน ไม่พับไม่เก่า อยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม

    และที่สำคัญจะต้องเป็นเลขตองคือเลข 0 ทุกตัว หรือเลข 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 เหมือนกันทุกตัว จะมีราคาสูง

    โดยเฉพาะธนบัตรตัวอย่างที่มีการประทับสีแดงว่า ตัวอย่าง หรือ เป็นภาษาอังกฤษว่า “SPECIMEN DE LA RUE & Co LTD NO VALUE”

    ธนบัตรดังกล่าวนี้พิมพ์ออกมาน้อยเป็นตัวอย่างเท่านั้น จึงหายากและมีราคาแพง

    เพียงแค่ธนบัตรเลขตองเหมือนกันก็มีราคาแพงเช่นกัน

    แฟน “เดลินิวส์” ที่สงสัยคงจะพาเข้าใจว่าทำไมธนบัตรบางฉบับจึงมีราคาสูง แต่ที่ตนมีอยู่ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบเดียวกัน รุ่นเดียวกัน จึงไม่มีราคาเท่าใดนัก

    วันนี้ได้นำธนบัตรรุ่นหนึ่งแบบที่ 4 มาให้ชม 2 ฉบับ

    ธนบัตรดังกล่าวนี้ ด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงเครื่องแบบจักรีอยู่เบื้องซ้าย ธนบัตรมีรูปพระครุฑพ่าห์อยู่ตรงกลาง ตอนบนทับลายเฟื่องรูปช้างไอราพต

    ช้างสามเศียรอยู่มุมขวา เนื้อกระดาษตั้งแต่ตอนกลางจรดริมล่าง โรยริ้วไหมสีแดงและน้ำเงิน

    ด้านหน้าจะมีรูปปูชนียสถานสำคัญแตกต่างกันตามแต่ชนิดราคา เช่น 1 บาทเป็นรูปพระสมุทรเจดีย์ 5 บาทเป็นรูปพระปฐมเจดีย์ 10 บาทเป็นรูปป้อมมหากาฬกับพระบรมบรรพต ชนิดราคา 20 บาทเป็นภาพพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์กับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ส่วนชนิดราคา 1,000 บาทเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

    ด้านหลังธนบัตรเป็นภาพพระที่นั่งอนันตสมาคม ภายในกรอบล้อมรอบด้วยลายเฟื่อง พิมพ์ข้อความแจ้งโทษของการปลอมหรือแปลงธนบัตร

    ธนบัตรรุ่นนี้ รุ่นแรกยังใช้ว่าประเทศสยาม

    แต่ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2484 ได้เปลี่ยนคำว่า “สยาม” เป็นคำว่า “ไทย” ธนบัตรรุ่นหลังจึงใช้คำว่า “รัฐบาลไทย”

    ธนบัตรชนิดราคา 5 บาท ตัวอย่างเลข 0 ทุกตัว ไม่มีลายเซ็น ได้มีการนำออกประมูลเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้ประมูลให้ราคาสูงถึง 190,000 บาท

    ส่วนชนิดราคา 5 บาท ตัวอย่างเช่นเดียวกัน ไม่มีลายเซ็น ได้นำออกประมูล มีผู้ให้ราคาถึง 220,000 บาท นับว่าสูงมาก

    สมเจตน์ วัฒนาธร





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สธ.พบเชื้ออีโคไลกระหล่ำปลีนำเข้าเร่งพิสูจน์สายพันธุ์

    อธิบดีกรมการแพทย์ เผยพบเชื้ออีโคไลปนเปื้อนในกระหล่ำปลีปมนำเข้าจากยุโรป แต่ย้ำต้องตรวจให้ละเอียดเชิงลึกสายพันธุ์ใด เกิดอันตรายหรือไม่ คาดใช้เวลา 2-3 วัน ย้ำยังรับประทานได้ขอล้างให้สะอาดก่อน
    เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.54 นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการตรวจผัก ผลไม้นำเข้าจากทวีปยุโรป เพื่อตรวจหาเชื้อ อี.โคไล ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในทวีปยุโรปขณะนี้ว่า จากการเก็บตัวอย่างผักผลไม้ ที่นำเข้าจากทางทวีปยุโรป อาทิ กระหล่ำปลีปม พริกหยวก แครอท นั้น เบื้องต้นพบว่า กระหล่ำปลีปม มีเชื้อ อี.โคไล ปนเปื้อนอยู่ แต่ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ชัดเจนว่า เป็นสายพันธุ์อันตรายที่ทำให้เกิดโรคหรือไม่ จะต้องมีการตรวจสอบลงลึกในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจาก เชื้อ อี.โคไล บางสายพันธุ์ไม่เป็นอันตราย และสามารถพบได้ทั่วไปในบ้านเรา ซึ่งจะต้องมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มเติม คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก็จะทราบผลว่า เป็นเชื้ออี.โคไล สายพันธุ์ใด ส่วน พริกหยวก แครอท ยังอยู่ระหว่างการตรวจ
    ทั้งนี้ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังฝากไปยังประชาชน อย่าวิตกกังวล เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึง ท่านใดจะรับประทานผักและผลไม้ ในช่วงนี้ควรจะนำมาล้างให้สะอาดก่อน โดยอาจจะใช้ น้ำส้มสายชู หรือ เกลือ ก็ได้ หรือ ควรจะต้มให้สุก ก่อนรับประทาน
    ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากผลการติดเชื้อแบคทีเรียอี.โคไล ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในยุโรปขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 33 คน แล้ว โดยรายงานผู้เสียชีวิตล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นชายชราชาวเยอรมนี อายุ 81 ปี อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเมืองแฮมเบิร์ก ส่วนอีกรายเป็นหญิงวัย 75 ปี ในแคว้นชเลสวิก-โฮลชไตน์
    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตทั้งหมดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดล้วนแต่อยู่ในเยอรมนี มีเพียงสตรีรายเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสวีเดน ทว่าเธอเสียชีวิตภายหลังจากเดินมาท่องเที่ยวในเยอรมนีเช่นกัน

    ที่มา สยามรัฐ ออนไลน์
     
  13. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอให้อาการหายวันหายคืนนะครับพี่ท่าน รักษาสุขภาพด้วยนะครับทุกๆท่าน
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมบางส่วนให้ ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้าและท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    หากมีรายละเอียดเพิ่มเิติมอีก ผมจะแจ้งให้ทุกๆท่านทราบอีกครับ

    โมทนาสาธุครับ

    ปล. ท่านที่เห็นรูปแล้ว ตกลงดีป่าวครับ แรงป่าวครับ vb vb


    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในปลายปีนี้ พี่ใหญ่จะสร้างพระบูชา (พระอานนท์) หน้าตัก 9" วัตถุประสงค์เพื่อที่จะถวายตามวัดต่างๆ

    รายละเอียดผมส่งให้ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า และ ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกๆท่านทาง Email แล้วครับ





    .
     
  18. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องเกศาครับ และขอให้หายไวๆนะครับ ช่วงนี้คงงดเดินซะหน่อยละครับ ประคบเย็นน่าดีนะครับ เพราะจะทำให้เลือดที่ไหลเวียนทีทำให้อักเสบลดลงนะครับ คือเคยผ่าตัดส่องกล้อง ที่จมูก และเลือดไหลเรื่อยและมีอาการปวด คุณหมอให้ประคบเย็นนะครับ
     
  19. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    อนุโมทาบุญด้วยครับ สำหรับการสรางทานครั้งนี้ครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอบคุณมากครับ



    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...